“พี่หยวน! หลังจากการสืบสวนแล้ว พบว่าอีกฝ่ายไม่ใช่โจรภูเขาจริง ๆ!”“พวกเขาเป็นทหารของต้าเป่ย คงจะรู้ว่าเราจะขนส่งเสบียงจึงแกล้งทำเป็นโจรภูเขา แล้วซุ่มโจมตีบริเวณแนวชายแดน!”“และตอนนี้ข้าได้ระบุตำแหน่งของพวกเขาแล้ว เราจะออกติดตามเสบียงคืนมาเดี๋ยวนี้เลยหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อพูดขึ้นมาทันทีในที่สุดความจริงก็ปรากฏชายที่คุกเข่าอยู่บนพื้นรีบหันไปมองหวังหยวน ก่อนจะกล่าวอย่างร้อนรนว่า “พี่หยวน เมื่อเรื่องราวกระจ่างชัดแล้ว ข้าขอตัวไปก่อนได้หรือไม่ขอรับ?”เขาตกใจกลัวจนตัวสั่นไปหมด ตอนนี้แค่ต้องการพักผ่อนให้เต็มที่...หวังหยวนพยักหน้า แล้วหันไปสั่งว่า “พวกเจ้ารีบไปเตรียมอาหารและเครื่องดื่มให้เขาเพื่อบรรเทาความตกใจ และเตรียมเสื้อผ้าสะอาดให้เขาด้วย ครั้งนี้เข้าใจผิดเขาไป”คำพูดหลังจากนั้นเป็นการพูดให้ต้าหู่และเอ้อหู่ฟังทั้งสองมองหน้ากัน แล้วได้ยินเอ้อหู่พึมพำเสียงเบาว่า “ไม่ว่าอย่างไรก็เพราะเขาทำงานพลาด จึงทำให้เสบียงสูญหาย...”ต้าหู่รีบจ้องมองเอ้อหู่ เอ้อหู่จึงไม่กล้าพูดอะไรอีกถึงแม้เสียงจะเบา แต่ก็ยังเข้าหูหวังหยวนหวังหยวนเดินไปหาเอ้อหู่ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อย่าลืมว่าในช่วงหลายป
ณ ค่ายทัพอาณาจักรต้าเป่ยไป๋ฝูชานกำลังศึกษาแผนที่ภูมิประเทศโดยรอบบัดนี้เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนพลใหญ่แห่งอาณาจักรต้าเป่ย บัญชาการกองทัพทั้งมวลของแคว้นและเป็นผู้นำทัพในการทำสงครามกับอาณาจักรต้าเย่ในครั้งนี้ยิ่งไปกว่านั้น ไป๋ชิงชางยังตั้งใจแน่วแน่ที่จะผนวกกับอาณาจักรต้าเย่ จึงได้จัดสรรทหารถึงสามแสนนาย!ในเวลานี้ ทหารทั้งสามแสนนายล้วนอยู่ในกำมือของไป๋ฝูชาน!บัดนี้เขาเปรียบเสมือนผู้มีอำนาจสูงสุดเหนือใคร!“ท่านขุนพล หวังหยวนไม่ได้เก่งกาจดังที่ท่านกล่าว เขาเพียงแค่ส่งทหารไปตรวจตราค่ายทหารที่เราสร้างไว้ก่อนหน้านี้เท่านั้น โดยไม่ได้สงสัยมากมายนัก”“บัดนี้ที่เมืองเมืองหลิงก็ไม่ได้มีการเกณฑ์ทหารหรือส่งทหารไปที่ใด ทุกอย่างยังคงเป็นปกติ”“เรื่องนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าสถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคาดการณ์ไว้ขอรับ”ทหารรองของไป๋ฝูชานกล่าวสรุปสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างง่าย ๆแท้จริงแล้วเหตุการณ์ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่พวกเขาวางแผนไว้ล่วงหน้าแม้กระทั่งการปล้นเสบียงของหวังหยวนก็อยู่ในแผนของไป๋ฝูชานด้วย!หวังหยวนไม่ปรารถนาจะเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งระหว่างสามอาณาจักร แต่ก็ไม่อาจปล่อยให
นั่นเป็นเพราะหวังหยวนคอยสั่งสอนอย่างขยันขันแข็งอยู่เสมอ ในที่สุดก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ!“พี่หยวน!”“ปืนใหญ่ตระกูลหวังนี้ทรงพลังยิ่งนัก!”“หากกองกำลังนี้เดินทัพไปกับเราตลอดทาง ไม่ว่าจะไปที่ไหน กองทัพของเราก็จะทำให้ศัตรูหวาดกลัวอย่างแน่นอน!”“ไม่คิดเลยว่าในหัวของพี่หยวนจะมีความรู้มากมายเช่นนี้!”“จนสามารถประดิษฐ์อาวุธที่ดีเยี่ยมเช่นนี้ได้!”ในเวลานี้หวังหยวนและคนอื่น ๆ กำลังยืนอยู่ในสนามฝึกซ้อม เอ้อหู่เอ่ยชมอย่างไม่หยุดปากแต่นับเป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจหลายปีแห่งการรบในยุคที่อาวุธดั้งเดิมเป็นหลัก ทั้งสองฝ่ายต่างต้องสู้กันอย่างดุเดือด!การสูญเสียถือว่ามหาศาล! และสนามรบทุกแห่งก็มีวิญญาณเร่ร่อนอยู่มากมาย!แต่บัดนี้เมื่อปืนใหญ่ตระกูลหวังปรากฏขึ้น ก็ทำให้พวกเขามีมุมมองต่อการต่อสู้ที่เปลี่ยนไปอย่างมาก!พวกเขาเพียงแค่ใช้กองกำลังปืนใหญ่ตระกูลหวังนี้ ก็จะสามารถพิชิตทุกกองกำลังได้แล้ว!“พี่หยวน บัดนี้เราสามารถเตรียมตัวออกเดินทาง พร้อมที่จะยกทัพได้ทุกเมื่อแล้วหรือยังขอรับ?”ต้าหู่ถามขึ้นเวลานี้เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น“ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ผู้คนของอาณาจักรต้าเป่ยคอยก่อกวนเ
“เช่นนั้นเราจะล้างแค้นได้หรือไม่?”“เจ้าเด็กนั่นมันแย่งเสบียงของเราไปตั้งมากมาย เรื่องนี้ปล่อยผ่านไปไม่ได้เด็ดขาด!”“แม้ว่าท่านจะให้อภัยมันได้ แต่พวกเรากลับไม่อาจกล้ำกลืนความแค้นนี้ลงไปได้!”“ไม่ว่ามันจะเป็นใครจากอาณาจักรต้าเป่ย เราก็จะต้องตัดหัวมันแล้วโยนลงหลุมให้ได้!”เอ้อหู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาไม่ใช่คนโหดเหี้ยม แต่ถูกแย่งเสบียงไปหลายครั้ง แน่นอนว่าเขาไม่สามารถกล้ำกลืนความโกรธนี้ลงไปได้!แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะมีกองทัพทหารม้าที่แข็งแกร่ง รวมทั้งไม่ขาดแคลนเงินทอง แต่การที่สิ่งของของพวกตนถูกแย่งชิงไปนั้นเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างมาก!และอีกฝ่ายก็ไม่ได้ทำเช่นนี้เพียงครั้งเดียวหากไม่ทวงความยุติธรรมคืนมา ต่อไปจะตั้งหลักปักฐานในเมืองหลิงอย่างไร?“คิดว่านี่คงเป็นความคิดของทุกคนเช่นกันกระมัง?”สายตาของหวังหยวนมองไปยังทุกคน จากนั้นจึงเอ่ยถามทุกคนต่างพยักหน้าตอบรับ“หากเป็นเช่นนั้น เราก็จะชิงจัดการมันก่อน!”“พวกเจ้าเกลียดชังมันมากถึงเพียงนี้ คงจะสืบประวัติของมันมาหมดแล้วกระมัง?”“รู้หรือไม่ว่าตอนนี้มันตั้งทัพอยู่ที่ใด?”หวังหยวนเอ่ยถามอีกครั้งบัดนี้ถึงเวลาที่จะต้องแสดงศ
ท้ายที่สุด การออกรบไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ในฐานะขุนพลใหญ่ของกองทัพ แม้ว่าเขาจะสามารถนำพาเหล่าภรรยาไปออกรบด้วยได้ แต่ก็อาจทำให้พวกนางต้องเผชิญกับอันตรายสถานการณ์ในสนามรบเปลี่ยนแปลงได้ทุกขณะหวังหยวนย่อมคำนึงถึงความปลอดภัยของพวกนาง“ได้ยินมาว่าท่านจะเตรียมยกทัพออกรบ พวกเราสี่พี่น้องจึงร่วมกันทำของขวัญชิ้นหนึ่งให้ท่าน”“ท่านรีบตามเรากลับบ้านไปดูเถิดว่าของขวัญชิ้นนี้ถูกใจท่านหรือไม่!”“เชื่อว่าท่านจะต้องพอใจอย่างแน่นอน!”หลี่ซื่อหานจงใจพูดให้คลุมเครือ ไม่ให้หวังหยวนมีโอกาสซักถามมากนัก จากนั้นก็จับแขนของเขาแล้วพาเดินไปที่บ้านของนางหวงเจียวเจียวและสตรีคนอื่น ๆ ก็เดินตามมาอย่างรวดเร็วไม่นานนักทุกคนก็กลับมาถึงลานบ้านทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องโถง สายตาของหวังหยวนก็จับจ้องไปตรงกลางห้องโถงทันที “นี่หรือคือของขวัญที่พวกเจ้ามอบให้ข้า?”ตรงกลางห้องโถงมีราวแขวนเสื้อตั้งอยู่ และบนราวนั้นก็มีชุดเกราะชุดหนึ่งแขวนไว้!เกราะชุดนี้เป็นสีเงินมันวาว แสงแดดที่ส่องลงมากระทบทำให้มันเปล่งประกายออกมาอย่างงดงาม!เพียงแค่เหลือบมองปราดเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าทำมาจากเหล็กกล้าชั้นดีทั้งตัว!“สามี ตอนนี้ท่านเต
“ข้าจะเตรียมตัวออกเดินทางเดี๋ยวนี้”“เจ้าไปรอข้าที่หน้าแนวรบก่อน”หวังหยวนตบไหล่ของเอ้อหู่เบา ๆ จากนั้นก็กล่าวอำลากับเหล่าภรรยาที่อยู่ข้างกายอีกครั้งบัดนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมัวแต่คร่ำครวญถึงความรัก เมื่อได้เตรียมยกทัพแล้ว ก็ไม่ควรทำให้เหล่าทหารกล้าผิดหวัง!เพียงชั่วพริบตา หวังหยวนก็เดินออกจากประตูไป ทันใดนั้น ด้านหลังก็มีเสียงร้องไห้คร่ำครวญของเหล่าหญิงสาวดังตามมาแน่นอนว่าพวกนางล้วนไม่ปรารถนาให้หวังหยวนจากไป...ทว่าพวกนางก็รู้ดีว่านี่คือสิ่งที่หวังหยวนต้องทำ และในฐานะภรรยาของหวังหยวน พวกนางก็ต้องรู้สึกภูมิใจในตัวเขา!หวังหยวนเพิ่งเดินมาถึงปากทางเข้าหมู่บ้านก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังตามมา หันไปมองจึงเห็นเสวี่ยเชียนหลงวิ่งตามมาอย่างรวดเร็วหวังหยวนกระแอมด้วยความลำบากใจ จากนั้นก็ค่อย ๆ กล่าวว่า “เสวี่ยเอ๋อร์ ข้าอยากจะพาเจ้าไปร่วมกองทัพด้วยกันจริง ๆ และข้าก็รู้ว่าเจ้ามีความสามารถ”“ในยามคับขัน เจ้าสามารถปกป้องตัวเองได้ แม้แต่ในเรื่องฝีมือ ข้าก็ยังด้อยกว่าเจ้ามาก”“แต่หมู่บ้านต้าหวังก็ต้องการคนปกป้องเช่นกัน หากเจ้ากับเจียวเจียวอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง ข้าก็จะหมดห่วง”“ข้าเชื่อว่าเสวี่ยเ
เสวี่ยเชียนหลงเป็นคนดื้อรั้นเป็นครั้งคราวหวังหยวนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ บัดนี้เหล่าทหารกล้ากำลังรอคอยเขาอยู่จึงไม่ควรเสียเวลาไปมากกว่านี้ในที่สุดเขาก็รับของขวัญชิ้นนี้ไว้ชุดเกราะไหมทองคำตัวนี้บางเฉียบราวกับปีกแมลง เมื่อสวมใส่แล้วก็ให้ความรู้สึกเย็นสบาย เรียกได้ว่าเป็นสิ่งล้ำค่าจริง ๆ!เมื่อเห็นว่าหวังหยวนสวมชุดเกราะไหมทองคำแล้ว เสวี่ยเชียนหลงก็ไม่รอช้าอีกต่อไป แม้ว่าในใจจะรู้สึกไม่เต็มใจ แต่นางก็เดินกลับไปที่บ้านของตนเองบัดนี้เวลาไม่คอยท่าแล้วหวังหยวนเพิ่งจะสั่งการกองทัพ แม้ว่าหวังหยวนจะมีบารมีอย่างมากในกองทัพ แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้ขวัญกำลังใจของทหารหมดลงได้การที่ต้องเสียเวลาไปกับความรักใคร่จนทำให้การเคลื่อนทัพล่าช้า จะทำให้เหล่าทหารสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวหวังหยวนเสวี่ยเชียนหลงเข้าใจเรื่องนี้ดีในพริบตาเดียว หวังหยวนก็มาถึงด้านหน้าแนวรบ เขาขี่ม้าศึก สวมชุดเกราะเงินวาววับ ท่าทางสง่าผ่าเผยราวกับเทพเจ้าแห่งสงครามขณะนี้เขาถือหอกยาวในมือไว้แน่น แล้วตะโกนสั่งเหล่าทหารกล้า“วันนี้ เราจะลุกขึ้นสู้!”“ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยและเกียรติยศของเรา แต่เพื่อปกป้องแผ่นดินและประชาชน
“จริงขอรับ!”ทหารคนนั้นเช็ดเหงื่อเย็นที่หน้าผาก และรีบรายงานอย่างตรงไปตรงมา“หวังหยวนไม่ได้ซ่อนร่องรอยของตนเอง ขณะนี้กำลังตรงมาหาพวกเราอย่างรวดเร็วแล้วขอรับ!”“ขณะนี้ได้ออกจากดินแดนเมืองหลิงแล้ว ข่าวไม่มีผิดพลาดอย่างแน่นอนขอรับ!”“ท่านขุนพล! คงจะเป็นเพราะเขาได้ทราบเรื่องที่พวกเราปล้นเสบียงแล้ว พวกเราควรออกเดินทางโดยเร็วจะดีกว่านะขอรับ!”“ได้ยินมาว่าหวังหยวนมีทหารกล้าอยู่ในมือถึงสองแสนนาย ครั้งนี้ยกทัพมาอย่างยิ่งใหญ่ มีไพร่พลมากมาย แม้จะไม่ได้ยกทัพมาทั้งหมด แต่ก็เกรงว่าจะมีทหารมากกว่าหนึ่งแสนนาย!”“ที่นี่เรามีเพียงไพร่พลไม่ถึงหมื่นคน ย่อมต้านทานการโจมตีของหวังหยวนไม่ได้ขอรับ!”ทหารคนอื่น ๆ ต่างก็พูดตามกันมาอย่างต่อเนื่องเห็นได้ชัดว่าพวกเขากลัวกับสถานการณ์นี้ไม่น้อยด้วยความแตกต่างที่มากมายขนาดนี้ เกรงว่าเมื่อเริ่มการรบคงใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม เมืองก็อาจแตกแล้วพวกเขาก็ต้องพินาศ!ซึ่งชะตากรรมของพวกเขาก็คงไม่ดีแน่นอน!หลี่เหยียนผลักทหารคนนั้นลงไปที่พื้นในทันที พร้อมกับพูดอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้าจะตื่นตระหนกอะไรกัน?”“แม้ว่าหวังหยวนจะยกทัพมาถึงสองแสนนายจริง ๆ แต่จะกล้าสู้รบกั
“เท่าที่ข้ารู้ พรรคทมิฬมีทรัพย์สมบัติมากมาย!”“วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพื่อถามว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นอยู่ที่ใด?”“ก่อนที่ข้าจะบุกหน้าผา ได้ยินว่าของพวกนั้นถูกขนย้ายไปแล้วจริงหรือไม่?”หวังหยวนมองไปที่โอวหยางอวี่ แล้วถามตรงประเด็นโอวหยางอวี่พูดไม่ออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่เอ่ยคำใด“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ลั่วเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะลั่น“โอวหยางอวี่!”“เจ้าคิดว่าท่านประมุขไม่รู้ความทะเยอทะยานของเจ้าหรือ?”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ จะบอกคนชั่วเช่นเจ้าได้อย่างไร?”“ตอนนี้แม้ว่าเจ้าจะประจบสอพลอก็คงไม่มีโอกาสแล้วกระมัง?”นี่...โอวหยางอวี่รู้สึกจนใจ หน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้ที่ซ่อนทรัพย์สมบัติจริง ๆ!ไม่เช่นนั้นเขาคงบอกหวังหยวนไปแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด!หวังหยวนจะมองความคิดของโอวหยางอวี่ไม่ออกได้อย่างไร?เขาหรี่ตาลง ก่อนจะเตะโอวหยางอวี่ แล้วหันไปพยักหน้าให้หลิ่วหรูเยียน เขาชี้ไปที่โอวหยางอวี่ แล้วกล่าวว่า “คนผู้นี้ไร้ประโยชน์ เจ้าจัดการเขาเถิด!”“จะปล่อยเขาไปหรือจะฆ่าเขาก็สุดแล้วแต่เจ้า ไม่ต้องถามข้า!”หลิ่วหรูเยียนดีใจ รู้สึกซาบซึ้งใจมากส่วนโอวหยางอวี่กลับมีสีหน้าหวาดกลัว รีบ
“ได้เลย!”หวังหยวนยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นจึงพาหลิ่วหรูเยียนไปยังสวนหลังบ้านเนื่องจากงานเลี้ยงยังไม่เลิก ทุกคนยังคงดื่มกินอย่างสนุกสนาน หวังหยวนจึงใช้สวนหลังบ้านเป็นสถานที่สอบสวนไม่นานต่งอวี่ก็พาโอวหยางอวี่และลั่วเฉินมา ข้างหลังพวกเขามีทหารหลายคน“ท่านหวัง!”“ท่านโปรดอย่าทำร้ายข้าเลย!”“ก่อนหน้านี้ข้าตาบอด จึงได้ไปอยู่กับตานสยงเฟย แต่ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว หากท่านให้โอกาสข้า ต่อไปข้ายินดีรับใช้ท่านให้ดีที่สุดขอรับ!”“หากท่านไม่ต้องการใช้ข้าก็ปล่อยข้าไปเถิด ข้าจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าท่าน และจะไม่สร้างความเดือดร้อนใด ๆ ให้ท่านแน่นอนขอรับ!”โอวหยางอวี่รีบคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตา!ครั้งก่อน แม้แต่ตอนอยู่บนหน้าผา เขาก็หมดอำนาจแล้ว ได้แต่ถูกขังอยู่ในห้องทุกวันแม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเพราะหวังหยวน แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้เขาเป็นนักโทษ หากไม่สามารถพูดโน้มน้าวหวังหยวนได้ ต่อไปเขาก็คงมีแต่ต้องตายเท่านั้น!วันชื่นคืนสุขผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว!หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ ช่างเป็นคนขี้ขลาดนัก!เพิ่งจะพบหน้ากันก็คุกเข่าขอความเมตตาแล้วหรือ?ครั้งก
หวังหยวนเดินไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วถามด้วยรอยยิ้ม“ข้าจำได้”“เพียงแต่...”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีลังเล ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างจากตอนนั้น ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลและรู้จักกาลเทศะ!”“ในเมื่อตานสยงเฟยมีประโยชน์ต่อท่าน ข้าจะฆ่าเขาเพื่อความสาแก่ใจเพียงครู่เดียวได้อย่างไร?”สุดท้ายหลิ่วหรูเยียนก็รีบวิ่งออกไป ไม่อยากเห็นหน้าตานสยงเฟยอีก!ไม่เช่นนั้นนางเกรงว่าตนเองจะอดใจไม่ไหว ลงมือฆ่าเขาจนทำลายแผนการของหวังหยวน!“เจ้าช่างโชคดี”“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังรักษาหัวไว้บนบ่าได้”หวังหยวนมองตานสยงเฟยด้วยสายตาเย็นชา ไม่ได้เอ่ยคำใด แล้วเดินออกไปข้างหลังมีเพียงเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจของตานสยงเฟยในเมื่อเขามีไพ่ตายอยู่ในมือก็ไม่ต้องกลัวตาย!สักวันหนึ่ง เขาจะต้องเป็นอิสระ!...“ช้าก่อน!”หลังจากออกจากคุกแล้ว หวังหยวนก็รีบวิ่งตามหลิ่วหรูเยียนไปหลิ่วหรูเยียนหันกลับมามองหวังหยวน แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “มีเรื่องอะไรอีกหรือ?”“ข้าแค่อยากถามเจ้าว่า ในบรรดาคนของพรรคทมิฬที่พวกเราจับมาได้มีคนระดับสูงคนอื่น ๆ อีกหรือไม่?”พรรคทมิฬมีรากฐานที่แข็งแกร่ง มีสาวกมากมาย แสดงว่าคงคนม
ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็หัวเราะลั่น ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง!“ดูเหมือนว่าข้ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง สิ่งที่เจ้าต้องการคือทรัพย์สมบัติของข้างั้นหรือ?”“แต่ก็ดี พวกเรามาทำข้อตกลงกัน!”“หากเจ้าปล่อยข้าไป ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรทั้งหมดของข้าจะเป็นของเจ้า แต่หากเจ้าไม่ยอมรับข้อเสนอ เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้สิ่งเหล่านั้น!”ตานสยงเฟยกล่าว พร้อมกับจ้องหน้าหวังหยวน“จริงสิ”“หลิ่วหรูเยียนกลายเป็นคนของเจ้าแล้ว หากเจ้าไม่เชื่อคำพูดข้าก็ลองถามนางดู ว่าทรัพย์สมบัติของข้ามากมายมหาศาลจริงหรือไม่!”“ถามดูก็รู้ผล!”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างมั่นใจเหตุผลที่เขาสามารถสร้างพรรคทมิฬและรวบรวมสาวกมากมายจนมีอิทธิพลในดินแดนทั้งเก้าได้ ก็เพราะเขามีทรัพย์สมบัติมหาศาล!แม้ว่าจะเทียบกับหวังหยวนไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน!อย่างน้อยในดินแดนทั้งเก้าก็ยังมีที่ให้เขายืนหยัดในฐานะผู้นำ!หลิ่วหรูเยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังหวังหยวนกำหมัดแน่น ไม่เอ่ยคำใด แต่ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของนาง!ความแค้นเพราะบิดาถูกสังหารนั้นไม่อาจลืมเลือน!ศัตรูอยู่ตรงหน้า แต่นางกลับทำอะไรไม่ได้ ช่างไร้ความสามารถ!“เขาพูดจริงหรือ?”
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“
“เจ้าไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับข้า แสดงว่าเจ้าคงอารมณ์ไม่ดีจริง ๆ”“ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เล่าให้ข้าฟังสักหน่อยล่ะ อย่างน้อยก็ให้ข้าสนุกขึ้นมาบ้าง”หวังหยวนนั่งลงข้างหลิ่วหรูเยียน เขานั่งไขว่ห้างมือวางบนราวบันไดขณะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยรอยยิ้ม“เหตุใดท่านถึงน่ารำคาญนัก?”“ดูไม่ออกหรือว่าข้าไม่อยากคุยกับท่าน?”“รีบกลับไปดื่มกับพวกเขาซะเถอะ จะมานั่งขวางหูขวางตาข้าทำไม?”หลิ่วหรูเยียนกลอกตามองหวังหยวนแท้จริงแล้ว นางเพียงแค่รู้สึกว่างเปล่าหลังจากได้ล้างแค้นสำเร็จ ราวกับชีวิตไม่มีจุดหมายอีกต่อไป นางไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป จึงทำให้ดูเหม่อลอยและเศร้าสร้อยแต่ไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่วังหยวนมาที่นี่ นางกลับรู้สึกเหมือนมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง“ว่ามาสิ เป็นอะไรไป?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่อง“ข้าอยากไปพบตานสยงเฟย”“ครั้งก่อนท่านสัญญากับข้าว่า เมื่อจับตานสยงเฟยได้จะให้ข้าจัดการเขา ยังจำได้หรือไม่?”หลิ่วหรูเยียนถาม“อืม...”หวังหยวนครุ่นคิด ใช้นิ้วเคาะขมับพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียเรื่องของพรรคทมิฬเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อาจตัดสินใจเพียงเพราะคำพูดของคนคนเดียวได้ ยิ่งกว่านั้น เพื่อจับตานสยงเฟย ยังต้องสูญ
“หวังหยวน! เจ้าช่างน่ารังเกียจ! กล้าเล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัวหรือ?”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างเดือดดาลส่วนโอวหยางอวี่และลั่วเฉินเห็นท่าไม่ดี จึงไม่รีรอ รีบพาผู้ใต้บัญชาหนีลงจากเขา!แต่น่าเสียดาย ที่เชิงเขามีการวางกองกำลังดักไว้แล้ว!ตานสยงเฟยและคนอื่น ๆ ต่างถูกจับเป็น!การต่อสู้ครั้งนี้ หวังหยวนได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์แบบ!แต่เนื่องจากหน้าผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ห่างไกล โดยรอบไม่มีบ้านเรือนหรือเมืองจึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่หวังหยวนต้องการเพราะที่นี่คืออาณาจักรต้าเป่ย หากหานเทารู้ว่าเขายกทัพมาในดินแดนของอาณาจักรต้าเป่ย ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร พวกเขาก็อาจจะหาเรื่องจู่โจมได้!เมื่อถึงเวลานั้น เรื่องราวคงจะวุ่นวายและเกิดความขัดแย้ง!หลังจากที่จับตานสยงเฟยและพรรคพวกได้แล้ว หวังหยวนจึงรีบกลับเมืองอู่เจียงทันที!ใช้เวลาเพียงวันครึ่งก็กลับมาถึง!ระหว่างทาง แม้ว่าจะมีคนเห็น แต่มีเกาเล่อคอยนำทาง จึงไม่ทำให้คนของอาณาจักรต้าเป่ยรู้ตัว!...ณ ที่ว่าการเมืองอู่เจียงตอนนี้ทุกคนกำลังดื่มฉลองกันอย่างสนุกสนาน!คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์คือหวังหยวน!ส่วนเอ้อหู่และคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ที่
หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใด นางจ้องมองตานสยงเฟยด้วยความโกรธแค้นนางต้องการล้างแค้น!“ชีวิตของเขาเป็นของเจ้า ข้าจะช่วยจับเป็นให้!”“ส่วนต่อไป เจ้าจะจัดการเขาอย่างไรก็สุดแล้วแต่เจ้า!”หวังหยวนกล่าวจบก็หยิบปืนคาบศิลาออกมาจากอก แล้วเล็งไปที่ตานสยงเฟย“ในเมื่อเจ้ารู้จักข้าดี”“เจ้าควรรู้ว่าอาวุธลับของข้าไม่มีผู้ใดเทียบได้ ใช่หรือไม่?”“ข้าแนะนำให้เจ้ายอมจำนนเสีย จะได้ไม่เจ็บตัว!”หวังหยวนเตือนมุมปากของตานสยงเฟยกระตุก เขาสืบเรื่องของหวังหยวนมานาน จึงรู้จักหวังหยวนดี และจำได้ว่าอาวุธในมือของหวังหยวนคืออะไร!ไม่ต้องพูดถึงเขา แม้แต่ขุนพลที่เก่งกาจก็ยังไม่อาจหลบอาวุธนี้ได้!ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็คว้าตัวสาวกพรรคทมิฬคนหนึ่งมาใช้เป็นโล่มนุษย์!“ปัง!”เสียงปืนดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬคนนั้นล้มลงกับพื้นต้องยอมรับว่าตานสยงเฟยช่างโหดเหี้ยม!เพื่อเอาชีวิตรอด กลับยอมเสียสละชีวิตคนอื่น ช่างน่ารังเกียจ!หวังหยวนยกปืนขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเล็งไปที่ตานสยงเฟย ไม่ให้เขามีโอกาสหนี!“หวังหยวน!”“วันนี้ไว้ชีวิตข้าเถิด ต่อไปข้าจะตอบแทนเจ้าแน่นอน!”“เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”“การบีบให้ข้าจนตรอกไม่ได้เป็นผลดีต่อ
ลั่วเฉินพยักหน้า ไม่เอ่ยคำใดอีก เพียงแค่รีบพาผู้ใต้บัญชาออกไป!เสียงโห่ร้องแห่งการฆ่าฟันดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬล้มตายเป็นใบไม้ร่วง!ตานสยงเฟยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ!สมาชิกพรรคทมิฬล้วนเป็นคนที่เขาฝึกฝนเอง เขาทุ่มเทมากมายเพื่อสร้างกองกำลังที่แข็งแกร่ง!เดิมทีเขาต้องการครองแผ่นดิน แต่ไม่นึกเลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้!สูญเสียกำลังพลไปเยอะมาก!ปัญหาเกิดขึ้นมากมาย!“ตานสยงเฟย! อย่าหนีนะ!”“เจ้าคนสารเลว! หลอกลวงข้ามาหลายปี!”“ไม่เพียงแต่ฆ่าพ่อแม่ข้าเท่านั้น ยังฝึกฝนข้าให้เป็นเครื่องมือทำเรื่องเลวร้ายมากมาย!”“วันนี้พวกเราต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!”ขณะที่ตานสยงเฟยกำลังจะลงจากเขา หลิ่วหรูเยียนก็วิ่งเข้ามา ในมือถือกริชเปื้อนเลือด สายตาเย็นชาราวกับคมดาบจ้องมองตานสยงเฟย!“มาคนเดียวหรือ?”เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนมาคนเดียว ตานสยงเฟยก็หัวเราะในลำคอ เขาหันมาคว้าทวนยาวจากมือผู้ใต้บัญชาที่อยู่ด้านข้าง!เหตุผลที่ตานสยงเฟยสร้างฐานะขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพียงเพราะเขามีความคิดที่แตกต่าง แต่ยังเป็นเพราะฝีมือของเขาด้วย!ในยุคสงคราม ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นผู้ชนะ!ยิ่งกว่านั้น ฝีมือ