หันไปถามนางในที่ร้องไห้กระซิกๆ“ฝ่าบาทให้ข้าน้อยกินกล้วยจนอิ่มจนจุก กินกล้วยหมดไปทั้งหวียังไม่พอพระทัย”พูดไปสะอื้นไป“ช่างกล้าฟ้องนาง เจ้ามันไร้สามารถแค่เพียงข้าให้กินกล้วยหอมลูกใหญ่ราดน้ำผึ้งเจ้าก็ยังไม่อาจทำให้ข้าพึงใจได้ แล้วเรื่องอื่นเจ้าจะได้เรื่องหรือไหนเจ้าบอกข้าว่าจัดว่าเด็ด”หันไปทางอันอันที่ส่ายหน้าไปมาด้วยความระอาใจ“อันอันพานางกลับไปก่อน”“ไม่ เจ้าต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ในเมื่อเจ้าเป็นคนจัดหานางมา อีกทั้งยังเป็นคนที่เสี้ยมสอนพวกนางให้ข้าพึงใจ เจ้าจะไม่แสดงให้นางดูหน่อยหรือว่ากินกล้วยหอมอย่างไรให้ข้าพึงใจพวกนาง”อันอันถอนหายใจ“เจ้ากินแบบไหน”หันไปถาม นางในที่ยังสะอื้นแต่ไม่มีน้ำตาแล้ว“ฝ่าบาทให้กินกล้วยข้าน้อยก็กิน กัดกินทั้งลูกจนหมดแต่ฝ่าบาทก็บอกว่ายังไม่พึงใจท่าทางการกินกล้วยราดน้ำผึ้งของข้าน้อย ข้าน้อยจึงกินไปอีกหลายลูกเพื่อเอาใจฝ่าบาท ในที่สุดฝ่าบาทก็ทรงกริ้วเรียกหานายหญิง”อินจิ๋น ลอยหน้าลอยตาทำท่าทีว่าไม่พอใจอย่างที่สุดอันอันเหลือบตามองไหน้ำผึ้งกับกล้วยหอมอีกหวีหนึ่งที่วางไว้ตรงหน้าไปเอามาตอนไหน ห้องบรรทมมีของแบบนี้ด้วยหรือ เหมือนจัดเตรียมไว้เพื่อสิ่งใดกัน“เจ้าดูข้า
อันอันประสานมือ เหลือบตามองริมฝีปากชมพูด้วยสีชาดอย่างดี หน้าอกอิ่มของนางถูกรัดด้วยผ้าคาดอกเพียงครึ่งเดียว ส่งผลให้ เนินถันโผล่ขึ้นมาอวดโฉม น่าขย้ำขยี้ อันอันรู้สึกอิจฉานางยิ่งนักเมื่อก้มมอง สารรูปของตัวเองในชุดขันที สีเข้มกับใบหน้าซีดจาง“องค์หญิง”ชิงซีทรุดกายลง คุกเข่าตรงหน้าอันอันที่ตื่นตกใจอย่างที่สุดรีบพยุงชิงซีให้ลุกขึ้นยืน“องค์หญิง ข้าน้อยต่ำศักดิ์เช่นไรจึงได้เกรงใจเพียงนี้”“ข้ารู้ว่า ท่านหญิงรู้ใจฝ่าบาทกว่าผู้ใด จึงอยากจะขอร้อง”ทรุดกายลงอีกครั้ง“ได้โปรด ทำให้ข้าได้เป็นฮองเฮาของฝ่าบาทด้วยเถิดได้โปรด”อันอัน หลับตาลงช้าๆ“ได้โปรด แล้วท่านหญิงต้องการสิ่งใด ชิงซีคนนี้ยินดีมอบให้”อันอันยิ้มบางๆ“องค์หญิงลุกขึ้นก่อน หากยังคุกเข่าเช่นนี้ใครมาพบเข้าจะคิดว่าข้า ไม่รู้จักสูงต่ำ”“เอาไว้ข้าหาทางช่วยองค์หญิงอย่างสุดกำลัง”ชิงซี ลุกขึ้นมาเขย่าแขนอันอันด้วยความดีใจ“ขอบคุณท่านหญิงยิ่งแล้ว”อินจิ๋น ยืนเอามือไพล่หลังมองจากที่ไม่ไกลนักแม้จะไม่ได้ยินประโยคที่พูดคุยกันแต่ภาษากายที่เห็นเขาเดาออกในทันที“นายหญิง ฝ่าบาทเรียกหาท่าน”เสี่ยวจื้อประสานมือตรงหน้าอันอันชิงซียิ้ม“ท่านหญิง ท่านต้องช่วย
นางในคนเดิมส่ายหน้าไปมา“ฝ่าบาท มิใช่ล้มเลิกเรื่องนี้ไปแล้วหรือ”“ใครบอกเจ้า เจ้าเคยมานอนอยู่ใต้แท่นนอนข้าหรือ จึงรู้ว่าในแต่ละคนแต่ละคืนข้าต้องทำอย่างไร”อันอันถอนหายใจอีกครั้ง“ก็ในเมื่อฝ่าบาทล้มเลิกเรื่องที่ต้องเปลื้องผ้าห่อตัวนางใน แล้วทำไมถึงไม่เลิกล้มเรื่อง เรื่องเรื่องมุดเข้าไปในผ้าห่ม”“อันอันเจ้าเป็นนางหน้าพระพักตร์หรือเป็นไทเฮา”อันอันประสานมือ“อันอันเป็นนางหน้าพระพักตร์”“ดีรู้ก็ดีแล้ว”“เจ้ามุดเข้าไปในผ้าห่มของฝ่าบาท จากปลายพระบาทขึ้นไปด้านบน ก็เท่านั้น”อธิบายกับนางใน“อันนนนอันนน”ส่งเสียงยานคาง“ก็เพียงเรื่องง่ายดายเพียงนี้ ข้าแค่เพียงสาธยายกับนางก็คงไม่ยาก ฝ่าบาทให้นางลองดู”อินจิ๋น ถอนหายใจอันอันดึงมือนางในไปยืนตรงฝ่าพระบาทของอินจิ๋นกดหัวนางในให้ก้มลง ให้มุดจากปลายเท้าขึ้นไปแต่ทว่านางในกับขืนตัวไว้ด้วยความเอียงอาย“นายหญิง”ขืนตัวไว้อันอันถอนหายใจ หนักใจยิ่งนัก“ไม่เห็นจะยาก แค่เพียงมุดเข้าไปแบบนี้ตามธรรมเนียม”ก้มลงมุดหัวเลื้อยตัวขึ้นด้านบนใช้มือเล็กเลื่อนขึ้นสูงไปเรื่อยๆ สัมผัสอ่อนโยนยิ่งนัก อินจิ๋นอมยิ้มหลับตาพลิ้มเมื่ออันอันมุดตัวเข้ามาในผ้าห่ม ชาวาบไปทั้งตัว มีเ
ลานฝึกนางใน “นายหญิงอันอัน”อันอันยิ้ม เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับก็ในเมื่อเรื่องราวที่พูดกับ เสี่ยวจื้อรบกวนจิตใจ“”พวกเจ้ายังไม่รีบคารวะนายหญิง”เหล่านางในต่างย่อกาย“นายหญิง ฝ่าบาทให้ ส่งกล้วยหอมมาที่นี่”อันอันหันมองขันทีที่พากันยกกล้วยหอมหลายหวีมา“กล้วยหอม”มองไปอีกด้านหนึ่งมีไหน้ำผึ้งวางเรียงราย“ใช่แล้วนายหญิง ฝ่าบาทอยากจะให้นายหญิง ช่วยฝึกการกินกล้วยในแบบที่ฝ่าบาทโปรดปรานให้กับนางในฝึกหัดเหล่านี้”ขันทีต่างแจกจ่ายกล้วยคนละลูกให้กับเหล่านางใน อันอันปลิดกล้วย บรรจงแกะเปลือกออกช้าๆ จุ่มกล้วยลงไปในไหน้ำผึ้งร่างสูงของอินจิ๋นเดินก้าวเข้ามาอันอันเลียกล้วยในมือ พลันสายตาเหลือบไปเห็นอินจิ๋นที่ยืนยิ้มด้วยตาสื่อความหมาย อันอันปากล้วยในมือลงพื้นก่อนจะวิ่งออกจากตรงนั้นไปในภายใต้ความตกตะลึงของทุกคน ที่ยังไม่ทันจะได้ทำตามที่อันอันสอน อินจิ๋นถอนหายใจ“ฝ่าบาท ให้ตามนายหญิงหรือไม่”อินจิ๋นห้าม“นายหญิงของพวกเจ้านางคงเหนื่อยเกินไป”ตามอันอันออกไปทันทีศาลาริมน้ำ“ท่านหญิงอันอัน ท่านเป็นอะไร”ชิงซีมองหยาดน้ำตาที่ปริ่มขอบตาของอันอัน“ข้าเพียงแค่ถูกผงเข้าตาหา”ชิงซียิ้มบางๆ“ข้าผ่านมาทางนี้เลยคิดว่าค
"นายหญิงอันอันของเจ้า วันนี้ข้าไม่เห็นนาง"เสี่ยวจื้อก้มหน้า"นำบัญชาข้าบอกกับนางให้พาองค์หญิงใหญ่มาที่นี่เดี๋ยวนี้"เสี่ยวจื้อถอนหายใจ"นายหญิง"อันอันเงยหน้าขึ้นจากกองตำรา"ฝ่าบาทเรียกหานายหญิง"ข้ากำลังจะไป""ฝ่าบาทให้นายหญิงเชิญ...องค์หญิงใหญ่ที่ตำหนัก"อันอันยิ้มบางๆ"ข้าเข้าใจแล้ว ทูลฝ่าบาทว่ารอไม่นานข้าจะนำองค์หญิงใหญ่ไปพบฝ่าบาท"เสี่ยวจื้อยิ้มน้อยๆ"นายหญิง ดีเสียอีกวันนี้ไม่ต้องเหนื่อยไปเลือกนางในด้วยตัวเองฝ่าบาทเลือกที่จะอยู่กับองค์หญิง""ใจจริงเจ้าข้าน่าจะดีใจใช่ไหมจะได้มีเวลายามเย็นมาแช่น้ำอุ่นสบายใจ""อย่างนั้นเสี่ยวจื้อสั่งนางกำนัลให้เตรียมน้ำอุ่นให้ท่าน"อันอันพยักหน้า ยิ้มอ่อนโยน"ท่านหญิง ท่านหาโอกาสให้ข้าแล้วใช่ไหม"ท่าทีดีใจของชิงซีทำเอาอันอันเผลอยิ้ม"มิใช่ข้าหากแต่ฝ่าบาทอยากพบองค์หญิง ข้าน้อยนำนางกำนัลมาถึงนี่อาบน้ำขัดผิวให้องค์หญิงอีกทั้งยังต้องชโลมน้ำปรุงให้ผิวเนื้อหอมหวน"ชิงซียิ้มอายๆ"ทำเช่นข้ากำลังจะต้องถวายตัว"อันอันยิ้มอ่อนโยน"ฝ่าบาทชอบผิวกายหอมหวนอีกทั้งนิยม... มองหญิงที่เพิ่งอาบน้ำขึ้นมาใหม่ๆ ผมยังเปียกชื้นผิวเนื้อนุ่มเนียนด้วยน้ำปรุงยังติดอยู่ เรื่องถวาย
เพียงครู่เดียวรู้สึกปวดศีรษะอย่างมากหรือจะเป็นเพราะกลิ่นดอกไม้หอม และอาการมึนเมาเมื่อผสมกันเข้าจึง ยิ่งทำให้ปวดศรีษะได้เพียงนี้เอนศีรษะลงบนขอบอ่างไม้หลับตานิ่งเผลอหลับไปอันอันสะดุ้งตื่นลืมตาอาการปวดศีรษะยังคงอยู่ลุกขึ้นยืนตั้งใจจะเดินไปสวมอาภรณ์แล้วนอนเสีย ด้านหลังผ้าม่านร่างสูงของอินจิ๋นโผล่เข้ามาพอดีรวบร่างเปลือยไว้ในอ้อมแขน“ฝะฝ่าบาท”อินจิ๋นกระตุกผ้าม่านห่อร่างเปลือยของอันอันอุ้ม พาเดินกลับไปที่แท่นนอน“อย่าส่งเสียง”วางร่างอวบอิ่มลงบนแท่นนอน“ฝ่าบาทตั้งใจทำอะไร”อันอันละล่ำละลัก“ข้า แค่เพียงอยากจะมาอาศัยแท่นนอนของเจ้าก็เท่านั้น”“ฝ่าบาท แล้วองค์หญิงใหญ่เล่าฝ่าบาททำแบบนี้อันอันจะถูกผู้คนครหาว่าเป็นนางหน้าแท่นนอน”ริมฝีปากถูกกดปิดอย่างจัง อันอันเลิกคิ้วสูง เผยอริมฝีปากอย่างลืมตัวกลายเป็นรับรสจูบหอมหวาน“ขะขะข้า ยกแท่นบรรทมให้กับชิงซีไปแล้วนางเมามายจนไร้สติ ซึ่งข้าไม่นิยม ร่วมรักกับหญิงที่เมา”“อันอันก็เมา”รีบพูดเพราะกลัวว่าอินจิ๋นจะอาศัย โอกาสนี้“องค์หญิงใหญ่เมาอาเจียนรดแท่นบรรทมของข้า ข้าเรียกหาเจ้าหรือแม้แต่นางกำนัลหรือเสี่ยวจื้อทุกคนล้วนหนีหายไปหมด ข้าจึงจำต้องมาตามเจ้าแต่…
กลิ่นสุราคละคลุ้ง เมาแต่ไม่ยอมนอน ร่างเปลือยท่อนบนอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามใบหน้าหล่อเหลา ผมยาวสลวยเต็มแผ่นหลัง กับกางเกงบางเบามองเห็นไปถึงไหนถึงไหนพวงองุ่นที่ห้อยย้อยเลือนรางภายใต้เปลวไฟสลัว อันอันกลืนน้ำลายลงคอยากเย็นอินจิ๋นทิ้งตัวลงนอนหงายบนแท่นบรรทม อันอันขึ้นไปนั่งคุกเข่าบนแท่นบรรทมเอื้อมมือบีบนวดเบาๆ“แรงหน่อย”อันอันออกแรงอีกนิด“ขึ้นมาข้างบนหน่อย อืม นั่นแหละนั่นแหละขึ้นมาข้างบนอีก”ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงขาอ่อน“อืม กำลังดี เสี่ยวจื้อเจ้านี่มือเบาเป็นบ้า”อันอันไม่กล้าเอ่ยปาก ยังคงเงียบแต่อินจิ๋นขมวดคิ้ว สูดดมกลิ่นหอมที่ลอยมาปะทะจมูกก่อนจะผุดลุกขึ้น โถมร่างใหญ่เข้าใสอันอัน กดลงบนแท่นนอน อกนุ่มปะทะกับอกเปลือยเปล่า เลิกคิ้วสูงเบิกตากว้าง“เจ้าเข้ามาทำไม”อยู่ๆ ก็ลืมว่าอันอันคืออันอันคือนางหน้าพระพักตร์ หรือเพราะความเมา“อ๋อเข้าใจแล้วคงเป็นนางในที่เข้ามาถวายตัว”มือไวกว่าความคิดปลดแกะกระดุมที่อกเสื้อ อันอันคว้ามืออินจิ๋นไว้“ฝ่าบาท อย่า”ตกใจแทบสิ้นสติ“หือ อย่าช้าหรือไร”เสียงแหบแห้งหายไปในลำคอเมื่อพบหญิงถูกใจ กดจมูกลงบนอกนุ่ม ทั้งๆ ที่ยังมีอาภรณ์ห่อหุ้มอยู่“นุ่มจริง ไหนขอดู
อันอันลืมตาตื่นจากที่นอน ข้างกายว่างเปล่าทั้งๆ ที่เมื่อคืนรู้สึกถึงอ้อมกอดอบอุ่นทั้งคืนอ้อมกอดที่ไม่ยอมห่าง ถอนหายใจคงกลัวว่าใครจะมาพบเข้าแล้วนำไปครหา ก็อันอันแค่เพียงนางหน้าพระพักตร์จะมานอนร่วมแท่นนอนให้คน ครหาทำไมกันยิ้มหยันให้กับตัวเอง อินจิ๋นจะรู้สึกอะไรแค่เพียงหาที่หลับนอนหลบกลิ่นอาเจียนขององค์หญิงใหญ่ก็เท่านั้น“ใต้เท้าจิ้งอันอัน”ร่างสูงของขุนพลจงเจี้ยนประสานมือตรงหน้า อันอันเงยหน้าจากตำราในมือ ข้างกายมีสาวน้อยหน้าแฉล้มท่าทีแช่มช้อยดวงตาซุกซน“ข้าน้อยคุณพลจงเจี้ยนและนี่บุตรีข้าน้อยฟางหลัน”ลอบมองใบหน้าของอันอันอย่างจงใจ สายตาพึงใจอย่างที่สุด"ฟางหลันคารวะนายหญิง"ยิ้มทั้งมใบหน้าและดวงตา"ท่านขุนพลมาถึงนี้เกรงใจยิ่งแล้ว""เราพ่อลูกตั้งใจมาคารวะใต้เท้าจิ้ง"อันอันเผลอยิ้มจงเจี้ยนกลับเขินอายรอยยิ้มของอันอันเหมือนดังว่าอันๆ ตั้งใจยิ้มให้เขาเปล่าเลยอันอันแค่เพียงเผลอยิ้ม"ไม่ต้องเกรงใจเพียงนี้หากข้าต้องแบกรับความเกรงใจของพวกท่านเสียทั้งหมดเมื่อใครจะส่งบุตรีเข้าคัดตัวนางใน ป่านนี้อันอันคงต้องตอนรับผู้คนที่มาคารวะไม่เว้นแต่ละวัน""สำคัญยิ่งแล้วบุตรีข้าดวงไม่ดีเข้ามาพร้อมกับเครื่องบรร