“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกใจมากปู่เป็นนักพรตเต๋าเทียนหลิงหรือ?แต่ไม่ใช่ว่าปู่เสียชีวิตไปแล้วหรือ?ทำไมเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้? นักพรตเต๋าเทียนหลิงมันคืออย่างไรกันแน่?นางมีคำถามมากมายประเดประดังเข้ามาในใจ ในใจของนางสับสนวุ่นวายไปหมดภาพเงาของนักพรตเต๋าเทียนหลิงยิ้มพลางพยักหน้า “โอ้
ปริศนานี้ถูกโค้งหักศอกไปถึงไซบีเรีย มันทั้งหนาวเหน็บ ทั้งกระอักกระอ่วน ไม่น่าสนใจเลยสักนิดเดียวณ จุดนี้สอดคล้องกับสไตล์ตาแก่“หนูอ่านบันทึกของปู่แล้ว ลายมือในบันทึกก็ไม่เหมือนกับลายมือของปู่เลยสักนิด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดขึ้น “ไม่อย่างนั้นหนูจะจำปู่ไม่ได้ได้ยังไงกัน”“ก็นี่ล่ะ” นักพรตเต๋าเทียนหลิงหยุ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้ยินแล้วโกรธเล็กน้อยพูดไปพูดมา ตาแก่คนนี้ยังคงพูดไม่เข้าประเด็นนี้“ตาแก่ ถ้าปู่ยังพิรี้พิไรต่อไปหรือพูดไร้สาระ หนูจะถอนเคราของปู่ทีละเส้น”“เฮ้อ อารมณ์ร้อนได้ใครมาเนี่ย ช่างเถอะ ๆ ” นักพรตเต๋าเทียนหลิงลูบเครา “ยัยหนู หลานรู้ว่าโทรศัพท์มือถือโทรออกได้ยังไงไหม?”“ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกล
“ในเวลาเพียงเจ็ดวัน มีคนเสียชีวิตเจ็ดคน ปู่ได้ตรวจสอบร่างของพวกเขา ไม่ใช่การฆาตกรรม ไม่ใช่โรค แต่เป็นการเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ในสามคนที่เหลือ คนหนึ่งเป็นบ้า และนักฟิสิกส์ชั้นนำอีกคนหนึ่งกลายเป็นอยู่ในภาวะสมองเสื่อม และปู่... ปู่เป็นคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้”หัวใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์เต้นแรงขึ้นมา “ทำไม
”ยัยหนู นิสัยของหลานก็ยังใจร้อนเกินไปเช่นเดิม” นักพรตเต๋าเทียนหลิงถอนหายใจ “ถ้าปู่ไม่อธิบายให้หลานฟังอย่างชัดเจน และบอกคำตอบโดยตรงให้หลานไปเลย หลานฟังแล้วจะยิ่งหงุดหงิดมากขึ้น ไม่แน่อาจจะถอนเคราของปู่ออกเกลี้ยงเลยด้วยซ้ำ”“ฟังถึงตอนนี้แล้ว หลานก็น่าจะเข้าใจอะไรบ้างได้แล้วใช่ไหม? ระยะพิกัดทั้งหมดในหิ
เมื่อคิดถึงเรื่องของปู่ และพ่อแม่ ความคิดของนางมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือต้องกลับไป!แต่เขากลับดึงนางกลับสู่ความเป็นจริง“ตงฟางหลี” นางขมวดคิ้ว “หม่อมฉัน...ขอโทษ”“เจ้ารับปากกับข้าแล้ว” เสียงของตงฟางหลีสั่นไหวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “เจ้าเคยบอกว่าจะไม่บินหนีไป”“หม่อมฉันก็ไม่ใช่ผีเสื้อ แล้วก็
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้ยินเช่นนั้น เส้นเลือดบนหน้าผากก็กระโดดขึ้นทันทีตอนที่ตาเฒ่าจากไป ตงฟางลั่วก็มีอายุเพียงห้าหกขวบเอง ปู่จะรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นผู้ชายสารเลว?เขาสามารถทำนายอนาคตได้หรือ?“ลู่ซิว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดต่อ“ไสหัวไป ลู่จิ้นเจ้าไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้เลย ถ้าหลานสาวข้าแต่งงานกับคนรุ่นหลังของเจ
หลังจากที่ในห้องมืดลง ทุกสิ่งในพื้นที่อันกว้างใหญ่ก็เงียบสนิท“ปู่?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์จ้องมองไปที่แท่นทรงกลมอันมืดสนิทอย่างว่างเปล่า ไม่สามารถตอบสนองได้เป็นเวลานานเมื่อคิดว่านางกับปู่แยกจากกันตลอดกาล แล้วคิดว่าปู่ของนางก็คือเทพลวงโลกในตำนาน คิดถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ อารมณ์คว
ความเป็นไปได้มากที่สุด คือพี่ใหญ่ใช้ประโยชน์จากทาสเป่ยลู่คนนั้น ทำเรื่องที่มิอาจเปิดเผยได้เหล่านั้นอยู่ที่นี่หากเป็นเหตุผลเช่นนี้ เบาะแสทุกอย่างล้วนราบรื่นแล้วตงฟางหลีเดินอ้อมห้องอีกหนึ่งรอบใช้มือสัมผัสและเคาะสิ่งของที่น่าสงสัยทั้งหมดเบา ๆ ไปหนึ่งรอบน่าเสียดาย ที่หาร่องรอยของห้องลับไม่เจอ“จางฉู
ตงฟางหลีพยุงตัวกับราวบันได ใบหน้าหล่อเหลานั้นซีดเผือดหากเป็นน้ำพุจริง ๆ ไม่เพียงแต่รสนิยมเลวร้าย มิหนำซ้ำยังส่งกลิ่นเหม็นจนทำให้คนเดือดดาลจางฉู่ส่ายหน้า “มิทราบได้พ่ะย่ะค่ะ แทนที่จะบอกว่าเป็นน้ำพุ มิสู้บอกว่า พวกมันดูเหมือนเสาค้ำยันศาลามากกว่า ที่แห่งนี้เป็นที่ที่เฉียนอ๋องสร้างขึ้นกับมือเพื่ออนุภร
ในแววตาเขาไร้คลื่นลม และน้ำเสียงก็ราบเรียบมากเช่นกันเฟยอิ่งลอบขมวดคิ้วแน่นเขารู้จักจางฉู่มาแต่ไหนแต่ไร จางฉู่มีนิสัยเย็นชา กระทำการสุขุมหนักแน่น ไตร่ตรองพิจารณารอบด้าน มิใช่คนที่มุทะลุบุ่มบ่ามพรรค์นั้นหากแต่พฤตกรรมครานี้ ผิดแปลกไปอย่างแท้จริงแปลกไปจนมิคล้ายกับเป็นจางฉู่ตัวจริงเฟยอิ่งยิ่งคิดก็ยิ
ตงฟางหลีเดิมทีก็มีโรครักความสะอาดอยู่แล้ว ทนรับกลิ่นแปลกประหลาดเช่นนี้ไม่ได้ที่สุดยามที่กลิ่นเหม็นเน่าสายนั้นถาโถมเข้ามา เขาถึงกับอดถอยหลังไปหลายก้าวไม่ได้ ภายในกระเพาะประหนึ่งพลิกแม่น้ำล้มมหาสมุทรก็มิปานเขารีบล้วงหาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดจมูก สะกดความรู้สึกขยะแขยงลงไปเฟยอิ่งเองก็ถูกความรู้สึกน่ารัง
“เหตุผลที่คุณหนูเซียวหย่ากับพี่ใหญ่ เป็นเพราะว่าพี่ใหญ่สังหารลูกของพวกเขาเองกับมือ” ตงฟางหลีพูดต่อไป “ที่นางมิสามารถตั้งครรภ์มาโดยตลอด ก็เป็นการขัดขวางของพี่ใหญ่เช่นกัน”“พี่ใหญ่คิดว่าการตายของทาสเป่ยลู่เกี่ยวข้องกับคุณหนูเซียว จึงเอาโทสะมาระบายใส่คุณหนูเซียว คุณหนูเซียวที่ลุ่มหลงในความรักอย่างลึกซึ
บนใบหน้าเย็นชาและแน่วแน่นั้น เผยให้เห็นถึงสีหน้าไม่น่าดูเป็นอย่างยิ่งร่างกายสูงใหญ่ของเขาถอยหลังไปอย่างไร้ร่องรอย น้ำเสียงนั้นทั้งลำบากใจทั้งเจ็บปวด “หวั่นเอ๋อร์...ไม่สิ พระชายาเฉียนจากไปแล้ว และคงไม่มีวันกลับมาอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เรือนบุปผาหาได้มีผู้ใดอยู่ไม่ เชิญท่านอ๋องเจ็ดกลับไปเถิด”ยามที่จางฉู
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใด เวลาที่เหยี่ยนเย่ว์จะได้รับความทรมานก็จะยิ่งนานมากขึ้นเท่านั้นยามที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา หน้าผากตงฟางหลีถึงกับเต้นตุบ ๆ โดยไม่รู้ตัวไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกไปเองหรือไม่เขามักจะรู้สึกว่า แม้ว่ายัยหนูของเขาจะพลั้งเผลอถูกคนลักพาตัวไปทว่า มิใช่สตรีที่จะปล่อยให้ผู้อื่นเข่นฆ่าได้
ขณะเดียวกันภายในหอฉยงฮวาใบหน้าตงฟางหลีดำทะมึนนิ้วของเขาเคาะที่โต๊ะเบา ๆหลังจากคาดเดาได้ว่าเหยี่ยนเย่ว์อาจถูกเฉียนอ๋องลักพาตัวไปเขากลัวว่าหากเข้าไปหาตรง ๆ จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นกลัวว่าหลังจากพี่ใหญ่ที่มีนิสัยวิปริตเช่นนั้นถูกกระตุ้นเข้า จะทำอันตรายต่อเหยี่ยนเย่ว์ดังนั้น จึงมาที่หอฉยงฮวาก่อ
ท่ามกลางการนองเลือดพร่าเลือน เขาตกตะลึงและเผยสีหน้าเหลือเชื่อ “เจ้ารู้ได้เยี่ยงไร?”“ดูเหมือนข้าจะเดาถูก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เย้ยหยันเดิมทีนางไม่แน่ใจนัก และอยากหลอกลวงเขาคิดไม่ถึงว่าการหลอกลวงจะประสบผลสำเร็จในครั้งเดียวการกระทำโหดเหี้ยมเกิดขึ้นที่ก้นทะเลสาบ ช่างเข้ากับนิสัยวิปริตนี้จริง ๆ“เจ้ารู้ได