ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้ว่าอ๋องอี๋หยางต้องการเตือนและช่วยเหลือนางมาโดยตลอด ดังนั้นจึงเคารพพระชายาอ๋องอี๋หยางมากขึ้นไปหลายส่วน“สิ่งที่เสด็จอาหญิงกล่าวมาเป็นเรื่องจริงอย่างที่สุด จะแปลกก็แปลกที่ตรงนี้” นางค้อมตัวคำนับทุกคน “ทุกท่าน ข้าขอถาม คำพูดที่พระชายาอ๋องสามเคยทูลพระพันปี มีผู้ใดในพวกท่าน ยังจำได้หรือ
“เสด็จพ่อเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์คุกเข่าลงก่อนจะเอ่ยอย่างจริงจัง “ลูกอนุมานว่าพระชายาอ๋องสามมีความเกี่ยวข้องอย่างใหญ่หลวงกับอาการบาดเจ็บของเหมาเหมา และแม้แต่กับอาการป่วยของพระพันปีด้วย สิ่งที่ลูกพูดต่อไปนี้ ก็คือการอนุมานของลูกเพคะ หลักฐานจะถวายให้ในภายหลังเพคะ”ลำคอของนางเกร็งแน่นขึ้น และเอ่ยด้วยน้ำเส
ฉินเสวี่ยเย่ว์ปาดน้ำตา “พี่หญิง ทำไมท่านต้องทำเช่นนี้ด้วย? ข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะตำหนิท่านจริง ๆ แต่ทำไมท่านต้องทำเรื่องแบบนี้ด้วย?”“ข้า...ข้า” ฉินเสวี่ยเย่ว์กำลังจะเอ่ย ทว่าดวงตาทั้งสองกลอกขึ้น และเป็นลมล้มพับไปเบา ๆทันใดนั้นก็มีหมอหลวงเข้ามา จับจุดเหรินจงเพื่อปลุกนางหลังจากนั้นสักพักใหญ่ ฉินเสวี่
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ขมวดคิ้วฉินเสวี่ยเย่ว์ผู้นี้ รับมือได้ยากกว่าที่คิดไว้จริง ๆ ด้วยสิ่งที่พูดเมื่อครู่สมเหตุสมผล และปิดช่องโหว่ได้พอดีแม้นจะเป็นการเถียงข้าง ๆ คู ๆ แต่กลับสามารถอธิบายได้ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำมือแน่น เหตุผลทั้งหมดของนางขึ้นอยู่กับช่องโหว่นี้ เมื่อช่องโหว่ถูกปิดกั้น การอนุมานของนางก็ไม่สา
ท่าทางนั้น ดูเหมือนเหมาเหมาจะสู้ตาย“ข้าขอโทษ” เมื่อฉินเหยี่ยนย่ว์เห็นว่าปฏิกิริยาของเหมาเหมานั้นรุนแรงเกินไป จึงรีบถอยหลังไปสองก้าวแล้วยื่นมันให้ตงฟางหลีตงฟางหลีหยิบขนมมันเทศออกมาสองชิ้น เจ้าตัวน้อยถึงจะสงบลงฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกผิดมากแมวจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียด เมื่อเผชิญกับอันตรายหรือ
เย่ว์ลู่ตรงไปตรงมาเช่นนี้ ขนาดอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้และทุกคนก็ไม่ไว้หน้านางเลย พระสนมซูโกรธมาก“เย่ว์ลู่ เจ้าบังอาจนัก” พระสนมซูรู้สึกเจ็บที่หัวใจ และนางก็ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดยกมือกุมหน้าอกบริเวณตำแหน่งหัวใจ “อยู่ต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ ไหนเลยจะอดทนกับอวดดีของเจ้าได้? ว่ามา ใครให้เจ้าเข้าวัง? เจ้าไม่รู้ห
รอยตบขนาดใหญ่ถูกประทับรอยลงบนใบหน้าซึ่งแต่เดิมบอบบางและซีดขาว รอยตบเปลี่ยนเป็นสีแดงและช้ำอย่างรวดเร็ว มองแล้วน่าตกตะลึง“ท่านกล้าตบข้ารึ?” เย่ว์ลู่ยกมือกุมใบหน้าแล้วมองพระสนมซูอย่างเย็นชา น้ำเสียงของนางเย็นยะเยือกเสียดกระดูก “ท่าน กล้าตบข้า?”นางจ้องเข้าไปในดวงตาของพระสนมซูที่ต้องการจะบีบคอนางให้ตาย
“หมายความว่าอย่างไร?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แทบไม่เคยเห็นตงฟางหลีมีสีหน้าเช่นนี้มาก่อน จึงรีบถาม “เกิดอะไรขึ้นเพคะ?”“ตู้เหิงพบชื่อเจี้ยนกับเฟ่ยชุ่ย พวกนางบอกว่าหลังจากมาจวนสกุลฉิน หู่พั่วก็หายตัวไป” ตงฟางหลีพูด “พวกนางตามหาบริเวณโดยรอบอยู่นาน แต่พบเพียงปิ่นปักผมที่หู่พั่วทำหล่น ไม่พบเบาะแสอื่นใดเลย”ฉินเห
ก่อนหน้านี้ก็พูดเพื่อฉินเหยี่ยนเย่ว์ แล้วก็ยังมาขัดขวางการลงโทษตู้เหิงของนาง!“แม้แต่เจ้าก็ทำให้ข้าโกรธ!”“ท่านแม่” ซูจื่อเห็นว่าตู้เหิงจากไปแล้ว สีหน้าพลันทะมึนลง “เรื่องในวันนี้ ลูกไม่รู้ว่าท่านได้รับยาเสน่ห์มาจากผู้ใด แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเหตุใดถึงต้องจับตามองพระชายาอ๋องเจ็ดด้วยเช่นกัน แต่ท่านฟังที
ฮูหยินซูถูกตู้เหิงเพิกเฉย เพลิงโทสะที่สะสมมาในวันนี้พวยพุ่งขึ้นมาไม่หยุดซวงเอ๋อร์ได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างใหญ่หลวง มิอาจจบไปเช่นนี้ได้!“เจ้าสุนัขรับใช้ ข้ากำลังพูดกับเจ้าอยู่นะ เจ้าหูหนวกหรือ?”ตู้เหิงรำคาญเป็นอย่างยิ่งฮูหยินซูผู้นี้เกรงว่าจะเสียสติไปแล้วกระมังเมื่อก่อนเขารู้สึกว่าฮูหยินซูเป็นค
หลังจากลู่จิ้นป้อนยาที่มีชื่อว่ามังกรพ่นมุกนี้ให้นาง ก็ได้ทำลายสมดุลนี้ลงครั้นพิษของปลาทรายแดงครีบทองกลายพันธ์ถูกกดลง พิษของยาอีกหนึ่งชนิดก็จะเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันยาพิษบางชนิดมีพิษมากกว่าพิษจากปลาทรายแดงครีบทอง จึงเท่ากับต้องพิษเป็นครั้งที่สองหลังจากสมดุลถูกทำลาย ซูเตี่ยนฉิงย่อมไม่มีชีวิตที่ดีแล้
“เจ้าตาบอดหรือ? มองไม่ออกว่านี่คือตัวหนอนหรือย่างไร? ก็คือตัวหนอนที่กลายเป็นแมลงวันได้อย่างไรเล่า รักษาให้ดี ๆ เถิด” ลู่จิ้นเอ่ยเสียงเย็นซูจิ้นยืนยันคำตอบอยู่ในใจ สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นไม่น่ามองทันทีคนคนหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากดื่มยาเข้าไปแล้ว เหตุใดถึงอาเจียนเอาของน่ารังเกียจพรรค์นี้ออกมาได้?
หากมีสุรารสเลิศก็ดียิ่งขึ้นไปอีกฉินเหยี่ยนเย่ว์เองก็คิดจะจากไปโดยไม่สนใจสิ่งใดทว่า...นางเหลือบตามองซูเตี่ยนฉิงที่นอนอยู่บนเตียงปราดหนึ่งจากไปทั้งอย่างนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่สมเหตุสมผลเท่าใดนักจำต้องตอบแทนอะไรบางอย่างกลับไปบ้างถึงจะได้ไม่มาเสียเที่ยว“ศิษย์พี่รอสักครู่นะเจ้าคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูด “
“ผู้ใดให้เจ้าไม่ตั้งใจเรียน ให้เจ้าทำยาคุณภาพต่ำออกมามั่วซั่ว หลายปีนี้เจ้ามัวทำอะไร? สิ่งที่เรียนนั้น เรียนไปที่ตัวสุนัขหมดแล้วหรืออย่างไร?” ลูจิ้นตะคอก“กล้าให้ศิษย์น้องหญิงได้รับความทรมานเช่นนั้น ข้าจะตีเด็กสารเลวอย่างเจ้าให้ตาย”ลู่ซิวถึงได้เข้าใจเป็นท่านบรรพบุรุษรังเกียจยาน้ำคุณภาพต่ำที่เขาทำข
ลู่จิ้นกลับไม่สนใจโดยสิ้นเชิงหัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่นก่อนหน้านี้เขาคิดจะปิดประตูข่มขู่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ให้รักษาฉิงเอ๋อร์ แม้ว่าจะเป็นการไม่เคารพต่อพวกเขาสองคนแต่ก็ไม่มีผู้ใดรู้เห็น ขอเพียงยืนกรานไม่ยอมรับ ก็ไม่มีผู้ใดทำอะไรได้ครั้นลู่จิ้นมาถึง สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปแล้วต่อให้เขามีความกล้ายิ่งใ
ซูจื่ออายุยังน้อย ทนต่อการถูกฟาดได้ครั้นปล่อยให้ลู่จิ้นทุบตีระบายอารมณ์ได้ครู่ใหญ่ ก็เจ็บจนต้องแยกเขี้ยวยิงฟัน หากยืนนิ่งไม่ส่งเสียงใด ๆ ออกมาแม้แต่คำเดียวลู่จิ้นที่ทุบตีจนเหนื่อยแล้วถึงได้ฝืนหยุดตี“ลูกชายของข้า” ฮูหยินซูเห็นท่าทีจมูกช้ำเขียวใบหน้าปูดบวมของซูจื่อ หยาดน้ำตาก็ไหลลงมาเป็นสาย ร้องไห้
นี่สิถึงจะเป็นอาวุธวิเศษในการแสร้งป่วยที่ถูกต้อง“ขอบคุณศิษย์พี่เจ้าค่ะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รีบกลืนยาเม็ดลงไปทันที“ไม่ต้องเกรงใจ เรื่องของศิษย์น้องหญิงก็คือเรื่องของข้า” รอจนกระทั่งนางกินยา ลู่จิ้นก็จับชีพจรให้นางอีกครั้งเทียบกับชีพจรยุ่งเหยิงเมื่อครู่แล้ว ชีพจรในยามนี้มั่นคงกว่ามาก ศิษย์น้องหญิงก็รู้