"นายหญิงอันอันของเจ้า วันนี้ข้าไม่เห็นนาง"เสี่ยวจื้อก้มหน้า"นำบัญชาข้าบอกกับนางให้พาองค์หญิงใหญ่มาที่นี่เดี๋ยวนี้"เสี่ยวจื้อถอนหายใจ"นายหญิง"อันอันเงยหน้าขึ้นจากกองตำรา"ฝ่าบาทเรียกหานายหญิง"ข้ากำลังจะไป""ฝ่าบาทให้นายหญิงเชิญ...องค์หญิงใหญ่ที่ตำหนัก"อันอันยิ้มบางๆ"ข้าเข้าใจแล้ว ทูลฝ่าบาทว่ารอไม่นานข้าจะนำองค์หญิงใหญ่ไปพบฝ่าบาท"เสี่ยวจื้อยิ้มน้อยๆ"นายหญิง ดีเสียอีกวันนี้ไม่ต้องเหนื่อยไปเลือกนางในด้วยตัวเองฝ่าบาทเลือกที่จะอยู่กับองค์หญิง""ใจจริงเจ้าข้าน่าจะดีใจใช่ไหมจะได้มีเวลายามเย็นมาแช่น้ำอุ่นสบายใจ""อย่างนั้นเสี่ยวจื้อสั่งนางกำนัลให้เตรียมน้ำอุ่นให้ท่าน"อันอันพยักหน้า ยิ้มอ่อนโยน"ท่านหญิง ท่านหาโอกาสให้ข้าแล้วใช่ไหม"ท่าทีดีใจของชิงซีทำเอาอันอันเผลอยิ้ม"มิใช่ข้าหากแต่ฝ่าบาทอยากพบองค์หญิง ข้าน้อยนำนางกำนัลมาถึงนี่อาบน้ำขัดผิวให้องค์หญิงอีกทั้งยังต้องชโลมน้ำปรุงให้ผิวเนื้อหอมหวน"ชิงซียิ้มอายๆ"ทำเช่นข้ากำลังจะต้องถวายตัว"อันอันยิ้มอ่อนโยน"ฝ่าบาทชอบผิวกายหอมหวนอีกทั้งนิยม... มองหญิงที่เพิ่งอาบน้ำขึ้นมาใหม่ๆ ผมยังเปียกชื้นผิวเนื้อนุ่มเนียนด้วยน้ำปรุงยังติดอยู่ เรื่องถวาย
เพียงครู่เดียวรู้สึกปวดศีรษะอย่างมากหรือจะเป็นเพราะกลิ่นดอกไม้หอม และอาการมึนเมาเมื่อผสมกันเข้าจึง ยิ่งทำให้ปวดศรีษะได้เพียงนี้เอนศีรษะลงบนขอบอ่างไม้หลับตานิ่งเผลอหลับไปอันอันสะดุ้งตื่นลืมตาอาการปวดศีรษะยังคงอยู่ลุกขึ้นยืนตั้งใจจะเดินไปสวมอาภรณ์แล้วนอนเสีย ด้านหลังผ้าม่านร่างสูงของอินจิ๋นโผล่เข้ามาพอดีรวบร่างเปลือยไว้ในอ้อมแขน“ฝะฝ่าบาท”อินจิ๋นกระตุกผ้าม่านห่อร่างเปลือยของอันอันอุ้ม พาเดินกลับไปที่แท่นนอน“อย่าส่งเสียง”วางร่างอวบอิ่มลงบนแท่นนอน“ฝ่าบาทตั้งใจทำอะไร”อันอันละล่ำละลัก“ข้า แค่เพียงอยากจะมาอาศัยแท่นนอนของเจ้าก็เท่านั้น”“ฝ่าบาท แล้วองค์หญิงใหญ่เล่าฝ่าบาททำแบบนี้อันอันจะถูกผู้คนครหาว่าเป็นนางหน้าแท่นนอน”ริมฝีปากถูกกดปิดอย่างจัง อันอันเลิกคิ้วสูง เผยอริมฝีปากอย่างลืมตัวกลายเป็นรับรสจูบหอมหวาน“ขะขะข้า ยกแท่นบรรทมให้กับชิงซีไปแล้วนางเมามายจนไร้สติ ซึ่งข้าไม่นิยม ร่วมรักกับหญิงที่เมา”“อันอันก็เมา”รีบพูดเพราะกลัวว่าอินจิ๋นจะอาศัย โอกาสนี้“องค์หญิงใหญ่เมาอาเจียนรดแท่นบรรทมของข้า ข้าเรียกหาเจ้าหรือแม้แต่นางกำนัลหรือเสี่ยวจื้อทุกคนล้วนหนีหายไปหมด ข้าจึงจำต้องมาตามเจ้าแต่…
กลิ่นสุราคละคลุ้ง เมาแต่ไม่ยอมนอน ร่างเปลือยท่อนบนอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามใบหน้าหล่อเหลา ผมยาวสลวยเต็มแผ่นหลัง กับกางเกงบางเบามองเห็นไปถึงไหนถึงไหนพวงองุ่นที่ห้อยย้อยเลือนรางภายใต้เปลวไฟสลัว อันอันกลืนน้ำลายลงคอยากเย็นอินจิ๋นทิ้งตัวลงนอนหงายบนแท่นบรรทม อันอันขึ้นไปนั่งคุกเข่าบนแท่นบรรทมเอื้อมมือบีบนวดเบาๆ“แรงหน่อย”อันอันออกแรงอีกนิด“ขึ้นมาข้างบนหน่อย อืม นั่นแหละนั่นแหละขึ้นมาข้างบนอีก”ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงขาอ่อน“อืม กำลังดี เสี่ยวจื้อเจ้านี่มือเบาเป็นบ้า”อันอันไม่กล้าเอ่ยปาก ยังคงเงียบแต่อินจิ๋นขมวดคิ้ว สูดดมกลิ่นหอมที่ลอยมาปะทะจมูกก่อนจะผุดลุกขึ้น โถมร่างใหญ่เข้าใสอันอัน กดลงบนแท่นนอน อกนุ่มปะทะกับอกเปลือยเปล่า เลิกคิ้วสูงเบิกตากว้าง“เจ้าเข้ามาทำไม”อยู่ๆ ก็ลืมว่าอันอันคืออันอันคือนางหน้าพระพักตร์ หรือเพราะความเมา“อ๋อเข้าใจแล้วคงเป็นนางในที่เข้ามาถวายตัว”มือไวกว่าความคิดปลดแกะกระดุมที่อกเสื้อ อันอันคว้ามืออินจิ๋นไว้“ฝ่าบาท อย่า”ตกใจแทบสิ้นสติ“หือ อย่าช้าหรือไร”เสียงแหบแห้งหายไปในลำคอเมื่อพบหญิงถูกใจ กดจมูกลงบนอกนุ่ม ทั้งๆ ที่ยังมีอาภรณ์ห่อหุ้มอยู่“นุ่มจริง ไหนขอดู
อันอันลืมตาตื่นจากที่นอน ข้างกายว่างเปล่าทั้งๆ ที่เมื่อคืนรู้สึกถึงอ้อมกอดอบอุ่นทั้งคืนอ้อมกอดที่ไม่ยอมห่าง ถอนหายใจคงกลัวว่าใครจะมาพบเข้าแล้วนำไปครหา ก็อันอันแค่เพียงนางหน้าพระพักตร์จะมานอนร่วมแท่นนอนให้คน ครหาทำไมกันยิ้มหยันให้กับตัวเอง อินจิ๋นจะรู้สึกอะไรแค่เพียงหาที่หลับนอนหลบกลิ่นอาเจียนขององค์หญิงใหญ่ก็เท่านั้น“ใต้เท้าจิ้งอันอัน”ร่างสูงของขุนพลจงเจี้ยนประสานมือตรงหน้า อันอันเงยหน้าจากตำราในมือ ข้างกายมีสาวน้อยหน้าแฉล้มท่าทีแช่มช้อยดวงตาซุกซน“ข้าน้อยคุณพลจงเจี้ยนและนี่บุตรีข้าน้อยฟางหลัน”ลอบมองใบหน้าของอันอันอย่างจงใจ สายตาพึงใจอย่างที่สุด"ฟางหลันคารวะนายหญิง"ยิ้มทั้งมใบหน้าและดวงตา"ท่านขุนพลมาถึงนี้เกรงใจยิ่งแล้ว""เราพ่อลูกตั้งใจมาคารวะใต้เท้าจิ้ง"อันอันเผลอยิ้มจงเจี้ยนกลับเขินอายรอยยิ้มของอันอันเหมือนดังว่าอันๆ ตั้งใจยิ้มให้เขาเปล่าเลยอันอันแค่เพียงเผลอยิ้ม"ไม่ต้องเกรงใจเพียงนี้หากข้าต้องแบกรับความเกรงใจของพวกท่านเสียทั้งหมดเมื่อใครจะส่งบุตรีเข้าคัดตัวนางใน ป่านนี้อันอันคงต้องตอนรับผู้คนที่มาคารวะไม่เว้นแต่ละวัน""สำคัญยิ่งแล้วบุตรีข้าดวงไม่ดีเข้ามาพร้อมกับเครื่องบรร
เสี่ยวจื้อยิ้มอย่างรู้ทันวิ่งหายลับไปทันที บัวหลวงสีชมพูออกดอกชูช่อหนาทึบทั้งใบทั้งดอกอินจิ๋นก้าวลงไปในลำเรือดึงมืออันอันตั้งใจให้อกนุ่มชนเข้ากับอกกว้างของเขานิดหนึ่งหน่อยนึงก็ชื่นหัวใจ คนมันปักใจอดกลั้นได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว อันอันล้มลงไปบนอกกว้างอินจิ๋นยิ้มกรุ้มกริ่มสัมผัสได้ถึงเนินเนื้อนุ่มยุ่น"อือ ดีจริง"นอนหงายบนลำเรือร่างอวบอั๋นของอันอันทับอยู่ด้านบนมือสองข้างกดเอวให้แนบชิดไม่ให้ขยับกาย"ฝ่าบาท"ดิ้นรนขยับกายยิ่งขยับกายร่างอวบอั๋นยิ่งถูไถที่จุดยุทธศาสตร์"ดิ้นๆ แบบนี้ ข้ายิ่งคิดเตลิดไปไกล""ปล่อยอันอันเสีย อันอันเป็นนางหน้าพระพักตร์"ส่งเสียงเข้ม อินจิ๋นถอนหายใจ"เมื่อไหร่จะเลิกกำหนดกฎเกณฑ์เสียที"กอดรัดแน่นขึ้นกว่าเดิมอันอันยิ่งดิ้นยิ่งรัดแน่น ผงกศีรษะจุมพิตที่ปากอวบอิ่ม อันอันยังดิ้นรนลำเรือโยกคลอนแต่อินจิ๋นกับพลิกร่างอวบอิ่มลงใต้ร่างเขาบดเบียดริมฝีปากอย่างไม่อาจห้ามใจเรือน้อยไหลเรื่อยหลบเข้าไปใต้ใบบัวหนาจนมองไม่เห็นด้วยแรงขยับกายของคนสองคนบนลำเรือจูบรุกเร้ากลายเป็นอ่อนหวานนุ่มนวล ขมเม้มริมฝีปากลิ้นอุ่นซอกซอน อันอันพยายามหลบหลีกลิ้นอุ่นที่ตวัดรัดลิ้นเล็กด้วยความกระสันกลายเป็นเร่
“หุบปากเจ้าเสียคุณหนูฟางหลัน หากยังเรียกข้าว่านายหญิงไม่เช่นนั้นค่ำนี้ ข้าจะส่งนางในคนอื่นเข้าไปปรนนิบัติฝ่าบาทแทนเจ้า แค่เหตุผลเล็กน้อยที่ข้าจะแก้ตัวกับฝ่าบาท เกรงว่าฝ่าบาทคงจะเชื่อข้าได้ไม่ยาก”เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับอันอันยิ่งกำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย ฟางหลันเหมือนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังข้ามสะพานไม้ได้เพียงครึ่งไม่ควรจะขย่มสะพานไม้เกรงว่าสะพานจะหักเสียก่อนจึงนิ่งเงียบเสีย“ไปรอที่พำนักของคุณหนูเสีย ข้าจะส่งนางกำนัลไปขัดผิว พรมน้ำอบให้คุณหนูในอีกสองชั่วยามก่อนจะมืด”ก้าวเดินจากไป ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เจ้ากำลังเปิดศึกกับนายหญิงอันอัน“เจ้านำอาภรณ์เหล่านี้ไปให้คุณหนูฟางหลันเลือก”ส่งอาภรณ์ให้กับนางกำนัลนางกำนัลขมวดคิ้ว“ไปได้แล้ว”ไล่ส่ง“เดี๋ยว น้ำอบของคุณหนูฟางหลันเอาเป็นกลิ่นดอกมู่หลาน”นางกำนัลย่อกายจากไปฟางหลัน ยืนรอท่าในอาภรณ์สีเหลืองอ่อน อันอันยังสวมอาภรณ์ขันทีเช่นเดิม“วันนี้ให้เสี่ยวจื้อนำเจ้าไป ข้า… รู้สึกไม่ค่อยสบาย”ฟางหลันยิ้ม นางไม่ไปยิ่งดีเกลียดสายตาที่ฝ่าบาทมองนาง เหมือนมีบางอย่างในนั้น ทั้งเกรงใจและเว้าวอนเสี่ยวจื้อก้าวเดินนำฟางหลันเข้าไปข้างในตำหนักอันอันหันหลั
”นายหญิง ฝ่าบาทมีบัญชาปลดนายหญิงออกจากตำแหน่งนางหน้าพระพักตร์”เสี่ยวจื้อประสานมือสีหน้าเศร้าสร้อย“ดีแล้ว”พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย“นายหญิงฝ่าบาทอนุญาตให้ท่านยังอยู่ในวังหลวงต่อไปได้”“ข้าเพิ่ง20ความจริงออกไปนอกวังหลวงเสียก้คงจะหาใครสักคนแต่งงานได้ด้วยไม่ยาก เงินเก็บก็พอจะมีเหลือทำการค้าขายหรือโรงเตี๊ยมเล็กๆ ก็คงพอเลี้ยงตัวได้”“แต่นายหญิง ฝ่าบาทไม่ให้ท่านไปฝ่าบาทใจดีให้ท่านอยู่ที่นี่”“ข้าไม่ได้เป็นนางหน้าพระพักตร์แล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่”เสี่ยวจื้อ ขอบใจเจ้ายิ่งนัก สองปีที่รู้จักกันมาเจ้าดีกับข้ายิ่งกว่าญาติเสียอีก”เสี่ยวจื้อปาดน้ำตา“นายหญิงท่านกับฝ่าบาทมีปัญหาใดกัน เสี่ยวจื้อหาสนใจไม่ แต่เมื่อท่านกำลังจะจากไป เสี่ยวจื้อขอร้องท่านอย่าจากเราไปเลย”ทรุดกายลงกับพื้นคุกเข่าตรงหน้าอันอัน“ข้าเข้ามาในวังหลวงไม่อยากจะเป็นนางในเพียงเพื่อได้ทำงานมีรายได้จุนเจือครอบครัวให้ได้กินอิ่มๆ จึงพยายามที่จะไม่ต้องเป็นนางใน และจะไม่ดีใจหากต้องเป็นสนม แต่ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่าความพยายามของข้าล้มเหลว ข้าไม่อาจเอาชนะใจตัวเอง แล้วยังเผลอตัวเผลอใจ เสี่ยวจื้อข้าไปเสียจึงดีต่อทั้งฝ่าบาทและตัวข้า
“ฝ่าบาทไม่ได้ล่อหลอกอันอันให้ยอมถวายตัวใช่ไหมฝ่าบาทไม่ได้ทำเหมือนเช่นที่เคยทำกับพวกนางในใช่ไหม”“เพียงคืนนั้นที่เจ้าเข้ามาสนห้องแทนเสี่ยวจื้อในครั้งแรกสิ่งเดียวที่ข้าตั้งใจจะทำคือ ทำอย่างไรจะได้ใจเจ้าและให้เจ้ามีใจให้ข้า”“แต่ฝ่าบาทใจร้ายฝ่าบาท ยังให้อันอันจัดหานางใน”“สองปีอันอันข้าให้โอกาสเจ้าถึงสองปีแต่เจ้ากับใช้คำว่านางหน้าพระพักตร์กีดกันข้าออกห่างจากเจ้า ทั้งๆ ที่ในใจข้ากลับมีเจ้าเข้าไปอยู่ในนั้นมากขึ้นมาในทุกวัน”“ฝ่าบาทเรียกหาพวกนางในทุกค่ำคืน”“ข้า ทำทุกอย่างที่จะไม่ต้องให้พวกนางถวายตัว คนเดียวที่ข้าอยากให้นอนร่วมแท่นนอนคือเจ้าอันๆ แต่เจ้ากับไม่เคยรู้ให้กินกล้วยก็แล้วให้มุดผ้าห่มตามธรรมเนียมปฏิบัติก็แล้ว เจ้ายังตีความเป็นอื่นจะว่าไปอันอันมองข้าผิดมาตลอด”“ฝ่าบาทอยู่กับพวกนางสองต่อสองอันอันไม่เชื่อว่าฝ่าบาทไม่ได้ทำอะไรพวกนาง”“เจ้าเคยมุดอยู่ใต้แท่นนอนข้าหรือจึงรู้ดีเพียงนี้ หรือว่าอันอันของข้าลูกไม้แพรวพราวหาเรื่องสอดแนมเรื่องบนแท่นนอนของข้าเพราะกลัวว่าข้าจะมีใจให้นางในเหล่านั้น”อันอันอมยิ้ม น้ำตาแห้งเหือดหายไป“อันอันไม่อยากเป็นนางในของฝ่าบาทเป็นสิ่งที่คิดไว้ตั้งแต่ก้าวเข้ามาใ