ที่ลับ ตอนที่จิ่งอี้ที่ตามมาติดๆ กำลังจะก้าวไปข้างหน้า ก็เห็นสาวน้อยหมุนเอวอย่างปราดเปรียว ตัดเชือก แล้วร่อนลงบนพื้นอย่างมั่นคงแต่เขา เป็นเพราะเสียสมาธิ จึงติดกับดักโดยไม่ทันระวังเช่นกันสวบ!เมื่ออวิ๋นอิงทรงตัวได้ ได้ยินเสียงที่ด้านหลัง รีบหันหน้ากลับไปมองอย่างรวดเร็ว ความระแวงระวังบนใบหน้าตอนที่เห็นชายหนุ่ม ได้กลายเป็นความงุนงงไปโดยสิ้นเชิง“คุณชายจิ่ง เหตุใดท่านจึงไปห้อยอยู่บนต้นไม้?”จิ่งอี้ “...”ไม่ใช่ว่าเขาเดินมุ่งหน้าไปอีกทิศทางหนึ่งหรอกหรือ?ไม่ใช่ว่าเขาไม่เดินไปทางเดียวกันนางหรอกหรือ? เหตุใดถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหลังของนาง? หรือว่าเขาเปลี่ยนใจกะทันหันงั้นหรือ?จิ่งอี้ชักกระบี่อ่อนออกมา ตัดเชือกขาด แล้วร่อนลงมาบนพื้น เสื้อคลุมสีดำวาดรัศมีโค้งที่เย็นเยียบ กวาดใบไม้ร่วงหลายใบขึ้นมา ท่าทางเย็นยะเยือกเป็นอย่างยิ่งดวงตาที่เย็นเยือกเป็นอย่างยิ่งคู่นั้นเหลือบมองอวิ๋นอิง“สนุกมากหรือ?” น้ำเสียงเย็นยะเยือกเป็นอย่างมากอวิ๋นอิงที่ได้สติกลับคืนมารีบหุบปาก ก้มหน้า แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้นนางไม่มีทางบอกคนอื่น เรื่องที่เขาถูกห้อยอยู่บนต้นไม้...ในเวลานี้เอง อาก
ด้านข้างเป็นเนินภูเขาที่สูงชัน เต็มไปด้วยวัชพืชและหนาม ร่างของคนทั้งสองกลิ้งตกลงไป เนื่องจากผลของแรงเฉื่อย จึงหยุดไม่อยู่ ยิ่งกลิ้งยิ่งเร็ว ยิ่งกลิ้งยิ่งเร็ว…มือสังหารวิ่งไปที่ข้างเนินเขา มองไปข้างล่างต้นไม้ต้นหญ้าเล็กที่ถูกทับจนล้มดีดกลับมา สามารถมองเห็นร่องรอยของการลื่นไถลสายหนึ่งจางๆ“ใต้เท้า พวกเราจะตามหรือไม่?”หัวหน้ามือสังหารกวาดมองแวบหนึ่ง กล่าวอย่างเย็นชา “เนินเขานี่มีโขดหินเต็มไปหมด พวกเขากลิ้งลงไป ต่อให้ไม่ตายก็เหลือแค่ครึ่งชีวิต ไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลาบนตัวพวกเขา ไปตามหาอ๋องเฉินก่อน”“ขอรับ!”“อ๊ะ…”เนินเขานี้ทั้งชันและยาว กลิ้งแล้วกลิ้งอีก กลิ้งแล้วกลิ้งอีก ร่างกายของอวิ๋นอิงสูญเสียการควบคุม กลิ้งจนนางเวียนศีรษะ โลกหมุนติ้วๆ ไม่รู้ว่ากลิ้งอยู่นานเท่าไร ชนใส่ลำต้นไม้ต้นหนึ่ง“อ๊า!”ภายใต้ผลของแรงเฉื่อย ชนใส่อย่างแรง เจ็บที่ต้นขาอย่างรุนแรง ราวกับแทบหักแล้วเจ็บ!เจ็บจนเกือบเป็นลมอวิ๋นอิงกัดปลายลิ้นแน่น หากหมดสติในภูเขาลึกป่ากลางคืนนี้ ถ้าเจอพวกสัตว์ป่าหรืองูพิษ จะเป็นอันตรายถึงชีวิต ต่อให้เจ็บเพียงใด ก็ต้องฝืนทนอย่างสุดชีวิต คว้าต้นหญ้าที่อยู่ข้างๆ ลุกขึ้นนั่
อวิ๋นอิงกำก้อนหินที่เปื้อนเลือดแน่น ร่างกายหดเกร็ง จ้องเขาอย่างหวาดระแวง“ท่านอย่าทำอะไรซี้ซั้วนะ!”แม้นางได้รับบาดเจ็บ แม้คุณหนูไม่อยู่ แต่ถ้าหากเขาอยากฆ่านาง นางไม่ยอมง่ายๆ แน่!“...”สีหน้าของจิ่งอี้น่าเกลียดอีกครั้งเขาแค่อยากดูบาดแผลให้นาง ตกลงในสมองของผู้หญิงที่สมควรตายคนนี้คิดอะไรอยู่!บ้าจริง!ลองขยับขาที่บาดเจ็บดู กระดูกบอบช้ำ ปวดมากจนแทบจะก้าวขาไม่ได้จ้องนางอย่างเย็นชา “เจ้าคิดจะนั่งอยู่ที่นี่ทั้งชีวิต ไม่ไปไหนแล้วหรือ? สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่ควรออกจากที่นี่หรือ? รอให้มือสังหารเหล่านั้นไล่ตามมา?”ควรรีบออกจากที่นี่โดยเร็วจริงๆ นั่นแหละอวิ๋นอิงจับลำต้นไม้ ลากขาขวาที่ได้รับบาดเจ็บ ลุกขึ้นอย่างโซซัดโซเซ เจ็บจนกัดริมฝีปากล่าง สีหน้าซีดขาว อดกลั้นเป็นพิเศษ เดินแค่หนึ่งก้าวก็เซจนเกือบล้มฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งประคองนางไว้เงยหน้า ก็ประสานสายตาที่ยังคงดุร้ายของจิ่งอี้“หรือเจ้าคิดว่าข้าจะฆ่าเจ้า?” ในน้ำเสียงที่เย็นชา มีความไม่สบอารมณ์และตำหนิแฝงอยู่ และยิ่งมีความเยือกเย็นที่อยากบีบคอนางให้ตายทั้งเป็น อวิ๋นอิงเม้มปากแล้วเม้มปากอีก รู้ว่าตนเองเข้าใจอะไรบางอย่างผิ
หลังจากพักบรรเทาความเจ็บปวดที่ขาครู่หนึ่ง หันไปมองเขาด้วยความโกรธ ยังไม่ทันได้อ้าปาก ก็ถูกเขาสกัดจุดชีพจร ยืนตัวแข็งอยู่ตรงนั้น ไม่สามารถขยับทันทีมีเพียงลูกตาที่สามารถกลอกไปมาร่างที่สูงใหญ่ของจิ่งอี้ยืนอยู่ตรงหน้าเด็กสาว ก้มมองนางที่ร่างกายครึ่งท่อนจมอยู่ในบ่อน้ำเล็กๆ เลิกแขนเสื้อขึ้นอย่างเชื่องช้า นั่งยองลงไปปลดกางเกงของนางอวิ๋นอิงเบิกตากว้าง ราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ“ท่านทำอะไร!”ขยับไม่ได้ ร่างกายแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ ดวงตาที่เบิกกว้างแทบหลุดออกมาจากเบ้าตา“อย่าแตะต้องข้า!”จิ่งอี้ถอดกางเกงนางโดยไม่พูดอะไรสักคำ“อ๊ะ! จิ่งอี้!”ความเย็นของร่างกายท่อนล่าง และยังเปียกน้ำ ทำให้นางรู้สึกอับอายจนแทบอยากหารูมุดเข้าไปซ่อนตัวเสียเดี๋ยวนี้ ตั้งแต่เล็กจนโต ยังไม่เคยมีผู้ชายคนใดเห็นร่างกายของนางเมื่อไม่มีกางเกง และยังขยับไม่ได้ ต่อให้เป็นคนที่เข้มแข็งเพียงใด เมื่อมาถึงจุดนี้ ก็ต้องแสดงความอ่อนแอ“จิ่งอี้! ข้าผิดไปแล้ว! ข้าไม่ได้มีเจตนาแอบดูเจ้าอาบน้ำ และไม่เคยบอกตราสัญลักษณ์ที่อยู่บนหลังเจ้าให้ผู้อื่นรู้ เจ้าปล่อยข้าไปเถอะ! ข้าไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่หักหลังเจ้าจริงๆ!”อวิ๋นอ
สีหน้าของเขาหวาดกลัว สองมือประสานกันที่หน้าอกอย่างจริงใจ โขกศีรษะไปพลาง ขอความเมตตาไปพลางหานอิ๋งกวาดมองป่าโบราณแห่งนี้ที่นี่ล้วนเป็นต้นไม้โบราณที่มีอายุหลายร้อยปี เถาวัลย์พันกันสลับซับซ้อนไปมา ใบไม้ที่เขียวชอุ่มก่อตัวเป็นม่านธรรมชาติ กันแสงอาทิตย์ไว้ข้างนอกทั้งหมด ภายในป่าที่ร่มเย็น แสงสลัว เงาของต้นไม้สะท้อนลงมาที่พื้น แล้วหักเหกลับไป ทำให้ยิ่งมืดครึ้มบรรยากาศอันวังเวงลอยเข้ามาปะทะหน้า… นางกล่าว “นายท่าน หากที่นี่เป็นสถานที่อัปมงคลอะไร มันก็สมเหตุสมผล แต่สถานที่ที่เทพอาศัย…”เทพองค์ใดอาศัยอยู่ในสถานที่ที่มืดมนเช่นนี้?นอกเสียจากเป็นปีศาจจากนรก“มีเทพ มีจริงๆ นะ บรรพบุรุษของพวกเราเคยพูดไว้ว่า…” ชายหนุ่มโบกมือห้ามอย่างตื่นตระหนก “อย่าเข้าไปเลย เข้าไปไม่ได้จริงๆ ตายได้เลยนะ!”เขาคือต้าหนิวว่าที่ลูกเขยของหัวหน้าหมู่บ้าน คู่หมั้นของอาหวา และเป็นคนนำทางให้เฟิงเย่เสวียนด้วยเช่นกันหานเฟิงถือกระบี่ไว้ เริ่มรู้สึกสนใจแล้ว โตจนปูนนี้แล้ว ไม่เคยเชื่อเรื่องงมงาย“นายท่าน ข้าน้อยจะลองเข้าไปดูก่อนขอรับ”โยนกระบี่ที่อยู่ในมือขวามามือซ้าย หลังจากกำแน่น ก็ก้าวเท้ายาวเดินเข้าไปแล้วต้าห
“เขากวางนี่หน้าตาแปลกๆ” หานเฟิงกล่าวหลังจากแยกออกจากกวาง ตามหลักแล้ว เขากวางคู่นี้ก็จะค่อยๆ เหลืองและเหี่ยวย่น แต่เขากวางคู่นี้เหมือนดูดซับสารอาหารจากต้นไม้โบราณพันปีต้นนี้เพื่อเลี้ยงตนเองภาพนี้ ไม่สามารถอธิบายด้วยคำพูดที่สมเหตุสมผลต้าหนิวเห็นแล้ว คุกเข่าลงพื้นอย่างหวาดกลัว โขกศีรษะไม่หยุดอีกครั้ง ในปากก็พึมพำคำพูด เช่น เทพ โปรดให้อภัย ล่วงเกินต่างๆ นานาหานอิ๋งเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า แหงนมองเขากวางที่ถูกแขวนไว้สูงถึงยี่สิบเมตร สัมผัสลำต้นของต้นไม้โบราณพันปีที่เหี่ยวเฉา กล่าวเสียงเบาอย่างครุ่นคิด“ต้นไม้พันปี ชุบเลี้ยงกวางวิญญาณ เทพเยือนแปดทิศ กวางวิญญาณชีวิตนิรันดร์…”“พี่ ท่านกำลังพูดอะไร?” หานเฟิงที่ได้ยินไม่ชัดขยับเข้ามาใกล้“ไม่มีอะไร” หานอิ๋งเดินกลับไปที่ตรงหน้าอ๋องเฉิน “นายท่าน พวกเรามาถูกที่แล้วเจ้าค่ะ โดยรอบนี้น่าจะมีเป็นของที่พวกเราตามหา”เฟิงเย่เสวียนยกริมฝีปาก “หา”“เจ้าค่ะ!”กระจายกำลังออกตามหาโดยมีต้นไม้โบราณพันปีต้นนี้เป็นศูนย์กลางเป็นอย่างที่คิดไว้ เวลาไม่ถึงครึ่งก้านธูป ตรงจุดที่อยู่ห่างจากต้นไม้โบราณหลายสิบเมตร มีก้อนหินขนาดใหญ่ทรงแท่นกลมตั้งอยู่ตรงนั้
ถ้าหากสามารถเก็บได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ดอกไม้ชนิดนี้จะบานเป็นพันปี และอยู่ที่นี่มาโดยตลอดได้อย่างไร?“กระดูกของที่นี่สะสมมาเป็นพันปี ตลอดทั้งปีไม่มีคนมา ไม่เพียงชุบเลี้ยงซากกระดูก แต่ยังชุบเลี้ยงแมลงพิษและสัตว์ร้ายต่างๆ ในเมื่อสัตว์ป่าคิดว่าสถานที่หลับใหลตลอดกาลของกวางวิญญาณเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ก็ย่อมพิทักษ์สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ไม่ให้คนนอกมารบกวน”งูพิษตัวเมื่อครู่ ก็คือผู้พิทักษ์นอกจากมันแล้ว เกรงว่ายังมีสัตว์ไม่น้อยที่ค่อยพิทักษ์อยู่ที่นี่ ใครก็ตามที่บุ่มบ่ามบุกรุกเข้ามา ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!ดวงตาที่ลึกล้ำของเฟิงเย่เสวียนกวาดมองไปจากตรงนี้ถึงกวางวิญญาณที่มีดอกไม้แห่งความตาย ระยะทางอย่างน้อยยี่สิบเมตร คิดจะเก็บดอกไม้แห่งความตาย ก็จำเป็นต้องเดินเข้าไปใช้มือเด็ด แต่ระยะที่ไกลเช่นนี้ และยังมีอันตรายมากมายที่ไม่รู้จักซ่อนอยู่ แค่เข้าใกล้ดอกไม้แห่งความตายก็ยากเหมือนปีนขึ้นสวรรค์แล้วขมวดคิ้ว ครุ่นคิดครู่หนึ่ง กวาดมองสภาพแวดล้อมโดยรอบ จู่ๆ ก็เอ่ยปาก“เชือกที่เอามายาวแค่ไหน?”หานเฟิงตอบกลับทันที “เป็นเชือกปีนเขา มีกรงเล็บเหล็กติดมาด้วย ยาวสี่สิบเมตรขอรับ”“พอใช้แล้ว”
เจ็บปวดอย่างรุนแรง!หานเฟิงรีบดึงต้าหนิวกลับมา เห็นของสีดำกัดกร่อนมือของต้าหนิวอย่างรวดเร็วเหมือนกรดกำมะถัน ในเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่อึดใจ ก็ได้กลืนกินไปถึงแขนของเขาแล้ว!เป็นเช่นนี้ต่อไป ต้องตายแน่นอน!ต้องตัดทิ้ง!เขาชักกระบี่ ฟันลงไปทันที“อ๊า!”เลือดพุ่งกระฉูด เสียงกรีดร้องราวกับฆ่าหมูดังลั่นทั้งป่า ทำเอานกฝูงหนึ่งตกใจจนบินหนี แขนครึ่งท่อนที่ตกอยู่บนพื้นถูกกัดกร่อนอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงน้ำสีดำนองอยู่ตรงนั้นเล็กน้อยมือของต้าหนิวถูกตัดออกจากข้อศอก เหลือเพียงแขนครึ่งท่อนบน เขากุมแขนอันเจ็บปวดแต่ทำอะไรไม่ได้ กรีดร้องไม่หยุด“มือของข้า…อ๊ะ! มือของข้า…”ขาดแล้วนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด ถ้าหากไม่ทำเช่นนี้ เขาก็จะตาย“คิดไม่ถึงว่าดอกไม้นี่มีพิษรุนแรงเช่นนี้! มันเติบโตบนซากศพของกวางวิญญาณไม่ใช่หรือ? ในเมื่อเลือดกวางวิญญาณสามารถแก้ร้อยพิษ มันก็ควรจะเป็นของดีสิ เหตุใดจึงกลายเป็นของมีพิษ?” แม้หานอิ๋งเชี่ยวชาญทักษะการแพทย์ แต่ก็ต้องงุนงงเป็นครั้งแรก สำหรับดอกไม้แห่งความตายนี้เฟิงเย่เสวียนกวาดมองป่าครึ้มที่ไม่เห็นแสงอาทิตย์ตลอดปี “ในเมื่อสัตว์ยังรู้จักปกป้องตัวเอง แล้วเหตุใดพืชจะทำไม่