“ตงฟางหลี หม่อมฉันรู้สึกสับสนนิดหน่อย”“หือ?”“หม่อมฉันฝันถึงบางเรื่องที่หม่อมฉันเองไม่รู้ว่าควรจะอธิบายอย่างไรดี” นางเอ่ยพร้อมทั้งถอนหายใจ “หม่อมฉันไม่รู้แม้กระทั่งว่านั่นเป็นความทรงจำที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของสมองหรือว่าเป็นความฝันกันแน่”นับตั้งแต่ไปที่วัดวั่นเฮ่อจนถึงตอนนี้ ข้อมูลทุกอย่างที่ได้รับม
ขณะที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดจะดึงมือกลับไป ตงฟางหลีก็ฉวยโอกาสดึงนางเข้ามาในอ้อมกอดนัยน์ตาทั้งสองข้างเต็มไปได้ด้วยสีสันสวยงามราวกับเมฆหมอกเสียงของเขาอ่อนโยนเหมือนดั่งสายลมอันอบอุ่นโชยอย่างแผ่วเบา “ยังจำได้หรือไม่?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถูกน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างกะทันหันของตงฟางหลีทำให้ตกใจนางตัวสั่นสะท้านอย่าง
“เป็นพิธีอย่างไรเล่า”“แต่ นี่น่าจะควรดื่มตอนแต่งงานนะเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดขึ้น “นี่ก็ผ่านไปได้นานเท่าไรแล้ว ยังมีพิธีอันใดอีก? ท่านออกไปก่อนเถอะ”“ต้องดื่ม” ตงฟางหลีถึงกับใช้น้ำเสียงจริงจังอย่างหาได้ยาก“เหยี่ยนเย่ว์ สิ่งที่ข้าติดค้างเจ้าไว้ก่อนหน้านี้ ล้วนต้องชดใช้ให้หมด”ฉินเหยี่ยนเย่ว์อยากจะพ
“ข้าบอกไปแล้ว ว่านี่เป็นเรื่องใหญ่” ไป๋โค้วมองส้มที่เหลืออยู่ครึ่งลูกในจาน ก็เอื้อมมือไปหยิบขึ้นมา โยนเปลือกส้มเข้าเตาไฟ แล้วยัดส้มเข้าปาก เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอู้อี้ “ช่วงหลายวันที่ท่านหมดสติไม่ฟื้นนั้น ท่านอ๋องเอาแต่ทำตัวผิดปกติอยู่ทั้งวัน ข้าถามตู้เหิงถึงได้รู้ว่า เป็นวันที่พวกท่านทั้งสองนัดหมายกั
เย่ว์ลู่โหดร้ายถึงกับทุบตีคนเชียวหรือ?“เรียนพระชายา เป็นเรื่องจริงเพคะ” หู่พั่วเอ่ย “ในวันแต่ง ท่านหญิงเย่ว์ลู่ได้ก่อเรื่อวุ่นวายในงาน จนทำให้จวนอ๋องสามต้องกลายเป็นตัวตลก พระสนมซูกลั้นความโกรธไว้จนเต็มท้อง พอถึงวันถัดมา ตอนที่ท่านหญิงเย่ว์ลู่เข้าวังไปยกน้ำชาคารวะยามเช้า พระนางก็จงใจไม่รับชาของท่านห
“สถานการณ์ท่านหญิงเย่ว์ลู่เป็นอย่างไรบ้าง?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยถาม“นับตั้งแต่หลังจากตบพระสนมซู จนท่านหญิงถูกกักบริเวณและคัดพระคัมภีร์เป็นต้นมา บ่าวก็มิได้เจอนางอีกเลยเพคะ” หู่พั่วเอ่ยตอบ “แต่บ่าวได้ยินมาว่า นางเจริญอาหารมาก อารมณ์ก็ไม่เลวเลยเพคะ”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พินิจพิจารณาอารมณ์ของเย่ว์ลู่อยู่ในส
สถานะของสตรีต่ำต้อยเพียงนี้ แม้จะเป็นการเลิกราจากกันด้วยดี สตรีก็จะไม่มีวันมีชีวิตที่ดีไม่แปลกใจที่ในใจตงฟางหลีจะรู้สึกผิด ถึงกับต้องการจะร่วมหอกับนางโดยไม่สนอาการบาดเจ็บ ที่แท้ยังมีกฎเช่นนี้อยู่ด้วยนางกวาดสายตามองเฝ่ยชุ่ยที่ใบหน้าแดงก่ำ ก่อนที่สายตาจะทอดมองไปยังตู้เหิงที่กระสับกระส่ายสีหน้าตู้เห
เรื่องการแต่งงานนี้ แม้ว่าตงฟางหลีจะไม่ยินดีก็ไร้หนทางปฏิเสธหากพระพันปีพระราชทานอภิเษกสมรสด้วนตนเอง ก็เท่ากับแพ้เกมหมาก ถึงพวกเขาทั้งคู่จะไม่ยินดีทว่าก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีเมื่อซูเตี่ยนฉิงเข้าจวนอ๋องเจ็ด เกรงว่าในจวนนี้คงจะพลิกหน้ากลับหลังแล้วฉินเหยี่ยนเย่ว์บีบแขนเสื้อแน่น นางไม่สามารถรอต่อไปได้อีก