บทที่ 18 ชอบเขาเข้าให้แล้ว!
เขาจูงมือจนกระทั่งเธอเดินมาถึงโต๊ะอาหารจึงปล่อยให้ร่างบอบบางนั่งลงเอง ส่วนเขานั่งลงฝั่งตรงข้ามกัน
“หอมจังเลย น่าเสียดายที่มองเห็นข้างเดียว”
อาเดรียโนยิ้มกว้างโบกช้อนตรงหน้าไปมาเพื่อทดสอบว่าเธอมองเห็นจริงไหม ณิชยกมือขึ้นมาปัดแต่ไม่โดนสองสามรอบยิ่งทำให้อาเดรียโนหัวเราะออกมาเสียงดัง
“อย่าเพิ่งแกล้งกันสิ เดี๋ยวจะโมโหหิว”
เขาเอนกายพิงพนักเก้าอี้มองหญิงสาวตรงหน้าที่พยายามจิ้มเนื้อมีทบอลแต่ยังไม่โดน พลาดซ้ายบ้างขวาบ้าง หน้าหวานซึ้งบึ้งตึงเม้มปากไม่พอใจที่ตัวเองทำไม่สำเร็จสักที อาเดรียโนยกมือขึ้นจับมือบางเรียวไว้
“เดี๋ยวผมทำให้”
น้ำเสียงอ่อนโยนทำให้เธอเงยหน้าขึ้นจากจานสปาเกตตี้กระทั่งเนื้อมีทบอลมาจ่อปากจึงนั่งอ้าปากกว้างรอรับแต่โดยดี
“อร่อยไหมคนสวย”
“อือม อร่อยมากอาเดรียโน ทำไมคุณถึงทำอาหารได้อร่อยแบบนี้นะ”
“แม่ผมเป็นคนสอน ผมมักต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังต้องอยู่คนเดียว เลยชอบทำอาหารทานเองบ่อย ๆ อีกอย่างผู้ชายอิตาลีต้องทำอาหารเป็น”
“ทำไมล่ะ”
อาเดรียโนลอบยิ้มหลุบตาขึ้นมองหน้าหวานยังอมยิ้มในปากเคี้ยวมีทบอลจนซอสเลอะขอบปาก
“เพราะผู้ชายอิตาลีต้องเลี้ยงผู้หญิงให้อิ่มก่อนยังไงล่ะคนสวย”
“ฮ่า ฮ่า คุณนี่ สมเป็นผู้ชายรุ่นเก่าอิตาลีแท้ อืม แต่มันก็ดีนะ รสมือคุณเหมือนเชฟเลยอาเดรียโน ถ้าฉันมีเงินเยอะ ๆ ฉันจะจ้างคุณให้เป็นเชฟส่วนตัว ฮ่า ฮ่า แต่คงต้องรอไปก่อนนะ”
“อ้าปาก ซิ ถ้าอย่างนั้นผมขอคิดค่าจ้างเป็นอย่างอื่นก็ได้นะคาร่า”
มือเรียวปาดน้ำซอสที่เลอะข้างปากออกแล้วดูดอย่างอร่อยจนคนร่างโตฝั่งตรงข้ามไฟลุกพรึ่บ
“แล้วฉันต้องจ่ายด้วยอะไรคะ ถึงจะได้ทานอาหารอร่อย ๆ แบบนี้ไปทุกมื้อ”
“กินอีกคำแล้วผมจะบอก อ้าปากเร็ว”
ณิชอ้าปากรับมีทบอลแต่โดยดีอมยิ้มแก้มตุ่ย ในปากเต็มไปด้วยกลิ่นของเครื่องเทศและเนื้อที่ทอดก่อนมาปรุงอย่างพอเหมาะ
“คุณก็แค่อ้าให้ผม แบบกว้าง ๆ ทุกวัน ตามแต่ที่ผมจะสั่ง”
ดวงตากลมโตมีแววสงสัยก่อนเบิกกว้างเมื่อเข้าใจความหมายพร้อมใบหน้าที่แดงซ่านขึ้นทีละนิดจนกลายเป็นลูกตำลึง
“อาเดรียโน! เราทานข้าวกันอยู่นะ! ในหัวของคุณมีแต่เรื่องลามกหรือไง”
“ฮึ ผมจะห้ามตัวเองได้ไง อีกอย่างไม่รู้เป็นยังไง แค่มองคุณก็แข็งโด่แล้ว”
“อาเดรียโน! ไม่เอาล่ะ คุยเรื่องอื่นดีกว่า เออ คุณเป็นวิศวกรจริงไหม”
เขาป้อนเธออีกคำและถึงกลับมาทานของตัวเองเมื่อเห็นว่าเธอทานไปมากพอแล้ว และที่เหลือก็มีแค่เส้นซึ่งณิชทานเองได้
“เป็นจริงสิ ผมจะกรอกเอกสารห้องสมุดไปมั่ว ๆ ได้ยังไง”
“แล้วเป็นวิศวกรอะไรคะ”
“ก็พวกโลจิสติกส์ อู่ต่อเรืออะไรพวกนี้ล่ะ”
“อ้อ”
“ทำไม เงียบไป สงสัยอะไรอีก”
“ฉันกำลังคิดน่ะสิว่าทำไมไม่เรียนวิศวะอย่างคุณบ้าง ไม่งั้นป่านนี้ฉันคงมีเงินเยอะไปนานแล้ว”
อาเดรียโนยิ้มกว้างขึ้นทันที เอื้อมมือออกไปปาดซอสข้างริมฝีปากเย้ายวนตรงหน้าก่อนนำกลับมาดูดเอง ตาน้ำตาลเจิดจ้าไม่ละไปจากหน้าหวานซึ้ง
“รู้ไหม คุณอายุสามสิบแต่ยังเหมือนเด็กสาวอยู่เลย”
“ฮึ คุณหมายถึงอายุสมองฉันใช่ไหมอาเดรียโน!”
“เปล่า ทุกอย่างเลย คุณเหมือนสาวน้อยไปทั้งตัว ไม่ประสา ไร้เดียงสา”
“พอแล้ว ๆ ฉันจะเป็นคนล้างจานเอง เพราะว่าคุณทำอาหารให้แล้ว”
เขาลุกขึ้นยั้งมือของเธอไว้ทันทีที่เห็นณิชกำลังรวบรวมจาน
“ไม่ต้องหรอก คุณแค่เดินยังทำไม่ได้เลย เดี๋ยวผมล้างเอง ส่วนคุณผมจะอุ้มไปส่งนั่งเล่นข้างหน้าต่างก่อน”
“ฮึ! งั้นครั้งหน้าฉันขอเป็นคนทำนะคะ”
“ครับผม”
ณิชโอบลำแขนรอบคอแกร่งเมื่อเขาอุ้มเธอขึ้นอย่างง่ายดายแล้วพาเดินไปนั่งเล่นที่เก้าอี้เล็กริมหน้าต่าง จากนั้นเขาจึงกลับไปเก็บโต๊ะจนเรียบร้อยก่อนหายไปในห้องครัวเล็ก กลับออกมาอีกครั้งพร้อมกับขวดไวน์และแก้วสองใบ
มือเล็กรับแก้วไวน์ที่เขารินให้ ไวน์ชั้นดีราคาแพง และเธอชอบมัน ใบหน้าหวานยิ้มกริ่มเมื่อนึกว่าตัวเองจะได้ทานอาหารอร่อยและไวน์ดีดีไปอีกสักพัก แล้วเธอพลันชะงักมือทันที
สักพัก! แล้วเมื่อไรกันที่ดีลของเราจะจบ ถ้ามันสั้นแค่เดือนเดียว! เธอจะทำยังไงต่อไป
ใจรู้สึกโหวงเหวงแปลก ๆ ตาเลือนรางข้างเดียวมองตามคนร่างสูงขณะกำลังเดินกลับมาหาเธอ ชีพจรที่เคยเต้นช้ากลับค่อย ๆ แรงขึ้นยามมองรอยยิ้มกว้างเจ้าเล่ห์
หรือว่า เธอจะชอบเขาเข้าให้แล้ว!
บรรณารักษ์สาวนอนลงกับโต๊ะใหญ่กลางห้องสมุดในวันที่ฝนตกพรำ อากาศเย็นฉ่ำเกินกว่าจะขยับร่าง เธอจึงนอนนิ่งทั้งยังใช้ความคิดเรื่องของอาเดรียโน
เขาหล่อล่ำ เอาใจเก่ง ทำอาหารอร่อย และเซ็กซ์ก็เยี่ยม มันจะมีอะไรที่ดีไปกว่านี้ได้อีกเธออยากจะรู้เสียจริง
ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงแรงอึดของเขา แม้ว่าเธออยากขอพักแต่อาเดรียโนไม่ปล่อยเธอเลยแม้แต่วันเดียว แต่โชคยังเข้าข้างเมื่อเขาต้องไปทำงานต่างจังหวัด
สามเดือน! ไม่มากไม่น้อย แต่ไม่ได้ทำให้มั่นใจได้ว่าที่รู้สึกอยู่ตอนนี้คืออะไร
เธอเพิ่งรู้ว่าเขามีบริษัทอู่ต่อเรือที่อิตาลีและที่เขาเดินทางมาประเทศไทยก็เพื่อส่งมอบเรือ ซึ่งเขาต้องอยู่เพื่อคอยตรวจสอบคล้ายกับบริการหลังการขาย นี่ช่วยไขปัญหาที่คาใจเธอมาตลอดว่าทำไมอาชีพวิศวกรถึงได้รวยขนาดนั้น แต่แท้จริงอาชีพต่อเรือขายต่างหากที่ทำให้เขารวย
แต่พอผ่านไปแล้วหนึ่งอาทิตย์ จากที่เธอดีใจในคราแรกกลับกลายเป็นเหี่ยวเฉา แม้ว่าจะโทรศัพท์คุยกันทุกคืนแต่ไม่ได้ช่วยบรรเทาความคิดถึงลงได้
ตืดดดดดด!
เสียงสั่นของโทรศัพท์ดังขึ้นจนทำให้เธอมีแรงใจพอที่จะลุกจากท่าที่กำลังนอนไปยังโต๊ะทำงานเพื่อหยิบมันชึ้น
“ว่าไงสาริน”
“เงียบไปนะสาว เป็นไงบ้างกับพ่อตาน้ำตาลชาวอิตาลี”
ณิชใบหน้าแดงซ่านก่อนจะตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงเบาผิดปกติ
“ก็ดี”
“ก็ดี!! เพื่อนบอกก็ดี! แซ่บกันแล้วใช่ไหม”
“อื้อ”
ณิชดึงโทรศัพท์ออกห่างหูเมื่อจู่ ๆ เพื่อนสารินก็กรีดร้องลั่นพร้อมเสียงหัวเราะ
“แกต้องเล่าให้ฉันฟังยายนิด ขนาดใหญ่ป่ะ อึดป่ะ”
“โอ๊ย! หยุดเลยเพื่อนรัก อาเดรียโนตัวใหญ่ขนาดนั้นจะเล็กได้ไง แต่ฉันจะไม่เล่าให้เธอฟังหรอก อ้อ โทรมาก็ดี มีเรื่องปรึกษา”
“ว่า ว่า ว่า”
“แกว่าถ้าเราคิดถึงคน ๆ หนึ่งมาก ๆ แบบมองท้องฟ้าก็เห็นหน้า กินข้าวก็นึกถึง เดินไปไหนก็อยากได้ยินเสียง แกว่ามันเป็นความรักป่ะ”
“แก อย่าบอกนะว่าแกรักพ่อหนุ่มร่างโตไปแล้ว”
“ฉันก็ไม่แน่ใจ”
“แล้วเขาล่ะ ชอบแกบ้างไหม”
“นี่ฉันก็ไม่แน่ใจ เขาโทรหาฉันทุกวัน ทำข้าวเย็นให้กิน เรานอนดูบอลด้วยกันบนโซฟาและบางครั้งก็หลับไปทั้งแบบนั้น”
“เห้ย! ฉันว่าฉันได้กลิ่นการ์ดแต่งงานว่ะ แต่ถ้าจะให้แน่แกถามเขาตรงๆ เลยนิด”
“อืม รอเขากลับมาจากทำงานรอบนี้ฉันจะถามตรง ๆ แล้วถ้าเขาไม่ชอบฉันล่ะ หรือถ้าเขาชอบแต่ไม่อยากแต่งงาน แบบคบไปงั้น ๆ”
“โอ้ย!! แก จะคิดเผื่ออะไรเยอะแยะ รอให้ถามเขาก่อนแล้วแกจะรู้เองว่าต้องทำยังไง แค่นี้นะลูกค้าฉันกำลังเดินมา บาย”
“เออ บาย”
หลังจากวางสายโทรศัพท์สารินเธอถึงเห็นข้อความแม่เด้งเข้ามา ข้าวเย็นวันเสาร์นี้ให้พาอาเดรียโนไปด้วย แต่คงเป็นไปไม่ได้ ยังอีกสองอาทิตย์ถึงจะกลับมา เธอคงต้องกลับบ้านไปคนเดียว
บทที่ 19 คิดถึง“อาเดรียโนไปไหน ทำไมไม่มาด้วย”“ไปทำงานม๊า”เนี่ยเห็นไหม เธอยังไม่ทันนั่งเสียงคาดคั้นของม๊าก็ดังขึ้น เธอทำได้แค่ลอบถอนหายใจ มองอาเจ็กกับซ้อที่แม่เชิญมา แม่คงอยากจะอวดเขยใหม่แต่หารู้ไม่?“ลื้อหลอกพวกอั๊วใช่ไหมอานิด”“เปล๊า!! เขาไปทำงานจริง ๆ”“ให้มันจริงนะ ม๊าไปหาหลวงพ่อที่วัดมาแล้ว เขาบอกอย่าให้เกินสิ้นปีนี้ ไม่งั้นดวงลื้อจะพลาดไปอีกสองปี”“ห๊า!! ม๊า!! ทำไมต้องไปทำอะไรแบบนี้ด้วย นี่เราเพิ่งจะเป็นแฟนเองนะ เรายังไม่ทันได้ตกลงด้วยเลย”“เออ!! รีบหาไว้ก่อน เพื่อได้ใช้ขึ้นมาจะไม่มีฤกษ์ อ้อ ม๊าดูของชำร่วยไว้แล้วไม่อยากได้ตะเกียบมันเชย เอาเป็นตุ๊กตาคู่ดีกว่า”“ม๊า!! ป๊าก็ช่วยพูดให้ม๊าเข้าใจหน่อยสิ มันยังไม่ถึงเวลา”“เออ ป๊าก็ไปดูชุดไว้แล้ว ว่าจะเตรียมเงินจัดงานให้ลื้อสักก้อน โต๊ะจีนก็สักร้อยโต๊ะก็พอไม่ต้องใหญ่มาก”“ป๊า!!”ณิชหันมองน้องชายที่นั่งหัวเราะตัวงอ ยังได้ยินเสียงม๊าและป๊าหันไปปรึกษาหารือกับอาเจ็กเรื่องสถานที่ว่าจะจัดที่ไหนถึงจะสะดวก เธอจึงได้แต่นั่งฟังไม่ออกความคิดเห็นอาเดรียโนคุณจะรู้บ้างไหมว่าพ่อกับแม่ฉันอยากได้คุณเป็นเขยขนาดไหนติ๊ด ติ๊ด!ตายยากเสียจริง!“ม๊า ป๊า
บทที่ 20**NC“อือ อาเดรียโน ยังเช้าอยู่เลย”“อืมมม อีกรอบก่อนไปทำงานไงคาร่า คุณจะได้คิดถึงผมมาก ๆ”เขาดันลำแขนของเธอให้โอบรอบท้ายทอยเขาไว้ โน้มศีรษะลงบรรจงโหมไฟยามเช้า มือค่อยลูบลงไปยังสะโพกผายกอบกุมช้อนก้นงามก่อนจะวกมาด้านหน้าล้วงลึกเข้าสู่เนินงามกลางหว่างขา“แฉะแล้วคนสวย อืมม และหวาน”ถ้าเปรียบอาหารเช้าแบบเร่งรีบของคนเมืองคงไม่เหมือนการร่วมรักของอาเดรียโนในเช้าวันนี้เท่าไร เพราะเขาใส่ใจทุกรายละเอียดเสียจนเธออ่อนระทวยด้วยไฟพิศวาส มือวาดไปทั่วลำตัวไม่เว้นแม้ตารางนิ้วเดียว เขาพรมจูบลงไปยังข้อเท้าเล็กตวัดลิ้นลากเป็นทางถึงหัวแม่เท้าพร้อมดูดกินจนเธอสะท้าน ได้แต่นอนมองเสียวซ่าน ลิ้นร้อนเลื่อนกลับไปยังข้อพับใต้เข่าขึ้นสู่ต้นขามุ่งตรงเข้าหุบเขาไร้ขนเนียนงาม เปิดแย้มซอกหลึบออกก่อนที่ปลายลิ้นสากไล้ลากตวัดเอาน้ำหวานขึ้นมาร่างสูงของคนด้านบนไถลตัวเลื่อนขึ้นเพื่อส่งจูบร้อนแรงปะปนน้ำหวานของตัวเธอเอง ส่งลิ้นถลำลึกล้วงกวาดจนเธอแอ่นรับกอดกระหวัดรัดแล้วพลิกตัวจนเธอขึ้นมาอยู่ด้านบน“ควบขับผมคาร่า ทำให้ผมดูสิว่าคุณคิดถึงผมแค่ไหนระหว่างที่ผมไม่อยู่”ณิชยันกายขึ้นแล้วค่อยขยับจนกระทั่งร่องสาวเปียกชื้นพอดีก
บทที่ 21 เขาจะกลับไปหาเธอตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง!เสียงเคาะเหล็กและเสียงอ็อกเชื่อมภายในอู่ต่อเรือดังเช่นนี้เสมอด้วยความคุ้นชินตั้งแต่เด็ก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สวมหมวกนิรภัยในชุดรัดกุมถือแผ่นชาร์ตในมือเพื่อตรวจลำดับขั้นตอน หน้าคมเข้มแหงนมองขึ้นไปด้านบนของลำเรือสูงใหญ่ซึ่งคาดว่ากว่าจะประกอบเสร็จเรียบร้อยคงอีกนานหลายเดือนอาเดรียโนกลับมาที่เจนัวร์ ประเทศอิตาลีได้ราวสามเดือนแล้ว แม้งานคืบหน้าไปบ้างแต่ยังมีข้อติดขัดจนล่าช้ากว่ากำหนด“อาเดรียโน!”เสียงตะโกนเรียกทำให้เขาละความสนใจจากงานตรงหน้ามองไปยังผู้เป็นพ่อ ชายขาวอิตาลีหุ่นใหญ่ผมสีเข้มที่ร่วงหล่นไปมากจนศีรษะล้านไปครึ่ง เขายิ้มแย้มอารมณ์ดีกวักมือให้ลูกชายเพียงคนเดียวเดินเข้าไปหา“แกกลับมาเที่ยวนี้ตามใจแม่เขาหน่อยสิ”“เรื่องอะไรครับ”อาเดรียโนถอดหมวกนิรภัยออกเมื่อเข้ามาส่วนสำนักงานที่ต่ออย่างง่าย ๆ ด้วยตู้คอนเทนเนอร์มือสองที่ปรับปรุงทำสีใหม่จนสะอาด แล้วเดินไปหยิบขวดน้ำขึ้นยกดื่ม“ก็เรื่องสาว ๆ นั่นแหล่ะ ผู้หญิงอิตาลีมักเจ้ากี้เจ้าการแบบนี้ ตามใจแม่เขาหน่อย ไปกินข้าวกับพวกสาว ๆ ที่แม่แกนัดไว้ พ่อจะได้สบายหู”เขาหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยินพร้อมส่งเสียง ‘ฮึ
บทที่ 22 ผมคิดว่าผมลืมของไว้ จบบริบูรณ์“เจ้ เจ้ เจจจจจจ้!!!”เสียงเรียกเอะอะของณภัทรที่วิ่งปรูดเข้ามาด้านในหลังบ้านทำเธอตกใจสะดุ้งลุกพรวดขึ้นนั่งบนตั่งไม้“อะไร!! จะเสียงดังทำไม!”“เจ้ต้องไม่เชื่อสายตาตัวเองแน่ว่าใครมา”ณิชนิ่วหน้าหันมองม๊ากับป๊าที่นั่งหน้าฉงนมองตรงไปยังประตูทางเข้าเมื่อจู่ ๆ แสงสว่างด้านนอกก็พลันมืดลงเป็นเงาเยามคนร่างสูงใหญ่เดินลอดผ่านเข้ามา ใบหน้าคมเข้มมีเคราขึ้นครึ้ม และดวงตาสีน้ำตาลดุจเหยี่ยวคู่นั้นมองตรงมาทางเธอ“อาเดรียโน!”“ลูกเขย!!”ณิชไม่มีเวลาหันกลับไปบอกแม่ว่าให้เงียบเสียงเพราะอาเดรียโนยังเดินตรงมาทางเธอแล้ว ร่างระหงรู้สึกมือไม้ยาวเก้งก้างไม่รู้ว่าจะวางไว้ตรงไหน และที่สำคัญเธอยังสวมชุดนอนของเมื่อคืนทั้ง ๆ ที่มันบ่ายสามเข้าไปแล้ว!“ผมขอคุยกับนิดตามลำพังได้ไหมครับ”ณิชยังไม่ทันอ้าปากบอกพ่อกับแม่ ก็ดูเหมือนพ่อกับแม่ของเธอฟังภาษาอังกฤษออกภายในชั่ววินาทีนั่น ทั้งหมดหายวับไปด้านนอกทันที ทิ้งเธอให้นั่งบนตั่งไม้และอาเดรียโนที่ยืนค้ำเธออยู่“ฮะ แฮ่ม ๆ คุณกลับมาแล้ว”หน้าหวานแหงนมองร่างสูงคอตั้งบ่า พยายามหาเสียงของตัวเอง กระแอ่มเรียกสติที่กระเจิดไปนานแล้วตั้งแต่มองเ
บทที่ 1 ณิช ค่ำวันศุกร์เป็นอีกวันหลังเลิกงานของใครทั้งหลายในกรุงเทพมหานคร ผู้คนพากันประดังประเดมาใช้บริการรถไฟฟ้าเพื่อเตรียมตัว บ้างกลับบ้าน บ้างนัดแฮงเอ้าท์ บ้างมีนัดมื้อค่ำกับชายหนุ่มหญิงสาวอายุราวสามสิบ ร่างค่อนข้างสูงกว่าหญิงไทยทั่วไป รูปร่างโปร่งบาง ผิวขาวออกซีดเผือดเพราะแทบไม่เคยเจอแดด สวมแว่นสายตาสั้นหนาจนปิดบังดวงหน้าไปทั้งดวง แต่ยังพอเห็นเค้าลางว่ากรอบใบหน้ารูปไข่ โหนกแก้มยกสูง คิ้วดกหนาไม่ได้รับการตัดแต่ง นั่งอยู่บนรถไฟฟ้าช่วงเวลาเลิกงานของชาวกรุงเทพเธอเม้มปากบางเฉียบแต่กว้างกว่าหญิงทั่วไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว มองไปฝั่งตรงข้ามผ่านลอดท่อนขาของใครอีกหลายคนที่ยืนเบียดเสียดกันอยู่ ภาพตรงหน้าที่เธอลอบจ้องมองคือเด็กหนุ่มสาวหนึ่งคู่นั่งกุมมือกระซิบกระซาบหยอกล้อแบบไม่เกรงใจใครณิช ลิ้มวัฒนามหาโชค หรือเดิมแซ่ลิ้ม แต่พ่อกับแม่เพิ่งไปแจ้งเปลี่ยนนามสกุลเมื่อตอนเธออยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่หก เธอไม่ชอบนามสกุลใหม่เลยสักนิด นามสกุลเจ็ดพยางค์ที่มักโดนเพื่อนล้อเป็นประจำหญิงสาวขยับร่างเอียงตัวไปด้านซ้ายเพราะท่อนขาของคนด้านหน้าขยับบังกิจกรรมของสองหนุ่มสาวฟากตรงข้าม ขยับแว่นสายตาอีกครั้งเพื่อจ้อง
บทที่ 2 ชีวิตสาวโสดวัยสามสิบ!!ชีวิตสาวโสดวัยสามสิบ!!ณิชโยนกระเป๋าไปยังโซฟาเล็กมุมห้องพักราคาถูก ก่อนจะล้มตัวลงนอนมองเพดานสีเขียวที่เธอแสนเกลียดใบหน้าเรียวรูปไข่พลิกหน้าไปยังตู้เสื้อผ้าใบเล็กที่อัดแน่นด้วยเสื้อผ้าจนไม่มีที่แทรกต้องแขวนทะลักออกมาด้านนอกชีวิตสาวใกล้ขึ้นคานเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า?คิ้วย่นเล็กน้อยเมื่อคิดไปถึงยามแก่เฒ่าชราภาพมากกว่านี้ อย่าแค่ว่าบันไดเลย เดินไปขึ้นรถประจำทางคงทำไม่ได้เฮ้อ!! อีกหน่อยคงนอนอืดตายโดยที่ไม่มีใครรู้ว่ามีเธออยู่บนโลกใบนี้ตื๊ด ตื๊ดเสียงโทรศัพท์ทำให้สาวร่างสูงจำใจลุกขึ้นจากเตียงอย่างเกียจคร้านไปยังโซฟาตัวเล็กแม้ว่ามันจะใกล้แค่เดินสามก้าวเท่านั้น“ฮัลโหลววววว สาววว พรุ่งนี้มาคอนโดฉันไหม”สารินเพื่อนรักเรียนมาจากคณะเดียวกัน แต่สารินเลือกที่ไปเป็นเซลล์และเพื่อนรักก็ทำมันได้ดีจนทั้งเงินเดือนและโบนัสพุ่งสูงลิบ ผิดกลับเธอที่เลือกทำงานบรรณารักษ์ พลันนึกถึงคอนโดมิเนียมของสารินตั้งอยู่ใกล้ที่ทำงานของเธอทั้งหรูและสบาย“ก็ไม่เลวนะ ฉันกำลังมีเรื่องไปปรึกษาพอดี”“เยี่ยมไปเลย ซื้อไวน์มาด้วยล่ะ”“โอนเงินมาสิ นี่ใกล้สิ้นเดือนแล้ว”“โอ้ยยยยยย! แม่ขี้ตืด ฉัน
บทที่ 3 ป้าเสียงหวานแหลมกระแทกเสียงเล็กน้อยไม่พอใจ มือเรียวหยิบโทรศัพท์ออกมาทุลักทุเลเพราะขวดไวน์แสนหนักอึ้งในกระเป๋าผ้าสามขวด และยังถุงขนมใบใหญ่ร่างสูงโปร่งเดินเข้าบันไดโถงหน้าเมื่อจัดการชำระค่าโดยสารเรียบร้อย คอนโดมิเนียมราคาแพงค่อนข้างเข้มงวดแต่เนื่องจากเธอมาบ่อยทำให้ลุงยามรักษาความปลอดภัยจำหน้าเธอได้ เธอจึงเดินเข้ามายังด้านในโดยไม่ต้องแจ้งเจ้าของห้องก่อน“ป้า!!!!!”เสียงตะโกนทุ้มไล่หลังขณะที่เท้าบางกำลังเดินขึ้นบันไดทำให้ณิชชะงักเท้ามองซ้ายขวาฉุนกึกในใจอย่าบอกนะว่าเรียกฉัน!!“เรียกใคร!!”“ป้านั่นแหล่ะ ป้าลืมถอดหมวกกันน็อก”เธอยกมือขึ้นจับศีรษะทั้งที่มือหิ้วของพะรุงพะรัง เสียงถุงพลาสติกขนมของกินส่งเสียงก็อกแก็ก พยายามแกะสายรัดใต้คางกระแทกกระทั้นแล้วถอดส่งคืนให้หนุ่มวินแต่ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวทำให้ณิชลงแรงหนักมือ สายรัดเกี่ยวยางรัดผมราคาถูกจนขาด ผมที่มวยไว้เลยทิ้งตัวลงกลางหลังดกหนาจนวินมอเตอร์ไซค์ยังอ้าปากค้าง“เอ้า!! เอาไป ทีหลังเจออย่าเรียกป้าอีก! ไม่ชอบ!”หนุ่มวินรับหมวกไปแต่หน้ายังจ้องสาวแว่นไม่วางตา เพียงเธอปล่อยผมลงมาจากสาวแก่กลายเป็นสาวสวยได้ในพริบตา แต่ร่างสูงโปร่งไม่ใส่ใจห
บทที่ 4 อาเดรียโน“ไอ้บ้า! คนเฮงซวย! รู้ไหมตัดแว่นครั้งหนึ่งมันแพงแค่ไหน ยิ่งค่าสายตาสั้นขนาดนี้ แล้วกว่าจะได้ ทำไมต้องมายืนขวางทาง บ้าฉิบ!”“ผมฟังคุณไม่รู้เรื่องเลย พูดภาษาอังกฤษสิ”ณิชเม้มปากตึงก่อนยืดกายขึ้นสูงยกแว่นในมือโบกตรงหน้าเขาแล้วพูดขึ้นด้วยภาษาไทยอย่างไม่สนใจ“เรื่องอะไร ก็ที่ฉันต้องพูดภาษาไทยก็เพราะฉันกำลังด่าคุณอยู่ ถอยไปไอ้ฝรั่ง”ในบรรดาคำหลายคำของภาษาไทย คำว่า ฝรั่ง เป็นคำแรก ๆ ที่เขารู้จัก เพราะคนไทยทุกคนเรียกคนต่างชาติว่าฝรั่ง“คุณกำลังพูดไม่สุภาพ”น้ำเสียงทุ้มต่ำเชิงตำหนิทำให้หน้าเรียวเล็กเห่อร้อนจนพ่วงแก้มสองข้างแดงก่ำ แต่ยังพยายามรักษาภาพลักษณ์ทำเป็นไม่ใส่ใจ ณิช ฝรั่งมันไม่รู้เรื่องหรอกมือเล็กสะบัดมือลง เบี่ยงกายออกเพื่อเดินขึ้นบันได แต่พอก้าวเท้าพลันสะดุดกับขั้นบันไดจนเกือบล้ม ยังดีคนร่างโตฉับไวกว่าส่งอ้อมแขนแข็งแรงคว้าเธอไว้อีกครั้ง“เดี๋ยวผมช่วยพาคุณไปส่งที่ห้องแล้วกัน”“ฉันไปเองไม่ต้องยุ่ง!!”“พูดภาษาอังกฤษสิ!! แบบนี้จะรู้เรื่องได้ยังไง”น้ำเสียงทุ้มเรียบหงุดหงิดเห็นได้ชัด ด้วยความที่เธอเองเคยเป็นคนมีมารยาทมาบ้าง! จึงเกิดความละอายใจเล็กน้อย ความจริงมันก็ไม่ใ
บทที่ 22 ผมคิดว่าผมลืมของไว้ จบบริบูรณ์“เจ้ เจ้ เจจจจจจ้!!!”เสียงเรียกเอะอะของณภัทรที่วิ่งปรูดเข้ามาด้านในหลังบ้านทำเธอตกใจสะดุ้งลุกพรวดขึ้นนั่งบนตั่งไม้“อะไร!! จะเสียงดังทำไม!”“เจ้ต้องไม่เชื่อสายตาตัวเองแน่ว่าใครมา”ณิชนิ่วหน้าหันมองม๊ากับป๊าที่นั่งหน้าฉงนมองตรงไปยังประตูทางเข้าเมื่อจู่ ๆ แสงสว่างด้านนอกก็พลันมืดลงเป็นเงาเยามคนร่างสูงใหญ่เดินลอดผ่านเข้ามา ใบหน้าคมเข้มมีเคราขึ้นครึ้ม และดวงตาสีน้ำตาลดุจเหยี่ยวคู่นั้นมองตรงมาทางเธอ“อาเดรียโน!”“ลูกเขย!!”ณิชไม่มีเวลาหันกลับไปบอกแม่ว่าให้เงียบเสียงเพราะอาเดรียโนยังเดินตรงมาทางเธอแล้ว ร่างระหงรู้สึกมือไม้ยาวเก้งก้างไม่รู้ว่าจะวางไว้ตรงไหน และที่สำคัญเธอยังสวมชุดนอนของเมื่อคืนทั้ง ๆ ที่มันบ่ายสามเข้าไปแล้ว!“ผมขอคุยกับนิดตามลำพังได้ไหมครับ”ณิชยังไม่ทันอ้าปากบอกพ่อกับแม่ ก็ดูเหมือนพ่อกับแม่ของเธอฟังภาษาอังกฤษออกภายในชั่ววินาทีนั่น ทั้งหมดหายวับไปด้านนอกทันที ทิ้งเธอให้นั่งบนตั่งไม้และอาเดรียโนที่ยืนค้ำเธออยู่“ฮะ แฮ่ม ๆ คุณกลับมาแล้ว”หน้าหวานแหงนมองร่างสูงคอตั้งบ่า พยายามหาเสียงของตัวเอง กระแอ่มเรียกสติที่กระเจิดไปนานแล้วตั้งแต่มองเ
บทที่ 21 เขาจะกลับไปหาเธอตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง!เสียงเคาะเหล็กและเสียงอ็อกเชื่อมภายในอู่ต่อเรือดังเช่นนี้เสมอด้วยความคุ้นชินตั้งแต่เด็ก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สวมหมวกนิรภัยในชุดรัดกุมถือแผ่นชาร์ตในมือเพื่อตรวจลำดับขั้นตอน หน้าคมเข้มแหงนมองขึ้นไปด้านบนของลำเรือสูงใหญ่ซึ่งคาดว่ากว่าจะประกอบเสร็จเรียบร้อยคงอีกนานหลายเดือนอาเดรียโนกลับมาที่เจนัวร์ ประเทศอิตาลีได้ราวสามเดือนแล้ว แม้งานคืบหน้าไปบ้างแต่ยังมีข้อติดขัดจนล่าช้ากว่ากำหนด“อาเดรียโน!”เสียงตะโกนเรียกทำให้เขาละความสนใจจากงานตรงหน้ามองไปยังผู้เป็นพ่อ ชายขาวอิตาลีหุ่นใหญ่ผมสีเข้มที่ร่วงหล่นไปมากจนศีรษะล้านไปครึ่ง เขายิ้มแย้มอารมณ์ดีกวักมือให้ลูกชายเพียงคนเดียวเดินเข้าไปหา“แกกลับมาเที่ยวนี้ตามใจแม่เขาหน่อยสิ”“เรื่องอะไรครับ”อาเดรียโนถอดหมวกนิรภัยออกเมื่อเข้ามาส่วนสำนักงานที่ต่ออย่างง่าย ๆ ด้วยตู้คอนเทนเนอร์มือสองที่ปรับปรุงทำสีใหม่จนสะอาด แล้วเดินไปหยิบขวดน้ำขึ้นยกดื่ม“ก็เรื่องสาว ๆ นั่นแหล่ะ ผู้หญิงอิตาลีมักเจ้ากี้เจ้าการแบบนี้ ตามใจแม่เขาหน่อย ไปกินข้าวกับพวกสาว ๆ ที่แม่แกนัดไว้ พ่อจะได้สบายหู”เขาหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยินพร้อมส่งเสียง ‘ฮึ
บทที่ 20**NC“อือ อาเดรียโน ยังเช้าอยู่เลย”“อืมมม อีกรอบก่อนไปทำงานไงคาร่า คุณจะได้คิดถึงผมมาก ๆ”เขาดันลำแขนของเธอให้โอบรอบท้ายทอยเขาไว้ โน้มศีรษะลงบรรจงโหมไฟยามเช้า มือค่อยลูบลงไปยังสะโพกผายกอบกุมช้อนก้นงามก่อนจะวกมาด้านหน้าล้วงลึกเข้าสู่เนินงามกลางหว่างขา“แฉะแล้วคนสวย อืมม และหวาน”ถ้าเปรียบอาหารเช้าแบบเร่งรีบของคนเมืองคงไม่เหมือนการร่วมรักของอาเดรียโนในเช้าวันนี้เท่าไร เพราะเขาใส่ใจทุกรายละเอียดเสียจนเธออ่อนระทวยด้วยไฟพิศวาส มือวาดไปทั่วลำตัวไม่เว้นแม้ตารางนิ้วเดียว เขาพรมจูบลงไปยังข้อเท้าเล็กตวัดลิ้นลากเป็นทางถึงหัวแม่เท้าพร้อมดูดกินจนเธอสะท้าน ได้แต่นอนมองเสียวซ่าน ลิ้นร้อนเลื่อนกลับไปยังข้อพับใต้เข่าขึ้นสู่ต้นขามุ่งตรงเข้าหุบเขาไร้ขนเนียนงาม เปิดแย้มซอกหลึบออกก่อนที่ปลายลิ้นสากไล้ลากตวัดเอาน้ำหวานขึ้นมาร่างสูงของคนด้านบนไถลตัวเลื่อนขึ้นเพื่อส่งจูบร้อนแรงปะปนน้ำหวานของตัวเธอเอง ส่งลิ้นถลำลึกล้วงกวาดจนเธอแอ่นรับกอดกระหวัดรัดแล้วพลิกตัวจนเธอขึ้นมาอยู่ด้านบน“ควบขับผมคาร่า ทำให้ผมดูสิว่าคุณคิดถึงผมแค่ไหนระหว่างที่ผมไม่อยู่”ณิชยันกายขึ้นแล้วค่อยขยับจนกระทั่งร่องสาวเปียกชื้นพอดีก
บทที่ 19 คิดถึง“อาเดรียโนไปไหน ทำไมไม่มาด้วย”“ไปทำงานม๊า”เนี่ยเห็นไหม เธอยังไม่ทันนั่งเสียงคาดคั้นของม๊าก็ดังขึ้น เธอทำได้แค่ลอบถอนหายใจ มองอาเจ็กกับซ้อที่แม่เชิญมา แม่คงอยากจะอวดเขยใหม่แต่หารู้ไม่?“ลื้อหลอกพวกอั๊วใช่ไหมอานิด”“เปล๊า!! เขาไปทำงานจริง ๆ”“ให้มันจริงนะ ม๊าไปหาหลวงพ่อที่วัดมาแล้ว เขาบอกอย่าให้เกินสิ้นปีนี้ ไม่งั้นดวงลื้อจะพลาดไปอีกสองปี”“ห๊า!! ม๊า!! ทำไมต้องไปทำอะไรแบบนี้ด้วย นี่เราเพิ่งจะเป็นแฟนเองนะ เรายังไม่ทันได้ตกลงด้วยเลย”“เออ!! รีบหาไว้ก่อน เพื่อได้ใช้ขึ้นมาจะไม่มีฤกษ์ อ้อ ม๊าดูของชำร่วยไว้แล้วไม่อยากได้ตะเกียบมันเชย เอาเป็นตุ๊กตาคู่ดีกว่า”“ม๊า!! ป๊าก็ช่วยพูดให้ม๊าเข้าใจหน่อยสิ มันยังไม่ถึงเวลา”“เออ ป๊าก็ไปดูชุดไว้แล้ว ว่าจะเตรียมเงินจัดงานให้ลื้อสักก้อน โต๊ะจีนก็สักร้อยโต๊ะก็พอไม่ต้องใหญ่มาก”“ป๊า!!”ณิชหันมองน้องชายที่นั่งหัวเราะตัวงอ ยังได้ยินเสียงม๊าและป๊าหันไปปรึกษาหารือกับอาเจ็กเรื่องสถานที่ว่าจะจัดที่ไหนถึงจะสะดวก เธอจึงได้แต่นั่งฟังไม่ออกความคิดเห็นอาเดรียโนคุณจะรู้บ้างไหมว่าพ่อกับแม่ฉันอยากได้คุณเป็นเขยขนาดไหนติ๊ด ติ๊ด!ตายยากเสียจริง!“ม๊า ป๊า
บทที่ 18 ชอบเขาเข้าให้แล้ว!เขาจูงมือจนกระทั่งเธอเดินมาถึงโต๊ะอาหารจึงปล่อยให้ร่างบอบบางนั่งลงเอง ส่วนเขานั่งลงฝั่งตรงข้ามกัน“หอมจังเลย น่าเสียดายที่มองเห็นข้างเดียว”อาเดรียโนยิ้มกว้างโบกช้อนตรงหน้าไปมาเพื่อทดสอบว่าเธอมองเห็นจริงไหม ณิชยกมือขึ้นมาปัดแต่ไม่โดนสองสามรอบยิ่งทำให้อาเดรียโนหัวเราะออกมาเสียงดัง“อย่าเพิ่งแกล้งกันสิ เดี๋ยวจะโมโหหิว”เขาเอนกายพิงพนักเก้าอี้มองหญิงสาวตรงหน้าที่พยายามจิ้มเนื้อมีทบอลแต่ยังไม่โดน พลาดซ้ายบ้างขวาบ้าง หน้าหวานซึ้งบึ้งตึงเม้มปากไม่พอใจที่ตัวเองทำไม่สำเร็จสักที อาเดรียโนยกมือขึ้นจับมือบางเรียวไว้“เดี๋ยวผมทำให้”น้ำเสียงอ่อนโยนทำให้เธอเงยหน้าขึ้นจากจานสปาเกตตี้กระทั่งเนื้อมีทบอลมาจ่อปากจึงนั่งอ้าปากกว้างรอรับแต่โดยดี“อร่อยไหมคนสวย”“อือม อร่อยมากอาเดรียโน ทำไมคุณถึงทำอาหารได้อร่อยแบบนี้นะ”“แม่ผมเป็นคนสอน ผมมักต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังต้องอยู่คนเดียว เลยชอบทำอาหารทานเองบ่อย ๆ อีกอย่างผู้ชายอิตาลีต้องทำอาหารเป็น”“ทำไมล่ะ”อาเดรียโนลอบยิ้มหลุบตาขึ้นมองหน้าหวานยังอมยิ้มในปากเคี้ยวมีทบอลจนซอสเลอะขอบปาก“เพราะผู้ชายอิตาลีต้องเลี้ยงผู้หญิงให้อิ่ม
บทที่ 17**NC“อ่า โอ๊ย! อ่า อาเดรียโน! เดี๋ยวหยุดก่อน อื้อ”มือเล็กดันอกแกร่งไว้เมื่อเอ็นเนื้อท่อนใหญ่แหวกผ่านปราการแสนบางเข้ามา ความรู้สึกถูกชำแรกแยกออกกว้าง รู้สึกอึดอัดยามลำยักษ์อยู่ในโพรงสาว“ซี้ดดด อ่า เจ็บไหม อีกนิด รออีกนิด”คนร่างโตพยายามอยู่นิ่งให้สาวใต้ร่างคุ้นเคยกับความใหญ่โตที่เสียดแทรกภายใน จากนั้นจึงเริ่มขยับไหวถอนออกรูดเกือบสุดแล้วดันเข้า เขาทำซ้ำอีกครั้งเชื่องช้า และมันช่างแสนทรมาน ปลายหัวป้านสัมผัสภายในอันอ่อนนุ่มแสนหวาน ทั้งแคบและตอดรัด“อา อื้อ ฉันไม่เจ็บแล้ว อาเดรียโน เร่งอีกนิดไม่ได้เหรอคะ”ร่างสูงใหญ่ข้างบนเปลี่ยนท่าทางเท้าฝ่ามือซ้ายข้างลำตัวสาวงาม อีกข้างจับข้อพับใต้หัวเข่าณิชไว้ดันจนชิดหน้าอกอวบอิ่ม แล้วขยับเคลื่อนไหวอีกครั้ง“แบบนี้ไหมคาร่า แรงพอหรือยัง”ตับ ตับ ตับเธอแทบกรีดร้องเมื่อร่างแกร่งโหมลงโถมแรงด้วยสะโพกสอบ ร่างเธอสั่นสะเทือนไปทั้งกาย มือไขว่คว้าบ่ากำยำไว้จิกแน่น ยามท่อนยาวรูดผ่านร่องรักตามลำยาวให้ความรู้สึกเสียวสะท้าน ปลายหัวดันจุดอ่อนไหวข้างในเป็นจังหวะอาเดรียโนขยับเปลี่ยนท่าอีกครั้ง ยืดกายตั้งตรงนั่งคุกเข่าจับข้อเท้าบอบบางดึงกระทั่งร่างของเธอขยับ
บทที่ 16**NCคนร่างระหงรู้ตัวอีกครั้งเมื่อแผ่นหลังจมลงบนฟูกนอนนุ่มหลังใหญ่ภายในห้องนอนสีเทาอ่อน อาเดรียโนรวบร่างของเธอขึ้นทันทีหลังจากจบประโยคอันแสนเร้าใจร่างสูงใหญ่โถมกายบดเบียดร่างเธอ ต้นขายาวเพรียวสัมผัสได้ว่าร่างของเขาเปลือยเปล่า เขาดึงผ้าเช็ดตัวผืนนั้นออกตอนไหนเธอเองก็แน่ใจ แต่ที่แน่ ๆ มันทำให้เอ็นร้อนทาบลงมาบนผิวอ่อนนุ่มตรงโคนขาขาว“อาเดรียโน อ่า ช้า ๆ ลงหน่อย”ชายหนุ่มด้านบนดันตัวขึ้นมาจากซอกคอที่กำลังขบเม้ม ดวงตาสีน้ำตาลเข้มล้ำลึก ไฟปรารถนาลุกโชน“ฉะ ฉันตามไม่ทัน”รอยยิ้มร้ายกาจพลันปรากฎบนหน้าแกร่ง มันทำให้ร่างของเธอสะท้านกลัวเกรง ลำแขนเรียวงามที่กอดก่ายเขาไว้ยังคงลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังกว้างแน่นด้วยกล้ามเนื้อเธอเผยอปากวอนขอจูบหนักหน่วงเพื่อบรรเทาบางสิ่งที่กำลังก่อตัวข้างใน เมื่ออาเดรียโนโน้มศีรษะลงครอบครองปากเย้ายวนของเธอ บางอย่างข้างในร่ำร้อง เขาโจนจ้วงลิ้นสากโลมเลียอยู่ในโพรงปากและมันทำให้เธอต้องการเปลือยเปล่าเช่นเดียวกับเขา“ผมจะพยายามไปช้า ๆ แม้ว่าไม่เคยทำมาก่อนก็ตาม”“อื้อ ไม่เคยทำช้า ๆ ยังงั้นเหรอ อื้อ อ่า”“ซิ คาร่า เพราะผมไม่จำเป็นต้องช้ามาก่อน แต่กับคุณ อืมม ซิ ใช้ลิ้
บทที่ 15 ง้อสักหน่อยปัง!!“ถ้าอยากก็บอกดีดี จะจัดให้”“อาเดรียโนจะบ้าหรือไง นั้นแค่คู่เดท คุณอย่าลืมนะว่าไม่มีในสัญญา เราตกลงกันแค่แสดงละครให้พ่อกับแม่ฉันดู แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้ฉันเดทหาคู่ โอ๊ย! เจ็บนะ ปล่อย!!”“ไหนมันจูบตรงไหน”“อย่านะ เดี๋ยวก่อน ใจเย็น ๆ สิอาเดรียโน!”“ที่กับผมไม่ยอมเสียความบริสุทธิ์ อ้างแต่พรหมจรรย์ แต่พอเป็นคนอื่นคงนอนแผ่เต็มที่”เพียะ!!หน้าคมเข้มหน้าหันไปตามแรงมือของณิช อาเดรียโนตวัดหน้ากลับมาจ้องเธอด้วยดวงตาวาวโรจน์ แต่แรงมือนั่นทำให้สติของเขากลับคืนมา เขาเพิ่งเคยรู้จักอาการหึงหวงหน้ามืดก็วันนี้เองไฟในอกอัดแน่นจนไม่สามารถอยู่นิ่งได้ เขากระชากมือของณิช จนร่างกระแทกอกร้อนทั้งแกร่งและหนั่นแน่น ก้มศีรษะลงมองดวงตาวาวโรจน์และตื่นกลัวบนหน้าหวานมือสีเข้มสลัดมือออกจนร่างของณิชเซถอย กายแกร่งเดินหันกลับออกไปด้วยใจรุ่มร้อน ดวงตาพร่ามัวด้วยฤทธิ์แรงหึง และถ้าขืนยังอยู่ต่อตรงนั้น ตัวณิชเองคงไม่รอดมือเขาปัง!คนร่างเล็กทรุดลงกับพื้นอ่อนแรง อาการหวาดกลัวลามไปทั่วร่าง กายสาวสะท้าน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นดวงตาวาวโรจน์ลุกโชนน่ากลัว ซึ่งเธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นนับแต่ที่เขาห
บทที่ 14 ก็แค่ลองจูบคนอื่นดูบ้างตึก! ตึก!เสียงวางหนังสือเข้าชั้นในยามเช้าตามแรงอารมณ์ของบรรณารักษ์สาว เวลานี้ยังไม่ถึงเวลาทำการเธอไม่ต้องใส่ใจว่าจะมีผู้ใช้บริการท่านใดรำคาญหรือเปล่าผู้ชายร่างโตชาวอิตาลีหายหน้าไปอีกแล้วหลังจากคืนนั้นราวอาทิตย์กว่า ใบหน้าหวานแดงซ่านระเรื่อยามนึกภาพกอดก่ายหลังจากสุขสมในคืนนั้นทั้งเธอและเขายังพากันนอนดูโทรทัศน์จนเธอเกือบผล็อยหลับ แต่ยังสู้อุตส่าห์พาร่างอ่อนระโหยกลับห้องก่อนที่ตัวเองตาจะปิดโดยที่เขามาส่งถึงหน้าห้องพร้อมจูบกระชากวิญญาณอีกหนึ่งครั้งแต่! เขาหายไป ติดต่อไม่ได้ ณิชกระแทกสะโพกลงที่เก้าอี้อย่างกรุ่นโกรธว้าวุ่นใจ เอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาเพื่อนรักสาริน“อือ มีอะไร เพิ่งออกจากห้องน้ำจะแต่งตัว”“สาริน ฉันมีเรื่องปรึกษา นายจำผู้ชายอิตาลีคนนั้นได้ไหม”“จำได้”เธอได้ยินเสียงดนัยเร่งรัดเข้ามาในโทรศัพท์จึงรีบเร่งพูดขึ้นก่อนที่สารินจะวางสาย“ฉันกับเขาตกลงดีลกัน โดยเขาต้องแสดงเป็นแฟนฉันให้พ่อกับแม่ดู ส่วนเขาจะได้เชยชมร่างกายอันสวยงามของฉัน”ณิชรู้สึกได้ถึงความเงียบสนิทแล้วจากนั้นเสียงหัวเราะของสารินและดนัยก็ดังขึ้นพร้อมกัน“นายเปิ