วันต่อมา….ฉันมาทำงานที่บริษัทตามปกติ
ในตอนนี้ข้าวของ พวกของใช้เสื้อผ้า ถูกลูกน้องของคุณเหนือย้ายมาไว้ที่คอนโด ส่วนเรื่องส่งตัวน้องสาวของฉันไปรักษาที่ต่างประเทศ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการ เรื่องค่าใช้จ่ายฉันได้จัดการเรียบร้อยแล้ว เย็นวันนี้ฉันจะไปเยี่ยมนาลินที่โรงพยาบาล
ฉันเดินมายังโต๊ะทำงานของตัวเองแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อโต๊ะทำงานที่นั่งประจำได้หายไป
“อ้าววาริน มองหาโต๊ะทำงานอยู่เหรอจ๊ะ ^_^” พี่เอมถามฉัน
“ใช่ค่ะ”
“คุณเหนือสั่งให้ย้ายไปอยู่ที่หน้าห้องทำงานของเขาน่ะ บอกว่าอยากให้วารินเรียนรู้งานกับเลขา”
“ยะ อย่างนั้นเหรอคะ…” ฉันตอบไปอย่างงุนงง เขาคิดจะทำอะไรก็ไม่ต้องบอก ไม่ต้องถามฉันเลยหรือยังไงกัน
ฉันเดินมาที่หน้าห้องทำงานของคุณเหนือ เห็นว่ามีโต๊ะทำงานของตัวเองตั้งอยู่จริงๆ
“น้องริน คุณเหนือฝากบอกให้เข้าไปพบน่ะจ้ะ” พอฉันเดินมาถึงพี่เลขาก็บอกกับฉันในทันที
“…ค่ะ”
ฉันค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปภายในห้องทำงานของผู้บริหาร ในตอนนี้คุณเหนือกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียง
สายตาของฉันโฟกัสไปยังแผ่นหลังกว้างตรงหน้า ไม่ว่าจะด้านหน้าหรือด้านหลัง ผู้ชายคนนี้ก็ดูดีไม่มีที่ติ
จู่ๆ ใบหน้าของฉันมันก็แดงก่ำเมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่คุณเหนือทำ
คุณเหนือทิ้งบุหรี่ในมือแล้วเดินกลับเข้ามาในห้อง เขาดูไม่ได้ตกใจที่เห็นว่าฉันยืนมองอยู่ แต่กลับเป็นฉันที่ต้องก้มหน้าลงหลบสายตาคู่นั้น
ร่างสูงเดินไปนั่งบนโซฟา ก่อนจะเอ่ยบอกฉัน “มานี่สิ”
ฉันเดินไปหยุดตรงหน้าของคุณเหนืออย่างว่าง่าย เขาล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเองแล้วหยิบบางอย่างขึ้นมา มันคือกุญแจรถยนต์
“นี่ของเธอ รถจอดอยู่ที่คอนโด”
“ขะ ขอบคุณค่ะ”
“เธอควรจะชินกับฉันสักทีนะวาริน เพราะเราต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน”
“….ค่ะ”
จู่ๆ คุณเหนือก็รูดซิบกางเกงลง เขาควักเอาแก่นกายของตัวเองออกมา โดยไม่รู้จักอาย ทำให้ฉันถึงกับต้องเบิกตากว้าง เพราะนี่มันคือครั้งแรกที่ฉันได้เห็นเจ้าสิ่งนั้นเต็มสองตา
“คะ คุณเหนือ….”
“จัดการมันซะ” คุณเหนือพูด พลางใช้มือกำรูดแก่นกายของตัวเองขึ้นลง ทำให้ขนาดของมันเริ่มพองตัวขึ้น
ถึงมันจะคือครั้งแรก ถึงจะไม่อยากทำ แต่ฉันก็ต้องทำ ฉันค่อยๆ นั่งคุกเข่าลงตรงกลางหว่างขาของคุณเหนือ แล้วเอื้อมมือที่สั่นเทาไปสัมผัสกับแก่นกายขนาดใหญ่ที่กำไม่รอบ
“ระ รินทำไม่เป็น”
คุณเหนือจับปลายคางของฉันให้เงยหน้าขึ้นไปสบตากับเขา “ทุกอย่างต้องมีครั้งแรก ฉันจะเป็นคนสอนเธอเอง”
คุณเหนือเอามือของฉันกำแล้วรูดแก่นกายของเขา แทบไม่อยากจะมองมันเลยจริงๆ
“ใช้ปากของเธอทำให้ฉัน” มือหนาจับมาที่หัวของฉันแล้วค่อยๆ กดลงอย่างเบามือ “ใช้ลิ้นตวัดเลีย จากนั้นก็อมมันลงไป”
ฉันลอบกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะแลบลิ้นของตัวเองออกมาแล้วหลับตาปี๋ เมื่อลิ้นของฉันสัมผัสโดนกับส่วนปลายของแก่นกาย มันทำให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“เธอรู้จักคำว่าเลียไหมวาริน”
“ระ รู้ค่ะ”
“เลียวนๆ แล้วค่อยๆ อมมันลงไป”
ฉันไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ จึงใช้ลิ้นตวัดขึ้นลงด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ
“ไม่ได้เรื่อง!!”
ร่างของฉันถูกคุณเหนือผลักออก เขามองหน้าฉันอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเก็บแก่นกายกลับเข้าที่เดิม
“ไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง !!” คุณเหนือเอาแต่ต่อว่าฉัน ก็ฉันไม่เคยนี่ ผิดมากหรือไง
“เธอไม่เคยดูหนังโป๊ ?”
“มะ ไม่เคยค่ะ”
“ต่อไปนี้เธอต้องเปิดหนังโป๊ดูทุกวัน นี่คือคำสั่งของฉัน”
#โรงพยาบาลฉันมาเยี่ยมน้องสาวก่อนที่เธอจะถูกส่งตัวไปรักษาที่ต่างประเทศ“พี่ริน หนูกลัว” นาลินรีบบอกเมื่อเห็นว่าฉันเดินเข้ามาในห้องที่เธอนอนพักฟื้นอยู่ฉันก้าวขาเดินมาหย่อนก้นนั่งลงข้างๆ กับเตียง แล้วกุมมือนาลินเอาไว้“ไม่ต้องกลัว เธอต้องหายเชื่อพี่นะ” พูดแล้วฉันก็ค่อยๆ ยกมือขึ้ลูบหัวนาลิน “พี่จะรอวันที่น้องสาวคนสวยของพี่หายเป็นปกติ ถ้าหายดีแล้วพี่สัญญาว่าจะพาเธอไปเที่ยวทุกที่ที่เธออยากจะไป”“….พี่รินสัญญาแล้วนะคะ”“พี่สัญญา ^_^” ฉันฝืนยิ้มทั้งที่ตอนนี้มันอยากจะร้องไห้ออกมาตั้งแต่เล็กจนโตเราสองพี่น้องไม่เคยแยกจากกันไปไหนไกล แต่ครั้งนี้นาลินต้องถูกส่งตัวไปรักษาไกลถึงต่างประเทศ หากฉันมีเงินมากพอและไม่มีหน้าที่อะไรที่ต้องทำก็คงจะตามไปด้วยแต่ฉันต้องอยู่เป็น ‘สิ่งของ’ ที่คุณเหนืออยากจะเรียกใช้เมื่อไหร่ก็ได้หลังจากเยี่ยมนาลินเสร็จฉันก็มาหาพราว เพื่อนที่สนิทที่สุดของฉัน เรานัดกันมาเดินเล่นที่ห้างหลังจากไม่ได้เจอหน้ากันร่วมเดือน“ริน ทางนี้” เสียงของพราวเรียกบอกฉันพร้อมกับโบกมือไปมาเพื่อให้ฉันมองเห็นตัวเอง แต่การทำแบบนั้นมันกลับทำให้พราวตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นฉันรีบเดินจ้ำเท้าไปหาเพื่อน เ
คุณเหนือเดินนำฉันมาที่รถของตัวเอง ซึ่งจอดอยู่ตรงที่จ]อดวีไอพี บริเวณนี้จะไม่มีรถของใครจอดอยู่เลยสักคัน“ขึ้นรถ”“ตะ แต่รินเอารถมา…”“ฉันบอกให้เธอขึ้นรถ” คุณเหนือกดเสียงต่ำ ทำให้ฉันรีบเปิดประตูเข้ามานั่งด้านในอย่างว่าง่ายเมื่อฉันเข้ามานั่งด้านในรถ คุณเหนือก็เปิดประตูเข้ามานั่งตรงเบาะคนขับ เขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่สวมใส่อยู่ออก แล้วถอดมันก่อนจะโยนมันไปไว้ที่เบาะหลัง จากนั้นก็ดึงเน็กไทลงพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อสองสามเม็ดใบหน้าเกรี้ยวกราดหันมาจ้องฉันอย่างเอาเรื่อง “เอาเงินที่ฉันให้มาเลี้ยงผู้ชาย ?”“มะ ไม่ อื้อ…” ไม่ทันที่
ตึกดึก….ฉันอาบน้ำและแต่งตัวด้วยชุดนอนที่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวสีชมพูอ่อนลายหมีที่คุณเหนือพูดว่าคืนนี้เขาจะมานอนที่นี่มันทำให้จิตใจของฉันเริ่มไม่อยู่กับร่องกับรอย เอาแต่คิดฟุ้งซ่านไปต่างๆ นาๆไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้ว่าความหมายของคำพูดคุณเหนือคืออะไร เพราะฉันรู้ ถึงได้คิดหาวิธีว่าจะเอาตัวเองให้รอดพ้นคืนนี้ไปได้ยังไง ฉันยังไม่พร้อม และไม่อยากที่จะเลยเถิดไปถึงขั้นนั้นถึงจะรู้ดีว่าสุดท้ายนี่ก็คือสิ่งที่คุณเหนือต้องการ….“นี่มันคือสิ่งที่ตัวฉันต้องเจอไม่ใช่หรือไง” ฉันพูดกับตัวเองเบาๆ แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แกร็ก! เสียงประตูห้องถูกเปิดออก ฉันที่นั่งคิดไม่ตกอยู่บนโซฟาค่อยๆ หันมองที่ประตู เห็นคุณเหนือกำลังเดินเข้ามาภายในห้องหัวใจดวงน้อยมันกระตุกวูบเมื่อเห็นสายตาที่ดุดันคู่นั้นของคุณเหนือจ้องมองมายังใบหน้าของฉัน เหมือนกับว่าฉันไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจอย่างไงอย่างงั้น หรือว่ายังหงุดหงิดเรื่องวันนี้อยู่อีกนะ“เธอใส่ชุดนี้รอฉัน ?”“ดะ เดี๋ยวรินไปเอาน้ำมาให้ดื่มนะคะ” ฉันรีบลุกขึ้นแต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวขาเดินไปไกล เสียงเย็นยะเยือกของคุณเหนือก็เอ่ยขัดขึ้นมาซะก่อน “ฉันจะอาบน้ำ ไปเตรียมน้ำอุ่นไว้ในอ่
มือหนาเอื้อมมาดึงผ้าปิดตาออกให้ฉัน ทำให้มองเห็นอะไรต่อมิอะไรตรงหน้าได้ชัดเจนขึ้น ร่างกายกำยำของคุณเหนือกำลังโยกเอวเข้าหาร่างบอบบางของฉันอย่างหนักหน่วงเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา กระเซ็นหยดใส่ฉันยามที่เขาอัดกระแทกฉันเบือนหน้าหนีเพราะไม่อยากเห็นภาพตรงหน้าแล้วกัดริมฝีปากจนห้อเลือดจากความเจ็บปวดที่ได้รับปัก ปัก ปัก! เสียงเนื้อกระทบกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนลง พร้อมๆ กับความปวดร้าวที่ทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ“มองหน้าฉันสิวาริน อ๊า” เสียงทุ้มต่ำออกคำสั่ง ทำให้ฉันต้องจำใจค่อยๆ หันมามองหน้าเขาช้าๆคุณเหนือถอดแก่นกายออกไป มือหนาพลิกร่างของฉันให้นอนคว่ำหน้าลง ก่อนจะจับสะโพกมนโก่งขึ้นจนโค้ง สอดใส่ลำเอ็นอันเขื่องเข้ามาอีกครั้ง แล้วตามด้วยแรงกายที่กระแทกกระทั้นเข้าใส่อย่างป่าเถื่อน“อึก ระ รินเจ็บ คุณเหนือรินไม่ไหวแล้วค่ะ” ฉันเอ่ยปากวิงวอนคุณเหนืออีกครั้ง หวังให้เขาลดความดิบเถื่อนลงบ้าง แต่กลับไม่ได้รับความเห็นใจเลยสักนิด“อ๊า แน่น อ๊า”มือหนาฟาดลงมาบนแก้มก้นของฉันสามสี่ครั้งแล้วบีบเคล้นอย่างหนักหน่วง ขณะเดียวกันกันก็ควบเอวสอบโถมเข้ามาอย่างบ้าคลั่งนี่เป็นครั้งแรกที่ฉั
สายตาของคุณเหนือมันแสดงออกถึงความไม่พอใจที่ฉันถามอะไรแบบนั้นออกไปคุณเหนือเดินเข้ามาใกล้ จากนั้นก็โอบเอวของฉันแล้วดึงตัวฉันให้แนบชิดติดกับตัวเอง“ทำไมถึงตั้งคำถามโง่ๆ แบบนั้นกับฉัน ?” สายตาคมกริบของคนตรงหน้ากำลังมองฉันอย่างคาดคั้น“ระ รินมีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องนี้ไม่ใช่เหรอคะ”“เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน” คุณเหนือย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“หน้าที่ของเธอมีแค่นอนแก้ผ้าให้ฉัน…” คุณเหนือเว้นคำพูด แต่ฉันก็พอจะเดาได้ว่าเขาหมายจะพูดอะไร “อย่าอยากรู้ในสิ่งที่ฉันไม่ต้องการจะพูด เข้าใจที่ฉันบอกใช่ไหม ?”“ขะ เข้าใจแล้วค่ะ”“หวังว่าเธอจะไม่ตั้งคำถามโง่ๆ มากวนใจฉันอีกนะวาริน”“…ค่ะ”มือหนาจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้น เพราะฉันเอาแต่ก้มหน้าไม่กล้าเงยขึ้นมองเขา จู่ๆ คุณเหนือก็กดริมฝีปากลงมาบดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงฉันที่ตกใจทำอะไรไม่ถูกจึงรีบดันตัวเขาออก เพราะตรงนี้มันคือลานจอดรถ ถ้าเกิดมีใครมาเห็นเข้าจะทำยังไงแต่ยิ่งฉันพยายามผลักเท่าไหร่คุณเหนือก็ยิ่งจูบหนักขึ้น ฉันจึงค่อยๆ หยุดนิ่งปล่อยให้คุณเหนือทำตามใจตัวเอง เมื่อฉันเลิกที่จะขัดขืน คุณเหนือก็ค่อยๆ ปล่อยริมฝีปากของฉันให้เป็นอิสระ“นี่คือบท
ฉันจำใจต้องนั่งลงที่เดิมเพื่อรอ รอให้คุณเหนือเป็นคนอนุญาตให้กลับได้ตลอดเวลาที่นั่งอยู่ฉันเอาแต่คิดถึงหน้านาลิน น้องสาวของฉัน จึงทำให้มีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างคนไร้ค่าแบบนี้“คุณเหนือทำไมถึงไม่ค่อยพูดเลยล่ะคะ” ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างกายของคุณเหนือเธอถามขึ้นมา“ฉันไม่ค่อยชอบการพูดคุยกับคนแปลกหน้าสักเท่าไหร่” คำตอบของคุณเหนือช่างร้ายกาจ ถ้าหากว่าฉันเป็นผู้หญิงคนนั้นคงจะหน้าชาไปแล้ว“แล้วทำยังไงแป้งถึงจะไม่ถูกคุณเหนือมองว่าเป็นผู้หญิงแปลกหน้าล่ะคะ” เธอถามอย่างยั่วยวน พร้อมกับใช้มือลูบไล้ไปตามแผงอกแกร่งหมับ!! จู่ๆ คุณเหนือก็หันมา คว้ามือมาโอบเอวฉัน ก่อนจะออกแรงดึงให้ร่างของฉันถลาเข้ามาแนบชิดกับตัวเอง“คะ คุณเหนือ” ฉันดันแผงอกแกร่งเอาไว้เมื่อคุณเหนือเอี้ยวใบหน้าคมคายลงมาใกล้ๆ กับใบหน้าของฉันจนปลายจมูกของเราทั้งคู่มันจรดกัน“อยู่นิ่งๆ” คุณเหนือกดเสียงต่ำบอก ฉันจึงนั่งนิ่งๆ ตามคำสั่งของเขาริมฝีปากหนากดจูบลงมาบนริมฝีปากของฉันในทันที เขาบดขยี้ราวกับเสือที่กำลังฉีกชิ้นเนื้อของเหยื่อ ทำให้ริมฝีปากของฉันมันชาหนึบไปหมดและที่สำคัญตรงนี้ยังมีคนอื่นอยู่ เขาทำแบบนี้ทำไมไม่นานคุณเหนือก็ผละริมฝ
คุณเหนือเร่งกระแทกสะโพกสอบทำให้เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วบริเวณห้องน้ำ“อ๊า ชอบไหม” คุณเหนือกระซิบถามข้างๆ กับใบหูของฉัน แต่ไร้ซึ่งการตอบกลับ ฉันไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้เพราะในตอนนี้มันเจ็บจนพูดไม่ออกมือหนาบีบเคล้นหน้าอกของฉัน คุณเหนือซุกใบหน้าลงมาตะโบมดูนดุนหน้าอกทั้งสองเต้าอย่างหื่นกระหายปัก ปัก ปัก! ฉันจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างเพื่อระบายความเจ็บปวด“อื้ม~” เสียงคำรามออกมาเบาๆ ของคุณเหนือดังขึ้นมาเป็นระยะๆเขาอัดกระแทกเอวสอบส่งท่อนเอ็นเข้ามาในร่างกายของฉันอย่างดิบเถื่อน ผ่านไปประมาณเกือบสิบนาที ร่างของฉันก็ถูกจับให้หันหน้าชนกับผนังห้องน้ำ จากนั้นแก่นกายลำใหญ่ก็ถูกสอดใส่เข้ามาในช่องทางคับแคบอีกครั้งปัก ปัก ปัก ปัก! คุณเหนือกระแทกกระทั้นแก่นกายเข้ามาในร่องแคบของฉันอย่างหนักหน่วง จนฉันแทบจะไม่มีแรงยืนอยู่แล้ว“คะ คุณเหนือ บะ เบาๆ หน่อยได้ไหมคะ” ฉันร้องขอออกไปด้วยน้ำเสียงที่มันกระท่อนกระแท่นขาดหาย เพราะการที่ถูกอัดกระแทกทำให้พูดไม่ได้ศัพท์คุณเหนือไม่ได้ตอบอะไร เขาเร่งจังหวะสะโพกให้รุนแรงขึ้น ราวกับว่าชอบที่ได้ยินเสียงที่ทรมานของฉันแบบนี้ริมฝีปากหนาพรมจูบลงมาทั่วบริเวณแผ่นหลังของฉ
วันนี้ทั้งวันฉันเอาแต่คิดไม่ตก ที่คุณเหนือบอกจะไปวันเกิดเพื่อนกับฉัน ถ้าเขารู้ว่าฉันโกหกต้องแย่แน่ๆหรือว่าฉันควรจะโทรไปบอกพราวว่าไม่ได้ไปแล้ว“เฮ้อ!” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ทำให้พี่รุ้งที่นั่งตรงข้ามเงยหน้าขึ้นมามอง“เป็นอะไรหรือเปล่าริน ?” พี่รุ้งถาม“ปะ เปล่าค่ะ”“พี่คิดว่าคุณเหนือพูดอะไรให้ไม่สบายใจซะอีก”“มะ ไม่ๆ ค่ะ คุณเหนือไม่ได้พูดอะไร”#เลิกงานฉันรีบลงจากตึกบริษัท ทำเหมือนลืมว่าคุณเหนือบอกว่าจะไปด้วย แบบนี้มันคงดีกว่าให้เขาไปเห็นว่าฉันโกหกจริงๆ ฉันกับพี่เพชรมันไม่ได้มีอะไรทั้งนั้น แต่คุณเหนือยืนยันชัดเจนว่าห้ามฉันยุ่งกับผู้ชายคนไหนไม่รู้ว่าทำไมถึงตั้งกฎอะไรแบบนี้กัน ทำเหมือนว่าโลกใบนี้มีแค่ผู้หญิงอย่างนั้นแหละ เขาน่าจะเข้าใจบ้างว่าฉันเองก็มีเพื่อน มีพี่คนรู้จักที่เป็นผู้ชาย ไม่ได้เป็นชู้อะไรแบบที่กล่าวหาสักหน่อย“รีบร้อนจังเลยนะ ฉันคงไม่ได้คิดไปเองว่าเธอกำลังคิดจะหนี”เฮือก!! ขนอ่อนบริเวณแผ่นหลังของฉันมันลุกซู่เมื่อได้ยินเสียงอำมหิตที่คุ้นเคยท้วงขึ้นมาฉันค่อยๆ หมุนตัวหันกลับมามองทางด้านหลังของตัวเอง เห็นคุณเหนือกำลังยืนกอดอกจ้องหน้าฉันตาเขม็งอยู่“คือริน รินคิดว่าคุณเหนือพู