นวลนาง
นิยายดราม่าอีโรติกที่จะสะเทือนท้องทุ่ง
จะเปลี่ยนท้องนาเขียวขจีให้กลายเป็นทุ่งเร่าร้อน
++++
‘นาง’ สาวแรกรุ่นวัย 19
ถูกพ่อส่งมาเป็นตัวขัดดอก ให้กับ...
‘กำนันอัฐ’ ผู้มีอิทธิพลวัยเกือบ 60
ชายสูงวัย กับ สาวน้อยแรกรุ่น
นาง... จะทำยังไงเมื่อสิ่งที่ถูกใจพ่อกำนันคือเรือนร่าง
นาง... ควรยอมหรือหลีกหนี
ความรักไม่เคยพานพบ แต่ความหิวเคยชิน
หากร่างกายนี้จะทำให้ครอบครัวได้อิ่มท้อง ‘นาง’ จะยอม
+++++
‘นาง’ หญิงสาววัย 19 ปี พลิกตัวขึ้นคร่อมชายแก่คราวปู่ของหล่อนเอาไว้ โหย่งกายสูง เพื่อให้ดอกไม้เบ่งบานอยู่เหนือดุ้นยาวใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ กดดอกไม้ที่เบ่งบานจนเห็นเกสรเม็ดในแดงแจ๋ให้กลืนกินหัวเห็ดบานร่าเข้าไป หล่อนค่อยๆ เว้นจังหวะความซ่านเสียวกดร่างให้ช้าที่สุด เพราะความใหญ่โตนั้นก่อเกิดความเสี้ยนสุดทุกขณะที่ความยิ่งใหญ่สอดผ่าน หล่อนเสียวจนต้องยั้งร่างไว้ อ้าปากผ่อนปรนเสียงกระเส่าที่พร้อมจะหลุดออกจากปากได้ทุกเมื่อ ทว่าเมื่อหัวเห็ดผลุบเข้าไป หล่อนก็อดไว้ไม่ไหว
“อ้า... ซี้ด... อื้อ... ซี้ด...”
ริมฝีปากน้อยๆ อ้าค้าง เปล่งเสียงครางสลับซู้ดซี้ดด้วยความเสียวอย่างอดไม่ได้ ยิ่งความยาวใหญ่แทรกเข้ามากเท่าไร ร่องฉ่ำน้ำก็ราวจะตอดรัดความยิ่งใหญ่นั้นมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น
“อ๊ายยยยย... พ่อกำนันขา... ซี้ด... นางไม่ไหวแล้ว ซี้ด... โอ๊ยยยยย...”
ลิ้นน้อยๆ แลบออกมาเลียรอบริมฝีปาก ก่อนจะโหย่งตัวค้างไว้ที่กึ่งกลางลำ นิ้วมือน้อยๆ ตรงเข้าขยี้เกสรดอกไม้ หล่อนอดทนลงอ้าอมจนสุดลำไม่ได้แล้ว หล่อนต้อง ‘เสร็จ!’ เดี๋ยวนี้ ทว่าเจ้าของลำยาวใหญ่กลับรั้งนิ้วมือของหล่อนออกแล้วใช้นิ้วสากของเขาแทนที่
“อ๊ายยยยย... พ่อกำนันขา... ซี้ด... นางเสียว อ๊ายยยยย... นางเสียว! โอว... เร็วๆ เร็วๆ ขยี้เร็วๆ อ๊ายยยยย... เร็วๆ แรงๆ อ๊ายยยยย... เสียว! เสียว!”
นางทนไม่ไหว เอนร่างไปด้านหลังให้สองมือค้ำยันกับต้นขาของเขา แอ่นดอกไม้บางเริงร่าที่คาบดุ้นอยู่เพียงครึ่งให้แอ่นสูงรอรับนิ้วสากที่ขยี้เกสรหล่อนไม่ยั้ง ปากก็พร่ำบอกให้เขาขยี้เร็วๆ ขยี้แรงๆ เพราะหล่อนมันเหลือเกิน มันจนทนไม่ไหวแล้ว
“อ๊ายยยยย... อ๊ายยยยย... แตกแล้ว! แตกแล้ว! อ๊ายยยยย...”
นางหลับตาพริ้ม แอ่นร่อนดอกไม้ส่ายหานิ้วคาบดุ้นไม่หยุด ปากก็ร่ำร้อง ร่องก็ตอดรัดดุ้นใหญ่แนบแน่นด้วยความเสียว ก่อนดวงตาจะเบิกกว้าง กรีดร้องออกมาสุดเสียง เมื่อฝ่ามือสากของ “กำนันอัฐ” กดสะโพกของหล่อนลงสุดทาง ดุ้นยาวใหญ่กว่าข้อมือฝังอยู่ในดอกไม้จนสุดโพรง
“กรี๊ดดดดด... กรี๊ดดดดด... เสียว! อ๊ายยยยย! เสียววววว...”
นางกรีดร้องสุดเสียง ทว่าไม่ได้มาจากความเจ็บปวด นั้นคือความเสียวสุดๆ จนทั่วทั้งร่างเกร็งกระตุกต่อเนื่อง หล่อนเสียวจนฉี่แตกกระจายพวยพุ่ง เสียวจนสั่นไปทั้งร่าง ได้แต่กรีดร้องออกมาเพื่อระบายความอัดอั้นแทบจะขาดใจตาย แต่คนทำกลับหัวเราะร่าที่เห็นหล่อนอยากจนร่านร้อน เสี้ยนดุ้นใหญ่อย่างหยุดไม่ได้ และชอบมากที่สุดที่หล่อนเสียวจนฉี่ราด
เพราะนั่นคือตัวการันตีว่าชายชราวัยเกือบ 60 ปี สามารถทำให้สาวน้อยวัย 19 ปีอย่างหล่อน หลงเขาอย่างหัวปักหัวปำ เขาทำให้หล่อนเสร็จจนนับครั้งไม่ถ้วน เขาล่อลวงหล่อนด้วยความเสียวจนหล่อนไปไหนไม่รอด สุดท้ายความอยากความเสี้ยนก็นำทางให้หล่อนต้องกลับมาหาเขาทุกครั้ง
ฉับพลันความโกรธก็วาบขึ้นปะปนกับความเสียว
หล่อนโกรธผู้ชายสูงวัยใต้ร่าง
โกรธดุ้นใหญ่เท่าแขนและยาวเท่าศอกที่สอดลึกจนหล่อนเสียวแล้วเสียวอีกนับสิบครั้งจากการทิ่มครั้งเดียว
โกรธที่เขาทำให้หล่อนรู้จักความเสียวครั้งแรกของวัยสาว และเป็นเสียวชั้นครูที่หล่อนอดมันไม่ได้
หล่อนอยากเสียวอยากเสร็จกับดุ้นเขาทั้งวันทั้งคืน
แต่หล่อนก็โกรธที่ตัวเองเป็นแบบนี้ โกรธที่อดอยากไม่ได้เลย และโกรธที่สุดก็คงเป็นโชคชะตาของหล่อนเอง ที่ทำให้พ่อที่นำหล่อนมาขัดดอกเพราะไม่มีเงินมาใช้หนี้กำนันอัฐ
ทว่ามันเป็นความโกรธที่แสนเสียว โกรธเมื่อเขาขยับร่าง และโกรธเมื่อกำนันกระชับสะโพกหล่อนแล้วขยับขึ้นลงเพราะนั่น...
“อ๊ายยยยย... แตกแล้วอีกแล้ว... แตกอีกแล้ว... อ๊ายยยยย...”
นางตัวเกร็ง ร่างเปลือยอวบอิ่มของวัยสาวสั่นระริก หล่อนปล่อยใจปล่อยกายให้ล่องลอยไปกับความเสียวท่วมท้น เพราะไม่ว่าอย่างไรหล่อนก็ต้านทานไม่ได้ มันเริ่มตั้งแต่วันนั้น... วันที่หล่อนสัมผัสถึงความเสียวแรกของวัยสาว เสียวครั้งแรกที่ไม่กล้าลืม
6 เดือนก่อน
เรือนไทยหลายสิบหลังที่ปลูกอยู่ในพื้นที่เดียวกันตั้งตระหง่านอยู่กลางนา คือ อาณาจักรของ ‘กำนันอัฐ’ ผู้กว้างขวาง เพราะนอกจากจะเป็นกำนันแล้วนั้น ชายแก่วัยใกล้ 60 ปี ก็ยังเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับปู่ของหล่อน ทว่าปู่ของหล่อนน่ะลงโลงไปแล้ว ส่วนกำนันอัฐนั้นยังหนุ่มแน่น หลายคนเล่าว่าเพราะมียาดี ทำให้กำนันอัฐยังคงดูหนุ่มและแข็งแรงราวชายวัย 30 ปลายๆ เท่านั้น
ก็คงไม่แปลกหากยาดีมากมายทั่วโลกจะถูกส่งมา เพราะกำนันเป็นคนรวยที่สุดในตำบล เขาเป็นเจ้าของตลาด เจ้าของโรงสี เจ้าของนากว่า 1,000 ไร่ รวมทั้งคอกวัว คอกหมู เล้าไก่ และธุรกิจสีเทา ไม่ว่าจะเป็นหวยใต้ดิน หวยจับยี่กี หวยหุ้น หวยลาว หรือแม้แต่บ่อนไฮโล เรียกได้ว่าทุกธุรกิจในตำบลไม่มีหรอกที่กำนันอัฐจะไม่มีเอี่ยว แม้กระทั่งร้านทองในตลาด กำนันอัฐก็ยังได้ลูกสาวร้านทองมาเป็นสะใภ้ นับว่าเป็นผู้กว้างขวางแท้จริง นั่นทำให้กำนันเป็นที่นับหน้าถือตาของผู้คนทั้งตำบล และที่ทำให้ทุกคนเกรงใจที่สุด ก็เพราะกำนันเป็นแหล่งเงินกู้ชั้นดี
ใครต้องการเงินจะมากจะน้อยก็มาหากำนันได้ ขอแค่มีหลักทรัพย์มาค้ำประกัน ถ้าจำนวนเงินสมเหตุสมผลกัน กำนันก็ให้กู้ รวมทั้งพ่อของหล่อนด้วย
‘นาง’ เดินตามหลังพ่อเข้ามาในอาณาเขตเรือนไทยของกำนันอัฐ เสียงลูกสมุนของกำนันผิวปากหยอกเย้าจนหล่อนเดินติดแทบจะสิงเข้าไปในตัวพ่อ หล่อนเคยเห็นคนพวกนี้ที่ตลาดอยู่บ้าน แต่นั่นก็นานแล้ว ไม่ใช่ตอนที่หล่อนโตเป็นสาวเต็มตัวแบบนี้ และสายตาของแต่ละคนที่มองมา หล่อนรู้ความหมาย “อีนาง! มึงเดินห่างๆ กูหน่อย” “พ่อ... ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ให้ฉันกลับไปช่วยแม่ทำนาเถอะนะ ฉันจะขยัน จะช่วยพ่อทุกอย่าง จะให้พ่อมีเงินมาใช้หนี้กำนันได้ นะพ่อนะ อย่าให้ฉันอยู่ที่นี่เลย” “อีนาง... มึงฟังกูให้ดีนะ ต่อให้มึงไปทำงานที่กรุงเทพฯ จนตาย มึงก็หาเงินมาใช้หนี้พ่อกำนันได้ไม่พอหรอก” แม้คำพูดจะฟังไม่หวานหูเพราะเป็นวิถีของคนยากแต่น้ำเสียงของพ่อกูดูเศร้า แววตาที่มองมายังหล่อนเต็มไปด้วยความทุกข์ท่วมท้น พ่อไม่ได้อยากพาหล่อนมาที่นี่หรอกหรือ ทั้งที่ก่อนจะออกจากบ้าน แม่ร้องไห้คร่ำครวญห้ามพ่อว่าอย่าเอาหล่อนมาที่นี่เลย แต่พ่อกลับไม่ฟัง ฉุดกระชากลากถูหล่อนมาจนได้ “เราเป็นหนี้กำนันเท่าไหร่กันพ่อ” หล่อนกัดฟันถาม รอคอยฟังคำตอบด้วยหัวใจระทึก “ล้านกว่า” คำตอบของพ่
“น้ามุก น้ามุกเป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วย น้ามุกบอกได้เลยนะจ๊ะ ฉันทำได้ทุกอย่าง ไม่เกี่ยงเลยจ้ะ” น้ามุกชะงักไปเพียงนิดเมื่อหล่อนพูดไปแบบนั้น สาวใหญ่วัยเดียวกับแม่สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะปรับสีหน้าให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่น้ามุกยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงลูกน้องกำนันก็ดังแทรกซะก่อน “จะเป็นอาร้ายยยยย... หึงเด็กใหม่น่ะสิน้องนาง” “หึง... หึงใครจ๊ะ แล้วหึงทำไม...” “ก็หึง...” “ไอ้พวกห่าเหว กูจะฟ้องพ่อกำนันให้หมดว่าพวกมึงผิวปากล้อนังนางมัน มึงได้กินตะกั่วแทนข้าวแน่” “อูย... ขี้ฟ้อง ไปก็ได้ น้องนางจ๋า อย่าถือสาพวกพี่เลยนะจ๊ะ พวกพี่มันปากหมาแบบนี้แหละ แต่ถ้าอยากให้หมาเลียปากก็ลงมาตอนค่ำๆ นะจ๊ะ” นางยิ้มแห้งไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ แค่น้ามุกที่ตะโกนด่าพวกนั้นเสียงขรมก็คงพอแล้ว ก่อนจะเรียกหล่อนให้ตามไปที่ห้อง น้ามุกพาหล่อนมายังห้องนอนบนเรือน ห้องเล็กๆ ทางปีกซ้าย เมื่อเปิดหน้าต่างก็มองเห็นท้องนาเขียวขจี นั่นทำให้หล่อนเศร้า เพราะขณะที่นาคนอื่นแล้งไร้น้ำ แต่นาของกำนันอัฐก็ยังคงเขียว เม็ดเงินของคนรวยซื้อได้ทุ
นางปล่อยความหวาดหวั่นทั้งหมดให้จางหาย แหงนหน้ารับละอองน้ำตกกระทบ มีแต่ความสุขกายสบายใจ เมื่อขัดสีฉวีวรรณเรียบร้อยแล้ว นางจึงออกไปหาน้ามุกที่ด้านนอก น้ามุกมองหล่อนที่อาบน้ำแต่งตัวในชุดที่เตรียมไว้ให้ สีหน้าของน้ามุกมีแววเคร่งเครียด จนหล่อนต้องก้มมองชุดที่สวม หรือว่าหล่อนเลือกไม่เหมาะ “ไม่ดีหรือจ๊ะน้ามุก” “ไม่ใช่ ดีมากเลยล่ะ มากินข้าวเถอะ อีกเดี๋ยวพ่อกำนันคงมาถึง ตอนนั้นเอ็งจะกินลำบาก” น้ามุกเดินนำหล่อนไปอีกฟากหนึ่งของเรือน นางสำรวจดูก็เห็นว่าบนเรือนไทยของกำนันอัฐ มีห้องหับที่แยกเป็นเรือนย่อมๆ ไว้หลายหลัง ซึ่งก็คงเป็นห้องนอนแต่ละห้อง และก็มีครัวไฟอยู่อีกด้าน หมดทั้งหลังน่าจะเป็นไม้สัก ประเมินค่าราคาคงมากกว่าหนี้ของพ่อหลายสิบเท่า แตกต่างจากบ้านของหล่อนลิบลับ เพราะบ้านหล่อนสร้างจากไม้ที่ตัดจากท้ายนาที่หาได้ตามมีตามเกิด ผุพังตรงไหนก็ซ่อมปะไป และก็มีแค่โถงกว้างนอนเรียงกัน แยกครัวไฟไว้อีกด้าน เวลาทำกับข้าวควันไฟจะได้ไม่เข้าไปในส่วนของที่นอน เมื่อเดินมาถึงที่ครัวไฟ นางก็พบว่าไม่ใช่อย่างที่หล่อนคิดเอาไว้เลย เพราะครัวไฟที่เรือนกำนันแตก
นางแหงนหน้ามองกำนันอัฐอย่างเร็ว พร้อมกับหันมองน้ามุก เมื่อเห็นน้ามุกพยักหน้าน้อยๆ ซึ่งก็แปลว่าน้ามุกคงเล่าเรื่องของหล่อนให้พ่อกำนันฟัง แค่นั้นน้ำตาก็วาวขึ้น “อยากเอาจ้ะ” “อืม... เดี๋ยวจะให้คนเอาไปให้” “หนูขอบพระคุณพ่อกำนันมากจ้ะ” “ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง ไม่ได้ลำบากอะไร ว่าแต่เอ็งพร้อมทำงานหรือยังล่ะ” “พร้อมแล้วจ้ะ พร้อมแล้ว พ่อกำนันอยากให้หนูทำอะไร บอกมาเลยนะจ๊ะ หนูจะทำให้ทุกอย่าง” “อืม... งั้นก็ตามมา” กำนันอัฐลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะก้าวเดินไปในทิศทางของเรือนนอนที่หล่อนจากมา นางลุกขึ้นจะเดินตาม แต่แล้วพ่อกำนันที่หยุดเดินก็ทำให้หล่อนชะงัก ดวงตาคมเข้มมองเลยไปยังน้ามุกที่ยืนอยู่ด้านหลังหล่อน “จัดการเอาอาหารไปให้น้องๆ ของนางด้วย” “จ้ะ พ่อกำนัน ประเดี๋ยวฉันจะติดผลไม้ไปด้วยจ้ะ ได้มาจากสวนเยอะ” กำนันอัฐยิ้มบางๆ ให้หล่อนที่น้ำตารื้นพนมมือไหว้ ก่อนจะหันไปพนมมือไหว้น้ามุกอีกคน น้ามุกรับไหว้ทว่าสายตาที่สบมากลับคือความเห็นใจ “มาเถอะ ตามมา” ทว่าเสียงของกำนันก็ทำใ
นางแหงนหน้ามองกำนันอัฐอย่างเร็ว พร้อมกับหันมองน้ามุก เมื่อเห็นน้ามุกพยักหน้าน้อยๆ ซึ่งก็แปลว่าน้ามุกคงเล่าเรื่องของหล่อนให้พ่อกำนันฟัง แค่นั้นน้ำตาก็วาวขึ้น “อยากเอาจ้ะ” “อืม... เดี๋ยวจะให้คนเอาไปให้” “หนูขอบพระคุณพ่อกำนันมากจ้ะ” “ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง ไม่ได้ลำบากอะไร ว่าแต่เอ็งพร้อมทำงานหรือยังล่ะ” “พร้อมแล้วจ้ะ พร้อมแล้ว พ่อกำนันอยากให้หนูทำอะไร บอกมาเลยนะจ๊ะ หนูจะทำให้ทุกอย่าง” “อืม... งั้นก็ตามมา” กำนันอัฐลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะก้าวเดินไปในทิศทางของเรือนนอนที่หล่อนจากมา นางลุกขึ้นจะเดินตาม แต่แล้วพ่อกำนันที่หยุดเดินก็ทำให้หล่อนชะงัก ดวงตาคมเข้มมองเลยไปยังน้ามุกที่ยืนอยู่ด้านหลังหล่อน “จัดการเอาอาหารไปให้น้องๆ ของนางด้วย” “จ้ะ พ่อกำนัน ประเดี๋ยวฉันจะติดผลไม้ไปด้วยจ้ะ ได้มาจากสวนเยอะ” กำนันอัฐยิ้มบางๆ ให้หล่อนที่น้ำตารื้นพนมมือไหว้ ก่อนจะหันไปพนมมือไหว้น้ามุกอีกคน น้ามุกรับไหว้ทว่าสายตาที่สบมากลับคือความเห็นใจ “มาเถอะ ตามมา” ทว่าเสียงของกำนันก็ทำใ
นางปล่อยความหวาดหวั่นทั้งหมดให้จางหาย แหงนหน้ารับละอองน้ำตกกระทบ มีแต่ความสุขกายสบายใจ เมื่อขัดสีฉวีวรรณเรียบร้อยแล้ว นางจึงออกไปหาน้ามุกที่ด้านนอก น้ามุกมองหล่อนที่อาบน้ำแต่งตัวในชุดที่เตรียมไว้ให้ สีหน้าของน้ามุกมีแววเคร่งเครียด จนหล่อนต้องก้มมองชุดที่สวม หรือว่าหล่อนเลือกไม่เหมาะ “ไม่ดีหรือจ๊ะน้ามุก” “ไม่ใช่ ดีมากเลยล่ะ มากินข้าวเถอะ อีกเดี๋ยวพ่อกำนันคงมาถึง ตอนนั้นเอ็งจะกินลำบาก” น้ามุกเดินนำหล่อนไปอีกฟากหนึ่งของเรือน นางสำรวจดูก็เห็นว่าบนเรือนไทยของกำนันอัฐ มีห้องหับที่แยกเป็นเรือนย่อมๆ ไว้หลายหลัง ซึ่งก็คงเป็นห้องนอนแต่ละห้อง และก็มีครัวไฟอยู่อีกด้าน หมดทั้งหลังน่าจะเป็นไม้สัก ประเมินค่าราคาคงมากกว่าหนี้ของพ่อหลายสิบเท่า แตกต่างจากบ้านของหล่อนลิบลับ เพราะบ้านหล่อนสร้างจากไม้ที่ตัดจากท้ายนาที่หาได้ตามมีตามเกิด ผุพังตรงไหนก็ซ่อมปะไป และก็มีแค่โถงกว้างนอนเรียงกัน แยกครัวไฟไว้อีกด้าน เวลาทำกับข้าวควันไฟจะได้ไม่เข้าไปในส่วนของที่นอน เมื่อเดินมาถึงที่ครัวไฟ นางก็พบว่าไม่ใช่อย่างที่หล่อนคิดเอาไว้เลย เพราะครัวไฟที่เรือนกำนันแตก
“น้ามุก น้ามุกเป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วย น้ามุกบอกได้เลยนะจ๊ะ ฉันทำได้ทุกอย่าง ไม่เกี่ยงเลยจ้ะ” น้ามุกชะงักไปเพียงนิดเมื่อหล่อนพูดไปแบบนั้น สาวใหญ่วัยเดียวกับแม่สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะปรับสีหน้าให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่น้ามุกยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงลูกน้องกำนันก็ดังแทรกซะก่อน “จะเป็นอาร้ายยยยย... หึงเด็กใหม่น่ะสิน้องนาง” “หึง... หึงใครจ๊ะ แล้วหึงทำไม...” “ก็หึง...” “ไอ้พวกห่าเหว กูจะฟ้องพ่อกำนันให้หมดว่าพวกมึงผิวปากล้อนังนางมัน มึงได้กินตะกั่วแทนข้าวแน่” “อูย... ขี้ฟ้อง ไปก็ได้ น้องนางจ๋า อย่าถือสาพวกพี่เลยนะจ๊ะ พวกพี่มันปากหมาแบบนี้แหละ แต่ถ้าอยากให้หมาเลียปากก็ลงมาตอนค่ำๆ นะจ๊ะ” นางยิ้มแห้งไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ แค่น้ามุกที่ตะโกนด่าพวกนั้นเสียงขรมก็คงพอแล้ว ก่อนจะเรียกหล่อนให้ตามไปที่ห้อง น้ามุกพาหล่อนมายังห้องนอนบนเรือน ห้องเล็กๆ ทางปีกซ้าย เมื่อเปิดหน้าต่างก็มองเห็นท้องนาเขียวขจี นั่นทำให้หล่อนเศร้า เพราะขณะที่นาคนอื่นแล้งไร้น้ำ แต่นาของกำนันอัฐก็ยังคงเขียว เม็ดเงินของคนรวยซื้อได้ทุ
‘นาง’ เดินตามหลังพ่อเข้ามาในอาณาเขตเรือนไทยของกำนันอัฐ เสียงลูกสมุนของกำนันผิวปากหยอกเย้าจนหล่อนเดินติดแทบจะสิงเข้าไปในตัวพ่อ หล่อนเคยเห็นคนพวกนี้ที่ตลาดอยู่บ้าน แต่นั่นก็นานแล้ว ไม่ใช่ตอนที่หล่อนโตเป็นสาวเต็มตัวแบบนี้ และสายตาของแต่ละคนที่มองมา หล่อนรู้ความหมาย “อีนาง! มึงเดินห่างๆ กูหน่อย” “พ่อ... ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ให้ฉันกลับไปช่วยแม่ทำนาเถอะนะ ฉันจะขยัน จะช่วยพ่อทุกอย่าง จะให้พ่อมีเงินมาใช้หนี้กำนันได้ นะพ่อนะ อย่าให้ฉันอยู่ที่นี่เลย” “อีนาง... มึงฟังกูให้ดีนะ ต่อให้มึงไปทำงานที่กรุงเทพฯ จนตาย มึงก็หาเงินมาใช้หนี้พ่อกำนันได้ไม่พอหรอก” แม้คำพูดจะฟังไม่หวานหูเพราะเป็นวิถีของคนยากแต่น้ำเสียงของพ่อกูดูเศร้า แววตาที่มองมายังหล่อนเต็มไปด้วยความทุกข์ท่วมท้น พ่อไม่ได้อยากพาหล่อนมาที่นี่หรอกหรือ ทั้งที่ก่อนจะออกจากบ้าน แม่ร้องไห้คร่ำครวญห้ามพ่อว่าอย่าเอาหล่อนมาที่นี่เลย แต่พ่อกลับไม่ฟัง ฉุดกระชากลากถูหล่อนมาจนได้ “เราเป็นหนี้กำนันเท่าไหร่กันพ่อ” หล่อนกัดฟันถาม รอคอยฟังคำตอบด้วยหัวใจระทึก “ล้านกว่า” คำตอบของพ่
นวลนางนิยายดราม่าอีโรติกที่จะสะเทือนท้องทุ่งจะเปลี่ยนท้องนาเขียวขจีให้กลายเป็นทุ่งเร่าร้อน++++‘นาง’ สาวแรกรุ่นวัย 19ถูกพ่อส่งมาเป็นตัวขัดดอก ให้กับ...‘กำนันอัฐ’ ผู้มีอิทธิพลวัยเกือบ 60ชายสูงวัย กับ สาวน้อยแรกรุ่นนาง... จะทำยังไงเมื่อสิ่งที่ถูกใจพ่อกำนันคือเรือนร่างนาง... ควรยอมหรือหลีกหนีความรักไม่เคยพานพบ แต่ความหิวเคยชินหากร่างกายนี้จะทำให้ครอบครัวได้อิ่มท้อง ‘นาง’ จะยอม+++++‘นาง’ หญิงสาววัย 19 ปี พลิกตัวขึ้นคร่อมชายแก่คราวปู่ของหล่อนเอาไว้ โหย่งกายสูง เพื่อให้ดอกไม้เบ่งบานอยู่เหนือดุ้นยาวใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ กดดอกไม้ที่เบ่งบานจนเห็นเกสรเม็ดในแดงแจ๋ให้กลืนกินหัวเห็ดบานร่าเข้าไป หล่อนค่อยๆ เว้นจังหวะความซ่านเสียวกดร่างให้ช้าที่สุด เพราะความใหญ่โตนั้นก่อเกิดความเสี้ยนสุดทุกขณะที่ความยิ่งใหญ่สอดผ่าน หล่อนเสียวจนต้องยั้งร่างไว้ อ้าปากผ่อนปรนเสียงกระเส่าที่พร้อมจะหลุดออกจากปากได้ทุกเมื่อ ทว่าเมื่อหัวเห็ดผลุบเข้าไป หล่อนก็อดไว้ไม่ไหว “อ้า... ซี้ด... อื้อ... ซี้ด...” ริมฝีปากน้อยๆ อ้าค้าง เปล่งเสียงครางสลับซู้ดซี้ดด้วยความเสียวอย่างอดไม่ได้ ยิ่งความยาวใหญ่แทรกเ