“ไปกันเถอะครับ ไปซื้อของกัน” ธีร์ภาณุคว้าหมับเข้าที่ข้อมือบางแล้วดึงให้ลุกขึ้นยืน ไอรักมองหน้าผู้ชายตัวโตอย่างไม่พอใจ
“ปล่อยค่ะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย
“ดื้ออีกแล้วนะครับ” ไอรักค้อนขวับ
“หนูไอเดินเองได้ค่ะ” ไอรักเดินนำหน้าธีร์ภาณุตรงไปที่รถสปอร์ตคันหรูที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะเดินตามไอรักไป
“เดี๋ยวเราแวะซื้อของกันก่อนนะครับ แล้วเที่ยงนี้พี่จะพาไปทานข้าวบ้านคุณแนน” ไอรักมองหน้าคนขับรถแต่ไม่พูดอะไร ธีร์ภาณุชำเลืองดูหญิงสาวแล้วพูดต่อ
“หนูไอต้องซื้อชุดอีกหลายชุดนะ แล้วก็ของใช้ส่วนตัวด้วยนะครับ” ไอรักเงียบจนคนที่พูดอยู่ฝ่ายเดียวแปลกใจ
“หนูไอเป็นอะไรไปหรือเปล่าครับ”
“ไม่เป็นไรนี่คะ แต่กำลังคิดว่าในโปรแกรมวันนี้ พี่ธีร์จะพาหนูไอไปพบคุณลุงหรือเปล่า” ธีร์ภาณุยิ้มกว้าง
“แล้วหนูไออยากไปไหมล่ะครับ” ไอรักเชิดหน้ามองไปข้างหน้าก่อนจะตอบ
“อยากไปค่ะ หนูไออยากไปตกลงกับคุณลุงเรื่องของเราค่ะ”
“ครับ เราจะแวะหาคุณพ่อก่อนกลับไร่แสงตะวันนะครับ”
รถสปอร์ตขอ
ธีร์ภาณุยิ้มใส่ตาภรรยาที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่ข้างๆ แล้วหันไปยิ้มกว้างให้รสิตาก่อนจะพูดว่า“อร่อยทุกอย่างครับ แต่คงเพราะว่าหนูไอกำลังท้องอยู่น่ะครับ ก็เลยทานอะไรแล้วไม่ถูกปากสักอย่าง จริงไหมครับหนูไอ”ไอรักอ้าปากค้างหันมองหน้ารสิตายิ้มแบบฝืนๆ ก่อนจะหันกลับมามองคนที่นั่งข้างๆ แล้วส่งสายตาที่บ่งบอกว่าไม่พอใจ พร้อมกับเอื้อมมือไปหยิกที่ต้นขาของธีร์ภาณุอย่างแรง“โอ๊ย!” ธีร์ภาณุอุทานเสียงดัง“เป็นอะไรคะคุณธีร์” รสิตาถามพร้อมกับเลิกคิ้วทำหน้าสงสัย“ไม่เป็นไรครับ” ธีร์ภาณุพูดพร้อมกับเหยียดแขนออกโอบไหล่คนนั่งข้างๆดึงเข้าหาตัวเอง ไอรักตกใจเล็กน้อย เงยหน้ามองดูคนตัวโตอย่างเอาเรื่อง ชายหนุ่มฉวยโอกาสประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากมนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันหน้ามาทางรสิตา“คือหนูไอเขาเขินน่ะครับ ยังไม่อยากให้ผมบอกเรื่องนี้กับใคร แต่ผมก็อดที่จะพูดไม่ได้ จะเป็นพ่อคนทั้งที ใครๆก็อยากโชว์ว่าตัวเองมีความสามารถทั้งนั้นแหละครับ คุณแนนว่าไหมครับ” ธีร์ภาณุพูดจบก็หันมายิ้มกว้างให้คนที่อยู่ในอ้อมแขน แล้วหันไปยิ้มให้รสิตาที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามของโต๊ะอาหาร“ค่ะ” รสิตาตอบรับสั
ไอรักค้อนขวับเม้มปากแล้วนั่งนิ่ง จนกระทั่งธีร์ภาณุพารถเลี้ยวเข้าซุ้มประตูไม้แล้วจอดรอก่อนจะบีบแตร สักครู่ประตูไม้บานใหญ่ก็ถูกเปิดออกโดยชายหนุ่มวัยกลางคน ธีร์ภาณุขับรถเข้าไปตามทางเล็กๆบริเวณบ้าน ซึ่งเป็นบ้านทรงไทยประยุกต์หลังใหญ่ ด้านหน้ามีบันไดไม้ขึ้นสู่ด้านบนของตัวบ้านชายหนุ่มวัยกลางคนที่เปิดประตูให้เมื่อสักครู่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาธีร์ภาณุ และมองไอรักอย่างสงสัย“คุณพ่ออยู่ไหมน้าสุด?” ธีร์ภาณุเอ่ยถามพร้อมกับมองไปรอบๆบริเวณบ้าน“นายท่านยังไม่กลับมาครับ คุณกานดาอยู่บนเรือนครับ” ชายคนที่ชื่อน้าสุดยืนเอามือกุมเป้ากางเกงก้มศีรษะเล็กน้อยขณะตอบคำถาม“แล้วพี่ไทล่ะ” ธีร์ภาณุถามหาพี่ชายคนเดียวของเขา“นายใหญ่ยังไม่กลับมาครับ” น้าสุดตอบคำถามและก็ยังคงก้มศีรษะเล็กน้อยเหมือนเดิม“น้าสุดเอารถผมไปเก็บให้ด้วยนะครับ แล้วก็บอกน้าเรียมว่าให้จัดอาหารเย็นเผื่อผมกับหนูไอภรรยาของผม เพิ่มอีกสองที่นะครับ” น้าสุดทำสีหน้างงเล็กน้อย ก่อนจะชำเลืองมองไอรักด้วยสีหน้าสงสัย ไอรักยิ้มให้ชายวัยกลางคนเป็นการทักทาย น้าสุดก้มศีรษะคำนับให้เธอ พร้อมกับกล่าวรับคำสั่งจากธีร์ภาณุ
“ไปพักผ่อนก่อนเถอะหนูไอ ไม่ต้องเกรงใจอะไรนะ บ้านหลังนี้ก็เหมือนบ้านหนูไอนั่นแหละ ไปตาธีร์พาน้องไปพักผ่อนอาบน้ำอาบท่าจะได้สบายเนื้อสบายตัว แล้วค่อยมาทานอาหารเย็นพร้อมกันนะ”ธีร์ภาณุเดินนำหน้าและจูงมือไอรัก จนเดินมาถึงหน้าประตูห้องของตนเอง น้าเรียมที่คุณกานดาสั่งให้มาจัดห้องเปิดประตูออกมาพอดี“น้าจัดห้องให้เรียบร้อยแล้วนะคะนายเล็ก ต้องการอะไรเพิ่มเติมไหมคะ” ธีร์ภาณุยิ้มให้น้าเรียม“ขอบคุณครับน้าเรียม เดี๋ยวช่วยไปขนของในรถขึ้นมาไว้ที่ห้องให้ด้วยนะครับ”“ค่ะ” น้าเรียมรับคำ แล้วก้มศีรษะเล็กน้อยก่อนเดินจากไป ธีร์ภาณุเปิดประตูเดินเข้าห้อง แต่คนที่ถูกจูงมือกลับยืนตัวแข็งทื่อไม่เดินตาม“หนูไอนี่ดื้ออีกแล้วนะครับ” ธีร์ภาณุพูดพร้อมกับส่ายหน้า“ไม่ค่ะ หนูไอไม่นอนกับพี่ธีร์ ปล่อยก่อนค่ะ” ธีร์ภาณุปล่อยมือไอรัก แล้วเปลี่ยนเป็นใช้สองแขนรวบรวบเอวบางอย่างรวดเร็วดึงเข้ามาในห้อง พร้อมกับปิดล็อกประตูทันที“ว้าย!” ไอรักอุทานอย่างตกใจ เมื่อชายหนุ่มปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ หญิงสาวเริ่มพยายามหาทางออกจากห้อง แต่ธีร์ภาณุตัวใหญ่กว่ายืนกอดอกขวางประตูไว้“พี
ไอรักอาบน้ำเสร็จแล้วจึงแง้มประตูห้องน้ำออกมา กวาดสายตามองทั่วห้องไม่พบธีร์ภาณุ จึงผ่อนลมหายใจออกอย่างโล่งอก ก็ตอนนี้ไอรักอยู่ในสภาพผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันร่างกายอยู่ เพราะไม่ได้เตรียมชุดเข้าไปในห้องน้ำด้วยหญิงสาวรีบก้าวเท้าเร็วๆเดินตรงไปที่โต๊ะมุมห้อง มือบางรื้อๆค้นๆหาเสื้อผ้าที่เพิ่งไปซื้อมา แต่พอเลือกได้ตัวหนึ่งก็ลังเลอยากใส่อีกตัวหนึ่ง มือซ้ายจับชุดเดรสสั้นแขนกุดสีเหลืองนวลเป็นผ้าชีฟองพลิ้วสวย มือขวาจับจั๊มป์สูทขายาวสีเขียวหม่น หญิงสาวชูชุดทั้งสองตัวสลับกันไปมา ชั่งใจตัวเองอยู่ว่าจะเลือกใส่ชุดแบบไหนดี“พี่ว่าหนูไอใส่ชุดไหนก็น่ารักทั้งนั้นแหละครับ” ไอรักสะดุ้งเฮือก ไม่กล้าจะหันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียง หญิงสาวยืนตัวแข็งทื่อกอดเสื้อผ้าไว้แนบอก รู้สึกชาวาบไปทั้งร่าง นึกอยากจะเขกศีรษะตัวเองจริงๆ ธีร์ภาณุเดินเข้ามาประชิดด้านหลังแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างหูไอรัก“หรือถ้าไม่ใส่เลยก็คงจะน่ารักที่สุด”ไอรักหลับตาปี๋หดคอลงโดยอัตโนมัติ ธีร์ภาณุยิ้มให้กับอาการของหญิงสาว“ตัวหนูไอหอมจัง” ธีร์ภาณุไม่พูดเปล่า จมูกโด่งโฉบลงที่แก้มนวลอย่างรว
“ครับแม่...ผมกับหนูไอสัญญาว่า จะไม่ทำให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วงเหมือนพี่ไทอย่างแน่นอนครับ จริงไหมครับหนูไอ?” ไอรักหันมองหน้าธีร์ภาณุที่ตอนนี้ส่งสายตาหวานเชื่อมมาให้ พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ หญิงสาวยิ้มอย่างเสียไม่ได้ก่อนจะตอบรับ“ค่ะ” คุณกานดายิ้มให้กับลูกชายและลูกสะใภ้คนเล็ก ก่อนที่จะถามถึงความคืบหน้าเรื่องการจัดงานแต่งงาน“แล้วเรื่องงานแต่งล่ะตาธีร์ เตรียมอะไรไปถึงไหนแล้ว”“เรื่องนี้ผมกับหนูไอคุยกันมาแล้วครับ เราขอจัดงานเล็กๆก็พอครับคุณแม่ เชิญเฉพาะที่สนิทและคุ้นเคย เนอะ...หนูไอ” คนพูดยิ้มหวานเมื่อหันหน้ามาสบตาคนนั่งข้างๆเพื่อขอความคิดเห็น ไอรักอยากจะกระโดดขึ้นคร่อม แล้วเอามือตะกุยหน้าผู้ชายที่นั่งข้างๆเสียจริง แต่ก็ทำได้เพียงฝืนยิ้มแล้วสบตาคนที่ถามมาด้วยสายตาเกรี้ยวกราดแทบจะถลนออกมา“ว่ายังไงล่ะจ๊ะหนูไอ” คุณกานดาถามย้ำกับว่าที่เจ้าสาว“เอ่อ...” ไอรักอ้าปากจะพูดแต่ก็มีคนเร็วกว่าพูดแทรกขึ้นมา“หนูไอน่ะยังไงก็ได้อยู่แล้วครับคุณแม่ แต่เราจะจัดงานให้เร็วที่สุดนะครับ ผมไม่อยากให้น้องเสียหาย ”“มันแน่นอนอยู่แล้ว แม่ดูฤกษ์ให้แล้ว ก็ตั้งแต่เม
“พี่ไม่ได้พูดอะไรเลยนะหนูไอ คุณพ่อกับคุณแม่ท่านคิดไปเองต่างหาก” พูดจบธีร์ภาณุก็จับจ้องที่ดวงหน้ามน ด้วยแววตาที่คล้ายๆกับยิ้มล้อเลียน จนคนถูกมองจับสังเกตได้ ไอรักกลอกตาไปมาใช้ความคิดสักครู่แล้วก็เริ่มนึกได้ว่า ตนเองเดินตามธีร์ภาณุเข้ามาในห้องของเขา ไวเท่าความคิดหญิงสาวหันหลังกลับ ออกตัวเร็วราวกับวิ่งแข่งร้อยเมตร แต่ไม่เป็นไปดังใจหวัง เธอไปไม่ถึงเส้นชัย ลำแขนกลมกลึงที่เหยียดออกจนสุดหมายมาดว่าจะจับลูกบิดเปิดประตู ยังคงค้างอยู่กับที่ทั้งที่อยู่ใกล้แค่คืบ แต่เธอกลับคว้ามันไม่ถึง เนื่องจากคนที่แขนยาวกว่าใช้แขนเพียงข้างเดียวโอบเอวบางจากด้านหลัง แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้คนที่ตัวเล็กกว่าหยุดกึกอยู่กับที่ ไอรักจึงเปลี่ยนมาเป็นเริ่มใช้มือกวัดแกว่งเพื่อทำร้ายเจ้าของแขนแข็งแรงนั้น“เราเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้วนะหนูไอ คืนนี้เราควรนอนหลับพักผ่อนเอาแรง วันข้างหน้ามีงานใหญ่รอเราอยู่นะ”“งานพี่ธีร์คนเดียวน่ะสิ หนูไอไม่รับรู้อะไรด้วยทั้งนั้น” คนถูกกอดตวาดแหวเสียงดังลั่น ธีร์ภาณุใช้มือทั้งสองข้างจับตัวไอรักหมุนกลับมาเผชิญหน้ากัน“คืนนี้พี่จะไม่ทำอะไรหนูไอทั้งนั้น วางใจได้ พี่ขอสัญญา
แล้วค่อยรุกไปเรื่อยๆ ให้มันรู้ไปว่าเสืออย่างธีร์ภาณุจะตะปบแม่กวางน้อยอย่างไอรักไม่ได้ ก็ในเมื่อแม่กวางน้อยกุมหัวใจเขาไว้แล้ว เขาก็ต้องเอาหัวใจของแม่กวางน้อยมาไว้ในมือของตนเองให้ได้เช่นกัน “ตัวนิดเดียวแต่ฤทธิ์เยอะชะมัด”ขณะที่ธีร์ภาณุกำลังจะเอื้อมมือปัดปอยผมที่แก้มของไอรัก แสงของโทรศัพท์มือถือที่ตั้งระบบสั่นไว้ ก็สว่างเป็นจังหวะเตือนแทนเสียงเรียกเข้า ชายหนุ่มละสายตาจากหญิงสาว แล้วก้มลงหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้ข้างหมอน ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เขาไม่ต้องการส่งเสียงรบกวนคนตัวเล็กขี้โมโหที่กำลังนอนหลับสบาย เมื่อปิดประตูห้องแล้ว ธีร์ภาณุจึงกดรับสาย“ว่าไงครับลุงมิ่ง” ชายหนุ่มยิงคำถามพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าถ้าไม่มีเรื่องเหลือบ่ากว่าแรง ลุงมิ่งจะไม่ติดต่อมาเป็นอันขาด ธีร์ภาณุเงียบฟังปลายสายพูดอยู่ครู่หนึ่งก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที“ครับ”เมื่อสิ้นการสนทนาคำสุดท้าย ชายหนุ่มกดวางสายพร้อมกับเปิดประตูเดินเข้าห้อง ธีร์ภาณุจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าของตนเองโดยไม่เปิดสวิตซ์ไฟ เขาเปลี่ยนเป็นกางเกงยีนส์แล้วสวมเสื้อเชิ้ตยีนส์สีน้ำเงินเข้มทับเสื้อยืดที่ส
“คืนนี้ผมจะนอนที่นี่นะครับลุงมิ่ง ลุงไปพักผ่อนเถอะครับ เหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว ไม่ต้องเอารถไปเก็บนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะเข้าไปดูในไร่อีกที อ้อ!พรุ่งนี้เช้าลุงมิ่งช่วยไปเอาเอกสารที่โต๊ะทำงานของผม ที่บ้านคุณพ่อให้ด้วยนะครับ เอามาทั้งหมดเลยนะครับที่วางอยู่บนโต๊ะ ผมจะรีบเคลียร์เอกสารให้พี่ไท”“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะไปเอาให้แต่เช้าเลยครับ” เมื่อจบการสนทนาลุงมิ่งก็เดินเลี่ยงออกไปทางบ้านพักคนงาน ธีร์ภาณุมองตามครู่หนึ่งก่อนจะหันหลังเดินขึ้นบันไดบ้านไปหลังจากเปิดประตูบ้านเข้าไปธีร์ภาณุเอื้อมมือไปกดเปิดสวิตซ์ไฟ เขารู้สึกแปลกๆเมื่ออยู่ในห้องกว้างที่เมื่อก่อนเคยอยู่คนเดียวได้ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเหงาอย่างประหลาด ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงตัวเล็กๆที่เพิ่งใกล้ชิดกันไม่นานจะมีอิทธิพลกับความรู้สึกของเขามากถึงขนาดนี้ เสียงเล็กๆที่คอยต่อล้อต่อเถียงดังก้องเข้ามาในหู กลิ่นกายหอมกรุ่นของไอรักลอยวนขึ้นมาในห้วงความคิด ชายหนุ่มยิ้มกับตัวเองพร้อมกับส่ายศีรษะเบาๆ คืนนี้เขาเหนื่อยเกินกว่าจะขับรถกลับได้ และพรุ่งนี้ก็คงมีงานอีกหลายอย่างในไร่ให้เขาต้องสะสางแต่เช้า ธีร์ภาณุจ
“ได้ยาดีอย่างนี้หายวันหายคืนแน่” ไอรักหยิกที่อกกว้างเบาๆ“เจ้าเล่ห์ตลอด ไปทานข้าวกันได้แล้วค่ะ ป่านนี้ป้าบัวยกสำรับมาให้แล้ว”“อีกนิดไม่ได้เหรอ?” ธีร์ภาณุออดอ้อนต่อรอง“หยุดเลยนะ อีกนิดของพี่ธีร์มันไม่เคยเชื่อถือได้เลยค่ะ ไปค่ะลุกแล้วไปทานข้าวกันจะได้ทานยา”“รู้ทันตลอด” ธีร์ภาณุลุกขึ้นจากอ่างก่อน เขาไม่อายร่างกายของตัวเอง แต่ไอรักน่ะสิ ได้แต่ก้มหน้างุดไม่กล้ามอง ทั้งที่ก็เห็นมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว“ลุกขึ้นสิครับหนูไอ พี่จะเช็ดตัวให้” ธีร์ภาณุพันผ้าเช็ดตัวที่เอวสอบ แล้วถือไว้ในมืออีกผืน ไอรักโยกโย้ไม่อยากลุกขึ้นจากอ่าง“พี่ธีร์ออกไปก่อน หนูไอเช็ดเองก็ได้ค่ะ”“ถ้าหนูไอไม่ลุกออกมาจากตรงนั้น พี่จะลงไปอีกนะ” ไม่พูดเปล่ามือหนาทำท่าจะปลดปมผ้าขนหนูที่เอวตนเองด้วย“ลุกค่ะ ลุกแล้ว” ไอรักลุกขึ้นก้าวขาเรียวอกมาจากอ่าง ธีร์ภาณุมองร่างสมส่วนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าแล้วยิ้มกริ่ม ไอรักค้อนขวับวงใหญ่“หนาวค่ะ” หญิงสาวเอ่ยเบาๆ ทำให้ธีร์ภาณุต้องรีบใช้ผ้าเช็ดตัวให้ร่างนุ่มนิ่มอย่างอ้อยอิ่ง“แต่งงานแล้ว เราอาบน้ำด้วยกันทุกวันเนอะ” ไอรักตวัดส
“พี่ธีร์” ไอรักเรียกหาคนป่วยเมื่อขึ้นบ้านมาแล้วไม่เห็นธีร์ภาณุนั่งอยู่ที่เดิม“ไปไหนของเขานะ” ไอรักเดินตามเข้าไปหาในห้องนอน มองไปยังประตูห้องน้ำที่ปิดอยู่“พี่ธีร์อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่าคะ” ไอรักเคาะประตูห้องน้ำเบาๆ แต่ก็เงียบไม่มีเสียงตอบ หญิงสาวเลยเปิดประตูห้องน้ำ แล้วโผล่หน้าเข้าไปมองหา จึงได้เห็นว่าคนตัวโตนอนหลับตาพริ้มแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำ“พี่ธีร์” ไอรักเรียกเบาๆ ธีร์ภาณุลืมตาขึ้นช้าๆ เขายันกายขึ้นนั่งตัวตรงในอ่างอาบน้ำ“พี่เมื่อยตัวเลยอยากแช่น้ำอุ่นหน่อย นี่เผลอหลับไปหรือเนี่ย” ธีร์ภาณุพูดด้วยน้ำเสียงเพลียๆ“หนูไอรอที่โต๊ะหลังบ้านนะคะ อีกเดี๋ยวป้าบัวจะยกกับข้าวมาให้”“ครับ...โอ๊ย!” ธีร์ภาณุยกมือขึ้นกุมหัว สีหน้าแสดงอาการเจ็บปวดได้อย่างแนบเนียน ไอรักรีบปราดเข้าไปนั่งลงข้างอ่างอาบน้ำ แล้วจับบ่าคนสำออยด้วยความเป็นห่วง“เป็นอะไรคะ ปวดหัวหรือคะ ไปหาหมอไหม” คนเป็นห่วงซักถามอาการเร็วปรื๋อ“เจ็บตรงนี้ ตรงนี้ แล้วก็ตรงนี้” ธีร์ภาณุจับมือบางวางตรงนั้น ตรงนี้แล้วทำหน้าสำออย แต่ไอ้ตรงนี้สุดท้ายของเขาน่ะ มันอยู่ใต้น้ำ คนที่สัมผัสได้ถ
“เออ...หายไวๆนะครับนายเล็ก รีบกลับไปเคลียร์งานที่ไร่ให้เสร็จด้วย ไม่อย่างนั้นจะบอกแม่ให้เลื่อนงานแต่งของแกออกไป ให้ฉันแต่งกับแนนคู่เดียวพอ” ไทธรณ์ขู่น้องชาย แต่ดูเหมือนคนไข้จะจงใจหลับตาลงทำหูทวนลมไม่สนใจคำพูดใดๆ“พี่กลับก่อนนะคะหนูไอ อย่าดูแลแต่คุณธีร์จนลืมดูแลสุขภาพตัวเองนะ”“ค่ะพี่แนน ขอบคุณมากนะคะ” ไอรักยิ้มหวานพร้อมกับเดินไปส่ง รสิตากับไทธรณ์ที่ประตู“ฝากดูแล้เจ้าธีร์ด้วยนะหนูไอ พี่กลับก่อนนะครับ” ไทธรณ์พูดพร้อมกับชำเลืองสายตารู้ทันไปที่คนไข้ที่ทำเป็นนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง“ค่ะพี่ไท” ไอรักตอบยิ้มๆแล้วเหลือบสายตามองไปยังร่างของคนตัวโตบนเตียงคนไข้ไอรักดึงประตูห้องปิดแผ่วเบา แต่ก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อมือใหญ่ปาดหน้ากดปิดล็อกตามทันที“พี่ธีร์! ทำอะไรคะ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เหลือร้ายผุดพรายเต็มใบหน้า“มันค้างอะ” ไอรักตีท่อนแขนแกร่งเบาๆ แล้วรุนหลังธีร์ภาณุตรงไปยังเตียง ชายหนุ่มเดินไปตามแรงน้อยนิดที่พยายามบังคับตัวเองอยู่“ไม่ต้องเลยนะ เป็นคนไข้ก็ต้องพักผ่อนเยอะๆ” ไอรักจับคนตัวโตหมุนแล้วเขย่งเท้าเพื่อวางมือบนบ่ากว้าง ออกแรงกดลงเ
ชายหนุ่มรุกเร้าหนักขึ้น เขาดึงร่างนุ่มนิ่มขึ้นมานั่งบนตักตัวเอง เพื่อจะได้สัมผัสทุกส่วนของหญิงสาวได้ถนัด เสื้อชั้นในลูกไม้ถูกปลดตะขอหน้าอวดความอวบอิ่มจนคนเห็นแทบคลั่ง ใบหน้าสากก้มลงซุกไซ้อกนิ่มอย่างรวดเร็วด้วยความพึงพอใจ และดูดดึงชิมความหวานจากยอดอกชูชันอย่างไม่รู้จักอิ่ม จนร่างบางสะท้านครั้งแล้วครั้งเล่าไอรักกัดริมฝีปากบางไว้แน่น แต่ก็ยังไม่สามารถกักเก็บอารมณ์หวามไว้ได้จนต้องเผลอครางออกมา เมื่อได้กำไรพอควรจากร่างบางที่มีรสหวานล้ำ ชายหนุ่มก็หยุดการรุกรานซบหน้านิ่งลงกับอกนิ่ม ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาเงยหน้าขึ้นสบตาของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยเพลิงเสน่หา ซึ่งตนเองเป็นคนก่อ ธีร์ภาณุยิ้มใส่ดวงตาคู่สวยก่อนจะค่อยๆติดตะขอชั้นในและกระดุมเสื้อให้หญิงสาว และจัดชุดให้เรียบร้อยเหมือนเดิม แล้วโอบเอวบางไว้หลวมๆไอรักถอนหายใจด้วยความโล่งอกปนเสียดายอย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวยังนั่งนิ่งอยู่บนตักของธีร์ภาณุ มันรู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้ๆผู้ชายคนนี้ ไอรักไม่รู้ว่าความรู้สึกรังเกียจเมื่อตอนที่พบครั้งกันครั้งแรกมันหายไปไหน รู้แต่ว่าไม่กลัวสัมผัสจากเขาแล้ว หากแต่รู้สึกดีด้วยซ้ำไป สองหนุ่มสาวสบตาก
หญิงสาวพูดจบก็กอดคุณนายกานดาแน่น น้ำตาที่สะกดกลั้นเอาไว้ไหลอาบสองแก้มนวล ไอรักสะอื้นจนตัวโยน จึงไม่ทันได้สังเกตว่าคุณกานดาหยุดร้องไห้แล้วคนป่วยที่นั่งอยู่บนรถเข็นถูกเข็นออกมา ทันได้ยินทุกถ้อยคำชัดเจน ธีร์ภาณุยิ้มกว้าง รู้สึกหัวใจพองโตจนคับอก อยากจะดึงตัวคนร่างบางในชุดเจ้าสาวเข้ามากอดแล้วหอมแก้มนวลสักฟอดใหญ่ๆ“พี่จะถือเป็นคำสัญญานะครับ” ไอรักผละจากอ้อมกอดคุณกานดาทันที พร้อมๆกับหันขวับไปทางเจ้าของเสียง“พี่ธีร์...”ไอรักใช้มือปาดน้ำตาป้อยๆยิ้มอย่างเอียงอาย มองดูทุกคนที่อมยิ้มไปกับท่าทางของเธอ“หนูไอครับพี่หิวน้ำ” น้ำเสียงออดอ้อนของคนป่วยช่างน่าหมั่นไส้นัก“ค่ะ” ไอรักรับคำอย่างเสียไม่ได้ไอรักรินน้ำใส่แก้วแล้วนำมายื่นให้คนป่วย ที่นั่งพิงหลังอยู่บนเตียง แต่ธีร์ภาณุก็ไม่รับแก้วไปสักที“รับไปสิคะพี่ธีร์”“พี่ปวดแขน” ไอรักมองหน้าคนตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จอย่างเหนื่อยใจ เพราะจากการสอบถามอาการจากคุณหมอเจ้าของไข้ ก็ทำให้ ไอรักรู้ว่า ธีร์ภาณุไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ศีรษะกระแทกแล้วหมดสติไป เมื่อตรวจ
ไอรักอยู่ในชุดเจ้าสาวสีฟ้าอ่อน ผ้าลูกไม้อย่างดีถูกออกแบบให้ดูเรียบหรู ในแบบชุดเกาะอกกระโปรงสั้นเหนือเข่า กับรองเท้าส้นสูงแบบสานสีฟ้าอ่อนเข้ากับชุด บนศีรษะมีช่อดอกไม้สีขาวเล็กๆพร้อมกับผ้าพลิ้วบางสีฟ้าทิ้งตัวลงมาด้านหลัง พอดีกับผมยาวเกือบกลางหลังของหญิงสาว“โอเคไหมคะ” เจ้าของร้านถามไถ่อย่างใส่ใจ ขณะที่ยืนมองไอรักหมุนซ้ายขวาอยู่หน้ากระจกบานใหญ่“เอ่อ หนูไอว่าช่วงเอวจะหลวมไปนิดน่ะค่ะ พี่หลินช่วยแก้ให้หน่อยนะคะ”“ได้ค่ะ แล้วจะให้ใส่อะไรเพิ่มในรายละเอียดของชุดไหมคะ” ไอรักมองดูตัวเองในกระจก แล้วหันมายิ้มให้เจ้าของห้องเสื้อ“ไม่ล่ะค่ะพี่หลิน แก้แค่เอวก็พอแล้วค่ะ”“พี่ขอเวลาแก้สักหนึ่งคืนนะคะ พรุ่งนี้พี่หลินจะให้คนไปส่งที่เรือนไทยนะคะ”“ค่ะ ขอบคุณพี่หลินมากนะคะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ยินดีบริการสำหรับคุณไอรักเป็นพิเศษเลยค่ะ” เจ้าของร้านกับลูกค้าต่างยิ้มให้กัน และกำลังจะช่วยกันถอดชุดเจ้าสาวออก“หนูไอครับ หนูไอ”ไอรักชะเง้อฟังเสียงที่เรียกอย่างร้อนรนนั้น“เสียงคุณไทค่ะคุณไอรัก”ไอรักทำสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย แล้วรีบเดินออกมาจ
“อ้าว! วอนแล้วไหมล่ะ นั่นเมียเพื่อนนะโว้ย!” ธีร์ภาณุพูดพร้อมกับทำสีหน้าจริงจังเอาเรื่อง“เฮ้ย! ไอ้บ้า ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ฉันหมายถึงว่า น่าจะพาคุณไอรักมาให้ฉันคุ้นเคยหน่อย เผื่อเขาจะมีเพื่อนที่หน้าตาน่ารักเหมือนกัน ฉันจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาสักที นี่แม่ก็มาวุ่นวายจับคู่คนโน้น แนะนำคนนี้ให้ฉันอยู่ได้ ไม่รู้อะไรนักหนา”“สมน้ำหน้า ก็แกเล่นทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัย ลอยไปลอยมาอยู่ได้ เมื่อไหร่จะหาสะใภ้เป็นตัวเป็นตนให้แม่เขาได้วางใจสักทีล่ะ”“เฮ้ย! ของอย่างนี้มันบังคับใจกันได้ที่ไหน ก็ที่เจอมันเคมีไม่ตรงกันนี่หว่า คบประเดี๋ยวประด๋าวพอได้ แต่ให้เอามาเป็นแม่ของลูก ไม่ไหวว่ะ...ว่าแต่แกเหอะไอ้เสือ คิดยังไงวะ ถึงตัดสินใจลงเอยกับคุณไอรัก เห็นตอนแรกที่มาเล่าให้ฟังโวยวายนักหนาว่าโดนบังคับ บอกตรงๆเซอร์ไพรส์มาก” ปลัดเมฆายิงคำถามจบก็จ้องหน้าเพื่อนรอฟังคำตอบ“แกเคยเชื่อในรักแรกพบไหมวะ” คำตอบที่ได้รับทำให้ปลัดเมฆาสำลักกาแฟ จ้องมองหน้าเพื่อนอย่างขำๆ“ครั้งแรกที่ฉันเจอหนูไอ ฉันก็หลงใหลไปกับหน้าตาเหมือนกับผู้ชายทั่วไปที่เจอผู้หญิงสวยๆแหละ แต่พอได้ใกล้ชิดพูดคุยยิ่งทำให้ฉันรู้
“แนนเป็นไงบ้างตาไท ทางนั้นมีอะไรให้เราช่วยไหม” คุณกานดาถามถึงว่าที่ลูกสะใภ้คนโตอย่างเป็นห่วง“ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ งานไม่ล่มแน่นอนครับคุณกานดา” ไทธรณ์ยิ้มให้มารดา ก่อนจะถูกค้อนขวับวงใหญ่จากคุณกานดา“ไม่ต้องมาประชดประชันแม่เลยตาไท ดีนะที่แนนไม่เป็นไร เพราะเราคนเดียวเลยที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ต่อไปต้องดูแลแนนให้ดีๆเข้าใจไหม”“ครับแม่ ผมจะดูแลสะใภ้คนโตของแม่ให้ดีที่สุด ด้วยเกียรติของกระผมครับ” ไทธรณ์ล้อเลียนรับคำหนักแน่น“หนูไอคิดถึงพี่บ้างไหมครับ” ธีร์ภาณุยิงคำถามตรงๆเมื่ออยู่กันสองต่อสองภายในสวนหลังบ้าน หลังจากที่ทานอาหารว่างกับคุณกานดาตามคำชวนของผู้เป็นแม่แล้ว ไทธรณ์ก็ขอตัวกลับไปดูงานที่ท่าข้าว คุณกานดาเองก็ติดภารกิจเลือกเครื่องเพชรไว้ให้ว่าที่ลูกสะใภ้ใส่ในวันแต่งงานเมื่อถูกถามตรงๆไอรักเลือกที่จะยิ้มหวานแทนคำตอบ ทำเอาคนที่ตั้งคำถามโวยวายประท้วงไม่ยอม“ไม่เอาครับ อย่ายิ้มอย่างเดียวสิ พี่อยากได้ยินให้หายเหนื่อย พอให้พี่ได้ชื่นใจนะหนูไอ” ไอรักหัวเราะคิก จ้องมองนัยน์ตาของคนที่กำลังรอคำตอบ“คิดถึงสิคะป๋า” ธีร์ภา
“หนูไอขี้โกง” ไอรักขมวดคิ้วนิดหนึ่งไม่เข้าใจความหมาย ก่อนที่จะรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ร่างกายส่วนที่เพิ่งได้รับการเติมเต็มไปเมื่อสักครู่ก็ถูกรุกรานอีกครั้ง ธีร์ภาณุขยับกายเข้าออกอย่างเชื่องช้าในจังหวะแรก มือหนาบีบเคล้นอกอวบด้วยอารมณ์รัก ก่อนจะเร่งจังหวะสุดท้ายพร้อมกับใช้นิ้วมือบีบเคล้นจุดที่ไวต่อสัมผัสกลางกายสาว ไอรักบิดตัวไปมาครางเสียงหวานเมื่อไม่สามารถต้านทานความรู้สึกเสียวซ่านได้ ในที่สุดชายหนุ่มก็จับจูงหญิงสาวพาไปสัมผัสความรู้สึกสุขสมที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างพร้อมกัน วิมานแสงดาวที่ธีร์ภาณุพาไอรักมาแตะต้องครั้งนี้ ช่างเร่าร้อนและอิ่มเอม จนหญิงสาวต้องกรีดร้องเสียงดังยาวนาน ในขณะที่ชายหนุ่มก็คำรามเสียงทุ้มออกมาอย่างสุดกั้น ธีร์ภาณุซบลงบนตัวหญิงสาว เสียงหายใจถี่กระชั้นของทั้งสองดังประสานกัน“พี่ธีร์...หนูไอหนักค่ะ” เสียงประท้วงอ้อมแอ้มหลังจากพายุอารมณ์รักพัดผ่านไปสักครู่ ทำให้ธีร์ภาณุเลื่อนตัวลงมานอนข้างๆไอรัก ก่อนจะกอดเกี่ยวร่างบางไว้แนบอก แล้วจูบย้ำที่หน้าผากมนแรงๆ“เห็นไหมว่าพี่ไม่เคยบังคับใจใคร” ไอรักก้มหน้างุดกับอกกว้าง หญิงสาวรู้ตัวดีว่าตนเองเป็นฝ่ายเรียกร้องจากช