รู้ดีว่าถึงแม้อยากจะรับเพียงใดอันอันก็ไม่มีทางทำผิดต่ออินจิ๋นก็ในเมื่อสิ่งที่ได้มาจากอินจิ๋นมากจนไม่ควรรับจากคนอื่นอีก
“นายหญิง แต่ท่านขุนพล”อึกอักด้วยความลำบากใจ
“เขาให้เจ้าเท่าไหร่ จึงอาสามาพูดแทนท่านขุนพล ข้าไม่รับสินบนแต่นำคำพูดของข้าไปบอกเขา เผื่อว่าโอกาสหน้าอันอันจะได้ พึ่งพาท่านขุนพลบ้าง”ขันทีหนุ่มน้อยนามเสี่ยวจื้อก้มหน้ามองพื้น
“ขอรับนายหญิง”อ้อมแอ้ม
“อืมบอกเขาว่า ฝ่าบาทนิยมหญิงงามที่ชดช้อยยามเยื้องย่างเหมือนไม่ได้ก้าวเดิน สะโพกกลมกลึง แต่ไม่ต้องผายออกจนเกินงาม ถันต้องเต่งตึงดันอาภรณ์ขึ้นมาอวดโฉมและที่สำคัญที่สุด จะต้องอ่อนหวานเขินอายแต่จะต้องปรนิบัติฝ่าบาทด้วยความเต็มใจยิ่ง แค่นี้หวังว่าท่านขุนพลจะจัดการให้บุตรีของเขา เป็นอย่างคำพูดของข้าที่ฝากบอกไป สักวันข้าก็คงส่งนางเข้าปรนิบัติฝ่าบาท หากจัดการตามที่ข้าบอกไม่ได้ข้าเองก็จนปัญญา”
เสี่ยวจื้อถอนหายใจประสานมือ ก้าวเดินจากไปในทันที อันอันถอนหายใจ
หญิงที่ฝ่าบาทนิยม และต้องการในทุกคืนมีบุคลิกคล้ายกันแทบทุกคนแต่ที่สำคัญที่สุดจะต้องมีท่าทียั่วยวนที่ไม่ยั่วยวน อันอันอาศัยสายตาผู้หญิงด้วยกันจึงมองออกว่าใครที่พร้อมจะยั่วยวนฝ่าบาทด้วยความไม่ยั่วยวนของนางพูดง่ายๆ คือแสร้งเดียงสายามอยู่ต่อหน้าอินจิ๋นแต่ต้องไม่เจนจัดหรือเนียมอายจนเกินไปเมื่ออยู่บนแท่นนอน นั่นคือต้องเป็นธรรมชาติที่สุด
อันอันยิ้มให้กับตัวเอง อันอันเคยตกตะลึงกับมัดกล้ามที่อกกว้างของอินจิ๋นเคย ..ลอบกลืนน้ำลายกับริมฝีปากอิ่มที่ขยับขึ้นลงยามที่ยื่นหน้าเข้ามาพูดคุยกับอันอัน บุรุษผู้นี้มิใช่แค่เพียงสูงส่งแต่ทว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างที่แค่เพียงเข้าใกล้กลับรู้สึกว่าใจสั่นระรัว
แต่ดูอันอันสิ หาได้มีสิ่งที่อินจิ๋นนิยมไม่ มีเพียงความรู้ใจเท่านั้นที่อันอันมีให้อันอันรู้ใจอินจิ๋นดีกว่าใครในวังหลวงแห่งนี้ ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่เรื่องไหนอันอันก็จัดการได้หมดจด อินจิ๋นเคยเปรยๆ ยามที่เมามายว่าหากไม่มีอันอันอินจิ๋นคงไม่อาจจัดการทุกอย่างได้เพียงลำพัง
“นายหญิงเจ้าขา ฝ่าบาทให้ข้าน้อยมาบอกนายหญิงว่าพรุ่งนี้ราชทูตจากแคว้นฉีจะเดินทางมาถวายเครื่องบรรณาการ นายหญิงจะต้องเขาร่วมแสดงความยินดี และต้อนรับองค์หญิงใหญ่ของแคว้นฉีที่จะมาพร้อมกับขบวนทูต ครั้งนี้ฝ่าบาทให้นายหญิงจัดการเรื่องการต้อนรับ"
อันอันถอนหายใจ งานใหญ่อีกแล้ว
“เข้าใจแล้ว วันนี้ดึกแล้วข้าเหนื่อยเหลือเกินเจ้าไปนอนเสียข้าเองก็อยากจะพัก”
หันหลังเดินเข้าห้องไม่รอให้นางกำนัลย่อกาย ก็นางอายุไล่เลี่ยกับอันอัน ใครบ้างจะไม่เกรงกลัวอันอัน ในเมื่อฝ่าบาทถือหางนางเพียงนั้น
ปิดประตูเบาๆ ปลดอาภรณ์ให้ลงไปกองกับพื้นอาภรณ์ชุดขันทีรุ่มร่ามกับมวยผมที่ต้องเกล้ารวบจนตึงเปรี๊ยะเพื่อความเป็นระเบียบ ใบหน้าที่ขาวซีดไร้การแต่งแต้มดังเช่น หญิงทั่วไปในวังหลวง
วันนี้อากาศไม่เย็นอย่างเช่นทุกวัน อันอันแช่น้ำอุ่นจนพอใจ ก้าวขาขึ้นจากน้ำหมดเวลากับการแช่น้ำอุ่นเสียนาน ดึงผ้าผืนน้อยพันสิ่งสงวนไว้เสีย ประทุมถันที่ดันผ้าผืนน้อยบางเบาออกมายอดประทุมถันที่เต่งตึงสีชมพูระเรื่อ รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นที่ริมฝีปากอันอันรู้ได้ทันทีว่าตัวเองเข้าสู่วัยสาวสะพรั่ง แต่หากยังอยู่ในวังหลวงก็คงหา บุรุษมาชอบพอได้ยาก อาศัยรับใช้ใกล้ชิดอีกหลายปีกว่าจะได้ออกไปใช้ชีวิตนอกวังหลวง เมื่อนั้นร่างกายก็คงโรยรา ไร้คนหมายปอง ทรุดกายลงนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งผมยาวสลวยเปียกชื้นด้วยหยดน้ำเกาะพร่างพราว ใบหน้าซีดขาวแต่ได้รูปริมฝีปากสีชมพู อันอันหยิบสีชาดสีเข้มกว่าริมฝีปากเล็กน้อยที่วางทิ้งไว้เสียนานขึ้นมาขบเม้ม ริมฝีปากกลายเป็นสีชมพูเข้มกลีบดอกเหลียนฮวาในทันที เลือนนิ้วมือไปบนริมฝีปากอวบอิ่ม จับแปรงสางผมขึ้นมาสางผมยาวสลวยไม่ต้องเกล้ามัด ใบหน้างดงามในกระจกเงาริมฝีปากสีชมพูน่ามอง ผมยาวสลวยระอยู่บนไหล่ขาวเนียนและแผ่นหลังขาวผ่อง ลำคอระหง กับดวงตากลมโต
“เจ้าก็งดงามเหมือนกันอันอัน”
ยิ้มให้ตัวเองในกระจกก่อนจะลุกขึ้นตั้งใจสวมอาภรณ์ในชุดบางเบาจะได้หลับสบายผ่อนคลายให้สมกับที่เหนื่อยมาทั้งวัน
เสียงประตูเปิดออกทันทีอันอันยังอยู่ในสภาพที่ใช้ผ้าผืนน้อยปิดบังเพียงสิ่งสงวน
หะแรกคิดว่าเป็นนางกำนัลที่ตั้งใจเข้ามาเพื่อแจ้งข่าวของอินจิ๋นที่มักจะมีข่าวมาแจ้งบอกอันอันไม่ว่าเวลาไหน นางเข้ามาโดยวิสาสะคงเห็นว่าไฟในห้องยังสว่างอยู่
“ อืมป่านนี้เจ้ายังต้องส่งข่าวให้ข้าอีกหรือ”
หันหลังหยิบอาภรณ์ พูดไปยิ้มไป แต่ไม่ลืมใช้มือกุมรอยขมวดผ้าผืนน้อยที่อกอิ่มไว้แน่นหมิ่นเหม่ว่ามันจะหลุดเสียให้ได้ นางไม่ได้นอนอันอันก็ยังไม่ได้นอน คิดตำหนิอินจิ๋นที่มักจะมีคำบัญชายามดึกเสมอ คิดได้ตอนไหนก็บัญชาในตอนนั้น คนที่ต้องทำตามคืออันอัน
“.......”
ตาคมจ้องมองร่างอวบอิ่มด้านหลังตาไม่กะพริบรอยยิ้มพึงพอใจปรากฏขึ้นที่ริมฝีปาก
“ข้าไม่เคยเห็นเจ้าในแบบนี้”
อันอันหันมาอ้าปากค้าง อินจิ๋นเองก็อ้าปากค้างเช่นกันเมื่อเห็นว่าใบหน้างดงามของอันอันที่เขาเคยมองข้าม อีกทั้งริมฝีปากที่เคยเป็นเพียงสีชมพูซีดจางบัดนี้กลับเป็นสีชมพูเข้ม อินจิ๋นเผลอขบเม้มริมฝีปากอย่างลืมตัว เรือนผมยาวสลวยไม่ได้เกล้ามัด ยาวลงมาตัดกับผิวขาวเนียน สายตาคมจ้องมองต่ำลงมายังมือบางที่กุมขมวดผ้าที่อกอิ่ม ยอดประทุมถันดันผ้าผืนน้อยขึ้นมาอวดโฉมสล้างไม่ได้ตกย้อยด้วยอกอิ่มที่หากสัมผัสคงเต็มไม้เต็มมือเต็มปากเต็มคำ ผิวขาวสะอาดตาต่ำลงมาเป็นเรียวขางามที่โผล่พ้นผ้าผืนน้อยที่ปิดไว้เพียงสิ่งสงวน เนื้อเนียนของขาขาวโผล่ออกมาขาวจนอินจิ๋นต้องกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ ชุดขันทีรุ่มร่ามที่เคยคิดว่าขัดตา บัดนี้อินจิ๋นกับรู้สึกว่าผ้าผืนน้อยนั่นขัดตายิ่งกว่า หากมีกระบี่ในมือเขาคงฟันมันขาดยับไปแล้ว สะบัดพับผ้าอาภรณ์ในมือห่มคลุมร่างโป๊ให้อันอันเสียก่อนจะเบือนหน้าหนี อันอันใจหล่นลงไปที่ตาตุ่มคงอุจาดตาไม่อยากมองจึงทำเช่นนี้ อินจิ๋นเอามือไพล่หลังหันหลังให้อันอัน“ข้านำอาภรณ์ชุดใหม่มาให้เจ้า เดิมจะให้นางกำนัลนำมาแต่เห็นว่าเรียกหาพวกนางแล้วต่างเงียบงันคงหลับกันจนสิ้น …อีกอย่างข้านอนไม่หลับ”ยิ่งมาเห็นอันอันแบบนี้เ
เสี่ยวจื้อทำสีหน้างงงัน“อาภรณ์ชุดไหนกันฝ่าบาท”จึงถามเพื่อความกระจ่าง“ชุดฮั่นฝูสีขาวขลิบฟ้าตัวนั้น” อันอันถอนหายใจ“ฝ่าบาทอาภรณ์นั่น เป็นผ้าเนื้อดีจากทางเหนืออีกอย่างราคาค่อนข้างสูง”“ข้าบอกให้เผาก็เผา”อันอันไม่ได้รู้สึกอะไร หลายอย่างที่อินจิ๋นทำมักไร้เหตุผลเสมอ เสี่ยวจื้อหันประกระซิบกับนางกำนัลก่อนที่นางจะออกจากท้องพระโรงซึ่งไม่ต้องสงสัยว่าไปทำอะไรนางก็คงนำอาภรณ์งดงามยั่วยวนตัวนั้นไปเผาเสียตามบัญชาของคนไร้เหตุผลนามอินจิ๋น“ขบวนราชทูตแคว้นฉี เดินทางมาถึงแล้วววววว”เสียงขันทีพิธีการขานขึ้นดังๆ ขุนนางที่กำลังจับกลุ่มคุยกันกลับเงีบยเสียงหันหน้ามายังทางเดินทอดยาว มุ่งสู่ใจกลางท้องพระโรงที่ด้านบนสุดเป็นบัลลังก์มังกรสูงสง่า“อือหือ อ่าาาา”เสียงแซ่ซ้องเมื่อเห็นว่า ขบวนราชทูตที่เดินเข้ามามีหญิงงามราวเทพีสวรรค์ สวมใส่อาภรณ์สีแดงบ่งบอกถึงความนัยย์บางอย่าง ชุดฮั่นฝูที่สวมใส่ พลิ้วไหวงดงามรับกับใบหน้า ริมฝีปากแต้มด้วยชาดสีแดงเข้ม อวบอิ่มจนน่าจุมพิตยิ่ง อกอวบถูกดันออกมาล้ำหน้ากว่าสิ่งอื่นใด เอวคอดกิ่ว สะโพกกลมมนบั้นท้ายงอนงามจนสะดุดตา อินจิ๋นเหลือบตามององค์หญิงใหญ่แคว้นฉี อันอันยิ้ม แบบนี้ช่า
“เจ้า วันนี้ เข้าถวายตัว”อันอันชี้มือยังร่างบางทว่าหน้าอกหน้าใจบะเริ่มเทิ่มอีกทั้งสะโพกงอนงามเพียงแต่ใบหน้านางไม่ได้งดงามเท่าที่ควร แต่ว่าก็พอที่จะถูไถ ในเมื่อวันนี้อันอันยุ่งกับการมาของคณะราชทูตและเครื่องบรรณาการแม้อินจิ่นจะอนุญาตให้อันอันไปทำเรื่องที่ต้องทำ ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องพิธีการ“นายหญิง ขอบคุณเจ้าค่ะ”สาวน้อยน้ำตาปริ่มขอบตา การแข่งขันเรื่องการถวายตัวเข้มข้นยิ่งนัก บางคนถึงกับตบตีวางยา แต่สุดท้ายก็อยู่ที่อันอันเพียงคนเดียว ว่าวันนี้จะส่งใครเข้าไปในห้องบรรทมของอินจิ๋น“ต่อไปอาจเป็นข้าที่ต้องเรียกเจ้าว่านายหญิงหากฝ่าบาทพึงใจเจ้า ทำให้เต็มที่ตั้งใจปรนนิบัติฝ่าบาท แค่นี้ที่ข้าอยาจะบอกไว้ ความจริงข้าอยากจะส่งพวกเจ้าเข้าไปทุกคน แต่พวกเจ้าต้องเข้าใจ ฝ่าบาทหากวันไหนเหนื่อยล้าหรือราชกิจมากหน่อยก็ไม่รับนางใน วันไหนทรงมีอากาศร้อนก็ไม่รับนางใน วันไหนที่ เมามายมากหน่อยก็ไม่รับนางใน มีเพียงวันที่อากาศหนาวหรือวันที่ดื่มสุราเพียงแค่ปลุกกำหนัด และ…”จะบอกว่าหื่น …ก็กระดากปากวันไหนที่อินจิ๋นพบนางในคนไหนถูกใจเป็นพิเศษจะมากระซิบกับอันอันว่าคืนนี้ ส่งนางในคนนั้นเข้ามาให้เขา วันนั้นเป็นวันที่อันอัน
หันไปถามนางในที่ร้องไห้กระซิกๆ“ฝ่าบาทให้ข้าน้อยกินกล้วยจนอิ่มจนจุก กินกล้วยหมดไปทั้งหวียังไม่พอพระทัย”พูดไปสะอื้นไป“ช่างกล้าฟ้องนาง เจ้ามันไร้สามารถแค่เพียงข้าให้กินกล้วยหอมลูกใหญ่ราดน้ำผึ้งเจ้าก็ยังไม่อาจทำให้ข้าพึงใจได้ แล้วเรื่องอื่นเจ้าจะได้เรื่องหรือไหนเจ้าบอกข้าว่าจัดว่าเด็ด”หันไปทางอันอันที่ส่ายหน้าไปมาด้วยความระอาใจ“อันอันพานางกลับไปก่อน”“ไม่ เจ้าต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ในเมื่อเจ้าเป็นคนจัดหานางมา อีกทั้งยังเป็นคนที่เสี้ยมสอนพวกนางให้ข้าพึงใจ เจ้าจะไม่แสดงให้นางดูหน่อยหรือว่ากินกล้วยหอมอย่างไรให้ข้าพึงใจพวกนาง”อันอันถอนหายใจ“เจ้ากินแบบไหน”หันไปถาม นางในที่ยังสะอื้นแต่ไม่มีน้ำตาแล้ว“ฝ่าบาทให้กินกล้วยข้าน้อยก็กิน กัดกินทั้งลูกจนหมดแต่ฝ่าบาทก็บอกว่ายังไม่พึงใจท่าทางการกินกล้วยราดน้ำผึ้งของข้าน้อย ข้าน้อยจึงกินไปอีกหลายลูกเพื่อเอาใจฝ่าบาท ในที่สุดฝ่าบาทก็ทรงกริ้วเรียกหานายหญิง”อินจิ๋น ลอยหน้าลอยตาทำท่าทีว่าไม่พอใจอย่างที่สุดอันอันเหลือบตามองไหน้ำผึ้งกับกล้วยหอมอีกหวีหนึ่งที่วางไว้ตรงหน้าไปเอามาตอนไหน ห้องบรรทมมีของแบบนี้ด้วยหรือ เหมือนจัดเตรียมไว้เพื่อสิ่งใดกัน“เจ้าดูข้า
อันอันประสานมือ เหลือบตามองริมฝีปากชมพูด้วยสีชาดอย่างดี หน้าอกอิ่มของนางถูกรัดด้วยผ้าคาดอกเพียงครึ่งเดียว ส่งผลให้ เนินถันโผล่ขึ้นมาอวดโฉม น่าขย้ำขยี้ อันอันรู้สึกอิจฉานางยิ่งนักเมื่อก้มมอง สารรูปของตัวเองในชุดขันที สีเข้มกับใบหน้าซีดจาง“องค์หญิง”ชิงซีทรุดกายลง คุกเข่าตรงหน้าอันอันที่ตื่นตกใจอย่างที่สุดรีบพยุงชิงซีให้ลุกขึ้นยืน“องค์หญิง ข้าน้อยต่ำศักดิ์เช่นไรจึงได้เกรงใจเพียงนี้”“ข้ารู้ว่า ท่านหญิงรู้ใจฝ่าบาทกว่าผู้ใด จึงอยากจะขอร้อง”ทรุดกายลงอีกครั้ง“ได้โปรด ทำให้ข้าได้เป็นฮองเฮาของฝ่าบาทด้วยเถิดได้โปรด”อันอัน หลับตาลงช้าๆ“ได้โปรด แล้วท่านหญิงต้องการสิ่งใด ชิงซีคนนี้ยินดีมอบให้”อันอันยิ้มบางๆ“องค์หญิงลุกขึ้นก่อน หากยังคุกเข่าเช่นนี้ใครมาพบเข้าจะคิดว่าข้า ไม่รู้จักสูงต่ำ”“เอาไว้ข้าหาทางช่วยองค์หญิงอย่างสุดกำลัง”ชิงซี ลุกขึ้นมาเขย่าแขนอันอันด้วยความดีใจ“ขอบคุณท่านหญิงยิ่งแล้ว”อินจิ๋น ยืนเอามือไพล่หลังมองจากที่ไม่ไกลนักแม้จะไม่ได้ยินประโยคที่พูดคุยกันแต่ภาษากายที่เห็นเขาเดาออกในทันที“นายหญิง ฝ่าบาทเรียกหาท่าน”เสี่ยวจื้อประสานมือตรงหน้าอันอันชิงซียิ้ม“ท่านหญิง ท่านต้องช่วย
นางในคนเดิมส่ายหน้าไปมา“ฝ่าบาท มิใช่ล้มเลิกเรื่องนี้ไปแล้วหรือ”“ใครบอกเจ้า เจ้าเคยมานอนอยู่ใต้แท่นนอนข้าหรือ จึงรู้ว่าในแต่ละคนแต่ละคืนข้าต้องทำอย่างไร”อันอันถอนหายใจอีกครั้ง“ก็ในเมื่อฝ่าบาทล้มเลิกเรื่องที่ต้องเปลื้องผ้าห่อตัวนางใน แล้วทำไมถึงไม่เลิกล้มเรื่อง เรื่องเรื่องมุดเข้าไปในผ้าห่ม”“อันอันเจ้าเป็นนางหน้าพระพักตร์หรือเป็นไทเฮา”อันอันประสานมือ“อันอันเป็นนางหน้าพระพักตร์”“ดีรู้ก็ดีแล้ว”“เจ้ามุดเข้าไปในผ้าห่มของฝ่าบาท จากปลายพระบาทขึ้นไปด้านบน ก็เท่านั้น”อธิบายกับนางใน“อันนนนอันนน”ส่งเสียงยานคาง“ก็เพียงเรื่องง่ายดายเพียงนี้ ข้าแค่เพียงสาธยายกับนางก็คงไม่ยาก ฝ่าบาทให้นางลองดู”อินจิ๋น ถอนหายใจอันอันดึงมือนางในไปยืนตรงฝ่าพระบาทของอินจิ๋นกดหัวนางในให้ก้มลง ให้มุดจากปลายเท้าขึ้นไปแต่ทว่านางในกับขืนตัวไว้ด้วยความเอียงอาย“นายหญิง”ขืนตัวไว้อันอันถอนหายใจ หนักใจยิ่งนัก“ไม่เห็นจะยาก แค่เพียงมุดเข้าไปแบบนี้ตามธรรมเนียม”ก้มลงมุดหัวเลื้อยตัวขึ้นด้านบนใช้มือเล็กเลื่อนขึ้นสูงไปเรื่อยๆ สัมผัสอ่อนโยนยิ่งนัก อินจิ๋นอมยิ้มหลับตาพลิ้มเมื่ออันอันมุดตัวเข้ามาในผ้าห่ม ชาวาบไปทั้งตัว มีเ
ลานฝึกนางใน “นายหญิงอันอัน”อันอันยิ้ม เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับก็ในเมื่อเรื่องราวที่พูดกับ เสี่ยวจื้อรบกวนจิตใจ“”พวกเจ้ายังไม่รีบคารวะนายหญิง”เหล่านางในต่างย่อกาย“นายหญิง ฝ่าบาทให้ ส่งกล้วยหอมมาที่นี่”อันอันหันมองขันทีที่พากันยกกล้วยหอมหลายหวีมา“กล้วยหอม”มองไปอีกด้านหนึ่งมีไหน้ำผึ้งวางเรียงราย“ใช่แล้วนายหญิง ฝ่าบาทอยากจะให้นายหญิง ช่วยฝึกการกินกล้วยในแบบที่ฝ่าบาทโปรดปรานให้กับนางในฝึกหัดเหล่านี้”ขันทีต่างแจกจ่ายกล้วยคนละลูกให้กับเหล่านางใน อันอันปลิดกล้วย บรรจงแกะเปลือกออกช้าๆ จุ่มกล้วยลงไปในไหน้ำผึ้งร่างสูงของอินจิ๋นเดินก้าวเข้ามาอันอันเลียกล้วยในมือ พลันสายตาเหลือบไปเห็นอินจิ๋นที่ยืนยิ้มด้วยตาสื่อความหมาย อันอันปากล้วยในมือลงพื้นก่อนจะวิ่งออกจากตรงนั้นไปในภายใต้ความตกตะลึงของทุกคน ที่ยังไม่ทันจะได้ทำตามที่อันอันสอน อินจิ๋นถอนหายใจ“ฝ่าบาท ให้ตามนายหญิงหรือไม่”อินจิ๋นห้าม“นายหญิงของพวกเจ้านางคงเหนื่อยเกินไป”ตามอันอันออกไปทันทีศาลาริมน้ำ“ท่านหญิงอันอัน ท่านเป็นอะไร”ชิงซีมองหยาดน้ำตาที่ปริ่มขอบตาของอันอัน“ข้าเพียงแค่ถูกผงเข้าตาหา”ชิงซียิ้มบางๆ“ข้าผ่านมาทางนี้เลยคิดว่าค
"นายหญิงอันอันของเจ้า วันนี้ข้าไม่เห็นนาง"เสี่ยวจื้อก้มหน้า"นำบัญชาข้าบอกกับนางให้พาองค์หญิงใหญ่มาที่นี่เดี๋ยวนี้"เสี่ยวจื้อถอนหายใจ"นายหญิง"อันอันเงยหน้าขึ้นจากกองตำรา"ฝ่าบาทเรียกหานายหญิง"ข้ากำลังจะไป""ฝ่าบาทให้นายหญิงเชิญ...องค์หญิงใหญ่ที่ตำหนัก"อันอันยิ้มบางๆ"ข้าเข้าใจแล้ว ทูลฝ่าบาทว่ารอไม่นานข้าจะนำองค์หญิงใหญ่ไปพบฝ่าบาท"เสี่ยวจื้อยิ้มน้อยๆ"นายหญิง ดีเสียอีกวันนี้ไม่ต้องเหนื่อยไปเลือกนางในด้วยตัวเองฝ่าบาทเลือกที่จะอยู่กับองค์หญิง""ใจจริงเจ้าข้าน่าจะดีใจใช่ไหมจะได้มีเวลายามเย็นมาแช่น้ำอุ่นสบายใจ""อย่างนั้นเสี่ยวจื้อสั่งนางกำนัลให้เตรียมน้ำอุ่นให้ท่าน"อันอันพยักหน้า ยิ้มอ่อนโยน"ท่านหญิง ท่านหาโอกาสให้ข้าแล้วใช่ไหม"ท่าทีดีใจของชิงซีทำเอาอันอันเผลอยิ้ม"มิใช่ข้าหากแต่ฝ่าบาทอยากพบองค์หญิง ข้าน้อยนำนางกำนัลมาถึงนี่อาบน้ำขัดผิวให้องค์หญิงอีกทั้งยังต้องชโลมน้ำปรุงให้ผิวเนื้อหอมหวน"ชิงซียิ้มอายๆ"ทำเช่นข้ากำลังจะต้องถวายตัว"อันอันยิ้มอ่อนโยน"ฝ่าบาทชอบผิวกายหอมหวนอีกทั้งนิยม... มองหญิงที่เพิ่งอาบน้ำขึ้นมาใหม่ๆ ผมยังเปียกชื้นผิวเนื้อนุ่มเนียนด้วยน้ำปรุงยังติดอยู่ เรื่องถวาย