เฟ่ยชุ่ยเลียนแบบน้ำเสียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์และพูดขึ้นอย่างน่ากลัวไป๋โค้วตัวสั่นเทิ้ม ครั้นนึกถึงความน่าสะพรึงกลัวของการถูกหญิงอสรพิษครอบงำเมื่อครู่ และหยุดเดินอย่างเงียบ ๆหญิงอสรพิษเป็นคนอารมณ์ไม่แน่นอน จึงสามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้จริง ๆ“ไม่ใช่ว่าข้ากลัวนางนะ แต่ข้ากลัวว่าเจ้าเด็กตู้เหิงจะเดือดร้อน
สีหน้าของตู้เหิงซับซ้อนมากท่านอ๋องเกลียดสตรียามเข้าใกล้เขาที่สุด ก่อนวันนี้ ห้องนี้ก็ยังไม่เคยมีสตรีคนใดย่างกรายเข้ามาเลยทว่าในค่ำคืนนี้ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่เพียงแต่บุกเข้ามาในห้องเท่านั้น ยังถอดเสื้อผ้าของท่านอ๋องออก และสัมผัสพื้นที่ส่วนใหญ่บนร่างกายของท่านอ๋องอีกด้วยเรื่องนี้หากถูกท่านอ๋องรู้เข้า
“ตำแหน่งที่โดนลูกธนูยิง”ตู้เหิงลังเลเล็กน้อย “ตรง ตรงขาพ่ะย่ะค่ะ นั่นเป็นบาดแผลเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ไม่น่าเกี่ยวกับอาการป่วยครั้งนี้หรอกกระมังพ่ะย่ะค่ะ?”“ข้าดูบาดแผลก่อนแล้วค่อยคุยกัน” ฉินเหยี่ยนเยว่ห์กล่าว ขณะกำลังจะปลดกางเกงของตงฟางหลี“ท่านทำอะไรพ่ะย่ะค่ะ?” ตู้เหิงตกใจ พลางรีบขัดขวางนาง“ข้าจะดู
“ตู้เหิง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองไปยังตู้เหิงด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ก่อนหน้านี้เจ้าเกลียดข้า คิดว่าเป็นข้าที่บีบบังคับให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าตัดเส้นเอ็นข้อมือใช่หรือไม่?”ตู้เหิงเยาะหยัน นางยังมีหน้ามากล่าวอีกหรือ?“ข้าคิดว่าพวกเจ้าควรจะขอบคุณข้า” นางกล่าวเสียงอ่อน “แม้ว่าตงฟางหลีจะได้รับบาดเจ็บ แต่ ข้อม
ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอื้อมมืออกไปแตะหน้าผากตงฟางหลี เขากลับมาไข้สูงอีกครั้งจริงใบหน้าเขาซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด ทว่าหน้าผากกลับร้อนเสียจนน่าตกใจยาลดไข้ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว“บาดแผลของเขา ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเอาไว้จริง” หัวใจฉินเหยี่ยนเย่ว์ราวกับถูกบีบรัดแน่น “เจ้าจะต้องหาตัวหมอหลวงหลินมาให้ได้”อาศั
ตู้เหิงที่ได้ยินคำพูดที่ไร้ยางอายของฉินเหยี่ยนเย่ว์นั้น ก็ชะงักราวกับกลายเป็นหินไป ณ ตรงนั้น ไม่รู้ว่าควรจะแสดงสีหน้าออกไปอย่างไรดีไปชั่วขณะ“พูดไม่อายปาก” ผ่านไปเนิ่นนาน เขาก็เอ่ยด้วยใบหน้าแดงซ่าน“ข้าพูดไม่รู้จักอายปาก? แม้ว่าตงฟงหลีจะไม่ชอบข้า รังเกลียดข้า ข้าก็ยังเป็นพระชายาของเขา ว่ากันตามหลักแ
ยาต้มได้ถูกปล่อยวางทิ้งไว้จนอุ่น ห่างจากเวลาที่ทานยาแก้อักเสบกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วนางถือช้อนขึ้นมาป้อนยาให้เขา ยาค่อย ๆ ไหลออกจากมุมปากของเขาอย่างช้า ๆ เช่นเดียวกับเมื่อสักครู่นี้เขาไม่สามารถดื่มยาได้เลย“ข้าจักต้องติดหนี้ท่านแน่ ๆ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจ ก่อนจะดื่มยาหนึ่งอึก แล้วป้อนให้เขาอย่างช้
ตงฟางหลีสีหน้าดำทะมึนขึ้นมาทันควัน ขณะที่คิดจะขับไล่นางให้ออกไปนั้น พลันนึกถึงความฝันเมื่อสักครู่ขึ้นมาทันทีเหตุการณ์ในความฝันนั้นค่อย ๆ ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน ใบหน้าของเทพธิดาหญิงที่ป้อนยาเซียนตันให้แก่เขาทับซ้อนกับใบหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ เช่นนั้นแล้ว มิน่าจะเป็นเพียงแค่ความฝันหรือบางที เขาอาจจะเดิน