ไป๋หลินยวนพลันหลับตาลง แววตาที่เจือไปด้วยความเย็นชานั้น ค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม“ท่านเป็นห่วงข้างั้นหรือ?” ไป๋หลินยวนชี้นิ้วไปที่ถ้วยชา“อื้ม”ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “หากท่านมิได้มามัวห่วงแต่ข้าละก็ ท่านก็คงมิต้องมาเจ็บตัวเช่นนี้ อย่าเพิ่งเอ่ยเรื่องพวกนี้ขึ้นมาเลย บาดแผลของท่านเป็นเช่นไรบ้าง? ท่านได
“น้ำแข็งหมื่นปีนั้นสามารถรักษาร่างกายไม่ให้เน่าไม่ให้เปื่อยได้ ทั้งยังรักษาหน้าตาเอาไว้ได้อีกด้วย หากมีเตียงหยกเย็นมาช่วยเช่นนี้ เนื้อที่เน่าเปื่อยของนางย่อมถูกหยุดเอาไว้ นี่ก็ผ่านมาได้ห้าปีแล้ว”ไป๋หลินยวนพลันขมวดคิ้ว ก่อนจะถอนหายใจออกมา “ข้าคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นจะไม่ตื่นขึ้นมาเสียอีก ทั้งยังนอนต
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ได้ยินเช่นนั้น นางจึงรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกหากว่าสิ่งที่ทำให้อวี้เอ๋อร์เกิดความผิดปกติคือหินจันทร์ละก็ เช่นนั้นนางพอจะรู้วิธีรับมือกับมันแล้วฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงวางหินลง พลางกล่าวว่า “เรื่องในวันนี้ ขอบคุณท่านมาก ได้เวลาที่ข้าต้องไปแล้ว”“ท่านจ
“เจ้าสิบ ไยเจ้าถึงมาที่นี่ได้?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์บีบแก้มของเขา เมื่อเห็นตงฟางหลีและลู่จิ้นอยู่ไม่ไกลก็เลิกคิ้วขึ้น “พวกท่านยืนทำอะไรอยู่ข้างนอกหรือ?”“ศิษย์น้องหญิง” ลู่จิ้นหลั่งน้ำหูน้ำตาเปรอะใบหน้า “ได้ยินมาว่าเจ้าถูกลักพาตัว ข้ากังวลมากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ในที่สุดเจ้าก็ได้กลับมาแล้ว ให้ข้าดูหน่อย
“ก่อนอื่นสามารถยืนยันได้ว่าที่อวี้เอ๋อร์ยังมีชีวิตอยู่ สาเหตุก็เพราะยา” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดขึ้น“และยังมีสิ่งที่เรียกว่ายาถอนพิษ กลับมิใช่ยาถอนพิษ” นางวางขวดยาลงบนโต๊ะ “มันเป็นเพียงยาที่สามารถเร่งการเผาผลาญได้เท่านั้นเอง”“จะพูดเช่นไรดีล่ะ หลังจากที่อวี้เอ๋อร์ตอบสนองระบบภูมิคุ้มกันต่อหินแล้ว ร่างกายจ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกว่าสิ่งที่ตงฟางหลีหึงหวงนั้นน่าแปลกใจมากเห็นได้ชัดว่าจีอู๋เยียนใส่ใจเพียงอวี้เอ๋อร์เท่านั้น คนอื่น ๆ สำหรับเขาก็ไม่ต่างไปจากต้นหอมเลยนี่มันมีอะไรให้หึงหวงกันหรือ?“หยุดทำตัวน่าอึดอัดได้แล้วเพคะ” นางพยายามปลอบโยน “การมีเพื่อนมากกว่าหนึ่งคนย่อมดีกว่ามีศัตรูเพิ่มอีกหนึ่งคนนะเพคะ”
“พระนาง บ่าวไม่เป็นไรเพคะ” หลังจากเฟ่ยชุ่ยพบนาง ในที่สุดก็ได้สติ “บ่าว บ่าวแค่อยากจะมาแจ้งท่าน ว่ามีคนกำลังก่อเรื่องวุ่นวายบนถนนเพคะ”“มีคนก่อเรื่องวุ่นวายบนถนน แล้วเกี่ยวอะไรกับเราหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ประคองนางขึ้นมา “รีบลุกขึ้นแล้วว่ามา”“เด็กตายคนหนึ่งเพคะ” ดวงตาของเฟ่ยชุ่ยเบิกกว้าง ใบหน้าของนาง
“ไป๋โค้ว ออกไป” ตงฟางหลีขัดจังหวะนางด้วยเสียงต่ำทุ้มไป๋โค้วรู้สึกถึงรังสีอันน่าสะพรึงกลัวที่กำจายออกมาจากร่างของตงฟางหลี นางย่นคอ และลากเฟ่ยชุ่ยวิ่งออกไป “ถ้าเช่นนั้นข้าก็ไม่ยุ่งแล้วนะ ท่านอ๋องสงบอารมณ์ด้วย”ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกผิดเล็กน้อย “ตงฟางหลี ขอโทษนะเพคะ”“ทำไมถึงต้องขอโทษด้วย?” น้ำเสียงของ