ตงฟางหลีครุ่นคิดกับตนเองอย่างเงียบ ๆ พร้อมทั้งสั่งให้คนขับรถม้ามุ่งหน้าไปยังวังหลวงในทันทีตงฟางหลีจึงรายงานเรื่องถ้ำหิมะและจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดให้องค์ฮ่องเต้ทราบฮ่องเต้นึกสนใจเรื่องถ้ำหิมะที่เอาไว้หลบหนาวยิ่งนัก จึงเอ่ยซักถามอยู่นาน ก่อนจะช่วยจัดสรรวัสดุอุปกรณ์จำนวนหนึ่งเพื่อบรรเทาภัยพิบัติในค
ตงฟางหลีแสดงท่าทียอมรับโดยปริยายลู่จิ้นปรบมือ “เยี่ยม ๆ ถ้านางกล้ารังแกศิษย์น้องหญิง ก็ให้นางลิ้มรสผลที่ตามมาอันเจ็บปวดเสีย”“เจ้าเจ็ด ยาเม็ดเจวี๋ยจื่อมิใช่จะมีลูกไม่ได้เลย เพียงทำให้ตั้งครรภ์ยากเท่านั้น หากร่างกายแข็งแรง ดูแลอย่างระมัดระวังก็ยังสามารถตั้งครรภ์ได้ แต่ข้ามียาป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย
ตงฟางหลีผลักประตูเปิด ก่อนจะก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ก็ก้าวถอยกลับมาอีกครั้งเขาเห็นคนอยู่ลึกเข้าไปในม่าน ซุกซ่อนอารมณ์ไว้นัยน์ตา“เสด็จพี่หลี ท่านเป็นอันใดไปเพคะ? ไยถึงไม่เข้ามาเล่าเพคะ?” ซูเตี่ยนฉิงพูดปนน้ำเสียงร่ำไห้ตามเอกลักษณ์ของนาง “ฉิงเอ๋อร์ทำอะไรผิดไปหรือเพคะ? หม่อมฉันขอโทษ หม่อมฉันมิควรเ
“เจ้าแสร้งป่วยแล้วเรียกให้ข้ามา ก็เพื่อแสดงละครแบบนี้น่ะหรือ?” ตงฟางหลีถามเสียงเย็นชาซูเตี่ยนฉิงมองเขายังมีสายตาที่กระจ่างชัด ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องมนต์เลย ร่องรอยของความสับสนวุ่นวายฉายพาดผ่านในใจ “นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?”“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไร้ผล”ก่อนหน้านี้นางได้ทดลองมาแล้วหลายคร
“มันเป็นความผิดของท่าน” ซูเตี่ยนฉิงพูดอย่างดุดัน “ยิ่งเป็นความผิดของนังแพศยาฉินเหยี่ยนเย่ว์ เป็นนางที่แย่งชิงท่านไป แย่งชิงท่านที่เป็นของหม่อมฉันไป”“แม่นางซู เจ้าจำไว้ ที่ข้าตัดความสัมพันธ์ต่อเจ้า มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหยี่ยนเย่ว์เลย” ตงฟางหลีพูดขึ้น“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้แน่นอน ถ้าไม่ใช่เพราะ
นางเหมือนกับคนบ้า ตะโกนกรีดร้องสุดเสียง “ตงฟางหลี ท่านเป็นคนเนรคุณ ได้ใหม่ลืมเก่า ท่านถูกนังแพศยาฉินเหยี่ยนเย่ว์นั่นหลอกลวง นังแพศยานั่น เป็นเพราะนังแพศยานั่นเข้ามาขวางทาง หากไม่มีนาง หากนางตายไป ท่านก็ยังเป็นของหม่อมฉัน”“ตงฟางหลี หากวันนี้ท่านกล้าที่จะเดินออกไปจากที่นี่ หม่อมฉันจะทำให้ชีวิตของฉินเ
ครั้นตงฟางหลีออกจากประตูเล็ก ๆ สีของท้องฟ้ามืดลงแล้วภายใต้แสงส่องสะท้อนหิมะ ท้องฟ้าที่มืดมิดก็นับว่าไม่ได้มืดจนเกินไปเขาพาร่างอันหนาวเย็นไปถึงเรือน ทันทีที่ก้าวเข้าตำหนักหมิงอวี้ แสงไฟพลันสว่างขึ้นฉินเหยี่ยนเย่ว์สวมเสื้อคลุมตัวหนายืนอยู่ในลานบ้าน ในมือถือเตาอุ่นมือไว้ ตัวสั่นเทาจากความหนาวเย็น“เ
ดวงตาของตงฟางหลีเป็นประกาย “ไม่ได้ทำอะไร”มือของฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่กำลังทายาให้เขาบิดแก้มของเขา “หืม? ยังอยากปิดบังหม่อมฉันอยู่หรือ?”“ถ้ามีคนทำให้ข้าสิ้นลูกหลานสืบสกุล ข้าคงไม่สามารถฝืนทนกลืนความโกรธเช่นนี้ลงไปได้กระมัง?” ตงฟางหลีคว้ามือนาง “เป็นการให้มาส่งไปเท่านั้นเอง”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เลิกคิ้ว “ท่า
เงื่อนไขจำเป็นในการปลุกอวี้เอ๋อร์ได้บรรลุแล้วจะปลุกอวี้เอ๋อร์และทำให้อวี้เอ๋อร์อยู่ในสภาวะตื่นตลอดเวลาได้อย่างไรนั้น นี่ต่างหากถึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุด“เจ้ามั่นใจกี่ส่วน?” ตงฟางหลีถาม“หกเจ็ดส่วนเพคะ อย่างมากสุดก็แปดส่วน”“แต่เจ้าเคยบอกกับจีอู๋เยียนว่า มีความมั่นใจถึงเก้าส่วน”“หม่อมฉันล้อเขาเล่น
เฮยตั้นไม่พอใจมาก ส่งเสียงร้องเหมียว ๆ เพื่อประท้วงอยู่หลายครั้งมันเหลือบสายตามองตงฟางหลีและฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยความรังเกียจ ก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนตั่งหญิงงามพลางส่ายหาง จากนั้นขดตัวนอนหลับต่อ“พูดคุยจบแล้วหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นตงฟางหลีอิจฉาเฮยตั้นก็พูดไม่ออกนางขยับตัวไปด้านข้าง เพื่อให้มีที่ว่าง
มันส่งเสียงคำรามต่ำอยู่ในลำคอ สีหน้ายังคงแสดงออกถึงความรังเกียจ“บ่าวลองมาหลายครั้งแล้ว แต่พูดอย่างไรเฮยตั้นก็ไม่ยอมกินเลย” เฟ่ยชุ่ยเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “บางที มันอาจจะไม่ชอบกินปลากระมัง”ก่อนที่จะได้พูดจบ เฮยตั้นก็ยกอุ้งเท้าหน้าขึ้น ดึงปลาแห้งมา กัดคำหนึ่งแล้วกลืนมันลงไปหลังจากกินไปชิ้นหนึ่งแล้ว มันก็
“พระองค์มิทราบหรือ?” เฉียนชิงหยางเองก็ตกตะลึงเช่นกันฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่รู้เรื่องเลยสักนิด นางส่ายหัว “เฮยตั้นมีสายเลือดของแมวศักดิ์สิทธิ์แห่งหนานลู่หรือ?”เรื่องนี้นางยังเคยได้ยินเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำ“ใช่แล้ว ท่านอ๋องมีกิจการในหนานลู่ ตอนที่ข้าไปจัดการธุระ เคยเห็นแมวศักดิ์สิทธิ์แห่งหนานลู่หลายครั้ง”
ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยจบ นางและตงฟางหลีก็ขยับตัวออกไปโดยมีเฮยตั้นเป็นศูนย์กลาง“เฮยตั้น มาทางนี้สิ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กระดิกนิ้วเรียกสายตาของเฮยตั้นเคลื่อนไปมาระหว่างพวกเขาสองคนก่อนจะหาวด้วยท่าทีรังเกียจ“เฮยตั้น เวลาที่จะประจักษ์ต่อมิตรภาพของเรามาถึงแล้ว มาหาข้า แล้วคืนนี้จะให้เจ้านอนบนเตียงของข้าก็ได้
น้าเฟิ่งเฉิงไม่อยู่มีเพียงน้าหญิงหลินซู่ซู่เท่านั้นที่ออกมาต้อนรับพวกเขาเนื่องจากไม่จำเป็นต้องปกปิดเรื่องของเฟิ่งเหลียนอีกต่อไป และไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเฟิ่งเหลียนจะถูกลักแย่งตัวไป หลินซู่ซู่จึงสบายใจมากขึ้น สีหน้าสีตาก็ดูดีขึ้นกว่าครั้งก่อนไม่รู้กี่เท่าจึงปฏิบัติต่อฉินเหยี่ยนเย่ว์อย่างกระตือรือร
แสงนี้มีความเย็นยะเยือกเล็กน้อยฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้ว่าตนเหยียบกับระเบิดเข้าให้แล้ว และรีบปิดปากทันที“ก็ได้” ตงฟางหลีคิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง “ถ้ายัยหนูขอเช่นนี้ ข้าควรเชื่อฟังเจ้า แต่ข้าจะไม่ร้องเพลงเปล่า ๆ หรอกนะ เจ้าต้องให้สิ่งตอบแทนข้ามิใช่หรือ?”“หม่อมฉันไม่มีเงิน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตอบ“ไยในหั
ด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ในมุมของฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงสามารถมองเห็นจวนที่หมิ่นจูอาศัยอยู่ได้อย่างชัดเจน รวมถึงทิวทัศน์ในลานเรือนของบ้านใกล้เรือนเคียงได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ตอนที่พี่หกคลานเข้าไปในลานเรือนของเพื่อนบ้านผ่านช่องสุนัขลอด และถูกหญิงสาวร่างกำยำล่ำสันเพื่อนบ้านคนนั้นพาตัวไป ทุกอย่างอยู่ในสายตาข
เจ้าของเสียงแหบพร่านี้ เป็นผู้หญิงร่างใหญ่…และแข็งแกร่งหากบอกว่ามู่เยี่ยสืบทอดสายเลือดจากเป่ยลู่ จึงมีรูปร่างสูงใหญ่ทว่าหญิงสาวตรงหน้า รูปร่างเตี้ยกว่ามู่เยี่ยครึ่งศีรษะ ร่างกายกลับกว้างกว่ามู่เยี่ยเกือบสองเท่านางยืนอยู่ตรงนั้นราวเนินเขา ครั้นเอื้อนเอ่ยวาจาพื้นดินก็สั่นสะเทือนสามครั้งนางมีดวงตาเ