Share

บทที่ 1651

Author: ชวินเป่ยอี๋
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เหล่าขุนพลต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วย

“ได้ยินมาว่าหวังหยวนมีทหารสองแสนนาย ฉะนั้นเราจึงมีข้อได้เปรียบในเรื่องจำนวน แต่หากเราไปพัวพันกับหวังหยวน เราจะฉวยโอกาสนี้จัดการกับอาณาจักรต้าเย่ให้สิ้นซากได้อย่างไร?”

“หากปล่อยให้อาณาจักรต้าเย่ได้พักหายใจ ก็เท่ากับเลี้ยงเสือไว้ข้างกาย”

ไป๋ฝูซานไม่ใช่คนอ่อนแอ เขารับฟังความคิดเห็นของทุกคน แต่เขากลับมีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป

ทันใดนั้น เขาก็ตบโต๊ะอย่างแรง พร้อมกับกล่าวออกมาว่า “ทำตามที่ข้าบอกก่อน จัดการอาณาจักรต้าเย่ให้ได้ก่อน ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง!”

บัดนี้ไป๋ฝูซานไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว บัดนี้เขาคือขุนพลใหญ่แห่งอาณาจักรต้าเป่ย

อยู่ใต้คนคนเดียว อยู่เหนือคนนับหมื่น

ควบคุมอำนาจทางทหารทั้งหมดของอาณาจักรต้าเป่ย

เมื่อเขาได้กล่าวเช่นนี้ แม้ว่าทุกคนจะไม่พอใจนัก แต่ก็ไม่กล้าที่จะโต้แย้งต่อหน้า

ขณะที่ทุกคนกำลังจะแยกย้ายกันไป ก็มีทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“มีรายงานด่วน”

สายตาของขุนพลทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่ทหารนายนั้น

“เพิ่งได้รับรายงานขอรับ”

“กองทัพของหวังหยวนได้ตีเมืองเซี่ยวแตกแล้ว และยังบุกทะลวงแนวป้องกันของเราหลายแห่งแล้ว ปัจ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1652

    “ไป๋ฝูซานเคลื่อนทัพแล้วหรือ?”“ดูเหมือนว่าการที่ข้าตีเมืองเซี่ยวได้จะทำให้เขาเริ่มอยู่เฉยไม่ได้”“น่าเสียดายที่พวกเขาขโมยเสบียงของเราไป เราจึงทำทุกอย่างอย่างมีเหตุผล ไม่อาจโทษคนอื่นได้”หวังหยวนขี่ม้าศึก สวมชุดเกราะเงินแวววาว พลางกล่าวด้วยเสียงเรียบเดิมทีไม่ต้องการเป็นศัตรูกับอาณาจักรต้าเป่ยในเวลานี้ แต่ข้าศึกกลับมารังแกเขาถึงที่ จึงเป็นโอกาสดีสำหรับเขา!หากต้องการปราบปรามแผ่นดินทั้งเก้าก็ต้องเริ่มจากอาณาจักรต้าเป่ย“เรามีปืนใหญ่ตระกูลหวัง ไป๋ฝูซานเคลื่อนทัพแล้วจะอย่างไร?”“พวกเขานำทหารมาเท่าไหร่ เราก็จะกลืนกินทหารของพวกเขาให้หมดสิ้น!”ต้าหู่ใจร้อนอยากปะทะตอนนี้เขาอยากประจันหน้ากับทัพของไป๋ฝูซานโดยเร็วที่สุด แล้วสร้างความดีความชอบในสนามรบ!“ปืนใหญ่ตระกูลหวังนั้นทรงพลังยิ่ง แต่ก็มีข้อเสียใหญ่อยู่ประการหนึ่ง”“นั่นคือการเคลื่อนย้ายที่สิ้นเปลืองเวลาและแรงงาน และไม่ดีในการต่อสู้ระยะประชิด”“ยิ่งไปกว่านั้น ยังต้องมีกองกำลังชั้นยอดคอยคุ้มกันอยู่ตลอดเวลา”“หากเราเป็นฝ่ายบุกเมือง ปืนใหญ่ตระกูลหวังจะเป็นไพ่ตายของเราได้ แต่หากเป็นการรบในที่ราบ เราก็ต้องหาหนทางอื่น”หวังหยวนไม่ได้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1653

    “ดี!”“เช่นนั้นต่อไปนี้ต้องรบกวนเจ้าแล้ว”“ทั้งต้องตามข้าไปทำศึก พร้อมกับฝึกกองทัพธนูเทพไปด้วย!”“หากภายภาคหน้าพวกเขาสามารถสร้างวีรกรรมในสนามรบได้ เจ้าก็จะมีความดีความชอบไม่น้อย และข้าจะเลื่อนยศให้เจ้าแน่นอน!”หวังหยวนตบไหล่ต่งอวี่ด้วยความพอใจแม้ต่งอวี่จะยังเยาว์วัย แต่ก็มีความสามารถที่แท้จริง นี่คือคนที่เขาต้องการมากที่สุด!“ข้าจะไม่ทำให้ท่านขุนพลผิดหวังขอรับ!”ต่งอวี่ให้คำมั่นอีกครั้งหวังหยวนยิ้มด้วยความพอใจ จากนั้นก็พาคนมุ่งหน้าไปยังด่านจวี้เป่ยต่อไปนอกด่านจวี้เป่ยเมื่อหวังหยวนและเหล่าทหารมาถึง ไป๋ฝูซานก็ได้นำทหารม้ามาประจำที่ทุ่งราบหน้าด่านจวี้เป่ยแล้วทั้งสองฝ่ายต่างตั้งค่ายของตนเองและเผชิญหน้ากัน“ท่านขุนพล! ไป๋ฝูซานส่งทูตนำจดหมายมาส่งขอรับ”หวังหยวนเพิ่งคุมทหารตั้งค่ายเสร็จ ต้าหู่ก็ถือจดหมายฉบับหนึ่งเข้ามาวางไว้บนโต๊ะของหวังหยวนอย่างเคารพ“น่าสนใจ เป็นฝ่ายเริ่มส่งจดหมายมาหาข้าเชียวรึ?”“ไม่รู้ว่าเขาคิดจะใช้กลอุบายอะไรอยู่”หวังหยวนพูดพร้อมกับเปิดจดหมายออกอ่านอย่างรวดเร็ว“เป็นเช่นนี้เอง”เนื้อหาในจดหมายระบุว่าไป๋ฝูซานไม่ต้องการเปิดศึก และยังเสนอว่าหากหวังหย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1654

    “ข้าไม่รู้เลยว่าคนของข้าไปปล้นเสบียงของท่าน”“คงจะมีความเข้าใจผิดกันกระมัง?”ไป๋ฝูซานยังคงปฏิเสธอย่างหนักแน่นหากหวังหยวนเปิดศึกโดยตรง นั่นก็คือการยกทัพมาโดยไร้เหตุผล และเมื่อพวกเขาต่อสู้กับหวังหยวนก็จะสามารถแก้ตัวได้!แต่หากหวังหยวนหาเหตุผลอันสมควรมาได้ การทำศึกในครั้งนี้พวกเขาก็จะแก้ตัวไม่ได้แม้ตอนนี้จะยังไม่แตกหักกับหวังหยวน แต่ก็ใกล้ถึงจุดนั้นแล้ว ทั้งสองฝ่ายคงต้องเปิดศึกกันในไม่ช้าหากต้องการครองดินแดนทั้งเก้า คงไม่สามารถปล่อยเมืองหลิงของหวังหยวนให้เหลือรอดไปได้!“ขุนพลไป๋ อย่ามาแสร้งทำเป็นโง่เขลาที่นี่เลย”“ขุนพลของท่าน หลี่เหยียน ได้สารภาพทุกอย่างแล้ว”“สิ่งที่เขาทำล้วนได้รับคำสั่งจากท่าน”“ดังนั้นท่านไม่ต้องปิดบังอีกต่อไป ในฐานะขุนพลใหญ่ ท่านคงรู้ดีว่าผู้ใต้บัญชาของท่านทำอะไรบ้างใช่หรือไม่?”“ครั้งแรกที่ปล้นเสบียงของพวกข้า ข้าไม่คิดจะเอาเรื่อง แต่พวกท่านกลับทำเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า”“นี่ก็พิสูจน์แล้วว่า ท่านยอมให้ลูกน้องของท่านมาละเมิดผลประโยชน์ของข้า”“แม้ข้าจะเห็นแก่ความสัมพันธ์ครั้งเก่า จึงไม่อยากคิดบัญชีกับพวกท่าน แต่เบื้องหลังข้ายังมีพี่น้องอีกมากมาย พวกเขาไม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1655

    “พี่หยวน! ทหารม้าของอาณาจักรต้าเป่ยไล่ตามพวกเรามาแล้ว!”“เราจะสู้กับพวกมัน หรือจะถอยกลับไปตั้งหลักที่ค่ายก่อนดี?”ต้าหู่เอ่ยถามพลางมองไปที่สถานการณ์ด้านหลังอย่างกังวลหวังหยวนหรี่ตามองเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกว่า “วางใจเถิด ก่อนออกเดินทาง ข้าได้วางทหารซุ่มไว้รอบบริเวณนี้แล้ว!”“ข้ารู้ว่ามันจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน!”“ในเมื่อมันอยากหาเรื่อง ข้าก็ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติเช่นกัน”หวังหยวนหัวเราะเสียงเย็น ก่อนจะหยิบแท่งพลุออกมาจากอก ทันใดนั้นเมื่อพลุแตกกระจายบนท้องฟ้า ก็เห็นทหารม้าสองกองปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังเนินเขา แล้วพุ่งเข้าใส่ทหารม้าที่ไล่ตามมาทันที!ในพริบตา ทหารทั้งสองฝ่ายก็เข้าปะทะกัน!เนื่องจากฝ่ายของหวังหยวนมีจำนวนมากกว่า จึงบีบให้ทหารม้าของอาณาจักรต้าเป่ยต้องถอยทัพหนีอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าอยู่อีกต่อไป!“พี่หยวนช่างรอบคอบเหลือเกิน!”“ที่แท้ท่านได้วางทหารซุ่มไว้ก่อนแล้ว”“ก่อนหน้านี้ข้ายังกังวลอยู่เลย”ต้าหู่ยกนิ้วให้หวังหยวนด้วยความชื่นชมครั้งนี้ถือเป็นการสับขาหลอกไป๋ฝูซาน และเป็นการเตือนเขาไปในตัวว่าการต่อต้านพวกเขาจะต้องมีจุดจบเช่นไร!“ข้าคาดเดาความค

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1656

    “ขุนพลทั้งสามกองเตรียมตัวให้พร้อม ประเดี๋ยวตามข้าไปบุกโจมตีเมือง!”“ตราบใดที่ตีด่านจวี้เป่ยแตก เราก็จะบังคับให้ไป๋ฝูซานยอมจำนน!”เหล่าขุนพลต่างตะโกนเสียงดังกึกก้อง“ศึกนี้ต้องชนะ!”เลี้ยงทหารไว้เป็นพันวัน ใช้ทหารในยามจำเป็น บัดนี้พวกเขารอคอยมานานแล้ว ย่อมอยากจะระบายความโกรธในใจ!บัดนี้โอกาสนั้นมาถึงแล้ว!บ่ายวันนั้น หวังหยวนนั่งอยู่ที่ค่ายทหาร ส่วนเหล่าขุนพลก็ต่างก็เคลื่อนทัพออกไปจัดทัพเตรียมพร้อม!บรรยากาศกำลังคุกรุ่น!หลังจากเพิ่งจะรบกันได้เพียงชั่วยาม กองทัพของอาณาจักรต้าเป่ยก็เริ่มต้านทานไม่ไหว ภายใต้การโจมตีของปืนใหญ่ของตระกูลหวัง ทหารของไป๋ฝูซานต่างก็ถอยหนีอย่างต่อเนื่อง!บัดนี้พวกเขาไม่กล้าโจมตีด้วยซ้ำ ได้แต่ตั้งรับอยู่ในด่านจวี้เป่ยเท่านั้น!“กองทัพของเรามีทหารถึงห้าแสนนาย!”“บัดนี้ทั้งหมดอยู่ในด่านจวี้เป่ย!”“คนของหวังหยวนรวมกันแล้วมีเพียงสองแสนคนเท่านั้นหรืออาจจะน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ!”“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเพิ่งจะเริ่มรบ แต่เหตุใดพวกเจ้าถึงได้พ่ายแพ้ย่อยยับเช่นนี้?”ไป๋ฝูซานเดินไปเดินมาในกระโจม สีหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธเกรี้ยวพวกเศษสวะไร้ประโยชน์!“ท่านขุนพลใ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1657

    ไป๋ฝูซานไม่ได้เอ่ยคำใด สายตาจ้องมองไปที่สนามรบตลอดเวลาเห็นได้ชัดว่ากำลังคิดหาวิธีถอยทัพ“เรื่องราวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่พวกเจ้าพูดกันหรอก!”“และสถานการณ์ของเราก็ไม่ได้แย่อย่างที่พวกเจ้าบอกเช่นกัน!”ทันใดนั้น ไป๋ฝูซานกชี้ไปที่กองทัพปืนใหญ่ตระกูลหวังที่อยู่ไกลออกไป แล้วพูดว่า “พวกเจ้าสังเกตเห็นหรือไม่ว่าระยะการโจมตีของสิ่งนี้มีจำกัด มันไม่มีพลังทำลายล้างใด ๆ ต่อศัตรูที่อยู่ใกล้!”“สามารถโจมตีได้เฉพาะศัตรูที่อยู่ไกลเท่านั้น!”“ตราบใดที่เราส่งทหารม้าออกไป จากนั้นก็ไปโจมตีกองทัพของพวกเขา ทำให้เกิดความโกลาหล เราก็จะหาโอกาสได้!”“ฝ่ายเรามีจำนวนที่เหนือกว่าอย่างแน่นอน ตราบใดที่สามารถหลุดพ้นจากสถานการณ์การยิงระเบิดนี้ได้ เราก็จะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้!”“ขุนพลทั้งหลายฟังคำสั่ง แบ่งทหารม้าออกเป็นสามกองทันที โจมตีค่ายปืนใหญ่จากทิศทางที่ต่างกัน!”สมแล้วที่ไป๋ฝูซานเป็นขุนพลผู้ยิ่งใหญ่เพิ่งมาถึงสนามรบก็คิดหาวิธีจัดการกับปืนใหญ่ตระกูลหวังได้แล้ว!ดวงตาของขุนพลนายพลหลายคนก็สว่างขึ้นเมื่อครู่พวกเขามัวแต่กลัว มัวแต่หนีจนลืมคิดหาหนทางรับมือ!แต่ตอนนี้คำพูดของไป๋ฝูซานเป็นดั่งน้ำทิพย์ชโ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1658

    ในตอนแรก เอ้อหู่ก็เป็นคนอาสาที่จะเป็นขุนพลแนวหน้าเอง ในการบุกโจมตีเมืองเซี่ยวก่อนหน้านี้เป็นเพียงการอุ่นเครื่องเท่านั้นตอนนี้ถึงจะถือว่าเป็นการรบครั้งแรกของพวกเขา!เอ้อหู่จะต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถของตัวเองให้เต็มที่!“พี่หยวน จำนวนคนของฝ่ายตรงข้ามมากกว่าเรา และตอนนี้ได้ออกจากเมืองมาปะทะกับกองทัพของเราแล้ว การต่อสู้บนที่ราบไม่เป็นผลดีต่อกองทัพของเรา ข้ากลัวว่าจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นขอรับ”“ไม่ทราบว่าท่านมีแผนสำรองหรือไม่?”ต้าหู่ถามด้วยความไม่มั่นใจในการออกรบนั้น นอกจากจะมีขุนพลและทหารที่เก่งกาจแล้ว ยังต้องมีที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญอีกด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบจะสามาาถทำให้ลดความเสี่ยงได้ แต่คนรอบข้างหวังหยวนไม่ใช่เช่นนั้น ทุกคนล้วนเป็นนักรบที่เก่งกาจ แต่ไม่มีใครสามารถวางแผนได้ ทุกคนล้วนฟังแต่คำสั่งของหวังหยวนเพียงคนเดียวแม้ว่าในฐานะขุนพลใหญ่ หวังหยวนควรจะมีอำนาจสั่งการสูงสุด แต่หากว่าเป็นเช่นนี้ ก็อาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้ นี่ก็เป็นสิ่งที่ต้าหู่กังวลมากที่สุดหวังหยวนรินชาให้ตัวเองอย่างไม่รีบร้อน เขายังคงมีสีหน้าผ่อนคลาย จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ข

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1659

    “ท่านขุนพลใหญ่ ท่าไม่ดีแล้วขอรับ!”ทหารที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดวิ่งมาหาไป๋ฝูซานอย่างรวดเร็ว“เพิ่งได้รับรายงานสงครามล่าสุด กองทัพของเราที่กำลังจะบุกเข้าไปยังกองทัพปืนใหญ่ตระกูลหวังได้ถูกซุ่มโจมตี ขณะนี้ทหารม้ากว่าแสนนายได้กลายเป็นเถ้าถ่านอยู่ในกองเพลิงเกือบทั้งหมดแล้วขอรับ!”อะไรนะ?ไป๋ฝูซานเบิกตากว้างราวกับจะกระอักเลือดออกมานี่มันเรื่องล้อเล่นอะไรกัน?ทหารม้าหนึ่งแสนนาย!กลับถูกคนสังหารได้เกือบหมดในเวลาอันสั้นเช่นนี้?หรือว่าหวังหยวนเป็นเทพเซียน?“เป็นไปไม่ได้! เจ้าคงเป็นสายลับของศัตรูเป็นแน่ จึงได้มาสร้างความโกลาหลในกองทัพ!”“ข้าจะฆ่าเจ้าเสียเดี๋ยวนี้!”ไป๋ฝูซานชักกระบี่ในมือออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว เตรียมจะฟันทหารผู้นั้น!ทหารผู้นั้นตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบพูดขึ้นอีกครั้งว่า “ท่านขุนพลใหญ่! สิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริง หากท่านไม่เชื่อ ก็ให้ส่งคนไปตรวจสอบได้เลยขอรับ!”“หุบเขาด้านโน้นกลายเป็นทะเลเพลิงไปหมดแล้ว และทหารม้าของเราก็ถูกเผาทั้งเป็นอยู่ในกองเพลิงนั้น...”เหล่าขุนพลที่ติดตามไป๋ฝูซานต่างส่ายหน้าถอนหายใจการรบครั้งแรกกลับต้องพ่ายแพ้อย่างยับเยินเช่นนี้ ย่อมทำให้ขวัญ

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status