ไท่เฟยฉางยกป้ายทองของอดีตฮ่องเต้ขึ้น “พวกพระองค์จะฝ่าฝืนราชโองการอย่างเปิดเผยรึ?"“ไท่เฟยฉาง” เมื่อเห็นว่าไท่เฟยฉางยังคงพูดต่อไป กระแสเสียงของอ๋องอี๋หยางจึงเย็นเยียบลง “ขอพระองค์เย็นพระทัยลงบ้าง”“อุปนิสัยของเสด็จพี่ พระองค์น่าจะทรงทราบดี เขาจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ตัดสินไปแล้ว หากพระองค์ยืนกราน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น นางจะขโมยของไปได้อย่างไร?“เจ้ายังกล้าเล่นลิ้นอีก” พระพันปีสะบัดแขนเสื้อ “แหวนวงนั้นหายไปในวันที่เหมาเหมาหายไป วันถัดมาข้าก็ล้มป่วยแล้ว หลังจากที่ข้าป่วย มีเพียงเจ้าคนเดียวที่ใกล้ชิดกับหมอหลวงทุกคน เป็นไปไม่ได้ที่หมอหลวงจะอาจหาญถอดแหวนนั้นออกไป มีเพียงเจ้าเท่านั้น”“ถูกต้อง เ
“เสด็จพ่อเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มีสีหน้าขอประทานอภัย “นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของลูก ลูกต้องล้างความอยุติธรรมของตนเอง ลูกขอร้องให้เสด็จพ่อประทานอภัย ให้กับการทำตามอำเภอใจของลูก และให้โอกาสลูกได้หักล้างข้อกล่าวหาให้ตัวเองด้วยเพคะ”ฮ่องเต้ไม่มีคำพูดใดออกมา มีเพียงเสียงแค่นหัวเราะอย่างเย็นช
องค์หญิงจ่างซีมั่นใจว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์จะพ่ายแพ้ นางเชิดหน้าขึ้นสูง “เสด็จพี่สองพระองค์ทรงเป็นพยาน ข้าล่ะอยากเห็นว่าเจ้าสามารถพลิกแพลงอะไรออกมาอีก”“หม่อมฉันพลิกแพลงอะไรไม่ได้หรอกเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กางมือออก พร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้า“เพียงแต่หม่อมฉันโชคดีกว่า องค์หญิงจ่างซี พระองค์ฟังให้ดีนะ
“เจ้าว่าอะไรนะ?” ใบหน้าขององค์หญิงจ่างซีพลันเปลี่ยนเป็นมืดทะมึนแหวนอยู่ในท้องของเหมาเหมา แล้วยังถูกถ่ายออกมาจากแมวตัวนั้น?เมื่อครู่ หลังจากที่นางเลียหินหยกบนแหวน ก็รู้สึกว่าความเย็นไม่ชัดเจนนัก เพื่อแยกแยะของจริง จึงเลียมันอยู่หลายครั้งก่อนที่จะรู้สึกถึงความเย็นอันเป็นเอกลักษณ์นั้นหลังจากเลียแล้ว
“นี่ หรือว่าไม่มีคนเอาเรื่องที่ตำหนักเป่าหยวนมาบอกท่านเลยหรือ?” ตงฟางอิงจับคาง พลางกระพริบตา ใบหน้าบริสุทธิ์ไร้เดียงสา “วันนั้นที่ตำหนักเป่าหยวนเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น พระพันปีควรจะรู้สิถึงจะถูกต้อง”“ตำหนักเป่าหยวนหรือ? ตำหนักเป่าหยวนเกิดเรื่องอะไรขึ้น” พระพันปีสีหน้าตกตะลึงวันนั้นสติสัมปชัญญะของนางไม่
“พระสนมเหยาเชิญเพคะ” ความประทับใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่มีต่อพระสนมเหยาไม่เลวนักคนที่พูดออกมาว่าชีวิตสัตว์มิอาจดูแคลนได้เช่นนี้ จิตใจไม่เลวร้ายเท่าใดนัก“พระชายาอ๋องเจ็ดเชิญ เชิญอุ้มเหมาเหมาไว้สักหน่อย” พระสนมเหยาวางเหมาเหมาไว้ในอ้อมแขนของฉินเหยี่ยนเย่ว์ฉินเหยี่ยนเย่ว์ลูบหัวเหมาเหมาอย่างรักใคร่เหมา
ในบรรดาองค์ชายเหล่านี้ มีเพียงเจ้าสิบที่เฝ้าอยู่ข้างกายเขา ความรู้สึกของเขาที่มีต่อเจ้าสิบจึงนับว่าไม่ธรรมดาเมื่อเห็นว่าเขามีความสามารถแปลกเช่นนี้ เขาที่เป็นบิดาผู้นี้ก็อารมณ์เบิกบานขึ้นมา“ข้าก็แค่เดา” ตงฟางอิงพูด“องค์ชายสิบ ท่านยอดเยี่ยมมากเพคะ” พระสนมเหยาหัวเราะ “พระพันปีเพคะ โปรดให้หม่อมฉันอุ
เรื่องที่ซูเตี่ยนฉิงแต่งเข้ามาแล้วเจ้าเจ็ดก็จะสละฐานะอ๋องนี้ เห็นได้ชัดเจนว่า สามีภรรยาคู่นี้เคยมีการหารือกันมาก่อนล่วงหน้าแล้วเขามีสีหน้าคาดไม่ถึงสามีภรรยาคู่นี้ คนหนึ่งคิดจะหย่าไปแบบง่าย ๆ ส่วนอีกคนก็สละฐานะอ๋องได้แบบง่าย ๆกล้าหาญกันจริง ๆ!“ตงฟางจ้งหัว” ลู่จิ้นเห็นท่าทีจากไปด้วยความเศร้าโศกเสี
ฮ่องเต้ไตร่ตรองครู่หนึ่ง “หากได้ดื่มชานมอีกสักแก้ว เราก็อนุญาต”“เสวยรสหวานมากเกินไปแล้วเพคะ วันนี้เสวยอีกไม่ได้แล้ว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้น“เรากับขุนนางเฮ่อที่รักมีเรื่องต้องหารือกัน ขุนนางเฮ่อที่รักไม่มีเวลาพูดคุยกับเจ้าหรอก” ฮ่องเต้เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจใบหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันมืดมนการใช
“ใช้สุรากลบความเศร้า มิสู้เริ่มเปลี่ยนความขมขื่นให้กลายเป็นความหวานเสียดีกว่า”ตงฟางเจวี๋ยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเขาลังเลอยู่นาน และในที่สุดก็หยิบชานมแก้วนั้นมา แล้วจิบเบา ๆ หลังจากดื่มฟองนมชั้นบนสุด ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยในรสชาติหวานแฝงรสชาติเค็มเล็กน้อย เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม รสชาติอร่อยเข
“ท่านพูดอะไรนะ?” มือของตงฟางหลีที่ถือแก้วสุราค้างเติ่งอยู่กลางอากาศแก้วสุราลื่นลงมาครั้นเห็นว่าแก้วกำลังจะตกลงบนโต๊ะ เขาก็รีบคว้าไว้และมีสีหน้าตกใจ “เสด็จพ่อ จะให้ซูเตี่ยนฉิงแต่งงานกับท่านหรือ?”บนใบหน้าของตงฟางเจวี๋ยไม่ได้แสดงออกอะไรเป็นพิเศษ“อืม หลังนางจากไป ข้าก็เหมือนศพเดินได้ จะแต่งงานกับใคร
เป็นเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตงฟางหลีรู้สึกว่าตงฟางเจวี๋ยผิดปกติทีเดียวเมื่อก่อนพี่รองดื่มสุราน้อยมาก ยกแก้วก็ดื่มจนหมดเหมือนเช่นนี้ หาได้ยากมาก ๆ“พี่รอง ข้าจำได้ว่าเหยี่ยนเย่ว์เคยบอกว่าท่านไม่สามารถดื่มเหล้าได้” เขาจะแย่งแก้วสุราของตงฟางเจวี๋ยมา“วันนี้เจ้าให้ข้าดื่มสักหน่อยเถอะ” ตงฟางเจวี๋หลบนิ้วม
สีหน้าของฮ่องเต้ยังคงมืดทะมึนนักลูกหลานเชื้อพระวงศ์ ไหนเลยจะไม่มีสามภรรยาสี่อนุชายา ถือเป็นความสุขของผู้คนทั่วไป?แม้แต่เจ้าห้าซึ่งกลัวภรรยาที่สุดก็ยังมีเรือนอนุชายาถึงสองเรือนเจ้าเจ็ดอยากจะแต่งภรรยาเพียงคนเดียวจริง ๆ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในราชวงศ์“เจ้าเจ็ด เจ้าจะขัดราชโองการหรือ?”“ล
“จริงแท้แน่นอน”“หลายปีมานี้ ซูเตี่ยนฉิงโกหกเจ้ามาตลอดหรือ?” แม้แต่ฮ่องเต้เองก็รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าประหลาดใจ และอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแทรกขึ้นมาในวังนั้นคนอื่นมีอำนาจก็ประจบสอพลอ สูญสิ้นอำนาจก็ไม่แยแส หลังจากพระสนมอวิ๋นประสบกับความลำบาก อ๋องเจ็ดก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก และยังเกือบจะเสียชีวิตอยู่ในทะเ
ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่ง “เมื่อก่อนมิใช่ว่าเจ้าอยากแต่งงานกับนางมากหรือ?”ในฐานะพระโอรสลำดับที่เจ็ด การที่จะมีสตรีโปรดปรานหลายคนถือเป็นเรื่องปกติมาก ๆแต่งงานกับคนนี้แล้ว แต่งงานกับคนนั้นต่อ ก็เป็นเรื่องปกติเช่นกันแม้ว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์จะริษยา ก็ไม่ควรให้นางทำตามอำเภอใจหากต่อไปสามารถส
เมื่อหายโกรธแล้วอย่าลืมคืนตำแหน่งให้เหยี่ยนเย่ว์กลับมา...ฮ่องเต้มองท่าทีของตงฟางหลี ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “มองไม่ออกเลยว่าเจ้ายังมีความรักหวานซึ้งด้วย รอนางให้กำเนิดท่านอ๋องน้อยก่อน เราถึงจะคืนตำแหน่งพระชายาเอกให้นาง”สีหน้าของตงฟางหลีไม่น่ามอง “นี่คงต้องใช้เวลานานทีเดียว”“ทำไม เจ้าไม่ไหว หรือศิษย์น