30 นาทีผ่านไป…
ฉันพยายามทำตัวเองให้เป็นปกติที่สุด ล้างหน้าล้างตา จากนั้นก็เดินออกจากห้องน้ำเพื่อไปหานาลิน ตอนนี้นาลินหลับอยู่ นอกจากใบหน้าที่ซีดเผือดแล้ว ตัวของเธอเองก็เริ่มซีด พอเห็นน้องสาวที่อยู่ในสภาพนี้น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้มันก็เริ่มจะไหลออกมาอีกครั้ง “พี่ริน…” เสียงแหบแห้งของนาลินเอ่ยขึ้น มันเบามากซะจนฉันแทบจะไม่ได้ยิน ฉันก้มหน้าลงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้น้ำตาไม่ไหลออกมา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองน้องสาว “หนูคงไม่รอดแล้วใช่มั้ยพี่ริน…” คำถามของน้องสาวทำให้ฉันถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้ ในที่สุดหยดน้ำใสๆ มันก็ไหลลงมาอาบพวงแก้มทั้งสองข้าง “อย่าพูดแบบนี้สินาลิน เธอต้องรอด อย่าทิ้งพี่ไปไหนนะ” “หนูรู้ว่าพี่รินทำงานหนักเพื่อหาเงินมารักษาหนู แต่คงไม่ต้องแล้วนะคะ หนูอยากให้พี่รินเก็บเงินไว้ ไม่ต้องมาจ่ายค่ารักษาของหนูแล้ว เพราะยังไงหนูก็ไม่มีทางหาย” “หายสิ พี่จะส่งตัวเธอไปรักษาที่อังกฤษ คุณหมอแนะนำมาว่าที่นั่นมีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ” “เราไม่มีเงินมากขนาดนั้นไม่ใช่หรอพี่ริน อย่าให้หนูต้องเป็นภาระของพี่ไปมากกว่านี้เลยนะคะ…” “ไม่ อึก ยังไงพี่ก็ไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรไปแน่ๆ เรื่องค่ารักษา….” ฉันหยุดคิด ก่อนจะนึกถึงคุณเหนือขึ้นมาได้ ขะ เขาเคยเสนอเรื่องเงินให้กับฉัน วันนี้เขาก็เพิ่งพูดขึ้นมาถึงอาการป่วยของนาลิน แปลว่าเขาต้องยินดีช่วยฉันแน่ๆ “ไม่ต้องห่วงนะ มีคนใจดีจะจ่ายค่ารักษาให้” “ใครหรอคะพี่ริน…” “เดี๋ยวพี่ต้องไปคุยกับเขาก่อน พรุ่งนี้พี่จะรีบมาเยี่ยมนะ” เมื่อคิดได้แบบนั้น ฉันต้องรีบไปคุยกับคุณเหนือตอนนี้ เวลานี้เลย ฉันลูบหัวน้องสาวไปมาก่อนจะก้มลงจูบบนหน้าผากของเธอ เป็นปกติที่ฉันทำทุกๆ วัน ในที่สุดฉันก็ต้องยอมกลืนน้ำลายตัวเอง นั่งแท็กซี่กลับมาที่บริษัทเพื่อจะมาคุยกับคุณเหนือ ภาวนาขอให้เขายังอยู่ที่บริษัท เมื่อแท็กซี่จอดตรงหน้าบริษัท ฉันก็รีบจ่ายเงินแล้วเดินเข้ามาในตึกขึ้นลิฟต์มายังชั้นของผู้บริหาร และในตอนนี้ฉันก็กำลังยืนอยู่หน้าห้องทำงานของคุณเหนือ ทั้งที่เพิ่งจะปฏิเสธเขาไป แต่สุดท้ายก็เป็นฉันเองที่ต้องกลับมาขอความช่วยเหลือ ฉันรู้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่เขาต้องการ และฉันยอมหากมันแรกกับชีวิตใหม่ของนาลิน น้องสาวของฉัน ฉันดันประตูเปิดเข้าไปในห้องทำงานของคุณทิศเหนือโดยที่ไม่ได้เคาะประตูห้องก่อน เดินไปได้ไม่กี่ก้าวขาของฉันมันก็ต้องหยุดชะงักกับภาพที่เห็น มีผู้หญิงคนหนึ่งเธอกำลังนัวเนียกับคุณเหนืออยู่ พอได้ยินเสียงเปิดประตูคุณเหนือจึงตวัดสายตามามองฉันที่กำลังยืนตัวแข็งทื่ออยู่ในตอนนี้ “นี่!! ที่บ้านไม่เคยสอนเรื่องมารยาทหรือไง ทำไมถึงไม่เคาะประตู ออกไป!!” ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนตักของคุณเหนือเธอแผดเสียงดังใส่ฉันทันที “ขะ ขอโทษค่ะ” ฉันรีบก้มหน้าเอ่ยขอโทษ “มีอะไร” เสียงทุ้มเข้มของคุณเหนือเอ่ยถามขึ้น ฉันเม้มปากแน่นและมองผู้หญิงคนนั้น คุณเหนือก็คงจะเดาได้ว่าฉันลำบากใจ หากต้องพูดต่อหน้าคนอื่น “พอดีฉันติดธุระ เธอออกไปก่อนแล้วกัน” คุณเหนือสั่งผู้หญิงที่นั่งคร่อมอยู่บนร่างของตัวเอง “นี่ไล่เกรซอย่างนั้นหรอคะ” “ผมว่าคุณฟังที่ผมสั่งรู้เรื่องนะเกรซ” คุณเหนือกดเสียงต่ำบอกเธอ ทำให้เธอลุกขึ้นอย่างไม่พอใจ แถมยังมองหน้าฉันเหมือนคนที่ไม่ถูกชะตา ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง “มีอะไรว่ามาสิ อะไรดลใจให้เธอกลับมาหาฉันที่บริษัท หื้ม ?” คุณเหนือถามในขณะที่กำลังจัดความเรียบร้อยของเสื้อผ้าตัวเองไปด้วย ฉันกัดริมฝีปากตัวเองจนห้อเลือด “ที่คุณเหนือเสนอมา ระ เรื่องเงิน ริน รินสนใจค่ะ”หลังจากที่ฉันพูดคำนั้นออกไปบรรยากาศภายในห้องก็เงียบสนิท คุณเหนือไม่ได้เอ่ยคำใดออกมานอกจากมองหน้าฉันนิ่งๆ หัวใจดวงน้อยของฉันมันกำลังเต้นรัว ถ้าชีวิตของฉันมันมีทางเลือกมากกว่านี้ ก็คงไม่ต้องแบกหน้ามาเสนอตัวให้เขา คงไม่ต้องยอมกลืนน้ำลายตัวเอง “หึ!! ทำไมจู่ๆ เธอถึงได้เปลี่ยนใจ” คุณเหนือถามขึ้นทำลายความเงียบ “น้องสาวของรินกำลังแย่ คุณเหนือช่วยน้องรินด้วยนะคะ ถ้าคุณเหนืออยากให้รินทำอะไร รินยอมหมดทุกอย่าง ขะ ขอแค่น้องสาวของรินหาย…”คุณเหนือลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วก้าวขาเดินมาหยุดตรงหน้าของฉัน มือหนาช้อนปลายคางของฉันขึ้นไปสบตากับตัวเอง สายตาเย็นชาคู่นั้นมันทำให้ฉันวูบไหวไปชั่วขณะ“ถ้าฉันอยากทำอะไรเธอจะยอมทุกอย่างจริงๆ ใช่มั้ยหื้ม…” ใบหน้าคมคายก้มลงมาใกล้ๆ จนฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวของเขา “….ค่ะ ทุกอย่าง” คุณเหนือดันร่างของฉันให้เดินถอยหลังไปเรื่อยๆ จนมาชนกับโต๊ะทำงาน มือหนาทั้งสองข้างจับสะโพกของฉันแล้วออกแรงยกตัวฉันขึ้นมานั่งบนโต๊ะทำงานของตัวเอง “คะ คุณเหนือ…” ฉันรีบดันอกแกร่งเอาไว้เมื่อคุณเหนือโน้มใบหน้าลงมาหวังจะจูบ จากนั้นฉันก็เบือนหน้าหนี“เธอบอกฉันเองว่ายอมทุกอย่าง”“…ไม่ใช่ตอ
วันต่อมา….“วารินไปกินข้าวกันเถอะ” พี่เอมเอ่ยปากชวนเมื่อถึงเวลาพักเที่ยง ในตอนนี้พนักงานต่างพากันพักเบรกเพื่อไปกินข้าว“ค่ะ ^_^” ฉันเก็บของเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นเตรียมจะเดินตามพี่เอมไป แต่จู่ๆ คุณทิศเหนือก็เดินมาหยุดตรงหน้าฉัน ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่“ฉันมีงานจะให้เธอช่วยตรวจสักหน่อย”“งานอะไรคะคุณเหนือ เดี๋ยวฉันทำให้ก็ได้วารินยังเป็นเด็กฝึกอยู่….”“ฉันต้องการให้วารินเป็นคนทำ” พูดจบคุณเหนือก็เดินกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง“ถ้าอย่างนั้นพี่เอมลงไปกินข้าวก่อนเลยนะคะ ไม่ต้องรอริน”“ระวังตัวด้วยนะริน”“ไม่ต้องห่วงนะคะ ถ้ามีอะไรรินจะรีบโทรหาพี่เอมทันที” ฉันยิ้มแห้งๆ ให้พี่เอม ก่อนจะรีบเดินตามคุณเหนือมาที่ห้องทำงาน#ภายในห้องทำงาน“ไหนบอกว่าจะให้มาคุยหลังเลิกงานไงคะ”“พอดีว่าฉันใจร้อน มานั่งนี่สิ” พูดจบคุณเหนือก็ตบลงตรงที่ว่างข้างๆ ตัวเองเพื่อเป็นการเชื้อเชิญให้ฉันไปนั่งแน่นอนว่าฉันไม่อาจจะขัดใจเขาได้ ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรเมื่อฉันนั่งลงข้างๆ กับตัวเขาแล้ว คุณเหนือก็เอากระดาษตรงหน้ายื่นมาให้ฉัน“อ่านซะ”ฉันขมวดคิ้วเป็นปมอย่างแปลกใจก่อนที่จะหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอ
นิ้วใหญ่แตะลงมาบนกลีบกุหลาบของฉันโดยไม่มีอะไรปิดกั้น ทำเอาฉันถึงกับสะดุ้งและรู้สึกอับอายเพราะนี่มันคือครั้งแรกที่ฉันอ้าขาแบบนี้ให้ผู้ชายทั้งที่ไม่อยากจะรู้สึก แต่กลับห้ามตัวเองไม่ได้ เมื่อนิ้วใหญ่ค่อยๆ ขยี้ลงบนติ่งเกสรของฉันเบาๆ“เธอกำลังคบหาอยู่กับผู้ชายคนไหนหรือเปล่า ?”“ไม่ค่ะ อ๊ะ ฉะ ฉันไม่มีแฟน” พอได้ยินคำตอบของฉัน คุณเหนือก็กระตุกยิ้มมุมปากออกมาอย่างพอใจ“เรื่องส่งตัวน้องสาวเธอไปรักษาที่ต่างประเทศ ฉันจะเป็นคนจัดการเอง”“คะ คุณเหนือรู้ได้ยังไง ว่าน้องสาวของรินต้องถูกส่งตัว อื้อ~”เสียงของฉันถูกกลืนหายลงไปในลำคอเมื่อคุณเหนือก้มหน้าลงมาประกบริมฝีปากจูบฉัน โดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งรับ ด้วยความที่ไม่เคยจูบกับชายใดมาก่อน ทำให้ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ได้แต่อยู่นิ่งๆ ให้คุณเหนือเป็นคนทำนิ้วใหญ่ยังคงขยี้ติ่งเกสรของฉันเบาๆ สลับกับลากไล้มันขึ้นลง แปลกที่ฉันเริ่มรู้สึกดีกริ๊ง~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ทำให้คุณเหนือถอนริมฝีปากออกไปจากริมฝีปากของฉัน รวมทั้งนิ้วที่กำลังแตะตรงนั้นของฉันอยู่ก็ถูกดึงออกไปด้วยเมื่อคุณเหนือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับมันก็ทำให้ฉันรู้สึกหายใจหายคอได้สะดวกขึ้น ก่อนที่จะค่
เรียวขาของฉันถูกจับให้แยกออกจากกัน เผยให้เห็นความสวยงามที่แดงฉ่ำเย้ายวนคนตรงหน้า ก่อนที่นิ้วใหญ่จะแตะลงมาบนติ่งเกสรแล้วขยี้มันอย่างเบามือ“เธอรู้ไหมว่าฉันต้องการเธอมากขนาดไหนวาริน” คุณเหนือกระซิบถามเสียงกระเส่า ทำเอาหัวใจของฉันกระตุกสั่นไหว“อ๊ะ คะ คุณเหนือ ทำตรงนี้ไม่ได้นะคะ” ฉันรีบท้วง เพราะด้านหลังที่ฉันยืนอยู่มันคือกระจกใสบานใหญ่ที่มองเห็นวิวรอบๆ กรุงเทพ“ไม่ว่าฉันจะทำตรงไหนเธอก็ไม่มีสิทธิ์ขัดใจ” คุณเหนือกระซิบบอก “อย่าลืมสิว่าฉันจ่ายเงินให้เธอไปแล้ว เพราะฉะนั้นเธอก็คือสิ่งของของฉัน”สะ สิ่งของ เขาเปรียบฉันเหมือนกับสิ่งของอย่างนั้นเหรอฉันไม่มีเวลาได้คิดอะไรฟุ้งซ่าน มันเริ่มรู้สึกหายใจได้ไม่ทั่วท้องและแทบจะทรงตัวยืนไม่อยู่เมื่อถูกนิ้วใหญ่บดขยี้ติ่งเกสรแรงขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของฉันเกร็งกระตุกครั้งแล้วครั้งเล่าเขาทำแบบนี้แล้วฉันจะหักห้ามความรู้สึกได้ยังไงกัน ยิ่งตอนที่เขาคลึงปลายนิ้วมือกับติ่งกระสันทำเอาฉันเสียวซ่านใจแทบขาดจนเก็บเสียงครางไว้ไม่อยู่“อ๊า อ๊า อ๊าง~”ความรู้สึกแปลกใหม่ที่เพิ่งเคยได้สัมผัส แต่มันกลับทำให้ฉันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกริมฝีปากหนาของคุณเหนืองับลงมาบนใบหูของฉัน
วันต่อมา….ฉันมาทำงานที่บริษัทตามปกติในตอนนี้ข้าวของ พวกของใช้เสื้อผ้า ถูกลูกน้องของคุณเหนือย้ายมาไว้ที่คอนโด ส่วนเรื่องส่งตัวน้องสาวของฉันไปรักษาที่ต่างประเทศ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการ เรื่องค่าใช้จ่ายฉันได้จัดการเรียบร้อยแล้ว เย็นวันนี้ฉันจะไปเยี่ยมนาลินที่โรงพยาบาลฉันเดินมายังโต๊ะทำงานของตัวเองแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อโต๊ะทำงานที่นั่งประจำได้หายไป“อ้าววาริน มองหาโต๊ะทำงานอยู่เหรอจ๊ะ ^_^” พี่เอมถามฉัน“ใช่ค่ะ”“คุณเหนือสั่งให้ย้ายไปอยู่ที่หน้าห้องทำงานของเขาน่ะ บอกว่าอยากให้วารินเรียนรู้งานกับเลขา”“ยะ อย่างนั้นเหรอคะ…” ฉันตอบไปอย่างงุนงง เขาคิดจะทำอะไรก็ไม่ต้องบอก ไม่ต้องถามฉันเลยหรือยังไงกันฉันเดินมาที่หน้าห้องทำงานของคุณเหนือ เห็นว่ามีโต๊ะทำงานของตัวเองตั้งอยู่จริงๆ“น้องริน คุณเหนือฝากบอกให้เข้าไปพบน่ะจ้ะ” พอฉันเดินมาถึงพี่เลขาก็บอกกับฉันในทันที“…ค่ะ”ฉันค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปภายในห้องทำงานของผู้บริหาร ในตอนนี้คุณเหนือกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียงสายตาของฉันโฟกัสไปยังแผ่นหลังกว้างตรงหน้า ไม่ว่าจะด้านหน้าหรือด้านหลัง ผู้ชายคนนี้ก็ดูดีไม่มีที่ติจู่ๆ ใบหน้าของฉันมันก็แดงก่ำเมื
#โรงพยาบาลฉันมาเยี่ยมน้องสาวก่อนที่เธอจะถูกส่งตัวไปรักษาที่ต่างประเทศ“พี่ริน หนูกลัว” นาลินรีบบอกเมื่อเห็นว่าฉันเดินเข้ามาในห้องที่เธอนอนพักฟื้นอยู่ฉันก้าวขาเดินมาหย่อนก้นนั่งลงข้างๆ กับเตียง แล้วกุมมือนาลินเอาไว้“ไม่ต้องกลัว เธอต้องหายเชื่อพี่นะ” พูดแล้วฉันก็ค่อยๆ ยกมือขึ้ลูบหัวนาลิน “พี่จะรอวันที่น้องสาวคนสวยของพี่หายเป็นปกติ ถ้าหายดีแล้วพี่สัญญาว่าจะพาเธอไปเที่ยวทุกที่ที่เธออยากจะไป”“….พี่รินสัญญาแล้วนะคะ”“พี่สัญญา ^_^” ฉันฝืนยิ้มทั้งที่ตอนนี้มันอยากจะร้องไห้ออกมาตั้งแต่เล็กจนโตเราสองพี่น้องไม่เคยแยกจากกันไปไหนไกล แต่ครั้งนี้นาลินต้องถูกส่งตัวไปรักษาไกลถึงต่างประเทศ หากฉันมีเงินมากพอและไม่มีหน้าที่อะไรที่ต้องทำก็คงจะตามไปด้วยแต่ฉันต้องอยู่เป็น ‘สิ่งของ’ ที่คุณเหนืออยากจะเรียกใช้เมื่อไหร่ก็ได้หลังจากเยี่ยมนาลินเสร็จฉันก็มาหาพราว เพื่อนที่สนิทที่สุดของฉัน เรานัดกันมาเดินเล่นที่ห้างหลังจากไม่ได้เจอหน้ากันร่วมเดือน“ริน ทางนี้” เสียงของพราวเรียกบอกฉันพร้อมกับโบกมือไปมาเพื่อให้ฉันมองเห็นตัวเอง แต่การทำแบบนั้นมันกลับทำให้พราวตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นฉันรีบเดินจ้ำเท้าไปหาเพื่อน เ
คุณเหนือเดินนำฉันมาที่รถของตัวเอง ซึ่งจอดอยู่ตรงที่จ]อดวีไอพี บริเวณนี้จะไม่มีรถของใครจอดอยู่เลยสักคัน“ขึ้นรถ”“ตะ แต่รินเอารถมา…”“ฉันบอกให้เธอขึ้นรถ” คุณเหนือกดเสียงต่ำ ทำให้ฉันรีบเปิดประตูเข้ามานั่งด้านในอย่างว่าง่ายเมื่อฉันเข้ามานั่งด้านในรถ คุณเหนือก็เปิดประตูเข้ามานั่งตรงเบาะคนขับ เขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่สวมใส่อยู่ออก แล้วถอดมันก่อนจะโยนมันไปไว้ที่เบาะหลัง จากนั้นก็ดึงเน็กไทลงพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อสองสามเม็ดใบหน้าเกรี้ยวกราดหันมาจ้องฉันอย่างเอาเรื่อง “เอาเงินที่ฉันให้มาเลี้ยงผู้ชาย ?”“มะ ไม่ อื้อ…” ไม่ทันที่
ตึกดึก….ฉันอาบน้ำและแต่งตัวด้วยชุดนอนที่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวสีชมพูอ่อนลายหมีที่คุณเหนือพูดว่าคืนนี้เขาจะมานอนที่นี่มันทำให้จิตใจของฉันเริ่มไม่อยู่กับร่องกับรอย เอาแต่คิดฟุ้งซ่านไปต่างๆ นาๆไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้ว่าความหมายของคำพูดคุณเหนือคืออะไร เพราะฉันรู้ ถึงได้คิดหาวิธีว่าจะเอาตัวเองให้รอดพ้นคืนนี้ไปได้ยังไง ฉันยังไม่พร้อม และไม่อยากที่จะเลยเถิดไปถึงขั้นนั้นถึงจะรู้ดีว่าสุดท้ายนี่ก็คือสิ่งที่คุณเหนือต้องการ….“นี่มันคือสิ่งที่ตัวฉันต้องเจอไม่ใช่หรือไง” ฉันพูดกับตัวเองเบาๆ แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แกร็ก! เสียงประตูห้องถูกเปิดออก ฉันที่นั่งคิดไม่ตกอยู่บนโซฟาค่อยๆ หันมองที่ประตู เห็นคุณเหนือกำลังเดินเข้ามาภายในห้องหัวใจดวงน้อยมันกระตุกวูบเมื่อเห็นสายตาที่ดุดันคู่นั้นของคุณเหนือจ้องมองมายังใบหน้าของฉัน เหมือนกับว่าฉันไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจอย่างไงอย่างงั้น หรือว่ายังหงุดหงิดเรื่องวันนี้อยู่อีกนะ“เธอใส่ชุดนี้รอฉัน ?”“ดะ เดี๋ยวรินไปเอาน้ำมาให้ดื่มนะคะ” ฉันรีบลุกขึ้นแต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวขาเดินไปไกล เสียงเย็นยะเยือกของคุณเหนือก็เอ่ยขัดขึ้นมาซะก่อน “ฉันจะอาบน้ำ ไปเตรียมน้ำอุ่นไว้ในอ่