ความมืดคืบคลานเข้ามา หมอกดำสลัว หมู่บ้านในป่าลึกถูกปกคลุมอยู่ท่ามกลางความมืด นอกจากแสงเทียนที่มาจากไม่กี่ครอบครัวแล้ว ก็มีเสียงเห่าของสุนัขสองตัวบ้างเป็นครั้งคราว สงบเงียบเป็นอย่างยิ่งใจกลางหมู่บ้าน ในเรือนที่สร้างขึ้นมาจากไม้และไม้ไผ่หลังหนึ่งชายชรานำฉู่เชียนหลีและคนอื่นๆ เดินเข้ามาในห้อง ทันทีที่เปิดประตู ในบ้าน ก็มีสาวน้อยคนหนึ่งวิ่งออกมา“ท่านพ่อ! ท่านกลับมาแล้ว!”เอ๋?เมื่อได้เห็นคนแปลกหน้ามากมายขนาดนี้อย่างกะทันหัน ก็จ้องมองตาปริบ ๆด้วยความสงสัย ดวงตามองสำรวจ“หวาเอ๋อร์ ไปบอกให้ท่านแม่ของเจ้าทำอาหารให้เยอะอีกหน่อย เพื่อต้อนรับแขกที่เดินทางมาไกล ฮูหยินท่านนี้ เป็นภรรยาของท่านปู่คนนั้นที่มาถึงเมื่อตอนกลางวัน”ฉู่เชียนหลีหันไปมองสาวน้อย ยิ้มด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “ว่าไงจ้ะ”“มารบกวนกะทันหัน ถือเป็นการไม่มีมารยาทมาก จึงนำของขวัญเล็กๆ น้อยๆ มาด้วย ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อย” นางยกมือขึ้น เยว่เอ๋อร์ก็หิ้วเงินทอง เสื้อผ้าแพรชั้นดีจำนวนเล็กน้อย เพื่อเป็นของขวัญอย่างเข้าใจ อาหวาประคองด้วยมือทั้งสองข้าง เอียงคอ สายตาจ้องมองไปยังฉู่เชียนหลีทั้งสำรวจทั้งสงสัยทั้งแปลกใจคุณชายคนนั้นที
หลังจากกินข้าวเย็นง่ายๆ เรียบร้อยแล้ว ผู้ใหญ่บ้านชายชราที่ต้อนรับอย่างอบอุ่น พาทุกคนไปพักผ่อน จูงม้าออกไปกินหญ้าด้านนอก พวกผู้ชายไปนอนที่บ้านของเพื่อนบ้าน ฉู่เชียนหลีนอนกับลูกสาวของผู้ใหญ่บ้านสิ่งอำนวยความสะดวกในหมู่บ้านมีจำกัด ย่อมเทียบไม่ได้จวนอ๋องเฉิน แต่ห้องของลูกสาวผู้ใหญ่บ้านสะอาดเป็นระเบียบฉู่เชียนหลีนอนลง แต่กลับนอนไม่ค่อยหลับอาหวานอนอยู่ข้างฉู่เชียนหลี กะพริบดวงตาทั้งสองข้างอย่างสงสัย จ้องมองฉู่เชียนหลีตาปริบ ๆ“ท่านเป็นฮูหยินของคุณชายคนนั้นจริงหรือ?”ยังเป็นเรื่องหลอกลวงได้หรือไงฉู่เชียนหลีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตอนกินข้าวเมื่อครู่นี้ สาวน้อยคนนี้ก็จ้องตนอยู่เป็นบางครั้ง“เจ้าสงสัยอะไรอย่างนั้นหรือ?”อาหวากัดริมฝีปากล่างเบาๆ ย่อมมีความสงสัย หญิงสาวที่อัปลักษณ์ขนาดนี้ จะเป็นภรรยาของคุณชายคนนั้นได้อย่างไร?หรือว่าคุณชายคนนั้นตาบอดไปแล้ว?นางคิดว่าตนเองหน้าตาดีกว่าฮูหยินคนนี้หลายสิบเท่า ร้อยเท่า...ดึงผ้าห่มพลิกกาย หันหลังให้ฉู่เชียนหลี “ไม่มีอะไร วันพรุ่งนี้การเดินทางเข้าสู่ภูเขายากลำบากมาก ท่านกำลังตั้งครรภ์ น่าจะเดินทางไม่ได้ ถ้าหากท่านอยากตามหาคุณชายท่านนั้นละก็
อาหวาราวกับมีคำว่าทำไมประมาณแสนคำ พูดค่อนข้างมาก ฉู่เชียนหลีไม่อยากสนใจ แต่ถ้าไม่สนใจก็จะเป็นการเสียมารยาทอีก จำต้องตอบคำถามประโยคสองประโยคเป็นครั้งคราว“เขามาหาสมุนไพรอะไร?”“สำคัญมากเลยหรือ?”“ทำไมท่านต้องมาด้วย?”“เรื่องที่ท่านตามมาเขาทราบหรือไม่?”ฉู่เชียนหลี “ข้าเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเขาต้องการหาสมุนไพรอะไร ย่อมต้องสำคัญมาก ข้าเป็นห่วงว่าเขาจะเจออันตราย ก็เป็นเพราะมีอันตราย เขาถึงไม่ยอมบอกข้า จึงเดินทางมาคนเดียว...”เมื่อตอบคำถามจนเข้าใจแล้วแต่อาหวากลับรู้สึกว่าคำพูดของฉู่เชียนหลีเหมือนกับไม่ได้พูดจะตามหายาอะไร นางก็ไม่รู้การเดินทางของท่านชาย นางก็ไม่รู้เช่นกันไม่รู้อะไรทั้งสิ้นตอนนี้อาหวาสงสัยอย่างรุนแรง ท่านชายคงจะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ แต่ผู้หญิงคนนี้กลับไม่ยอมปล่อยท่านชายคนนั้นไป แม้ว่าท่านชายจะหลบเข้าไปในป่าลึกแล้วก็ตาม นางก็ยังตามมาโดยไม่สนใจอะไรยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกมีเหตุผล...“ฮูหยิน เหมือนว่าทางข้างหน้าจะมีทางแยก” จางเฟยที่เดินอยู่ด้านหน้าจู่ ๆก็หันหน้ามา ตะโกนบอกเจ้าดำน้อยแกว่งศีรษะไปมา วิ่งควบไปข้างหน้าในป่าหญ้ารกทึบ ไม้หนามหนาแน่น มีหญ้าสองทางที่มีรอยถ
ทันทีที่พูดจบ ก็เห็นงูพิษสีเขียวตัวหนึ่งห้อยอยู่บนกิ่งไม้ หางขดม้วน ลำตัวท่อนหนึ่งยื่นลงมาด้านล่าง ใกล้กับหลังคอของเยว่เอ๋อร์เยว่เอ๋อร์หันหน้าไปมอง กรีดร้องเสียงแหลมด้วยความตกใจเสียงกรีดร้องทำให้งูพิษตกใจ อ้าปากกว้าง ฉกเข้าใส่เยว่เอ๋อร์อย่างรวดเร็ว!ภายในช่วงเวลาคับขันฉู่เชียนหลีพุ่งตัวไปด้านหน้า ยกมือขึ้นคว้าลำตัวของงูตัวนั้น ปลายนิ้วสะบัดมีดผ่าตัดสีเงินเล่มหนึ่งออกมา ออกแรงสะบัด งูตัวนั้นตอกติดกับบนต้นไม้ทันทีงูพิษบิดตัวอย่างเจ็บปวด บริเวณบาดแผลมีเลือดหยด แต่ไม่สามารถขยับร่างกายได้...“แม่นางเยว่เอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?” จางเฟยรีบก้าวไปข้างหน้า ประคองเยว่เอ๋อร์ที่มีสีหน้าซีดขาว มือทั้งสองข้างตกใจจนเย็นเฉียบ“ได้รับบาดเจ็บหรือไม่?” ฉู่เชียนหลีขมวดคิ้ว หันหน้าไปถามเยว่เอ๋อร์ตกใจจนขวัญกระเจิงไปหมดแล้ว อ้าปากค้างอยู่นาน ถึงได้สติกลับคืนมา ส่ายหน้าอย่างตกตะลึง“มะ ไม่บาดเจ็บ...”“เดินทางต่อไป ต้องระวังหน่อย”“รับทราบ!”“ซี้ด...”ในขณะที่กำลังจะเดินทางต่อ ด้านหลัง ก็มีเสียงร้องอย่างเจ็บปวดเบา ๆ เมื่อหันหน้ากลับไปมอง ลูกสาวของผู้ใหญ่บ้านก็นั่งลงกับพื้น กุมข้อเท้า
ทั้งเน่าผุ ทั้งเน่าเปื่อย ทั้งเหม็นเน่า...เป็นก๊าซพิษ!ที่ในป่าลึก ถ้าหากมีตรงไหนที่มีน้ำ แล้วก็มีศพของสัตว์กองสะสมมากจนเกินไป ศพที่เน่าเปื่อยเหล่านี้จะเมื่อสะสมมาเป็นเวลาหลายเดือน ก็จะกลายเป็นก๊าซที่มีพิษ พืชที่อยู่ในรัศมีพอสมควรจะได้ผลกระทบจากมัน จะค่อย ๆแห้งตาย แต่ถ้าหากสูดเอาก๊าซประเภทนี้เข้าไปเป็นจำนวนมาก จะกลายเป็นพิษ ผู้ที่อาการสาหัสจะหายใจลำบากและถึงแก่ความตายพวกเขาจะต้องสูดก๊าซพิษเข้าไปโดยไม่ตั้งใจแน่!ฉู่เชียนหลีไม่ได้รับผลกระทบ นั่นเป็นเพราะว่าเคยดื่มเลือดของเจ้าดำน้อยเมื่อเห็นทุกคนสูดก๊าซพิษเข้าไป ได้รับผลกระทบ อาการไม่ดี นางจึงหยิบมีดเล่มเล็กสีเงินเล่มหนึ่งออกมา “เจ้าดำน้อย ขอยืมเลือดหน่อย”เจ้าดำน้อย “?”หยิบมีดออกมาเฉือนมัน?ไม่!เลือดของมันหมาป่าเทพแห่งเขาคุนหลุนสามารถถอนได้สารพัดพิษ เป็นของล้ำค่า เป็นของหายาก คนธรรมดาทั่วไปจะได้ไปง่าย ๆได้อย่างไร?มันปฏิเสธ“น่องไก่สิบน่อง” ฉู่เชียนหลียื่นมือออกไป ถามมันเพื่อขอเลือดเจ้าดำน้อยส่ายหน้า ถอยไปข้างหลังครึ่งก้าว“หมูย่างสิบตัว”เจ้าดำน้อยถอยหลังไปอีกครึ่งก้าว“แม่หมาพันธุ์ต่างๆ สิบตัว”ดวงตาของเจ้าดำน้อยเ
ในเวลาเดียวกัน บริเวณป่าลึก อีกที่หนึ่งของเทือกเขาที่ทอดตัวยาว ขบวนหนึ่งกำลังเดินทางอย่างทุลักทุเลเป็นขบวนของอวิ๋นอิงและจิ่งอี้เขานำหน้าฉู่เชียนหลีมาก่อนหนึ่งก้าว เข้าสู่เขาชางฉยง ตามหาร่องรอยของอ๋องเฉิน ตลอดการเดินทาง พลางเดิน พลางทำสัญลักษณ์ ยังพบเบาะแสใหม่เป็นบางครั้ง“คุณชาย ท่านดูสิ” ลูกน้องของสำนักอู๋จี๋พบร่องรอยมีดบาก บนต้นไม้ต้นหนึ่งรอยมีดบากค่อนข้างต้น น่าจะเป็นเพราะตอนที่หยิบกระบี่ขึ้นมาฟันหญ้าเพื่อเบิกทาง แล้วบากโดนจิ่งอี้สาวเท้าไปข้างหน้า เอานิ้วลูบที่ร่องรอยนั้นเบา ๆ เงยหน้าขึ้นกวาดสายตามองไปบริเวณรอบๆ ป่าทึบที่ยากแม้กระทั่งจะแยกแยะทิศทาง ชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง“ไปด้านนี้”“ช้าก่อน...”ในเวลานี้ ด้านหลัง มีเสียงที่เบาและเล็กมากเสียงหนึ่งดังขึ้นจิ่งอี้หันหน้าไป มองไปทางอวิ๋นอิงสาวน้อยยกมือข้างขวาขึ้น ทำท่าทาง ‘ขอพูด’ นิ้วชี้ชี้ไปยังร่องรอยบนต้นไม้ กล่าว“ลองดูทิศทางกับกำลังของร่องรอยนั่น น่าจะเป็นเพราะหยิบกระบี่ แล้วพลิกมือบาก ถ้าหากเป็นการพลิกมือบากละก็ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ควรจะเดินไปยังทิศทางตรงกันข้าม”นางปฏิเสธคำสั่งของจิ่งอี้ ชี้ไปยังทิศทางตรงกันข้ามของจ
ที่ลับ ตอนที่จิ่งอี้ที่ตามมาติดๆ กำลังจะก้าวไปข้างหน้า ก็เห็นสาวน้อยหมุนเอวอย่างปราดเปรียว ตัดเชือก แล้วร่อนลงบนพื้นอย่างมั่นคงแต่เขา เป็นเพราะเสียสมาธิ จึงติดกับดักโดยไม่ทันระวังเช่นกันสวบ!เมื่ออวิ๋นอิงทรงตัวได้ ได้ยินเสียงที่ด้านหลัง รีบหันหน้ากลับไปมองอย่างรวดเร็ว ความระแวงระวังบนใบหน้าตอนที่เห็นชายหนุ่ม ได้กลายเป็นความงุนงงไปโดยสิ้นเชิง“คุณชายจิ่ง เหตุใดท่านจึงไปห้อยอยู่บนต้นไม้?”จิ่งอี้ “...”ไม่ใช่ว่าเขาเดินมุ่งหน้าไปอีกทิศทางหนึ่งหรอกหรือ?ไม่ใช่ว่าเขาไม่เดินไปทางเดียวกันนางหรอกหรือ? เหตุใดถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหลังของนาง? หรือว่าเขาเปลี่ยนใจกะทันหันงั้นหรือ?จิ่งอี้ชักกระบี่อ่อนออกมา ตัดเชือกขาด แล้วร่อนลงมาบนพื้น เสื้อคลุมสีดำวาดรัศมีโค้งที่เย็นเยียบ กวาดใบไม้ร่วงหลายใบขึ้นมา ท่าทางเย็นยะเยือกเป็นอย่างยิ่งดวงตาที่เย็นเยือกเป็นอย่างยิ่งคู่นั้นเหลือบมองอวิ๋นอิง“สนุกมากหรือ?” น้ำเสียงเย็นยะเยือกเป็นอย่างมากอวิ๋นอิงที่ได้สติกลับคืนมารีบหุบปาก ก้มหน้า แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้นนางไม่มีทางบอกคนอื่น เรื่องที่เขาถูกห้อยอยู่บนต้นไม้...ในเวลานี้เอง อาก
ด้านข้างเป็นเนินภูเขาที่สูงชัน เต็มไปด้วยวัชพืชและหนาม ร่างของคนทั้งสองกลิ้งตกลงไป เนื่องจากผลของแรงเฉื่อย จึงหยุดไม่อยู่ ยิ่งกลิ้งยิ่งเร็ว ยิ่งกลิ้งยิ่งเร็ว…มือสังหารวิ่งไปที่ข้างเนินเขา มองไปข้างล่างต้นไม้ต้นหญ้าเล็กที่ถูกทับจนล้มดีดกลับมา สามารถมองเห็นร่องรอยของการลื่นไถลสายหนึ่งจางๆ“ใต้เท้า พวกเราจะตามหรือไม่?”หัวหน้ามือสังหารกวาดมองแวบหนึ่ง กล่าวอย่างเย็นชา “เนินเขานี่มีโขดหินเต็มไปหมด พวกเขากลิ้งลงไป ต่อให้ไม่ตายก็เหลือแค่ครึ่งชีวิต ไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลาบนตัวพวกเขา ไปตามหาอ๋องเฉินก่อน”“ขอรับ!”“อ๊ะ…”เนินเขานี้ทั้งชันและยาว กลิ้งแล้วกลิ้งอีก กลิ้งแล้วกลิ้งอีก ร่างกายของอวิ๋นอิงสูญเสียการควบคุม กลิ้งจนนางเวียนศีรษะ โลกหมุนติ้วๆ ไม่รู้ว่ากลิ้งอยู่นานเท่าไร ชนใส่ลำต้นไม้ต้นหนึ่ง“อ๊า!”ภายใต้ผลของแรงเฉื่อย ชนใส่อย่างแรง เจ็บที่ต้นขาอย่างรุนแรง ราวกับแทบหักแล้วเจ็บ!เจ็บจนเกือบเป็นลมอวิ๋นอิงกัดปลายลิ้นแน่น หากหมดสติในภูเขาลึกป่ากลางคืนนี้ ถ้าเจอพวกสัตว์ป่าหรืองูพิษ จะเป็นอันตรายถึงชีวิต ต่อให้เจ็บเพียงใด ก็ต้องฝืนทนอย่างสุดชีวิต คว้าต้นหญ้าที่อยู่ข้างๆ ลุกขึ้นนั่