ตอนนี้หญิงตั้งครรภ์เกิดเรื่องขึ้น ไม่แน่ว่า...“ท่านกลัวว่าจะถูกเหลยอันโหวแว้งกัดอยู่หรือ?” มือฉินเหยี่ยนเย่ว์เย็นเฉียบ มือข้างหนึ่งถูกเขากุมเอาไว้แน่น จึงเหลือมืออยู่หนึ่งข้าง แต่กุมเตาไฟอุ่นมือไว้ไม่ได้ ได้แค่ปล่อยไว้จนหนาวเย็นนางดิ้นหนีไม่หลุด จึงยัดมือที่เย็นเฉียบเข้าไปในสายเสื้อของเขามือเปล่า
“เสี่ยวจิ่ว ข้าเอง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตบเขาเบา ๆ “จำข้าได้หรือไม่ คนที่พาเจ้ากลับมาเมื่อเช้า”ตงฟางจิ่วคุ้นเสียงของนาง ก็โผล่ออกมาจากในผ้าห่มช้า ๆ มองไปรอบ ๆ ด้วยความกริ่งเกรง กลัวว่าจะมีคนมาทุบตีทำร้ายเขา“เด็กดี” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ปลอบโยนเขา “ไม่ต้องกลัว ที่นี่ไม่มีคนไม่ดีหรอก”นางเข้าไปใกล้อย่างเชื่องช
ตงฟางหลีและตงฟางเจวี๋ยโน้มกายเข้ามาบนกระดาษแผ่นนั้น จุดที่วาดเครื่องหมายถูกคือมีลักษณะพิเศษที่คล้ายคลึงกันในหนึ่งบรรทัดจากเครื่องหมายถูกทั้งหมดนั้น พวกเขาสี่คนพี่น้องมีความคล้ายคลึงกันทุกประการ“หม่อมฉันรู้สึกว่านี่เหลวไหลไปบ้าง แต่ว่า...” ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิ้วขมวด “ในบรรดาพวกท่านสี่คน มีเพียงข้อนี้
“เรือนโยวหลานของข้าเล็กยิ่งนัก อีกทั้งยังอากาศหนาวอีกด้วย พวกเจ้าพักผ่อนอยู่ที่นี่ให้ดีเถอะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ลูบศีรษะพวกเขา “จริงด้วย เสี่ยวจิ่ว แม่นมเองก็พักผ่อนอยู่ในที่ที่อบอุ่นเช่นกัน เจ้าอย่าได้เป็นห่วงนางเลย”ตงฟางจิ่งหยักหน้า เปล่งเสียงอืออาออกจากลำคอ“เสี่ยวจิ่วบอกว่าเขาเคยไปเยี่ยมแม่นมแล้ว แ
ครั้งแรกของทั้งสองฝ่าย ไม่ควรจะอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่เร่งรีบทั้งยังเหนื่อยล้าอ่อนแรงเช่นนี้“ไม่ได้ตกลงกันไว้แล้วว่าหนึ่งเดือนมิใช่หรือ?” นางพูดขึ้น “พวกเราเป็นสามีภรรยากันแล้วนะเพคะ ไม่รีบ”“ข้ามิได้รีบร้อน เพียงแค่...ขอโทษ” ตงฟางหลีผินใบหน้าของนางกลับมา แล้วเอ่ยขอโทษอย่างจริงจังฉินเหยี่ยนเย่ว์ชะง
ยามที่ตงฟางหลีก้มหน้าลงมานั้นพลันสบตาเข้ากับนางพอดีภายใต้แสงเทียนที่ส่องลงมากระทบใบหน้านาง คลื่นในแววตาของนางกลับส่องประกายแวววาว รอยยิ้มของนางอบอุ่นราวกับวสันตฤดูเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ตงฟางหลีรู้สึกมีความสุขยิ่งนัก“ข้าอนุญาตแล้ว” ตางฟางหลีจับมือของนางเอาไว้ พลางเอ่ยเรียกให้ข้ารับใช้นำสำรับอาหารเข้
ยิ่งรอคอยนานเท่าใด ภายในใจของนางยิ่งฟุ้งซ่านมากขึ้นเท่านั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์มิอาจรั้งรอเช่นนี้ได้อีกต่อไป รีบร้อนไปหาตู้เหิงในทันทีพลางกล่าวว่า “ตู้เหิง พาข้าเข้าวังหลวงเร็ว”ตู้เหิงที่กำลังเล่นชกมวยกับเด็ก ๆ อยู่นั้นได้แต่ปาดเหงื่อออกมา “พระชายาพ่ะย่ะค่ะ หากมิมีป้ายประจำและพระราชโองการ พวกเรามิอาจเข
ตงฟางอิงจึงรับผ้าเช็ดหน้าไปเช็ดน้ำหูน้ำตาของตนเอง ก่อนจะพยักหน้าลงเล็กน้อย “ท่านมิต้องกังวล ข้าจักค่อย ๆ บอกเขาเอง”“ก่อนหน้านั้น ยามที่เสด็จแม่จากข้าไป ข้าคิดว่าตนเองเป็นบุคคลที่น่าสงสารที่สุดแล้ว หลังจากที่ได้มาเจอเสี่ยวจิ่วนั้น ข้าถึงได้รู้ว่า เขาน่าสงสารกว่าข้ามากนัก”“ข้าตัดสินใจแล้ว ด้วยตำแหน่
ป้าหวนฝืนร่างกายตนถอยหลังไปสองสามก้าว และกระอักเลือดออกมาสองสามคำ“พวกท่าน!” หลังจากที่จิตใจของป้าหวนสับสนวุ่นวาย จึงเต็มไปด้วยช่องโหว่ นางถูกตงฟางหลีโจมตี และชีพจรหัวใจก็ได้รับผลกระทบเลือดลมชี่สูบฉีดพุ่งสูงขึ้น ชีพจรหัวใจถูกจำกัด และลมหายใจผิดปกติเมื่อรู้ว่านางไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ จึงยัดยาคลั
“นี่” จีอู๋เยียนเก็บกระบี่เข้าฝัก แล้วพูดขึ้นเสียงเย็น “กองทัพที่ไม่เป็นโล้เป็นพายเก็บกวาดหมดแล้ว คนผู้นี้จะจัดการเช่นไร?”เขาชี้ไปที่ป้าหวนซึ่งดูใบหน้าซีดเซียวป้าหวนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้มากจนพูดไม่ออกนางมองลูกน้องของนางที่ล้มลงอยู่บนพื้น ดวงตาเบิกโพล่งปรมาจารย์ชั้นยอดหลายสิบคน ใ
“หากบุรุษผู้นี้มิใช่เฟิ่งหลี ข้าจะสับเขาเป็นชิ้น ๆ แน่นอน” ตงฟางหลีพูดแล้วหยิบขวดยาออกมาป้อนให้แก่เฟิ่งหลีฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดไม่ออกแม้ว่าองครักษ์จื่ออวี๋จะไม่ใช่เฟิ่งหลี แต่เป็นคนอื่น นางก็ยังคงทำอย่างนั้นในสถานการณ์เช่นนั้นประเด็นความหึงหวงก็แปลกพิลึกเช่นเคย“ท่านป้อนอะไรให้ท่านพี่?” นางถาม“ยาถอ
ไม่รอให้ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตอบกลับ ตงฟางหลีก็เตะเขาออกไป“ตงฟางหลี ท่านทำอะไรน่ะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกใจเฟิ่งหลีใกล้จะตายอยู่แล้ว ถูกตงฟางหลีกระทำอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ ไหนเลยจะรับไหว?นางรีบคว้าเฟิ่งหลีเอาไว้ และวางมือที่สั่นเทาบนข้อมือของเขาเกราะเม่นอ่อนของเฟิ่งหลีที่มอบให้นาง ช่วยป้องกันการโจมตีส่วนให
“เหยี่ยนเย่ว์!”ในตอนที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดว่าตนกำลังจะตาย สุ้มเสียงที่เป็นกังวลก็ดังขึ้น“เหยี่ยนเย่ว์ เจ้าเป็นไรหรือไม่?”“ยัยหนู เจ้าห้ามเป็นอะไรเด็ดขาดนะ”เสียงหนึ่ง ตอนแรกฟังดูเหมือนมาจากมิติอันไกลโพ้น ยากที่จะได้ยินชัดเจนแต่แล้วเสียงนั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆผ่านชั้นสีเลือด ขจัดความกลัว ข
หลังจากที่ป้าหวนออกคำสั่ง ทุกคนต่างรวมตัวกันรอบฉินเหยี่ยนเย่ว์และเฟิ่งหลีกระบี่ยาวหอบลมปะทะมา ทั้งหมดโจมตีลงมาที่พวกเขาฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่เคยพบเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อนครั้งก่อนที่ถูกคนของอีกาดำโจมตี อีกาดำตัวนั้นไม่ได้เห็นนางอยู่ในสายตาเลย และการเคลื่อนไหวของฝ่ามือช่างเชื่องช้ายิ่งนัก นางหลบหนีได้ภา
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกว่าเถาวัลย์โลหิตถูกคนตัดออกไป ร่างกายเบาขึ้นดูเหมือนมีคนตบใบหน้านางอย่างแรงคนผู้นั้นยังคงพูดอะไรบางอย่างร้อนใจด้วยเสียงที่ห่างไกลฟื้นคืนกลับมาทีละน้อย และสมองที่ค้างเติ่งว่างเปล่าก็เริ่มต้นใหม่เช่นกัน“สาวน้อย ตื่นได้แล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองไปยังแหล่งที่มาของเสียงด้านหน้า ใบ
องครักษ์จื่ออวี๋ในยามนี้ตกอยู่ภายใต้การโจมตีจากทั้งสองด้านแล้วหลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บ สีหน้าย่ำแย่อย่างรวดเร็วบนกระบี่มีพิษ!ภายใต้ผลกระทบของพิษ สติขององครักษ์จื่ออวี๋พร่ามัวเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะรีบผนึกจุดฝังเข็มที่สำคัญหลายจุดจุดฝังเข็มถูกผนึกกะทันหัน และเมื่อเลือดลมพุ่งทะยานขึ้น เขาจึงกระอัก
นอกจากกำแพงที่มิอาจเข้าใกล้ได้แล้ว อีกสามทิศที่เหลือล้วนถูกยึดครองทั้งหมดภายใต้วงล้อมที่โอบล้อมหลายชั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์และองครักษ์จื่ออวี๋เหลือเรี่ยวแรงเพียงเล็กน้อยฝั่งตรงข้ามมีคนจำนวนมาก ส่วนพวกเขามีกันเพียงสองคน การต่อสู้แบบเวียนเทียนสามารถทำให้พวกเขาเหนื่อยล้าจนหมดแรงได้เช่นกัน“รีบสู้รีบจบเถิ