ฉินเหยี่ยนเย่ว์คว้าราวกั้นโดยไม่รู้ตัว พลางกัดฟันแน่น “ฉินเสวี่ยเย่ว์ เจ้าใช้ประโยชน์จากคนบริสุทธิ์ นี่จะนับเป็นความสามารถอะไร!”ตอนที่นางวางยาพิษ นางสังเกตทิศทางของลมอย่างระมัดระวังแม่ลูกคู่นั้นไม่ได้อยู่ในที่ลมพัดผ่าน จึงไม่มีทางเป็นอันตรายทว่าตำแหน่งของฉินเสวี่ยเย่ว์คือหันหน้าไปทางลมพัดผ่าน และ
นางลอบคิดว่าแย่แล้วแม้ว่าที่นี่จะมีราวกั้น ทว่ามีผู้คนมากมาย ราวกั้นก็อาจถูกชนจนพังได้ง่ายเมื่อราวกั้นพัง นางจะต้องถูกผลักลงไปเป็นแน่!ภายใต้ปฏิกิริยาการตอบสนองกลับ นางหยิบเข็มพิษออกมา แล้วแทงเข็มเข้ามือข้างนั้นที่ยื่นออกมาผลักหลังจากที่มือข้างนั้นเจ็บ ไม่นานก็สูญเสียเรี่ยวแรง ทำเพียงปล่อยไปฉินเ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่สนใจคนบ้าคนนี้อีกต่อไปแล้วหลังจากเสื้อผ้าฝ้ายเนื้อหนาดูดซับน้ำก็ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวอย่างมาก ร่างกายของนางจมดิ่งลงไปเรื่อย ๆ ความรู้สึกหายใจไม่ออกและความรู้สึกหนาวเหน็บมาประสานกัน“ฉินเหยี่ยนเย่ว์!” ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่ฉินเสวี่ยเย่ว์ว่ายน้ำไปถึงตัวนางแล้ว “เอามา!”“เอามาเร็วเ
คนทั้งคนเข้ามาในสภาวะที่มีสติแจ่มชัดนั้นกลับเป็นครั้งแรกครั้งนี้ ไม่ใช่ภาพลวงตา แต่ได้เข้ามาแล้วจริง ๆแม้แต่คนก็เข้ามาพร้อมกันได้!ภาพเหตุการณ์นี้มหัศจรรย์มาก นางแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองนางจึงหยิกตัวเอง ทว่าเจ็บร่างกายที่แช่อยู่ในน้ำนั้นเย็นเยียบและสั่นเทามากหลังจากลุกขึ้นนั่งแล้วไออย่างรุนแรงหลา
หนาว!น้ำเย็นจัดที่ไหลเข้าจมูกและลำคอนั้น ทำเอาไม่สามารถหายใจได้ในทันทีฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกได้ว่า ศีรษะของนางกำลังถูกใครบางคนกดเอาไว้ทำให้มิอาจลุกออกมาจากน้ำเย็นได้ในระหว่างที่นางกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่นั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายผ่านคลื่นน้ำที่กระจายไปมาได้ใน
“เฮ้อ พูดถึงโจโฉโจโฉก็มาหา” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เย็นชาท่านอ๋องสามในความทรงจำของเจ้าของเดิมนั้น เป็นบุรุษเจ้าชู้โดยแท้ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า พร้อมทั้งเป่าผมให้แห้งอย่างลวก ๆเดิมทีร่างกายนี้ยังอ่อนแอมากนัก แม้ว่าจักจะอาบน้ำต้มยาเพื่อขับไล่ความหนาวเย็นออกไปแล้วก
“ยังมิเหมาะที่จะด่วนสรุปในตอนนี้?” นัยน์ตาของท่านอ๋องสามพลันฉายแววเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมองฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยหางตา “มีคนเห็นว่าเจ้าเตะเสวี่ยเอ๋อร์ลงไป เจ้ายังกล้าที่จะปฏิเสธอีกหรือ?”“หม่อมฉันมิเคยคิดที่จะปฏิเสธเพคะ”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางยืนตัวตรง ทั้งน้ำเสียงและนัยน์ตาที่สื่อออกมาหาได้มีท่าที
สีหน้าของท่านอ๋องสามพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเองก็คร้านที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป จึงได้ก้าวเดินออกไปด้วยท่าทีฉุนเฉียวในทันที ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่หลับตาลง ก่อนจะแหงนหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าพร้อมทั้งถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกลมหายใจที่ถูกปล่อยออกมานั้น พลันกลายเป็นไอหมอกสีขาวขุ่นในทันที พลางจางหายไปในอากาศอย
คนทั้งคนเข้ามาในสภาวะที่มีสติแจ่มชัดนั้นกลับเป็นครั้งแรกครั้งนี้ ไม่ใช่ภาพลวงตา แต่ได้เข้ามาแล้วจริง ๆแม้แต่คนก็เข้ามาพร้อมกันได้!ภาพเหตุการณ์นี้มหัศจรรย์มาก นางแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองนางจึงหยิกตัวเอง ทว่าเจ็บร่างกายที่แช่อยู่ในน้ำนั้นเย็นเยียบและสั่นเทามากหลังจากลุกขึ้นนั่งแล้วไออย่างรุนแรงหลา
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่สนใจคนบ้าคนนี้อีกต่อไปแล้วหลังจากเสื้อผ้าฝ้ายเนื้อหนาดูดซับน้ำก็ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวอย่างมาก ร่างกายของนางจมดิ่งลงไปเรื่อย ๆ ความรู้สึกหายใจไม่ออกและความรู้สึกหนาวเหน็บมาประสานกัน“ฉินเหยี่ยนเย่ว์!” ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่ฉินเสวี่ยเย่ว์ว่ายน้ำไปถึงตัวนางแล้ว “เอามา!”“เอามาเร็วเ
นางลอบคิดว่าแย่แล้วแม้ว่าที่นี่จะมีราวกั้น ทว่ามีผู้คนมากมาย ราวกั้นก็อาจถูกชนจนพังได้ง่ายเมื่อราวกั้นพัง นางจะต้องถูกผลักลงไปเป็นแน่!ภายใต้ปฏิกิริยาการตอบสนองกลับ นางหยิบเข็มพิษออกมา แล้วแทงเข็มเข้ามือข้างนั้นที่ยื่นออกมาผลักหลังจากที่มือข้างนั้นเจ็บ ไม่นานก็สูญเสียเรี่ยวแรง ทำเพียงปล่อยไปฉินเ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์คว้าราวกั้นโดยไม่รู้ตัว พลางกัดฟันแน่น “ฉินเสวี่ยเย่ว์ เจ้าใช้ประโยชน์จากคนบริสุทธิ์ นี่จะนับเป็นความสามารถอะไร!”ตอนที่นางวางยาพิษ นางสังเกตทิศทางของลมอย่างระมัดระวังแม่ลูกคู่นั้นไม่ได้อยู่ในที่ลมพัดผ่าน จึงไม่มีทางเป็นอันตรายทว่าตำแหน่งของฉินเสวี่ยเย่ว์คือหันหน้าไปทางลมพัดผ่าน และ
“หยุดนะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตวาดใส่ “ฉินเสวี่ยเย่ว์ ถ้าเจ้าก้าวมาข้างหน้าอีกก้าวเดียว จะถูกยาพิษจนตาย ข้ารับรองได้ว่าการตายของเจ้าจะน่าสังเวชกว่าข้าเป็นพันเป็นหมื่นเท่า”ใบหน้าของฉินเสวี่ยเย่ว์เต็มไปด้วยความชั่วร้าย“ท่านอย่าคิดจะโกหกข้าเลย” นางกล่าวอย่างอำมหิตทว่าร่างกายกลับหยุดลง และยื่นมือออกไปอย่าง
อาการปวดหัวของตงฟางหลีเป็นเพราะหลงเข้าไปในป่าพิษ และสูดดมพิษมากเกินไปแม้ว่านางจะควบคุมดูแลอาการปวดหัวของเขาไว้ได้ ทว่า หากไม่ถอนรากถอนโคน อันตรายที่ซ่อนเร้นอยู่จะร้ายแรงเกินไปจำเป็นต้องค้นหาสาเหตุของโรค ถึงจะกำจัดโรคเรื้อรังได้จนหมดสิ้นวิธีที่ตรงจุดที่สุดคือไปยังป่าพิษที่เขาเคยไปมาก่อนภูเขาตระหง
เมื่อถึงเวลานั้น สองมือนี้ก็จำต้องตัดทิ้งถึงจะรักษาชีวิตไว้ได้“พวกเจ้ามีที่อยู่อาศัยหรือไม่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถามหญิงผู้นั้นส่ายหน้า “พวกเราไม่เป็นคนที่เมืองเหวินจิง เงินจำนวนน้อยนิดที่เหลืออยู่ระหว่างทางมาที่นี่ก็ถูกขโมยไป เราอับจนหนทาง ทั้งหิวโหยและหนาวเหน็บ ได้ยินว่าจวนองค์หญิงแจกโจ๊กจึงมา ทำให้
หลิ่วฉืออยู่ในอาการตระหนกอยู่ตลอด หัวสมองขาวโพลน และไม่สามารถสังเกตถึงสถานการณ์โดยรอบได้ครั้นได้ยินคำพูดของฉินเหยี่ยนเย่ว์ ก็รู้สึกตัวในทันทีเขาและพระสนมเหยาสบตากัน พยักหน้าให้กัน และเดินออกไปที่ด้านนอกประตูเงียบ ๆพระสนมเหยาขยับเก้าอี้เตี้ยตัวเล็กแล้วนั่งลงไม่ไกลนัก ขณะที่ลูบแมวไปด้วยก็หาเรื่องมา
“ไม่ได้ทุกข์ทรมานเลย พระสนมเหยา...” หลิ่วฉือเองก็สะอื้นเช่นกัน “ไม่สิ”“พี่หญิง...”“พี่หญิง หลายปีมานี้ท่านสบายดีหรือไม่?”เดิมพระสนมเหยาก็ตื่นเต้นอยู่แล้ว และเมื่อได้ยินคำนี้ “พี่หญิง” อารมณ์อันหลากหลายก็พลุ่งพล่านเข้ามาในใจของนางนางตื่นเต้นมากจนพูดไม่ออก ทำได้เพียงเอาผ้าเช็ดหน้าปิดแก้ม แล้วปล่อย