ในท้ายที่สุด ตงฟางหลียังคงมีความคิดที่จะให้ซูเตี่ยนฉิงแต่งงานเข้ามาฉินเหยี่ยนเย่ว์ฝืนยิ้ม รอยยิ้มนั้นสดใส ทว่าแววตากลับเย็นชา “เห็นด้วยเพคะ แน่นอนว่าต้องเห็นด้วย การแต่งงานเป็นงานมงคลที่ยิ่งใหญ่ หม่อมฉันจะไม่เห็นด้วยได้อย่างไร?”ตงฟางหลีจับมือนางทันทีเขารู้ เมื่อนางโกรธหรือผิดหวังถึงจะยิ้มเช่นนี้
“ตั้งแต่วันนั้นที่ข้าตัดสินใจเข้าร่วมกองทัพ ข้าก็ล้มเลิกความคิดนั้นไปแล้ว แม้ว่าจะไม่มีเจ้า ก็ไม่ใช่นางอยู่ดี” ตงฟางหลีพูดต่อ “ข้าจำได้ว่าเคยบอกกับเจ้าหลายครั้งแล้ว ทำไมเจ้าถึงไม่เชื่อข้าเลยล่ะ?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เคยถามเขาหลายครั้งจริง ๆ และนางก็รู้คำตอบของเขามานานแล้ว แต่เพียงแค่อยากให้เขาพูดออกมาจาก
“...” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดไม่ออกนิสัยของอ๋องอี๋หยาง ช่างน่าสนใจแบบแปลก ๆ“อยู่ในตำหนักไท่อี๋ เสด็จพ่อให้เจ้าทำอะไร?” ตงฟางหลีเอ่ยถาม“หม่อมฉันบอกไปแล้ว ให้ฝนหมึก ชงชา รินน้ำ”และยังมีการใส่น้ำตาลลงไปในชา ดื่มชานมไข่มุกแก้วใหญ่ไปหนึ่งแก้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้นางมิกล้าพูด“ทำเพียงสิ่งเหล่านี้ใช้เวลานานมากข
หลังจากที่ไม่ได้กลับตำหนักหมิงอวี้เป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน ดอกเหมยในเรือนก็เหี่ยวเฉาไปไม่น้อยเลยดอกไม้บนกิ่งก้านยังพลิ้วไหวราวกับสายฝนที่ตกลงมา กวัดแกว่งอย่างงดงาม ร่วงหล่นสู่โคลน ก่อนจะตามมาด้วยกลิ่นหอมเย็นโชยมานางสุ่มบิดดอกเหมย แอบอุทานในใจ ดอกไม้นี้ยังไม่ทันได้เชยชมเลย กลับเหี่ยวเฉาไปในเวลาเพีย
“นั่นก็จริง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ลูบหัวของเหมาเหมา “ให้เหมาเหมาอยู่สังเกตอาการที่นี่แล้วกัน ปฏิกิริยาตอบกลับของเด็กคนนี้แปลกเกินไปแล้ว”“หม่อมฉันจะวางแผนการรักษาแบบอื่นให้มันอีกครั้ง ท่านช่วยหม่อมฉันตามหาคนที่เข้าใจเรื่องสัตว์ดีมาให้ได้หรือไม่เพคะ?”ตงฟางหลีเห็นว่าความสนใจของนางอยู่ที่แมวอ้วนตลอด ในใจจึง
ครั้นตงฟางหลีได้ยินคำถามของฉินเหยี่ยนเย่ว์ จึงเริ่มตื่นตัวขึ้นมาทันที “เจ้าพบอะไรรึ? อาหารหรือยาของเสด็จพ่อมีอะไรผิดปกติหรือ?”หากเรื่องอาหารและยามีปัญหา เกรงว่าในวังจะเกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้น“อย่ากังวลไปเลยเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวต่อ “ไม่น่าจะมีผู้ใดหาญกล้าเพียงนั้น หม่อมฉันเพียงแค่อยากถามท่านเ
นางหลับตาลง รู้สึกถึงความเยือกเย็นและความอ่อนโยนของเขา รวมถึงลมหายใจอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาด้วยความสูงระหว่างคนทั้งคู่ต่างกันเยอะไปหน่อย และท่าทางก็ดูน่าอายเล็กน้อยด้วย ตงฟางหลีปล่อยนางชั่วคราว ก่อนจะช้อนตัวอุ้มนางขึ้นแล้วมาที่ข้างเตียง“นี่กลางวันอยู่เลย และองครักษ์จื่ออวี๋ก็ใกล้จะกลับมาแล้วด้วย ท่
“อยู่ให้ห่างจากหม่อมฉันหน่อย” เมื่อฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นเขาเข้ามาใกล้อย่างไร้ยางอายอีกครั้ง เท้าก็เตะเข้าที่หน้าอกของเขาตงฟางหลีฉวยโอกาสคว้าเท้าของนางไว้“ปล่อยนะ” นางดิ้น “ท่านเป็นคนวิตถารหรือ?”“พระชายาเป็นฝ่ายโยนตัวเองเข้ามาในอ้อมแขนเอง ไหนเลยจะปล่อยไปได้เล่า?” เขานั่งลงข้างนาง หาจุดฝังเข็มบนฝ่าเท