แชร์

บทที่ 1645

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ข้าจะเตรียมตัวออกเดินทางเดี๋ยวนี้”

“เจ้าไปรอข้าที่หน้าแนวรบก่อน”

หวังหยวนตบไหล่ของเอ้อหู่เบา ๆ จากนั้นก็กล่าวอำลากับเหล่าภรรยาที่อยู่ข้างกายอีกครั้ง

บัดนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมัวแต่คร่ำครวญถึงความรัก เมื่อได้เตรียมยกทัพแล้ว ก็ไม่ควรทำให้เหล่าทหารกล้าผิดหวัง!

เพียงชั่วพริบตา หวังหยวนก็เดินออกจากประตูไป ทันใดนั้น ด้านหลังก็มีเสียงร้องไห้คร่ำครวญของเหล่าหญิงสาวดังตามมา

แน่นอนว่าพวกนางล้วนไม่ปรารถนาให้หวังหยวนจากไป...

ทว่าพวกนางก็รู้ดีว่านี่คือสิ่งที่หวังหยวนต้องทำ และในฐานะภรรยาของหวังหยวน พวกนางก็ต้องรู้สึกภูมิใจในตัวเขา!

หวังหยวนเพิ่งเดินมาถึงปากทางเข้าหมู่บ้านก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังตามมา หันไปมองจึงเห็นเสวี่ยเชียนหลงวิ่งตามมาอย่างรวดเร็ว

หวังหยวนกระแอมด้วยความลำบากใจ จากนั้นก็ค่อย ๆ กล่าวว่า “เสวี่ยเอ๋อร์ ข้าอยากจะพาเจ้าไปร่วมกองทัพด้วยกันจริง ๆ และข้าก็รู้ว่าเจ้ามีความสามารถ”

“ในยามคับขัน เจ้าสามารถปกป้องตัวเองได้ แม้แต่ในเรื่องฝีมือ ข้าก็ยังด้อยกว่าเจ้ามาก”

“แต่หมู่บ้านต้าหวังก็ต้องการคนปกป้องเช่นกัน หากเจ้ากับเจียวเจียวอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง ข้าก็จะหมดห่วง”

“ข้าเชื่อว่าเสวี่ยเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1646

    เสวี่ยเชียนหลงเป็นคนดื้อรั้นเป็นครั้งคราวหวังหยวนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ บัดนี้เหล่าทหารกล้ากำลังรอคอยเขาอยู่จึงไม่ควรเสียเวลาไปมากกว่านี้ในที่สุดเขาก็รับของขวัญชิ้นนี้ไว้ชุดเกราะไหมทองคำตัวนี้บางเฉียบราวกับปีกแมลง เมื่อสวมใส่แล้วก็ให้ความรู้สึกเย็นสบาย เรียกได้ว่าเป็นสิ่งล้ำค่าจริง ๆ!เมื่อเห็นว่าหวังหยวนสวมชุดเกราะไหมทองคำแล้ว เสวี่ยเชียนหลงก็ไม่รอช้าอีกต่อไป แม้ว่าในใจจะรู้สึกไม่เต็มใจ แต่นางก็เดินกลับไปที่บ้านของตนเองบัดนี้เวลาไม่คอยท่าแล้วหวังหยวนเพิ่งจะสั่งการกองทัพ แม้ว่าหวังหยวนจะมีบารมีอย่างมากในกองทัพ แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้ขวัญกำลังใจของทหารหมดลงได้การที่ต้องเสียเวลาไปกับความรักใคร่จนทำให้การเคลื่อนทัพล่าช้า จะทำให้เหล่าทหารสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวหวังหยวนเสวี่ยเชียนหลงเข้าใจเรื่องนี้ดีในพริบตาเดียว หวังหยวนก็มาถึงด้านหน้าแนวรบ เขาขี่ม้าศึก สวมชุดเกราะเงินวาววับ ท่าทางสง่าผ่าเผยราวกับเทพเจ้าแห่งสงครามขณะนี้เขาถือหอกยาวในมือไว้แน่น แล้วตะโกนสั่งเหล่าทหารกล้า“วันนี้ เราจะลุกขึ้นสู้!”“ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยและเกียรติยศของเรา แต่เพื่อปกป้องแผ่นดินและประชาชน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1647

    “จริงขอรับ!”ทหารคนนั้นเช็ดเหงื่อเย็นที่หน้าผาก และรีบรายงานอย่างตรงไปตรงมา“หวังหยวนไม่ได้ซ่อนร่องรอยของตนเอง ขณะนี้กำลังตรงมาหาพวกเราอย่างรวดเร็วแล้วขอรับ!”“ขณะนี้ได้ออกจากดินแดนเมืองหลิงแล้ว ข่าวไม่มีผิดพลาดอย่างแน่นอนขอรับ!”“ท่านขุนพล! คงจะเป็นเพราะเขาได้ทราบเรื่องที่พวกเราปล้นเสบียงแล้ว พวกเราควรออกเดินทางโดยเร็วจะดีกว่านะขอรับ!”“ได้ยินมาว่าหวังหยวนมีทหารกล้าอยู่ในมือถึงสองแสนนาย ครั้งนี้ยกทัพมาอย่างยิ่งใหญ่ มีไพร่พลมากมาย แม้จะไม่ได้ยกทัพมาทั้งหมด แต่ก็เกรงว่าจะมีทหารมากกว่าหนึ่งแสนนาย!”“ที่นี่เรามีเพียงไพร่พลไม่ถึงหมื่นคน ย่อมต้านทานการโจมตีของหวังหยวนไม่ได้ขอรับ!”ทหารคนอื่น ๆ ต่างก็พูดตามกันมาอย่างต่อเนื่องเห็นได้ชัดว่าพวกเขากลัวกับสถานการณ์นี้ไม่น้อยด้วยความแตกต่างที่มากมายขนาดนี้ เกรงว่าเมื่อเริ่มการรบคงใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม เมืองก็อาจแตกแล้วพวกเขาก็ต้องพินาศ!ซึ่งชะตากรรมของพวกเขาก็คงไม่ดีแน่นอน!หลี่เหยียนผลักทหารคนนั้นลงไปที่พื้นในทันที พร้อมกับพูดอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้าจะตื่นตระหนกอะไรกัน?”“แม้ว่าหวังหยวนจะยกทัพมาถึงสองแสนนายจริง ๆ แต่จะกล้าสู้รบกั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1648

    ตอนนี้ทุกคนลนลานไม่ต่างจากมดบนกระทะร้อนใบหน้าของหลี่เหยียนก็อดหม่นหมองลงไม่ได้ จากนั้นเขาก็กำหมัดพูดว่า “พวกเจ้าอย่ามาพูดจาใส่ร้ายป้ายสีที่นี่!”“กล่าวหาว่าข้าปล้นเสบียงของพวกเจ้า พวกเจ้ามีหลักฐานอะไร?”“จับขโมยต้องมีหลักฐาน! พวกเจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล!”“อาณาจักรต้าเป่ยของพวกข้ามีทหารม้าที่แข็งแกร่ง หากเจ้าตั้งใจจะเปิดฉากรบ ข้าก็ไม่กลัวพวกเจ้าหรอก!”หลี่เหยียนยังคงมีท่าทางหยิ่งยโสแม้ตนจะเป็นฝ่ายผิด แต่กลับทำตัวโอหัง ทำให้ดูเหมือนเป็นความผิดของวังหยวนและพวกเสียเองเอ้อหู่โกรธจนควันแทบออกหู เขาโยนดาบในมือให้กับรองขุนพล จากนั้นก็หยิบธนูขึ้นมาเล็งไปที่หลี่เหยียนบนกำแพงเมือง แล้วยิงธนูออกไป!ส่วนหลี่เหยียนหลบได้อย่างเฉียดฉิว!“ฝีมือแค่นี้ยังกล้าลอบกัดหรือ?”“เจ้าควรกลับบ้านไปฝึกยิงธนูดีกว่า!”เหล่าขุนพลข้าง ๆ หลี่เหยียนต่างก็หัวเราะเยาะเอ้อหู่โกรธจนกัดฟันแน่นแทบหักเดิมทีเขาก็ไม่ได้เก่งเรื่องการยิงธนูอยู่แล้ว คราวนี้กลับยิ่งทำให้ตัวเองขายหน้า...ทันใดนั้นก็เห็นขุนพลหนุ่มคนหนึ่งขี่ม้ามาอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็มาถึงข้างกายหวังหยวน ทันใดนั้นเขาก็หยิบธนูในมือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เล็งไ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1649

    บนกำแพงเมือง รองขุนพลรีบหันไปหาหลี่เหยียนแล้วรีบกล่าวว่า “ท่านขุนพล! ท่านควรหลบซ่อนตัวเสียเถิดขอรับ!”“ทหารหนุ่มผู้นั้นเก่งกล้ายิ่งนัก! ทักษะการยิงธนูของเขาเป็นเลิศ!”“ท่านคือขุนพลรักษาเมือง หากท่านเป็นอันตรายขึ้นมา พวกเราจะทำอย่างไรขอรับ!”แท้จริงแล้วหลี่เหยียนนั้นหวาดกลัวมานานแล้วเมื่อสักครู่นี้เขาเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด จะกล้าอยู่ที่นี่ต่อไปได้อย่างไร?เมื่อมีคนเสนอทางออกแก่เขา เขาจึงรีบกระแอมสองสามครั้ง ก่อนจะถอยลงจากกำแพงเมืองทันทีแต่ก็ยังคงยืนอยู่ด้านหลังประตูที่ปิดสนิท“ดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่มีเจตนาเปิดประตูเมือง”“หากเป็นเช่นนั้น ลองอานุภาพปืนใหญ่ตระกูลหวังดูสิ!”หวังหยวนที่อยู่นอกกำแพงเมืองโบกมือให้ทหารปืนใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นถอยไปทางหนึ่ง และปืนใหญ่ตระกูลหวังก็เตรียมพร้อม เมื่อเสียงปืนดังขึ้นเป็นระลอก เสียงกรีดร้องโหยหวนราวกับเสียงผีปีศาจก็ดังระงมในเมืองเซี่ยว!เห็นได้ชัดว่าอานุภาพของปืนใหญ่นั้นรุนแรงมาก! “ปืนใหญ่ตระกูลหวังนี้ทรงพลังจริง ๆ!”“ต่อจากนี้ไปหากมีปืนใหญ่ตระกูลหวังคอยเปิดทางให้เรา ทุกหนแห่งที่ไปถึงจะสามารถตีเมืองได้ในทันที จะช่วยลดการสูญเสีย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1650

    “ให้คนอื่นอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง!”เมื่อได้ถามทุกสิ่งที่ควรถามแล้ว หวังหยวนก็โบกมือทันที สั่งให้ทหารสองนายมาลากตัวหลี่เหยียนออกไป“ท่านขุนพล! ข้าได้บอกเรื่องทั้งหมดให้ท่านทราบแล้ว ท่านไม่สามารถฆ่าข้าได้!”แต่หวังหยวนไม่แม้แต่จะสนใจเสียงร้องตะโกนของเขาเลยในขณะที่ทำการขโมยเสบียงเป็นครั้งแรก เขาก็ควรจะตระหนักถึงเรื่องนี้แล้ว!ยิ่งไปกว่านั้น คนผู้นี้ยังทรยศต่อขุนพลของตนเองอย่างไป๋ฝูซานอีกด้วย คนแบบนี้ยิ่งไม่สมควรมีชีวิตอยู่!หลังจากหลี่เหยียนถูกตัดหัวเสียบประจานแล้ว สายตาของต้าหู่ก็จับจ้องไปที่หวังหยวนแล้วถามตรงประเด็น“พี่หยวน เราจะไปตีด่านจวี้เป่ยกันเมื่อใดขอรับ?”พวกเขาได้เตรียมตัวมาหลายเดือน บัดนี้ถึงเวลาที่จะได้แสดงฝีมือแล้ว ไม่มีใครอยากนั่งรอโชคชะตา ทุกคนต่างต้องการเข้าสนามรบ เพื่อสร้างชื่อเสียงและเกียรติยศ!นี่แหละคือสิ่งที่บุรุษผู้ยิ่งใหญ่พึงกระทำ!หวังหยวนหันกลับไปมองแผนที่ภูมิประเทศด้านหลัง แล้วค่อย ๆ กล่าวว่า “ยากที่จะคาดเดาว่าด่านจวี้เป่ยนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เพราะมีไป๋ฝูซานคอยประจำการอยู่ด้วยตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสี่ด้านล้วนเป็นภูเขา เราจึงยากที่จะตีด่านจวี้เป่ยไ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1651

    เหล่าขุนพลต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วย“ได้ยินมาว่าหวังหยวนมีทหารสองแสนนาย ฉะนั้นเราจึงมีข้อได้เปรียบในเรื่องจำนวน แต่หากเราไปพัวพันกับหวังหยวน เราจะฉวยโอกาสนี้จัดการกับอาณาจักรต้าเย่ให้สิ้นซากได้อย่างไร?”“หากปล่อยให้อาณาจักรต้าเย่ได้พักหายใจ ก็เท่ากับเลี้ยงเสือไว้ข้างกาย”ไป๋ฝูซานไม่ใช่คนอ่อนแอ เขารับฟังความคิดเห็นของทุกคน แต่เขากลับมีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป ทันใดนั้น เขาก็ตบโต๊ะอย่างแรง พร้อมกับกล่าวออกมาว่า “ทำตามที่ข้าบอกก่อน จัดการอาณาจักรต้าเย่ให้ได้ก่อน ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง!”บัดนี้ไป๋ฝูซานไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว บัดนี้เขาคือขุนพลใหญ่แห่งอาณาจักรต้าเป่ยอยู่ใต้คนคนเดียว อยู่เหนือคนนับหมื่นควบคุมอำนาจทางทหารทั้งหมดของอาณาจักรต้าเป่ยเมื่อเขาได้กล่าวเช่นนี้ แม้ว่าทุกคนจะไม่พอใจนัก แต่ก็ไม่กล้าที่จะโต้แย้งต่อหน้าขณะที่ทุกคนกำลังจะแยกย้ายกันไป ก็มีทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว“มีรายงานด่วน”สายตาของขุนพลทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่ทหารนายนั้น“เพิ่งได้รับรายงานขอรับ”“กองทัพของหวังหยวนได้ตีเมืองเซี่ยวแตกแล้ว และยังบุกทะลวงแนวป้องกันของเราหลายแห่งแล้ว ปัจ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1652

    “ไป๋ฝูซานเคลื่อนทัพแล้วหรือ?”“ดูเหมือนว่าการที่ข้าตีเมืองเซี่ยวได้จะทำให้เขาเริ่มอยู่เฉยไม่ได้”“น่าเสียดายที่พวกเขาขโมยเสบียงของเราไป เราจึงทำทุกอย่างอย่างมีเหตุผล ไม่อาจโทษคนอื่นได้”หวังหยวนขี่ม้าศึก สวมชุดเกราะเงินแวววาว พลางกล่าวด้วยเสียงเรียบเดิมทีไม่ต้องการเป็นศัตรูกับอาณาจักรต้าเป่ยในเวลานี้ แต่ข้าศึกกลับมารังแกเขาถึงที่ จึงเป็นโอกาสดีสำหรับเขา!หากต้องการปราบปรามแผ่นดินทั้งเก้าก็ต้องเริ่มจากอาณาจักรต้าเป่ย“เรามีปืนใหญ่ตระกูลหวัง ไป๋ฝูซานเคลื่อนทัพแล้วจะอย่างไร?”“พวกเขานำทหารมาเท่าไหร่ เราก็จะกลืนกินทหารของพวกเขาให้หมดสิ้น!”ต้าหู่ใจร้อนอยากปะทะตอนนี้เขาอยากประจันหน้ากับทัพของไป๋ฝูซานโดยเร็วที่สุด แล้วสร้างความดีความชอบในสนามรบ!“ปืนใหญ่ตระกูลหวังนั้นทรงพลังยิ่ง แต่ก็มีข้อเสียใหญ่อยู่ประการหนึ่ง”“นั่นคือการเคลื่อนย้ายที่สิ้นเปลืองเวลาและแรงงาน และไม่ดีในการต่อสู้ระยะประชิด”“ยิ่งไปกว่านั้น ยังต้องมีกองกำลังชั้นยอดคอยคุ้มกันอยู่ตลอดเวลา”“หากเราเป็นฝ่ายบุกเมือง ปืนใหญ่ตระกูลหวังจะเป็นไพ่ตายของเราได้ แต่หากเป็นการรบในที่ราบ เราก็ต้องหาหนทางอื่น”หวังหยวนไม่ได้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1653

    “ดี!”“เช่นนั้นต่อไปนี้ต้องรบกวนเจ้าแล้ว”“ทั้งต้องตามข้าไปทำศึก พร้อมกับฝึกกองทัพธนูเทพไปด้วย!”“หากภายภาคหน้าพวกเขาสามารถสร้างวีรกรรมในสนามรบได้ เจ้าก็จะมีความดีความชอบไม่น้อย และข้าจะเลื่อนยศให้เจ้าแน่นอน!”หวังหยวนตบไหล่ต่งอวี่ด้วยความพอใจแม้ต่งอวี่จะยังเยาว์วัย แต่ก็มีความสามารถที่แท้จริง นี่คือคนที่เขาต้องการมากที่สุด!“ข้าจะไม่ทำให้ท่านขุนพลผิดหวังขอรับ!”ต่งอวี่ให้คำมั่นอีกครั้งหวังหยวนยิ้มด้วยความพอใจ จากนั้นก็พาคนมุ่งหน้าไปยังด่านจวี้เป่ยต่อไปนอกด่านจวี้เป่ยเมื่อหวังหยวนและเหล่าทหารมาถึง ไป๋ฝูซานก็ได้นำทหารม้ามาประจำที่ทุ่งราบหน้าด่านจวี้เป่ยแล้วทั้งสองฝ่ายต่างตั้งค่ายของตนเองและเผชิญหน้ากัน“ท่านขุนพล! ไป๋ฝูซานส่งทูตนำจดหมายมาส่งขอรับ”หวังหยวนเพิ่งคุมทหารตั้งค่ายเสร็จ ต้าหู่ก็ถือจดหมายฉบับหนึ่งเข้ามาวางไว้บนโต๊ะของหวังหยวนอย่างเคารพ“น่าสนใจ เป็นฝ่ายเริ่มส่งจดหมายมาหาข้าเชียวรึ?”“ไม่รู้ว่าเขาคิดจะใช้กลอุบายอะไรอยู่”หวังหยวนพูดพร้อมกับเปิดจดหมายออกอ่านอย่างรวดเร็ว“เป็นเช่นนี้เอง”เนื้อหาในจดหมายระบุว่าไป๋ฝูซานไม่ต้องการเปิดศึก และยังเสนอว่าหากหวังหย

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status