แชร์

บทที่ 1576

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เดิมทีเหล่าทหารเกิดความหวาดกลัวและตื่นตระหนกในใจ เพราะความกลัวที่เกิดจากการที่ไป๋ฝูซาน แม่ทัพของฝ่ายตรงข้ามนำทัพด้วยตนเอง แต่เมื่อได้ยินเสียงคำรามของเซิ่งฟางฉยง เหล่าทหารก็มีขวัญกำลังใจขึ้นในทันที

พวกเขามองไปที่เซิ่งฟางฉยงอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อรอคอยคำสั่ง!

ดวงตาของเซิ่งฟางฉยงเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม เขายกยิ้มก่อนสั่งการเหล่าทหารที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาว่า “เหล่าทหารทั้งหลาย พวกขยะต้าเป่ยเหล่านั้นกล้าพูดจาโอหังนัก!”

“พวกเขาคิดจะใช้พลังอันอ่อนด้อยของตนเองมาเหยียบย่ำเหล่าทหารและแผ่นดินของต้าเย่ของเรา มันช่างน่าขันเสียจริง!”

“ใช่!”

ขวัญกำลังใจของเหล่าทหารที่มีเซิ่งฟางฉยงเป็นผู้นำพุ่งสูงขึ้นทันที!

เซิ่งฟางฉยงยกยิ้มจาง แล้วพูดอย่างใจเย็นอีกครั้งว่า “รากฐานของต้าเย่ของเรานั้นหยั่งรากลึก กำลังรบแข็งแกร่ง การจะจัดการกับเหล่ามดปลวกจากต้าเป่ยเหล่านี้ก็แค่ปลิดชีพด้วยดาบเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ใช่หรือไม่?”

“ใช่ ปลิดชีพด้วยดาบเพียงครั้งเดียว!”

เหล่าทหารต่างก็ตื่นเต้น ตอบรับคำพูดของเซิ่งฟางฉยงพร้อมเพรียงกัน!

เซิ่งฟางฉยงก็ส่งเสียงดังกว่าเดิม ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (5)
goodnovel comment avatar
sanguansak
ยืดเยื้อ เกินไปละ ไม่ไปไหนเลย เริ่มเบื่อกับนิยายแนวนี้ละ หมดมุก
goodnovel comment avatar
Pongprom
เดาเอาว่าไอ้คนเขียนนี่มันไม่อยากให้จบ แต่ก็หมดมุกจะเขียนต่อ นิยายมันคงไม่ได้วางโครงเรื่องที่แน่นอนเอาไว้ ใช้วิธีด้นไปวันๆ ให้นานที่สุด ยื้อกินเงินคนอ่านไปเรื่อยๆ เสียเงินไปให้นี่ ซื้อหนังสือจริงอย่างของแดน บราวน์ได้สิบกว่าเล่มแล้ว จะดูแม่งอีกสักนิด ถ้ายังยื้ออย่างนี้ต้องลาแล้ว
goodnovel comment avatar
Pongprom
หน้ามืดมนเย็นชาแม่งอยู่นั่นเป็นสิบๆหน้า ไม่เดินหน้าอะไรเลย จะยื้อไปไหนวะ แดกเงินไปเป็นพันแล้ว
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1577

    ใบหน้าของไป๋ฝูซานเต็มไปด้วยความตกใจ เขาตกตะลึงกับพลังอันแข็งแกร่งของเซิ่งฟางฉยงจนตัวสั่นสะท้านไปหมด!ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ม้าที่เขาขี่อยู่จึงยืนนิ่งราวกับถูกตรึงไว้ที่พื้น ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่ก้าวเดียว!ตอนนี้ไป๋ฝูซานจึงรู้สึกได้ถึงความตื่นตระหนกและความหวาดกลัวที่แฝงอยู่ในใจของตนเองเขาตกใจจนกลืนน้ำลายลงคอไปดัง “อึก” หนึ่งที รู้สึกได้ว่าลมหายใจของตนเองเริ่มหอบถี่ขึ้นเซิ่งฟางฉยงนี่ช่างเก่งกาจเหลือเกิน!พลังอันแข็งแกร่งของเขาทะลวงเข้ามาหาเขาอย่างบ้าคลั่งไม่หยุดหย่อน!ดวงตาของเขามีแววของความตื่นตระหนกและความกังวล จากนั้นจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ใช้เวลาไม่นานนัก เขาก็สงบสติอารมณ์ของตนเองลงได้ในที่สุด!หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว ดวงตาของไป๋ฝูซานก็เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา ขณะเอ่ยปากด่าว่า “เซิ่งฟางฉยง เจ้าจิ้งจอกเฒ่าตายยาก!”“สวรรค์คงส่งให้ข้ามาประจันหน้ากับเจ้าในวันนี้ เพื่อให้ข้ามาสังหารเจ้าที่นี่ เจ้าจงคอยดูเถิด ในไม่ช้าเจ้าจะต้องตายด้วยน้ำมือของข้า!”ในวินาทีถัดมา เสียงคำรามอันโกรธเกรี้ยวก็ดังขึ้นอย่างกึกก้อง!นัยน์ตาของเขาฉายแววเลือดเย็น เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1578

    ดวงตาของไป๋ฝูซานเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม เขาเฝ้ามองเซิ่งฟางฉยงที่กำลังพุ่งเข้ามาหาตนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็แสยะยิ้มเยาะอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยปากเสียดสีว่า “เซิ่งฟางฉยง เจ้าคิดจริงหรือว่าเจ้าคู่ควรพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้?”“ฮ่าฮ่า ช่างน่าขัน ช่างน่าขันยิ่งนัก”“ขยะอย่างเจ้าสมควรที่จะมีชีวิตอยู่ในความฝันเท่านั้น หากเจ้ามีความสามารถจริงและกล้าที่จะประลองกับข้าก็จงลองดูเถิด ข้าจะสนองให้เจ้ารู้ว่าอะไรคือความโหดเหี้ยมที่แท้จริง!”หลังจากที่เซิ่งฟางฉยงได้ยินคำพูดของไป๋ฝูซาน มุมปากของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มเย้ยหยันดวงตาของเขาฉายแววเย็นชา จากนั้นก็เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมว่า “ข้าบอกเจ้าเลยว่าคนอย่างเจ้ามีชีวิตอยู่ก็เหมือนเศษสวะ!”“ข้าสามารถกำจัดคนอย่างเจ้าได้ในพริบตาเดียว หากเจ้ากล้าล่วงเกินข้า ก็จงเตรียมตัวรอรับความตายได้เลย”“หยุดพูดเหลวไหลสักที มาเริ่มกันเถิด ตอนนี้ทุกนาทีที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ก็เท่ากับเป็นการเสียเวลาเปล่า!”“ขยะอย่างเจ้า ข้าฟันทีเดียวก็ตายแล้ว จะไม่ให้เจ้ามีโอกาสได้พูดอีกต่อไป!”ทั้งสองฝ่ายกำลังจะต่อสู้กัน แต่การด่าทอและการโจมตีทางวาจาก็ยังไม่ยอมหยุด!ตอนนี้ไป๋ฝ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1579

    สีหน้าของไป๋ฝูซานดูไม่สู้ดีนัก!ทั่วทั้งร่างของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยว!เมื่อถูกเซิ่งฟางฉยงคอยยั่วยุเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก็กลั้นความโกรธและความหงุดหงิดเอาไว้ไม่อยู่ เขาชูดาบในมือขึ้น ฟันลงไปที่ไป๋ฝูซานอย่างแรงด้วยความโกรธแค้น!“เซิ่งฟางฉยง เจ้าเฒ่าไร้ค่าปากสกปรกดีแต่พูด ข้าจะฆ่าเจ้าให้ตายในวันนี้!”ตอนนี้ความโกรธแค้นที่รุนแรงนับไม่ถ้วนถาโถมเข้ามาในทันที!ดวงตาของเขาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยเปลวไฟที่ลุกไหม้ และโทสะที่แผ่ขยายออกไปอย่างรุนแรง!เหล่าทหารนับไม่ถ้วนต่างก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ!สีหน้าของพวกเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จากนั้นก็มองไป๋ฝูซานโดยไม่รู้ตัว!แต่ไป๋ฝูซานไม่ยอมแพ้ เมื่อเผชิญกับการดูถูกและการยั่วยุของเซิ่งฟางฉยง เขาเหมือนกับทนกินดินปืนไปหลายจิน พร้อมที่จะระเบิดความโกรธออกมา เขาเงื้อดาบในมือขึ้นมารวดเร็วด้วยความโกรธแค้นเต็มหัวใจ แล้วฟาดฟันไปที่เซิ่งฟางฉยงอย่างแรง!“อ๊ากกก!”“ฆ่ามัน!”เสียงคำรามนับไม่ถ้วนดังขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องกึกก้องไปทั่วในทันที!ในไม่ช้าบริเวณโดยรอบก็เต็มไปด้วยภูเขาซากศพและทะ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1580

    ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็พูดกับไป๋ฝูซานด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความสงสัย “แม่ทัพไป๋ ข้าได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนมากในระยะไกล และยังมีเสียงม้าวิ่งมาอีกด้วย...”รองแม่ทัพยิ่งพูด สีหน้าก็ยิ่งตื่นตระหนกออกมาอย่างชัดเจน!จู่ ๆ เขาก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ หายใจหอบถี่ สีหน้าไม่เชื่อพลันเปลี่ยนเป็นตกใจมากในทันที!ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและความตกใจ จากนั้นพูดด้วยสีหน้าหวาดผวาอย่างมาก “ข้า... จบแล้วขอรับ แม่ทัพไป๋ ดูเหมือนว่ากองหนุนของเซิ่งฟางฉยงจะมาแล้วกระมัง?”เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ไป๋ฝูซานในเวลานี้ก็มีสีหน้าไม่เชื่อ!เขาตกใจจนพูดไม่ออก รู้สึกหายใจไม่ทัน สีหน้ากังวลและตัวสั่นเทาอย่างรุนแรง!“แย่แล้ว รีบถอย รีบถอยทัพ!”เสียงตะโกนดังขึ้นทีละเสียงในทันที!เหล่าทหารที่อยู่ข้าง ๆ ก็ราวกับจะคลุ้มคลั่งเหมือนกับคนบ้า!พวกเขาวิ่งถอยทัพไปอย่างบ้าคลั่งทีละคน เซิ่งฟางฉยงมีดวงตาที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม เขาตะโกนบอกเหล่าทหารที่อยู่ข้างหลังอย่างบ้าคลั่ง “เหล่าทหารทั้งหลาย!”“พวกเจ้าจงดูเถิด คนกลุ่มนี้พ่ายแพ้ให้กับเราทีละคนแล้ว ตอนนี้เราควรจะไล่สังหารพวกขยะเหล่านี้ให้สิ้นซาก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1581

    “ท่านแม่ทัพไป๋พ่ายแพ้ศึกแล้ว บัดนี้ได้ถอยทัพกลับมายังเฉิงโจวแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก!”ทหารผู้นั้นรีบรายงานด้วยเสียงอันแผ่วเบา“อะไรนะ?”ไป๋ชิงชางเบิกตากว้างด้วยความตกใจในทันที มืออ่อนแรงจนถ้วยชาในมือหลุดร่วงลงพื้นแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ!“เป็นไปไม่ได้! เจ้าโกหกใช่หรือไม่!”การสูญเสียครั้งใหญ่เช่นนี้ ทำให้ไป๋ชิงชางไม่อาจรับได้ แม้ว่าจะได้เป็นฮ่องเต้แล้ว แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง จึงควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ได้!เขาเดินตรงไปหาทหารคนนั้นในทันที คว้าคอเสื้อทหารผู้นั้นไว้ ดวงตาของเขาเบิกกว้างเท่าไข่ห่าน ลมหายใจก็หนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ ความโกรธในใจยิ่งเพิ่งขึ้นถึงขีดสุด!“ไป๋ฝูซานมีทหารกล้าในมือถึงหนึ่งแสนนาย! ทหารเหล่านี้ล้วนเป็นเสาหลักของชาติ! ครั้งนี้เราได้ระดมพลทั่วทั้งแผ่นดินเพื่อกำจัดต้าเย่! เพื่อให้ต้าเป่ยของเราได้ครอบครองแผ่นดินเก้าแคว้น!”“และก่อนที่จะออกเดินทาง ไป๋ฝูซานได้สาบานกับข้าแล้วว่าจะต้องสำเร็จ! ไม่มีทางที่จะผิดพลาดได้! จะต้องขยายอาณาเขตจากศึกครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน!”“เจ้าคงเป็นไส้ศึกของศัตรู แกล้งมาปั่นป่วนเพื่อทำให้จิตใจของข้าหวาดหวั่นเป็นแน่! เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1582

    มีคำกล่าวว่าการอยู่ใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจก็เสมือนอยู่ใกล้เสือ ซึ่งเป็นความจริง เพราะหากพูดผิดแม้เพียงคำเดียว ต่อให้สิ่งที่พูดเป็นความจริง ก็อาจจะต้องเอาชีวิตไปทิ้ง…เมื่อทุกคนได้ออกไปแล้ว ประตูก็ถูกปิดลง ไป๋ชิงชางเดินไปที่ด้านหลังห้อง สายตาจับจ้องไปยังชายชราหลังค่อมคนนั้นชายผู้นั้นถือไม้เท้าในมือ แม้ว่าใบหน้าจะไม่มีริ้วรอยมากนัก แต่กลับมีผมขาวโพลนเต็มศีรษะ“ครั้งนี้ท่านทำเรื่องที่หุนหันพลันแล่นเกินไป”“ข้าเห็นว่าท่านคิดจะลงโทษไป๋ฝูซานใช่หรือไม่?”ชายหลังค่อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาราวกับไม่ได้กำลังพูดกับฮ่องเต้ยิ่งไปกว่านั้น คำพูดยังแฝงไว้ด้วยการเย้ยหยันอย่างชัดเจน สายตาเต็มไปด้วยความดูถูกอย่างปิดไม่มิด ในใต้หล้านี้จะมีสักกี่คนกันที่กล้าพูดเช่นนี้กับฮ่องเต้?แต่ที่น่าขันก็คือ ไป๋ชิงชางกลับแสดงท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนต่อหน้าเขา แม้ว่าภายในใจจะรู้สึกไม่พอใจ แต่เขาก็ต้องกดความโกรธไว้ หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่งจึงกล่าวเสียงทุ้มว่า “แต่ก่อนที่ไป๋ฝูซานจะออกเดินทาง เขาได้ให้คำมั่นกับข้าแล้ว!”“หากครั้งนี้ไม่สามารถยึดครองดินแดนสามแคว้นของต้าเย่ได้ เขาจะต้องสละหัวของตัวเอง!”“ตอนนี้เขาเพิ่งเดิ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1583

    บัดนี้ ณ ดินแดนเฉิงโจว ในค่ายทัพใหญ่แห่งต้าเย่เสียงหัวเราะรื่นเริงดังก้องไปทั่วทั้งค่ายทหาร เหล่าทหารทั้งหลายต่างร้องรำทำเพลง กลิ่นหอมของสุราและอาหารคละคลุ้งไปทั่วทั้งค่าย!เซิ่งฟางฉยงและอู๋หลิงนั่งอยู่ด้วยกันในกระโจมใหญ่ของกองทัพ บัดนี้กำลังดื่มสุราสนทนากันอย่างมีความสุข“ขุนพลอู๋! หากไม่ใช่ว่าท่านนำกองหนุนมาช่วยเหลือทันท่วงที เกรงว่าข้าคงพ่ายแพ้ย่อยยับอยู่ที่นี่แล้ว...”“เกียรติยศที่สั่งสมมาทั้งชีวิตคงพังทลายหมดสิ้น!”“ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น แผ่นดินต้าเย่คงตกไปอยู่ในมือผู้อื่น!”“ดังนั้น คราวนี้ท่านมีความดีความชอบอย่างยิ่ง เมื่อถึงคราวถอนทัพ ข้าจะไปทูลขอพระราชทานรางวัลให้ท่านด้วยตนเอง! จะตอบแทนท่านให้สมกับความเหน็ดเหนื่อยที่ท่านได้บุกบั่นมาไกลเช่นนี้!”เซิ่งฟางฉยงกล่าวออกมาพลางยกจอกสุราในมือขึ้นดื่มรวดเดียวบัดนี้เขารู้สึกปลื้มปีติอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนครั้งนี้ถือเป็นการศึกครั้งใหญ่ที่ได้รับชัยชนะอย่างงดงาม ไม่เพียงแต่ทำให้ไป๋ฝูซานต้องล่าถอยไปเท่านั้น แต่ยังได้สังหารทหารต้าเป่ยไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการกระตุ้นขวัญกำลังใจของทหารในกองทัพเป็นอย่างมาก!ในสงครา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1584

    เมื่อมองออกไป สี่ด้านล้วนล้อมรอบด้วยภูเขา ขณะที่กองทัพของไป๋ฝูซานได้ยึดครองยอดเขาที่สูงที่สุดแล้ว จากตำแหน่งที่สูงมองลงมา สถานการณ์รอบด้านก็ไม่อาจหลุดพ้นสายตาของพวกเขา เป็นแนวป้องกันที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!“ได้สำรวจความสูญเสียของกองทัพแล้วหรือยัง?”เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลัง ไป๋ฝูซานก็เอ่ยถามอย่างเย็นชา โดยไม่หันกลับไปมองคำกล่าวที่ว่าทัพพ่ายแพ้ดุจภูเขาถล่มนั้น ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของกองทัพอย่างมากเท่านั้น แต่ยังทำให้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหมองหม่น!เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นขุนพลผู้ไร้พ่ายแพ้ของต้าเป่ยมานานหลายปี ไม่ว่าจะรบในแนวหน้าหรือแนวหลังก็ไม่เคยพ่ายแพ้แม้แต่ครั้งเดียว เขามีความกล้าหาญชาญชัยมาโดยตลอด และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้บัดนี้เขาอายุสี่สิบกว่าแล้ว แต่ไป๋ชิงชางก็ยังคงมอบหมายภารกิจสำคัญให้เขา!น่าเสียดายที่...เดิมทีคิดว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาดอย่างแน่นอน แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะมีคนอย่างเฉิงเหย่าจินโผล่มาจากไหน อู๋หลิงแกล้งทำเป็นจะโจมตี แต่กลับนำกองทัพมาช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว จึงทำให้ชัยชนะพลิกไปทางเซิ่งฟางฉยง!ไม่เช่นนั้น หากมีเพียงเซิ่งฟางฉยงคนเดียว

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status