บทที่ 19 คิดถึง
“อาเดรียโนไปไหน ทำไมไม่มาด้วย”
“ไปทำงานม๊า”
เนี่ยเห็นไหม เธอยังไม่ทันนั่งเสียงคาดคั้นของม๊าก็ดังขึ้น เธอทำได้แค่ลอบถอนหายใจ มองอาเจ็กกับซ้อที่แม่เชิญมา แม่คงอยากจะอวดเขยใหม่แต่หารู้ไม่?
“ลื้อหลอกพวกอั๊วใช่ไหมอานิด”
“เปล๊า!! เขาไปทำงานจริง ๆ”
“ให้มันจริงนะ ม๊าไปหาหลวงพ่อที่วัดมาแล้ว เขาบอกอย่าให้เกินสิ้นปีนี้ ไม่งั้นดวงลื้อจะพลาดไปอีกสองปี”
“ห๊า!! ม๊า!! ทำไมต้องไปทำอะไรแบบนี้ด้วย นี่เราเพิ่งจะเป็นแฟนเองนะ เรายังไม่ทันได้ตกลงด้วยเลย”
“เออ!! รีบหาไว้ก่อน เพื่อได้ใช้ขึ้นมาจะไม่มีฤกษ์ อ้อ ม๊าดูของชำร่วยไว้แล้วไม่อยากได้ตะเกียบมันเชย เอาเป็นตุ๊กตาคู่ดีกว่า”
“ม๊า!! ป๊าก็ช่วยพูดให้ม๊าเข้าใจหน่อยสิ มันยังไม่ถึงเวลา”
“เออ ป๊าก็ไปดูชุดไว้แล้ว ว่าจะเตรียมเงินจัดงานให้ลื้อสักก้อน โต๊ะจีนก็สักร้อยโต๊ะก็พอไม่ต้องใหญ่มาก”
“ป๊า!!”
ณิชหันมองน้องชายที่นั่งหัวเราะตัวงอ ยังได้ยินเสียงม๊าและป๊าหันไปปรึกษาหารือกับอาเจ็กเรื่องสถานที่ว่าจะจัดที่ไหนถึงจะสะดวก เธอจึงได้แต่นั่งฟังไม่ออกความคิดเห็น
อาเดรียโนคุณจะรู้บ้างไหมว่าพ่อกับแม่ฉันอยากได้คุณเป็นเขยขนาดไหน
ติ๊ด ติ๊ด!
ตายยากเสียจริง!
“ม๊า ป๊า อาเดรียโนโทรมา เดี๋ยวหนูขอไปรับข้างนอกก่อนนะ”
“ไม่ ไม่ รับเลย ม๊าอยากจะพูดด้วย”
“ม๊า! แต่ม๊าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้!”
“เออ รับ รับเลย”
ณิชกรอกตามองบนก่อนจะรับสาย
“อาเดรียโน ขอโทษที่รับช้าค่ะ พอดีอยู่บ้าน”
เธอชำเลืองมองพ่อกับแม่ที่พยายามขยับหน้าเข้ามาใกล้ อยากจะได้ยินเสียงชายหนุ่มร่างโต แต่เธอยังเบี่ยงกายหลบไว้
“ไม่มีอะไร จะโทรมาถามว่ากินข้าวหรือยัง”
“กำลังกินอยู่เลยค่ะ วันนี้ม๊าทำปลาเก๋านึ่งซีอิ้ว”
“ฟังแล้วน่ากินจัง ไว้ผมกลับไปแล้วจะขอไปฝากท้อง ฝากบอกแม่ของคุณด้วยนะ”
เธอปิดหูโทรศัพท์แล้วหันไปหาม๊ากับป๊า
“อาเดรียโนบอกว่ากลับมาจะมาทานข้าวที่บ้าน”
“เหรอ ๆ ดีดี วันไหน ม๊าจะทำกับข้าวไว้เยอะ ๆ”
เธอหันกลับมาคุยต่อ ใบหน้าม๊าตอนนี้ยิ้มแก้มแทบปริ เธอเห็นม๊าหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาต่อสายหาใครสักคน
“อาเดรียโน คุณจะกลับวันไหนคะ”
“อีกสองอาทิตย์ ทำไม คิดถึงผมใช่ไหมคนสวย”
“บ้าจริง! ฉันพูดตรงนี้ไม่ได้ เดี๋ยวกลับไปก่อนนะจะโทรหาใหม่ แค่นี้ก่อนนะ บาย”
ณิชรีบวางสายเมื่อได้ยินเสียงแม่โทรหาอากู๋บอกว่าเธอกำลังจะแต่งงานไม่เกินสิ้นปี ความวุ่นวายของค่ำนี้ยังคงอีกนาน และดูท่าว่าแม่จะยังไม่จบลงง่าย ๆ เมื่อแม่พยายามนึกว่ายังเหลือใครอีกที่ยังไม่ได้บอก
ตึ๊ง!
ณิชเหลือบตามองข้อความที่เด้งแจ้งเตือนหน้าจอโทรศัพท์ขณะที่กำลังลงบันทึกยืมหนังสือของห้องสมุด พลันยิ้มสดใสเมื่อเห็นว่าเป็นข้อความจากอาเดรียโน
“ขอให้อ่านอย่างมีความสุขนะคะ”
เธอยื่นหนังสือส่งให้ผู้ที่เข้ามารับบริการ รอจนกระทั่งเขาเดินห่างออกไปจากโต๊ะจึงปัดดูข้อความ
‘ใกล้เลิกงานหรือยัง’
‘อีกไม่กี่นาทีคะ ทานข้าวหรือยังคะ’
‘ยังเลย กำลังจะหาคนไปทานด้วยอยู่ครับ’
ณิชนิ่งงันไป เธอมองข้อความแล้วอ่านซ้ำอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าประโยคนี้ประโยคเดียวกลับทำให้เธอใจเต้นแรงด้วยความหึงหวง
‘ทำไมเงียบไปคนสวย’
มือเล็กเริ่มสั่นแต่ยังไม่มากกดพิมพ์ตอบข้อความพร้อมกับอาการช่องท้องตีตลบ
‘เปล่า ไม่มีอะไรคะ แค่นี้นะคะ’
เธอรีบปิดแอพพลิเคชั่นและไม่สนใจเสียงแจ้งเตือนอีก รวบรวมของลงกระเป๋าอย่างร้อนรน ใจยังนึกภาพคนที่เขากำลังจะชวนไปทานข้าวเย็นด้วย
แน่ล่ะสิ ฉันมันก็แค่ดีลที่ตกลงกัน ไม่ใช่แฟน นี่ฉันกำลังหึงเขา!!!
คำว่า ‘หึง’ ผุดขึ้นมาในหัวจนเธอชะงักงันไป เธอไม่เคยเจอกับความรู้สึกนี้มาก่อน ‘หึงหวง’ มันเหมือนดั่งมีลูกไฟสุมในอกจนอัดแน่น และเธออยากตะโกนเข้าไปในโทรศัพท์ เพื่อถามว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร
กึก!!
เสียงเปิดประตูห้องสมุดทำให้เธอหลุดจากภวังค์เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบติดจะหงุดหงิด
“ห้องสมุดปิดแล้วค่ะ กรุณมาใหม่พรุ่งนี้นะคะ”
เงียบ! ไม่มีเสียงตอบรับหรือเสียงประตูเพื่อให้ทราบว่ามีคนออกไปแล้ว ณิชจึงเงยหน้าขึ้นจากมือตัวเองที่ยังกุมหูกระเป๋าสะพายมองตรงไปทางประตู
ภาพชายร่างสูงใหญ่ผิวเข้มเสื้อผ้ายังสวมชุดทำงานเหมือนเขารีบมากจนลืมที่จะเปลี่ยน ยืนยิ้มกว้างไหล่พิงกรอบประตูรอให้เธอหันไปมอง
“อาเดรียโน!!”
ร่างบอบบางพาตัวเองเดินแกมวิ่งถลันเข้าหาร่างสูงแกร่งด้วยใจคนึงหา เธอโถมร่างทั้งตัวเข้าสู่อ้อมกอดแข็งแรงมั่นคงที่อ้าออกรับเธอไว้
“ผมสกปรกนะคนสวย”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ฉันก็สกปรก”
“ในห้องสมุดมีตรงไหนหลบมุมบ้างไหมคาร่า ขอชื่นใจก่อนไปทานมื้อเย็น”
“ฮึ ที่แท้ก็หลอกฉัน คนบ้า คุณทำให้ฉัน ...!”
อาเดรียโนดันร่างหญิงสาวออกห่างก้มลงมองริมฝีปากที่เม้มแน่นและดวงตาล่อกแล่ก เธอกำลังมีเรื่องปกปิด
“ทำอะไรคนสวย พูดต่อให้จบสิ”
“เปล๊า! กลับกันเถอะ แวะซื้อของไปกินที่ห้องดีกว่า”
“อ้าว เดี๋ยวรอถึงห้องก่อนนะจะทำให้พูดออกมา”
“เชอะ! ไม่มีทาง ไปกันเถอะค่ะ”
อาเดรียโนยืนรอให้ณิชกลับไปเก็บกระเป๋าออกมาจากโต๊ะทำงานและเดินปิดไฟโดยรอบจนทั่วห้องสมุด จากนั้นทั้งสองจึงเดินออกสู่ถนนเล็กด้านข้างแล้วมองหาร้านข้างทางเพื่อซื้อของกินกลับไปยังห้องอย่างกระหนุง กระหนิง คนผ่านไปผ่านมาเห็นก็คิดไปกันว่าช่างเหมาะสมและรักกันมากเหลือเกิน
ผิวอ่อนนุ่มขาวนวลของหญิงร่างสูงโปร่งถูกปากหนาสวยได้รูปพรมจูบไปทั่วลาดไหล่ขณะที่เธอเองนั่นยังหลับสนิท มีเพียงเสียงอืออาตอบรับ
อาเดรียโนตะแคงตัวนอนกอดบรรณารักษ์สาวไว้ถ่ายทอดความอบอุ่นให้แก่กันและกันใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ท่ามกลางอากาศเย็นฉ่ำและฝนที่ตกพรำ
เขาปัดผมออกจากซอกคอก่อนจะขบเม้มอีกครั้งแต่ณิชก็ยังเงียบเฉยจนเขาเองเกือบถอดใจที่จะปลุกเธอขึ้นมา ขณะที่กำลังจะขยับร่างออก สาวสวยพลิกเปลี่ยนท่าหันกลับมากอดเขาไว้แทนจนทำให้ผ้าห่มไถลเลื่อนลงไปอีกมองเห็นทรวงงามเต็มอิ่มขาวลออ
เขาไม่อยู่สองอาทิตย์แต่กลับเหมือนจากไปเป็นปี รู้สึกคิดถึงหญิงสาวจนทนไม่ไหวรีบทำงานให้เสร็จก่อนกำหนดทั้งวันทั้งคืนแทบไม่มีเวลาพักเพื่อที่จะได้กลับมากอดให้ชื่นใจ
อาเดรียโนเองยังแปลกใจตัวเองเพราะเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนกับผู้หญิงคนอื่น ซึ่งส่วนใหญ่มักจบลงอย่างง่าย ๆ หรือถ้ายืดยาวก็จะนัดเจอกันบ้างเดือนละสองสามครั้ง โดยที่แต่ละฝ่ายก็มีคนอื่นด้วยเช่นกัน
แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอคล้ายคลึงความสัมพันธ์แบบแฟนมากกว่าครั้งไหน เขาอยู่กับเธอตลอดทั้งคืน เรานอนดูบอลตรงโซฟาด้วยกันแม้ว่าหญิงสาวจะผล็อยหลับไปก่อนทุกครั้ง เราทำอาหารด้วยกันและมักลงท้ายด้วยการกลิ้งไปมาบนพื้นหรือเตียงนอน
นัยน์ตาสีน้ำตาลมองสาวน้อยในอ้อมแขน ฝ่ามืออุ่นร้อนไต่ไปตามลำตัวเลื่อนสู่อกอวบอิ่มเต็มมือ ลูบเบา ๆ ไปเรื่อย ๆ ใช้นิ้วปัดยอดถันจนมันเต่งตึงตั้งชันจึงค่อยโน้มศีรษะลงดูดกลืน
ยอดถันสีชมพูระเรื่อเปียกชื้น เขาตวัดยอดขบเม้มแรงขึ้นจนร่างบางเริ่มขยับไหว เธอครางเบา ๆ แอ่นร่างเข้าหาทั้ง ๆ ที่ยังงัวเงีย
บทที่ 20**NC“อือ อาเดรียโน ยังเช้าอยู่เลย”“อืมมม อีกรอบก่อนไปทำงานไงคาร่า คุณจะได้คิดถึงผมมาก ๆ”เขาดันลำแขนของเธอให้โอบรอบท้ายทอยเขาไว้ โน้มศีรษะลงบรรจงโหมไฟยามเช้า มือค่อยลูบลงไปยังสะโพกผายกอบกุมช้อนก้นงามก่อนจะวกมาด้านหน้าล้วงลึกเข้าสู่เนินงามกลางหว่างขา“แฉะแล้วคนสวย อืมม และหวาน”ถ้าเปรียบอาหารเช้าแบบเร่งรีบของคนเมืองคงไม่เหมือนการร่วมรักของอาเดรียโนในเช้าวันนี้เท่าไร เพราะเขาใส่ใจทุกรายละเอียดเสียจนเธออ่อนระทวยด้วยไฟพิศวาส มือวาดไปทั่วลำตัวไม่เว้นแม้ตารางนิ้วเดียว เขาพรมจูบลงไปยังข้อเท้าเล็กตวัดลิ้นลากเป็นทางถึงหัวแม่เท้าพร้อมดูดกินจนเธอสะท้าน ได้แต่นอนมองเสียวซ่าน ลิ้นร้อนเลื่อนกลับไปยังข้อพับใต้เข่าขึ้นสู่ต้นขามุ่งตรงเข้าหุบเขาไร้ขนเนียนงาม เปิดแย้มซอกหลึบออกก่อนที่ปลายลิ้นสากไล้ลากตวัดเอาน้ำหวานขึ้นมาร่างสูงของคนด้านบนไถลตัวเลื่อนขึ้นเพื่อส่งจูบร้อนแรงปะปนน้ำหวานของตัวเธอเอง ส่งลิ้นถลำลึกล้วงกวาดจนเธอแอ่นรับกอดกระหวัดรัดแล้วพลิกตัวจนเธอขึ้นมาอยู่ด้านบน“ควบขับผมคาร่า ทำให้ผมดูสิว่าคุณคิดถึงผมแค่ไหนระหว่างที่ผมไม่อยู่”ณิชยันกายขึ้นแล้วค่อยขยับจนกระทั่งร่องสาวเปียกชื้นพอดีก
บทที่ 21 เขาจะกลับไปหาเธอตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง!เสียงเคาะเหล็กและเสียงอ็อกเชื่อมภายในอู่ต่อเรือดังเช่นนี้เสมอด้วยความคุ้นชินตั้งแต่เด็ก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สวมหมวกนิรภัยในชุดรัดกุมถือแผ่นชาร์ตในมือเพื่อตรวจลำดับขั้นตอน หน้าคมเข้มแหงนมองขึ้นไปด้านบนของลำเรือสูงใหญ่ซึ่งคาดว่ากว่าจะประกอบเสร็จเรียบร้อยคงอีกนานหลายเดือนอาเดรียโนกลับมาที่เจนัวร์ ประเทศอิตาลีได้ราวสามเดือนแล้ว แม้งานคืบหน้าไปบ้างแต่ยังมีข้อติดขัดจนล่าช้ากว่ากำหนด“อาเดรียโน!”เสียงตะโกนเรียกทำให้เขาละความสนใจจากงานตรงหน้ามองไปยังผู้เป็นพ่อ ชายขาวอิตาลีหุ่นใหญ่ผมสีเข้มที่ร่วงหล่นไปมากจนศีรษะล้านไปครึ่ง เขายิ้มแย้มอารมณ์ดีกวักมือให้ลูกชายเพียงคนเดียวเดินเข้าไปหา“แกกลับมาเที่ยวนี้ตามใจแม่เขาหน่อยสิ”“เรื่องอะไรครับ”อาเดรียโนถอดหมวกนิรภัยออกเมื่อเข้ามาส่วนสำนักงานที่ต่ออย่างง่าย ๆ ด้วยตู้คอนเทนเนอร์มือสองที่ปรับปรุงทำสีใหม่จนสะอาด แล้วเดินไปหยิบขวดน้ำขึ้นยกดื่ม“ก็เรื่องสาว ๆ นั่นแหล่ะ ผู้หญิงอิตาลีมักเจ้ากี้เจ้าการแบบนี้ ตามใจแม่เขาหน่อย ไปกินข้าวกับพวกสาว ๆ ที่แม่แกนัดไว้ พ่อจะได้สบายหู”เขาหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยินพร้อมส่งเสียง ‘ฮึ
บทที่ 22 ผมคิดว่าผมลืมของไว้ จบบริบูรณ์“เจ้ เจ้ เจจจจจจ้!!!”เสียงเรียกเอะอะของณภัทรที่วิ่งปรูดเข้ามาด้านในหลังบ้านทำเธอตกใจสะดุ้งลุกพรวดขึ้นนั่งบนตั่งไม้“อะไร!! จะเสียงดังทำไม!”“เจ้ต้องไม่เชื่อสายตาตัวเองแน่ว่าใครมา”ณิชนิ่วหน้าหันมองม๊ากับป๊าที่นั่งหน้าฉงนมองตรงไปยังประตูทางเข้าเมื่อจู่ ๆ แสงสว่างด้านนอกก็พลันมืดลงเป็นเงาเยามคนร่างสูงใหญ่เดินลอดผ่านเข้ามา ใบหน้าคมเข้มมีเคราขึ้นครึ้ม และดวงตาสีน้ำตาลดุจเหยี่ยวคู่นั้นมองตรงมาทางเธอ“อาเดรียโน!”“ลูกเขย!!”ณิชไม่มีเวลาหันกลับไปบอกแม่ว่าให้เงียบเสียงเพราะอาเดรียโนยังเดินตรงมาทางเธอแล้ว ร่างระหงรู้สึกมือไม้ยาวเก้งก้างไม่รู้ว่าจะวางไว้ตรงไหน และที่สำคัญเธอยังสวมชุดนอนของเมื่อคืนทั้ง ๆ ที่มันบ่ายสามเข้าไปแล้ว!“ผมขอคุยกับนิดตามลำพังได้ไหมครับ”ณิชยังไม่ทันอ้าปากบอกพ่อกับแม่ ก็ดูเหมือนพ่อกับแม่ของเธอฟังภาษาอังกฤษออกภายในชั่ววินาทีนั่น ทั้งหมดหายวับไปด้านนอกทันที ทิ้งเธอให้นั่งบนตั่งไม้และอาเดรียโนที่ยืนค้ำเธออยู่“ฮะ แฮ่ม ๆ คุณกลับมาแล้ว”หน้าหวานแหงนมองร่างสูงคอตั้งบ่า พยายามหาเสียงของตัวเอง กระแอ่มเรียกสติที่กระเจิดไปนานแล้วตั้งแต่มองเ
บทที่ 1 ณิช ค่ำวันศุกร์เป็นอีกวันหลังเลิกงานของใครทั้งหลายในกรุงเทพมหานคร ผู้คนพากันประดังประเดมาใช้บริการรถไฟฟ้าเพื่อเตรียมตัว บ้างกลับบ้าน บ้างนัดแฮงเอ้าท์ บ้างมีนัดมื้อค่ำกับชายหนุ่มหญิงสาวอายุราวสามสิบ ร่างค่อนข้างสูงกว่าหญิงไทยทั่วไป รูปร่างโปร่งบาง ผิวขาวออกซีดเผือดเพราะแทบไม่เคยเจอแดด สวมแว่นสายตาสั้นหนาจนปิดบังดวงหน้าไปทั้งดวง แต่ยังพอเห็นเค้าลางว่ากรอบใบหน้ารูปไข่ โหนกแก้มยกสูง คิ้วดกหนาไม่ได้รับการตัดแต่ง นั่งอยู่บนรถไฟฟ้าช่วงเวลาเลิกงานของชาวกรุงเทพเธอเม้มปากบางเฉียบแต่กว้างกว่าหญิงทั่วไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว มองไปฝั่งตรงข้ามผ่านลอดท่อนขาของใครอีกหลายคนที่ยืนเบียดเสียดกันอยู่ ภาพตรงหน้าที่เธอลอบจ้องมองคือเด็กหนุ่มสาวหนึ่งคู่นั่งกุมมือกระซิบกระซาบหยอกล้อแบบไม่เกรงใจใครณิช ลิ้มวัฒนามหาโชค หรือเดิมแซ่ลิ้ม แต่พ่อกับแม่เพิ่งไปแจ้งเปลี่ยนนามสกุลเมื่อตอนเธออยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่หก เธอไม่ชอบนามสกุลใหม่เลยสักนิด นามสกุลเจ็ดพยางค์ที่มักโดนเพื่อนล้อเป็นประจำหญิงสาวขยับร่างเอียงตัวไปด้านซ้ายเพราะท่อนขาของคนด้านหน้าขยับบังกิจกรรมของสองหนุ่มสาวฟากตรงข้าม ขยับแว่นสายตาอีกครั้งเพื่อจ้อง
บทที่ 2 ชีวิตสาวโสดวัยสามสิบ!!ชีวิตสาวโสดวัยสามสิบ!!ณิชโยนกระเป๋าไปยังโซฟาเล็กมุมห้องพักราคาถูก ก่อนจะล้มตัวลงนอนมองเพดานสีเขียวที่เธอแสนเกลียดใบหน้าเรียวรูปไข่พลิกหน้าไปยังตู้เสื้อผ้าใบเล็กที่อัดแน่นด้วยเสื้อผ้าจนไม่มีที่แทรกต้องแขวนทะลักออกมาด้านนอกชีวิตสาวใกล้ขึ้นคานเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า?คิ้วย่นเล็กน้อยเมื่อคิดไปถึงยามแก่เฒ่าชราภาพมากกว่านี้ อย่าแค่ว่าบันไดเลย เดินไปขึ้นรถประจำทางคงทำไม่ได้เฮ้อ!! อีกหน่อยคงนอนอืดตายโดยที่ไม่มีใครรู้ว่ามีเธออยู่บนโลกใบนี้ตื๊ด ตื๊ดเสียงโทรศัพท์ทำให้สาวร่างสูงจำใจลุกขึ้นจากเตียงอย่างเกียจคร้านไปยังโซฟาตัวเล็กแม้ว่ามันจะใกล้แค่เดินสามก้าวเท่านั้น“ฮัลโหลววววว สาววว พรุ่งนี้มาคอนโดฉันไหม”สารินเพื่อนรักเรียนมาจากคณะเดียวกัน แต่สารินเลือกที่ไปเป็นเซลล์และเพื่อนรักก็ทำมันได้ดีจนทั้งเงินเดือนและโบนัสพุ่งสูงลิบ ผิดกลับเธอที่เลือกทำงานบรรณารักษ์ พลันนึกถึงคอนโดมิเนียมของสารินตั้งอยู่ใกล้ที่ทำงานของเธอทั้งหรูและสบาย“ก็ไม่เลวนะ ฉันกำลังมีเรื่องไปปรึกษาพอดี”“เยี่ยมไปเลย ซื้อไวน์มาด้วยล่ะ”“โอนเงินมาสิ นี่ใกล้สิ้นเดือนแล้ว”“โอ้ยยยยยย! แม่ขี้ตืด ฉัน
บทที่ 3 ป้าเสียงหวานแหลมกระแทกเสียงเล็กน้อยไม่พอใจ มือเรียวหยิบโทรศัพท์ออกมาทุลักทุเลเพราะขวดไวน์แสนหนักอึ้งในกระเป๋าผ้าสามขวด และยังถุงขนมใบใหญ่ร่างสูงโปร่งเดินเข้าบันไดโถงหน้าเมื่อจัดการชำระค่าโดยสารเรียบร้อย คอนโดมิเนียมราคาแพงค่อนข้างเข้มงวดแต่เนื่องจากเธอมาบ่อยทำให้ลุงยามรักษาความปลอดภัยจำหน้าเธอได้ เธอจึงเดินเข้ามายังด้านในโดยไม่ต้องแจ้งเจ้าของห้องก่อน“ป้า!!!!!”เสียงตะโกนทุ้มไล่หลังขณะที่เท้าบางกำลังเดินขึ้นบันไดทำให้ณิชชะงักเท้ามองซ้ายขวาฉุนกึกในใจอย่าบอกนะว่าเรียกฉัน!!“เรียกใคร!!”“ป้านั่นแหล่ะ ป้าลืมถอดหมวกกันน็อก”เธอยกมือขึ้นจับศีรษะทั้งที่มือหิ้วของพะรุงพะรัง เสียงถุงพลาสติกขนมของกินส่งเสียงก็อกแก็ก พยายามแกะสายรัดใต้คางกระแทกกระทั้นแล้วถอดส่งคืนให้หนุ่มวินแต่ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวทำให้ณิชลงแรงหนักมือ สายรัดเกี่ยวยางรัดผมราคาถูกจนขาด ผมที่มวยไว้เลยทิ้งตัวลงกลางหลังดกหนาจนวินมอเตอร์ไซค์ยังอ้าปากค้าง“เอ้า!! เอาไป ทีหลังเจออย่าเรียกป้าอีก! ไม่ชอบ!”หนุ่มวินรับหมวกไปแต่หน้ายังจ้องสาวแว่นไม่วางตา เพียงเธอปล่อยผมลงมาจากสาวแก่กลายเป็นสาวสวยได้ในพริบตา แต่ร่างสูงโปร่งไม่ใส่ใจห
บทที่ 4 อาเดรียโน“ไอ้บ้า! คนเฮงซวย! รู้ไหมตัดแว่นครั้งหนึ่งมันแพงแค่ไหน ยิ่งค่าสายตาสั้นขนาดนี้ แล้วกว่าจะได้ ทำไมต้องมายืนขวางทาง บ้าฉิบ!”“ผมฟังคุณไม่รู้เรื่องเลย พูดภาษาอังกฤษสิ”ณิชเม้มปากตึงก่อนยืดกายขึ้นสูงยกแว่นในมือโบกตรงหน้าเขาแล้วพูดขึ้นด้วยภาษาไทยอย่างไม่สนใจ“เรื่องอะไร ก็ที่ฉันต้องพูดภาษาไทยก็เพราะฉันกำลังด่าคุณอยู่ ถอยไปไอ้ฝรั่ง”ในบรรดาคำหลายคำของภาษาไทย คำว่า ฝรั่ง เป็นคำแรก ๆ ที่เขารู้จัก เพราะคนไทยทุกคนเรียกคนต่างชาติว่าฝรั่ง“คุณกำลังพูดไม่สุภาพ”น้ำเสียงทุ้มต่ำเชิงตำหนิทำให้หน้าเรียวเล็กเห่อร้อนจนพ่วงแก้มสองข้างแดงก่ำ แต่ยังพยายามรักษาภาพลักษณ์ทำเป็นไม่ใส่ใจ ณิช ฝรั่งมันไม่รู้เรื่องหรอกมือเล็กสะบัดมือลง เบี่ยงกายออกเพื่อเดินขึ้นบันได แต่พอก้าวเท้าพลันสะดุดกับขั้นบันไดจนเกือบล้ม ยังดีคนร่างโตฉับไวกว่าส่งอ้อมแขนแข็งแรงคว้าเธอไว้อีกครั้ง“เดี๋ยวผมช่วยพาคุณไปส่งที่ห้องแล้วกัน”“ฉันไปเองไม่ต้องยุ่ง!!”“พูดภาษาอังกฤษสิ!! แบบนี้จะรู้เรื่องได้ยังไง”น้ำเสียงทุ้มเรียบหงุดหงิดเห็นได้ชัด ด้วยความที่เธอเองเคยเป็นคนมีมารยาทมาบ้าง! จึงเกิดความละอายใจเล็กน้อย ความจริงมันก็ไม่ใ
บทที่ 5 บรรณารักษ์สาวแก่ณิชทำงานที่ห้องสมุดเอกชนแห่งนี้มาตั้งแต่เธอเรียนจบ เธอรู้จักพื้นที่ทุกตารางนิ้วในห้องสมุดรวมไปถึงหนังสือทุกเล่มที่อยู่ในชั้น เนื่องจากเธอเป็นคนเลือกมันเข้ามาไว้เองกับมือหนังสือทั้งหมดเป็นหนังสือภาษาอังกฤษ และคนที่มาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่ทำงานหรืออยู่ในละแวกนี้ปัก! ปัก! ติ๊ด!ร่างระหงเดินไปเปิดไฟและเครื่องปรับอากาศเพื่อไล่ความชื้นทันทีที่เข้ามา หนังสือบางเล่มค่อนข้างเก่าและหายาก ทั้งเมืองไทยร้อนชื้นทำให้เธอต้องเปิดเครื่องปรับอากาศในอุณหภูมิที่เหมาะสมเกือบตลอดเวลายกเว้นเมื่อเธอกลับออกไปแล้วมือเรียวเดินไปเปิดระบบคอมพิวเตอร์ทุกตัวที่มีสำหรับให้บริการสืบค้นข้อมูล แล้วกลับมายังรถเข็นที่เธอทิ้งหนังสือของเมื่อวานไว้เพื่อเตรียมนำไปไว้วางบนชั้นดวงตาสีเข้มภายใต้คอนเทคเลนส์สีน้ำตาลอ่อนที่สารินเลือกให้เมื่อวานเหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนัง อีกเพียงสิบนาทีจะถึงเวลาเปิดทำการมือเล็กถือผ้าผืนเล็กรีบจัดการปัดฝุ่นตามโต๊ะและชั้นหนังสืออย่างรวดเร็ว ด้วยความที่มันไม่ได้สกปรกมีฝุ่นเกาะมากนักทำให้เรียบร้อยทันเวลาพอดี เสียงสัญญาณไฟฟ้าดังขึ้นเมื่อมีคนเดินเข้าประตูมาหน้าหวาน
บทที่ 22 ผมคิดว่าผมลืมของไว้ จบบริบูรณ์“เจ้ เจ้ เจจจจจจ้!!!”เสียงเรียกเอะอะของณภัทรที่วิ่งปรูดเข้ามาด้านในหลังบ้านทำเธอตกใจสะดุ้งลุกพรวดขึ้นนั่งบนตั่งไม้“อะไร!! จะเสียงดังทำไม!”“เจ้ต้องไม่เชื่อสายตาตัวเองแน่ว่าใครมา”ณิชนิ่วหน้าหันมองม๊ากับป๊าที่นั่งหน้าฉงนมองตรงไปยังประตูทางเข้าเมื่อจู่ ๆ แสงสว่างด้านนอกก็พลันมืดลงเป็นเงาเยามคนร่างสูงใหญ่เดินลอดผ่านเข้ามา ใบหน้าคมเข้มมีเคราขึ้นครึ้ม และดวงตาสีน้ำตาลดุจเหยี่ยวคู่นั้นมองตรงมาทางเธอ“อาเดรียโน!”“ลูกเขย!!”ณิชไม่มีเวลาหันกลับไปบอกแม่ว่าให้เงียบเสียงเพราะอาเดรียโนยังเดินตรงมาทางเธอแล้ว ร่างระหงรู้สึกมือไม้ยาวเก้งก้างไม่รู้ว่าจะวางไว้ตรงไหน และที่สำคัญเธอยังสวมชุดนอนของเมื่อคืนทั้ง ๆ ที่มันบ่ายสามเข้าไปแล้ว!“ผมขอคุยกับนิดตามลำพังได้ไหมครับ”ณิชยังไม่ทันอ้าปากบอกพ่อกับแม่ ก็ดูเหมือนพ่อกับแม่ของเธอฟังภาษาอังกฤษออกภายในชั่ววินาทีนั่น ทั้งหมดหายวับไปด้านนอกทันที ทิ้งเธอให้นั่งบนตั่งไม้และอาเดรียโนที่ยืนค้ำเธออยู่“ฮะ แฮ่ม ๆ คุณกลับมาแล้ว”หน้าหวานแหงนมองร่างสูงคอตั้งบ่า พยายามหาเสียงของตัวเอง กระแอ่มเรียกสติที่กระเจิดไปนานแล้วตั้งแต่มองเ
บทที่ 21 เขาจะกลับไปหาเธอตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง!เสียงเคาะเหล็กและเสียงอ็อกเชื่อมภายในอู่ต่อเรือดังเช่นนี้เสมอด้วยความคุ้นชินตั้งแต่เด็ก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สวมหมวกนิรภัยในชุดรัดกุมถือแผ่นชาร์ตในมือเพื่อตรวจลำดับขั้นตอน หน้าคมเข้มแหงนมองขึ้นไปด้านบนของลำเรือสูงใหญ่ซึ่งคาดว่ากว่าจะประกอบเสร็จเรียบร้อยคงอีกนานหลายเดือนอาเดรียโนกลับมาที่เจนัวร์ ประเทศอิตาลีได้ราวสามเดือนแล้ว แม้งานคืบหน้าไปบ้างแต่ยังมีข้อติดขัดจนล่าช้ากว่ากำหนด“อาเดรียโน!”เสียงตะโกนเรียกทำให้เขาละความสนใจจากงานตรงหน้ามองไปยังผู้เป็นพ่อ ชายขาวอิตาลีหุ่นใหญ่ผมสีเข้มที่ร่วงหล่นไปมากจนศีรษะล้านไปครึ่ง เขายิ้มแย้มอารมณ์ดีกวักมือให้ลูกชายเพียงคนเดียวเดินเข้าไปหา“แกกลับมาเที่ยวนี้ตามใจแม่เขาหน่อยสิ”“เรื่องอะไรครับ”อาเดรียโนถอดหมวกนิรภัยออกเมื่อเข้ามาส่วนสำนักงานที่ต่ออย่างง่าย ๆ ด้วยตู้คอนเทนเนอร์มือสองที่ปรับปรุงทำสีใหม่จนสะอาด แล้วเดินไปหยิบขวดน้ำขึ้นยกดื่ม“ก็เรื่องสาว ๆ นั่นแหล่ะ ผู้หญิงอิตาลีมักเจ้ากี้เจ้าการแบบนี้ ตามใจแม่เขาหน่อย ไปกินข้าวกับพวกสาว ๆ ที่แม่แกนัดไว้ พ่อจะได้สบายหู”เขาหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยินพร้อมส่งเสียง ‘ฮึ
บทที่ 20**NC“อือ อาเดรียโน ยังเช้าอยู่เลย”“อืมมม อีกรอบก่อนไปทำงานไงคาร่า คุณจะได้คิดถึงผมมาก ๆ”เขาดันลำแขนของเธอให้โอบรอบท้ายทอยเขาไว้ โน้มศีรษะลงบรรจงโหมไฟยามเช้า มือค่อยลูบลงไปยังสะโพกผายกอบกุมช้อนก้นงามก่อนจะวกมาด้านหน้าล้วงลึกเข้าสู่เนินงามกลางหว่างขา“แฉะแล้วคนสวย อืมม และหวาน”ถ้าเปรียบอาหารเช้าแบบเร่งรีบของคนเมืองคงไม่เหมือนการร่วมรักของอาเดรียโนในเช้าวันนี้เท่าไร เพราะเขาใส่ใจทุกรายละเอียดเสียจนเธออ่อนระทวยด้วยไฟพิศวาส มือวาดไปทั่วลำตัวไม่เว้นแม้ตารางนิ้วเดียว เขาพรมจูบลงไปยังข้อเท้าเล็กตวัดลิ้นลากเป็นทางถึงหัวแม่เท้าพร้อมดูดกินจนเธอสะท้าน ได้แต่นอนมองเสียวซ่าน ลิ้นร้อนเลื่อนกลับไปยังข้อพับใต้เข่าขึ้นสู่ต้นขามุ่งตรงเข้าหุบเขาไร้ขนเนียนงาม เปิดแย้มซอกหลึบออกก่อนที่ปลายลิ้นสากไล้ลากตวัดเอาน้ำหวานขึ้นมาร่างสูงของคนด้านบนไถลตัวเลื่อนขึ้นเพื่อส่งจูบร้อนแรงปะปนน้ำหวานของตัวเธอเอง ส่งลิ้นถลำลึกล้วงกวาดจนเธอแอ่นรับกอดกระหวัดรัดแล้วพลิกตัวจนเธอขึ้นมาอยู่ด้านบน“ควบขับผมคาร่า ทำให้ผมดูสิว่าคุณคิดถึงผมแค่ไหนระหว่างที่ผมไม่อยู่”ณิชยันกายขึ้นแล้วค่อยขยับจนกระทั่งร่องสาวเปียกชื้นพอดีก
บทที่ 19 คิดถึง“อาเดรียโนไปไหน ทำไมไม่มาด้วย”“ไปทำงานม๊า”เนี่ยเห็นไหม เธอยังไม่ทันนั่งเสียงคาดคั้นของม๊าก็ดังขึ้น เธอทำได้แค่ลอบถอนหายใจ มองอาเจ็กกับซ้อที่แม่เชิญมา แม่คงอยากจะอวดเขยใหม่แต่หารู้ไม่?“ลื้อหลอกพวกอั๊วใช่ไหมอานิด”“เปล๊า!! เขาไปทำงานจริง ๆ”“ให้มันจริงนะ ม๊าไปหาหลวงพ่อที่วัดมาแล้ว เขาบอกอย่าให้เกินสิ้นปีนี้ ไม่งั้นดวงลื้อจะพลาดไปอีกสองปี”“ห๊า!! ม๊า!! ทำไมต้องไปทำอะไรแบบนี้ด้วย นี่เราเพิ่งจะเป็นแฟนเองนะ เรายังไม่ทันได้ตกลงด้วยเลย”“เออ!! รีบหาไว้ก่อน เพื่อได้ใช้ขึ้นมาจะไม่มีฤกษ์ อ้อ ม๊าดูของชำร่วยไว้แล้วไม่อยากได้ตะเกียบมันเชย เอาเป็นตุ๊กตาคู่ดีกว่า”“ม๊า!! ป๊าก็ช่วยพูดให้ม๊าเข้าใจหน่อยสิ มันยังไม่ถึงเวลา”“เออ ป๊าก็ไปดูชุดไว้แล้ว ว่าจะเตรียมเงินจัดงานให้ลื้อสักก้อน โต๊ะจีนก็สักร้อยโต๊ะก็พอไม่ต้องใหญ่มาก”“ป๊า!!”ณิชหันมองน้องชายที่นั่งหัวเราะตัวงอ ยังได้ยินเสียงม๊าและป๊าหันไปปรึกษาหารือกับอาเจ็กเรื่องสถานที่ว่าจะจัดที่ไหนถึงจะสะดวก เธอจึงได้แต่นั่งฟังไม่ออกความคิดเห็นอาเดรียโนคุณจะรู้บ้างไหมว่าพ่อกับแม่ฉันอยากได้คุณเป็นเขยขนาดไหนติ๊ด ติ๊ด!ตายยากเสียจริง!“ม๊า ป๊า
บทที่ 18 ชอบเขาเข้าให้แล้ว!เขาจูงมือจนกระทั่งเธอเดินมาถึงโต๊ะอาหารจึงปล่อยให้ร่างบอบบางนั่งลงเอง ส่วนเขานั่งลงฝั่งตรงข้ามกัน“หอมจังเลย น่าเสียดายที่มองเห็นข้างเดียว”อาเดรียโนยิ้มกว้างโบกช้อนตรงหน้าไปมาเพื่อทดสอบว่าเธอมองเห็นจริงไหม ณิชยกมือขึ้นมาปัดแต่ไม่โดนสองสามรอบยิ่งทำให้อาเดรียโนหัวเราะออกมาเสียงดัง“อย่าเพิ่งแกล้งกันสิ เดี๋ยวจะโมโหหิว”เขาเอนกายพิงพนักเก้าอี้มองหญิงสาวตรงหน้าที่พยายามจิ้มเนื้อมีทบอลแต่ยังไม่โดน พลาดซ้ายบ้างขวาบ้าง หน้าหวานซึ้งบึ้งตึงเม้มปากไม่พอใจที่ตัวเองทำไม่สำเร็จสักที อาเดรียโนยกมือขึ้นจับมือบางเรียวไว้“เดี๋ยวผมทำให้”น้ำเสียงอ่อนโยนทำให้เธอเงยหน้าขึ้นจากจานสปาเกตตี้กระทั่งเนื้อมีทบอลมาจ่อปากจึงนั่งอ้าปากกว้างรอรับแต่โดยดี“อร่อยไหมคนสวย”“อือม อร่อยมากอาเดรียโน ทำไมคุณถึงทำอาหารได้อร่อยแบบนี้นะ”“แม่ผมเป็นคนสอน ผมมักต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังต้องอยู่คนเดียว เลยชอบทำอาหารทานเองบ่อย ๆ อีกอย่างผู้ชายอิตาลีต้องทำอาหารเป็น”“ทำไมล่ะ”อาเดรียโนลอบยิ้มหลุบตาขึ้นมองหน้าหวานยังอมยิ้มในปากเคี้ยวมีทบอลจนซอสเลอะขอบปาก“เพราะผู้ชายอิตาลีต้องเลี้ยงผู้หญิงให้อิ่ม
บทที่ 17**NC“อ่า โอ๊ย! อ่า อาเดรียโน! เดี๋ยวหยุดก่อน อื้อ”มือเล็กดันอกแกร่งไว้เมื่อเอ็นเนื้อท่อนใหญ่แหวกผ่านปราการแสนบางเข้ามา ความรู้สึกถูกชำแรกแยกออกกว้าง รู้สึกอึดอัดยามลำยักษ์อยู่ในโพรงสาว“ซี้ดดด อ่า เจ็บไหม อีกนิด รออีกนิด”คนร่างโตพยายามอยู่นิ่งให้สาวใต้ร่างคุ้นเคยกับความใหญ่โตที่เสียดแทรกภายใน จากนั้นจึงเริ่มขยับไหวถอนออกรูดเกือบสุดแล้วดันเข้า เขาทำซ้ำอีกครั้งเชื่องช้า และมันช่างแสนทรมาน ปลายหัวป้านสัมผัสภายในอันอ่อนนุ่มแสนหวาน ทั้งแคบและตอดรัด“อา อื้อ ฉันไม่เจ็บแล้ว อาเดรียโน เร่งอีกนิดไม่ได้เหรอคะ”ร่างสูงใหญ่ข้างบนเปลี่ยนท่าทางเท้าฝ่ามือซ้ายข้างลำตัวสาวงาม อีกข้างจับข้อพับใต้หัวเข่าณิชไว้ดันจนชิดหน้าอกอวบอิ่ม แล้วขยับเคลื่อนไหวอีกครั้ง“แบบนี้ไหมคาร่า แรงพอหรือยัง”ตับ ตับ ตับเธอแทบกรีดร้องเมื่อร่างแกร่งโหมลงโถมแรงด้วยสะโพกสอบ ร่างเธอสั่นสะเทือนไปทั้งกาย มือไขว่คว้าบ่ากำยำไว้จิกแน่น ยามท่อนยาวรูดผ่านร่องรักตามลำยาวให้ความรู้สึกเสียวสะท้าน ปลายหัวดันจุดอ่อนไหวข้างในเป็นจังหวะอาเดรียโนขยับเปลี่ยนท่าอีกครั้ง ยืดกายตั้งตรงนั่งคุกเข่าจับข้อเท้าบอบบางดึงกระทั่งร่างของเธอขยับ
บทที่ 16**NCคนร่างระหงรู้ตัวอีกครั้งเมื่อแผ่นหลังจมลงบนฟูกนอนนุ่มหลังใหญ่ภายในห้องนอนสีเทาอ่อน อาเดรียโนรวบร่างของเธอขึ้นทันทีหลังจากจบประโยคอันแสนเร้าใจร่างสูงใหญ่โถมกายบดเบียดร่างเธอ ต้นขายาวเพรียวสัมผัสได้ว่าร่างของเขาเปลือยเปล่า เขาดึงผ้าเช็ดตัวผืนนั้นออกตอนไหนเธอเองก็แน่ใจ แต่ที่แน่ ๆ มันทำให้เอ็นร้อนทาบลงมาบนผิวอ่อนนุ่มตรงโคนขาขาว“อาเดรียโน อ่า ช้า ๆ ลงหน่อย”ชายหนุ่มด้านบนดันตัวขึ้นมาจากซอกคอที่กำลังขบเม้ม ดวงตาสีน้ำตาลเข้มล้ำลึก ไฟปรารถนาลุกโชน“ฉะ ฉันตามไม่ทัน”รอยยิ้มร้ายกาจพลันปรากฎบนหน้าแกร่ง มันทำให้ร่างของเธอสะท้านกลัวเกรง ลำแขนเรียวงามที่กอดก่ายเขาไว้ยังคงลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังกว้างแน่นด้วยกล้ามเนื้อเธอเผยอปากวอนขอจูบหนักหน่วงเพื่อบรรเทาบางสิ่งที่กำลังก่อตัวข้างใน เมื่ออาเดรียโนโน้มศีรษะลงครอบครองปากเย้ายวนของเธอ บางอย่างข้างในร่ำร้อง เขาโจนจ้วงลิ้นสากโลมเลียอยู่ในโพรงปากและมันทำให้เธอต้องการเปลือยเปล่าเช่นเดียวกับเขา“ผมจะพยายามไปช้า ๆ แม้ว่าไม่เคยทำมาก่อนก็ตาม”“อื้อ ไม่เคยทำช้า ๆ ยังงั้นเหรอ อื้อ อ่า”“ซิ คาร่า เพราะผมไม่จำเป็นต้องช้ามาก่อน แต่กับคุณ อืมม ซิ ใช้ลิ้
บทที่ 15 ง้อสักหน่อยปัง!!“ถ้าอยากก็บอกดีดี จะจัดให้”“อาเดรียโนจะบ้าหรือไง นั้นแค่คู่เดท คุณอย่าลืมนะว่าไม่มีในสัญญา เราตกลงกันแค่แสดงละครให้พ่อกับแม่ฉันดู แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้ฉันเดทหาคู่ โอ๊ย! เจ็บนะ ปล่อย!!”“ไหนมันจูบตรงไหน”“อย่านะ เดี๋ยวก่อน ใจเย็น ๆ สิอาเดรียโน!”“ที่กับผมไม่ยอมเสียความบริสุทธิ์ อ้างแต่พรหมจรรย์ แต่พอเป็นคนอื่นคงนอนแผ่เต็มที่”เพียะ!!หน้าคมเข้มหน้าหันไปตามแรงมือของณิช อาเดรียโนตวัดหน้ากลับมาจ้องเธอด้วยดวงตาวาวโรจน์ แต่แรงมือนั่นทำให้สติของเขากลับคืนมา เขาเพิ่งเคยรู้จักอาการหึงหวงหน้ามืดก็วันนี้เองไฟในอกอัดแน่นจนไม่สามารถอยู่นิ่งได้ เขากระชากมือของณิช จนร่างกระแทกอกร้อนทั้งแกร่งและหนั่นแน่น ก้มศีรษะลงมองดวงตาวาวโรจน์และตื่นกลัวบนหน้าหวานมือสีเข้มสลัดมือออกจนร่างของณิชเซถอย กายแกร่งเดินหันกลับออกไปด้วยใจรุ่มร้อน ดวงตาพร่ามัวด้วยฤทธิ์แรงหึง และถ้าขืนยังอยู่ต่อตรงนั้น ตัวณิชเองคงไม่รอดมือเขาปัง!คนร่างเล็กทรุดลงกับพื้นอ่อนแรง อาการหวาดกลัวลามไปทั่วร่าง กายสาวสะท้าน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นดวงตาวาวโรจน์ลุกโชนน่ากลัว ซึ่งเธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นนับแต่ที่เขาห
บทที่ 14 ก็แค่ลองจูบคนอื่นดูบ้างตึก! ตึก!เสียงวางหนังสือเข้าชั้นในยามเช้าตามแรงอารมณ์ของบรรณารักษ์สาว เวลานี้ยังไม่ถึงเวลาทำการเธอไม่ต้องใส่ใจว่าจะมีผู้ใช้บริการท่านใดรำคาญหรือเปล่าผู้ชายร่างโตชาวอิตาลีหายหน้าไปอีกแล้วหลังจากคืนนั้นราวอาทิตย์กว่า ใบหน้าหวานแดงซ่านระเรื่อยามนึกภาพกอดก่ายหลังจากสุขสมในคืนนั้นทั้งเธอและเขายังพากันนอนดูโทรทัศน์จนเธอเกือบผล็อยหลับ แต่ยังสู้อุตส่าห์พาร่างอ่อนระโหยกลับห้องก่อนที่ตัวเองตาจะปิดโดยที่เขามาส่งถึงหน้าห้องพร้อมจูบกระชากวิญญาณอีกหนึ่งครั้งแต่! เขาหายไป ติดต่อไม่ได้ ณิชกระแทกสะโพกลงที่เก้าอี้อย่างกรุ่นโกรธว้าวุ่นใจ เอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาเพื่อนรักสาริน“อือ มีอะไร เพิ่งออกจากห้องน้ำจะแต่งตัว”“สาริน ฉันมีเรื่องปรึกษา นายจำผู้ชายอิตาลีคนนั้นได้ไหม”“จำได้”เธอได้ยินเสียงดนัยเร่งรัดเข้ามาในโทรศัพท์จึงรีบเร่งพูดขึ้นก่อนที่สารินจะวางสาย“ฉันกับเขาตกลงดีลกัน โดยเขาต้องแสดงเป็นแฟนฉันให้พ่อกับแม่ดู ส่วนเขาจะได้เชยชมร่างกายอันสวยงามของฉัน”ณิชรู้สึกได้ถึงความเงียบสนิทแล้วจากนั้นเสียงหัวเราะของสารินและดนัยก็ดังขึ้นพร้อมกัน“นายเปิ