บทที่ 4 อาเดรียโน
“ไอ้บ้า! คนเฮงซวย! รู้ไหมตัดแว่นครั้งหนึ่งมันแพงแค่ไหน ยิ่งค่าสายตาสั้นขนาดนี้ แล้วกว่าจะได้ ทำไมต้องมายืนขวางทาง บ้าฉิบ!”
“ผมฟังคุณไม่รู้เรื่องเลย พูดภาษาอังกฤษสิ”
ณิชเม้มปากตึงก่อนยืดกายขึ้นสูงยกแว่นในมือโบกตรงหน้าเขาแล้วพูดขึ้นด้วยภาษาไทยอย่างไม่สนใจ
“เรื่องอะไร ก็ที่ฉันต้องพูดภาษาไทยก็เพราะฉันกำลังด่าคุณอยู่ ถอยไปไอ้ฝรั่ง”
ในบรรดาคำหลายคำของภาษาไทย คำว่า ฝรั่ง เป็นคำแรก ๆ ที่เขารู้จัก เพราะคนไทยทุกคนเรียกคนต่างชาติว่าฝรั่ง
“คุณกำลังพูดไม่สุภาพ”
น้ำเสียงทุ้มต่ำเชิงตำหนิทำให้หน้าเรียวเล็กเห่อร้อนจนพ่วงแก้มสองข้างแดงก่ำ แต่ยังพยายามรักษาภาพลักษณ์
ทำเป็นไม่ใส่ใจ ณิช ฝรั่งมันไม่รู้เรื่องหรอก
มือเล็กสะบัดมือลง เบี่ยงกายออกเพื่อเดินขึ้นบันได แต่พอก้าวเท้าพลันสะดุดกับขั้นบันไดจนเกือบล้ม ยังดีคนร่างโตฉับไวกว่าส่งอ้อมแขนแข็งแรงคว้าเธอไว้อีกครั้ง
“เดี๋ยวผมช่วยพาคุณไปส่งที่ห้องแล้วกัน”
“ฉันไปเองไม่ต้องยุ่ง!!”
“พูดภาษาอังกฤษสิ!! แบบนี้จะรู้เรื่องได้ยังไง”
น้ำเสียงทุ้มเรียบหงุดหงิดเห็นได้ชัด ด้วยความที่เธอเองเคยเป็นคนมีมารยาทมาบ้าง! จึงเกิดความละอายใจเล็กน้อย ความจริงมันก็ไม่ใช่ความผิดของชายหนุ่มร่างสูงคนนี้สะทีเดียว
“ก็ได้ค่ะ”
เธอรู้สึกได้ว่าเขาผ่อนลมหายใจ ตัวเธอเองจึงยอมอ่อนลงให้ อันที่จริงเธอเองก็ทำให้เขาเสียเวลา แต่ตอนนี้เธอแทบเหมือนคนตาบอดฉะนั้นพึ่งเขาไว้ก่อนดีกว่า ได้ยินเสียงถุงพลาสติกดังขึ้น เขาคงก้มลงหยิบของให้เธอ
“A2021 ค่ะ”
หน้าเข้มเอี้ยวหน้ามอง เสียงหวานบอกเลขห้องแผ่วเบาลงอย่างน่าแปลกใจ
เมื่อกี้ยังโวยวายใส่อยู่เลย
คนร่างสูงกว่ามากเดินประกบข้าง พยายามไม่แตะโดนตัวร่างระหงแม้แต่น้อย เพราะกลัวแม่คุณจะพ่นคำด่าออกมาอีก ประคองจนกระทั่งถึงลิฟต์
ความเงียบสงัดภายในลิฟต์ขณะเคลื่อนตัว มีเพียงเสียงลมหายใจที่เธอได้ยิน เธอราวกับคนตาบอดด้วยข้างหน้าพร่าเลือน ทำใจยืนสงบนิ่งโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกชายหนุ่มด้านหลังเฝ้ามองอย่างหมาป่า
ติ๊ง!
“ถึงแล้ว”
“ถูกชั้นหรือเปล่า?”
“นั้นแล้วแต่ว่าใจคุณคิดอะไรอยู่”
ร่างแกร่งเดินนำออกมาก่อนหยุดรอด้านนอก มือจับประตูลิฟต์ไว้มองหน้าเรียวตาหยีเล็กตัดสินใจชั่วไม่กี่วินาทีก่อนเดินตามออกมา
ร่างแกร่งประกบพาเดินตรงไปยังโซน A ตามหมายเลขห้อง เหลียวมองสาวด้านข้างไม่วางตา ร่างสูงระหงผอมเพรียวแต่กางเกงผ้าที่สวมทำให้รู้ว่าสะโพกของเธอผายออกสวยงาม ผิวขาวออกซีดไปบ้างแต่ยังสุขภาพดี แต่ดูท่าสาวด้านข้างไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตัวเองทำให้คนอื่นร้อนได้ขนาดไหน
“ถึงแล้วครับ เออ กุญแจห้อง”
“ไม่มีหรอกค่ะ ห้องเพื่อน”
หน้าเข้มเลิกคิ้วแปลกใจมองมือเรียวยกขึ้นเคาะประตู แว่วเสียงผู้ชายตะโกนขานรับ แล้วเมื่อประตูเปิดกว้าง หนุ่มหล่อสวมเสื้อเชิ้ตฮาวายกางเกงขาสั้นผิวขาวจัดยืนยิ้มรับพร้อมด้วยใบหน้าแปลกใจ
“ผมมาส่ง เออ ..”
“นิด เธอชื่อนิดครับ”
คิ้วโก่งเล็กน้อยแปลกใจซ้ำสอง คราแรกช่องท้องโหวงเหวงเมื่อเห็นเพื่อนชายของสาวร่างสูงเปิดประตูออกมารับ แต่พอเพื่อนชายแนะนำตัวเขารู้ได้ทันทีว่าผู้ชายตรงหน้าไม่ได้ชอบผู้หญิง
“อ้อ ชื่อนิด”
“ใช่ครับ ชื่อเล่นชื่อนิด ที่แปลว่าเล็ก ๆ น่ะครับ แต่ชื่อจริงก็ณิช แปลว่าหญิงบริสุทธิ์”
“สาริน!!!”
เสียงหวานร้องเสียงสูง แก้มแดงจัดหันขวับพยายามจับให้โดนข้อมือเปะปะไปตามแขนกำยำที่มีขนปกคลุมจนถึงฝ่ามือแล้วแย่งถุงออกมาด้วยความอาย
“ขอบคุณที่มาส่ง”
เขามองตามแผ่นหลังที่เบียดเพื่อนของเธอเข้าไปในห้อง ส่วนเพื่อนหนุ่มยังยิ้มกว้างให้เขา
“คุณอยู่คอนโดนี้เหรอครับไม่เคยเห็น”
“ครับ มาอยู่ได้เดือนกว่าแล้ว”
“อ้อ ถึงว่าไม่เคยเห็น ผมสารินครับ เป็นเพื่อนของสาวแก่ที่เพิ่งเดินเข้าไป”
“ครับ ผมอาเดรียโน โดริอา”
“อยู่ห้องไหนครับ”
“เออ ห้อง ..”
“สาริน!!!”
เพื่อนสาวยังไม่ทันได้บอกเลขห้อง เสียงตะวาดแวดพลันลอดมาจากข้างใน จนสารินเองยังสะดุ้ง ทำหน้าขอโทษก่อนกล่าวลาแล้วปิดประตูห้อง
อาเดรียโนยังยืนนิ่งเป็นครู่ ก่อนหันกลับไปยังลิฟต์ เขาลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังจะไปไหนก่อนชนเข้ากับเธอ ขณะที่เอื้อมมือกดเรียกลิฟต์พลันมองมือที่กุมเข้ากับเอวเธอไว้พลันกายสะท้านอย่างไม่น่าเชื่อ
กายแกร่งอยากได้เธอจนอาเดรียโนน้อยเต้นตุบ นั่นเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเอามาก ๆ เลย
“ให้ตายสิ ให้ตายยายนิด!! แกตกผู้ชายได้”
“ไอ้บ้าสาริน แกเห็นอะไรนี่ไหม ฉันต้องไปตัดแว่นใหม่เกือบห้าพัน ถ้าตกผู้ชายแล้วเสียเงินเยอะขนาดนี้...ไม่ดีกว่า”
“แกกกก เขาหล่อมากกก หนุ่มอิตาลี อาเดรียโน โดริอา อู้ยย! ตอนที่เขาพูดชื่อฉันขนลุกไปทั้งตัวเลยยย!”
บทที่ 10
สารินลูบแขนทั้งสองข้างตาลอยคว้างไปถึงใบหน้าหล่อคมเข้มของหนุ่มอิตาลี
“น้อย ๆ หน่อย เดี๋ยวดนัยกลับมาจะฟ้อง”
ณิชนั่งหงอยในมือถือแก้วไวน์ยกดื่ม ตาก็มองไม่เห็นแล้วที่นี่จะทำยังไง
“ก็แกน่ะมันตาบอด เลยมองไม่เห็นความหล่อไง แกรู้ไหมตาเขาสีน้ำตาลดั่ง ดั่งอะไรดีว่ะ? อ้อ ดั่งตาเหยี่ยว ผมหยักศกนิด ๆ ใส่น้ำมันหวีไปด้านหลังแต่ไม่ยาวมากนะแก แล้วจมูกใหญ่โด่งเชียว สงสัยขนาดด้านล่างคงพอ ๆ กัน”
หน้าหวานยิ้มกว้างหันมองเพื่อนรักที่ยังพอเห็นสีหน้าเลือนรางที่ส่งเสียงระรี้ระริก พลันส่ายหน้าระอาใจ เพื่อนคนนี้เห็นใครก็หล่อไปหมดแล่ะยกเว้นแฟนตัวเอง
เสียงเปิดประตูทำให้คนทั้งคู่หยุดพูดคุย ณิชทำหน้าบุ้ยใบ้ ส่วนสารินหุบปากเงียบไม่พูดถึงหนุ่มหล่อจัดต่อไปอีกเมื่อดนัยแฟนหนุ่มเดินเข้ามาในห้อง
“ไงที่รัก”
ณิชเบ้ปากเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนรักเอ่ยทักแฟนทั้ง ๆ ที่เมื่อสักพักยังชื่นชมหนุ่มหล่อชาวอิตาลี
“นิดแว่นหายไปไหนแล้ว”
มือของดนัยวางของกินลงบนโต๊ะปากเอ่ยทักเมื่อมองเห็นใบหน้าว่างเปล่าของณิช
“แตกไปแล้ว ตัดใหม่แพงมากเลย”
“งั้นก็ใช้คอนเทคเลนส์สิ หรือทำเลสิคไปเลย”
“ทำเลสิคไม่ได้หรอก ยังต้องทำงาน ส่วนคอนเทคเลนส์ก็คิดอยู่แต่ติดตรงต้องคอยเปลี่ยน”
“เปลี่ยนได้แล้ว อย่าอยู่อย่างเดิม ๆ จะหาแฟนไม่ได้”
“เออใช่ พูดเรื่องแฟนนึกขึ้น เรามีเรื่องปรึกษา เกือบจะลืมไปเลย”
ร่างระหงรอจนกระทั่งเพื่อนทั้งสองนั่งลงตรงโซฟาใกล้กับเธอจึงได้เริ่มต้นปรึกษา
“ฉันจะทำยังไงถึงจะได้แต่งงาน”
“ห๊า!! นิด เอาจริงสิ!”
“ใช่ เอาจริง”
สารินและดนัยมองหน้ากันแล้วจึงยิ้มออกมาอย่างที่ณิชเองคงไม่ชอบใจถ้าได้เห็น แต่เธอนั่งอยู่ตรงนี้อย่างกับคนตาบอด เธอพลาดท่าเพื่อนรักทั้งสองเสียแล้ว
บทที่ 5 บรรณารักษ์สาวแก่ณิชทำงานที่ห้องสมุดเอกชนแห่งนี้มาตั้งแต่เธอเรียนจบ เธอรู้จักพื้นที่ทุกตารางนิ้วในห้องสมุดรวมไปถึงหนังสือทุกเล่มที่อยู่ในชั้น เนื่องจากเธอเป็นคนเลือกมันเข้ามาไว้เองกับมือหนังสือทั้งหมดเป็นหนังสือภาษาอังกฤษ และคนที่มาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่ทำงานหรืออยู่ในละแวกนี้ปัก! ปัก! ติ๊ด!ร่างระหงเดินไปเปิดไฟและเครื่องปรับอากาศเพื่อไล่ความชื้นทันทีที่เข้ามา หนังสือบางเล่มค่อนข้างเก่าและหายาก ทั้งเมืองไทยร้อนชื้นทำให้เธอต้องเปิดเครื่องปรับอากาศในอุณหภูมิที่เหมาะสมเกือบตลอดเวลายกเว้นเมื่อเธอกลับออกไปแล้วมือเรียวเดินไปเปิดระบบคอมพิวเตอร์ทุกตัวที่มีสำหรับให้บริการสืบค้นข้อมูล แล้วกลับมายังรถเข็นที่เธอทิ้งหนังสือของเมื่อวานไว้เพื่อเตรียมนำไปไว้วางบนชั้นดวงตาสีเข้มภายใต้คอนเทคเลนส์สีน้ำตาลอ่อนที่สารินเลือกให้เมื่อวานเหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนัง อีกเพียงสิบนาทีจะถึงเวลาเปิดทำการมือเล็กถือผ้าผืนเล็กรีบจัดการปัดฝุ่นตามโต๊ะและชั้นหนังสืออย่างรวดเร็ว ด้วยความที่มันไม่ได้สกปรกมีฝุ่นเกาะมากนักทำให้เรียบร้อยทันเวลาพอดี เสียงสัญญาณไฟฟ้าดังขึ้นเมื่อมีคนเดินเข้าประตูมาหน้าหวาน
บทที่ 6 สามี ฉันจะหาจากไหนได้ปัง!ณิชกระแทกประตูปิดตามหลังอย่างแรงเมื่อกลับถึงห้อง นึกไปถึงชายหนุ่มร่างสูงวันนี้แล้วให้สะท้านกายเมื่อวานนี้สารินและดนัยพาเธอเข้าออกร้านเล็กร้านน้อยทั้งทำผมทำตัว และยังซื้อเสื้อผ้าใหม่ทั้งหมดเพียงเธอบอกว่าต้องการหาสามีทั้งสองคนบอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้ถ้าเธอยังใช้ชีวิตในร่างสาวแก่แล้วจะมีผู้ชายมาสนใจ พลันคิดไปถึงผู้ชายคนนั้น ตอนนี้เธอเจอเข้าแล้วหนึ่งคน แต่เขาเป็นผู้ชายจำพวกอยู่ห่างไกลกับคำว่า ‘แต่งงาน’ปลายเดือนนี้เธอจะย้ายเข้าไปอยู่คอนโดมิเนียมของสารินเพราะเพื่อนทั้งสองตกลงปลงใจย้ายไปอยู่ด้วยกันเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนเธอจำเป็นต้องหาสามีที่ดี สามีที่มีเงินพอจะเลี้ยงดูและช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ฉะนั้นการอยู่ในสถานที่ที่คาดว่าผู้ชายเหล่านั้นจะอาศัยอยู่เป็นส่วนหนึ่งของแผนมองหาสามีร่างระหงทิ้งตัวลงกลางเตียงอย่างหมดสภาพ เธอยอมรับว่าการเดินทางในแต่ละวันสูบทั้งเวลาและแรงกายไปจากเธอหนักหน่วง ยอมลงทุนจ่ายค่าเช่าแพงหน่อยแต่ลดเวลาการเดินทางจะทำให้เธอมีเวลาเพียงพอมองหาสามีสามี ฉันจะหาจากไหนได้ณิชคว้ามือถือขึ้นมายกเหนือใบหน้าขณะที่ยังนอนแผ่หาบนเตียง สารินแนะน
บทที่ 7 ลิฟต์พาฉันขึ้นไปที“เบา ๆ หน่อยสิคะ!”เสียงของสาวร่างสูงทำน้ำเสียงเอ็ดดุ ดั่งครูใหญ่บ่นเด็กนักเรียนวิ่งซนตาหวานกลมโตเฝ้าจดจ้องราวจับผิด มองคนงานขนย้ายของ นั่นคือหนังสือจำนวนมหาศาลเข้ามาไว้ในห้องนอนคอนโดมิเนียมของสาริน“นิด ถามหน่อยเถอะ ผู้ชายที่ไหนจะยอมแต่งกับแกถ้าเข้ามาในห้องนอนแล้วเห็นแต่กองหนังสือพวกนี้”สารินหยิบหนังสือนิยายโรมานซ์หน้าปกวาบหวิวเก่าเก็บ ดูแล้วอายุของหนังสือคงเกือบสิบปีขึ้นมาปัดฝุ่นก่อนเปิดออกอ่าน แล้วหัวเราะออกมาตัวงอ“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นิด นี่แก พรืด!!”หมับ!!ณิชกระชากหนังสือออกมาจากมือเพื่อนรักก่อนวางไว้ที่เดิม ทำหน้าบึ้งตึงใส่“ทำไม นี่มันรสนิยมการอ่านของฉัน”“แต่เพื่อนสาว มันไม่มีหรอกนะแบบในนิยายพวกนี้ ไอ้แบบประโลมกอดจูบ สมัยนี้มันต้องเร่าร้อน ปั๊บ ๆ ๆ ๆ”ณิชคว้าหมับเข้าที่มือเพื่อนเมื่อเห็นสารินกำลังกุมมือเข้าหากันแล้วทำท่าใช้สันฝ่ามือกระแทกใส่กันเป็นจังหวะประกอบเสียงพูด พ่วงแก้มแดงก่ำอายพนักงานขนย้ายบ้านที่พากันยิ้มกว้าง“บ้าจริงสาริน พอเถอะ อ้อ แล้ววันนี้อยู่เลี้ยงฉลองขึ้นห้องใหม่กันไหม ฉันซื้อไวน์ไว้เยอะเลย”“ไม่ได้หรอกจ้า บังเอิญต้องไปกินข้าวบ้านผัวววว
บทที่ 8 นี่ชวนเดทเวลาช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าสำหรับคนโสดและแก่เช่นเธอ ณิชเอามือเท้าคางลงขอบสระว่ายน้ำของคอนโดมิเนียมที่อยู่ชั้นบนสุดในยามเช้าตรู่ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ได้สามอาทิตย์เธอก็รู้แล้วว่าคนที่คอนโดมิเนียมแห่งนี้ตื่นสายเพียงไร ฉะนั้นยามเช้าของทุกวันอาทิตย์จะเป็นวันที่เธอมาจับจองครองสระว่ายน้ำขนาดย่อมนี้เพียงคนเดียวนอนบนท่อนแขนข้างสระว่ายน้ำสุดหรูทำตัวราวกับเป็นเจ้าของ เหม่อมองออกไปยังท้องฟ้าส่องแสงรำไรสีทอง ความเงียบสงบอย่างแท้จริงซึ่งหาได้ยาก พรางคิดถึงนายคนนั้น หนุ่มอิตาลีนัยน์ตาสีน้ำตาลร่างสูง อาเดรียโน โดริอาร่างแกร่งหายไปจากห้องสมุดพร้อมหนังสือวิศวเครื่องกลสำหรับเรือเดินทะเลได้สามอาทิตย์แล้ว แต่เธอหยิ่งเกินกว่าจะโทรศัพท์ไปทวงหนังสือภาพหน้าคมเข้มยืนใช้ศอกเท้ากับผนังลิฟต์วันนั้นยังตราตรึง เธอยังสังเกตอีกว่าปากสวยของเขาเลอะเต็มไปด้วยสีแดง มันจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากลิปสติกของสาวร่างเล็กที่มาด้วยช่างน่าเสียดายที่คนรูปหล่ออย่างเขาเป็นคนแบบนี้ คาสโนวา เจ้าชู้ และมักมาก อันเป็นลักษณะนิสัยที่เธอไม่มีวันเลือกมาเป็นสามีแต่เอะ! ฉันไม่ได้อยากได้เขามาเป็นสามีหรอกนะยายนิด“บ่นพึมพ
บทที่ 9 ไวน์ บอล ขาดแต่พิซซ่าก๊อก! ก๊อก!แอ๊ด!ณิชกวาดตามองอาเดรียโนหนุ่มอิตาลีนัยน์ตาคมกล้าสีน้ำตาล เขาสวมชุดธรรมดาอย่างมากจนเธอแปลกใจแล้วก้มมองตัวเองผายมือออกให้เขาเห็น แล้วส่งสายตาตั้งคำถามดูสิ! ชุดเดท!อาเดรียโนยิ้มกว้างมองตามมือเรียว เขากวาดสายตาไล่ไปตั้งแต่ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบาจนถึงไหล่ขาวพ้นสายเดี่ยวของชุดเดรสรัดรูปสีดำเรียบหรูกระทั่งถึงร้องเท้าส้นสูงสามนิ้ว“คุณสวยมากคาร่า ไปกันเถอะ”“เดี๋ยวก่อน ฉันแต่งตัวเต็มยศขนาดนี้ ส่วนคุณอย่างกับชุดอยู่บ้าน!”เธอขืนมือที่เขายกขึ้นมาเกาะกุม พยายามดึงเธอให้เดินออกจากห้อง มือเรียวของเธอยังจับขอบประตูไว้แน่น“ปล่อยมือได้แล้ว ไม่งั้นจะไม่ทันดูรายการสด”ณิชปล่อยมือจากขอบประตูแล้วปิดเรียบร้อย เดินตามอาเดรียโนไปอย่างสงสัย นี่เขากำลังพาเธอไปไหนกันติ๊ง!มือใหญ่ดันหลังเธอเข้าลิฟต์แล้วกดชั้นสี่สิบสี่สิบ! “นี่อย่าบอกนะว่าจะเดทกันบนห้องคุณ?”“ใช่คนสวย ผมเตรียมอาหารไว้แล้ว ทำเองกับมือเลยนะ”“ตะ แต่ว่า มะ มันห้องนอนคุณ ฉันว่าไม่ดีกว่า ฉันไม่อยากจะเสี่ยง”อาเดรียโนปัดมือของสาวหน้าหวานลงจากท่าโบกปฏิเสธ เขายิ้มกว้างกรุ่มกริ่มแต่แฝงด้วยความอบ
บทที่ 10 เวอร์จิ้น!!“อื้อ เดรียโน”มือใหญ่อุ่นร้อนประคองใบหน้าหวานไว้ ตรึงให้เธอรับจูบหนักหน่วงที่ตามมา แทรกลิ้นร้อยรัดเปิดปากแทะเล็ม“เปิดปากสิ ใช้ลิ้นคาร่า”เสียงทุ้มพร่าบนริมฝีปากกว้างยามเขากดจูบอีกครั้ง เปิดปากอวบอิ่มด้วยลิ้นเรียวแล้วกวาดไล้ทั่วโพรงปาก มือเลื่อนไปท้ายทอยระหงจับไว้แน่นขณะอีกมือรูดซิปด้านหลังลงแล้วทาบมือร้อนลงกลางแผ่นหลังเปลือยเปล่า กายแกร่งสะท้านเมื่อพบว่าแผ่นหลังว่างเปล่าไร้สายชุดชั้นใน“คุณเมาหรือเปล่าคาร่า บอกผมสิ”“อือ ไม่ค่ะ”“ดี”ปากหยักสวยได้รูปร้อนแรงแผดเผาในความรู้สึกของณิช แอ่นร่างหยัดหายามมือร้อนล้วงลงด้านล่างลูบหัวเข่าขึ้นมายังต้นขา มือใหญ่ทาบลูบไล้ไปตามผิวเนียนนุ่มค่อยเลื่อนมือขึ้นสูงอีกนิดจนใกล้จุดหมายหากแต่มือเรียวเล็กหยุดเอาไว้เสียก่อน“ไม่ได้ มันมากเกินไป”“แล้วต้องแค่ไหนถึงไม่มากเกินไปคาร่า อกผมใกล้ระเบิดแล้ว เดรียโนน้อยก็เช่นกัน”เขาพลิกมือจับฝ่ามือเล็กไปยังต้นเหตุของเรื่องจนร่างนุ่มนิ่มบนตักสะดุ้งเธอปรือตาลืมขึ้นมองสีหน้าปวดร้าวของหนุ่มตรงหน้าพลันยิ้มขึ้นมา“งั้นคุณต้องเรียกสาวคนอื่น แล้วเดรียโนน้อยถึงจะสงบ”“บ้าฉิบ! จะเรียกคนอื่นได้ยังไง ไม่ว
บทที่ 11 ทำทุกอย่างก๊อก! ก๊อก!หลังจากกลับมาบ้านแม่ ณิชไม่ตรงกลับห้องพักของตัวเอง รีบเข้าลิฟต์มายังชั้นสี่สิบเพื่อเจรจาต่อรองกับอาเดรียโน ชื่อผู้ชายเพียงคนเดียวที่เธอนึกแวบขึ้นมาและพอไว้ใจได้ แม้ว่าใจยังหวาดหวั่นอารมณ์ลุ่มหลงความหล่อของตัวเองบ้างแต่ยังดีกว่าหนุ่มทั้งสี่รายหน้าหวานซึ้งขมวดยุ่งเมื่อยังไม่เห็นว่าชายหนุ่มชาวอิตาลีมาเปิดประตู เธอดูเวลาบนโทรศัพท์อีกครั้งซึ่งเพิ่งเลยเวลาเคารพธงชาติมาไม่นานเท่านั้นหรือจะไม่อยู่! แต่ไม่หรอก อยู่แน่ ๆก๊อก! ก๊อก!แอ๊ดด!บรรณารักษ์สาวเบิกตากว้างสุด ภาพที่เห็นตรงหน้าคืออาเดรียโนกระดุมเสื้อเชิ้ตเปิดอ้า เหงื่อชุ่มโชก ผมยุ่งเหยิง ดวงตาหรี่ปรือเพราะอารมณ์แรงเข้มข้น“ฉะ ฉันมาขัดจังหวะคุณใช่ไหม”ณิชเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบากระท่อนกระแท่น เธอไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์อันน่าอึดอัดเช่นนี้มาก่อน แว่วเสียงหญิงสาวในห้องร้องเรียกแต่อาเดรียโนยังไม่ยอมขยับเข้าไป“มีอะไร”เสียงแหบพร่ากว่าปกติทำให้แก้มเห่อร้อนและคาดว่าคงแดงจัดจากนัยน์ตาเหยี่ยวที่เพ่งมองอย่างสนใจ มือเล็กยกถุงในมือขึ้นให้เขาดู พร้อมกับรอยยิ้มแห้ง“มีเรื่องขอร้องคุณสักเล็กน้อย”อาเดรียโนปล่อยแขนออกจากกรอบ
บทที่ 12 พามาบ้านแล้วววว“คุณเข้าไปแล้วเงียบ ๆ นะ ไม่ต้องพูดมาก”เสียงหวานนุ่มกำชับหนุ่มอิตาลีเมื่อเดินใกล้ถึงหน้าอาคารพาณิชย์ขายของ ก่อนหยุดแล้วหันมาจับคอปกเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาให้เรียบร้อย“ก็คุณพูดเองว่าพ่อกับแม่ของคุณพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แล้วผมจะสื่อสารกับพวกท่านได้ยังไง”หน้าแกร่งก้มมองสาวร่างสูงโปร่งแต่เตี้ยกว่าเขาพอสมควรกำลังปัดฝุ่นตรงบ่าตรวจความเรียบร้อยก่อนสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เรียกขวัญกำลังใจ เงยหน้าจ้องเขาใช้นิ้วชี้ยกขึ้นชี้หน้า“อย่าทำให้เสียเรื่อง ฉันต้องรอดจากการจับคู่ ไม่งั้นฉันจะล้มดีล”ว่าแล้วใบหน้าหวานซึ้งก็สะบัดแล้วเดินนำเขาไปยังหน้าตึกสามชั้นแล้วหันกลับมาขยับมือกวักเรียกตรงข้างตัวดั่งกลัวว่าใครจะเห็นอาเดรียโนยิ้มกว้างขำขันลักษณะของบรรณารักษ์สาว แต่สาวเท้าตามเธอเข้าไปในตึกขายของจิปาถะจำพวกรถยนต์ เสียงทักทายดังขึ้นเมื่อเห็นณิชมาถึง“โกวนิดมาแล้ว โกวนิดมาแล้ว”ณิชโน้มร่างลงลูบตัวหลานชายแต่ไม่อุ้มเหมือนทุกครั้งเพราะเกรงใจคนร่างโตที่มาด้วย เธอเอี้ยวหน้าส่งสัญญาณให้อาเดรียโนเข้ามาใกล้ แล้วจับมือเขาไว้จูงให้เดินเข้าไปยังหลังร้าน“นี่ม๊า และโน้นป๊า”ชายชาวอิตาลียกมือ
บทที่ 22 ผมคิดว่าผมลืมของไว้ จบบริบูรณ์“เจ้ เจ้ เจจจจจจ้!!!”เสียงเรียกเอะอะของณภัทรที่วิ่งปรูดเข้ามาด้านในหลังบ้านทำเธอตกใจสะดุ้งลุกพรวดขึ้นนั่งบนตั่งไม้“อะไร!! จะเสียงดังทำไม!”“เจ้ต้องไม่เชื่อสายตาตัวเองแน่ว่าใครมา”ณิชนิ่วหน้าหันมองม๊ากับป๊าที่นั่งหน้าฉงนมองตรงไปยังประตูทางเข้าเมื่อจู่ ๆ แสงสว่างด้านนอกก็พลันมืดลงเป็นเงาเยามคนร่างสูงใหญ่เดินลอดผ่านเข้ามา ใบหน้าคมเข้มมีเคราขึ้นครึ้ม และดวงตาสีน้ำตาลดุจเหยี่ยวคู่นั้นมองตรงมาทางเธอ“อาเดรียโน!”“ลูกเขย!!”ณิชไม่มีเวลาหันกลับไปบอกแม่ว่าให้เงียบเสียงเพราะอาเดรียโนยังเดินตรงมาทางเธอแล้ว ร่างระหงรู้สึกมือไม้ยาวเก้งก้างไม่รู้ว่าจะวางไว้ตรงไหน และที่สำคัญเธอยังสวมชุดนอนของเมื่อคืนทั้ง ๆ ที่มันบ่ายสามเข้าไปแล้ว!“ผมขอคุยกับนิดตามลำพังได้ไหมครับ”ณิชยังไม่ทันอ้าปากบอกพ่อกับแม่ ก็ดูเหมือนพ่อกับแม่ของเธอฟังภาษาอังกฤษออกภายในชั่ววินาทีนั่น ทั้งหมดหายวับไปด้านนอกทันที ทิ้งเธอให้นั่งบนตั่งไม้และอาเดรียโนที่ยืนค้ำเธออยู่“ฮะ แฮ่ม ๆ คุณกลับมาแล้ว”หน้าหวานแหงนมองร่างสูงคอตั้งบ่า พยายามหาเสียงของตัวเอง กระแอ่มเรียกสติที่กระเจิดไปนานแล้วตั้งแต่มองเ
บทที่ 21 เขาจะกลับไปหาเธอตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง!เสียงเคาะเหล็กและเสียงอ็อกเชื่อมภายในอู่ต่อเรือดังเช่นนี้เสมอด้วยความคุ้นชินตั้งแต่เด็ก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สวมหมวกนิรภัยในชุดรัดกุมถือแผ่นชาร์ตในมือเพื่อตรวจลำดับขั้นตอน หน้าคมเข้มแหงนมองขึ้นไปด้านบนของลำเรือสูงใหญ่ซึ่งคาดว่ากว่าจะประกอบเสร็จเรียบร้อยคงอีกนานหลายเดือนอาเดรียโนกลับมาที่เจนัวร์ ประเทศอิตาลีได้ราวสามเดือนแล้ว แม้งานคืบหน้าไปบ้างแต่ยังมีข้อติดขัดจนล่าช้ากว่ากำหนด“อาเดรียโน!”เสียงตะโกนเรียกทำให้เขาละความสนใจจากงานตรงหน้ามองไปยังผู้เป็นพ่อ ชายขาวอิตาลีหุ่นใหญ่ผมสีเข้มที่ร่วงหล่นไปมากจนศีรษะล้านไปครึ่ง เขายิ้มแย้มอารมณ์ดีกวักมือให้ลูกชายเพียงคนเดียวเดินเข้าไปหา“แกกลับมาเที่ยวนี้ตามใจแม่เขาหน่อยสิ”“เรื่องอะไรครับ”อาเดรียโนถอดหมวกนิรภัยออกเมื่อเข้ามาส่วนสำนักงานที่ต่ออย่างง่าย ๆ ด้วยตู้คอนเทนเนอร์มือสองที่ปรับปรุงทำสีใหม่จนสะอาด แล้วเดินไปหยิบขวดน้ำขึ้นยกดื่ม“ก็เรื่องสาว ๆ นั่นแหล่ะ ผู้หญิงอิตาลีมักเจ้ากี้เจ้าการแบบนี้ ตามใจแม่เขาหน่อย ไปกินข้าวกับพวกสาว ๆ ที่แม่แกนัดไว้ พ่อจะได้สบายหู”เขาหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยินพร้อมส่งเสียง ‘ฮึ
บทที่ 20**NC“อือ อาเดรียโน ยังเช้าอยู่เลย”“อืมมม อีกรอบก่อนไปทำงานไงคาร่า คุณจะได้คิดถึงผมมาก ๆ”เขาดันลำแขนของเธอให้โอบรอบท้ายทอยเขาไว้ โน้มศีรษะลงบรรจงโหมไฟยามเช้า มือค่อยลูบลงไปยังสะโพกผายกอบกุมช้อนก้นงามก่อนจะวกมาด้านหน้าล้วงลึกเข้าสู่เนินงามกลางหว่างขา“แฉะแล้วคนสวย อืมม และหวาน”ถ้าเปรียบอาหารเช้าแบบเร่งรีบของคนเมืองคงไม่เหมือนการร่วมรักของอาเดรียโนในเช้าวันนี้เท่าไร เพราะเขาใส่ใจทุกรายละเอียดเสียจนเธออ่อนระทวยด้วยไฟพิศวาส มือวาดไปทั่วลำตัวไม่เว้นแม้ตารางนิ้วเดียว เขาพรมจูบลงไปยังข้อเท้าเล็กตวัดลิ้นลากเป็นทางถึงหัวแม่เท้าพร้อมดูดกินจนเธอสะท้าน ได้แต่นอนมองเสียวซ่าน ลิ้นร้อนเลื่อนกลับไปยังข้อพับใต้เข่าขึ้นสู่ต้นขามุ่งตรงเข้าหุบเขาไร้ขนเนียนงาม เปิดแย้มซอกหลึบออกก่อนที่ปลายลิ้นสากไล้ลากตวัดเอาน้ำหวานขึ้นมาร่างสูงของคนด้านบนไถลตัวเลื่อนขึ้นเพื่อส่งจูบร้อนแรงปะปนน้ำหวานของตัวเธอเอง ส่งลิ้นถลำลึกล้วงกวาดจนเธอแอ่นรับกอดกระหวัดรัดแล้วพลิกตัวจนเธอขึ้นมาอยู่ด้านบน“ควบขับผมคาร่า ทำให้ผมดูสิว่าคุณคิดถึงผมแค่ไหนระหว่างที่ผมไม่อยู่”ณิชยันกายขึ้นแล้วค่อยขยับจนกระทั่งร่องสาวเปียกชื้นพอดีก
บทที่ 19 คิดถึง“อาเดรียโนไปไหน ทำไมไม่มาด้วย”“ไปทำงานม๊า”เนี่ยเห็นไหม เธอยังไม่ทันนั่งเสียงคาดคั้นของม๊าก็ดังขึ้น เธอทำได้แค่ลอบถอนหายใจ มองอาเจ็กกับซ้อที่แม่เชิญมา แม่คงอยากจะอวดเขยใหม่แต่หารู้ไม่?“ลื้อหลอกพวกอั๊วใช่ไหมอานิด”“เปล๊า!! เขาไปทำงานจริง ๆ”“ให้มันจริงนะ ม๊าไปหาหลวงพ่อที่วัดมาแล้ว เขาบอกอย่าให้เกินสิ้นปีนี้ ไม่งั้นดวงลื้อจะพลาดไปอีกสองปี”“ห๊า!! ม๊า!! ทำไมต้องไปทำอะไรแบบนี้ด้วย นี่เราเพิ่งจะเป็นแฟนเองนะ เรายังไม่ทันได้ตกลงด้วยเลย”“เออ!! รีบหาไว้ก่อน เพื่อได้ใช้ขึ้นมาจะไม่มีฤกษ์ อ้อ ม๊าดูของชำร่วยไว้แล้วไม่อยากได้ตะเกียบมันเชย เอาเป็นตุ๊กตาคู่ดีกว่า”“ม๊า!! ป๊าก็ช่วยพูดให้ม๊าเข้าใจหน่อยสิ มันยังไม่ถึงเวลา”“เออ ป๊าก็ไปดูชุดไว้แล้ว ว่าจะเตรียมเงินจัดงานให้ลื้อสักก้อน โต๊ะจีนก็สักร้อยโต๊ะก็พอไม่ต้องใหญ่มาก”“ป๊า!!”ณิชหันมองน้องชายที่นั่งหัวเราะตัวงอ ยังได้ยินเสียงม๊าและป๊าหันไปปรึกษาหารือกับอาเจ็กเรื่องสถานที่ว่าจะจัดที่ไหนถึงจะสะดวก เธอจึงได้แต่นั่งฟังไม่ออกความคิดเห็นอาเดรียโนคุณจะรู้บ้างไหมว่าพ่อกับแม่ฉันอยากได้คุณเป็นเขยขนาดไหนติ๊ด ติ๊ด!ตายยากเสียจริง!“ม๊า ป๊า
บทที่ 18 ชอบเขาเข้าให้แล้ว!เขาจูงมือจนกระทั่งเธอเดินมาถึงโต๊ะอาหารจึงปล่อยให้ร่างบอบบางนั่งลงเอง ส่วนเขานั่งลงฝั่งตรงข้ามกัน“หอมจังเลย น่าเสียดายที่มองเห็นข้างเดียว”อาเดรียโนยิ้มกว้างโบกช้อนตรงหน้าไปมาเพื่อทดสอบว่าเธอมองเห็นจริงไหม ณิชยกมือขึ้นมาปัดแต่ไม่โดนสองสามรอบยิ่งทำให้อาเดรียโนหัวเราะออกมาเสียงดัง“อย่าเพิ่งแกล้งกันสิ เดี๋ยวจะโมโหหิว”เขาเอนกายพิงพนักเก้าอี้มองหญิงสาวตรงหน้าที่พยายามจิ้มเนื้อมีทบอลแต่ยังไม่โดน พลาดซ้ายบ้างขวาบ้าง หน้าหวานซึ้งบึ้งตึงเม้มปากไม่พอใจที่ตัวเองทำไม่สำเร็จสักที อาเดรียโนยกมือขึ้นจับมือบางเรียวไว้“เดี๋ยวผมทำให้”น้ำเสียงอ่อนโยนทำให้เธอเงยหน้าขึ้นจากจานสปาเกตตี้กระทั่งเนื้อมีทบอลมาจ่อปากจึงนั่งอ้าปากกว้างรอรับแต่โดยดี“อร่อยไหมคนสวย”“อือม อร่อยมากอาเดรียโน ทำไมคุณถึงทำอาหารได้อร่อยแบบนี้นะ”“แม่ผมเป็นคนสอน ผมมักต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังต้องอยู่คนเดียว เลยชอบทำอาหารทานเองบ่อย ๆ อีกอย่างผู้ชายอิตาลีต้องทำอาหารเป็น”“ทำไมล่ะ”อาเดรียโนลอบยิ้มหลุบตาขึ้นมองหน้าหวานยังอมยิ้มในปากเคี้ยวมีทบอลจนซอสเลอะขอบปาก“เพราะผู้ชายอิตาลีต้องเลี้ยงผู้หญิงให้อิ่ม
บทที่ 17**NC“อ่า โอ๊ย! อ่า อาเดรียโน! เดี๋ยวหยุดก่อน อื้อ”มือเล็กดันอกแกร่งไว้เมื่อเอ็นเนื้อท่อนใหญ่แหวกผ่านปราการแสนบางเข้ามา ความรู้สึกถูกชำแรกแยกออกกว้าง รู้สึกอึดอัดยามลำยักษ์อยู่ในโพรงสาว“ซี้ดดด อ่า เจ็บไหม อีกนิด รออีกนิด”คนร่างโตพยายามอยู่นิ่งให้สาวใต้ร่างคุ้นเคยกับความใหญ่โตที่เสียดแทรกภายใน จากนั้นจึงเริ่มขยับไหวถอนออกรูดเกือบสุดแล้วดันเข้า เขาทำซ้ำอีกครั้งเชื่องช้า และมันช่างแสนทรมาน ปลายหัวป้านสัมผัสภายในอันอ่อนนุ่มแสนหวาน ทั้งแคบและตอดรัด“อา อื้อ ฉันไม่เจ็บแล้ว อาเดรียโน เร่งอีกนิดไม่ได้เหรอคะ”ร่างสูงใหญ่ข้างบนเปลี่ยนท่าทางเท้าฝ่ามือซ้ายข้างลำตัวสาวงาม อีกข้างจับข้อพับใต้หัวเข่าณิชไว้ดันจนชิดหน้าอกอวบอิ่ม แล้วขยับเคลื่อนไหวอีกครั้ง“แบบนี้ไหมคาร่า แรงพอหรือยัง”ตับ ตับ ตับเธอแทบกรีดร้องเมื่อร่างแกร่งโหมลงโถมแรงด้วยสะโพกสอบ ร่างเธอสั่นสะเทือนไปทั้งกาย มือไขว่คว้าบ่ากำยำไว้จิกแน่น ยามท่อนยาวรูดผ่านร่องรักตามลำยาวให้ความรู้สึกเสียวสะท้าน ปลายหัวดันจุดอ่อนไหวข้างในเป็นจังหวะอาเดรียโนขยับเปลี่ยนท่าอีกครั้ง ยืดกายตั้งตรงนั่งคุกเข่าจับข้อเท้าบอบบางดึงกระทั่งร่างของเธอขยับ
บทที่ 16**NCคนร่างระหงรู้ตัวอีกครั้งเมื่อแผ่นหลังจมลงบนฟูกนอนนุ่มหลังใหญ่ภายในห้องนอนสีเทาอ่อน อาเดรียโนรวบร่างของเธอขึ้นทันทีหลังจากจบประโยคอันแสนเร้าใจร่างสูงใหญ่โถมกายบดเบียดร่างเธอ ต้นขายาวเพรียวสัมผัสได้ว่าร่างของเขาเปลือยเปล่า เขาดึงผ้าเช็ดตัวผืนนั้นออกตอนไหนเธอเองก็แน่ใจ แต่ที่แน่ ๆ มันทำให้เอ็นร้อนทาบลงมาบนผิวอ่อนนุ่มตรงโคนขาขาว“อาเดรียโน อ่า ช้า ๆ ลงหน่อย”ชายหนุ่มด้านบนดันตัวขึ้นมาจากซอกคอที่กำลังขบเม้ม ดวงตาสีน้ำตาลเข้มล้ำลึก ไฟปรารถนาลุกโชน“ฉะ ฉันตามไม่ทัน”รอยยิ้มร้ายกาจพลันปรากฎบนหน้าแกร่ง มันทำให้ร่างของเธอสะท้านกลัวเกรง ลำแขนเรียวงามที่กอดก่ายเขาไว้ยังคงลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังกว้างแน่นด้วยกล้ามเนื้อเธอเผยอปากวอนขอจูบหนักหน่วงเพื่อบรรเทาบางสิ่งที่กำลังก่อตัวข้างใน เมื่ออาเดรียโนโน้มศีรษะลงครอบครองปากเย้ายวนของเธอ บางอย่างข้างในร่ำร้อง เขาโจนจ้วงลิ้นสากโลมเลียอยู่ในโพรงปากและมันทำให้เธอต้องการเปลือยเปล่าเช่นเดียวกับเขา“ผมจะพยายามไปช้า ๆ แม้ว่าไม่เคยทำมาก่อนก็ตาม”“อื้อ ไม่เคยทำช้า ๆ ยังงั้นเหรอ อื้อ อ่า”“ซิ คาร่า เพราะผมไม่จำเป็นต้องช้ามาก่อน แต่กับคุณ อืมม ซิ ใช้ลิ้
บทที่ 15 ง้อสักหน่อยปัง!!“ถ้าอยากก็บอกดีดี จะจัดให้”“อาเดรียโนจะบ้าหรือไง นั้นแค่คู่เดท คุณอย่าลืมนะว่าไม่มีในสัญญา เราตกลงกันแค่แสดงละครให้พ่อกับแม่ฉันดู แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้ฉันเดทหาคู่ โอ๊ย! เจ็บนะ ปล่อย!!”“ไหนมันจูบตรงไหน”“อย่านะ เดี๋ยวก่อน ใจเย็น ๆ สิอาเดรียโน!”“ที่กับผมไม่ยอมเสียความบริสุทธิ์ อ้างแต่พรหมจรรย์ แต่พอเป็นคนอื่นคงนอนแผ่เต็มที่”เพียะ!!หน้าคมเข้มหน้าหันไปตามแรงมือของณิช อาเดรียโนตวัดหน้ากลับมาจ้องเธอด้วยดวงตาวาวโรจน์ แต่แรงมือนั่นทำให้สติของเขากลับคืนมา เขาเพิ่งเคยรู้จักอาการหึงหวงหน้ามืดก็วันนี้เองไฟในอกอัดแน่นจนไม่สามารถอยู่นิ่งได้ เขากระชากมือของณิช จนร่างกระแทกอกร้อนทั้งแกร่งและหนั่นแน่น ก้มศีรษะลงมองดวงตาวาวโรจน์และตื่นกลัวบนหน้าหวานมือสีเข้มสลัดมือออกจนร่างของณิชเซถอย กายแกร่งเดินหันกลับออกไปด้วยใจรุ่มร้อน ดวงตาพร่ามัวด้วยฤทธิ์แรงหึง และถ้าขืนยังอยู่ต่อตรงนั้น ตัวณิชเองคงไม่รอดมือเขาปัง!คนร่างเล็กทรุดลงกับพื้นอ่อนแรง อาการหวาดกลัวลามไปทั่วร่าง กายสาวสะท้าน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นดวงตาวาวโรจน์ลุกโชนน่ากลัว ซึ่งเธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นนับแต่ที่เขาห
บทที่ 14 ก็แค่ลองจูบคนอื่นดูบ้างตึก! ตึก!เสียงวางหนังสือเข้าชั้นในยามเช้าตามแรงอารมณ์ของบรรณารักษ์สาว เวลานี้ยังไม่ถึงเวลาทำการเธอไม่ต้องใส่ใจว่าจะมีผู้ใช้บริการท่านใดรำคาญหรือเปล่าผู้ชายร่างโตชาวอิตาลีหายหน้าไปอีกแล้วหลังจากคืนนั้นราวอาทิตย์กว่า ใบหน้าหวานแดงซ่านระเรื่อยามนึกภาพกอดก่ายหลังจากสุขสมในคืนนั้นทั้งเธอและเขายังพากันนอนดูโทรทัศน์จนเธอเกือบผล็อยหลับ แต่ยังสู้อุตส่าห์พาร่างอ่อนระโหยกลับห้องก่อนที่ตัวเองตาจะปิดโดยที่เขามาส่งถึงหน้าห้องพร้อมจูบกระชากวิญญาณอีกหนึ่งครั้งแต่! เขาหายไป ติดต่อไม่ได้ ณิชกระแทกสะโพกลงที่เก้าอี้อย่างกรุ่นโกรธว้าวุ่นใจ เอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาเพื่อนรักสาริน“อือ มีอะไร เพิ่งออกจากห้องน้ำจะแต่งตัว”“สาริน ฉันมีเรื่องปรึกษา นายจำผู้ชายอิตาลีคนนั้นได้ไหม”“จำได้”เธอได้ยินเสียงดนัยเร่งรัดเข้ามาในโทรศัพท์จึงรีบเร่งพูดขึ้นก่อนที่สารินจะวางสาย“ฉันกับเขาตกลงดีลกัน โดยเขาต้องแสดงเป็นแฟนฉันให้พ่อกับแม่ดู ส่วนเขาจะได้เชยชมร่างกายอันสวยงามของฉัน”ณิชรู้สึกได้ถึงความเงียบสนิทแล้วจากนั้นเสียงหัวเราะของสารินและดนัยก็ดังขึ้นพร้อมกัน“นายเปิ