บทที่ 21 เขาจะกลับไปหาเธอ
ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง!
เสียงเคาะเหล็กและเสียงอ็อกเชื่อมภายในอู่ต่อเรือดังเช่นนี้เสมอด้วยความคุ้นชินตั้งแต่เด็ก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สวมหมวกนิรภัยในชุดรัดกุมถือแผ่นชาร์ตในมือเพื่อตรวจลำดับขั้นตอน หน้าคมเข้มแหงนมองขึ้นไปด้านบนของลำเรือสูงใหญ่ซึ่งคาดว่ากว่าจะประกอบเสร็จเรียบร้อยคงอีกนานหลายเดือน
อาเดรียโนกลับมาที่เจนัวร์ ประเทศอิตาลีได้ราวสามเดือนแล้ว แม้งานคืบหน้าไปบ้างแต่ยังมีข้อติดขัดจนล่าช้ากว่ากำหนด
“อาเดรียโน!”
เสียงตะโกนเรียกทำให้เขาละความสนใจจากงานตรงหน้ามองไปยังผู้เป็นพ่อ ชายขาวอิตาลีหุ่นใหญ่ผมสีเข้มที่ร่วงหล่นไปมากจนศีรษะล้านไปครึ่ง เขายิ้มแย้มอารมณ์ดีกวักมือให้ลูกชายเพียงคนเดียวเดินเข้าไปหา
“แกกลับมาเที่ยวนี้ตามใจแม่เขาหน่อยสิ”
“เรื่องอะไรครับ”
อาเดรียโนถอดหมวกนิรภัยออกเมื่อเข้ามาส่วนสำนักงานที่ต่ออย่างง่าย ๆ ด้วยตู้คอนเทนเนอร์มือสองที่ปรับปรุงทำสีใหม่จนสะอาด แล้วเดินไปหยิบขวดน้ำขึ้นยกดื่ม
“ก็เรื่องสาว ๆ นั่นแหล่ะ ผู้หญิงอิตาลีมักเจ้ากี้เจ้าการแบบนี้ ตามใจแม่เขาหน่อย ไปกินข้าวกับพวกสาว ๆ ที่แม่แกนัดไว้ พ่อจะได้สบายหู”
เขาหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยินพร้อมส่งเสียง ‘ฮึ’
“สบายหูพ่อ แต่ไม่สบายหูผมเลยนะครับ”
“ก็ไป ๆ เหอะ ยังไงแกก็ยังไม่มีใคร เปิดใจรับออกเดทให้แม่แกสบายใจ”
“พ่อรู้ได้ยังไงว่าผมไม่มีใคร?”
อาเดรียโนนั่งลงที่เก้าอี้แล้วยกเท้าขึ้นพาดบนโต๊ะทั้งสองข้างไขว่กันไว้ขณะยกน้ำดื่มจ้องตอบพ่อไม่วางตา
“เอ้ย! นี่แกซุกแฟนไว้เหรอไง ฮื้อ เดรียโน!”
“มัน ผมเองก็ไม่แน่ใจน่ะพ่อ มันเริ่มจากการดีลลับแต่พอเริ่มถลำลึกขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็ต้องกลับบ้านเสียก่อน”
ครืดดด!
เสียงลากเก้าอี้ทำให้เขาหันกลับไปจ้องตาพ่ออีกครั้ง รอยยิ้มกว้างของชายสูงวัยร่างใหญ่อย่างคนอารมณ์ดีทำให้เขาอุ่นใจเหมือนเคย
“งั้นเอาแค่ว่าแกรู้สึกยังไงตอนนี้”
“คิดถึง มากเลยครับ จนต้องการบินกลับไปเดี๋ยวนี้”
“แล้วถ้าเธอมีคนอื่น?”
“เรื่องอะไร นั่นผู้หญิงของผม!!”
เขาวาดเท้าลงจากโต๊ะส่งเสียงดังขึ้นด้วยใจอัดแน่นยามนึกภาพ ณิชในอ้อมกอดผู้ชายคนอื่น
“งั้นแกจะนั่งอยู่นี่ทำไมไอ้ลูกชาย แกจะปล่อยผู้หญิงคนนั้นไปให้ผู้ชายคนอื่นนั่นเหรอ”
“แต่ ผมต้องทำงานนี่ครับพ่อ ผมต้องกลับมา”
“ไอ้ลูกโง่ ไม่มีแกพวกพ่อก็ทำกันได้ ที่สำคัญกว่าอื่นใดคือผู้ชายอิตาลีจะไม่ยอมให้ผู้หญิงของพวกเขาถูกแย่งไป เราจะต้องดูแลให้เธอได้มีความสุข และจากนั้นก็ให้เธอมาบงการเราตลอดชีวิต”
อาเดรียโนตกตะลึง วางขวดน้ำบนโต๊ะแล้วลุกพรวดจากเก้าอี้เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ วีซ่าครั้งที่แล้วยังไม่ครบกำหนด แต่กว่าเขาจะจองเที่ยวบินได้คงอีกหลายวัน เขาจะกลับไปเพื่อไปตามหาหัวใจของตัวเอง ที่บรรณารักษ์สาวคนนั้นได้เปิดออกแล้วขโมยมันไปด้วย
ใช่แล้ว เขาจะกลับไปหาเธอ
อากาศเมืองไทยแดดเผาร้อนเช่นเคยเมื่ออาเดรียโนกลับมาเหยียบลงแผ่นดินนี้อีกครั้ง
กายแกร่งต้องการพุ่งตัวไปหาร่างนุ่มนิ่มโดยเร็วเพราะเสียเวลากลับบ้านมานานเกินไปแล้ว
นึกภาพหน้าหวานและเสียงก่นบ่นปนกระเง้ากระงอดของร่างระหงแล้วให้ยิ้มในหน้า เขาจะทำให้เธอเงียบเสียงลงเองด้วยเรี่ยวแรงแห่งความคิดถึงที่มีอยู่ข้างใน
วางกระเป๋าลงในห้องคอนโดมิเนียมที่ยังไม่ทันได้ขายออกไป แล้ววกร่างลงไปชั้นยี่สิบ กลับไปหาบรรณารักษ์สาวทันที
ก๊อก ก๊อก
คนร่างสูงขยับเท้าไปมาตื่นเต้นระคนวาดหวัง ต้องการมองหน้าหวานทำหน้าตกใจระคนแปลกยามที่เห็นเขาอีกครั้งตรงหน้าห้อง
แอ๊ด!!
คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อมองคนที่เปิดออกมาไม่ใช่บรรณารักษ์สาวร่างระหงดั่งที่คาดไว้
“อ้าว คุณ กลับมาทำไม!”
เสียงสารินตะวาดแว้ดออกมาดังลั่นเมื่อเห็นหน้าไอ้หนุ่มอิตาลีที่หักอกเพื่อนสาวเสียยับเยิน
“แล้วนิด?”
“ถามหาทำไมยะ นายทิ้งเพื่อนฉันไปแล้วไม่สาสมใจหรือไง หรือแวะมาเที่ยวเลยอยากหาสาวนอนด้วย”
“สาริน!!”
เสียงดนัยแฟนหนุ่มดังลอดออกมาจากภายในห้องพร้อมร่างสูงกว่าคนด้านหน้าผิวขาวจัด ยืนซ้อนด้านหลังมองชายหนุ่มอิตาลีที่มองตอบด้วยสายตามึนงง
“ผมเพิ่งเคยพบคุณครั้งแรก หล่อแบบนี้เอง นิดเลยใจสลาย”
“พวกคุณเป็นอะไรกันไปไหม ผมมาหานิด แล้วนิดไปไหน”
แม้ว่ายังมึนงงแต่ดูจากท่าทางของคนทั้งคู่ที่ทำราวกับว่าเขาทำให้ณิชอกหัก ทำให้น้ำเสียงทุ้มเริ่มหงุดหงิดไม่พอใจ ใจต้องการเห็นหน้าหวานแต่สองคนนี้เอาแต่พูดพร่ามเรื่องที่เขาไม่เข้าใจ
“นิดย้ายออกไปแล้ว”
“ย้ายไปแล้ว?”
“ใช่ นิดมันย้ายกลับบ้านไปแล้ว เพราะคุณ มันอกหัก”
“เพราะผม?”
“นี่คุณไม่รู้เลยหรือไงว่าทำไอ้นิดอกหัก”
“แต่ผมเพียงแค่กลับบ้านไปทำงาน ผมไม่ได้ตั้งใจหนี แล้วก่อนกลับผมติดต่อนิดไม่ได้เลย”
สารินและดนัยมองหน้ากันก่อนพยักหน้ารับว่า จริง! เพราะเพื่อนสาวปิดโทรศัพท์หนีขณะที่ทิ้งตัวนอนเป็นผักอยู่ในคอนโดนิเนียมอีกหลังของเพื่อนทั้งสอง
“ถ้างั้นคุณคงต้องไปตามหามันแล้วล่ะ มันย้ายกลับบ้านที่เยาวราช”
หน้าคมเข้มพอนึกออกเพราะเคยไปทานข้าวที่บ้านของเธอมาแล้วหนึ่งครั้ง
“โอเค ผมเคยไป แต่ไม่แน่ใจว่าจะไปถูกหรือเปล่า”
สารินมองหน้าดนัยคล้ายปรึกษาแล้วหันกลับไปหาคนร่างโตอีกครั้ง
“เอาอย่างนี้ แอดกันก่อน แล้วผมจะพิกัดบ้านนิดให้”
อาเดรียโนขอบคุณก่อนลากลับพร้อมตำแหน่งจีพีเอสบ้านหลังที่เคยไป หลังจากที่สารินส่งมาให้ทางข้อความ
ใจอัดแน่นด้วยความคิดถึง สามเดือนช่างยาวนานคล้ายไม่มีสิ้นสุด ร่างแกร่งสาวเท้าเร็วขึ้นเดินออกไปยังถนนใหญ่กวักมือเรียกแท็กซี่
ปัง!!
หน้าคมเข้มยิ้มในหน้า ใจวาดหวังว่าณิชเองคงรอเขาอยู่เช่นกัน ภายในใจภาวนาขอให้เป็นเช่นนั้น
“ป๊า!”
ชายสูงวัยกว่าเหลือบมองภรรยาที่ทำหน้าพยักเพยิกให้หันไปมองลูกสาวคนโต แต่เขาส่ายหน้าแล้วถอนหายใจสิ้นหวัง
ลูกสาวคนโตย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านได้เดือนกว่าแล้ว กลับมาแต่งตัวเหมือนเดิมสวมแว่นหนาเตอะ และตั้งแต่กลับมาบ้านเที่ยวนี้เงียบเสียงลงไปมากจนคนในบ้านหวาดหวั่น
คนเป็นพ่อมองลูกสาวที่นอนเหยียดกายบนตั่งไม้เตี้ย ๆ ตัวยาวที่ม๊ามักชอบนอนเล่นตอนกลางวัน
“ลื้อไม่ไปทำงานเหรออานิด”
หญิงสาวเหลือบตามองม๊าที่ถามเธอด้วยเสียงอ่อนแรง
“ลาห้าวัน ม๊ามีอะไรไหม”
“มะ ไม่มี ลื้อนอนไปเถอะ”
ณิชหลุบตาลงนอนต่อ เธอนอนหมดแรงมาตลอดสามเดือนและไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น เธอเลือกตัดสินใจออกจากคอนโดมิเนียมหรูเพราะมันทำให้เธอคิดถึงเขาตลอดเวลา
แต่พอเธอกลับมาบ้านแทนที่จะดีขึ้น เธอกลับมาพบกับใบหน้าที่แสดงความเห็นใจตลอดเวลาจนเธอเอียนเต็มทน
แล้วในที่สุดเธอก็ขอลาพักร้อนห้าวันเต็ม ห้าวันที่เธอสู้อุตส่าห์สะสมไว้มาหลายปีเพื่อตั้งใจไปพักผ่อนหน้าร้อนปีหน้า แต่อาการอกหักยับเยินทำให้เธอต้องขอหลบมาเลียแผลเสียก่อน
ร่างบางสูงโปร่งพลิกตัวหันนอนตะแคงข้างเข้าผนังบ้าน หันหน้าหนีหลบเร้นจากการจ้องจับผิดของคนในครอบครัว หลับตาลงนึกภาพสุดท้ายที่เจอเขาคือเช้าวันที่เธอบอกรัก และเป็นวันที่เขาบอกว่าต้องกลับบ้าน
เธอไม่โทรศัพท์หาเขาหรือติดต่ออีก ปิดช่องทางสื่อสาร เธอทำเพียงหนีไปเลียแผลเหวอะหวะของตัวเองที่ห้องสาริน แต่เมื่อเธอเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งก็ไม่มีข้อความเสียงหรือข้อความตัวอักษรของเขาเช่นกัน
หน้าหวานหลับตาแน่นพยายามไม่นึกภาพของคืนสุดท้ายอันแสนอ่อนหวาน และก่นด่าตัวเองที่ตอนนี้เลือกมาหลบอยู่กับพ่อแม่
เธอน่าจะย้ายออกไปอยู่ที่เดิมก็หมดเรื่อง ยิ่งเธอกลับมาบ้านทุกคนก็ทำเหมือนว่าเธอเป็นคนอ่อนแอช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และเธอเกลียดมัน
บทที่ 22 ผมคิดว่าผมลืมของไว้ จบบริบูรณ์“เจ้ เจ้ เจจจจจจ้!!!”เสียงเรียกเอะอะของณภัทรที่วิ่งปรูดเข้ามาด้านในหลังบ้านทำเธอตกใจสะดุ้งลุกพรวดขึ้นนั่งบนตั่งไม้“อะไร!! จะเสียงดังทำไม!”“เจ้ต้องไม่เชื่อสายตาตัวเองแน่ว่าใครมา”ณิชนิ่วหน้าหันมองม๊ากับป๊าที่นั่งหน้าฉงนมองตรงไปยังประตูทางเข้าเมื่อจู่ ๆ แสงสว่างด้านนอกก็พลันมืดลงเป็นเงาเยามคนร่างสูงใหญ่เดินลอดผ่านเข้ามา ใบหน้าคมเข้มมีเคราขึ้นครึ้ม และดวงตาสีน้ำตาลดุจเหยี่ยวคู่นั้นมองตรงมาทางเธอ“อาเดรียโน!”“ลูกเขย!!”ณิชไม่มีเวลาหันกลับไปบอกแม่ว่าให้เงียบเสียงเพราะอาเดรียโนยังเดินตรงมาทางเธอแล้ว ร่างระหงรู้สึกมือไม้ยาวเก้งก้างไม่รู้ว่าจะวางไว้ตรงไหน และที่สำคัญเธอยังสวมชุดนอนของเมื่อคืนทั้ง ๆ ที่มันบ่ายสามเข้าไปแล้ว!“ผมขอคุยกับนิดตามลำพังได้ไหมครับ”ณิชยังไม่ทันอ้าปากบอกพ่อกับแม่ ก็ดูเหมือนพ่อกับแม่ของเธอฟังภาษาอังกฤษออกภายในชั่ววินาทีนั่น ทั้งหมดหายวับไปด้านนอกทันที ทิ้งเธอให้นั่งบนตั่งไม้และอาเดรียโนที่ยืนค้ำเธออยู่“ฮะ แฮ่ม ๆ คุณกลับมาแล้ว”หน้าหวานแหงนมองร่างสูงคอตั้งบ่า พยายามหาเสียงของตัวเอง กระแอ่มเรียกสติที่กระเจิดไปนานแล้วตั้งแต่มองเ
บทที่ 1 ณิช ค่ำวันศุกร์เป็นอีกวันหลังเลิกงานของใครทั้งหลายในกรุงเทพมหานคร ผู้คนพากันประดังประเดมาใช้บริการรถไฟฟ้าเพื่อเตรียมตัว บ้างกลับบ้าน บ้างนัดแฮงเอ้าท์ บ้างมีนัดมื้อค่ำกับชายหนุ่มหญิงสาวอายุราวสามสิบ ร่างค่อนข้างสูงกว่าหญิงไทยทั่วไป รูปร่างโปร่งบาง ผิวขาวออกซีดเผือดเพราะแทบไม่เคยเจอแดด สวมแว่นสายตาสั้นหนาจนปิดบังดวงหน้าไปทั้งดวง แต่ยังพอเห็นเค้าลางว่ากรอบใบหน้ารูปไข่ โหนกแก้มยกสูง คิ้วดกหนาไม่ได้รับการตัดแต่ง นั่งอยู่บนรถไฟฟ้าช่วงเวลาเลิกงานของชาวกรุงเทพเธอเม้มปากบางเฉียบแต่กว้างกว่าหญิงทั่วไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว มองไปฝั่งตรงข้ามผ่านลอดท่อนขาของใครอีกหลายคนที่ยืนเบียดเสียดกันอยู่ ภาพตรงหน้าที่เธอลอบจ้องมองคือเด็กหนุ่มสาวหนึ่งคู่นั่งกุมมือกระซิบกระซาบหยอกล้อแบบไม่เกรงใจใครณิช ลิ้มวัฒนามหาโชค หรือเดิมแซ่ลิ้ม แต่พ่อกับแม่เพิ่งไปแจ้งเปลี่ยนนามสกุลเมื่อตอนเธออยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่หก เธอไม่ชอบนามสกุลใหม่เลยสักนิด นามสกุลเจ็ดพยางค์ที่มักโดนเพื่อนล้อเป็นประจำหญิงสาวขยับร่างเอียงตัวไปด้านซ้ายเพราะท่อนขาของคนด้านหน้าขยับบังกิจกรรมของสองหนุ่มสาวฟากตรงข้าม ขยับแว่นสายตาอีกครั้งเพื่อจ้อง
บทที่ 2 ชีวิตสาวโสดวัยสามสิบ!!ชีวิตสาวโสดวัยสามสิบ!!ณิชโยนกระเป๋าไปยังโซฟาเล็กมุมห้องพักราคาถูก ก่อนจะล้มตัวลงนอนมองเพดานสีเขียวที่เธอแสนเกลียดใบหน้าเรียวรูปไข่พลิกหน้าไปยังตู้เสื้อผ้าใบเล็กที่อัดแน่นด้วยเสื้อผ้าจนไม่มีที่แทรกต้องแขวนทะลักออกมาด้านนอกชีวิตสาวใกล้ขึ้นคานเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า?คิ้วย่นเล็กน้อยเมื่อคิดไปถึงยามแก่เฒ่าชราภาพมากกว่านี้ อย่าแค่ว่าบันไดเลย เดินไปขึ้นรถประจำทางคงทำไม่ได้เฮ้อ!! อีกหน่อยคงนอนอืดตายโดยที่ไม่มีใครรู้ว่ามีเธออยู่บนโลกใบนี้ตื๊ด ตื๊ดเสียงโทรศัพท์ทำให้สาวร่างสูงจำใจลุกขึ้นจากเตียงอย่างเกียจคร้านไปยังโซฟาตัวเล็กแม้ว่ามันจะใกล้แค่เดินสามก้าวเท่านั้น“ฮัลโหลววววว สาววว พรุ่งนี้มาคอนโดฉันไหม”สารินเพื่อนรักเรียนมาจากคณะเดียวกัน แต่สารินเลือกที่ไปเป็นเซลล์และเพื่อนรักก็ทำมันได้ดีจนทั้งเงินเดือนและโบนัสพุ่งสูงลิบ ผิดกลับเธอที่เลือกทำงานบรรณารักษ์ พลันนึกถึงคอนโดมิเนียมของสารินตั้งอยู่ใกล้ที่ทำงานของเธอทั้งหรูและสบาย“ก็ไม่เลวนะ ฉันกำลังมีเรื่องไปปรึกษาพอดี”“เยี่ยมไปเลย ซื้อไวน์มาด้วยล่ะ”“โอนเงินมาสิ นี่ใกล้สิ้นเดือนแล้ว”“โอ้ยยยยยย! แม่ขี้ตืด ฉัน
บทที่ 3 ป้าเสียงหวานแหลมกระแทกเสียงเล็กน้อยไม่พอใจ มือเรียวหยิบโทรศัพท์ออกมาทุลักทุเลเพราะขวดไวน์แสนหนักอึ้งในกระเป๋าผ้าสามขวด และยังถุงขนมใบใหญ่ร่างสูงโปร่งเดินเข้าบันไดโถงหน้าเมื่อจัดการชำระค่าโดยสารเรียบร้อย คอนโดมิเนียมราคาแพงค่อนข้างเข้มงวดแต่เนื่องจากเธอมาบ่อยทำให้ลุงยามรักษาความปลอดภัยจำหน้าเธอได้ เธอจึงเดินเข้ามายังด้านในโดยไม่ต้องแจ้งเจ้าของห้องก่อน“ป้า!!!!!”เสียงตะโกนทุ้มไล่หลังขณะที่เท้าบางกำลังเดินขึ้นบันไดทำให้ณิชชะงักเท้ามองซ้ายขวาฉุนกึกในใจอย่าบอกนะว่าเรียกฉัน!!“เรียกใคร!!”“ป้านั่นแหล่ะ ป้าลืมถอดหมวกกันน็อก”เธอยกมือขึ้นจับศีรษะทั้งที่มือหิ้วของพะรุงพะรัง เสียงถุงพลาสติกขนมของกินส่งเสียงก็อกแก็ก พยายามแกะสายรัดใต้คางกระแทกกระทั้นแล้วถอดส่งคืนให้หนุ่มวินแต่ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวทำให้ณิชลงแรงหนักมือ สายรัดเกี่ยวยางรัดผมราคาถูกจนขาด ผมที่มวยไว้เลยทิ้งตัวลงกลางหลังดกหนาจนวินมอเตอร์ไซค์ยังอ้าปากค้าง“เอ้า!! เอาไป ทีหลังเจออย่าเรียกป้าอีก! ไม่ชอบ!”หนุ่มวินรับหมวกไปแต่หน้ายังจ้องสาวแว่นไม่วางตา เพียงเธอปล่อยผมลงมาจากสาวแก่กลายเป็นสาวสวยได้ในพริบตา แต่ร่างสูงโปร่งไม่ใส่ใจห
บทที่ 4 อาเดรียโน“ไอ้บ้า! คนเฮงซวย! รู้ไหมตัดแว่นครั้งหนึ่งมันแพงแค่ไหน ยิ่งค่าสายตาสั้นขนาดนี้ แล้วกว่าจะได้ ทำไมต้องมายืนขวางทาง บ้าฉิบ!”“ผมฟังคุณไม่รู้เรื่องเลย พูดภาษาอังกฤษสิ”ณิชเม้มปากตึงก่อนยืดกายขึ้นสูงยกแว่นในมือโบกตรงหน้าเขาแล้วพูดขึ้นด้วยภาษาไทยอย่างไม่สนใจ“เรื่องอะไร ก็ที่ฉันต้องพูดภาษาไทยก็เพราะฉันกำลังด่าคุณอยู่ ถอยไปไอ้ฝรั่ง”ในบรรดาคำหลายคำของภาษาไทย คำว่า ฝรั่ง เป็นคำแรก ๆ ที่เขารู้จัก เพราะคนไทยทุกคนเรียกคนต่างชาติว่าฝรั่ง“คุณกำลังพูดไม่สุภาพ”น้ำเสียงทุ้มต่ำเชิงตำหนิทำให้หน้าเรียวเล็กเห่อร้อนจนพ่วงแก้มสองข้างแดงก่ำ แต่ยังพยายามรักษาภาพลักษณ์ทำเป็นไม่ใส่ใจ ณิช ฝรั่งมันไม่รู้เรื่องหรอกมือเล็กสะบัดมือลง เบี่ยงกายออกเพื่อเดินขึ้นบันได แต่พอก้าวเท้าพลันสะดุดกับขั้นบันไดจนเกือบล้ม ยังดีคนร่างโตฉับไวกว่าส่งอ้อมแขนแข็งแรงคว้าเธอไว้อีกครั้ง“เดี๋ยวผมช่วยพาคุณไปส่งที่ห้องแล้วกัน”“ฉันไปเองไม่ต้องยุ่ง!!”“พูดภาษาอังกฤษสิ!! แบบนี้จะรู้เรื่องได้ยังไง”น้ำเสียงทุ้มเรียบหงุดหงิดเห็นได้ชัด ด้วยความที่เธอเองเคยเป็นคนมีมารยาทมาบ้าง! จึงเกิดความละอายใจเล็กน้อย ความจริงมันก็ไม่ใ
บทที่ 5 บรรณารักษ์สาวแก่ณิชทำงานที่ห้องสมุดเอกชนแห่งนี้มาตั้งแต่เธอเรียนจบ เธอรู้จักพื้นที่ทุกตารางนิ้วในห้องสมุดรวมไปถึงหนังสือทุกเล่มที่อยู่ในชั้น เนื่องจากเธอเป็นคนเลือกมันเข้ามาไว้เองกับมือหนังสือทั้งหมดเป็นหนังสือภาษาอังกฤษ และคนที่มาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่ทำงานหรืออยู่ในละแวกนี้ปัก! ปัก! ติ๊ด!ร่างระหงเดินไปเปิดไฟและเครื่องปรับอากาศเพื่อไล่ความชื้นทันทีที่เข้ามา หนังสือบางเล่มค่อนข้างเก่าและหายาก ทั้งเมืองไทยร้อนชื้นทำให้เธอต้องเปิดเครื่องปรับอากาศในอุณหภูมิที่เหมาะสมเกือบตลอดเวลายกเว้นเมื่อเธอกลับออกไปแล้วมือเรียวเดินไปเปิดระบบคอมพิวเตอร์ทุกตัวที่มีสำหรับให้บริการสืบค้นข้อมูล แล้วกลับมายังรถเข็นที่เธอทิ้งหนังสือของเมื่อวานไว้เพื่อเตรียมนำไปไว้วางบนชั้นดวงตาสีเข้มภายใต้คอนเทคเลนส์สีน้ำตาลอ่อนที่สารินเลือกให้เมื่อวานเหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนัง อีกเพียงสิบนาทีจะถึงเวลาเปิดทำการมือเล็กถือผ้าผืนเล็กรีบจัดการปัดฝุ่นตามโต๊ะและชั้นหนังสืออย่างรวดเร็ว ด้วยความที่มันไม่ได้สกปรกมีฝุ่นเกาะมากนักทำให้เรียบร้อยทันเวลาพอดี เสียงสัญญาณไฟฟ้าดังขึ้นเมื่อมีคนเดินเข้าประตูมาหน้าหวาน
บทที่ 6 สามี ฉันจะหาจากไหนได้ปัง!ณิชกระแทกประตูปิดตามหลังอย่างแรงเมื่อกลับถึงห้อง นึกไปถึงชายหนุ่มร่างสูงวันนี้แล้วให้สะท้านกายเมื่อวานนี้สารินและดนัยพาเธอเข้าออกร้านเล็กร้านน้อยทั้งทำผมทำตัว และยังซื้อเสื้อผ้าใหม่ทั้งหมดเพียงเธอบอกว่าต้องการหาสามีทั้งสองคนบอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้ถ้าเธอยังใช้ชีวิตในร่างสาวแก่แล้วจะมีผู้ชายมาสนใจ พลันคิดไปถึงผู้ชายคนนั้น ตอนนี้เธอเจอเข้าแล้วหนึ่งคน แต่เขาเป็นผู้ชายจำพวกอยู่ห่างไกลกับคำว่า ‘แต่งงาน’ปลายเดือนนี้เธอจะย้ายเข้าไปอยู่คอนโดมิเนียมของสารินเพราะเพื่อนทั้งสองตกลงปลงใจย้ายไปอยู่ด้วยกันเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนเธอจำเป็นต้องหาสามีที่ดี สามีที่มีเงินพอจะเลี้ยงดูและช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ฉะนั้นการอยู่ในสถานที่ที่คาดว่าผู้ชายเหล่านั้นจะอาศัยอยู่เป็นส่วนหนึ่งของแผนมองหาสามีร่างระหงทิ้งตัวลงกลางเตียงอย่างหมดสภาพ เธอยอมรับว่าการเดินทางในแต่ละวันสูบทั้งเวลาและแรงกายไปจากเธอหนักหน่วง ยอมลงทุนจ่ายค่าเช่าแพงหน่อยแต่ลดเวลาการเดินทางจะทำให้เธอมีเวลาเพียงพอมองหาสามีสามี ฉันจะหาจากไหนได้ณิชคว้ามือถือขึ้นมายกเหนือใบหน้าขณะที่ยังนอนแผ่หาบนเตียง สารินแนะน
บทที่ 7 ลิฟต์พาฉันขึ้นไปที“เบา ๆ หน่อยสิคะ!”เสียงของสาวร่างสูงทำน้ำเสียงเอ็ดดุ ดั่งครูใหญ่บ่นเด็กนักเรียนวิ่งซนตาหวานกลมโตเฝ้าจดจ้องราวจับผิด มองคนงานขนย้ายของ นั่นคือหนังสือจำนวนมหาศาลเข้ามาไว้ในห้องนอนคอนโดมิเนียมของสาริน“นิด ถามหน่อยเถอะ ผู้ชายที่ไหนจะยอมแต่งกับแกถ้าเข้ามาในห้องนอนแล้วเห็นแต่กองหนังสือพวกนี้”สารินหยิบหนังสือนิยายโรมานซ์หน้าปกวาบหวิวเก่าเก็บ ดูแล้วอายุของหนังสือคงเกือบสิบปีขึ้นมาปัดฝุ่นก่อนเปิดออกอ่าน แล้วหัวเราะออกมาตัวงอ“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นิด นี่แก พรืด!!”หมับ!!ณิชกระชากหนังสือออกมาจากมือเพื่อนรักก่อนวางไว้ที่เดิม ทำหน้าบึ้งตึงใส่“ทำไม นี่มันรสนิยมการอ่านของฉัน”“แต่เพื่อนสาว มันไม่มีหรอกนะแบบในนิยายพวกนี้ ไอ้แบบประโลมกอดจูบ สมัยนี้มันต้องเร่าร้อน ปั๊บ ๆ ๆ ๆ”ณิชคว้าหมับเข้าที่มือเพื่อนเมื่อเห็นสารินกำลังกุมมือเข้าหากันแล้วทำท่าใช้สันฝ่ามือกระแทกใส่กันเป็นจังหวะประกอบเสียงพูด พ่วงแก้มแดงก่ำอายพนักงานขนย้ายบ้านที่พากันยิ้มกว้าง“บ้าจริงสาริน พอเถอะ อ้อ แล้ววันนี้อยู่เลี้ยงฉลองขึ้นห้องใหม่กันไหม ฉันซื้อไวน์ไว้เยอะเลย”“ไม่ได้หรอกจ้า บังเอิญต้องไปกินข้าวบ้านผัวววว
บทที่ 22 ผมคิดว่าผมลืมของไว้ จบบริบูรณ์“เจ้ เจ้ เจจจจจจ้!!!”เสียงเรียกเอะอะของณภัทรที่วิ่งปรูดเข้ามาด้านในหลังบ้านทำเธอตกใจสะดุ้งลุกพรวดขึ้นนั่งบนตั่งไม้“อะไร!! จะเสียงดังทำไม!”“เจ้ต้องไม่เชื่อสายตาตัวเองแน่ว่าใครมา”ณิชนิ่วหน้าหันมองม๊ากับป๊าที่นั่งหน้าฉงนมองตรงไปยังประตูทางเข้าเมื่อจู่ ๆ แสงสว่างด้านนอกก็พลันมืดลงเป็นเงาเยามคนร่างสูงใหญ่เดินลอดผ่านเข้ามา ใบหน้าคมเข้มมีเคราขึ้นครึ้ม และดวงตาสีน้ำตาลดุจเหยี่ยวคู่นั้นมองตรงมาทางเธอ“อาเดรียโน!”“ลูกเขย!!”ณิชไม่มีเวลาหันกลับไปบอกแม่ว่าให้เงียบเสียงเพราะอาเดรียโนยังเดินตรงมาทางเธอแล้ว ร่างระหงรู้สึกมือไม้ยาวเก้งก้างไม่รู้ว่าจะวางไว้ตรงไหน และที่สำคัญเธอยังสวมชุดนอนของเมื่อคืนทั้ง ๆ ที่มันบ่ายสามเข้าไปแล้ว!“ผมขอคุยกับนิดตามลำพังได้ไหมครับ”ณิชยังไม่ทันอ้าปากบอกพ่อกับแม่ ก็ดูเหมือนพ่อกับแม่ของเธอฟังภาษาอังกฤษออกภายในชั่ววินาทีนั่น ทั้งหมดหายวับไปด้านนอกทันที ทิ้งเธอให้นั่งบนตั่งไม้และอาเดรียโนที่ยืนค้ำเธออยู่“ฮะ แฮ่ม ๆ คุณกลับมาแล้ว”หน้าหวานแหงนมองร่างสูงคอตั้งบ่า พยายามหาเสียงของตัวเอง กระแอ่มเรียกสติที่กระเจิดไปนานแล้วตั้งแต่มองเ
บทที่ 21 เขาจะกลับไปหาเธอตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง!เสียงเคาะเหล็กและเสียงอ็อกเชื่อมภายในอู่ต่อเรือดังเช่นนี้เสมอด้วยความคุ้นชินตั้งแต่เด็ก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สวมหมวกนิรภัยในชุดรัดกุมถือแผ่นชาร์ตในมือเพื่อตรวจลำดับขั้นตอน หน้าคมเข้มแหงนมองขึ้นไปด้านบนของลำเรือสูงใหญ่ซึ่งคาดว่ากว่าจะประกอบเสร็จเรียบร้อยคงอีกนานหลายเดือนอาเดรียโนกลับมาที่เจนัวร์ ประเทศอิตาลีได้ราวสามเดือนแล้ว แม้งานคืบหน้าไปบ้างแต่ยังมีข้อติดขัดจนล่าช้ากว่ากำหนด“อาเดรียโน!”เสียงตะโกนเรียกทำให้เขาละความสนใจจากงานตรงหน้ามองไปยังผู้เป็นพ่อ ชายขาวอิตาลีหุ่นใหญ่ผมสีเข้มที่ร่วงหล่นไปมากจนศีรษะล้านไปครึ่ง เขายิ้มแย้มอารมณ์ดีกวักมือให้ลูกชายเพียงคนเดียวเดินเข้าไปหา“แกกลับมาเที่ยวนี้ตามใจแม่เขาหน่อยสิ”“เรื่องอะไรครับ”อาเดรียโนถอดหมวกนิรภัยออกเมื่อเข้ามาส่วนสำนักงานที่ต่ออย่างง่าย ๆ ด้วยตู้คอนเทนเนอร์มือสองที่ปรับปรุงทำสีใหม่จนสะอาด แล้วเดินไปหยิบขวดน้ำขึ้นยกดื่ม“ก็เรื่องสาว ๆ นั่นแหล่ะ ผู้หญิงอิตาลีมักเจ้ากี้เจ้าการแบบนี้ ตามใจแม่เขาหน่อย ไปกินข้าวกับพวกสาว ๆ ที่แม่แกนัดไว้ พ่อจะได้สบายหู”เขาหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยินพร้อมส่งเสียง ‘ฮึ
บทที่ 20**NC“อือ อาเดรียโน ยังเช้าอยู่เลย”“อืมมม อีกรอบก่อนไปทำงานไงคาร่า คุณจะได้คิดถึงผมมาก ๆ”เขาดันลำแขนของเธอให้โอบรอบท้ายทอยเขาไว้ โน้มศีรษะลงบรรจงโหมไฟยามเช้า มือค่อยลูบลงไปยังสะโพกผายกอบกุมช้อนก้นงามก่อนจะวกมาด้านหน้าล้วงลึกเข้าสู่เนินงามกลางหว่างขา“แฉะแล้วคนสวย อืมม และหวาน”ถ้าเปรียบอาหารเช้าแบบเร่งรีบของคนเมืองคงไม่เหมือนการร่วมรักของอาเดรียโนในเช้าวันนี้เท่าไร เพราะเขาใส่ใจทุกรายละเอียดเสียจนเธออ่อนระทวยด้วยไฟพิศวาส มือวาดไปทั่วลำตัวไม่เว้นแม้ตารางนิ้วเดียว เขาพรมจูบลงไปยังข้อเท้าเล็กตวัดลิ้นลากเป็นทางถึงหัวแม่เท้าพร้อมดูดกินจนเธอสะท้าน ได้แต่นอนมองเสียวซ่าน ลิ้นร้อนเลื่อนกลับไปยังข้อพับใต้เข่าขึ้นสู่ต้นขามุ่งตรงเข้าหุบเขาไร้ขนเนียนงาม เปิดแย้มซอกหลึบออกก่อนที่ปลายลิ้นสากไล้ลากตวัดเอาน้ำหวานขึ้นมาร่างสูงของคนด้านบนไถลตัวเลื่อนขึ้นเพื่อส่งจูบร้อนแรงปะปนน้ำหวานของตัวเธอเอง ส่งลิ้นถลำลึกล้วงกวาดจนเธอแอ่นรับกอดกระหวัดรัดแล้วพลิกตัวจนเธอขึ้นมาอยู่ด้านบน“ควบขับผมคาร่า ทำให้ผมดูสิว่าคุณคิดถึงผมแค่ไหนระหว่างที่ผมไม่อยู่”ณิชยันกายขึ้นแล้วค่อยขยับจนกระทั่งร่องสาวเปียกชื้นพอดีก
บทที่ 19 คิดถึง“อาเดรียโนไปไหน ทำไมไม่มาด้วย”“ไปทำงานม๊า”เนี่ยเห็นไหม เธอยังไม่ทันนั่งเสียงคาดคั้นของม๊าก็ดังขึ้น เธอทำได้แค่ลอบถอนหายใจ มองอาเจ็กกับซ้อที่แม่เชิญมา แม่คงอยากจะอวดเขยใหม่แต่หารู้ไม่?“ลื้อหลอกพวกอั๊วใช่ไหมอานิด”“เปล๊า!! เขาไปทำงานจริง ๆ”“ให้มันจริงนะ ม๊าไปหาหลวงพ่อที่วัดมาแล้ว เขาบอกอย่าให้เกินสิ้นปีนี้ ไม่งั้นดวงลื้อจะพลาดไปอีกสองปี”“ห๊า!! ม๊า!! ทำไมต้องไปทำอะไรแบบนี้ด้วย นี่เราเพิ่งจะเป็นแฟนเองนะ เรายังไม่ทันได้ตกลงด้วยเลย”“เออ!! รีบหาไว้ก่อน เพื่อได้ใช้ขึ้นมาจะไม่มีฤกษ์ อ้อ ม๊าดูของชำร่วยไว้แล้วไม่อยากได้ตะเกียบมันเชย เอาเป็นตุ๊กตาคู่ดีกว่า”“ม๊า!! ป๊าก็ช่วยพูดให้ม๊าเข้าใจหน่อยสิ มันยังไม่ถึงเวลา”“เออ ป๊าก็ไปดูชุดไว้แล้ว ว่าจะเตรียมเงินจัดงานให้ลื้อสักก้อน โต๊ะจีนก็สักร้อยโต๊ะก็พอไม่ต้องใหญ่มาก”“ป๊า!!”ณิชหันมองน้องชายที่นั่งหัวเราะตัวงอ ยังได้ยินเสียงม๊าและป๊าหันไปปรึกษาหารือกับอาเจ็กเรื่องสถานที่ว่าจะจัดที่ไหนถึงจะสะดวก เธอจึงได้แต่นั่งฟังไม่ออกความคิดเห็นอาเดรียโนคุณจะรู้บ้างไหมว่าพ่อกับแม่ฉันอยากได้คุณเป็นเขยขนาดไหนติ๊ด ติ๊ด!ตายยากเสียจริง!“ม๊า ป๊า
บทที่ 18 ชอบเขาเข้าให้แล้ว!เขาจูงมือจนกระทั่งเธอเดินมาถึงโต๊ะอาหารจึงปล่อยให้ร่างบอบบางนั่งลงเอง ส่วนเขานั่งลงฝั่งตรงข้ามกัน“หอมจังเลย น่าเสียดายที่มองเห็นข้างเดียว”อาเดรียโนยิ้มกว้างโบกช้อนตรงหน้าไปมาเพื่อทดสอบว่าเธอมองเห็นจริงไหม ณิชยกมือขึ้นมาปัดแต่ไม่โดนสองสามรอบยิ่งทำให้อาเดรียโนหัวเราะออกมาเสียงดัง“อย่าเพิ่งแกล้งกันสิ เดี๋ยวจะโมโหหิว”เขาเอนกายพิงพนักเก้าอี้มองหญิงสาวตรงหน้าที่พยายามจิ้มเนื้อมีทบอลแต่ยังไม่โดน พลาดซ้ายบ้างขวาบ้าง หน้าหวานซึ้งบึ้งตึงเม้มปากไม่พอใจที่ตัวเองทำไม่สำเร็จสักที อาเดรียโนยกมือขึ้นจับมือบางเรียวไว้“เดี๋ยวผมทำให้”น้ำเสียงอ่อนโยนทำให้เธอเงยหน้าขึ้นจากจานสปาเกตตี้กระทั่งเนื้อมีทบอลมาจ่อปากจึงนั่งอ้าปากกว้างรอรับแต่โดยดี“อร่อยไหมคนสวย”“อือม อร่อยมากอาเดรียโน ทำไมคุณถึงทำอาหารได้อร่อยแบบนี้นะ”“แม่ผมเป็นคนสอน ผมมักต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังต้องอยู่คนเดียว เลยชอบทำอาหารทานเองบ่อย ๆ อีกอย่างผู้ชายอิตาลีต้องทำอาหารเป็น”“ทำไมล่ะ”อาเดรียโนลอบยิ้มหลุบตาขึ้นมองหน้าหวานยังอมยิ้มในปากเคี้ยวมีทบอลจนซอสเลอะขอบปาก“เพราะผู้ชายอิตาลีต้องเลี้ยงผู้หญิงให้อิ่ม
บทที่ 17**NC“อ่า โอ๊ย! อ่า อาเดรียโน! เดี๋ยวหยุดก่อน อื้อ”มือเล็กดันอกแกร่งไว้เมื่อเอ็นเนื้อท่อนใหญ่แหวกผ่านปราการแสนบางเข้ามา ความรู้สึกถูกชำแรกแยกออกกว้าง รู้สึกอึดอัดยามลำยักษ์อยู่ในโพรงสาว“ซี้ดดด อ่า เจ็บไหม อีกนิด รออีกนิด”คนร่างโตพยายามอยู่นิ่งให้สาวใต้ร่างคุ้นเคยกับความใหญ่โตที่เสียดแทรกภายใน จากนั้นจึงเริ่มขยับไหวถอนออกรูดเกือบสุดแล้วดันเข้า เขาทำซ้ำอีกครั้งเชื่องช้า และมันช่างแสนทรมาน ปลายหัวป้านสัมผัสภายในอันอ่อนนุ่มแสนหวาน ทั้งแคบและตอดรัด“อา อื้อ ฉันไม่เจ็บแล้ว อาเดรียโน เร่งอีกนิดไม่ได้เหรอคะ”ร่างสูงใหญ่ข้างบนเปลี่ยนท่าทางเท้าฝ่ามือซ้ายข้างลำตัวสาวงาม อีกข้างจับข้อพับใต้หัวเข่าณิชไว้ดันจนชิดหน้าอกอวบอิ่ม แล้วขยับเคลื่อนไหวอีกครั้ง“แบบนี้ไหมคาร่า แรงพอหรือยัง”ตับ ตับ ตับเธอแทบกรีดร้องเมื่อร่างแกร่งโหมลงโถมแรงด้วยสะโพกสอบ ร่างเธอสั่นสะเทือนไปทั้งกาย มือไขว่คว้าบ่ากำยำไว้จิกแน่น ยามท่อนยาวรูดผ่านร่องรักตามลำยาวให้ความรู้สึกเสียวสะท้าน ปลายหัวดันจุดอ่อนไหวข้างในเป็นจังหวะอาเดรียโนขยับเปลี่ยนท่าอีกครั้ง ยืดกายตั้งตรงนั่งคุกเข่าจับข้อเท้าบอบบางดึงกระทั่งร่างของเธอขยับ
บทที่ 16**NCคนร่างระหงรู้ตัวอีกครั้งเมื่อแผ่นหลังจมลงบนฟูกนอนนุ่มหลังใหญ่ภายในห้องนอนสีเทาอ่อน อาเดรียโนรวบร่างของเธอขึ้นทันทีหลังจากจบประโยคอันแสนเร้าใจร่างสูงใหญ่โถมกายบดเบียดร่างเธอ ต้นขายาวเพรียวสัมผัสได้ว่าร่างของเขาเปลือยเปล่า เขาดึงผ้าเช็ดตัวผืนนั้นออกตอนไหนเธอเองก็แน่ใจ แต่ที่แน่ ๆ มันทำให้เอ็นร้อนทาบลงมาบนผิวอ่อนนุ่มตรงโคนขาขาว“อาเดรียโน อ่า ช้า ๆ ลงหน่อย”ชายหนุ่มด้านบนดันตัวขึ้นมาจากซอกคอที่กำลังขบเม้ม ดวงตาสีน้ำตาลเข้มล้ำลึก ไฟปรารถนาลุกโชน“ฉะ ฉันตามไม่ทัน”รอยยิ้มร้ายกาจพลันปรากฎบนหน้าแกร่ง มันทำให้ร่างของเธอสะท้านกลัวเกรง ลำแขนเรียวงามที่กอดก่ายเขาไว้ยังคงลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังกว้างแน่นด้วยกล้ามเนื้อเธอเผยอปากวอนขอจูบหนักหน่วงเพื่อบรรเทาบางสิ่งที่กำลังก่อตัวข้างใน เมื่ออาเดรียโนโน้มศีรษะลงครอบครองปากเย้ายวนของเธอ บางอย่างข้างในร่ำร้อง เขาโจนจ้วงลิ้นสากโลมเลียอยู่ในโพรงปากและมันทำให้เธอต้องการเปลือยเปล่าเช่นเดียวกับเขา“ผมจะพยายามไปช้า ๆ แม้ว่าไม่เคยทำมาก่อนก็ตาม”“อื้อ ไม่เคยทำช้า ๆ ยังงั้นเหรอ อื้อ อ่า”“ซิ คาร่า เพราะผมไม่จำเป็นต้องช้ามาก่อน แต่กับคุณ อืมม ซิ ใช้ลิ้
บทที่ 15 ง้อสักหน่อยปัง!!“ถ้าอยากก็บอกดีดี จะจัดให้”“อาเดรียโนจะบ้าหรือไง นั้นแค่คู่เดท คุณอย่าลืมนะว่าไม่มีในสัญญา เราตกลงกันแค่แสดงละครให้พ่อกับแม่ฉันดู แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้ฉันเดทหาคู่ โอ๊ย! เจ็บนะ ปล่อย!!”“ไหนมันจูบตรงไหน”“อย่านะ เดี๋ยวก่อน ใจเย็น ๆ สิอาเดรียโน!”“ที่กับผมไม่ยอมเสียความบริสุทธิ์ อ้างแต่พรหมจรรย์ แต่พอเป็นคนอื่นคงนอนแผ่เต็มที่”เพียะ!!หน้าคมเข้มหน้าหันไปตามแรงมือของณิช อาเดรียโนตวัดหน้ากลับมาจ้องเธอด้วยดวงตาวาวโรจน์ แต่แรงมือนั่นทำให้สติของเขากลับคืนมา เขาเพิ่งเคยรู้จักอาการหึงหวงหน้ามืดก็วันนี้เองไฟในอกอัดแน่นจนไม่สามารถอยู่นิ่งได้ เขากระชากมือของณิช จนร่างกระแทกอกร้อนทั้งแกร่งและหนั่นแน่น ก้มศีรษะลงมองดวงตาวาวโรจน์และตื่นกลัวบนหน้าหวานมือสีเข้มสลัดมือออกจนร่างของณิชเซถอย กายแกร่งเดินหันกลับออกไปด้วยใจรุ่มร้อน ดวงตาพร่ามัวด้วยฤทธิ์แรงหึง และถ้าขืนยังอยู่ต่อตรงนั้น ตัวณิชเองคงไม่รอดมือเขาปัง!คนร่างเล็กทรุดลงกับพื้นอ่อนแรง อาการหวาดกลัวลามไปทั่วร่าง กายสาวสะท้าน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นดวงตาวาวโรจน์ลุกโชนน่ากลัว ซึ่งเธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นนับแต่ที่เขาห
บทที่ 14 ก็แค่ลองจูบคนอื่นดูบ้างตึก! ตึก!เสียงวางหนังสือเข้าชั้นในยามเช้าตามแรงอารมณ์ของบรรณารักษ์สาว เวลานี้ยังไม่ถึงเวลาทำการเธอไม่ต้องใส่ใจว่าจะมีผู้ใช้บริการท่านใดรำคาญหรือเปล่าผู้ชายร่างโตชาวอิตาลีหายหน้าไปอีกแล้วหลังจากคืนนั้นราวอาทิตย์กว่า ใบหน้าหวานแดงซ่านระเรื่อยามนึกภาพกอดก่ายหลังจากสุขสมในคืนนั้นทั้งเธอและเขายังพากันนอนดูโทรทัศน์จนเธอเกือบผล็อยหลับ แต่ยังสู้อุตส่าห์พาร่างอ่อนระโหยกลับห้องก่อนที่ตัวเองตาจะปิดโดยที่เขามาส่งถึงหน้าห้องพร้อมจูบกระชากวิญญาณอีกหนึ่งครั้งแต่! เขาหายไป ติดต่อไม่ได้ ณิชกระแทกสะโพกลงที่เก้าอี้อย่างกรุ่นโกรธว้าวุ่นใจ เอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาเพื่อนรักสาริน“อือ มีอะไร เพิ่งออกจากห้องน้ำจะแต่งตัว”“สาริน ฉันมีเรื่องปรึกษา นายจำผู้ชายอิตาลีคนนั้นได้ไหม”“จำได้”เธอได้ยินเสียงดนัยเร่งรัดเข้ามาในโทรศัพท์จึงรีบเร่งพูดขึ้นก่อนที่สารินจะวางสาย“ฉันกับเขาตกลงดีลกัน โดยเขาต้องแสดงเป็นแฟนฉันให้พ่อกับแม่ดู ส่วนเขาจะได้เชยชมร่างกายอันสวยงามของฉัน”ณิชรู้สึกได้ถึงความเงียบสนิทแล้วจากนั้นเสียงหัวเราะของสารินและดนัยก็ดังขึ้นพร้อมกัน“นายเปิ