“พ่อกำนัน... ซี้ด...” นางปรือตามองความยิ่งใหญ่น่าเกรงขามที่เขี่ยขยี้เสียดสีถูไถอยู่บนปากโพรงหอมหวาน ยิ่งพ่อกำนันถูไถเร็วไว หล่อนยิ่งร้อนฉ่าจนต้องแอ่นร่อนขึ้น รู้ว่าความยิ่งใหญ่นั้นทำหน้าที่ใด แม้จะหวาดหวั่นเพราะหัวนั้นบานร่ามีน้ำฉ่ำเยิ้มน่ากลัว แต่ความร้อนราวไฟกำลังจะลุกที่ปากทางฉ่ำก็ทำให้หล่อนร่อนเข้าหาไม่หยุด “พ่อกำนัน... ซี้ด... เอาเข้ามา... ซี้ด... หนูอยาก... หนูอยาก...” หล่อนร่ำร้องอยากให้พ่อกำนันกดความยิ่งใหญ่นั้นเข้ามา แต่พ่อกำนันยังช้า เหมือนจะยั่ว จนหล่อนคันยิบด้านใน อยากจะแหย่นิ้วกระทุ้งเข้าออกในร่องของตัวเองให้เสร็จๆ ไป แต่หล่อนอยากได้หัวถู่ใหญ่นั้นมากกว่า “อื้อ... ซี้ด... พ่อกำนันขา... เอาหนู... ซี้ด... พ่อกำนันขา... หนูอยาก ซี้ด... ใส่เข้ามา หนูคัน! พ่อกำนัน! อ่ะ!!” ความคันหายไปตามคำร่ำร้องเมื่อหัวบานทู่ปักลงมา ทว่ากลายเป็นเจ็บแปลบเหมือนร่างจะฉีกขาด “เจ็บ! พ่อกำนัน! อื้อ... เจ็บ!” นางเบิกตากว้างตะลึงมองสากกะเบือดุ้นใหญ่ที่กำลังกดส่วนหัวเข้าไปในร่อง ความอยากเมื่อครู่หายไปไม่หลงเหลือเพราะเจ็บราว
พรวด!!! “อ๊ายยยยย...” ความยิ่งใหญ่ปักทิ่มสุดทาง ราวทุกสิ่งแตกสลายกระจายวาบไปบนอากาศ เพราะร่องหลืบของนางบีบรัดรุนแรง หล่อนกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เสียวจนขนหัวลุก ก่อนจะกรีดร้องไม่หยุดเมื่อเจ้าของดุ้นส่ายเอวควงสะโพกและตอกสากลำใหญ่ลงมาราวกับกำลังตำน้ำพริกกะปิรสอร่อย นางคิดถึงลีลาการตำน้ำพริกของหล่อน โขลกสากรัวเร็วขยี้ถี่ๆ เน้นๆ ให้พริกกับกระเทียมแหลกละเอียดเป็นจังหวะต่อเนื่อง จากนั้นก็ใส่กะปิ โขลกอีกหลายครั้งคลุกเคล้าให้ส่วนผสมลงตัว และเคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การควงสากเป็นวงกลมรอบปากครก เพราะนั่นจะทำให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน “อ๊ายยยยย... พ่อกำนันขา... หนูไม่ไหวแล้ว หนูไม่ไหวแล้ว อ๊ายยยยย... กรี๊ดดดดด...” นางรับรู้ถึงทุกสิ่งในร่างแตกสลาย ความสุขกระจายวาบไปทั่วร่าง กายหล่อนสั่น ร่องตอดรัดดุ้นใหญ่เร็วรี่ แต่พ่อกำนันก็ยังไม่หยุดกระแทกเข้าออก นั่นยิ่งทำให้หล่อนเสียวจนขาสั่น ร่ำร้องแต่ความเสียวที่ไม่มีวันสิ้นสุด ท่ามกลางสากใหญ่ตำเข้าออกไม่ลดละ เสียวมากมายจนทุกสิ่งดับวูบ หล่อนไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว นางรู้ตัวอีกทีก็พบกว่าหล่อนนอนท
“พ่อกำนันอ่ะ...” นางได้แต่กัดปากส่งค้อนให้กำนันอัฐ จะต่อว่ามากกว่านี้ก็ไม่ได้ ในเมื่อหล่อนเป็นแค่นางบำเรอ แค่พ่อกำนันเห็นค่าให้หล่อนสุขแล้วสุขอีกนับครั้งไม่ถ้วนก็พอแล้ว แถมยังเมตตาหล่อนกับครอบครัวอีกด้วย หล่อนจะกล้าอะไรที่จะออกฤทธิ์ออกเดช “เอ็งอยู่กับข้ามาหกเดือนแล้วสินะ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ข้ายังไม่เคยให้อะไรเอ็งเป็นชิ้นเป็นอันเลย มีอะไรอยากจะขอมั้ย นอกจากข้าวปลาอาหารที่เอาไปให้ที่บ้านทุกวันน่ะ” นางเม้มริมฝีปากแน่น ซบหน้ากับอกที่เส้นขนเริ่มมีสีขาวประปราย ส่ายหน้าน้อยๆ หล่อนหรือจะกล้าขอ สิ่งที่หล่อนอยากได้ก็คงมีเพียงเรื่องครอบครัวเท่านั้น “ขอมาเถอะ ทุกสิ่งที่อยากได้ ถ้าให้ได้ก็จะให้” นางชันตัวเองขึ้น จ้องมองดวงตาสีสนิมเหล็กของกำนันอัฐ ผู้ที่ครอบครองเป็นผัวหล่อนคนเดียว เม้มปากน้อยๆ ก่อนจะตัดสินใจบอกในสิ่งที่ต้องการออกไป แม้จะไม่ได้คำตอบที่ตรงใจ แต่อย่างน้อยก็ให้กำนันได้ล่วงรู้ว่าหล่อนต้องการอะไร “ตกลง ข้าจะยกหนี้ให้พ่อเอ็งทั้งหมด” “จ๊ะ... พ่อกำนันว่าอะไรนะจ๊ะ” “ข้าว่าข้าตกลงยกหนี้ให้พ่อเอ็งทั้งหมดไง เอ็งไม่ดีใจเหรอ”
‘นิ่ม’ สาวแรกรุ่นวัย 18รับหน้าที่ดูแลนาบัวของครอบครัวจับพลัดจับผลูเจอขโมยสุดหล่อแต่ ‘คุณเสก’ ไม่ได้มาเล่นๆเขาเอาจริง เอาจัง และเอาดุสุดๆจากสาวน้อยไม่เคยมือชายได้เห็นบทรักจังๆ กลางป่านิ่มจะเร่าร้อนรุมเร้าร่อนร่านได้มากแค่ไหนหล่อนจะหนีพ้นไหม ในเมื่อใจก็อยากเหลือทน นาบัวหลวงกว้างไกลสุดสายตาคือสถานที่ที่ทำให้ ‘นิ่ม’ มีความสุขที่สุด ดวงตาของเด็กสาววัย 18 ปี สุกใสยิ่งนัก ยามเห็นดอกบัวชูช่อเต็มท้องทุ่ง ดอกเล็ก ดอกใหญ่ ดอกตูม และดอกบาน ต่างแกว่งไกวตามแรงลมปะทะ นิ่มหลับตาพริ้มสูดดมความหอมของกลิ่นเกสรบัวคละคลุ้ง ก่อนจะเปิดขึ้นมองแหล่งรายได้ที่ดีของครอบครัว รอยยิ้มน้อยๆ ผุดขึ้นที่ใบหน้าอิ่มเอมตามวัยสาว ร่างอวบอิ่มเกินวัย ก้าวไปตามสะพานไม้ที่พ่อต่อยาวจากตลิ่งไปไกลร่วม 10 เมตร ไว้สำหรับผูกเรือให้หล่อนพายเก็บดอกไม้และฝักบัวได้อย่างสะดวก พ่อบอกว่าเพราะพี่นาง ครอบครัวของเราถึงได้ลืมตาอ้าปากได้ ซึ่งหล่อนก็เห็นตามนั้น นิ่มก้าวเดินไป ใจก็คิดถึงเหตุการณ์ที่ทำให้นาบัวแห่งนี้กลายมาเป็นสมบัติของครอบครัว ปีนี้เป็นปีที่ 2 แล้วที่พี่นางย้ายไปอยู่กับพ่อก
คำว่า ‘ดูแล’ ซ่านไปด้วยเลือดลมฉีดพล่านจนแก้มของพี่นางสุกปลั่ง แต่พ่อแม่กลับร้องไห้กันตาบวม พี่นางเองก็น้ำตารื้น พร้อมบอกพ่อกับแม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด พ่อแม่ไม่ต้องโทษตัวเอง เพราะพี่นางมีความสุขมาก และที่สำคัญ ‘พี่นางรักพ่อกำนัน’ คำว่า ‘รัก’ ที่พี่นางพูดออกมา นั่นหมายถึง ความรักจริงๆ เพราะแววตา สีหน้า ทั้งน้ำเสียง นั่นคือความรักไม่ผิดเพี้ยน แต่พี่นางจะรักผู้ชายแก่ขนาดนั้นได้ยังไง หล่อนมองไม่เห็นทาง พี่นางบอกพ่อว่าอยากได้ที่ดินชายป่าแปลงนี้ ซึ่งพ่อก็เห็นด้วย แต่หล่อนงง เพราะที่ดินแปลงนี้มีน้ำท่วมตลอดทั้งปีเพราะเป็นเสมือนที่ซับน้ำของหมู่บ้าน น้ำจึงมากไม่เหมาะต่อการทำนา แล้วพี่นางจะเอาที่แปลงนี้ไปทำไม สู้เอาที่ดินใกล้บ้านอีกหลายแปลงไม่ดีกว่าหรือ อย่างน้อยจะได้ไว้เลี้ยงวัวเลี้ยงควายได้ และหล่อนเห็นเพื่อนบ้านเลี้ยงแพะ ได้เงินดี หล่อนก็อยากจะปลูกหญ้าและเลี้ยงแพะดูสักคอก แต่พ่อกลับบอกว่าที่ดินแปลงนี้ดีแล้ว พี่นางคิดถูกแล้วที่เลือกที่นี่ เพราะครอบครัวเราได้อาศัยพื้นที่ซับน้ำนี้หาปูหาปลาหล่อเลี้ยงชีวิตมาตั้งแต่พี่นางยังเด็ก และหล่อนเองก็ได้อาศัยมาพายเรือเก็บด
นิ่มมองผู้ชายที่ค่อยๆ ลอยคอออกมาจากกอบัวด้านข้าง ในมือมีใบบัวหอบใหญ่เทินไว้เหนือหัวทำให้ไม่เห็นหน้า แต่จากเสียงก็รู้ว่ายังหนุ่มอยู่ เพียงแต่ไม่ใช่หนุ่มน้อย อาจเป็นหนุ่มใหญ่คราวพ่อ “นี่น้า! คิดไงมาขโมยบัวชาวบ้านเขา ไม่รู้รึไงว่านาบัวนี่มีเจ้าของ ไม่ใช่น้านึกจะมาเก็บก็เก็บได้นะ แยกไม่ออกหรือไง นาบัวปลูกกับนาบัวธรรมชาติน่ะ แหม... เอาแค่ฝักบัวกับดอกบัวยังไม่พอนะ นี่กะจะเอาใบด้วยใช่มั้ย อย่างนี้คงต้องคิดค่าเสียหายกันแพงหน่อย” นิ่มเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เมื่อผู้ชายคนนั้นบรรจงวางใบบัวพาดไว้ในลำเรือ และนั่นก็ทำให้หล่อนเห็นหน้า ผู้ชายผิวเข้มตาคมผมเรียบลู่ไปด้านหลังเพราะเปียกน้ำ เสื้อไม่ใส่เผยให้เห็นแผงอกกว้างมีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ และท่อนล่างเป็น... “ว้าย! แก้ผ้าก็ไม่บอก ไอ้บ้า!” นิ่มกรีดร้องคว้าไม้พายฟาดไปที่ลำเรือตรงหน้า ส่งผลให้คนเสียงทุ้มร้องโวยวาย “โอ๊ย! หยุด! หยุด! ดูก่อน เฮ้ย! ฉันนุ่งกางเกงใน โอ๊ย!” เสียงเขาร้องโอ๊ยพร้อมตะโกนโหวกเหวกว่านุ่งกางเกงในทำให้นิ่มได้สติยั้งมือก่อนจะเห็นเขารีบลากเรือให้พ้นจากรัศมีไม้พายอย่างทุลัก
หล่อนงุบงิบพูดหน้ามุ่ย ก็ตอนนี้หล่อนเรียนจบมัธยมปลายแล้ว รอเวลาวิทยาลัยเปิดเทอมใหม่ หล่อนก็เลยไม่รู้ว่าแต่ละวันตรงกับวันอะไรบ้าง รู้ก็แค่วันที่น้องไม่ได้ไปเรียนน่าจะเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนวันไปเรียนก็คือวันไปเรียน อาจรู้ก็แค่วันจันทร์ ส่วนวันอื่นๆ นั้นก็หลงลืมไปบ้าง นิ่มพายเรือตามเสกไปที่สะพานไม้ ช่วยเขายกตะกร้าพลาสติกใส่ดอกบัวที่จัดเรียงสลับฟันปลาขึ้นวางซ้อนกัน “ดอกบัวนี่ห้ามช้ำเลยใช่มั้ย” “อือ... ช้ำไม่ได้ เพราะต้องเอาไปเด็ดกลีบๆ ไว้ให้ลูกค้ากินกับเมี่ยง” “แล้วทำไมคุณเสกต้องมาเก็บเอง ทำไมไม่ให้ลูกน้องมาเก็บ” “ลูกน้องยังไม่พอ ฉันก็เลยมาเก็บเอง ถ้าคนเยอะขึ้นก็จะหัดให้ลูกน้องมาเก็บ” “นิ่มเก็บให้เอามั้ย ตอนบ่ายนิ่มก็ต้องมาเก็บฝักบัวอยู่แล้ว ถือว่าเก็บดอกบัว ฝักบัวและก็ใบบัวไปส่งที่ร้านคุณเสกก็ได้” “อย่างนั้นฉันก็ต้องเสียค่าจ้างเก็บให้เธอด้วยน่ะสิ” “อ้าว... ให้ลูกน้องมาเก็บก็เสียเหมือนกันนั่นแหละ ให้นิ่มเก็บก็เหมือนกัน นิ่มเลือกเป็นด้วย ไม่ต้องหัด” เด็กสาวที่ยิ้มหน้าเป็น แววตาเจ้าเล่ห์ เริ่มทำให้เ
“ซี้ด... ถ้ารู้ว่าเอากันในป่าแล้วมันแบบนี้ อรให้พี่พามาเอาเสียตั้งนาน ซี้ด... โอย... พี่อิทจ๋า... โดนเลียไปด้วย มองป่าไปด้วย ซี้ด... โอย... มันสุดๆ” เสกรั้งนิ่มให้เดินต่อเพราะหล่อนทำตัวแข็งทื่อไม่ยอมเดิน เหมือนกับเขาที่แข็งทื่อแต่อยากเดินเข้าไปจนเห็น เพราะส่วนที่แข็งน่ะคือดุ้น เขาพอรู้ความสัปดนของญาติมาบ้าง แต่ก็ไม่คิดว่าอิทธิจะกล้าพาเมียมาเอากันกลางป่าแบบนี้ แต่หากเป็นเขา... เสกหันมองหญิงสาวร่างอวบอัดที่มองเขาอย่างตื่นตะลึง เพราะหากเป็นเขา เวลานี้เขาก็อยากเอานิ่มตรงนี้เหมือนกัน เด็กสาวกับแนวป่า เป็นอะไรที่เข้ากันได้อย่างเหลือเชื่อ และหากเรือนร่างอวบอัดนี้เปล่าเปลือยยืนพิงต้นไม้ให้เขาดูดเลีย ตบท้ายด้วยกระแทกแทรกดุ้นจนมิดด้าม นั่นคงเป็นความมันที่สุดในชีวิต “ไม่...” นิ่มบอกเขาเบาๆ ไม่ให้เสียงเล็ดลอดไปหาคนทำกิจกามด้วยความเมามัน แต่เสกก็ไม่ยอม เขารั้งแขนให้หล่อนเข้าใกล้ เดินลัดเลาะไปตามพุ่มไม้เบาฝีเท้าที่สุด และเพียงมองช่องลอดแนวใบไม้ที่ซ้อนทับกันโปร่งๆ นิ่มก็ตัวแข็งทื่อ เลือดทั้งตัวราวจะหยุดสูบฉีด เมื่อสิ่งที่เห็นอยู่ห่างเพียงไม
ทว่าพี่ทุยกลับไม่ได้ดูดเลียนม สิ่งที่พี่ทุยกำลังดูดเลียซุกไซ้และแยงลิ้นเข้าไปนั้นคือ... “อื้อ... พี่ทุยจ๋า ไหนว่าจะกินนม” “ก็ใครบอกว่าพี่จะกินนม พี่บอกว่าพี่หิว ขอกินบ้าง” “พี่ทุยอ่ะ เจ้าเล่ห์ ซี้ด...” นวลบิดตัวครางกระเส่าแต่แยกต้นขาให้กว้างขึ้นอีก พร้อมทั้งยกขาเล็กน้อยให้เต่านาปากแดงทักทายปลายลิ้นของพี่ทุยได้ถนัดถนี่ “ไม่เจ้าเล่ห์จะได้เมียเหรอ แถมเมียก็น่าเลียที่สุด ขอพี่เลียจนแตกนะนวล” นวลพยักหน้าอายๆ ก่อนจะแหงนหน้าครางกระเส่าเมื่อผัวรักเล่นลิ้นระรัวเร็ว จนหล่อนน้ำแตกนำหน้าไปก่อน จากนั้นพี่ทุยจึงนั่งลงบนเก้าอี้ มีหล่อนนั่งอยู่ระหว่างกลาง ดูด เลีย ดุ้นยาวใหญ่อย่างเมามัน และก่อนที่พี่ทุยจะแตก หล่อนก็รีบขึ้นคร่อมตามคำเร่าร้อง “เมียจ๋า... เมียจ๋า... โอว... เมียจ๋า... โอว...” ทุยครางกระเส่า ก้มหน้าฟัดนมอวบอัดของเมียให้คลายเสียว แต่นวลไม่ปรานีเขาเลย ร่องของเมียตอดรัดหนุบหนับ ควบขี่ โยกคลอน จนเขาทนไม่ไหว เขากำลังจะแตก “โอว... นวลจ๋า... เมียจ๋า... โอว...” ความร้อนรุ่มฉีดอัดเต็มที่ ด
ทุยเคลื่อนฝ่ามือขึ้นไปลูบไล้ที่ข้างแก้ม “นวลเป็นของพี่แล้วนะ เป็นเมียพี่ พี่จะดูแลนวล จะรักแต่นวล จะซื่อสัตย์กับเมีย พี่ให้สัญญา” “นวลรักพี่ทุยจ้ะ นวลสัญญาว่าจะซื่อสัตย์กับพี่ทุย จะเป็นเมียจะเป็นแม่ที่ดี นวลมีความสุขมากๆ จ้ะ” นวลพูดยิ้มๆ แต่น้ำตากลับรื้นออกมาไม่หยุด ทุยปาดน้ำตาที่ข้างแก้มก่อนจะพลิกร่างหันมองนาฬิกาติดฝาผนัง “ยังพอมีเวลามั้ยนวล ลูกจะตื่นหรือยัง” นวลขยับขึ้นมองนาฬิกา คำนวณเวลาว่องไวก่อนจะรีบลุกขึ้นนั่ง แต่เมื่อทุยจะลุกขึ้นตาม นวลกลับกดให้นอนลง “พี่จะไปรับลูกเป็นเพื่อนนะ” “เดี๋ยวค่อยไปก็ได้จ้ะ ขอนวลกินพี่ทุยก่อน ยังพอมีเวลา” หล่อนตอบก่อนจะเอื้อมมือมากอบกุมดุ้นยาวใหญ่ที่สงบตัวลง แต่แค่ฝ่ามือสัมผัส มันก็ขยายตัวเต้นระริกอยู่ในอุ้งมือ นวลเหลือบตามอง ‘ผัวรัก’ ที่หล่อนรับเขาเข้ามาได้เต็มหัวใจ หล่อนจะทำทุกอย่างให้พี่ทุยมีความสุขให้สมกับที่พี่ทุยทำให้หล่อนกับลูกมีความสุขเช่นกัน ฝ่ามือกำรูดเอาหนังย่นยู่ให้เปิดออก เผยให้เห็นหัวทุยทู่มีน้ำฉ่ำหล่อเลี้ยง นวลไม่รอช้าตวัดปลายลิ้นเลียเอาหยาดน้ำนั้นท
นวลกรีดร้องเสียงหลง ร่องฉ่ำตอดรัดปลายลิ้นที่จ้วงแทงเร็วรี่ แต่ทุยก็ยังไม่พอ เขาส่ายหน้าเข้าไปคลุกเคล้าปากจมูกและจ้วงลิ้นกวาดต้อนตวัดเอาหยาดน้ำท่วมท้นออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะเขาอร่อยเหลือเกิน อร่อยปากอร่อยลิ้นจนอยากจ่อปากดูดเลียอยู่แบบนี้ทั้งวันทั้งคืน แต่ดุ้นที่แข็งปั๋งร่ำร้องอยากตะลุยเข้าไปแทนลิ้นก็เต้นตุบๆ ประท้วงร้องให้เขาพอ ทุยเคลื่อนใบหน้าออกจากร่องฉ่ำเยิ้ม ขยับขึ้นมาจูบดูดดื่มกับนวลอีกครั้ง และนวลที่แลกลิ้นพัลวัน ทั้งกอดรัดเนื้อตัวเขา ลูบไล้ฝ่ามือน้อยๆ สร้างความซ่านเสียวให้กับเขาก็ทำให้ทุยสุขใจเหลือเกิน “นวลจ๋า... พี่รักนวลนะ” “นวลก็รักพี่ทุยจ้ะ นวลพร้อมแล้ว” ความหมายจากคำพูดคือหล่อนพร้อมที่จะให้เขาสอดใส่ ทุยลุกไปยืนข้างเตียง ถอดเสื้อผ้าออกจากตัวจนหมด จนเนื้อตัวเปล่าเปลือย และดุ้นยาวใหญ่ในกำมือก็ทำให้นวลตาลุกวาว เพราะขนาดนั้นใหญ่กว่าที่เคยได้รับ หล่อนอ้าปากค้าง กระเถิบตัวลุกขึ้นนั่ง ทุยคลานขึ้นเตียง ความใหญ่โตที่ไม่คิดจะปิดบังชี้ตรงมายังนวลที่ยังคงอึ้ง “นวล...” “จ้ะพี่” “พร้
“พี่ทุย...” ทุยเอื้อมมือไปปลดตะขอเสื้อใน นวลให้ความร่วมมือถอดออกแต่โดยดี และนั่นก็ทำให้หน้าอกขนาดมหึมาจากการกักเก็บน้ำนม ปรากฏออกมาชี้หน้าของทุย ทุยโอบประคองสองเต้าขนาดใหญ่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองนวล “แต่วันนี้ พี่ขอแย่งลูกกินหน่อยนะ หิวจังเลย ตั้งแต่เที่ยงยังไม่ได้กินอะไรเลย” “พี่ทุย... ซี้ด...” นวลแอ่นอกซี้ดปากเพราะเมื่อทุยพูดจบริมฝีปากเขาก็อ้าออกครอบครองเอาหัวนมข้างหนึ่งเข้าไปทันที ทุยดูดดื่มกลืนกินความมันปนหวานอ่อนอย่างเอร็ดอร่อย และก็ไม่ปล่อยให้อีกข้างที่ล้นทะลักน้อยใจ เมื่อเขาสลับข้างดูดดื่มจนนวลได้แต่แอ่นอกครางซี้ด “อื้อ... พี่ทุย... ซี้ด... เสียว... อื้อ... นวลเสียว...” เสียงหวานครางกระเส่าเร้าใจทุยที่สุด เขาเฝ้าฝันถึงวันเวลานี้ และเขาก็ได้ในสิ่งที่ใฝ่ฝันหา สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของผู้ชายคนหนึ่ง นั่นคือการมี ‘เมียที่ดี’ นวลเป็นของขวัญที่ความขยันหมั่นเพียรและความซื่อสัตย์มอบให้ และค่ำคืนนี้เขาจะทำให้นวลมีความสุขที่สุด “พี่ทุย... ซี้ด... พี่ทุย... อื้อ...” นวลแหงนหน้าซี้ดปากด้วยความเสียวเพร
สีหน้าประหลาดใจของทุยยิ่งทำให้นวลยิ้มทั้งน้ำตา“เพราะนวลเชื่อว่า ผู้ชายคนนี้จะให้ความรักกับนวลและลูกได้ เชื่ออย่างหมดหัวใจ” นวลขยับเข้าไปซุกหน้ากับอกของทุย “จะมีผู้ชายสักกี่คนบนโลกใบนี้ ที่รักมั่นกับผู้หญิงคนเดียว รักผู้หญิงท้องแก่ที่ทั้งอ้วนทั้งจน แถมต้องมาทำคลอดตัดสายสะดือให้ลูกคนอื่นอีก ทั้งยังรับเป็นพ่อ รับเป็นเมีย ดูแลไม่ให้ขาดตก โดยไม่สนใจเลยสักนิดว่าใครจะมองว่าเป็นควายสมชื่อ” นวลยิ่งพูดก็ยิ่งสะอื้น เพราะนั่นคือคำนินทาที่น้องชายมาเล่าให้ฟัง ทั้งหล่อนยังเคยได้ยินกับหู ยามมีคนเดินผ่านหน้าบ้าน ต่างพูดคุยว่า ‘ทุย’ เป็นไอ้ทุยสมชื่อ รับเดนต่อจากพี่ธง และหล่อนก็เชื่อว่าเรื่องราวเหล่านี้คงเข้าหูทุยเหมือนกัน แต่เขาก็ยังปฏิบัติกับหล่อนเสมอต้นเสมอปลาย ทำราวกับหล่อนเป็นเมียและจันทร์เจ้าเป็นลูกของเขาจริงๆ เพราะเมื่อครบกำหนดที่หล่อนต้องไปตรวจหลังคลอด หรือคุณหมอนัดตรวจจันทร์เจ้า คนที่กระตือรือร้นดูตารางนัดและเตือนไม่ให้หล่อนลืมก็คือเขา และเรื่องที่หล่อนรู้จากแม่ก็คือ ในวันที่หล่อนจะออกจากโรงพยาบาล พี่ธงไปเยี่ยมหล่อน แต่เจอกับพี่ทุยก่อน ผู้ชายสอ
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทุยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเป็นสามีเป็นพ่อของลูก ลูกสาวมีชื่อว่า ‘ด.ญ.จันทร์เจ้า’ และยังไม่ทันรุ่งสางแม่และน้องของนวลที่ได้ข่าวจากคนมาเที่ยวงานลอยกระทงว่านวลเจ็บท้องก็รีบตามมา ทุยขอเป็นคนไปดำเนินการเรื่องใบเกิดของลูกเอง และไม่ลืมที่จะบอกกับแม่ของนวลว่าเขาตั้งใจรับจันทร์เจ้าเป็นลูก ด.ญ.จันทร์เจ้า แข็งแรงดี แต่เนื่องจากนวลคลอดลูกในรถกระบะทำให้คุณหมอขอให้นวลนอนโรงพยาบาลต่ออีกหลายวันเพื่อดูอาการอย่างละเอียด เมื่อถึงวันที่นวลออกจากโรงพยาบาล ทุยก็พานวลกับลูกมาไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองประจำจังหวัด เพื่อฝากฝังเด็กน้อยไว้ให้เป็นลูกเจ้าพ่อ “พี่ทุยจะไปไหนต่อจ๊ะ” นวลถามเพราะทุยไม่ได้เลี้ยวรถกลับไปยังทิศทางของบ้าน แต่กลับเลี้ยวเข้าไปในส่วนงานราชการประจำจังหวัด “ไปทำธุระต่อ” ทุยตอบพร้อมกับเลี้ยวรถเข้าไปจอดหน้าที่ว่าการอำเภอ “ลงมาสินวล แม่รออยู่ทางโน้น” นวลมองตามแล้วก็เห็นแม่กับน้องยืนรออยู่ด้านบนที่ว่าการอำเภอจริงๆ “พี่ทุย” “ลงมาเถอะ พี่เป็นพ่อของจันทร์เจ้าแล้วนะ แล้วตอนนี้พี่ก็จะเป็นสามีของนวล”
“แต่...” “ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น พี่อยากกินกับข้าวฝีมือนวลทุกวัน” นวลสะอื้นไม่หยุด ความอ่อนแอที่ซุกซ่อนอยู่ภายในใจ ทำให้อยากมีใครสักคนมาปกป้อง แต่หากจะทำให้คนดีๆ อย่างพี่ทุยต้องมาจมปรักกับผู้หญิงมีผัวแล้วอย่างหล่อนก็ไม่ควร แต่ก็สงสารสายตาเว้าวอนนั้น ระลึกถึงความปรารถนาดีที่พี่ทุยทำให้หล่อนตลอดมา หล่อนตัดสินใจไม่ได้ “นะ พี่อยากกินน้ำพริกกะปิฝีมือเมีย” น้ำเสียงนั้นเว้าวอนจนหัวใจหล่อนสั่น “พี่ทุย... อุ้ย!” “นวล... นวลเป็นอะไร” ทุยขยับเข้าไปชิดเมื่อร่างอุ้ยอ้ายของนวลสะดุ้งโหยง ห่อตัวก่อนจะยืดตัวเอนไปด้านหลัง สีหน้าแสดงความเจ็บปวด “พี่ทุย... อื้อ... นวล... นวลเหมือนจะเจ็บท้องอ่ะ” “เจ็บยังไง เจ็บแบบนี้จะคลอดหรือเปล่า” “ไม่น่านะพี่ อุ้ย! โอ๊ยยยยย... พี่ทุย! มะ... ไม่ ไม่เป็นไร ยังไม่น่าจะคลอด หมอบอกว่าต้องเลยลอยกระทงไปก่อน โอ๊ยยยยย...” หล่อนบีบข้อมือเขาแน่น แต่ปากบอกว่าไม่เป็นไร “แต่พี่อ่านในหนังสือเตรียมคลอดเขาบอกว่ามีโอกาสคลอดก่อนกำหนดของหมอไม่ใช่เหรอ” “แต่... โอย... พี่ทุย
นวลเปิดถุงกระดาษแต่ละใบออกดู ใบแรกด้านในนั้นมีเสื้อผ้าเด็กอ่อนอยู่หลายชุด มีหมวก ถุงมือ ถุงเท้า ผ้ากันเปื้อน ผ้าอ้อม ที่ล้วนเป็นสีชมพู ถุงใบที่สองเป็นชุดเดรสของผู้หญิง 2 ชุด มีลักษณะคล้ายกันคือมีกระดุมผ่าหน้ายาวตลอดตัว และถุงใบที่สาม เป็น... สิ่งที่ทำให้นวลหน้าร้อนวูบวาบ เพราะที่เห็นนั่นเป็นเสื้อชั้นในแบบเปิดเต้าด้านหน้า เหมาะสำหรับให้นมลูก “นวลชอบมั้ย” “เอ่อ... ชอบจ้ะ แต่พี่ทุยไม่ต้องซื้ออะไรให้นวลอีกนะจ๊ะ นวลเกรงใจ ของพวกนี้ก็ราคาแพงด้วย” แน่ล่ะ เพราะตอนที่หล่อนไปหาหมอเมื่อสัปดาห์ก่อน หล่อนเห็นใบโฆษณาเสื้อในแบบเปิดเต้ายี่ห้อนี้ ตัวหนึ่งราคาไม่ต่ำกว่า 700 บาท แล้วพี่ทุยซื้อมาให้หล่อน 3 ตัว ไหนจะเสื้อผ้าหล่อน เสื้อผ้าลูก ทั้งหมดนี่ไม่เกินหมื่นหรอกหรือ “คิดอะไรมาก นวลก็รู้ว่าพี่ไม่มีเวลาไปใช้เงินที่ไหนหรอก ได้ซื้อของให้นวลให้ลูกบ้าง พี่มีความสุขนะ พี่เลือกชุดลูกเป็นสีชมพูทั้งหมด นวลชอบมั้ย” “ชอบจ้ะ” “พี่อยากให้จันทร์เจ้าสวยเหมือนนวล” ความร้อนราวจะพวยพุ่งขึ้นสู่พวงแก้มไม่หยุด จนนวลต้องพยายามสะกดควา
“พี่ทุยกินข้าวนะจ๊ะ เดี๋ยวฉันไปจับสำรับมาให้ วันนี้มีน้ำพริกกะปิของโปรดของพี่ด้วยนะ มีกระเฉดราดกะทิด้วย” “เอ็งนี่จะทำให้พี่อ้วน เอ็งนั่งนี่แหละ เดี๋ยวพี่ไปจัดมาเอง” “จ้ะ” นวลยิ้มน้อยๆ มองตามร่างสูงใหญ่ผิวกายกรำแดดที่เดินไปยังด้านข้างของเรือนที่เป็นส่วนของครัวไฟ เสียงก๊อกแก๊กในครัวให้รู้ว่าพี่ทุยกำลังคดข้าวตักกับข้าว ไม่นานร่างสูงก็เดินออกมาพร้อมจาน 2 ใบ ใบหนึ่งมีข้าวพูนจาน อีกใบเป็นผักลวกและน้ำพริกราดมาซะท่วม “โห... ไม่เผ็ดเหรอพี่ ราดมาซะเยอะเลย” “เผ็ดๆ น่ะดี ทำงานมาหนักๆ ตาสว่างเลย เอ็งรู้มั้ยนวล ฝีมือตำน้ำพริกของเอ็งนี่อร่อยที่สุดในสามโลก กินรสมือใครก็ไม่ถูกใจเท่ารสมือเอ็ง” นวลยิ้มน้อยๆ ก่อนจะตอบ “ก็บอกให้มากินข้าวที่นี่ทุกวัน อยากกินอะไรก็บอก ฉันจะทำให้กิน” “พี่ไม่อยากให้เอ็งลำบาก ท้องแก่ขนาดนี้แล้วด้วย” “พี่ให้ฉันมากกว่านี้ซะอีก ถ้าไม่ได้พี่ช่วยประคับประคอง เดือนกว่าที่ผ่านมานี้ ฉันจะอยู่ได้ยังไง” นวลหมายถึงพี่ทุยช่วยเป็นธุระพาหล่อนไปหาหมอตามตารางนัด เพราะยิ่งท้องแก่ใกล้คลอด หมอยิ่ง