เมื่อนึกถึงเชียนหลง หวังหยวนรู้ว่าเวลาสามเดือนนั้นกระชั้นชิดมาก แต่หากใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ก็อาจมีโอกาสทำสำเร็จเพียงแต่เขาไม่เคยรู้เลยว่าในสามเดือนนี้จะต้องทำอะไรบ้างโม่ชิงอีไม่พูดและหวังหยวนก็ไม่ถาม บางทีอาจจะไม่พูดเพื่อไม่ให้เขาคิดฟุ้งซ่านก็เป็นได้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ใกล้จะครบหนึ่งเดือนแล้ว!“มาเถิด พี่หวังหยวน วัยรุ่นของเผ่าลี่ทุกคนพ่ายแพ้ต่อท่านหมดแล้ว เหลือเพียงข้าแล้ว!”“แต่ข้าคิดว่าขณะนี้ข้าก็ไม่คู่ควรกับการเป็นคู่ต่อสู้ของท่านแล้วเช่นกัน!”กู่หลางยืนอยู่ในน้ำพลางหัวเราะอย่างร่าเริง“พี่หวังหยวนจัดการเลย!”“เอาชนะกู่หลาง!”“เจ้านี่ชอบรังแกพวกข้าตลอด ทุบตีเขาให้น่วมไปเลย!”“ฮ่าฮ่า สั่งสอนเขาให้เข็ด!”วัยรุ่นของเผ่าลี่ต่างก็มารวมตัวกันที่ริมทะเลสาบ เพื่อรับชมการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยความตื่นเต้น!หวังหยวนก็หัวเราะเช่นกัน แล้วกระโดดลงไปในน้ำคราวนี้ใจเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและกู่หลางก็พุ่งเข้าใส่เขาทันที พละกำลังมหาศาลของเขาทำให้ขณะที่พุ่งเข้ามา ผิวน้ำก็สั่นสะเทือนเป็นวงกว้างกู่หลางก้าวมาอยู่ตรงหน้าหวังหยวนได้ในก้าวเดียว มือใหญ่คว้าร่างของหวังหยวนขึ้นแล้วพ
ดูแล้วชายชราคนนี้คงจะไม่ได้อาบน้ำหรือเปลี่ยนเสื้อผ้ามานานแล้ว กลิ่นตัวเหม็นเปรี้ยวไปทั้งตัวจนแสบจมูก!เมื่อโม่ชิงอีเห็นชายชราคนนี้ก็รีบกล่าวด้วยความเคารพว่า “ท่านผู้อาวุโส ข้าน้อยมาเยี่ยมท่านแล้ว และได้หาเพื่อนเล่นมาให้ท่านด้วยขอรับ”ชายชรายืนอยู่ตรงหน้าหวังหยวนพลางจ้องมองหวังหยวนเขม็งหวังหยวนรีบประสานมือคำนับ “ข้าน้อยนามว่าหวังหยวน ขอคารวะท่านผู้อาวุโสขอรับ”ทว่าเมื่อพูดจบ ชายชราก็ยังจ้องเขาเขม็งอยู่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือแววตาของชายชราเต็มไปด้วยความซื่อบื้อหวังหยวนรู้สึกสงสัยจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองโม่ชิงอี แต่โม่ชิงอีส่ายหน้าทันใดนั้นชายชราก็พูดขึ้นมาทันใด คำพูดของเขาทำให้หวังหยวนถึงกับตะลึง “เจ้าหนุ่ม... เจ้าเล่นซ่อนหาเป็นหรือไม่?”คำพูดนี้ทำให้หวังหยวนงุนงง แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้าเขารู้สึกว่าชายชราคนนี้คงมีปัญหาทางสมอง“ดีมาก ดีมาก เจ้ามาจับข้าให้ได้สิ...”ชายชราพูดจบก็วิ่งหนีไปทันที เพียงชั่วพริบตาเขาก็หายวับไปในป่าแล้วหวังหยวนรู้สึกงุนงงมาก เร็วถึงเพียงนี้เลยหรือ?ให้เขาไล่ตามหรือ?เป็นไปไม่ได้!“พี่ชิงอี นี่...”หวังหยวนอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา ชายชราคนนี้ช่าง
หวังหยวนถึงกับอึ้ง!ความเร็วนี้เร็วเกินไปหรือไม่!เพียงแค่ชั่วพริบตาก็แย่งไปได้แล้วหรือ?หวังหยวนอยากจะไปแย่งคืนมา แต่ชายชราสติฟั่นเฟือนก็กัดเข้าปากเคี้ยวไปแล้ว จากนั้นก็ก้าวเท้าเบา ๆ สองสามก้าวแล้ววิ่งหนีไปไกลหลายเมตรความเร็วนี้ทำให้หวังหยวนรู้สึกประหลาดใจมากและการก้าวเท้านั้นมีจังหวะที่แปลกประหลาดด้วยมันแปลกมาก ความเร็วนั้นเร็วมากเสียจนเหมือนภาพลวงตาที่หายวับไปต่อหน้าต่อตาหวังหยวน!“ทักษะล้ำเลิศ หากสามารถฝึกฝนเคล็ดวิชานี้ได้ก็คงไม่มีใครตามทันใช่หรือไม่?”หวังหยวนถอนหายใจ ในขณะเดียวกันก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดโม่ชิงอีจึงให้เขามาที่นี่!ในตอนแรกที่ฝึกฝนร่างกาย ก็ทำให้ได้เรียนรู้พลังที่ทำให้แข็งแกร่งยิ่ง แต่ก็ยังเคลื่อนไหวช้าเกินไปแต่ไม่ว่าจะแข็งแกร่งมากเพียงใด ยามต้องต่อสู้จริง ๆ หากไม่สามารถเข้าถึงตัวอีกฝ่ายได้ก็ไม่มีประโยชน์ดังนั้นสิ่งที่ต้องการก็คือความเร็ว!หากแก้ปัญหานี้ได้ก็จะมีโอกาสชนะ!วรยุทธในใต้หล้าวัดกันด้วยความเร็ว คำกล่าวนี้สมเหตุสมผลหวังหยวนยังคงรู้สึกทึ่งมาก เขากะพริบตาแล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ชายชราสติฟั่นเฟือน จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คือว่า... ท่านผ
หวังหยวนพูดด้วยความหงุดหงิด แต่ชายชราคนนั้นกลับไม่สนใจหวังหยวนเลย เขาวิ่งหายวับไปในทันทีแม้แต่หมูย่างตัวใหญ่ก็หายไปด้วย!หวังหยวนอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาแต่ในใจก็มีกลยุทธ์รับมือแล้ว!ครั้งต่อไปเมื่อเขาย่างเนื้อกินอีก ก็จะย่างทีละชิ้น!ดูสิว่าชายชราคนนี้จะยังสามารถยึดไปหมดในคราวเดียวได้หรือไม่!หวังหยวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล่าสัตว์ต่อไปในที่สุดเขาก็จับไก่ป่าได้ตัวหนึ่ง หลังจากจัดการทำความสะอาดแล้ว หวังหยวนก็ย่างมันเขาเรียนรู้จากประสบการณ์จึงหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนย่างและเขายังก่อกองไฟไว้เจ็ดแปดกอง โดยแต่ละกองมีเนื้อไก่ย่างหนึ่งชิ้นถูกย่างอยู่!เขาไม่เชื่อว่าชายชราคนนั้นจะสามารถแย่งชิงไปได้ทั้งหมดในคราวเดียว!ไม่นานไก่ก็สุกแล้ว กลิ่นหอมลอยฟุ้งไปทั่ว ช่างน่าอร่อยเหลือเกิน!หวังหยวนไม่รีรอ เตรียมจะหยิบขึ้นมากิน แต่ใครจะรู้ว่าชายชรามาตามที่คาดไว้ เขากินหมูย่างในมือไปเกือบหมดแล้ว แล้วยังจะมาอยู่ตรงหน้าหวังหยวนเพื่อเริ่มแย่งชิงไก่ย่างอีกหวังหยวนจึงใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อขัดขวาง แต่...ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้เขาโกรธแค้นอย่างที่สุด!ชายชราคนนี้ไม่เหลือไก่ย่างไว้ให้เขาแม้แต่
ในขณะนี้โม่ชิงอีกำลังยืนอยู่ที่มุมมืดคอยสังเกตอยู่ตลอดเวลา มุมปากของเขามีรอยยิ้ม ขณะคิดในใจว่าหวังหยวนคนนี้มีหนทางเพียงแต่เมื่อมองชายชรา เขาก็ถอนหายใจ นัยน์ตาฉายแววตาเจ็บปวด“เฮ้อ...”เขาถอนหายใจก่อนจะหายตัวไปและขณะนี้หวังหยวนก็ยังคงไล่ตามต่อไป ชายชราคนนี้ทำให้หวังหยวนไม่มีหนทางใดเลยจริง ๆ ได้แต่ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่นานนักหวังหยวนก็จบเกมการไล่ล่าในวันนี้หวังหยวนนั่งอยู่ใต้เพิงไม้ แล้วเริ่มหยิบน่องไก่ที่ยังไม่ได้ย่างออกมา นี่คือของดิบที่เขาแอบเก็บไว้ เมื่อเห็นว่าดึกแล้วจึงหยิบออกมาเพื่อย่าง แต่ทันใดนั้นชายชราก็ค่อย ๆ ลงมาด้านหลังหวังหยวนการเคลื่อนไหวของเขาเบามากจนหวังหยวนไม่รู้ตัวเลยหวังหยวนที่กำลังระแวงค่อย ๆ ย่างน่องไก่ไม่นานน่องไก่ก็สุกแล้วหวังหยวนตั้งใจฟังเสียง แต่ก็ไม่พบว่าชายชรามาถึงจึงยกยิ้มจาง“ดูเหมือนว่าหลังจากนี้ข้าจะต้องเตรียมของกินไว้เยอะ ๆ ในตอนกลางวัน แล้วค่อยเอาออกมากินเองในตอนกลางคืน!”หวังหยวนรู้สึกพึงพอใจมากแต่ทันใดนั้นก็มีเสียงกระแอมดังมาจากด้านหลังหวังหยวนได้ยินเสียงนี้ก็รู้สึกผมตั้งชัน หัวใจเต้นรัว เมื่อหันกลับไปมองก็ถึงกับตะลึงตาค้าง!เป็นช
ชายชราได้ยินดังนั้นจึงไม่ลังเลที่จะกล่าวขึ้นมาทันทีว่า “บอกมาว่าเหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่ เจ้ามาทำอะไรและเจ้าเป็นผู้ใด!”เมื่อหวังหยวนได้ยินดังนั้นก็อึ้งไป“ท่านผู้อาวุโส ท่าน... ท่านไม่ได้ถามเพียงหนึ่งคำถามนี่ขอรับ!”ถามคำถามสามข้อในคราวเดียว!เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่ เจ้ามาทำอะไรและเจ้าเป็นผู้ใดสามคำถามที่ถูกกล่าวออกมาเป็นคำถามเดียวทำให้หวังหยวนรู้สึกพูดไม่ออกชายชราคนนี้หายดีแล้วจริงหรือไม่?หรือว่ากำลังหยอกล้อเขาอยู่อีก?“อย่าพูดเหลวไหล นี่มีเพียงคำถามเดียว เจ้าต้องบอกข้าให้ละเอียด อย่าได้ปิดบังสิ่งใด เพราะเรื่องนี้สำคัญมาก!”ชายชราพูดอย่างจริงจัง เมื่อหวังหยวนได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้สนใจมากนักเพราะชายชราคนนี้บางครั้งก็มีสติ บางครั้งก็สติเลอะเลือน สุดท้ายก็อาจจะลืมสิ่งที่เขาพูดไปหมดสิ่งที่เขาพูดไปนั้น ชายชราอาจจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำหรือแม้แต่อาจจะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดก็ได้เมื่อคิดดังนั้นจึงไม่ลังเลที่จะตอบ“ข้าชื่อหวังหยวน เป็นชาวบ้านจากหมู่บ้านต้าหวัง ตั้งแต่เด็กก็ทำไร่ไถนา ได้ทำความดีความชอบมาบ้าง มีภรรยาที่รักและชีวิตที่มีความสุขขอรับ”หวังหยวนแนะนำตัวเองในประโยคเดียว เมื่
“มันเป็นดั่งท้องปลามัน พวกเขาหลายคนจะเกรงกลัวเจ้า จะละโมบในตัวเจ้า ชีวิตของเจ้าได้เชื่อมโยงอยู่กับผู้วิเศษแล้ว ความเป็นความตายล้วนมีโอกาสเกิดขึ้นเท่ากัน เพียงแค่สหายคนเดียว เจ้ายอมจ่ายราคามากถึงเพียงนี้เลยหรือ?”ชายชราอดไม่ได้ที่จะพูด ความประหลาดใจฉายชัดบนใบหน้าหวังหยวนหัวเราะแล้วยักไหล่ ก่อนกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ข้าเป็นคนหนึ่งที่ปฏิบัติต่อเพื่อนฝูงอย่างดี หากสามารถช่วยได้ ข้าก็ย่อมอยากจะช่วยขอรับ”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเองก็อยากเห็นด้วยว่าโลกแห่งยุทธภพที่กล่าวขานกันนั้นเป็นอย่างไร ข้าอยากรู้อยากเห็นมาก ดังนั้น... ข้าจึงอยากฝึกฝนดูขอรับ”คำตอบของหวังหยวนทำให้ชายชราต้องทึ่ง!เขาเป็นคนที่ยึดมั่นในความรัก ความซื่อสัตย์ และความกล้าหาญ ถือว่าเป็นบุคคลที่น่าสนใจ!“ไม่เลว ไม่เลว เจ้าเด็กน้อย เจ้าดีกว่าพวกอสรพิษที่แสร้งทำเป็นดีแต่คดโกงเสียอีก”ชายชราพูดพลางมองหวังหยวนด้วยความชื่นชมอย่างมาก“เช่นนั้น... ท่านผู้อาวุโส ตอนนี้ท่านฟื้นคืนสติแล้ว ไก่ย่างนั้นมอบให้ข้าได้หรือไม่ขอรับ ข้า... ไม่ได้กินเนื้อสัตว์มาหลายวันแล้ว เพราะถูกท่านแย่งไปหมดเลยขอรับ”หวังหยวนรีบพูด เมื่อได้ยินดังนั้น ชายชราก็
แรกเริ่มหวังหยวนไม่อาจเข้าใจได้ แต่เมื่อไตร่ตรองดูแล้วก็พอจะเข้าใจบางทีเขาอาจปรารถนาศิษย์สักคน แต่ก็หาผู้ที่เหมาะสมไม่ได้บัดนี้ที่ได้เจอตัวเขาแล้วจึงพลันตื่นเต้นยินดีนักหวังหยวนสงสัยจึงเอ่ยถามว่า “ท่านอาจารย์ ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าเหตุใดท่านจึงเลือกข้า ท่านอย่าบอกนะขอรับว่าเพราะอาหารอันโอชะในหลายวันนี้ได้ซื้อใจท่านไว้”หากง่ายดายเพียงนี้ก็คงจะดีนัก เกรงว่าชายชราคนนี้คงจะมีศิษย์มากมายนับไม่ถ้วนแล้วเมื่อได้ยินคำถามนี้ ชายชราก็หัวเราะออกมา ก่อนกล่าวเบา ๆ ว่า “เหตุผลนั้นง่ายนัก ประการแรกคือเจ้าเป็นเด็กดี มีน้ำใจ มีคุณธรรม ข้าจึงถูกใจ”“ประการที่สอง เจ้ากล้าหาญ มีเลือดนักสู้ กล้าตัดสินใจเด็ดขาด ซึ่งข้าก็ชื่นชอบเช่นกัน”“ประการที่สาม... นั่นก็คือเจ้าไม่ใช่คนของเทียนไว่เทียนหรือซานไว่ซาน เคล็ดวิชามหาสุริยันนี้ก็ไม่ใช่เคล็ดวิชาของพวกเขา แต่เป็นเคล็ดวิชาที่หลงเหลืออยู่หลังจากที่เหรินไว่เหรินได้สูญสิ้นไปแล้ว แม้ว่าพวกเขาปรารถนาจะเรียนรู้ แต่ก็ไม่มีผู้ใดเรียนได้สำเร็จ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังหยวนก็ตกตะลึงเหรินไว่เหรินหรือ?คือสิ่งใดกัน?“ท่านอาจารย์ ยังมีเหรินไว่เหรินอีกหรือขอรับ?