รอยตบขนาดใหญ่ถูกประทับรอยลงบนใบหน้าซึ่งแต่เดิมบอบบางและซีดขาว รอยตบเปลี่ยนเป็นสีแดงและช้ำอย่างรวดเร็ว มองแล้วน่าตกตะลึง“ท่านกล้าตบข้ารึ?” เย่ว์ลู่ยกมือกุมใบหน้าแล้วมองพระสนมซูอย่างเย็นชา น้ำเสียงของนางเย็นยะเยือกเสียดกระดูก “ท่าน กล้าตบข้า?”นางจ้องเข้าไปในดวงตาของพระสนมซูที่ต้องการจะบีบคอนางให้ตาย
“หมายความว่าอย่างไร?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แทบไม่เคยเห็นตงฟางหลีมีสีหน้าเช่นนี้มาก่อน จึงรีบถาม “เกิดอะไรขึ้นเพคะ?”“ตู้เหิงพบชื่อเจี้ยนกับเฟ่ยชุ่ย พวกนางบอกว่าหลังจากมาจวนสกุลฉิน หู่พั่วก็หายตัวไป” ตงฟางหลีพูด “พวกนางตามหาบริเวณโดยรอบอยู่นาน แต่พบเพียงปิ่นปักผมที่หู่พั่วทำหล่น ไม่พบเบาะแสอื่นใดเลย”ฉินเห
“เย่ว์ลู่ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ” สีหน้าของเย่ว์ลู่ไม่ได้เศร้าไม่ได้สุขพระสนมซูยังคงอยู่ในสภาวะสับสน หูของนางยังคงส่งเสียงหึ่งหึ่ง และไม่ได้ยินเสียงรอบตัวเท่าใดนัก จึงได้แต่นั่งอยู่ที่นั่นอย่างตะลึงงันไร้ความสง่างามดวงตาของฮ่องเต้ลึกล้ำไม่ว่าจะเป็นพระโอรสหรือคนอื่น ๆ หากอยากเข้าวังหลัง จำต้องผ่านขั้น
“เหลวไหลหรือ?” เย่ว์ลู่ยิ้มเย้ยหยัน “เจ้าหลงตัวเองเกินไปแล้ว สำหรับข้าน่ะนะ เจ้าไม่ได้นับเป็นอะไรเลยด้วยซ้ำ”นางพูดแล้วเลื่อนสายตาไปมองอ๋องสาม “เหอะเหอะ ท่านอ๋องสามและพระชายาอ๋องสามมิใช่สามีภรรยาที่รักใคร่สเน่หากันหรือ? ไยเวลานี้ ท่านอ๋องสามแม้แต่ผายลมก็มิกล้าปล่อยแล้วเล่า? ข้าเห็นท่าทางเช่นนั้นของท
พระองค์ไม่คิดว่าฉินเสวี่ยเย่ว์ที่เป็นแค่สตรีคนหนึ่งจะสามารถเรียกใช้งานคนเหล่านั้นได้ จะต้องมีแผนการชั่วร้ายที่ใหญ่กว่าแน่นอนอยู่ในนั้น“พาคนเข้ามา” ฮ่องเต้ตรัสหลี่เวยหลิงจึงสั่งให้พาตัวคนที่จับตัวได้เข้ามาเส้นเอ็นที่ข้อมือและข้อเท้าของคนผู้นั้นถูกตัดจนขาดแล้ว ทั้งยังถูกจี้สกัดจุดลมปราณไว้“ฝ่าบาท
“โอ้? เมื่อครู่นี้เจ้าไม่ได้พูดว่าไม่รู้จักไม้เทียนเหลี่ยวมิใช่หรือ? เหตุใดถึงนึกถึงสิ่งนี้เป็นอย่างแรกด้วย?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เดินกดดันเข้าไปทีละก้าว “ปกติแล้ว หญ้าแมว กัญชาแมว ไม้เทียนเหลี่ยวสามสิ่งนี้ล้วนมีแรงดึงดูดอย่างรุนแรงสำหรับแมว ไม้สองสามแท่งนี้ถูกห่อไว้ในผ้าเช็ดหน้า จากมุมที่เจ้ายืนมองไม่เห
โทษฐานหลอกลวงเบื้องสูง!โทษนี้ร้ายแรงกว่าโทษใด ๆ ที่นางเคยทำมาทั้งหมดนางหมอบกายอยู่บนพื้น ร่างกายสั่นเทาไม่หยุด ด้วยความตื่นตระหนก หวาดกลัว ทั่วทั้งตัวจึงเย็นเฉียบเลือดที่เดิมทีห้ามไว้ได้แล้ว ก็ค่อย ๆ ไหลลงมาช้า ๆ อีกครั้งในไม่ช้าเลือดก็ย้อมอาภรณ์ให้เปรอะเปื้อน กลิ่นคาวเลือดอบอวลไปในอากาศนางหันไ
ฮ่องเต้ทอดพระเนตรมองนางอยู่ครู่ใหญ่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก้มหน้าลง จึงทำให้ดูอ่อนน้อมถ่อมตน อยากให้ว่านอนสอนง่ายมากเท่าใดก็จะว่านอนสอนง่ายมากเท่านั้น แตกต่างจากคนที่ยากจะรับมือที่ทั้งแข็งกร้าวและเต็มไปด้วยหนามแหลมในตอนแรกราวกับคนละคน “ตามหมอหลวง ต้องรักษาฉินเสวี่ยเย่ว์ให้ได้ เจ้าสาม เจ้าก็ออกไปก่อนเถิด”
ก่อนหน้านี้ก็พูดเพื่อฉินเหยี่ยนเย่ว์ แล้วก็ยังมาขัดขวางการลงโทษตู้เหิงของนาง!“แม้แต่เจ้าก็ทำให้ข้าโกรธ!”“ท่านแม่” ซูจื่อเห็นว่าตู้เหิงจากไปแล้ว สีหน้าพลันทะมึนลง “เรื่องในวันนี้ ลูกไม่รู้ว่าท่านได้รับยาเสน่ห์มาจากผู้ใด แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเหตุใดถึงต้องจับตามองพระชายาอ๋องเจ็ดด้วยเช่นกัน แต่ท่านฟังที
ฮูหยินซูถูกตู้เหิงเพิกเฉย เพลิงโทสะที่สะสมมาในวันนี้พวยพุ่งขึ้นมาไม่หยุดซวงเอ๋อร์ได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างใหญ่หลวง มิอาจจบไปเช่นนี้ได้!“เจ้าสุนัขรับใช้ ข้ากำลังพูดกับเจ้าอยู่นะ เจ้าหูหนวกหรือ?”ตู้เหิงรำคาญเป็นอย่างยิ่งฮูหยินซูผู้นี้เกรงว่าจะเสียสติไปแล้วกระมังเมื่อก่อนเขารู้สึกว่าฮูหยินซูเป็นค
หลังจากลู่จิ้นป้อนยาที่มีชื่อว่ามังกรพ่นมุกนี้ให้นาง ก็ได้ทำลายสมดุลนี้ลงครั้นพิษของปลาทรายแดงครีบทองกลายพันธ์ถูกกดลง พิษของยาอีกหนึ่งชนิดก็จะเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันยาพิษบางชนิดมีพิษมากกว่าพิษจากปลาทรายแดงครีบทอง จึงเท่ากับต้องพิษเป็นครั้งที่สองหลังจากสมดุลถูกทำลาย ซูเตี่ยนฉิงย่อมไม่มีชีวิตที่ดีแล้
“เจ้าตาบอดหรือ? มองไม่ออกว่านี่คือตัวหนอนหรือย่างไร? ก็คือตัวหนอนที่กลายเป็นแมลงวันได้อย่างไรเล่า รักษาให้ดี ๆ เถิด” ลู่จิ้นเอ่ยเสียงเย็นซูจิ้นยืนยันคำตอบอยู่ในใจ สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นไม่น่ามองทันทีคนคนหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากดื่มยาเข้าไปแล้ว เหตุใดถึงอาเจียนเอาของน่ารังเกียจพรรค์นี้ออกมาได้?
หากมีสุรารสเลิศก็ดียิ่งขึ้นไปอีกฉินเหยี่ยนเย่ว์เองก็คิดจะจากไปโดยไม่สนใจสิ่งใดทว่า...นางเหลือบตามองซูเตี่ยนฉิงที่นอนอยู่บนเตียงปราดหนึ่งจากไปทั้งอย่างนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่สมเหตุสมผลเท่าใดนักจำต้องตอบแทนอะไรบางอย่างกลับไปบ้างถึงจะได้ไม่มาเสียเที่ยว“ศิษย์พี่รอสักครู่นะเจ้าคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูด “
“ผู้ใดให้เจ้าไม่ตั้งใจเรียน ให้เจ้าทำยาคุณภาพต่ำออกมามั่วซั่ว หลายปีนี้เจ้ามัวทำอะไร? สิ่งที่เรียนนั้น เรียนไปที่ตัวสุนัขหมดแล้วหรืออย่างไร?” ลูจิ้นตะคอก“กล้าให้ศิษย์น้องหญิงได้รับความทรมานเช่นนั้น ข้าจะตีเด็กสารเลวอย่างเจ้าให้ตาย”ลู่ซิวถึงได้เข้าใจเป็นท่านบรรพบุรุษรังเกียจยาน้ำคุณภาพต่ำที่เขาทำข
ลู่จิ้นกลับไม่สนใจโดยสิ้นเชิงหัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่นก่อนหน้านี้เขาคิดจะปิดประตูข่มขู่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ให้รักษาฉิงเอ๋อร์ แม้ว่าจะเป็นการไม่เคารพต่อพวกเขาสองคนแต่ก็ไม่มีผู้ใดรู้เห็น ขอเพียงยืนกรานไม่ยอมรับ ก็ไม่มีผู้ใดทำอะไรได้ครั้นลู่จิ้นมาถึง สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปแล้วต่อให้เขามีความกล้ายิ่งใ
ซูจื่ออายุยังน้อย ทนต่อการถูกฟาดได้ครั้นปล่อยให้ลู่จิ้นทุบตีระบายอารมณ์ได้ครู่ใหญ่ ก็เจ็บจนต้องแยกเขี้ยวยิงฟัน หากยืนนิ่งไม่ส่งเสียงใด ๆ ออกมาแม้แต่คำเดียวลู่จิ้นที่ทุบตีจนเหนื่อยแล้วถึงได้ฝืนหยุดตี“ลูกชายของข้า” ฮูหยินซูเห็นท่าทีจมูกช้ำเขียวใบหน้าปูดบวมของซูจื่อ หยาดน้ำตาก็ไหลลงมาเป็นสาย ร้องไห้
นี่สิถึงจะเป็นอาวุธวิเศษในการแสร้งป่วยที่ถูกต้อง“ขอบคุณศิษย์พี่เจ้าค่ะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รีบกลืนยาเม็ดลงไปทันที“ไม่ต้องเกรงใจ เรื่องของศิษย์น้องหญิงก็คือเรื่องของข้า” รอจนกระทั่งนางกินยา ลู่จิ้นก็จับชีพจรให้นางอีกครั้งเทียบกับชีพจรยุ่งเหยิงเมื่อครู่แล้ว ชีพจรในยามนี้มั่นคงกว่ามาก ศิษย์น้องหญิงก็รู้