ตงฟางหลีสีหน้าดำทะมึนขึ้นมาทันควัน ขณะที่คิดจะขับไล่นางให้ออกไปนั้น พลันนึกถึงความฝันเมื่อสักครู่ขึ้นมาทันทีเหตุการณ์ในความฝันนั้นค่อย ๆ ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน ใบหน้าของเทพธิดาหญิงที่ป้อนยาเซียนตันให้แก่เขาทับซ้อนกับใบหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ เช่นนั้นแล้ว มิน่าจะเป็นเพียงแค่ความฝันหรือบางที เขาอาจจะเดิน
ตงฟางหลีพูดไม่ออกในความฝัน เขาก็เกือบจะตายแล้วเช่นเดียวกันเนื่องจากเทียนเผาไหม้มาเป็นระยะเวลานาน ไส้เทียนจึงส่งผลต่อแสงสว่าง ภายในห้องจึงแปรเปลี่ยนเป็นมืดมิด ฉินเหยี่ยนเย่ว์วางจานแอปเปิ้ลลงบนเก้าอี้ตัวเตี้ยข้าง ๆ โต๊ะ ก่อนจะหยัดกายขึ้นตัดไส้เทียน เทียนแดงกระพริบวูบวาบสองสามครั้ง ก่อนที่ภายในห้องจะ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็มิได้สนใจ “หลังจากที่อาการของท่านกำเริบ มีความเป็นไปได้สูงที่จะตกเข้าสู่สภาวะคลั่งเพคะ”“เมื่อถึงตอนนั้น ร่างกายของท่านจะอยู่ในจุดวิกฤต ประจวบเหมาะกับที่บาดแผลอยู่ในช่วงอ่อนแอ ในระหว่างท่านกำลังปวดศีรษะ ความเจ็บปวดตรงขาของท่านจึงมิได้แสดงออกมาในทันที ท่านอาจจะยังไม่ทันสังเกตเห็นก็เพ
“ไม่มี? เป็นไปไม่ได้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว“พระชายาพระทัยเย็นก่อนพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอดูแผลของท่านอ๋องก่อนได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงหลินกล่าว“ท่านอ๋อง สามารถให้หมอหลวงดูบาดแผลของท่านได้ไหมเพคพะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองไปยังตงฟางหลีสีหน้าของตงฟางหลีดำทะมึนเขาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน แล้วทอดมองไกลออกไปฉินเหยี
“ยานี้มิเหมาะให้ท่านอ๋องใช้” ใบหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ปรากฏเส้นดำหนึ่งแถบ “เกรงว่าราชาแห่งพิษผู้นั้นกำลังหลอกเจ้าอยู่กระมัง?”แม้จะมีประโยคที่ว่าใช้พิษต้านพิษ แต่ ใช่ว่าจะใช้ในทางที่ผิดได้การใช้ยาชนิดนี้ให้กับตงฟางหลีที่ร่างกายอ่อนแอ แม้แต่เทพต้าหลัวก็ช่วยให้กลับมามีชีวิตได้ยาก“เป็นไปไม่ได้” หลอหลวงห
“หืม?” ตงฟางหลีเหลือบตาขึ้นมอง ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ข้ากลับคิดว่า ให้เจ้ากับลู่ซิวไปอยู่ที่เรือนของพระชายาน่าจะเป็นการดีกว่า”เพิ่งจะทุ่มเทรักษาอาการป่วยได้เพียงแค่หนึ่งคืน ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่เพียงแค่ซื้อตัวลู่ซิวไปเท่านั้น กระทั่งตู้เหิงยังทำตามคำสั่งของนางด้วยความสามารถของนางนับว่าไม่น้อยเลยทีเดียว
“ชดใช้หนี้กระมัง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยื่นเทียบยาที่เขียนเสร็จแล้วให้กับตู้เหิง “ผลลัพธ์บนศาลาเมื่อวานนี้ มิใช่สิ่งที่ข้าต้องการ ข้าเพียง...”นางสัมผัสแก้มของตนเองเบา ๆ ตำแหน่งที่โดนตงฟางหลีตบยังคงบวมและมีอาการปวด“ช่างเถิด เรื่องเกิดขึ้นไปแล้ว เอ่ยถึงก็มิมีความหมายอันใด” นางหลุบตาลง เมื่อนึกถึงทุกอย่า
ระหว่างอยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น รูปภาพบางส่วนได้กระพริบขึ้นอย่างเลือนรางในสมองรูปภาพเหล่านั้นพร่าเลือนมาก ราวกับถูกหมอกหนา ๆ ปกคลุมไว้หนึ่งชั้นในระหว่างมึนงง ฉินเหยี่ยนเย่ว์ราวกับเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งมองเห็นเด็กน้อยที่กำลังดิ้นรนบนแผ่นน้ำแข็งบาง ๆ กลางทะเลสาบท่ามกลางเสียงหวีดหวิวของลมหนาวใบหน้าข
ไป๋หลินยวนไม่เหมือนกับจีอู๋เยียนจีอู๋เยียนเพื่ออวี้เอ๋อร์แล้วได้ทำเรื่องแปลกประหลาดลงไปมากมาย พูดได้ว่าทุกคนต่างรังเกียจเดียดฉันก็ไม่เกินไปไป๋หลินยวนรังเกียจที่จะคบหากับมนุษย์ธรรมดาสามัญ ชื่อเสียงโด่งดัง ภายนอกดูสะอาดสะอ้านมีเพียงนางที่รู้ว่าเขาเป็นคนโรคจิตคนหนึ่ง“เทพพิษและหมอเทวดามีชื่อเสียงทัด
ฮ่องเต้ยังคงมิตรัสสิ่งใดบรรยากาศจึงดูมืดมนเดิมทีตงฟางอิงคิดจะแอบขอร้องเสด็จพ่อ ให้เสด็จพ่ออนุญาตให้พี่สะใภ้เจ็ดสอนวิชากลให้เขาครั้นเห็นเสด็จพ่อมีสีหน้าไม่สู้ดี และมีทีท่าจะลงโทษพระสนมเหยา ก็ไม่สนใจเรื่องนี้อีก รีบพูดขึ้นมา “เสด็จพ่อ พระสนมเหยาต้องถูกใส่ร้ายแน่นอน ขอร้องท่านปล่อยพระสนมเหยาไปเถิดพ่
“พวกแม่นมออกไปก่อนเถิด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หลุบตาลงเรื่องนับจากนี้ นางไม่อยากให้คนที่ไม่มีความสำคัญเห็นเท่าใดนักบรรดาแม่นมต่างมองหน้ากัน“ออกไป” ฮ่องเต้ทรงตรัสเสียงเย็นชาครั้นตงฟางอิงเห็นคนออกไปหมดแล้ว ก็เม้มปากพูดขึ้นว่า “พี่สะใภ้เจ็ด ท่านต้องเชื่อข้านะ พระสนมเหยามิได้ทำเรื่องเช่นนั้นจริง ๆ ท่านต้อง
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจโรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่รู้จักกันดี และโดยทั่วไปไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตทว่า โรคเบาหวานอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้โรคแทรกซ้อนสิ ถึงจะเป็นกุญแจสู่ความตาย“พูดให้ถูกต้องก็คือ โรคของพระพันปีเป่าไม่ได้เรียกว่าโรคกระหายน้ำ แต่เรียกว่าโรคเบาหวาน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “
สาลี่เป็นผลไม้ และก็เป็นยาจีนชนิดหนึ่งเมื่อเข้าสู่เส้นลมปราณของไตและปอด จะขจัดความร้อนและแก้เสมหะ ผลิตของเหลวทำให้ความแห้งกร้านชุ่มชื้น และมีประสิทธิภาพมากในการรักษาโรคกระหายน้ำจากการบอกเล่าของหมอหลวงและแม่นม ตลอดจนการวินิจฉัยของนาง เกือบจะยืนยันอาการป่วยของพระพันปีเป่าได้“พระชายาอ๋องเจ็ด” หมอหลว
“พระพันปีเป่าหมดสติ เข้าขั้นวิกฤต นี่คืออาการประชวรในปัจจุบันพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงหลินไม่รู้ว่านางหมายถึงอะไร“ไม่ใช่ สิ่งที่ข้าต้องการคือการวินิจฉัยก่อนหน้านี้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เดินมาที่ข้างเตียง และทำความเคารพฮ่องเต้ครั้นฮ่องเต้เห็นนางมาถึง คิ้วที่ขมวดแน่นก็ผ่อนคลายลงและเขาหลีกทางไปเองนิ้วของฉินเหย
“ไม่ได้”“แต่ว่า อาจารย์ของเจ้าเก้าหน้าตาดีมาก...”“ได้”“ถ้าเช่นนั้น ท่านช่วยสอนวิธีแต่งกายเป็นสตรีให้ข้าได้หรือไม่?”“ไม่ได้”“แต่อาจารย์ของเจ้าเก้าเป็นสตรี…”“เขาเป็นบุรุษ บุรุษปลอมตัวเป็นสตรี ถ้าเจ้าให้ข้าเลียนแบบเขา ข้าก็จะฆ่าเสี่ยวจีจวินและเจ้าเก้าในปากของเจ้าทิ้งเสีย เจ้าว่าดีหรือไม่?” ไป๋หลิ
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็ตกตะลึงอยู่ตรงนั้นคนวิปริตไร้คู่ต่อสู้ผู้นี้ต้องการรับเจ้าสิบเป็นศิษย์?ตงฟางอิงเองก็ตกตะลึงเช่นกัน ใบหน้าแดงก่ำพลันเปลี่ยนเป็นซีดเผือด ร่างกายสั่นงันงกเขาไม่ต้องการกราบคนที่จะกินเด็กมาเป็นอาจารย์ไป๋หลินยวนบีบคางของตงฟางอิง และพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ตั
“ท่านต้องการทำอะไรกันแน่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยังคงเดินไปข้างหน้าสีหน้าของนางเย็นชา “ท่านเป็นคนวิปริต จัดการกับเด็กคนหนึ่งจะนับเป็นอะไรได้? ปล่อยเจ้าสิบไปเสีย หากมีอะไรก็มาหาข้า”ไป๋หลินยวนยกตงฟางอิงขึ้น และจ้องมองเขาอย่างถี่ถ้วนอย่างไรก็ตามตงฟางอิงยังเป็นเด็ก เมื่อถูกคนวิปริตจ้องมองเหมือนจะเขมือบกินเ