นางแหงนหน้ามองกำนันอัฐอย่างเร็ว พร้อมกับหันมองน้ามุก เมื่อเห็นน้ามุกพยักหน้าน้อยๆ ซึ่งก็แปลว่าน้ามุกคงเล่าเรื่องของหล่อนให้พ่อกำนันฟัง แค่นั้นน้ำตาก็วาวขึ้น
“อยากเอาจ้ะ”
“อืม... เดี๋ยวจะให้คนเอาไปให้”
“หนูขอบพระคุณพ่อกำนันมากจ้ะ”
“ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง ไม่ได้ลำบากอะไร ว่าแต่เอ็งพร้อมทำงานหรือยังล่ะ”
“พร้อมแล้วจ้ะ พร้อมแล้ว พ่อกำนันอยากให้หนูทำอะไร บอกมาเลยนะจ๊ะ หนูจะทำให้ทุกอย่าง”
“อืม... งั้นก็ตามมา”
กำนันอัฐลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะก้าวเดินไปในทิศทางของเรือนนอนที่หล่อนจากมา นางลุกขึ้นจะเดินตาม แต่แล้วพ่อกำนันที่หยุดเดินก็ทำให้หล่อนชะงัก ดวงตาคมเข้มมองเลยไปยังน้ามุกที่ยืนอยู่ด้านหลังหล่อน
“จัดการเอาอาหารไปให้น้องๆ ของนางด้วย”
“จ้ะ พ่อกำนัน ประเดี๋ยวฉันจะติดผลไม้ไปด้วยจ้ะ ได้มาจากสวนเยอะ”
กำนันอัฐยิ้มบางๆ ให้หล่อนที่น้ำตารื้นพนมมือไหว้ ก่อนจะหันไปพนมมือไหว้น้ามุกอีกคน น้ามุกรับไหว้ทว่าสายตาที่สบมากลับคือความเห็นใจ
“มาเถอะ ตามมา”
ทว่าเสียงของกำนันก็ทำให้นางต้องเดินตามร่างสูงใหญ่ตรงไป หัวใจหล่อนเต้นตึกตักๆ แบบแปลกๆ กลิ่นน้ำหอมผู้ชายราวจะโชยออกมาจากเรือนร่างด้านหน้า จนหล่อนเผลอสูดลมหายใจเข้าลึก
กำนันอัฐไม่ได้พาหล่อนไปที่ห้องนอนที่น้ามุกพาไป แต่เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่คงเป็นห้องนอนของกำนันอัฐเอง ด้านในนั้นตกแต่งไว้อย่างหรูหรา เหมือนห้องนอนของคนรวยในละครทีวีที่หล่อนเคยดู เมื่อจุดที่หล่อนยืนอยู่คือห้องรับแขก มีห้องทำงานอยู่อีกฟาก และอีกฟากคงเป็นห้องนอน เพราะหล่อนเห็นฉากบางๆ กั้นอยู่ และสิ่งที่ทำให้หล่อนตื่นตาตื่นใจที่สุดก็คือ หน้าต่างสูงที่เปิดโล่ง ด้านนอกนั้นมองเห็นท้องนาได้เป็นมุมกว้าง สีเขียวสดช่างสวยงามจนหล่อนมองเพลิน
“นั่งสิ”
เสียงทุ้มของกำนันทำให้หล่อนชะงัก รีบทรุดร่างลงนั่ง แต่กำนันกลับถลามารับตัวหล่อนไว้ จนหล่อนตัวแข็งทื่อ
“นั่งข้างบน”
“เอ่อ... ค่ะ” กำนันหมายถึงบนโซฟารับแขกตัวหรู ดีเหลือเกินที่หล่อนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เรียบร้อย เพราะหากเป็นเสื้อผ้าที่หล่อนใส่มา หล่อนคงไม่กล้าขึ้นนั่งแน่
กำนันอัฐนั่งเอกเขนกพาดมือกับพนักโซฟาข้างหนึ่ง อีกข้างพาดอยู่บนหมอนหรู ดวงตาคมเข้มจ้องมองมาที่หล่อนจนรับรู้ได้บางสิ่ง มันคือความคุกคาม ความน่าหวาดหวั่น และอันตราย แต่จะเป็นไปได้ยังไง พ่อแม่ไม่มีทางยอมให้หล่อน...
สายตาเศร้าของพ่อ อ้อมกอดของพ่อ หยาดน้ำตาและเสียงร้องห้ามของแม่
“รู้ไหมว่ามาที่นี่ทำไม”
นางสะดุ้ง เหลือบตาขึ้นมองใบหน้าคมเข้ม ตอบอย่างที่พ่อบอก “พ่อบอกให้หนูมาช่วยงานพ่อกำนันจ้ะ” ทั้งที่ใจหล่อนคิดไกลไปกว่านั้นแล้ว
“บอกมั้ยว่าต้องทำให้ข้าพอใจ”
“บอกจ้ะ”
“แล้วรู้มั้ย ทำยังไงข้าถึงจะพอใจ”
“เอ่อ... หนูไม่รู้จ้ะ แต่แค่พ่อกำนันบอก หนูก็พร้อมจะทำให้ ถ้าหนูทำได้”
อะไรไม่รู้ดลใจให้หล่อนพูดออกไปแบบนั้น ทั้งที่สายตาของกำนันอัฐสื่อความหมายออกมาจนหมด นางสั่นไปทั้งร่าง หัวใจเต้นรัวเร็ว ตั้งแต่เกิดมาหล่อนไม่เคยมีความรักแบบหนุ่มสาว เพราะเจียมตัวว่าจน และเพราะต้องช่วยแม่เลี้ยงน้อง ตั้งแต่เรียนจบ ม.3 หล่อนก็เหมือนจะใช้ชีวิตอยู่แค่ที่บ้านที่นาเท่านั้น แต่หล่อนก็ไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าท่าทางคุกคามที่กำนันแสดงออกอยู่นี้คืออะไร
“เอ็งเคยเล่นผัวเมียกับใครมั้ย”
“ไม่เคยจ้ะ! ไม่เคย” นางตอบเสียงหลง ตกใจที่ได้ยินคำถามนี้ตรงๆ และเมื่อแหงนหน้าเห็นสายตาของกำนัน หล่อนก็ต้องหลุบสายตาลงอย่างเร็ว เลือดลมราวจะฉีดพล่าน ทั่วร่างกายสะบัดร้อนสะบัดหนาว จนหล่อนต้องเบียดตัวเองแนบชิดกับโซฟา
“เอ็งรู้มั้ยว่าพ่อเอ็งเป็นหนี้ข้าหลักล้าน”
คำถามตรงเป้าราวจะทำให้ความร้อนวูบวาบทั่วร่างจางหาย หล่อนกำลังรับรู้กับความจริง “รู้จ้ะ”
“เอ็งคิดว่าจะทำงานให้ข้าแบบไหนถึงจะใช้หนี้ได้พอ”
“พ่อบอกว่าให้หนูมาทำงานขัดดอก ได้ข้าวปีหน้าพ่อจะมาจ่ายดอกเบี้ยพ่อกำนัน จากนั้นก็รับหนูกลับจ้ะ”
“แล้วเอ็งว่า ข้าวปีหน้าจะดีมั้ยล่ะ”
นางมองตามสายตาของพ่อกำนันที่มองออกไปด้านนอก ทุ่งนาเขียวขจีของกำนันอัฐ ทุ่งแห้งไร้น้ำที่นาหล่อนเทียบไม่ได้เลย ข้าวจะดีได้อย่างไร เมื่อน้ำไม่เคยไปถึงปลายทาง
“ถ้าข้าวเอ็งไม่ดี เอ็งต้องอยู่ที่นี่อีกกี่ปีกัน มีหวังพ่อเอ็งต้องพาน้องเอ็งมาอยู่อีกคน น้องเอ็งชื่ออะไรนะ คนรองจากเอ็งน่ะ”
“นิ่มจ้ะ”
“อืม... นังนิ่ม”
ดวงตาของกำนันอัฐเป็นประกายบางอย่างที่ทำให้หล่อนเสียวสันหลังวาบ
“หนูต้องทำยังไงจ๊ะ หนี้ของพ่อถึงจะลดลง ทำยังไงน้ำถึงจะมีไปถึงที่นาหนูบ้าง”
นางเสียงสั่นแต่หล่อนต้องพูด แม้หล่อนไม่เคยมือชายมาก่อน แต่แววตาของผู้ชายตรงหน้าที่โลมเลียไปตามเนื้อตัว หล่อนก็แน่ใจว่าคิดไม่ผิดแน่ ดวงตากลมโตช้อนขึ้นสบสายตากำนันอัฐ
“หากพ่อกำนันต้องการให้หนู... รับใช้ หนูก็ยินดีจ้ะ หนูขอเพียง... เมตตาหนูเท่านั้น”
นางกัดฟันพูด ริมฝีปากสั่น ดวงตาร้อนผ่าว และอกอวบก็สะท้านขึ้นลงจากแรงสะอื้นด้านใน
“เอ็งเต็มหรือเปล่า ข้าไม่เคยต้องขืนใจใคร”
นวลนางนิยายดราม่าอีโรติกที่จะสะเทือนท้องทุ่งจะเปลี่ยนท้องนาเขียวขจีให้กลายเป็นทุ่งเร่าร้อน++++‘นาง’ สาวแรกรุ่นวัย 19ถูกพ่อส่งมาเป็นตัวขัดดอก ให้กับ...‘กำนันอัฐ’ ผู้มีอิทธิพลวัยเกือบ 60ชายสูงวัย กับ สาวน้อยแรกรุ่นนาง... จะทำยังไงเมื่อสิ่งที่ถูกใจพ่อกำนันคือเรือนร่างนาง... ควรยอมหรือหลีกหนีความรักไม่เคยพานพบ แต่ความหิวเคยชินหากร่างกายนี้จะทำให้ครอบครัวได้อิ่มท้อง ‘นาง’ จะยอม+++++‘นาง’ หญิงสาววัย 19 ปี พลิกตัวขึ้นคร่อมชายแก่คราวปู่ของหล่อนเอาไว้ โหย่งกายสูง เพื่อให้ดอกไม้เบ่งบานอยู่เหนือดุ้นยาวใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ กดดอกไม้ที่เบ่งบานจนเห็นเกสรเม็ดในแดงแจ๋ให้กลืนกินหัวเห็ดบานร่าเข้าไป หล่อนค่อยๆ เว้นจังหวะความซ่านเสียวกดร่างให้ช้าที่สุด เพราะความใหญ่โตนั้นก่อเกิดความเสี้ยนสุดทุกขณะที่ความยิ่งใหญ่สอดผ่าน หล่อนเสียวจนต้องยั้งร่างไว้ อ้าปากผ่อนปรนเสียงกระเส่าที่พร้อมจะหลุดออกจากปากได้ทุกเมื่อ ทว่าเมื่อหัวเห็ดผลุบเข้าไป หล่อนก็อดไว้ไม่ไหว “อ้า... ซี้ด... อื้อ... ซี้ด...” ริมฝีปากน้อยๆ อ้าค้าง เปล่งเสียงครางสลับซู้ดซี้ดด้วยความเสียวอย่างอดไม่ได้ ยิ่งความยาวใหญ่แทรกเ
‘นาง’ เดินตามหลังพ่อเข้ามาในอาณาเขตเรือนไทยของกำนันอัฐ เสียงลูกสมุนของกำนันผิวปากหยอกเย้าจนหล่อนเดินติดแทบจะสิงเข้าไปในตัวพ่อ หล่อนเคยเห็นคนพวกนี้ที่ตลาดอยู่บ้าน แต่นั่นก็นานแล้ว ไม่ใช่ตอนที่หล่อนโตเป็นสาวเต็มตัวแบบนี้ และสายตาของแต่ละคนที่มองมา หล่อนรู้ความหมาย “อีนาง! มึงเดินห่างๆ กูหน่อย” “พ่อ... ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ให้ฉันกลับไปช่วยแม่ทำนาเถอะนะ ฉันจะขยัน จะช่วยพ่อทุกอย่าง จะให้พ่อมีเงินมาใช้หนี้กำนันได้ นะพ่อนะ อย่าให้ฉันอยู่ที่นี่เลย” “อีนาง... มึงฟังกูให้ดีนะ ต่อให้มึงไปทำงานที่กรุงเทพฯ จนตาย มึงก็หาเงินมาใช้หนี้พ่อกำนันได้ไม่พอหรอก” แม้คำพูดจะฟังไม่หวานหูเพราะเป็นวิถีของคนยากแต่น้ำเสียงของพ่อกูดูเศร้า แววตาที่มองมายังหล่อนเต็มไปด้วยความทุกข์ท่วมท้น พ่อไม่ได้อยากพาหล่อนมาที่นี่หรอกหรือ ทั้งที่ก่อนจะออกจากบ้าน แม่ร้องไห้คร่ำครวญห้ามพ่อว่าอย่าเอาหล่อนมาที่นี่เลย แต่พ่อกลับไม่ฟัง ฉุดกระชากลากถูหล่อนมาจนได้ “เราเป็นหนี้กำนันเท่าไหร่กันพ่อ” หล่อนกัดฟันถาม รอคอยฟังคำตอบด้วยหัวใจระทึก “ล้านกว่า” คำตอบของพ่
“น้ามุก น้ามุกเป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วย น้ามุกบอกได้เลยนะจ๊ะ ฉันทำได้ทุกอย่าง ไม่เกี่ยงเลยจ้ะ” น้ามุกชะงักไปเพียงนิดเมื่อหล่อนพูดไปแบบนั้น สาวใหญ่วัยเดียวกับแม่สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะปรับสีหน้าให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่น้ามุกยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงลูกน้องกำนันก็ดังแทรกซะก่อน “จะเป็นอาร้ายยยยย... หึงเด็กใหม่น่ะสิน้องนาง” “หึง... หึงใครจ๊ะ แล้วหึงทำไม...” “ก็หึง...” “ไอ้พวกห่าเหว กูจะฟ้องพ่อกำนันให้หมดว่าพวกมึงผิวปากล้อนังนางมัน มึงได้กินตะกั่วแทนข้าวแน่” “อูย... ขี้ฟ้อง ไปก็ได้ น้องนางจ๋า อย่าถือสาพวกพี่เลยนะจ๊ะ พวกพี่มันปากหมาแบบนี้แหละ แต่ถ้าอยากให้หมาเลียปากก็ลงมาตอนค่ำๆ นะจ๊ะ” นางยิ้มแห้งไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ แค่น้ามุกที่ตะโกนด่าพวกนั้นเสียงขรมก็คงพอแล้ว ก่อนจะเรียกหล่อนให้ตามไปที่ห้อง น้ามุกพาหล่อนมายังห้องนอนบนเรือน ห้องเล็กๆ ทางปีกซ้าย เมื่อเปิดหน้าต่างก็มองเห็นท้องนาเขียวขจี นั่นทำให้หล่อนเศร้า เพราะขณะที่นาคนอื่นแล้งไร้น้ำ แต่นาของกำนันอัฐก็ยังคงเขียว เม็ดเงินของคนรวยซื้อได้ทุ
นางปล่อยความหวาดหวั่นทั้งหมดให้จางหาย แหงนหน้ารับละอองน้ำตกกระทบ มีแต่ความสุขกายสบายใจ เมื่อขัดสีฉวีวรรณเรียบร้อยแล้ว นางจึงออกไปหาน้ามุกที่ด้านนอก น้ามุกมองหล่อนที่อาบน้ำแต่งตัวในชุดที่เตรียมไว้ให้ สีหน้าของน้ามุกมีแววเคร่งเครียด จนหล่อนต้องก้มมองชุดที่สวม หรือว่าหล่อนเลือกไม่เหมาะ “ไม่ดีหรือจ๊ะน้ามุก” “ไม่ใช่ ดีมากเลยล่ะ มากินข้าวเถอะ อีกเดี๋ยวพ่อกำนันคงมาถึง ตอนนั้นเอ็งจะกินลำบาก” น้ามุกเดินนำหล่อนไปอีกฟากหนึ่งของเรือน นางสำรวจดูก็เห็นว่าบนเรือนไทยของกำนันอัฐ มีห้องหับที่แยกเป็นเรือนย่อมๆ ไว้หลายหลัง ซึ่งก็คงเป็นห้องนอนแต่ละห้อง และก็มีครัวไฟอยู่อีกด้าน หมดทั้งหลังน่าจะเป็นไม้สัก ประเมินค่าราคาคงมากกว่าหนี้ของพ่อหลายสิบเท่า แตกต่างจากบ้านของหล่อนลิบลับ เพราะบ้านหล่อนสร้างจากไม้ที่ตัดจากท้ายนาที่หาได้ตามมีตามเกิด ผุพังตรงไหนก็ซ่อมปะไป และก็มีแค่โถงกว้างนอนเรียงกัน แยกครัวไฟไว้อีกด้าน เวลาทำกับข้าวควันไฟจะได้ไม่เข้าไปในส่วนของที่นอน เมื่อเดินมาถึงที่ครัวไฟ นางก็พบว่าไม่ใช่อย่างที่หล่อนคิดเอาไว้เลย เพราะครัวไฟที่เรือนกำนันแตก
นางแหงนหน้ามองกำนันอัฐอย่างเร็ว พร้อมกับหันมองน้ามุก เมื่อเห็นน้ามุกพยักหน้าน้อยๆ ซึ่งก็แปลว่าน้ามุกคงเล่าเรื่องของหล่อนให้พ่อกำนันฟัง แค่นั้นน้ำตาก็วาวขึ้น “อยากเอาจ้ะ” “อืม... เดี๋ยวจะให้คนเอาไปให้” “หนูขอบพระคุณพ่อกำนันมากจ้ะ” “ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง ไม่ได้ลำบากอะไร ว่าแต่เอ็งพร้อมทำงานหรือยังล่ะ” “พร้อมแล้วจ้ะ พร้อมแล้ว พ่อกำนันอยากให้หนูทำอะไร บอกมาเลยนะจ๊ะ หนูจะทำให้ทุกอย่าง” “อืม... งั้นก็ตามมา” กำนันอัฐลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะก้าวเดินไปในทิศทางของเรือนนอนที่หล่อนจากมา นางลุกขึ้นจะเดินตาม แต่แล้วพ่อกำนันที่หยุดเดินก็ทำให้หล่อนชะงัก ดวงตาคมเข้มมองเลยไปยังน้ามุกที่ยืนอยู่ด้านหลังหล่อน “จัดการเอาอาหารไปให้น้องๆ ของนางด้วย” “จ้ะ พ่อกำนัน ประเดี๋ยวฉันจะติดผลไม้ไปด้วยจ้ะ ได้มาจากสวนเยอะ” กำนันอัฐยิ้มบางๆ ให้หล่อนที่น้ำตารื้นพนมมือไหว้ ก่อนจะหันไปพนมมือไหว้น้ามุกอีกคน น้ามุกรับไหว้ทว่าสายตาที่สบมากลับคือความเห็นใจ “มาเถอะ ตามมา” ทว่าเสียงของกำนันก็ทำใ
นางปล่อยความหวาดหวั่นทั้งหมดให้จางหาย แหงนหน้ารับละอองน้ำตกกระทบ มีแต่ความสุขกายสบายใจ เมื่อขัดสีฉวีวรรณเรียบร้อยแล้ว นางจึงออกไปหาน้ามุกที่ด้านนอก น้ามุกมองหล่อนที่อาบน้ำแต่งตัวในชุดที่เตรียมไว้ให้ สีหน้าของน้ามุกมีแววเคร่งเครียด จนหล่อนต้องก้มมองชุดที่สวม หรือว่าหล่อนเลือกไม่เหมาะ “ไม่ดีหรือจ๊ะน้ามุก” “ไม่ใช่ ดีมากเลยล่ะ มากินข้าวเถอะ อีกเดี๋ยวพ่อกำนันคงมาถึง ตอนนั้นเอ็งจะกินลำบาก” น้ามุกเดินนำหล่อนไปอีกฟากหนึ่งของเรือน นางสำรวจดูก็เห็นว่าบนเรือนไทยของกำนันอัฐ มีห้องหับที่แยกเป็นเรือนย่อมๆ ไว้หลายหลัง ซึ่งก็คงเป็นห้องนอนแต่ละห้อง และก็มีครัวไฟอยู่อีกด้าน หมดทั้งหลังน่าจะเป็นไม้สัก ประเมินค่าราคาคงมากกว่าหนี้ของพ่อหลายสิบเท่า แตกต่างจากบ้านของหล่อนลิบลับ เพราะบ้านหล่อนสร้างจากไม้ที่ตัดจากท้ายนาที่หาได้ตามมีตามเกิด ผุพังตรงไหนก็ซ่อมปะไป และก็มีแค่โถงกว้างนอนเรียงกัน แยกครัวไฟไว้อีกด้าน เวลาทำกับข้าวควันไฟจะได้ไม่เข้าไปในส่วนของที่นอน เมื่อเดินมาถึงที่ครัวไฟ นางก็พบว่าไม่ใช่อย่างที่หล่อนคิดเอาไว้เลย เพราะครัวไฟที่เรือนกำนันแตก
“น้ามุก น้ามุกเป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วย น้ามุกบอกได้เลยนะจ๊ะ ฉันทำได้ทุกอย่าง ไม่เกี่ยงเลยจ้ะ” น้ามุกชะงักไปเพียงนิดเมื่อหล่อนพูดไปแบบนั้น สาวใหญ่วัยเดียวกับแม่สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะปรับสีหน้าให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่น้ามุกยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงลูกน้องกำนันก็ดังแทรกซะก่อน “จะเป็นอาร้ายยยยย... หึงเด็กใหม่น่ะสิน้องนาง” “หึง... หึงใครจ๊ะ แล้วหึงทำไม...” “ก็หึง...” “ไอ้พวกห่าเหว กูจะฟ้องพ่อกำนันให้หมดว่าพวกมึงผิวปากล้อนังนางมัน มึงได้กินตะกั่วแทนข้าวแน่” “อูย... ขี้ฟ้อง ไปก็ได้ น้องนางจ๋า อย่าถือสาพวกพี่เลยนะจ๊ะ พวกพี่มันปากหมาแบบนี้แหละ แต่ถ้าอยากให้หมาเลียปากก็ลงมาตอนค่ำๆ นะจ๊ะ” นางยิ้มแห้งไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ แค่น้ามุกที่ตะโกนด่าพวกนั้นเสียงขรมก็คงพอแล้ว ก่อนจะเรียกหล่อนให้ตามไปที่ห้อง น้ามุกพาหล่อนมายังห้องนอนบนเรือน ห้องเล็กๆ ทางปีกซ้าย เมื่อเปิดหน้าต่างก็มองเห็นท้องนาเขียวขจี นั่นทำให้หล่อนเศร้า เพราะขณะที่นาคนอื่นแล้งไร้น้ำ แต่นาของกำนันอัฐก็ยังคงเขียว เม็ดเงินของคนรวยซื้อได้ทุ
‘นาง’ เดินตามหลังพ่อเข้ามาในอาณาเขตเรือนไทยของกำนันอัฐ เสียงลูกสมุนของกำนันผิวปากหยอกเย้าจนหล่อนเดินติดแทบจะสิงเข้าไปในตัวพ่อ หล่อนเคยเห็นคนพวกนี้ที่ตลาดอยู่บ้าน แต่นั่นก็นานแล้ว ไม่ใช่ตอนที่หล่อนโตเป็นสาวเต็มตัวแบบนี้ และสายตาของแต่ละคนที่มองมา หล่อนรู้ความหมาย “อีนาง! มึงเดินห่างๆ กูหน่อย” “พ่อ... ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ให้ฉันกลับไปช่วยแม่ทำนาเถอะนะ ฉันจะขยัน จะช่วยพ่อทุกอย่าง จะให้พ่อมีเงินมาใช้หนี้กำนันได้ นะพ่อนะ อย่าให้ฉันอยู่ที่นี่เลย” “อีนาง... มึงฟังกูให้ดีนะ ต่อให้มึงไปทำงานที่กรุงเทพฯ จนตาย มึงก็หาเงินมาใช้หนี้พ่อกำนันได้ไม่พอหรอก” แม้คำพูดจะฟังไม่หวานหูเพราะเป็นวิถีของคนยากแต่น้ำเสียงของพ่อกูดูเศร้า แววตาที่มองมายังหล่อนเต็มไปด้วยความทุกข์ท่วมท้น พ่อไม่ได้อยากพาหล่อนมาที่นี่หรอกหรือ ทั้งที่ก่อนจะออกจากบ้าน แม่ร้องไห้คร่ำครวญห้ามพ่อว่าอย่าเอาหล่อนมาที่นี่เลย แต่พ่อกลับไม่ฟัง ฉุดกระชากลากถูหล่อนมาจนได้ “เราเป็นหนี้กำนันเท่าไหร่กันพ่อ” หล่อนกัดฟันถาม รอคอยฟังคำตอบด้วยหัวใจระทึก “ล้านกว่า” คำตอบของพ่
นวลนางนิยายดราม่าอีโรติกที่จะสะเทือนท้องทุ่งจะเปลี่ยนท้องนาเขียวขจีให้กลายเป็นทุ่งเร่าร้อน++++‘นาง’ สาวแรกรุ่นวัย 19ถูกพ่อส่งมาเป็นตัวขัดดอก ให้กับ...‘กำนันอัฐ’ ผู้มีอิทธิพลวัยเกือบ 60ชายสูงวัย กับ สาวน้อยแรกรุ่นนาง... จะทำยังไงเมื่อสิ่งที่ถูกใจพ่อกำนันคือเรือนร่างนาง... ควรยอมหรือหลีกหนีความรักไม่เคยพานพบ แต่ความหิวเคยชินหากร่างกายนี้จะทำให้ครอบครัวได้อิ่มท้อง ‘นาง’ จะยอม+++++‘นาง’ หญิงสาววัย 19 ปี พลิกตัวขึ้นคร่อมชายแก่คราวปู่ของหล่อนเอาไว้ โหย่งกายสูง เพื่อให้ดอกไม้เบ่งบานอยู่เหนือดุ้นยาวใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ กดดอกไม้ที่เบ่งบานจนเห็นเกสรเม็ดในแดงแจ๋ให้กลืนกินหัวเห็ดบานร่าเข้าไป หล่อนค่อยๆ เว้นจังหวะความซ่านเสียวกดร่างให้ช้าที่สุด เพราะความใหญ่โตนั้นก่อเกิดความเสี้ยนสุดทุกขณะที่ความยิ่งใหญ่สอดผ่าน หล่อนเสียวจนต้องยั้งร่างไว้ อ้าปากผ่อนปรนเสียงกระเส่าที่พร้อมจะหลุดออกจากปากได้ทุกเมื่อ ทว่าเมื่อหัวเห็ดผลุบเข้าไป หล่อนก็อดไว้ไม่ไหว “อ้า... ซี้ด... อื้อ... ซี้ด...” ริมฝีปากน้อยๆ อ้าค้าง เปล่งเสียงครางสลับซู้ดซี้ดด้วยความเสียวอย่างอดไม่ได้ ยิ่งความยาวใหญ่แทรกเ