หมอหลวงหลินเคาะประตูเบา ๆพลันมีเด็กอายุประมาณเจ็ดแปดขวบมาเปิดประตูให้ “นายท่านหลินมาเหรอ”“นายท่านของเจ้าอยู่หรือไม่” หมอหลินพลางยื่นติ๋มซำให้กับเขา “ไปบอกเขาเสีย มีแขกมาเยี่ยม”เมื่อเด็กน้อยเห็นติ๋มซำนั้น พลันเบิกตาโพลงขึ้นมาในทันที ก่อนจะพยักหน้าลงเล็กน้อย “นายท่านกำลังตกปลาอยู่ ทว่า นายท่านสั่งเ
ไป๋หลินยวนพลันหลับตาลง แววตาที่เจือไปด้วยความเย็นชานั้น ค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม“ท่านเป็นห่วงข้างั้นหรือ?” ไป๋หลินยวนชี้นิ้วไปที่ถ้วยชา“อื้ม”ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “หากท่านมิได้มามัวห่วงแต่ข้าละก็ ท่านก็คงมิต้องมาเจ็บตัวเช่นนี้ อย่าเพิ่งเอ่ยเรื่องพวกนี้ขึ้นมาเลย บาดแผลของท่านเป็นเช่นไรบ้าง? ท่านได
“น้ำแข็งหมื่นปีนั้นสามารถรักษาร่างกายไม่ให้เน่าไม่ให้เปื่อยได้ ทั้งยังรักษาหน้าตาเอาไว้ได้อีกด้วย หากมีเตียงหยกเย็นมาช่วยเช่นนี้ เนื้อที่เน่าเปื่อยของนางย่อมถูกหยุดเอาไว้ นี่ก็ผ่านมาได้ห้าปีแล้ว”ไป๋หลินยวนพลันขมวดคิ้ว ก่อนจะถอนหายใจออกมา “ข้าคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นจะไม่ตื่นขึ้นมาเสียอีก ทั้งยังนอนต
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ได้ยินเช่นนั้น นางจึงรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกหากว่าสิ่งที่ทำให้อวี้เอ๋อร์เกิดความผิดปกติคือหินจันทร์ละก็ เช่นนั้นนางพอจะรู้วิธีรับมือกับมันแล้วฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงวางหินลง พลางกล่าวว่า “เรื่องในวันนี้ ขอบคุณท่านมาก ได้เวลาที่ข้าต้องไปแล้ว”“ท่านจ
“เจ้าสิบ ไยเจ้าถึงมาที่นี่ได้?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์บีบแก้มของเขา เมื่อเห็นตงฟางหลีและลู่จิ้นอยู่ไม่ไกลก็เลิกคิ้วขึ้น “พวกท่านยืนทำอะไรอยู่ข้างนอกหรือ?”“ศิษย์น้องหญิง” ลู่จิ้นหลั่งน้ำหูน้ำตาเปรอะใบหน้า “ได้ยินมาว่าเจ้าถูกลักพาตัว ข้ากังวลมากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ในที่สุดเจ้าก็ได้กลับมาแล้ว ให้ข้าดูหน่อย
“ก่อนอื่นสามารถยืนยันได้ว่าที่อวี้เอ๋อร์ยังมีชีวิตอยู่ สาเหตุก็เพราะยา” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดขึ้น“และยังมีสิ่งที่เรียกว่ายาถอนพิษ กลับมิใช่ยาถอนพิษ” นางวางขวดยาลงบนโต๊ะ “มันเป็นเพียงยาที่สามารถเร่งการเผาผลาญได้เท่านั้นเอง”“จะพูดเช่นไรดีล่ะ หลังจากที่อวี้เอ๋อร์ตอบสนองระบบภูมิคุ้มกันต่อหินแล้ว ร่างกายจ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกว่าสิ่งที่ตงฟางหลีหึงหวงนั้นน่าแปลกใจมากเห็นได้ชัดว่าจีอู๋เยียนใส่ใจเพียงอวี้เอ๋อร์เท่านั้น คนอื่น ๆ สำหรับเขาก็ไม่ต่างไปจากต้นหอมเลยนี่มันมีอะไรให้หึงหวงกันหรือ?“หยุดทำตัวน่าอึดอัดได้แล้วเพคะ” นางพยายามปลอบโยน “การมีเพื่อนมากกว่าหนึ่งคนย่อมดีกว่ามีศัตรูเพิ่มอีกหนึ่งคนนะเพคะ”
“พระนาง บ่าวไม่เป็นไรเพคะ” หลังจากเฟ่ยชุ่ยพบนาง ในที่สุดก็ได้สติ “บ่าว บ่าวแค่อยากจะมาแจ้งท่าน ว่ามีคนกำลังก่อเรื่องวุ่นวายบนถนนเพคะ”“มีคนก่อเรื่องวุ่นวายบนถนน แล้วเกี่ยวอะไรกับเราหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ประคองนางขึ้นมา “รีบลุกขึ้นแล้วว่ามา”“เด็กตายคนหนึ่งเพคะ” ดวงตาของเฟ่ยชุ่ยเบิกกว้าง ใบหน้าของนาง
พระสนมเหยาใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ราวกับว่ารู้สึกโดดเดี่ยวหลังจากความเจริญรุ่งเรืองมาถึงจุดสิ้นสุดหลังจากพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ก็หลงเหลือไว้เพียงความเศร้าโศกที่ไม่มีที่สิ้นสุด“ข้ามีชีวิตอยู่อย่างสบาย” ผ่านไปเนิ่นนาน พระสนมเหยาถึงได้พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าโศก“แต่ โชคดีของข้าสร้างขึ้นมาจากพื้นฐา
“ฝ่าบาททำให้ข้ารู้สึกซาบซึ้ง” พระสนมเหยาหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีต คล้ายกับหญิงสาววัยแรกแย้ม นิ้วชี้จิ้มเข้าหากัน ใบหน้าแดง ท่าทางขวยเขินเป็นอย่างยิ่งผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่พอนึกถึงการพบกันครั้งแรกในปีนั้นอีกครั้ง ยังคงทำให้หัวใจเต้นแรงเหมือนเดิมรอยยิ้มที่มุมปากของนางค่อย ๆ คลี่กว้างขึ้น แม้กระทั่งใ
“โจรลักพาตัวไม่มีทางรักษาให้ข้า ข้ามีไข้สูง อาศัยวาสนาที่มีต่อสัตว์และโชคดีที่มีมาตั้งแต่กำเนิด ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากเป็นอย่างยิ่งและโชคดีที่ยากจะหาอันใดเปรียบถึงมีชีวิตรอดกลับมาได้ ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอดีตกลับจำอะไรได้ไม่ชัดเจนเท่าไร”“ข้าจำชื่อตนเองไม่ได้ จำบ้านเกิดไม่ได้ หรือแม้กระทั่ง
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรดีผู้ที่โชคดีมาตั้งแต่กำเนิดย่อมมีอยู่แล้ว เมื่อก่อนนางยังเคยเห็นรายงานหนึ่งเกี่ยวกับผู้ที่มีโชคมากมาก่อนนางไม่ค่อยเข้าใจความหมายในถ้อยคำนี้ของพระสนมเหยาเท่าใดนัก“พระชายาอ๋องเจ็ด ช่วยข้ารินชาเถอะ” พระสนมเหยาไอออกมาเบา ๆ “เจ้าอยากรู้อะไร ข้าจะ--- บอกเจ้าทั้งหมด
นี่แปลกกว่าเรื่องเล่าเสียอีก“ไม่ใช่เรื่องเล่า ล้วนเป็นเรื่องที่ข้าประสบมาด้วยตัวเองทั้งนั้น นี่ยังไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาดที่สุดหรอก หลังจากที่ถูกขายไปหลายบ้าน และหลังจากเรื่องที่ข้าได้รับการปกป้องจากสัตว์ถูกลือออกไป ก็ไม่มีครอบครัวใดยอมซื้อตัวข้าอีก คนที่ลักพาตัวข้ายังถูกสุนัขกัด ถูกวัวชนอยู่บ่อ
“ให้ตาย!” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกใจจนตัวสั่น“โฮก...”กลิ่นคาวเลือดที่รุนแรงสายหนึ่งก็ได้ลอยเข้ามา ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอยหลังไปหลายก้าวติด ๆ กัน จนเกือบจะทรุดตัวนั่งลงกับพื้น“พระชายาระวังเพคะ” ชื่อเจี้ยนคาดไม่ถึงว่าเสือจะอยู่เหนือตาข่ายเหล็กดำ ก็รีบไปขวางหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ทันที “ท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”
ที่ด้านข้างประตูสองด้านยังมีแมวหลีฮวาหนึ่งตัว และแมวซือจึที่ดูคล้ายกับเหมาเหมาอีกหนึ่งตัวแมวสามตัวล้วนถูกเลี้ยงดูมาอย่างอ้วนท้วนสมบูรณ์พวกมันบ้างก็นอนตะแคงบ้างก็เกาแผ่นไม้ แต่ละตัวดูน่ารักไร้เดียงสาที่มุมยังมีลูกแมวอีกหลายตัวกำลังจับจ้องพวกนางอย่างตั้งอกตั้งใจ“แมวมากมายเพียงนี้เชียวหรือ?” ฉินเหย
เปลวเพลิงเผาไหม้กองรักษาระเบียบอยู่ถึงหนึ่งวันหนึ่งคืนถึงมอดดับลงกลุ่มควันลอยคลุ้ง หมอกควันสีเทาลอยปกคลุมไปทั่วทั้งวังหลวง จนกระทั่งเย็นวันที่ห้าก็ได้มีหิมะตกลงมา ท้องฟ้าถึงได้แจ่มใสขึ้นมาอีกครั้งข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับกองรักษาการเกิดเพลิงไหม้ทั้งหมดได้ถูกปิดเอาไว้เพียงประกาศกับภายนอกว่า ป้าหวนน
ปรากฎการณ์ทุกอย่างแสดงออกมาให้เห็นถึง คำตอบหนึ่งที่โดดเด่นออกมา“ท่านหมายความว่า...” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ปริปากพูดด้วยความยากลำบากอยู่บ้าง “ฮ่องเต้คิดจะให้ท่านขึ้นเป็นองค์รัชทายาทหรือ?”ตงฟางหลีถอนหายใจ “ใช่ หรืออาจจะไม่ใช่”“ท่านพูดเช่นนี้มิไร้สาระไปหรือ?”“ข้าคาดเดาความคิดของเสด็จพ่อไม่ได้” ตงฟางหลีพู