“กินเนื้อวัวหรือไม่?” นางเอ่ยถามรอยยิ้มที่มุมปากตงฟางซวี่คลี่ออกกว้างขึ้น จากนั้นจึงยื่นชามเข้ามา “กิน”ฉินเหยี่ยนเย่ว์คีบเนื้อวัวให้นางตงฟางซวี่กินเข้าไปหนึ่งคำ แล้วพยักหน้า “มิแปลกใจที่พี่เจ็ดบอกว่าข้าจะต้องชอบท่านแน่นอน พี่สะใภ้เจ็ด ท่านแตกต่างจากผู้อื่นจริง ๆ”“พี่เจ็ดของเจ้าให้เจ้ามางั้นรึ?”
“อย่าขยับ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ขวางตงฟางซวี่ไว้ “พวกเราไม่รู้ถึงเป้าหมายของนักฆ่า ง่ายที่จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น”“อีกอย่าง นักฆ่าก็ไม่จำเป็นจะต้องพุ่งมาทางพวกเรา...”“ใครก็ได้ ใครก็ได้รีบมาเร็ว” เสียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์ยังมิทันจบ พลันมีคนร้องตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจท่ามกลางฝูง “ฮูหยินเหยาฮวาลื่นล้ม เร็
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เรี่ยวแรงของหญิงมีครรภ์ถดถอยลงไปเรื่อย ๆ ทว่าปากมดลูกเพิ่งจะเปิดสองนิ้วฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงรู้สึกร้อนรนสักเล็กน้อยหลังจากหญิงมีครรภ์ลื่นล้ม เดิมอาการก็มิสู้ดีอยู่แล้ว ทั้งยังมีภาวะคลอดยาก เป็นเสมือนกับการเติมแผ่นน้ำค้างแข็งลงบนหิมะยิ่งเวลายืดเยื้อออกไปนานก็จะยิ่งเกิดอันตรา
“สตรีผู้นั้นช่างไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง” ซูเตี่ยนซวงเอ่ยขึ้นด้วยความเกลียดชัง “ท่านพี่ ข้าจะไปกระแทกประตูให้เปิดออก จะปล่อยให้นางสังหารคนไม่ได้”ซูเตี่ยนฉิงรั้งตัวนางกลับมา ก่อนจะยิ้มแย้มพร้อมทั้งเอ่ยเสียงเย็นชา “เจ้าโง่หรือเปล่า?”ฐานะของหญิงมีครรภ์ผู้นั้นมิธรรมดาภายใต้สายตาของหลายคนคอยจับจ
ยายสตรีผู้เฒ่าผู้นี้ก่อเรื่องขึ้นไม่หยุด พากันเอะอะโวยวายไม่หยุดหย่อน ทั้งยังพาคนมากระแทกเข้ากับประตู ทำให้นางไม่มีสมาธิหากถูกรบกวนในระหว่างทำการผ่าตัด หญิงมีครรภ์ผู้นั้นรวมทั้งเด็กจะต้องตายตกไปจริง ๆ คนโง่เขลาพวกนี้!ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยกมือขึ้น ยามที่ฮูหยินโจวพุ่งเข้ามา ฝ่ามือก็ได้สะบัดลงไปอย่างแรง
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกใจยิ่งนัก ก่อนจะรีบเข้ามาดูอย่างรวดเร็วใบหน้าของเด็กเป็นสีม่วงคล้ำ มิมีลมหายใจ ทั้งยังไม่มีเสียงร้องไห้อีก คุณแม่มีภาวะคลอดบุตรยาก เด็กจึงอยู่ด้านในท้องนาน ทำให้เกิดการขาดอากาศหายใจอย่างรุนแรง“วางเด็กลง” เหงื่อเย็น ๆ ปกคลุมบนหน้าผากของฉินเหยี่ยนเย่ว์ในทันทีมีนางอยู่เพียงคนเดียวเช
การถ่ายเลือดในยุคปัจจุบันนั้น โดยส่วนมากจะเป็นการถ่ายส่วนประกอบของเลือดแทน ซึ่งจะแยกออกเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือด เพื่อนำไปใช้กับอาการต่าง ๆเซลล์เม็ดเลือดขาวในเลือดทั้งหมดล้วนแต่เป็นเซลล์ภูมิคุ้มกัน ถึงแม้ว่าจะมีหมู่เลือดที่เหมือนกันก็ตาม ทว่า ก็อาจจะเกิดการตอบสนองของภูมิคุ้มกั
บุรุษร่างสูงใหญ่พลางคุกเข่าคำนับด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด หากแต่สีหน้ากลับเจือไปด้วยความยินดี “ขอบพระทัยพระชายาอ๋องเจ็ดที่ช่วยชีวิตนางเอาไว้ บุญคุณในครานี้ช่างใหญ่หลวงยิ่งนัก กระหม่อมจะมิมีวันลืมเลยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินเหยี่ยนเย่ว์แย้มยิ้มให้กับเขา “ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย ทั้งแม่และลูกปลอดภัยแล้ว”“มีอีกอย
ความเป็นไปได้มากที่สุด คือพี่ใหญ่ใช้ประโยชน์จากทาสเป่ยลู่คนนั้น ทำเรื่องที่มิอาจเปิดเผยได้เหล่านั้นอยู่ที่นี่หากเป็นเหตุผลเช่นนี้ เบาะแสทุกอย่างล้วนราบรื่นแล้วตงฟางหลีเดินอ้อมห้องอีกหนึ่งรอบใช้มือสัมผัสและเคาะสิ่งของที่น่าสงสัยทั้งหมดเบา ๆ ไปหนึ่งรอบน่าเสียดาย ที่หาร่องรอยของห้องลับไม่เจอ“จางฉู
ตงฟางหลีพยุงตัวกับราวบันได ใบหน้าหล่อเหลานั้นซีดเผือดหากเป็นน้ำพุจริง ๆ ไม่เพียงแต่รสนิยมเลวร้าย มิหนำซ้ำยังส่งกลิ่นเหม็นจนทำให้คนเดือดดาลจางฉู่ส่ายหน้า “มิทราบได้พ่ะย่ะค่ะ แทนที่จะบอกว่าเป็นน้ำพุ มิสู้บอกว่า พวกมันดูเหมือนเสาค้ำยันศาลามากกว่า ที่แห่งนี้เป็นที่ที่เฉียนอ๋องสร้างขึ้นกับมือเพื่ออนุภร
ในแววตาเขาไร้คลื่นลม และน้ำเสียงก็ราบเรียบมากเช่นกันเฟยอิ่งลอบขมวดคิ้วแน่นเขารู้จักจางฉู่มาแต่ไหนแต่ไร จางฉู่มีนิสัยเย็นชา กระทำการสุขุมหนักแน่น ไตร่ตรองพิจารณารอบด้าน มิใช่คนที่มุทะลุบุ่มบ่ามพรรค์นั้นหากแต่พฤตกรรมครานี้ ผิดแปลกไปอย่างแท้จริงแปลกไปจนมิคล้ายกับเป็นจางฉู่ตัวจริงเฟยอิ่งยิ่งคิดก็ยิ
ตงฟางหลีเดิมทีก็มีโรครักความสะอาดอยู่แล้ว ทนรับกลิ่นแปลกประหลาดเช่นนี้ไม่ได้ที่สุดยามที่กลิ่นเหม็นเน่าสายนั้นถาโถมเข้ามา เขาถึงกับอดถอยหลังไปหลายก้าวไม่ได้ ภายในกระเพาะประหนึ่งพลิกแม่น้ำล้มมหาสมุทรก็มิปานเขารีบล้วงหาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดจมูก สะกดความรู้สึกขยะแขยงลงไปเฟยอิ่งเองก็ถูกความรู้สึกน่ารัง
“เหตุผลที่คุณหนูเซียวหย่ากับพี่ใหญ่ เป็นเพราะว่าพี่ใหญ่สังหารลูกของพวกเขาเองกับมือ” ตงฟางหลีพูดต่อไป “ที่นางมิสามารถตั้งครรภ์มาโดยตลอด ก็เป็นการขัดขวางของพี่ใหญ่เช่นกัน”“พี่ใหญ่คิดว่าการตายของทาสเป่ยลู่เกี่ยวข้องกับคุณหนูเซียว จึงเอาโทสะมาระบายใส่คุณหนูเซียว คุณหนูเซียวที่ลุ่มหลงในความรักอย่างลึกซึ
บนใบหน้าเย็นชาและแน่วแน่นั้น เผยให้เห็นถึงสีหน้าไม่น่าดูเป็นอย่างยิ่งร่างกายสูงใหญ่ของเขาถอยหลังไปอย่างไร้ร่องรอย น้ำเสียงนั้นทั้งลำบากใจทั้งเจ็บปวด “หวั่นเอ๋อร์...ไม่สิ พระชายาเฉียนจากไปแล้ว และคงไม่มีวันกลับมาอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เรือนบุปผาหาได้มีผู้ใดอยู่ไม่ เชิญท่านอ๋องเจ็ดกลับไปเถิด”ยามที่จางฉู
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใด เวลาที่เหยี่ยนเย่ว์จะได้รับความทรมานก็จะยิ่งนานมากขึ้นเท่านั้นยามที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา หน้าผากตงฟางหลีถึงกับเต้นตุบ ๆ โดยไม่รู้ตัวไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกไปเองหรือไม่เขามักจะรู้สึกว่า แม้ว่ายัยหนูของเขาจะพลั้งเผลอถูกคนลักพาตัวไปทว่า มิใช่สตรีที่จะปล่อยให้ผู้อื่นเข่นฆ่าได้
ขณะเดียวกันภายในหอฉยงฮวาใบหน้าตงฟางหลีดำทะมึนนิ้วของเขาเคาะที่โต๊ะเบา ๆหลังจากคาดเดาได้ว่าเหยี่ยนเย่ว์อาจถูกเฉียนอ๋องลักพาตัวไปเขากลัวว่าหากเข้าไปหาตรง ๆ จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นกลัวว่าหลังจากพี่ใหญ่ที่มีนิสัยวิปริตเช่นนั้นถูกกระตุ้นเข้า จะทำอันตรายต่อเหยี่ยนเย่ว์ดังนั้น จึงมาที่หอฉยงฮวาก่อ
ท่ามกลางการนองเลือดพร่าเลือน เขาตกตะลึงและเผยสีหน้าเหลือเชื่อ “เจ้ารู้ได้เยี่ยงไร?”“ดูเหมือนข้าจะเดาถูก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เย้ยหยันเดิมทีนางไม่แน่ใจนัก และอยากหลอกลวงเขาคิดไม่ถึงว่าการหลอกลวงจะประสบผลสำเร็จในครั้งเดียวการกระทำโหดเหี้ยมเกิดขึ้นที่ก้นทะเลสาบ ช่างเข้ากับนิสัยวิปริตนี้จริง ๆ“เจ้ารู้ได