เรียวขาของฉันถูกจับให้แยกออกจากกัน เผยให้เห็นความสวยงามที่แดงฉ่ำเย้ายวนคนตรงหน้า ก่อนที่นิ้วใหญ่จะแตะลงมาบนติ่งเกสรแล้วขยี้มันอย่างเบามือ
“เธอรู้ไหมว่าฉันต้องการเธอมากขนาดไหนวาริน” คุณเหนือกระซิบถามเสียงกระเส่า ทำเอาหัวใจของฉันกระตุกสั่นไหว
“อ๊ะ คะ คุณเหนือ ทำตรงนี้ไม่ได้นะคะ” ฉันรีบท้วง เพราะด้านหลังที่ฉันยืนอยู่มันคือกระจกใสบานใหญ่ที่มองเห็นวิวรอบๆ กรุงเทพ
“ไม่ว่าฉันจะทำตรงไหนเธอก็ไม่มีสิทธิ์ขัดใจ” คุณเหนือกระซิบบอก “อย่าลืมสิว่าฉันจ่ายเงินให้เธอไปแล้ว เพราะฉะนั้นเธอก็คือสิ่งของของฉัน”
สะ สิ่งของ เขาเปรียบฉันเหมือนกับสิ่งของอย่างนั้นเหรอ
ฉันไม่มีเวลาได้คิดอะไรฟุ้งซ่าน มันเริ่มรู้สึกหายใจได้ไม่ทั่วท้องและแทบจะทรงตัวยืนไม่อยู่เมื่อถูกนิ้วใหญ่บดขยี้ติ่งเกสรแรงขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของฉันเกร็งกระตุกครั้งแล้วครั้งเล่า
เขาทำแบบนี้แล้วฉันจะหักห้ามความรู้สึกได้ยังไงกัน ยิ่งตอนที่เขาคลึงปลายนิ้วมือกับติ่งกระสันทำเอาฉันเสียวซ่านใจแทบขาดจนเก็บเสียงครางไว้ไม่อยู่
“อ๊า อ๊า อ๊าง~”
ความรู้สึกแปลกใหม่ที่เพิ่งเคยได้สัมผัส แต่มันกลับทำให้ฉันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
ริมฝีปากหนาของคุณเหนืองับลงมาบนใบหูของฉัน เขาหายใจเป็นจังหวะที่แผ่วเบากระทบลงมาบนซอกคอจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อน ก่อนจะใช้ริมฝีปากหนาแตะลงบนซอกคอแล้วลากไล้มันไปมา ทำเอาท้องน้อยฉันเสียววาบและเครียดเกร็ง
ร่างของฉันค่อยๆ ถูกดันให้ถอยหลังมาแนบชิดติดกับกระจกใสบานใหญ่
“ยะ อย่าดันนิ้วเข้ามานะคะ” ฉันรีบรั้งมือคุณเหนือเอาไว้ เพราะเขาทำเหมือนว่าจะสอดใส่นิ้วของตัวเองเข้ามาในช่องทางคับแคบของฉัน “ระ รินไม่เคยทำแบบนี้กับใคร….”
คุณเหนือแกะมือของฉันออกจากมือตัวเอง จากนั้นเขาก็อัดกระแทกนิ้วใหญ่เข้ามาในโพรงสวาทโดยไม่ฟังคำค้านของ ทำเอาร่างกายของฉันเกร็งเครียดไปทุกส่วน
“จะ เจ็บ~” ฉันโผกอดคอเขาแน่น ความรู้สึกดีเมื่อครู่ถูกแปรเปลี่ยนเป็นความเจ็บปวด
คุณเหนือเงียบไม่พูดอะไร จากนั้นก็ค่อยๆ ขยับนิ้วใหญ่เข้าออกที่ร่องรักของฉัน ซึ่งมันไม่ได้ช่วยทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาเลย กลับกันมันยิ่งเจ็บกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
“พะ พอก่อนได้ไหมคะ รินเจ็บจริงๆ”
“แค่นิ้วก็ไม่ไหวแล้วหรือไง” คุณเหนือจับมือของฉันมาลูบคลำตรงเป้ากางเกงของตัวเองที่ตอนนี้มีของแข็งบางอย่างกำลังนูนขึ้นมา รูปร่างของมันทั้งใหญ่ทั้งยาวแถมยังดันเป้ากางเกงแน่นซะจนแทบจะทะลักออกมา
ใบหน้าคมคายเลื่อนเข้ามากระซิบบอกใกล้ๆ กับใบหูของฉัน “ถ้าเจอของฉันเข้าไปเธอไม่ต้องร้องขอชีวิตเลยหรือไง หื้ม”
ฉันเม้มริมฝีปากแน่น รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องอีกครั้ง
ระหว่างนั้นจู่ๆ คุณเหนือก็เร่งจังหวะนิ้วให้เสียดสีเข้าออกที่กลีบร่องของฉันรัวขึ้น โดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว
“อ๊า บะ เบาๆ หน่อยได้ไหมคะ อ๊ะ” ฉันครางออกมาเบาๆ จู่ๆ มันก็รู้สึกแปลกไปอีกครั้ง
ฉันไม่ได้เจ็บมากอย่างครั้งแรกที่เขาทำ กลับกัน ยิ่งเขาเร่งจังหวะซอยนิ้วเข้าออกมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งต้องการให้เขาทำมันให้แรงและเร็วมากเท่านั้น
“ใกล้เสร็จหรือยังหื้ม” คุณเหนือถามก่อนจะใช้ลิ้นร้อนสากตวัดเลียไปรอบริมฝีปากของฉัน ทำให้อารมณ์ความต้องการมันพุ่งสูงขึ้นไปอีก
นิ้วใหญ่ของคุณเหนือครูดเข้าครูดออกที่ช่องทางคับแน่นอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดฉันก็รู้สึกตัวเบาราวกับตัวเองล่องลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ ความรู้สึกแบบนี้มัน…
ร่างกายของฉันเกร็งกระตุกติดกันหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ทรุดตัวลงมากองกับพื้น
ฉันหอบหายใจอย่างเหนื่อยหอบแล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองคุณเหนือ สายตาโฟกัสนิ้วของเขาที่มันเต็มไปด้วยคราบเลือดผสมน้ำหล่อลื่นสีใส
เลือดออกแบบนั้น…มะ…หมายความว่าฉันได้เสียความบริสุทธิ์ที่หวงแหนให้เขาไปแล้ว…อย่างนั้นใช่ไหม….
วันต่อมา….ฉันมาทำงานที่บริษัทตามปกติในตอนนี้ข้าวของ พวกของใช้เสื้อผ้า ถูกลูกน้องของคุณเหนือย้ายมาไว้ที่คอนโด ส่วนเรื่องส่งตัวน้องสาวของฉันไปรักษาที่ต่างประเทศ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการ เรื่องค่าใช้จ่ายฉันได้จัดการเรียบร้อยแล้ว เย็นวันนี้ฉันจะไปเยี่ยมนาลินที่โรงพยาบาลฉันเดินมายังโต๊ะทำงานของตัวเองแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อโต๊ะทำงานที่นั่งประจำได้หายไป“อ้าววาริน มองหาโต๊ะทำงานอยู่เหรอจ๊ะ ^_^” พี่เอมถามฉัน“ใช่ค่ะ”“คุณเหนือสั่งให้ย้ายไปอยู่ที่หน้าห้องทำงานของเขาน่ะ บอกว่าอยากให้วารินเรียนรู้งานกับเลขา”“ยะ อย่างนั้นเหรอคะ…” ฉันตอบไปอย่างงุนงง เขาคิดจะทำอะไรก็ไม่ต้องบอก ไม่ต้องถามฉันเลยหรือยังไงกันฉันเดินมาที่หน้าห้องทำงานของคุณเหนือ เห็นว่ามีโต๊ะทำงานของตัวเองตั้งอยู่จริงๆ“น้องริน คุณเหนือฝากบอกให้เข้าไปพบน่ะจ้ะ” พอฉันเดินมาถึงพี่เลขาก็บอกกับฉันในทันที“…ค่ะ”ฉันค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปภายในห้องทำงานของผู้บริหาร ในตอนนี้คุณเหนือกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียงสายตาของฉันโฟกัสไปยังแผ่นหลังกว้างตรงหน้า ไม่ว่าจะด้านหน้าหรือด้านหลัง ผู้ชายคนนี้ก็ดูดีไม่มีที่ติจู่ๆ ใบหน้าของฉันมันก็แดงก่ำเมื
#โรงพยาบาลฉันมาเยี่ยมน้องสาวก่อนที่เธอจะถูกส่งตัวไปรักษาที่ต่างประเทศ“พี่ริน หนูกลัว” นาลินรีบบอกเมื่อเห็นว่าฉันเดินเข้ามาในห้องที่เธอนอนพักฟื้นอยู่ฉันก้าวขาเดินมาหย่อนก้นนั่งลงข้างๆ กับเตียง แล้วกุมมือนาลินเอาไว้“ไม่ต้องกลัว เธอต้องหายเชื่อพี่นะ” พูดแล้วฉันก็ค่อยๆ ยกมือขึ้ลูบหัวนาลิน “พี่จะรอวันที่น้องสาวคนสวยของพี่หายเป็นปกติ ถ้าหายดีแล้วพี่สัญญาว่าจะพาเธอไปเที่ยวทุกที่ที่เธออยากจะไป”“….พี่รินสัญญาแล้วนะคะ”“พี่สัญญา ^_^” ฉันฝืนยิ้มทั้งที่ตอนนี้มันอยากจะร้องไห้ออกมาตั้งแต่เล็กจนโตเราสองพี่น้องไม่เคยแยกจากกันไปไหนไกล แต่ครั้งนี้นาลินต้องถูกส่งตัวไปรักษาไกลถึงต่างประเทศ หากฉันมีเงินมากพอและไม่มีหน้าที่อะไรที่ต้องทำก็คงจะตามไปด้วยแต่ฉันต้องอยู่เป็น ‘สิ่งของ’ ที่คุณเหนืออยากจะเรียกใช้เมื่อไหร่ก็ได้หลังจากเยี่ยมนาลินเสร็จฉันก็มาหาพราว เพื่อนที่สนิทที่สุดของฉัน เรานัดกันมาเดินเล่นที่ห้างหลังจากไม่ได้เจอหน้ากันร่วมเดือน“ริน ทางนี้” เสียงของพราวเรียกบอกฉันพร้อมกับโบกมือไปมาเพื่อให้ฉันมองเห็นตัวเอง แต่การทำแบบนั้นมันกลับทำให้พราวตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นฉันรีบเดินจ้ำเท้าไปหาเพื่อน เ
คุณเหนือเดินนำฉันมาที่รถของตัวเอง ซึ่งจอดอยู่ตรงที่จ]อดวีไอพี บริเวณนี้จะไม่มีรถของใครจอดอยู่เลยสักคัน“ขึ้นรถ”“ตะ แต่รินเอารถมา…”“ฉันบอกให้เธอขึ้นรถ” คุณเหนือกดเสียงต่ำ ทำให้ฉันรีบเปิดประตูเข้ามานั่งด้านในอย่างว่าง่ายเมื่อฉันเข้ามานั่งด้านในรถ คุณเหนือก็เปิดประตูเข้ามานั่งตรงเบาะคนขับ เขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่สวมใส่อยู่ออก แล้วถอดมันก่อนจะโยนมันไปไว้ที่เบาะหลัง จากนั้นก็ดึงเน็กไทลงพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อสองสามเม็ดใบหน้าเกรี้ยวกราดหันมาจ้องฉันอย่างเอาเรื่อง “เอาเงินที่ฉันให้มาเลี้ยงผู้ชาย ?”“มะ ไม่ อื้อ…” ไม่ทันที่
ตึกดึก….ฉันอาบน้ำและแต่งตัวด้วยชุดนอนที่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวสีชมพูอ่อนลายหมีที่คุณเหนือพูดว่าคืนนี้เขาจะมานอนที่นี่มันทำให้จิตใจของฉันเริ่มไม่อยู่กับร่องกับรอย เอาแต่คิดฟุ้งซ่านไปต่างๆ นาๆไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้ว่าความหมายของคำพูดคุณเหนือคืออะไร เพราะฉันรู้ ถึงได้คิดหาวิธีว่าจะเอาตัวเองให้รอดพ้นคืนนี้ไปได้ยังไง ฉันยังไม่พร้อม และไม่อยากที่จะเลยเถิดไปถึงขั้นนั้นถึงจะรู้ดีว่าสุดท้ายนี่ก็คือสิ่งที่คุณเหนือต้องการ….“นี่มันคือสิ่งที่ตัวฉันต้องเจอไม่ใช่หรือไง” ฉันพูดกับตัวเองเบาๆ แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แกร็ก! เสียงประตูห้องถูกเปิดออก ฉันที่นั่งคิดไม่ตกอยู่บนโซฟาค่อยๆ หันมองที่ประตู เห็นคุณเหนือกำลังเดินเข้ามาภายในห้องหัวใจดวงน้อยมันกระตุกวูบเมื่อเห็นสายตาที่ดุดันคู่นั้นของคุณเหนือจ้องมองมายังใบหน้าของฉัน เหมือนกับว่าฉันไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจอย่างไงอย่างงั้น หรือว่ายังหงุดหงิดเรื่องวันนี้อยู่อีกนะ“เธอใส่ชุดนี้รอฉัน ?”“ดะ เดี๋ยวรินไปเอาน้ำมาให้ดื่มนะคะ” ฉันรีบลุกขึ้นแต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวขาเดินไปไกล เสียงเย็นยะเยือกของคุณเหนือก็เอ่ยขัดขึ้นมาซะก่อน “ฉันจะอาบน้ำ ไปเตรียมน้ำอุ่นไว้ในอ่
มือหนาเอื้อมมาดึงผ้าปิดตาออกให้ฉัน ทำให้มองเห็นอะไรต่อมิอะไรตรงหน้าได้ชัดเจนขึ้น ร่างกายกำยำของคุณเหนือกำลังโยกเอวเข้าหาร่างบอบบางของฉันอย่างหนักหน่วงเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา กระเซ็นหยดใส่ฉันยามที่เขาอัดกระแทกฉันเบือนหน้าหนีเพราะไม่อยากเห็นภาพตรงหน้าแล้วกัดริมฝีปากจนห้อเลือดจากความเจ็บปวดที่ได้รับปัก ปัก ปัก! เสียงเนื้อกระทบกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนลง พร้อมๆ กับความปวดร้าวที่ทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ“มองหน้าฉันสิวาริน อ๊า” เสียงทุ้มต่ำออกคำสั่ง ทำให้ฉันต้องจำใจค่อยๆ หันมามองหน้าเขาช้าๆคุณเหนือถอดแก่นกายออกไป มือหนาพลิกร่างของฉันให้นอนคว่ำหน้าลง ก่อนจะจับสะโพกมนโก่งขึ้นจนโค้ง สอดใส่ลำเอ็นอันเขื่องเข้ามาอีกครั้ง แล้วตามด้วยแรงกายที่กระแทกกระทั้นเข้าใส่อย่างป่าเถื่อน“อึก ระ รินเจ็บ คุณเหนือรินไม่ไหวแล้วค่ะ” ฉันเอ่ยปากวิงวอนคุณเหนืออีกครั้ง หวังให้เขาลดความดิบเถื่อนลงบ้าง แต่กลับไม่ได้รับความเห็นใจเลยสักนิด“อ๊า แน่น อ๊า”มือหนาฟาดลงมาบนแก้มก้นของฉันสามสี่ครั้งแล้วบีบเคล้นอย่างหนักหน่วง ขณะเดียวกันกันก็ควบเอวสอบโถมเข้ามาอย่างบ้าคลั่งนี่เป็นครั้งแรกที่ฉั
สายตาของคุณเหนือมันแสดงออกถึงความไม่พอใจที่ฉันถามอะไรแบบนั้นออกไปคุณเหนือเดินเข้ามาใกล้ จากนั้นก็โอบเอวของฉันแล้วดึงตัวฉันให้แนบชิดติดกับตัวเอง“ทำไมถึงตั้งคำถามโง่ๆ แบบนั้นกับฉัน ?” สายตาคมกริบของคนตรงหน้ากำลังมองฉันอย่างคาดคั้น“ระ รินมีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องนี้ไม่ใช่เหรอคะ”“เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน” คุณเหนือย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“หน้าที่ของเธอมีแค่นอนแก้ผ้าให้ฉัน…” คุณเหนือเว้นคำพูด แต่ฉันก็พอจะเดาได้ว่าเขาหมายจะพูดอะไร “อย่าอยากรู้ในสิ่งที่ฉันไม่ต้องการจะพูด เข้าใจที่ฉันบอกใช่ไหม ?”“ขะ เข้าใจแล้วค่ะ”“หวังว่าเธอจะไม่ตั้งคำถามโง่ๆ มากวนใจฉันอีกนะวาริน”“…ค่ะ”มือหนาจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้น เพราะฉันเอาแต่ก้มหน้าไม่กล้าเงยขึ้นมองเขา จู่ๆ คุณเหนือก็กดริมฝีปากลงมาบดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงฉันที่ตกใจทำอะไรไม่ถูกจึงรีบดันตัวเขาออก เพราะตรงนี้มันคือลานจอดรถ ถ้าเกิดมีใครมาเห็นเข้าจะทำยังไงแต่ยิ่งฉันพยายามผลักเท่าไหร่คุณเหนือก็ยิ่งจูบหนักขึ้น ฉันจึงค่อยๆ หยุดนิ่งปล่อยให้คุณเหนือทำตามใจตัวเอง เมื่อฉันเลิกที่จะขัดขืน คุณเหนือก็ค่อยๆ ปล่อยริมฝีปากของฉันให้เป็นอิสระ“นี่คือบท
ฉันจำใจต้องนั่งลงที่เดิมเพื่อรอ รอให้คุณเหนือเป็นคนอนุญาตให้กลับได้ตลอดเวลาที่นั่งอยู่ฉันเอาแต่คิดถึงหน้านาลิน น้องสาวของฉัน จึงทำให้มีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างคนไร้ค่าแบบนี้“คุณเหนือทำไมถึงไม่ค่อยพูดเลยล่ะคะ” ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างกายของคุณเหนือเธอถามขึ้นมา“ฉันไม่ค่อยชอบการพูดคุยกับคนแปลกหน้าสักเท่าไหร่” คำตอบของคุณเหนือช่างร้ายกาจ ถ้าหากว่าฉันเป็นผู้หญิงคนนั้นคงจะหน้าชาไปแล้ว“แล้วทำยังไงแป้งถึงจะไม่ถูกคุณเหนือมองว่าเป็นผู้หญิงแปลกหน้าล่ะคะ” เธอถามอย่างยั่วยวน พร้อมกับใช้มือลูบไล้ไปตามแผงอกแกร่งหมับ!! จู่ๆ คุณเหนือก็หันมา คว้ามือมาโอบเอวฉัน ก่อนจะออกแรงดึงให้ร่างของฉันถลาเข้ามาแนบชิดกับตัวเอง“คะ คุณเหนือ” ฉันดันแผงอกแกร่งเอาไว้เมื่อคุณเหนือเอี้ยวใบหน้าคมคายลงมาใกล้ๆ กับใบหน้าของฉันจนปลายจมูกของเราทั้งคู่มันจรดกัน“อยู่นิ่งๆ” คุณเหนือกดเสียงต่ำบอก ฉันจึงนั่งนิ่งๆ ตามคำสั่งของเขาริมฝีปากหนากดจูบลงมาบนริมฝีปากของฉันในทันที เขาบดขยี้ราวกับเสือที่กำลังฉีกชิ้นเนื้อของเหยื่อ ทำให้ริมฝีปากของฉันมันชาหนึบไปหมดและที่สำคัญตรงนี้ยังมีคนอื่นอยู่ เขาทำแบบนี้ทำไมไม่นานคุณเหนือก็ผละริมฝ
คุณเหนือเร่งกระแทกสะโพกสอบทำให้เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วบริเวณห้องน้ำ“อ๊า ชอบไหม” คุณเหนือกระซิบถามข้างๆ กับใบหูของฉัน แต่ไร้ซึ่งการตอบกลับ ฉันไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้เพราะในตอนนี้มันเจ็บจนพูดไม่ออกมือหนาบีบเคล้นหน้าอกของฉัน คุณเหนือซุกใบหน้าลงมาตะโบมดูนดุนหน้าอกทั้งสองเต้าอย่างหื่นกระหายปัก ปัก ปัก! ฉันจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างเพื่อระบายความเจ็บปวด“อื้ม~” เสียงคำรามออกมาเบาๆ ของคุณเหนือดังขึ้นมาเป็นระยะๆเขาอัดกระแทกเอวสอบส่งท่อนเอ็นเข้ามาในร่างกายของฉันอย่างดิบเถื่อน ผ่านไปประมาณเกือบสิบนาที ร่างของฉันก็ถูกจับให้หันหน้าชนกับผนังห้องน้ำ จากนั้นแก่นกายลำใหญ่ก็ถูกสอดใส่เข้ามาในช่องทางคับแคบอีกครั้งปัก ปัก ปัก ปัก! คุณเหนือกระแทกกระทั้นแก่นกายเข้ามาในร่องแคบของฉันอย่างหนักหน่วง จนฉันแทบจะไม่มีแรงยืนอยู่แล้ว“คะ คุณเหนือ บะ เบาๆ หน่อยได้ไหมคะ” ฉันร้องขอออกไปด้วยน้ำเสียงที่มันกระท่อนกระแท่นขาดหาย เพราะการที่ถูกอัดกระแทกทำให้พูดไม่ได้ศัพท์คุณเหนือไม่ได้ตอบอะไร เขาเร่งจังหวะสะโพกให้รุนแรงขึ้น ราวกับว่าชอบที่ได้ยินเสียงที่ทรมานของฉันแบบนี้ริมฝีปากหนาพรมจูบลงมาทั่วบริเวณแผ่นหลังของฉ