แชร์

บทที่ 1396

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
เมื่อนึกถึงเชียนหลง หวังหยวนรู้ว่าเวลาสามเดือนนั้นกระชั้นชิดมาก แต่หากใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ก็อาจมีโอกาสทำสำเร็จ

เพียงแต่เขาไม่เคยรู้เลยว่าในสามเดือนนี้จะต้องทำอะไรบ้าง

โม่ชิงอีไม่พูดและหวังหยวนก็ไม่ถาม บางทีอาจจะไม่พูดเพื่อไม่ให้เขาคิดฟุ้งซ่านก็เป็นได้

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ใกล้จะครบหนึ่งเดือนแล้ว!

“มาเถิด พี่หวังหยวน วัยรุ่นของเผ่าลี่ทุกคนพ่ายแพ้ต่อท่านหมดแล้ว เหลือเพียงข้าแล้ว!”

“แต่ข้าคิดว่าขณะนี้ข้าก็ไม่คู่ควรกับการเป็นคู่ต่อสู้ของท่านแล้วเช่นกัน!”

กู่หลางยืนอยู่ในน้ำพลางหัวเราะอย่างร่าเริง

“พี่หวังหยวนจัดการเลย!”

“เอาชนะกู่หลาง!”

“เจ้านี่ชอบรังแกพวกข้าตลอด ทุบตีเขาให้น่วมไปเลย!”

“ฮ่าฮ่า สั่งสอนเขาให้เข็ด!”

วัยรุ่นของเผ่าลี่ต่างก็มารวมตัวกันที่ริมทะเลสาบ เพื่อรับชมการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยความตื่นเต้น!

หวังหยวนก็หัวเราะเช่นกัน แล้วกระโดดลงไปในน้ำ

คราวนี้ใจเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

และกู่หลางก็พุ่งเข้าใส่เขาทันที พละกำลังมหาศาลของเขาทำให้ขณะที่พุ่งเข้ามา ผิวน้ำก็สั่นสะเทือนเป็นวงกว้าง

กู่หลางก้าวมาอยู่ตรงหน้าหวังหยวนได้ในก้าวเดียว มือใหญ่คว้าร่างของหวังหยวนขึ้นแล้วพ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1397

    ดูแล้วชายชราคนนี้คงจะไม่ได้อาบน้ำหรือเปลี่ยนเสื้อผ้ามานานแล้ว กลิ่นตัวเหม็นเปรี้ยวไปทั้งตัวจนแสบจมูก!เมื่อโม่ชิงอีเห็นชายชราคนนี้ก็รีบกล่าวด้วยความเคารพว่า “ท่านผู้อาวุโส ข้าน้อยมาเยี่ยมท่านแล้ว และได้หาเพื่อนเล่นมาให้ท่านด้วยขอรับ”ชายชรายืนอยู่ตรงหน้าหวังหยวนพลางจ้องมองหวังหยวนเขม็งหวังหยวนรีบประสานมือคำนับ “ข้าน้อยนามว่าหวังหยวน ขอคารวะท่านผู้อาวุโสขอรับ”ทว่าเมื่อพูดจบ ชายชราก็ยังจ้องเขาเขม็งอยู่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือแววตาของชายชราเต็มไปด้วยความซื่อบื้อหวังหยวนรู้สึกสงสัยจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองโม่ชิงอี แต่โม่ชิงอีส่ายหน้าทันใดนั้นชายชราก็พูดขึ้นมาทันใด คำพูดของเขาทำให้หวังหยวนถึงกับตะลึง “เจ้าหนุ่ม... เจ้าเล่นซ่อนหาเป็นหรือไม่?”คำพูดนี้ทำให้หวังหยวนงุนงง แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้าเขารู้สึกว่าชายชราคนนี้คงมีปัญหาทางสมอง“ดีมาก ดีมาก เจ้ามาจับข้าให้ได้สิ...”ชายชราพูดจบก็วิ่งหนีไปทันที เพียงชั่วพริบตาเขาก็หายวับไปในป่าแล้วหวังหยวนรู้สึกงุนงงมาก เร็วถึงเพียงนี้เลยหรือ?ให้เขาไล่ตามหรือ?เป็นไปไม่ได้!“พี่ชิงอี นี่...”หวังหยวนอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา ชายชราคนนี้ช่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1398

    หวังหยวนถึงกับอึ้ง!ความเร็วนี้เร็วเกินไปหรือไม่!เพียงแค่ชั่วพริบตาก็แย่งไปได้แล้วหรือ?หวังหยวนอยากจะไปแย่งคืนมา แต่ชายชราสติฟั่นเฟือนก็กัดเข้าปากเคี้ยวไปแล้ว จากนั้นก็ก้าวเท้าเบา ๆ สองสามก้าวแล้ววิ่งหนีไปไกลหลายเมตรความเร็วนี้ทำให้หวังหยวนรู้สึกประหลาดใจมากและการก้าวเท้านั้นมีจังหวะที่แปลกประหลาดด้วยมันแปลกมาก ความเร็วนั้นเร็วมากเสียจนเหมือนภาพลวงตาที่หายวับไปต่อหน้าต่อตาหวังหยวน!“ทักษะล้ำเลิศ หากสามารถฝึกฝนเคล็ดวิชานี้ได้ก็คงไม่มีใครตามทันใช่หรือไม่?”หวังหยวนถอนหายใจ ในขณะเดียวกันก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดโม่ชิงอีจึงให้เขามาที่นี่!ในตอนแรกที่ฝึกฝนร่างกาย ก็ทำให้ได้เรียนรู้พลังที่ทำให้แข็งแกร่งยิ่ง แต่ก็ยังเคลื่อนไหวช้าเกินไปแต่ไม่ว่าจะแข็งแกร่งมากเพียงใด ยามต้องต่อสู้จริง ๆ หากไม่สามารถเข้าถึงตัวอีกฝ่ายได้ก็ไม่มีประโยชน์ดังนั้นสิ่งที่ต้องการก็คือความเร็ว!หากแก้ปัญหานี้ได้ก็จะมีโอกาสชนะ!วรยุทธในใต้หล้าวัดกันด้วยความเร็ว คำกล่าวนี้สมเหตุสมผลหวังหยวนยังคงรู้สึกทึ่งมาก เขากะพริบตาแล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ชายชราสติฟั่นเฟือน จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คือว่า... ท่านผ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1399

    หวังหยวนพูดด้วยความหงุดหงิด แต่ชายชราคนนั้นกลับไม่สนใจหวังหยวนเลย เขาวิ่งหายวับไปในทันทีแม้แต่หมูย่างตัวใหญ่ก็หายไปด้วย!หวังหยวนอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาแต่ในใจก็มีกลยุทธ์รับมือแล้ว!ครั้งต่อไปเมื่อเขาย่างเนื้อกินอีก ก็จะย่างทีละชิ้น!ดูสิว่าชายชราคนนี้จะยังสามารถยึดไปหมดในคราวเดียวได้หรือไม่!หวังหยวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล่าสัตว์ต่อไปในที่สุดเขาก็จับไก่ป่าได้ตัวหนึ่ง หลังจากจัดการทำความสะอาดแล้ว หวังหยวนก็ย่างมันเขาเรียนรู้จากประสบการณ์จึงหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนย่างและเขายังก่อกองไฟไว้เจ็ดแปดกอง โดยแต่ละกองมีเนื้อไก่ย่างหนึ่งชิ้นถูกย่างอยู่!เขาไม่เชื่อว่าชายชราคนนั้นจะสามารถแย่งชิงไปได้ทั้งหมดในคราวเดียว!ไม่นานไก่ก็สุกแล้ว กลิ่นหอมลอยฟุ้งไปทั่ว ช่างน่าอร่อยเหลือเกิน!หวังหยวนไม่รีรอ เตรียมจะหยิบขึ้นมากิน แต่ใครจะรู้ว่าชายชรามาตามที่คาดไว้ เขากินหมูย่างในมือไปเกือบหมดแล้ว แล้วยังจะมาอยู่ตรงหน้าหวังหยวนเพื่อเริ่มแย่งชิงไก่ย่างอีกหวังหยวนจึงใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อขัดขวาง แต่...ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้เขาโกรธแค้นอย่างที่สุด!ชายชราคนนี้ไม่เหลือไก่ย่างไว้ให้เขาแม้แต่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1400

    ในขณะนี้โม่ชิงอีกำลังยืนอยู่ที่มุมมืดคอยสังเกตอยู่ตลอดเวลา มุมปากของเขามีรอยยิ้ม ขณะคิดในใจว่าหวังหยวนคนนี้มีหนทางเพียงแต่เมื่อมองชายชรา เขาก็ถอนหายใจ นัยน์ตาฉายแววตาเจ็บปวด“เฮ้อ...”เขาถอนหายใจก่อนจะหายตัวไปและขณะนี้หวังหยวนก็ยังคงไล่ตามต่อไป ชายชราคนนี้ทำให้หวังหยวนไม่มีหนทางใดเลยจริง ๆ ได้แต่ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่นานนักหวังหยวนก็จบเกมการไล่ล่าในวันนี้หวังหยวนนั่งอยู่ใต้เพิงไม้ แล้วเริ่มหยิบน่องไก่ที่ยังไม่ได้ย่างออกมา นี่คือของดิบที่เขาแอบเก็บไว้ เมื่อเห็นว่าดึกแล้วจึงหยิบออกมาเพื่อย่าง แต่ทันใดนั้นชายชราก็ค่อย ๆ ลงมาด้านหลังหวังหยวนการเคลื่อนไหวของเขาเบามากจนหวังหยวนไม่รู้ตัวเลยหวังหยวนที่กำลังระแวงค่อย ๆ ย่างน่องไก่ไม่นานน่องไก่ก็สุกแล้วหวังหยวนตั้งใจฟังเสียง แต่ก็ไม่พบว่าชายชรามาถึงจึงยกยิ้มจาง“ดูเหมือนว่าหลังจากนี้ข้าจะต้องเตรียมของกินไว้เยอะ ๆ ในตอนกลางวัน แล้วค่อยเอาออกมากินเองในตอนกลางคืน!”หวังหยวนรู้สึกพึงพอใจมากแต่ทันใดนั้นก็มีเสียงกระแอมดังมาจากด้านหลังหวังหยวนได้ยินเสียงนี้ก็รู้สึกผมตั้งชัน หัวใจเต้นรัว เมื่อหันกลับไปมองก็ถึงกับตะลึงตาค้าง!เป็นช

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1401

    ชายชราได้ยินดังนั้นจึงไม่ลังเลที่จะกล่าวขึ้นมาทันทีว่า “บอกมาว่าเหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่ เจ้ามาทำอะไรและเจ้าเป็นผู้ใด!”เมื่อหวังหยวนได้ยินดังนั้นก็อึ้งไป“ท่านผู้อาวุโส ท่าน... ท่านไม่ได้ถามเพียงหนึ่งคำถามนี่ขอรับ!”ถามคำถามสามข้อในคราวเดียว!เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่ เจ้ามาทำอะไรและเจ้าเป็นผู้ใดสามคำถามที่ถูกกล่าวออกมาเป็นคำถามเดียวทำให้หวังหยวนรู้สึกพูดไม่ออกชายชราคนนี้หายดีแล้วจริงหรือไม่?หรือว่ากำลังหยอกล้อเขาอยู่อีก?“อย่าพูดเหลวไหล นี่มีเพียงคำถามเดียว เจ้าต้องบอกข้าให้ละเอียด อย่าได้ปิดบังสิ่งใด เพราะเรื่องนี้สำคัญมาก!”ชายชราพูดอย่างจริงจัง เมื่อหวังหยวนได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้สนใจมากนักเพราะชายชราคนนี้บางครั้งก็มีสติ บางครั้งก็สติเลอะเลือน สุดท้ายก็อาจจะลืมสิ่งที่เขาพูดไปหมดสิ่งที่เขาพูดไปนั้น ชายชราอาจจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำหรือแม้แต่อาจจะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดก็ได้เมื่อคิดดังนั้นจึงไม่ลังเลที่จะตอบ“ข้าชื่อหวังหยวน เป็นชาวบ้านจากหมู่บ้านต้าหวัง ตั้งแต่เด็กก็ทำไร่ไถนา ได้ทำความดีความชอบมาบ้าง มีภรรยาที่รักและชีวิตที่มีความสุขขอรับ”หวังหยวนแนะนำตัวเองในประโยคเดียว เมื่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1402

    “มันเป็นดั่งท้องปลามัน พวกเขาหลายคนจะเกรงกลัวเจ้า จะละโมบในตัวเจ้า ชีวิตของเจ้าได้เชื่อมโยงอยู่กับผู้วิเศษแล้ว ความเป็นความตายล้วนมีโอกาสเกิดขึ้นเท่ากัน เพียงแค่สหายคนเดียว เจ้ายอมจ่ายราคามากถึงเพียงนี้เลยหรือ?”ชายชราอดไม่ได้ที่จะพูด ความประหลาดใจฉายชัดบนใบหน้าหวังหยวนหัวเราะแล้วยักไหล่ ก่อนกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ข้าเป็นคนหนึ่งที่ปฏิบัติต่อเพื่อนฝูงอย่างดี หากสามารถช่วยได้ ข้าก็ย่อมอยากจะช่วยขอรับ”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเองก็อยากเห็นด้วยว่าโลกแห่งยุทธภพที่กล่าวขานกันนั้นเป็นอย่างไร ข้าอยากรู้อยากเห็นมาก ดังนั้น... ข้าจึงอยากฝึกฝนดูขอรับ”คำตอบของหวังหยวนทำให้ชายชราต้องทึ่ง!เขาเป็นคนที่ยึดมั่นในความรัก ความซื่อสัตย์ และความกล้าหาญ ถือว่าเป็นบุคคลที่น่าสนใจ!“ไม่เลว ไม่เลว เจ้าเด็กน้อย เจ้าดีกว่าพวกอสรพิษที่แสร้งทำเป็นดีแต่คดโกงเสียอีก”ชายชราพูดพลางมองหวังหยวนด้วยความชื่นชมอย่างมาก“เช่นนั้น... ท่านผู้อาวุโส ตอนนี้ท่านฟื้นคืนสติแล้ว ไก่ย่างนั้นมอบให้ข้าได้หรือไม่ขอรับ ข้า... ไม่ได้กินเนื้อสัตว์มาหลายวันแล้ว เพราะถูกท่านแย่งไปหมดเลยขอรับ”หวังหยวนรีบพูด เมื่อได้ยินดังนั้น ชายชราก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1403

    แรกเริ่มหวังหยวนไม่อาจเข้าใจได้ แต่เมื่อไตร่ตรองดูแล้วก็พอจะเข้าใจบางทีเขาอาจปรารถนาศิษย์สักคน แต่ก็หาผู้ที่เหมาะสมไม่ได้บัดนี้ที่ได้เจอตัวเขาแล้วจึงพลันตื่นเต้นยินดีนักหวังหยวนสงสัยจึงเอ่ยถามว่า “ท่านอาจารย์ ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าเหตุใดท่านจึงเลือกข้า ท่านอย่าบอกนะขอรับว่าเพราะอาหารอันโอชะในหลายวันนี้ได้ซื้อใจท่านไว้”หากง่ายดายเพียงนี้ก็คงจะดีนัก เกรงว่าชายชราคนนี้คงจะมีศิษย์มากมายนับไม่ถ้วนแล้วเมื่อได้ยินคำถามนี้ ชายชราก็หัวเราะออกมา ก่อนกล่าวเบา ๆ ว่า “เหตุผลนั้นง่ายนัก ประการแรกคือเจ้าเป็นเด็กดี มีน้ำใจ มีคุณธรรม ข้าจึงถูกใจ”“ประการที่สอง เจ้ากล้าหาญ มีเลือดนักสู้ กล้าตัดสินใจเด็ดขาด ซึ่งข้าก็ชื่นชอบเช่นกัน”“ประการที่สาม... นั่นก็คือเจ้าไม่ใช่คนของเทียนไว่เทียนหรือซานไว่ซาน เคล็ดวิชามหาสุริยันนี้ก็ไม่ใช่เคล็ดวิชาของพวกเขา แต่เป็นเคล็ดวิชาที่หลงเหลืออยู่หลังจากที่เหรินไว่เหรินได้สูญสิ้นไปแล้ว แม้ว่าพวกเขาปรารถนาจะเรียนรู้ แต่ก็ไม่มีผู้ใดเรียนได้สำเร็จ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังหยวนก็ตกตะลึงเหรินไว่เหรินหรือ?คือสิ่งใดกัน?“ท่านอาจารย์ ยังมีเหรินไว่เหรินอีกหรือขอรับ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1404

    “โม่ชิงอี ข้าไม่รู้จักหรอก แต่คนตระกูลโม่ ข้ารู้จัก บรรพบุรุษของพวกเขาเป็นสหายกับบิดาของข้า ไม่แปลกใจที่ข้าจะยังมีชีวิตอยู่ได้นานถึงเพียงนี้ ที่แท้ก็เพราะเหตุนี้”เขาหัวเราะ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก“ศิษย์เอ๋ย ต่อจากนี้ไปในยามกลางวัน ข้าอาจยังคงสติเลอะเลือน เจ้าจงวิ่งตามข้าไป แล้วค่อย ๆ เรียนรู้ด้วยตนเอง”“ในยามค่ำคืน ข้าจะมาหาเจ้า เพื่อสอนเคล็ดวิชาก้าวเหินเมฆานี้”เมื่อพูดจบ ชายชราก็เริ่มสอน“เคล็ดวิชาก้าวเหินเมฆานี้แบ่งออกเป็นเก้าขั้น ด้วยขั้นปัจจุบันของเจ้า เจ้าสามารถเรียนได้เพียงขั้นแรกเท่านั้น!”“ก้าวระเบิด!”“ถ่ายทอดพลังอันมหาศาลให้ไหลลงสู่เท้า แล้วใช้แรงกระแทกพุ่งไปข้างหน้า”“แน่นอนว่าไม่ใช่การระเบิดธรรมดา แต่เป็นการผสมผสานระหว่างความนุ่มนวลและความแข็งแกร่ง เจ้าจงดูให้ดี!”ชายชราพูดจบก็สาธิตให้ดู เขาย่ำเท้าลง จากนั้นร่างก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วแต่ที่เท้าของเขากลับไม่มีเสียงระเบิดแม้แต่น้อย แม้แต่เสียงแผ่วเบาก็ยังไม่มี“นี่คือก้าวระเบิดหรือ?”หวังหยวนมองดูก็ไม่เห็นว่าจะระเบิดตรงไหนเลย เงียบสงัดน่ากลัวแต่เมื่อชายชราเดินกลับมา เขาก็หัวเราะ แล้วให้หวังหยวนลองสัมผัสบริเวณท

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status