“ร้ายก็รักรักที่สุด ร้ายเพราะเจ้ารักข้า ทำเพื่อข้าจะไม่รักได้อย่างไรในเมื่อใจข้ามีเพียงเจ้าคนเดียว ถึงเจ้าไม่ทำแบบนี้ข้าก้จะรักเจ้าคนเดียวทำเพื่อเจ้าคนเดียวแต่เมื่อรู้ว่าเจ้าทำเพื่อข้่าเพียงนี้ จะไม่ให้รักได้อย่างไร”โน้มตัวลงกดริมฝีปากกับปากอวบอิ่มเนิ่นนาน อันอันยิ้มสุขสมจะไม่ว่าอย่างไรสำหรับอินจิ๋นก็คือฝ่าบาทของอันอันคนเดียวเช่นกัน ที่ทำไปก็เพื่อสิ่งนี้เพื่อให้ได้ครองใจฝ่าบาทเพียงผู้เดียว “เข้าไปข้างในกันหรือยังข้าอยากได้กลิ่นเซียงเฉ่าอีกครั้ง คราวนี้ ยันเย้นยันเช้าไปเลยดีไหม”อันอันยิ้มหวาน อินจิ๋นอุ้มร่างอวบพาเดินเข้าไปในห้องบรรทม เข้าประตูไปตั้งใจจะลงกลอน “อ๋อ เสี่ยวจื้อบอกอาจารย์ไม่ต้องมาคอยแอบดู แอบฟังข้าหรอกข้าใช้ผ้าหนาบุห้องอีกทั้งยังใช้แผ่นไม่สนบุห้องกันเสียงเล็ดลอด ตามที่อาจารย์สอนมาเรียบร้อยแล้ว”ตะโกนสั่งเสี่ยวจื้อที่ปิดปากหาวตาปรือ อันอันหัวเราะคิกคัก อินจิ๋นอุ้มร่างอวบเดินเข้าไที่แท่นนนอนกลิ่นกำยานที่เป็นกลิ่นเซียงเฉ่าหอมตลบอบอวลไปทมั่ว อันอันถอนหายใจสุดดมกลิ่นแห่งความสุขกลิ่นแห่งความทรงจำแห่งความสุข ต่อไปเมื่อได้กลิ่นนี้ครั้งใดก็จะมีแต่ความสุข อินจิ่น ปลดอาภรณ์ของอ
“อันอัน อันอันๆๆๆๆ เข้ามานี่เดี๋ยวนี้”ร่างเล็กในอาภรณ์ดั่งขันทีแต่มิได้สวมหมวกบนศีรษะเหมือนขันที วิ่งเข้ามาข้างในห้องบรรทมของอินจิ๋น ร่างบางของนางในคนหนึ่งกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น ดวงแววตาแดงซ้ำถูกผลักเข้าหาอันอัน ที่รับร่างนางไว้ล้มลุกคลุกคลานไปด้วยกัน“พานางออกไป”ตวาดลั่น“ฝ่าบาทเหตุใดกัน”อดที่จะถามไม่ได้ก็นางถูกต้องตามที่อินจิ๋นปรารถนาทุกประการ ฉุกใจเมื่อเห็นรอยน้ำตาหรือว่า ตายแล้วอันอันเจ้าพลาดแล้ว“ข้าไม่ชอบใจ ทำมาร้องไห้ ต่อหน้าดั่งเช่นข้าจะฆ่าจะแกงนางทั้งๆ ที่ข้าเป็นฮ่องเต้ จะหาความสำราญกับเรือนร่างของนาง แต่นางกลับมาร้องไห้ดุจกำลังไว้ทุกข์”อันอันถอนหายใจดึงมือนางในที่ยังอ่อนเยาว์ให้ลุกขึ้น ร้อยนางร้อยวัน ไม่เคยพลาดวันนี้อันอันกลับมองผิดไป“วันนี้เจ้าทำงานพลาดพรุ่งนี้จะต้องหานางในคนใหม่ที่ถูกใจมาปรนนิบัติข้า ปกติเป็นเจ้าที่รู้ใจข้าที่สุดอันอัน อย่าให้บกพร่องเช่นนี้อีก”น้ำเสียงตำหนิอย่างชัดเจนอันอันประสานมือในชุดขันทีรุ่มร่ามแม้จะมองขัดตาทว่ากลับกลายเป็นสิ่งที่คุ้นตาของอินจิ๋นไปเสียแล้วดึงมือนางในที่ร้องไห้ไม่หยุดออกมาข้างนอก“นี่เงินของเจ้าแล้วไปเสีย.. กลับไปใช้ชีวิตนอกวัง
รู้ดีว่าถึงแม้อยากจะรับเพียงใดอันอันก็ไม่มีทางทำผิดต่ออินจิ๋นก็ในเมื่อสิ่งที่ได้มาจากอินจิ๋นมากจนไม่ควรรับจากคนอื่นอีก“นายหญิง แต่ท่านขุนพล”อึกอักด้วยความลำบากใจ“เขาให้เจ้าเท่าไหร่ จึงอาสามาพูดแทนท่านขุนพล ข้าไม่รับสินบนแต่นำคำพูดของข้าไปบอกเขา เผื่อว่าโอกาสหน้าอันอันจะได้ พึ่งพาท่านขุนพลบ้าง”ขันทีหนุ่มน้อยนามเสี่ยวจื้อก้มหน้ามองพื้น“ขอรับนายหญิง”อ้อมแอ้ม“อืมบอกเขาว่า ฝ่าบาทนิยมหญิงงามที่ชดช้อยยามเยื้องย่างเหมือนไม่ได้ก้าวเดิน สะโพกกลมกลึง แต่ไม่ต้องผายออกจนเกินงาม ถันต้องเต่งตึงดันอาภรณ์ขึ้นมาอวดโฉมและที่สำคัญที่สุด จะต้องอ่อนหวานเขินอายแต่จะต้องปรนิบัติฝ่าบาทด้วยความเต็มใจยิ่ง แค่นี้หวังว่าท่านขุนพลจะจัดการให้บุตรีของเขา เป็นอย่างคำพูดของข้าที่ฝากบอกไป สักวันข้าก็คงส่งนางเข้าปรนิบัติฝ่าบาท หากจัดการตามที่ข้าบอกไม่ได้ข้าเองก็จนปัญญา”เสี่ยวจื้อถอนหายใจประสานมือ ก้าวเดินจากไปในทันที อันอันถอนหายใจหญิงที่ฝ่าบาทนิยม และต้องการในทุกคืนมีบุคลิกคล้ายกันแทบทุกคนแต่ที่สำคัญที่สุดจะต้องมีท่าทียั่วยวนที่ไม่ยั่วยวน อันอันอาศัยสายตาผู้หญิงด้วยกันจึงมองออกว่าใครที่พร้อมจะยั่วยวนฝ่าบาทด้วยควา
อันอันหันมาอ้าปากค้าง อินจิ๋นเองก็อ้าปากค้างเช่นกันเมื่อเห็นว่าใบหน้างดงามของอันอันที่เขาเคยมองข้าม อีกทั้งริมฝีปากที่เคยเป็นเพียงสีชมพูซีดจางบัดนี้กลับเป็นสีชมพูเข้ม อินจิ๋นเผลอขบเม้มริมฝีปากอย่างลืมตัว เรือนผมยาวสลวยไม่ได้เกล้ามัด ยาวลงมาตัดกับผิวขาวเนียน สายตาคมจ้องมองต่ำลงมายังมือบางที่กุมขมวดผ้าที่อกอิ่ม ยอดประทุมถันดันผ้าผืนน้อยขึ้นมาอวดโฉมสล้างไม่ได้ตกย้อยด้วยอกอิ่มที่หากสัมผัสคงเต็มไม้เต็มมือเต็มปากเต็มคำ ผิวขาวสะอาดตาต่ำลงมาเป็นเรียวขางามที่โผล่พ้นผ้าผืนน้อยที่ปิดไว้เพียงสิ่งสงวน เนื้อเนียนของขาขาวโผล่ออกมาขาวจนอินจิ๋นต้องกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ ชุดขันทีรุ่มร่ามที่เคยคิดว่าขัดตา บัดนี้อินจิ๋นกับรู้สึกว่าผ้าผืนน้อยนั่นขัดตายิ่งกว่า หากมีกระบี่ในมือเขาคงฟันมันขาดยับไปแล้ว สะบัดพับผ้าอาภรณ์ในมือห่มคลุมร่างโป๊ให้อันอันเสียก่อนจะเบือนหน้าหนี อันอันใจหล่นลงไปที่ตาตุ่มคงอุจาดตาไม่อยากมองจึงทำเช่นนี้ อินจิ๋นเอามือไพล่หลังหันหลังให้อันอัน“ข้านำอาภรณ์ชุดใหม่มาให้เจ้า เดิมจะให้นางกำนัลนำมาแต่เห็นว่าเรียกหาพวกนางแล้วต่างเงียบงันคงหลับกันจนสิ้น …อีกอย่างข้านอนไม่หลับ”ยิ่งมาเห็นอันอันแบบนี้เ
เสี่ยวจื้อทำสีหน้างงงัน“อาภรณ์ชุดไหนกันฝ่าบาท”จึงถามเพื่อความกระจ่าง“ชุดฮั่นฝูสีขาวขลิบฟ้าตัวนั้น” อันอันถอนหายใจ“ฝ่าบาทอาภรณ์นั่น เป็นผ้าเนื้อดีจากทางเหนืออีกอย่างราคาค่อนข้างสูง”“ข้าบอกให้เผาก็เผา”อันอันไม่ได้รู้สึกอะไร หลายอย่างที่อินจิ๋นทำมักไร้เหตุผลเสมอ เสี่ยวจื้อหันประกระซิบกับนางกำนัลก่อนที่นางจะออกจากท้องพระโรงซึ่งไม่ต้องสงสัยว่าไปทำอะไรนางก็คงนำอาภรณ์งดงามยั่วยวนตัวนั้นไปเผาเสียตามบัญชาของคนไร้เหตุผลนามอินจิ๋น“ขบวนราชทูตแคว้นฉี เดินทางมาถึงแล้วววววว”เสียงขันทีพิธีการขานขึ้นดังๆ ขุนนางที่กำลังจับกลุ่มคุยกันกลับเงีบยเสียงหันหน้ามายังทางเดินทอดยาว มุ่งสู่ใจกลางท้องพระโรงที่ด้านบนสุดเป็นบัลลังก์มังกรสูงสง่า“อือหือ อ่าาาา”เสียงแซ่ซ้องเมื่อเห็นว่า ขบวนราชทูตที่เดินเข้ามามีหญิงงามราวเทพีสวรรค์ สวมใส่อาภรณ์สีแดงบ่งบอกถึงความนัยย์บางอย่าง ชุดฮั่นฝูที่สวมใส่ พลิ้วไหวงดงามรับกับใบหน้า ริมฝีปากแต้มด้วยชาดสีแดงเข้ม อวบอิ่มจนน่าจุมพิตยิ่ง อกอวบถูกดันออกมาล้ำหน้ากว่าสิ่งอื่นใด เอวคอดกิ่ว สะโพกกลมมนบั้นท้ายงอนงามจนสะดุดตา อินจิ๋นเหลือบตามององค์หญิงใหญ่แคว้นฉี อันอันยิ้ม แบบนี้ช่า
“เจ้า วันนี้ เข้าถวายตัว”อันอันชี้มือยังร่างบางทว่าหน้าอกหน้าใจบะเริ่มเทิ่มอีกทั้งสะโพกงอนงามเพียงแต่ใบหน้านางไม่ได้งดงามเท่าที่ควร แต่ว่าก็พอที่จะถูไถ ในเมื่อวันนี้อันอันยุ่งกับการมาของคณะราชทูตและเครื่องบรรณาการแม้อินจิ่นจะอนุญาตให้อันอันไปทำเรื่องที่ต้องทำ ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องพิธีการ“นายหญิง ขอบคุณเจ้าค่ะ”สาวน้อยน้ำตาปริ่มขอบตา การแข่งขันเรื่องการถวายตัวเข้มข้นยิ่งนัก บางคนถึงกับตบตีวางยา แต่สุดท้ายก็อยู่ที่อันอันเพียงคนเดียว ว่าวันนี้จะส่งใครเข้าไปในห้องบรรทมของอินจิ๋น“ต่อไปอาจเป็นข้าที่ต้องเรียกเจ้าว่านายหญิงหากฝ่าบาทพึงใจเจ้า ทำให้เต็มที่ตั้งใจปรนนิบัติฝ่าบาท แค่นี้ที่ข้าอยาจะบอกไว้ ความจริงข้าอยากจะส่งพวกเจ้าเข้าไปทุกคน แต่พวกเจ้าต้องเข้าใจ ฝ่าบาทหากวันไหนเหนื่อยล้าหรือราชกิจมากหน่อยก็ไม่รับนางใน วันไหนทรงมีอากาศร้อนก็ไม่รับนางใน วันไหนที่ เมามายมากหน่อยก็ไม่รับนางใน มีเพียงวันที่อากาศหนาวหรือวันที่ดื่มสุราเพียงแค่ปลุกกำหนัด และ…”จะบอกว่าหื่น …ก็กระดากปากวันไหนที่อินจิ๋นพบนางในคนไหนถูกใจเป็นพิเศษจะมากระซิบกับอันอันว่าคืนนี้ ส่งนางในคนนั้นเข้ามาให้เขา วันนั้นเป็นวันที่อันอัน
หันไปถามนางในที่ร้องไห้กระซิกๆ“ฝ่าบาทให้ข้าน้อยกินกล้วยจนอิ่มจนจุก กินกล้วยหมดไปทั้งหวียังไม่พอพระทัย”พูดไปสะอื้นไป“ช่างกล้าฟ้องนาง เจ้ามันไร้สามารถแค่เพียงข้าให้กินกล้วยหอมลูกใหญ่ราดน้ำผึ้งเจ้าก็ยังไม่อาจทำให้ข้าพึงใจได้ แล้วเรื่องอื่นเจ้าจะได้เรื่องหรือไหนเจ้าบอกข้าว่าจัดว่าเด็ด”หันไปทางอันอันที่ส่ายหน้าไปมาด้วยความระอาใจ“อันอันพานางกลับไปก่อน”“ไม่ เจ้าต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ในเมื่อเจ้าเป็นคนจัดหานางมา อีกทั้งยังเป็นคนที่เสี้ยมสอนพวกนางให้ข้าพึงใจ เจ้าจะไม่แสดงให้นางดูหน่อยหรือว่ากินกล้วยหอมอย่างไรให้ข้าพึงใจพวกนาง”อันอันถอนหายใจ“เจ้ากินแบบไหน”หันไปถาม นางในที่ยังสะอื้นแต่ไม่มีน้ำตาแล้ว“ฝ่าบาทให้กินกล้วยข้าน้อยก็กิน กัดกินทั้งลูกจนหมดแต่ฝ่าบาทก็บอกว่ายังไม่พึงใจท่าทางการกินกล้วยราดน้ำผึ้งของข้าน้อย ข้าน้อยจึงกินไปอีกหลายลูกเพื่อเอาใจฝ่าบาท ในที่สุดฝ่าบาทก็ทรงกริ้วเรียกหานายหญิง”อินจิ๋น ลอยหน้าลอยตาทำท่าทีว่าไม่พอใจอย่างที่สุดอันอันเหลือบตามองไหน้ำผึ้งกับกล้วยหอมอีกหวีหนึ่งที่วางไว้ตรงหน้าไปเอามาตอนไหน ห้องบรรทมมีของแบบนี้ด้วยหรือ เหมือนจัดเตรียมไว้เพื่อสิ่งใดกัน“เจ้าดูข้า
อันอันประสานมือ เหลือบตามองริมฝีปากชมพูด้วยสีชาดอย่างดี หน้าอกอิ่มของนางถูกรัดด้วยผ้าคาดอกเพียงครึ่งเดียว ส่งผลให้ เนินถันโผล่ขึ้นมาอวดโฉม น่าขย้ำขยี้ อันอันรู้สึกอิจฉานางยิ่งนักเมื่อก้มมอง สารรูปของตัวเองในชุดขันที สีเข้มกับใบหน้าซีดจาง“องค์หญิง”ชิงซีทรุดกายลง คุกเข่าตรงหน้าอันอันที่ตื่นตกใจอย่างที่สุดรีบพยุงชิงซีให้ลุกขึ้นยืน“องค์หญิง ข้าน้อยต่ำศักดิ์เช่นไรจึงได้เกรงใจเพียงนี้”“ข้ารู้ว่า ท่านหญิงรู้ใจฝ่าบาทกว่าผู้ใด จึงอยากจะขอร้อง”ทรุดกายลงอีกครั้ง“ได้โปรด ทำให้ข้าได้เป็นฮองเฮาของฝ่าบาทด้วยเถิดได้โปรด”อันอัน หลับตาลงช้าๆ“ได้โปรด แล้วท่านหญิงต้องการสิ่งใด ชิงซีคนนี้ยินดีมอบให้”อันอันยิ้มบางๆ“องค์หญิงลุกขึ้นก่อน หากยังคุกเข่าเช่นนี้ใครมาพบเข้าจะคิดว่าข้า ไม่รู้จักสูงต่ำ”“เอาไว้ข้าหาทางช่วยองค์หญิงอย่างสุดกำลัง”ชิงซี ลุกขึ้นมาเขย่าแขนอันอันด้วยความดีใจ“ขอบคุณท่านหญิงยิ่งแล้ว”อินจิ๋น ยืนเอามือไพล่หลังมองจากที่ไม่ไกลนักแม้จะไม่ได้ยินประโยคที่พูดคุยกันแต่ภาษากายที่เห็นเขาเดาออกในทันที“นายหญิง ฝ่าบาทเรียกหาท่าน”เสี่ยวจื้อประสานมือตรงหน้าอันอันชิงซียิ้ม“ท่านหญิง ท่านต้องช่วย