คนเลี้ยงแมวต่างรู้ดีว่า ไม้เทียนเหลี่ยวปริมาณเล็กน้อยมีประโยชน์ต่อแมวทว่า ไม้เทียนเหลี่ยวปริมาณมากอาจทำให้เสพติดได้เหมาเหมาเคยถูกป้อนไม้เทียนเหลี่ยวปริมาณมากเข้าไป จึงได้สร้างภาระต่ออวัยวะภายในร่างกายแล้ว การที่ไม่เกิดอะไรขึ้นนับว่าเป็นการโชคดี หากป้อนไม้เทียนเหลี่ยวปริมาณมากเข้าไปอีก ไม่ตายก็คง
“เสด็จแม่ ช่วยลูกด้วยเพคะ” องค์หญิงจ่างซีมิกล้ามิเชื่อฟังอ๋องอี๋หยาง ได้แต่เอาความคาดหวังไปไว้ที่พระพันปี“ลูกทำไปก็เพื่อแบ่งเบาความทุกข์ให้ท่านนะเพคะ ท่านหาแหวนไม่เจอ ลูกร้อนใจยิ่งนัก ยิ่งกว่านั้น พวกเราตรวจสอบทุกคนแล้ว เหลือเพียงฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ไม่ได้ตรวจสอบ ลูกจึงคิดว่าเป็นฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ขโม
เมื่อฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นท่าทีลังเลไม่ตัดสินใจของพระพันปี ในก้นบึ้งหัวใจพลันหนักอึ้งองค์หญิงจ่างซีถูกพระพันปีเลี้ยงดูจนเสียคนแล้ว คิดว่าโลกทั้งใบล้วนเป็นมารดาของนาง มิว่าผู้ใดหรือมิว่าเรื่องอันใดต้องทำตามใจนางเรื่องในครั้งนี้ ผู้ที่ยืนกรานว่านางขโมยของคือองค์หญิงจ่างซี องค์หญิงจ่างซีเอาอำนาจมาแก้แค
นอกตำหนักไท่อี๋องค์หญิงจ่างซีที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององครักษ์ กำลังคุกเข่าลงกับพื้น คลานไปพลางเห่าไปพลางพระพันปีทนมองมิได้ จึงตะโกนเรียกเกี้ยวหยกมา แล้วรีบจากไปทันทีฮ่องเต้กวาดสายตามองอย่างเย็นชา ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อ กลับตำหนักไท่อี๋ไปขณะที่เขากลับไปนั้น พลันมองเห็นรั่วสุ่ยที่ยืนสงบเสงี่ยมอยู
ลดตำแหน่งจากพระชายาเอกเป็นพระชายารอง หลังจากเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป เหยี่ยนเย่ว์จะต้องกลายเป็นตัวตลกของเมืองเหวินจิงสำหรับเหยี่ยนเย่ว์แล้ว นี่เป็นความอัปยศ“เสด็จ...”“เสด็จพ่อ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ชิงพูดตัดหน้าเขา ก่อนจะฉวยโอกาสดึงชายอาภรณ์เขาไว้ เป็นสัญญาณให้เขาเงียบตงฟางหลีจิตใจไม่สงบสุข หากแต่ตอนที่เ
ตงฟางหลีใบหน้าไม่เปลี่ยนสี “เสด็จพ่อ ไม่ว่าจะพูดอีกกี่รอบ ความคิดของลูกก็จะไม่เปลี่ยนแปลง ลูกมิอาจปฏิเสธเสด็จพ่อได้ ทว่า ลูกสามารถทิ้งตำแหน่งนี้ได้พ่ะย่ะค่ะ”หากมีสตรีอื่นยัดเยียดเข้ามา เหยี่ยนเย่ว์จะต้องจากไปโดยไม่ลังเลแน่แม้กระทั่งนางเขายังรั้งไว้ไม่ได้ ต้องการฐานะอ๋องนี้ไปจะมีประโยชน์อันใด?เรื่
ตงฟางหลีรู้สึกหนักใจยิ่งนักเหยี่ยนเย่ว์ต้องไปปิดประตูสำนึกผิดที่ตำหนักเสด็จแม่ ทว่าเสด็จพ่อมิได้บอกเวลาโดยละเอียดหรืออีกนัยหนึ่งก็คือ จะอยู่หนึ่งหรือสองวันก็ได้ หรือจะเป็นหนึ่งถึงสองปีก็ได้เช่นกันหากมิให้พวกเขาเจอหน้ากันหนึ่งหรือสองปี...เขายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเย็นเยียบไปทั่งทั้งตัว“พี่สะใภ้เจ็ด
พูดจบ นางก็พยุงไท่เฟยฉางเดินจากไปฉินเหยี่ยนเย่ว์แย้มยิ้มเย็นชา “ทำชั่วไว้มากสุดท้ายก็ต้องแพ้ภัยตนเอง หวังว่าเส้นทางของเจ้าต่อจากนี้จะราบรื่น”ครั้นเห็นฉินเสวี่ยเย่ว์ ที่จริงแล้วฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกหดหู่ยิ่งนักพี่สามได้รับโทษที่ควรได้รับ พระสนมผิงที่ถูกหลอกใช้ก็ถึงแก่ชีวิต แม้กระทั่งพระสนมซูยังได้
“ท่านตา ท่านอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่อยากถามว่าตอนที่เสด็จแม่แต่งเข้าวังหลวง สาวใช้ที่ติดตามไปด้วยมีผู้ใดบ้างทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?”ผู้เฒ่าเฮ่อได้ยินว่านางมิได้ถามถึงเรื่องนั้น ก็ถอนหายใจเบา ๆ เขาขมวดคิ้วแน่นพลางครุ่นคิด “สาวใช้ที่ติดตามไปในตอนนั้นมีทั้งหมดแปดคน สาวใช้ระดับหนึ่งมีสองคน
ฮ่องเต้อับจนปัญญากับลู่จิ้นยิ่งนัก “ท่านพ่อรอง ถึงอย่างไรท่านไว้หน้าเราบ้าง”“หน้า? ต้องการหน้าไปไย?” ลู่จิ้นฮึดฮัดด้วยความไม่พอใจ “ตอนเจ้ารังแกศิษย์น้องหญิงไยไม่คิดสักหน่อยว่าหน้าแก่ ๆ ของเจ้ายังต้องการอยู่หรือไม่”อ๋องอี๋หยางเห็นว่าลู่จิ้นจะเอะอะโวยวายขึ้นมาอีก ก็ปวดหัวอย่างยิ่งใต้หล้านี้ มีเพียง
บรรยากาศมืดมนสายหนึ่งกำลังแผ่กระจายลู่จิ้นสะกดความโกรธไว้ไม่อยู่ เอ่ยขึ้น “จ้งหัว! เจ้าคิดจะทำอะไร?”“ศิษย์พี่ ขอร้องท่านล่ะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่คิดจะให้ลู่จิ้นตกอยู่ในอันตรายอีก น้ำเสียงจึงร้อนรนเล็กน้อย “ท่านช่วยปิดปากอยู่เงียบ ๆ สักครู่ได้หรือไม่?”เมื่อลู่จิ้นเห็นว่าศิษย์น้องหญิงร้อนรนแล้ว ก็มิก
“ศิษย์พี่ พอได้แล้วเจ้าค่ะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มาแทรกกลางระหว่างพวกเขา“ข้าไม่เป็นอะไร ท่านอย่าได้ทำเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ”“ไม่เป็นไร นี่นับว่าไม่เป็นไรที่ไหน? ข้าเห็นเจ้าร้องไห้แล้วนะ” ลู่จิ้นปวดใจเป็นอย่างยิ่ง “เจ้าหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกข้าไม่ได้”เดิมเขาคิดไว้ว่า หากหญิงสาวสกุลซูแต่งเข้ามา ศิษย์น้องหญิงก็
เรื่องที่ซูเตี่ยนฉิงแต่งเข้ามาแล้วเจ้าเจ็ดก็จะสละฐานะอ๋องนี้ เห็นได้ชัดเจนว่า สามีภรรยาคู่นี้เคยมีการหารือกันมาก่อนล่วงหน้าแล้วเขามีสีหน้าคาดไม่ถึงสามีภรรยาคู่นี้ คนหนึ่งคิดจะหย่าไปแบบง่าย ๆ ส่วนอีกคนก็สละฐานะอ๋องได้แบบง่าย ๆกล้าหาญกันจริง ๆ!“ตงฟางจ้งหัว” ลู่จิ้นเห็นท่าทีจากไปด้วยความเศร้าโศกเสี
ฮ่องเต้ไตร่ตรองครู่หนึ่ง “หากได้ดื่มชานมอีกสักแก้ว เราก็อนุญาต”“เสวยรสหวานมากเกินไปแล้วเพคะ วันนี้เสวยอีกไม่ได้แล้ว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้น“เรากับขุนนางเฮ่อที่รักมีเรื่องต้องหารือกัน ขุนนางเฮ่อที่รักไม่มีเวลาพูดคุยกับเจ้าหรอก” ฮ่องเต้เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจใบหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันมืดมนการใช
“ใช้สุรากลบความเศร้า มิสู้เริ่มเปลี่ยนความขมขื่นให้กลายเป็นความหวานเสียดีกว่า”ตงฟางเจวี๋ยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเขาลังเลอยู่นาน และในที่สุดก็หยิบชานมแก้วนั้นมา แล้วจิบเบา ๆ หลังจากดื่มฟองนมชั้นบนสุด ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยในรสชาติหวานแฝงรสชาติเค็มเล็กน้อย เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม รสชาติอร่อยเข
“ท่านพูดอะไรนะ?” มือของตงฟางหลีที่ถือแก้วสุราค้างเติ่งอยู่กลางอากาศแก้วสุราลื่นลงมาครั้นเห็นว่าแก้วกำลังจะตกลงบนโต๊ะ เขาก็รีบคว้าไว้และมีสีหน้าตกใจ “เสด็จพ่อ จะให้ซูเตี่ยนฉิงแต่งงานกับท่านหรือ?”บนใบหน้าของตงฟางเจวี๋ยไม่ได้แสดงออกอะไรเป็นพิเศษ“อืม หลังนางจากไป ข้าก็เหมือนศพเดินได้ จะแต่งงานกับใคร
เป็นเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตงฟางหลีรู้สึกว่าตงฟางเจวี๋ยผิดปกติทีเดียวเมื่อก่อนพี่รองดื่มสุราน้อยมาก ยกแก้วก็ดื่มจนหมดเหมือนเช่นนี้ หาได้ยากมาก ๆ“พี่รอง ข้าจำได้ว่าเหยี่ยนเย่ว์เคยบอกว่าท่านไม่สามารถดื่มเหล้าได้” เขาจะแย่งแก้วสุราของตงฟางเจวี๋ยมา“วันนี้เจ้าให้ข้าดื่มสักหน่อยเถอะ” ตงฟางเจวี๋หลบนิ้วม