นางปล่อยความหวาดหวั่นทั้งหมดให้จางหาย แหงนหน้ารับละอองน้ำตกกระทบ มีแต่ความสุขกายสบายใจ
เมื่อขัดสีฉวีวรรณเรียบร้อยแล้ว นางจึงออกไปหาน้ามุกที่ด้านนอก น้ามุกมองหล่อนที่อาบน้ำแต่งตัวในชุดที่เตรียมไว้ให้ สีหน้าของน้ามุกมีแววเคร่งเครียด จนหล่อนต้องก้มมองชุดที่สวม หรือว่าหล่อนเลือกไม่เหมาะ
“ไม่ดีหรือจ๊ะน้ามุก”
“ไม่ใช่ ดีมากเลยล่ะ มากินข้าวเถอะ อีกเดี๋ยวพ่อกำนันคงมาถึง ตอนนั้นเอ็งจะกินลำบาก”
น้ามุกเดินนำหล่อนไปอีกฟากหนึ่งของเรือน นางสำรวจดูก็เห็นว่าบนเรือนไทยของกำนันอัฐ มีห้องหับที่แยกเป็นเรือนย่อมๆ ไว้หลายหลัง ซึ่งก็คงเป็นห้องนอนแต่ละห้อง และก็มีครัวไฟอยู่อีกด้าน หมดทั้งหลังน่าจะเป็นไม้สัก ประเมินค่าราคาคงมากกว่าหนี้ของพ่อหลายสิบเท่า แตกต่างจากบ้านของหล่อนลิบลับ เพราะบ้านหล่อนสร้างจากไม้ที่ตัดจากท้ายนาที่หาได้ตามมีตามเกิด ผุพังตรงไหนก็ซ่อมปะไป และก็มีแค่โถงกว้างนอนเรียงกัน แยกครัวไฟไว้อีกด้าน เวลาทำกับข้าวควันไฟจะได้ไม่เข้าไปในส่วนของที่นอน
เมื่อเดินมาถึงที่ครัวไฟ นางก็พบว่าไม่ใช่อย่างที่หล่อนคิดเอาไว้เลย เพราะครัวไฟที่เรือนกำนันแตกต่างจากซีกของห้องนอนอย่างชัดเจน ที่เห็นคือครัวฝรั่ง มีอุปกรณ์ทำครัวทันสมัย ไม่ใช่แบบที่หล่อนจะต้มยำทำแกงกลิ่นคลุ้งได้
น้ามุกพาหล่อนเดินมาที่โต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ ยกฝาชีขนาดใหญ่ครอบกับข้าวออก
“กินซะ เดี๋ยวอิ่มแล้วไปหาข้าที่หน้าเรือน เอ่อ... ไม่ต้องล้างล่ะ วางไว้แบบนี้ เดี๋ยวมีคนมาทำ”
“จ้ะ แล้วน้ามุกไม่กินด้วยกันหรือจ๊ะ” นางมองกับข้าวมากมายเต็ม โต๊ะ มีทั้งกุ้ง ปู ปลาหมึก นึ่งจนสุกพร้อมน้ำจิ้ม มีต้มยำไก่หอมฉุย มีกุ้งตัวโตผัดกับผักที่หล่อนไม่รู้จักชื่อ แต่รู้ว่าเป็นผักมาจากเมืองนอกที่พวกคนรวยชอบกินกัน อาหารมากมายทำให้หล่อนกลืนน้ำลายสอ โดยเฉพาะปูตัวโตกล้ามสีส้มสดเพราะสุกแล้ว นี่จะเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตที่หล่อนจะได้ลิ้มรส
“กินเถอะ ข้ากินแล้ว กินแบบนี้ทุกวันจนเบื่อ ว่าแต่เอ็งแกะปูเป็นใช่มั้ย”
“เอ่อ... น่าจะเป็นจ้ะน้า”
น้ามุกมีรอยยิ้มบนสีหน้านิดๆ ก่อนจะเดินเข้ามาสอนให้หล่อนแกะ นางมองนิ้วมือเรียวที่ขยับจับกระดองปู ไม่นานปูทั้งตัวออกถูกแกะเนื้ออกมาจากกระดองจนหมด
“ถ้าเอ็งชอบกินอะไรก็บอก ข้าจะเตรียมไว้ให้กิน เรื่องกินที่นี่เรื่องเล็ก อยากกินอะไรก็ได้ ไม่ต้องอดอยากเหมือนที่บ้าน และถ้าเอ็งทำงานดี ถูกใจพ่อกำนัน เอ็งจะขออะไรก็ได้”
“ขออะไรก็ได้เหรอจ๊ะ”
“อือ... ขออาหารพวกนี้ไปให้น้องเอ็งกินก็ได้”
“ดะ... ได้ด้วยเหรอจ๊ะน้ามุก”
“ได้ทุกอย่างนั่นแหละ อยู่ที่เอ็งจะทำให้พ่อกำนันถูกใจหรือเปล่า”
“ถูกใจเหรอจ๊ะ แล้วฉันต้องทำยังไงบ้าง”
“เอาเถอะ เอ็งกินข้าวซะ กินให้อิ่ม ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเหลือไว้เผื่อใคร ของมีเยอะ กินเสร็จแล้วไปหาข้าข้างนอกล่ะกัน”
“จ้ะน้า”
นางนั่งลง ดวงตากลมโตมองเนื้อปูที่น้ามุกแกะไว้ให้ในจาน ค่อยๆ ใช้สองนิ้วหยิบคีบใส่ปาก น้ำลายที่สออยู่ด้านในคละเคล้ากับเนื้อปูหวานฉ่ำ ช่างเป็นความอร่อยจนน้ำตารื้น นี่ถ้าพ่อแม่และน้องๆ ของหล่อนทุกคนได้กินดีอยู่ดีแบบนี้ หล่อนคงจะมีความสุขมาก
อาหารจานโอชาที่เพิ่งเคยกินแบบเต็มอิ่มครั้งแรกในชีวิต อยากจะกินให้มากกว่านี้ แต่ทุกครั้งที่ตักใส่ปากเคี้ยว แวบหนึ่งที่คิดก็คือ แม่อิ่มหรือยัง น้องจะหิวไหม นั่นทำให้ข้าวมื้อนี้ทั้งอร่อยและทั้งเคล้าไปด้วยน้ำตา เอาเข้าจริงก็กินไปไม่ได้มากเท่าไร แต่นางหมายใจว่าจะต้องเอากลับไปให้น้องและแม่กินให้อิ่มให้ได้
หลังจากเก็บจานไปไว้ในที่จัดล้างเรียบร้อย นางก็ออกมาหาน้ามุกด้านนอกเรือน ตามที่น้ามุกบอกไว้ ทว่าไม่ใช่เพียงน้ามุกที่รออยู่ แต่ยังมีท่านเจ้าของเรือนนั่งรออยู่ด้วย
.
.
ชายสูงวัยที่คนร่ำลือว่าดูอ่อนกว่าวัยมาก หล่อนเคยเห็นแต่ไกลๆ แต่ตอนนี้อยู่ใกล้ในระยะไม่กี่เมตร เขาดูอ่อนวัยจริงๆ หากบอกว่าอ่อนกว่าพ่อ หล่อนก็เชื่อ ใบหน้าคมเข้ม คิ้วดก ตาคม และมีหนวดสีดำสนิทพาดอยู่เหนือริมฝีปาก นั่นทำให้หล่อนไม่รู้ว่าภายใต้หนวดดกนั้น ริมฝีปากด้านในเป็นอย่างไร
นางตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อเห็นสายตาคมเข้มตวัดมองมา หล่อนทรุดร่างลงนั่งและพนมมือไหว้พ่อกำนันอย่างอ่อนช้อย ไม่ให้เสียที่แม่อบรมเลี้ยงดูหล่อนมา แม้จะจน แต่กิริยาหล่อนไม่ได้จนไปด้วย
‘จะเดินจะเหินก็ให้มันเรียบร้อย อย่าให้ใครเขาดูถูกได้ว่าจนแล้วยังหยาบกระด้าง ทำตัวให้อ่อนน้อม ไปตกทุกข์ได้ยากที่ใด ใครเขาจะได้เมตตา’ นั่นคือคำที่แม่สอนและหล่อนจำขึ้นใจ
“ฉันไหว้จ้ะพ่อกำนัน”
“อืม... กินข้าวอิ่มแล้วใช่มั้ย”
น้ำเสียงกังวานมีอำนาจของกำนันอัฐทำให้นางสะท้านน้อยๆ หล่อนพยักหน้า ก่อนจะลืมไปว่าผู้ใหญ่พูดไม่ควรพยักหน้า
“จ้ะ อิ่มแล้วจ้ะ”
“อยากเอาที่เหลือไปให้น้องมั้ยล่ะ”
นางแหงนหน้ามองกำนันอัฐอย่างเร็ว พร้อมกับหันมองน้ามุก เมื่อเห็นน้ามุกพยักหน้าน้อยๆ ซึ่งก็แปลว่าน้ามุกคงเล่าเรื่องของหล่อนให้พ่อกำนันฟัง แค่นั้นน้ำตาก็วาวขึ้น “อยากเอาจ้ะ” “อืม... เดี๋ยวจะให้คนเอาไปให้” “หนูขอบพระคุณพ่อกำนันมากจ้ะ” “ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง ไม่ได้ลำบากอะไร ว่าแต่เอ็งพร้อมทำงานหรือยังล่ะ” “พร้อมแล้วจ้ะ พร้อมแล้ว พ่อกำนันอยากให้หนูทำอะไร บอกมาเลยนะจ๊ะ หนูจะทำให้ทุกอย่าง” “อืม... งั้นก็ตามมา” กำนันอัฐลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะก้าวเดินไปในทิศทางของเรือนนอนที่หล่อนจากมา นางลุกขึ้นจะเดินตาม แต่แล้วพ่อกำนันที่หยุดเดินก็ทำให้หล่อนชะงัก ดวงตาคมเข้มมองเลยไปยังน้ามุกที่ยืนอยู่ด้านหลังหล่อน “จัดการเอาอาหารไปให้น้องๆ ของนางด้วย” “จ้ะ พ่อกำนัน ประเดี๋ยวฉันจะติดผลไม้ไปด้วยจ้ะ ได้มาจากสวนเยอะ” กำนันอัฐยิ้มบางๆ ให้หล่อนที่น้ำตารื้นพนมมือไหว้ ก่อนจะหันไปพนมมือไหว้น้ามุกอีกคน น้ามุกรับไหว้ทว่าสายตาที่สบมากลับคือความเห็นใจ “มาเถอะ ตามมา” ทว่าเสียงของกำนันก็ทำใ
คำว่า ‘ขืนใจ’ ส่งผลให้ทั่วทั้งร่างสั่นจนหล่อนห้ามตัวเองไม่ได้ มือไม้สั่นจนต้องกุมเข้าหากันแน่น “หนูไม่ได้เต็มใจหรอกจ้ะ แต่หนูไม่มีทางเลือก” นางตอบคนตรงหน้า สบดวงตาคมเข้มไม่หลบ แม้ว่าตอนนี้หล่อนจะเห็นเขาผ่านม่านน้ำตาก็ตาม “ถ้าสิ่งที่หนูทำมันจะทำให้พ่อแม่มีความสุข ทำให้น้องกินอิ่ม ได้เรียนหนังสือ และทำให้พ่อกำนันเมตตาช่วยปันน้ำไปให้ที่นาของพ่อหนูบ้าง หนูเป็นลูก หนูก็ควรทำไม่ใช่หรือจ๊ะ” “แล้วเอ็งแน่ใจได้ยังไง ว่าเอ็งจะทำให้ข้าพอใจ” นางกัดริมฝีปากที่สั่นระริกของตัวเอง หล่อนจะไปรู้ได้ยังไง ว่าแบบไหนผู้ชายถึงจะพอใจ หล่อนไม่เคย “หนูไม่รู้หรอกจ้ะ หนูไม่เคยทำกับใคร” น้ำเสียงสั่นตามแรงสะอื้น “แต่ไม่ว่าพ่อกำนันต้องการให้หนูทำแบบไหน หนูจะไม่เกี่ยง หนูจะทำทุกอย่าง จนกว่า... จนกว่าพ่อกำนันจะพอใจหนู” “อืม... เอ็งพูดได้ดี ข้าชอบ... ลุกขึ้นยืน แล้วถอดเสื้อผ้าออกให้หมด” เหมือนร่างกายจะชาวาบจนนางไม่รับรู้ถึงบรรยากาศรายรอบ ร่างกายของหล่อนราวจะนิ่งขึง เมื่อได้ยินคำสั่งนั้น แต่หล่อนก็ไม่ลืมว่านี่คือความจริง ร่างงามระหงของวัยสา
นางหลับตาปี๋ไม่กล้าลืมตามองเขา หัวใจเต้นแรง ปล่อยให้พ่อกำนันจูบหล่อนจนทั่วริมฝีปาก สัมผัสจั๊กจี้ คันยิบยับ และซาบซ่านจากไรหนวดทำให้หล่อนเคลิบเคลิ้ม ยิ่งเสียงดูปากจ๊วบๆ ที่พ่อกำนันทำ ก็ยิ่งทำให้หล่อนเกิดความรู้สึกแปลกประหลาด หล่อนแอ่นเต้าอวบให้ฝ่ามือหยาบร้อนบีบเคล้น ฝ่ามือที่ทาบอยู่บนแผงอกของพ่อกำนันเริ่มคืบคลานขึ้นไปบนบ่าแกร่ง และเมื่อลิ้นชื้นแลบออกพยายามจะสอดแทรกเข้าไปในช่องทางอ่อนหวาน หล่อนก็เผยอปากออกทันที หล่อนยอมให้พ่อกำนันจ้วงลิ้นเข้าไปสอดแทรกในอุ้งปาก ดูดดึงปลายลิ้นของหล่อน กวาดต้อนและดูดจ๊วบๆ ไม่หยุด กลิ่นบุหรี่จางๆ เคล้าที่ปลายลิ้นราวจะช่วยกระตุ้นความซาบซ่านให้หล่อนเคลิ้มมากยิ่งขึ้น ร่างกายหล่อนโอนเอน ฝ่ามือควานหาหลักยึด เมื่อลิ้นพ่อกำนันยังคงรุกล้ำคืบคลานเข้ามาไม่หยุด ร่างกายของหล่อนก็เริ่มตอบสนอง อาการซาบซ่านไปทั้งร่างราวของร้อนที่ทรมานกายหล่อน หล่อนบิดกายเร่าๆ ไม่อาจประคองตัวอยู่นิ่งได้อีก ทั่วทั้งเนื้อตัวราวอยากให้พ่อกำนันสัมผัสให้จบสิ้น ฝ่ามือหล่อนจิกทึ้งที่บ่า รั้งเขาเข้าหาและเป็นฝ่ายตอบโต้จูบไม่ประสานั้นไปบ้าง หล่อนอัดอั้น ร่างกายร้อนจนแทบระเบิด แอ่
คำหยาบโลนทำให้หล่อนหน้าร้อนฉ่าแต่ก็ซ่านร้อนจนแอ่นอกใส่ปากเขาซะเอง พ่อกำนันอ้าปากงับเต้าของหล่อนข้างหนึ่ง อีกข้างก็บีบเคล้น ลิ้นเลียไล้ที่ส่วนหัว อีกข้างก็ถูกนิ้วมือขยี้ “อ๊ายยยยย... พ่อกำนันขา... หนูเสียว...” นางไม่รู้ว่าตัวเองร่ำร้องคำนั้นออกไปได้อย่างไร ในหัวหล่อนร้องห้ามว่าอย่าพ่นคำพูดน่าละอาย แต่ปากหล่อนร่ำร้องไม่หยุด ยิ่งพ่อกำนันดูดเบาแรงสลับกัน หล่อนก็ยิ่งดีดดิ้น และเมื่อไรฟันขบที่หัวนมเบาๆ ลิ้นก็ดุนดันไล้รอบส่วนหัว หล่อนก็แทบกรีดร้องเพราะเสียวอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน “พ่อกำนัน พ่อกำนัน อื้อ... หนูเสียว... หนูเสียว...” เสียงร้องห้ามของหล่อนเป็นผลเมื่อพ่อกำนันละปากออก ทว่าคำพูดต่อมากลับทำให้หล่อนต้องกรีดร้องเพราะ... “นี่เพิ่งเริ่มต้น” จมูกโด่งซุกไซ้ที่ร่องอก บดหนวดแข็งๆ ลงไปอย่างเมามัน ซุกลงไปในซอกจนหล่อนกรีดร้องไม่หยุด เสียวมากมายแต่จัดการกับตัวเองไม่ได้ เสียวแต่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร รู้แต่ว่าหล่อนแอ่นกึ่งกลางกายเสียดสีต้นขาของพ่อกำนันอย่างหยุดไม่ได้ “พ่อกำนัน... ช่วยหนูด้วย หนูไม่ไหว อ๊ายยยยย... หนูเ
ทว่าคำสั่งนั้นทำให้หล่อนต้องอ้าออกด้วยความเต็มใจ ดวงตาหวานฉ่ำของเด็กสาวที่ไม่เคยมองผู้ชายคนใดพิเศษ แต่ตอนนี้พ่อกำนันพิเศษเหลือเกิน นางรับรู้ว่าหล่อนไร้ยางอาย ทว่าเป็นความไร้ยางอายที่ฉาบไปด้วยความสุข และพ่อกำนันที่ยืนอยู่ไม่ห่างแต่กำลังปลดเสื้อผ้าออกจากตัวทีละชิ้นทีละชิ้นก็ทำให้หล่อนต้องเมินหน้าหนีหล่อนไม่กล้ามองความแข็งขืนกึ่งกลางกายเขา หล่อนไม่รู้หรอกว่ามันใหญ่โตแค่ไหน รู้แต่ว่าสัมผัสที่ต้นขานั้น ... มันใหญ่มาก แม้ด้านนอกจะมืดมิด ทว่าในห้องนอนของกำนันอัฐกลับสว่างไสว จนนางเห็นทุกสิ่งที่เคลื่อนไหวได้ชัด แต่ตอนนี้พ่อกำนันกำลังก้าวเข้ามา ฝ่ามือใหญ่จับกระชับที่ต้นขาของหล่อน พ่อกำนันเข้ามานั่งกลางหว่างขาและก้มหน้าจ้องมอง ‘ตรงนั้น’ “สวยมาก แดงแจ๋ น่ากินที่สุด” แค่คำพูดเบาๆ นั้นก็สร้างความสั่นไหวให้หล่อนมาก แต่ลมปากที่พัดผ่านกลับยิ่งทำให้หล่อนสะท้าน บอกตัวเองอย่างน่าละอายว่าหล่อนอยากเด้งดอกไม้ใส่ปากพ่อกำนันเหลือเกิน เพราะเขาบอกว่าอยากกิน แต่หล่อนยังไม่ทันได้แอ่น ลิ้นร้อนๆ นั้นก็ตวัดเลีย “อุ้ย! พ่อกำนัน!” นางผวากระดกหัวมองก่อนจะชะงั
“พ่อกำนัน... ซี้ด...” นางปรือตามองความยิ่งใหญ่น่าเกรงขามที่เขี่ยขยี้เสียดสีถูไถอยู่บนปากโพรงหอมหวาน ยิ่งพ่อกำนันถูไถเร็วไว หล่อนยิ่งร้อนฉ่าจนต้องแอ่นร่อนขึ้น รู้ว่าความยิ่งใหญ่นั้นทำหน้าที่ใด แม้จะหวาดหวั่นเพราะหัวนั้นบานร่ามีน้ำฉ่ำเยิ้มน่ากลัว แต่ความร้อนราวไฟกำลังจะลุกที่ปากทางฉ่ำก็ทำให้หล่อนร่อนเข้าหาไม่หยุด “พ่อกำนัน... ซี้ด... เอาเข้ามา... ซี้ด... หนูอยาก... หนูอยาก...” หล่อนร่ำร้องอยากให้พ่อกำนันกดความยิ่งใหญ่นั้นเข้ามา แต่พ่อกำนันยังช้า เหมือนจะยั่ว จนหล่อนคันยิบด้านใน อยากจะแหย่นิ้วกระทุ้งเข้าออกในร่องของตัวเองให้เสร็จๆ ไป แต่หล่อนอยากได้หัวถู่ใหญ่นั้นมากกว่า “อื้อ... ซี้ด... พ่อกำนันขา... เอาหนู... ซี้ด... พ่อกำนันขา... หนูอยาก ซี้ด... ใส่เข้ามา หนูคัน! พ่อกำนัน! อ่ะ!!” ความคันหายไปตามคำร่ำร้องเมื่อหัวบานทู่ปักลงมา ทว่ากลายเป็นเจ็บแปลบเหมือนร่างจะฉีกขาด “เจ็บ! พ่อกำนัน! อื้อ... เจ็บ!” นางเบิกตากว้างตะลึงมองสากกะเบือดุ้นใหญ่ที่กำลังกดส่วนหัวเข้าไปในร่อง ความอยากเมื่อครู่หายไปไม่หลงเหลือเพราะเจ็บราว
พรวด!!! “อ๊ายยยยย...” ความยิ่งใหญ่ปักทิ่มสุดทาง ราวทุกสิ่งแตกสลายกระจายวาบไปบนอากาศ เพราะร่องหลืบของนางบีบรัดรุนแรง หล่อนกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เสียวจนขนหัวลุก ก่อนจะกรีดร้องไม่หยุดเมื่อเจ้าของดุ้นส่ายเอวควงสะโพกและตอกสากลำใหญ่ลงมาราวกับกำลังตำน้ำพริกกะปิรสอร่อย นางคิดถึงลีลาการตำน้ำพริกของหล่อน โขลกสากรัวเร็วขยี้ถี่ๆ เน้นๆ ให้พริกกับกระเทียมแหลกละเอียดเป็นจังหวะต่อเนื่อง จากนั้นก็ใส่กะปิ โขลกอีกหลายครั้งคลุกเคล้าให้ส่วนผสมลงตัว และเคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การควงสากเป็นวงกลมรอบปากครก เพราะนั่นจะทำให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน “อ๊ายยยยย... พ่อกำนันขา... หนูไม่ไหวแล้ว หนูไม่ไหวแล้ว อ๊ายยยยย... กรี๊ดดดดด...” นางรับรู้ถึงทุกสิ่งในร่างแตกสลาย ความสุขกระจายวาบไปทั่วร่าง กายหล่อนสั่น ร่องตอดรัดดุ้นใหญ่เร็วรี่ แต่พ่อกำนันก็ยังไม่หยุดกระแทกเข้าออก นั่นยิ่งทำให้หล่อนเสียวจนขาสั่น ร่ำร้องแต่ความเสียวที่ไม่มีวันสิ้นสุด ท่ามกลางสากใหญ่ตำเข้าออกไม่ลดละ เสียวมากมายจนทุกสิ่งดับวูบ หล่อนไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว นางรู้ตัวอีกทีก็พบกว่าหล่อนนอนท
“พ่อกำนันอ่ะ...” นางได้แต่กัดปากส่งค้อนให้กำนันอัฐ จะต่อว่ามากกว่านี้ก็ไม่ได้ ในเมื่อหล่อนเป็นแค่นางบำเรอ แค่พ่อกำนันเห็นค่าให้หล่อนสุขแล้วสุขอีกนับครั้งไม่ถ้วนก็พอแล้ว แถมยังเมตตาหล่อนกับครอบครัวอีกด้วย หล่อนจะกล้าอะไรที่จะออกฤทธิ์ออกเดช “เอ็งอยู่กับข้ามาหกเดือนแล้วสินะ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ข้ายังไม่เคยให้อะไรเอ็งเป็นชิ้นเป็นอันเลย มีอะไรอยากจะขอมั้ย นอกจากข้าวปลาอาหารที่เอาไปให้ที่บ้านทุกวันน่ะ” นางเม้มริมฝีปากแน่น ซบหน้ากับอกที่เส้นขนเริ่มมีสีขาวประปราย ส่ายหน้าน้อยๆ หล่อนหรือจะกล้าขอ สิ่งที่หล่อนอยากได้ก็คงมีเพียงเรื่องครอบครัวเท่านั้น “ขอมาเถอะ ทุกสิ่งที่อยากได้ ถ้าให้ได้ก็จะให้” นางชันตัวเองขึ้น จ้องมองดวงตาสีสนิมเหล็กของกำนันอัฐ ผู้ที่ครอบครองเป็นผัวหล่อนคนเดียว เม้มปากน้อยๆ ก่อนจะตัดสินใจบอกในสิ่งที่ต้องการออกไป แม้จะไม่ได้คำตอบที่ตรงใจ แต่อย่างน้อยก็ให้กำนันได้ล่วงรู้ว่าหล่อนต้องการอะไร “ตกลง ข้าจะยกหนี้ให้พ่อเอ็งทั้งหมด” “จ๊ะ... พ่อกำนันว่าอะไรนะจ๊ะ” “ข้าว่าข้าตกลงยกหนี้ให้พ่อเอ็งทั้งหมดไง เอ็งไม่ดีใจเหรอ”
ทว่าพี่ทุยกลับไม่ได้ดูดเลียนม สิ่งที่พี่ทุยกำลังดูดเลียซุกไซ้และแยงลิ้นเข้าไปนั้นคือ... “อื้อ... พี่ทุยจ๋า ไหนว่าจะกินนม” “ก็ใครบอกว่าพี่จะกินนม พี่บอกว่าพี่หิว ขอกินบ้าง” “พี่ทุยอ่ะ เจ้าเล่ห์ ซี้ด...” นวลบิดตัวครางกระเส่าแต่แยกต้นขาให้กว้างขึ้นอีก พร้อมทั้งยกขาเล็กน้อยให้เต่านาปากแดงทักทายปลายลิ้นของพี่ทุยได้ถนัดถนี่ “ไม่เจ้าเล่ห์จะได้เมียเหรอ แถมเมียก็น่าเลียที่สุด ขอพี่เลียจนแตกนะนวล” นวลพยักหน้าอายๆ ก่อนจะแหงนหน้าครางกระเส่าเมื่อผัวรักเล่นลิ้นระรัวเร็ว จนหล่อนน้ำแตกนำหน้าไปก่อน จากนั้นพี่ทุยจึงนั่งลงบนเก้าอี้ มีหล่อนนั่งอยู่ระหว่างกลาง ดูด เลีย ดุ้นยาวใหญ่อย่างเมามัน และก่อนที่พี่ทุยจะแตก หล่อนก็รีบขึ้นคร่อมตามคำเร่าร้อง “เมียจ๋า... เมียจ๋า... โอว... เมียจ๋า... โอว...” ทุยครางกระเส่า ก้มหน้าฟัดนมอวบอัดของเมียให้คลายเสียว แต่นวลไม่ปรานีเขาเลย ร่องของเมียตอดรัดหนุบหนับ ควบขี่ โยกคลอน จนเขาทนไม่ไหว เขากำลังจะแตก “โอว... นวลจ๋า... เมียจ๋า... โอว...” ความร้อนรุ่มฉีดอัดเต็มที่ ด
ทุยเคลื่อนฝ่ามือขึ้นไปลูบไล้ที่ข้างแก้ม “นวลเป็นของพี่แล้วนะ เป็นเมียพี่ พี่จะดูแลนวล จะรักแต่นวล จะซื่อสัตย์กับเมีย พี่ให้สัญญา” “นวลรักพี่ทุยจ้ะ นวลสัญญาว่าจะซื่อสัตย์กับพี่ทุย จะเป็นเมียจะเป็นแม่ที่ดี นวลมีความสุขมากๆ จ้ะ” นวลพูดยิ้มๆ แต่น้ำตากลับรื้นออกมาไม่หยุด ทุยปาดน้ำตาที่ข้างแก้มก่อนจะพลิกร่างหันมองนาฬิกาติดฝาผนัง “ยังพอมีเวลามั้ยนวล ลูกจะตื่นหรือยัง” นวลขยับขึ้นมองนาฬิกา คำนวณเวลาว่องไวก่อนจะรีบลุกขึ้นนั่ง แต่เมื่อทุยจะลุกขึ้นตาม นวลกลับกดให้นอนลง “พี่จะไปรับลูกเป็นเพื่อนนะ” “เดี๋ยวค่อยไปก็ได้จ้ะ ขอนวลกินพี่ทุยก่อน ยังพอมีเวลา” หล่อนตอบก่อนจะเอื้อมมือมากอบกุมดุ้นยาวใหญ่ที่สงบตัวลง แต่แค่ฝ่ามือสัมผัส มันก็ขยายตัวเต้นระริกอยู่ในอุ้งมือ นวลเหลือบตามอง ‘ผัวรัก’ ที่หล่อนรับเขาเข้ามาได้เต็มหัวใจ หล่อนจะทำทุกอย่างให้พี่ทุยมีความสุขให้สมกับที่พี่ทุยทำให้หล่อนกับลูกมีความสุขเช่นกัน ฝ่ามือกำรูดเอาหนังย่นยู่ให้เปิดออก เผยให้เห็นหัวทุยทู่มีน้ำฉ่ำหล่อเลี้ยง นวลไม่รอช้าตวัดปลายลิ้นเลียเอาหยาดน้ำนั้นท
นวลกรีดร้องเสียงหลง ร่องฉ่ำตอดรัดปลายลิ้นที่จ้วงแทงเร็วรี่ แต่ทุยก็ยังไม่พอ เขาส่ายหน้าเข้าไปคลุกเคล้าปากจมูกและจ้วงลิ้นกวาดต้อนตวัดเอาหยาดน้ำท่วมท้นออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะเขาอร่อยเหลือเกิน อร่อยปากอร่อยลิ้นจนอยากจ่อปากดูดเลียอยู่แบบนี้ทั้งวันทั้งคืน แต่ดุ้นที่แข็งปั๋งร่ำร้องอยากตะลุยเข้าไปแทนลิ้นก็เต้นตุบๆ ประท้วงร้องให้เขาพอ ทุยเคลื่อนใบหน้าออกจากร่องฉ่ำเยิ้ม ขยับขึ้นมาจูบดูดดื่มกับนวลอีกครั้ง และนวลที่แลกลิ้นพัลวัน ทั้งกอดรัดเนื้อตัวเขา ลูบไล้ฝ่ามือน้อยๆ สร้างความซ่านเสียวให้กับเขาก็ทำให้ทุยสุขใจเหลือเกิน “นวลจ๋า... พี่รักนวลนะ” “นวลก็รักพี่ทุยจ้ะ นวลพร้อมแล้ว” ความหมายจากคำพูดคือหล่อนพร้อมที่จะให้เขาสอดใส่ ทุยลุกไปยืนข้างเตียง ถอดเสื้อผ้าออกจากตัวจนหมด จนเนื้อตัวเปล่าเปลือย และดุ้นยาวใหญ่ในกำมือก็ทำให้นวลตาลุกวาว เพราะขนาดนั้นใหญ่กว่าที่เคยได้รับ หล่อนอ้าปากค้าง กระเถิบตัวลุกขึ้นนั่ง ทุยคลานขึ้นเตียง ความใหญ่โตที่ไม่คิดจะปิดบังชี้ตรงมายังนวลที่ยังคงอึ้ง “นวล...” “จ้ะพี่” “พร้
“พี่ทุย...” ทุยเอื้อมมือไปปลดตะขอเสื้อใน นวลให้ความร่วมมือถอดออกแต่โดยดี และนั่นก็ทำให้หน้าอกขนาดมหึมาจากการกักเก็บน้ำนม ปรากฏออกมาชี้หน้าของทุย ทุยโอบประคองสองเต้าขนาดใหญ่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองนวล “แต่วันนี้ พี่ขอแย่งลูกกินหน่อยนะ หิวจังเลย ตั้งแต่เที่ยงยังไม่ได้กินอะไรเลย” “พี่ทุย... ซี้ด...” นวลแอ่นอกซี้ดปากเพราะเมื่อทุยพูดจบริมฝีปากเขาก็อ้าออกครอบครองเอาหัวนมข้างหนึ่งเข้าไปทันที ทุยดูดดื่มกลืนกินความมันปนหวานอ่อนอย่างเอร็ดอร่อย และก็ไม่ปล่อยให้อีกข้างที่ล้นทะลักน้อยใจ เมื่อเขาสลับข้างดูดดื่มจนนวลได้แต่แอ่นอกครางซี้ด “อื้อ... พี่ทุย... ซี้ด... เสียว... อื้อ... นวลเสียว...” เสียงหวานครางกระเส่าเร้าใจทุยที่สุด เขาเฝ้าฝันถึงวันเวลานี้ และเขาก็ได้ในสิ่งที่ใฝ่ฝันหา สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของผู้ชายคนหนึ่ง นั่นคือการมี ‘เมียที่ดี’ นวลเป็นของขวัญที่ความขยันหมั่นเพียรและความซื่อสัตย์มอบให้ และค่ำคืนนี้เขาจะทำให้นวลมีความสุขที่สุด “พี่ทุย... ซี้ด... พี่ทุย... อื้อ...” นวลแหงนหน้าซี้ดปากด้วยความเสียวเพร
สีหน้าประหลาดใจของทุยยิ่งทำให้นวลยิ้มทั้งน้ำตา“เพราะนวลเชื่อว่า ผู้ชายคนนี้จะให้ความรักกับนวลและลูกได้ เชื่ออย่างหมดหัวใจ” นวลขยับเข้าไปซุกหน้ากับอกของทุย “จะมีผู้ชายสักกี่คนบนโลกใบนี้ ที่รักมั่นกับผู้หญิงคนเดียว รักผู้หญิงท้องแก่ที่ทั้งอ้วนทั้งจน แถมต้องมาทำคลอดตัดสายสะดือให้ลูกคนอื่นอีก ทั้งยังรับเป็นพ่อ รับเป็นเมีย ดูแลไม่ให้ขาดตก โดยไม่สนใจเลยสักนิดว่าใครจะมองว่าเป็นควายสมชื่อ” นวลยิ่งพูดก็ยิ่งสะอื้น เพราะนั่นคือคำนินทาที่น้องชายมาเล่าให้ฟัง ทั้งหล่อนยังเคยได้ยินกับหู ยามมีคนเดินผ่านหน้าบ้าน ต่างพูดคุยว่า ‘ทุย’ เป็นไอ้ทุยสมชื่อ รับเดนต่อจากพี่ธง และหล่อนก็เชื่อว่าเรื่องราวเหล่านี้คงเข้าหูทุยเหมือนกัน แต่เขาก็ยังปฏิบัติกับหล่อนเสมอต้นเสมอปลาย ทำราวกับหล่อนเป็นเมียและจันทร์เจ้าเป็นลูกของเขาจริงๆ เพราะเมื่อครบกำหนดที่หล่อนต้องไปตรวจหลังคลอด หรือคุณหมอนัดตรวจจันทร์เจ้า คนที่กระตือรือร้นดูตารางนัดและเตือนไม่ให้หล่อนลืมก็คือเขา และเรื่องที่หล่อนรู้จากแม่ก็คือ ในวันที่หล่อนจะออกจากโรงพยาบาล พี่ธงไปเยี่ยมหล่อน แต่เจอกับพี่ทุยก่อน ผู้ชายสอ
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทุยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเป็นสามีเป็นพ่อของลูก ลูกสาวมีชื่อว่า ‘ด.ญ.จันทร์เจ้า’ และยังไม่ทันรุ่งสางแม่และน้องของนวลที่ได้ข่าวจากคนมาเที่ยวงานลอยกระทงว่านวลเจ็บท้องก็รีบตามมา ทุยขอเป็นคนไปดำเนินการเรื่องใบเกิดของลูกเอง และไม่ลืมที่จะบอกกับแม่ของนวลว่าเขาตั้งใจรับจันทร์เจ้าเป็นลูก ด.ญ.จันทร์เจ้า แข็งแรงดี แต่เนื่องจากนวลคลอดลูกในรถกระบะทำให้คุณหมอขอให้นวลนอนโรงพยาบาลต่ออีกหลายวันเพื่อดูอาการอย่างละเอียด เมื่อถึงวันที่นวลออกจากโรงพยาบาล ทุยก็พานวลกับลูกมาไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองประจำจังหวัด เพื่อฝากฝังเด็กน้อยไว้ให้เป็นลูกเจ้าพ่อ “พี่ทุยจะไปไหนต่อจ๊ะ” นวลถามเพราะทุยไม่ได้เลี้ยวรถกลับไปยังทิศทางของบ้าน แต่กลับเลี้ยวเข้าไปในส่วนงานราชการประจำจังหวัด “ไปทำธุระต่อ” ทุยตอบพร้อมกับเลี้ยวรถเข้าไปจอดหน้าที่ว่าการอำเภอ “ลงมาสินวล แม่รออยู่ทางโน้น” นวลมองตามแล้วก็เห็นแม่กับน้องยืนรออยู่ด้านบนที่ว่าการอำเภอจริงๆ “พี่ทุย” “ลงมาเถอะ พี่เป็นพ่อของจันทร์เจ้าแล้วนะ แล้วตอนนี้พี่ก็จะเป็นสามีของนวล”
“แต่...” “ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น พี่อยากกินกับข้าวฝีมือนวลทุกวัน” นวลสะอื้นไม่หยุด ความอ่อนแอที่ซุกซ่อนอยู่ภายในใจ ทำให้อยากมีใครสักคนมาปกป้อง แต่หากจะทำให้คนดีๆ อย่างพี่ทุยต้องมาจมปรักกับผู้หญิงมีผัวแล้วอย่างหล่อนก็ไม่ควร แต่ก็สงสารสายตาเว้าวอนนั้น ระลึกถึงความปรารถนาดีที่พี่ทุยทำให้หล่อนตลอดมา หล่อนตัดสินใจไม่ได้ “นะ พี่อยากกินน้ำพริกกะปิฝีมือเมีย” น้ำเสียงนั้นเว้าวอนจนหัวใจหล่อนสั่น “พี่ทุย... อุ้ย!” “นวล... นวลเป็นอะไร” ทุยขยับเข้าไปชิดเมื่อร่างอุ้ยอ้ายของนวลสะดุ้งโหยง ห่อตัวก่อนจะยืดตัวเอนไปด้านหลัง สีหน้าแสดงความเจ็บปวด “พี่ทุย... อื้อ... นวล... นวลเหมือนจะเจ็บท้องอ่ะ” “เจ็บยังไง เจ็บแบบนี้จะคลอดหรือเปล่า” “ไม่น่านะพี่ อุ้ย! โอ๊ยยยยย... พี่ทุย! มะ... ไม่ ไม่เป็นไร ยังไม่น่าจะคลอด หมอบอกว่าต้องเลยลอยกระทงไปก่อน โอ๊ยยยยย...” หล่อนบีบข้อมือเขาแน่น แต่ปากบอกว่าไม่เป็นไร “แต่พี่อ่านในหนังสือเตรียมคลอดเขาบอกว่ามีโอกาสคลอดก่อนกำหนดของหมอไม่ใช่เหรอ” “แต่... โอย... พี่ทุย
นวลเปิดถุงกระดาษแต่ละใบออกดู ใบแรกด้านในนั้นมีเสื้อผ้าเด็กอ่อนอยู่หลายชุด มีหมวก ถุงมือ ถุงเท้า ผ้ากันเปื้อน ผ้าอ้อม ที่ล้วนเป็นสีชมพู ถุงใบที่สองเป็นชุดเดรสของผู้หญิง 2 ชุด มีลักษณะคล้ายกันคือมีกระดุมผ่าหน้ายาวตลอดตัว และถุงใบที่สาม เป็น... สิ่งที่ทำให้นวลหน้าร้อนวูบวาบ เพราะที่เห็นนั่นเป็นเสื้อชั้นในแบบเปิดเต้าด้านหน้า เหมาะสำหรับให้นมลูก “นวลชอบมั้ย” “เอ่อ... ชอบจ้ะ แต่พี่ทุยไม่ต้องซื้ออะไรให้นวลอีกนะจ๊ะ นวลเกรงใจ ของพวกนี้ก็ราคาแพงด้วย” แน่ล่ะ เพราะตอนที่หล่อนไปหาหมอเมื่อสัปดาห์ก่อน หล่อนเห็นใบโฆษณาเสื้อในแบบเปิดเต้ายี่ห้อนี้ ตัวหนึ่งราคาไม่ต่ำกว่า 700 บาท แล้วพี่ทุยซื้อมาให้หล่อน 3 ตัว ไหนจะเสื้อผ้าหล่อน เสื้อผ้าลูก ทั้งหมดนี่ไม่เกินหมื่นหรอกหรือ “คิดอะไรมาก นวลก็รู้ว่าพี่ไม่มีเวลาไปใช้เงินที่ไหนหรอก ได้ซื้อของให้นวลให้ลูกบ้าง พี่มีความสุขนะ พี่เลือกชุดลูกเป็นสีชมพูทั้งหมด นวลชอบมั้ย” “ชอบจ้ะ” “พี่อยากให้จันทร์เจ้าสวยเหมือนนวล” ความร้อนราวจะพวยพุ่งขึ้นสู่พวงแก้มไม่หยุด จนนวลต้องพยายามสะกดควา
“พี่ทุยกินข้าวนะจ๊ะ เดี๋ยวฉันไปจับสำรับมาให้ วันนี้มีน้ำพริกกะปิของโปรดของพี่ด้วยนะ มีกระเฉดราดกะทิด้วย” “เอ็งนี่จะทำให้พี่อ้วน เอ็งนั่งนี่แหละ เดี๋ยวพี่ไปจัดมาเอง” “จ้ะ” นวลยิ้มน้อยๆ มองตามร่างสูงใหญ่ผิวกายกรำแดดที่เดินไปยังด้านข้างของเรือนที่เป็นส่วนของครัวไฟ เสียงก๊อกแก๊กในครัวให้รู้ว่าพี่ทุยกำลังคดข้าวตักกับข้าว ไม่นานร่างสูงก็เดินออกมาพร้อมจาน 2 ใบ ใบหนึ่งมีข้าวพูนจาน อีกใบเป็นผักลวกและน้ำพริกราดมาซะท่วม “โห... ไม่เผ็ดเหรอพี่ ราดมาซะเยอะเลย” “เผ็ดๆ น่ะดี ทำงานมาหนักๆ ตาสว่างเลย เอ็งรู้มั้ยนวล ฝีมือตำน้ำพริกของเอ็งนี่อร่อยที่สุดในสามโลก กินรสมือใครก็ไม่ถูกใจเท่ารสมือเอ็ง” นวลยิ้มน้อยๆ ก่อนจะตอบ “ก็บอกให้มากินข้าวที่นี่ทุกวัน อยากกินอะไรก็บอก ฉันจะทำให้กิน” “พี่ไม่อยากให้เอ็งลำบาก ท้องแก่ขนาดนี้แล้วด้วย” “พี่ให้ฉันมากกว่านี้ซะอีก ถ้าไม่ได้พี่ช่วยประคับประคอง เดือนกว่าที่ผ่านมานี้ ฉันจะอยู่ได้ยังไง” นวลหมายถึงพี่ทุยช่วยเป็นธุระพาหล่อนไปหาหมอตามตารางนัด เพราะยิ่งท้องแก่ใกล้คลอด หมอยิ่ง