คำพูดที่โพล่งออกมา แม้แต่อวิ๋นอิงก็ตะลึงงันแล้วนางพูดเช่นนี้ได้อย่างไร…หลิงเชียนอี้กลับหมุนกายฉับพลัน เดินปรี่เข้ามาตรงหน้านาง จับไหล่ทั้งสองข้างของนาง เหมือนดีใจจนคลั่ง“อวิ๋นอิง ถ้าหากเจ้ายินดีพึ่งพาข้า ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวังแน่นอน!”เขาจะแบกความรับผิดชอบของลูกผู้ชายคนหนึ่ง มอบความรู้สึกปลอดภัยให้นาง หรือแม้กระทั่งที่พักพิงสำหรับหลบลมหลบฝนบ้าน!อวิ๋นอิงจับริมฝีปากของตนเองอย่างตะลึงงัน “ข้า…” เดิมทีนางอยากปลอบใจเขา แต่คำพูดที่มาถึงปลายลิ้น…เหตุใดจึงกล่าวออกไปเป็นอีกความหมาย“ท่านโหว ข้า…”“เยี่ยมไปเลย!”หลิงเชียนอี้ดีใจจนดึงคนเข้ามาไว้ในอ้อมกอดโดยตรง กระชับแขน กอดนางแน่น “เยี่ยมไปเลย! อวิ๋นอิง เจ้าวางใจ ต่อไปข้าจะไม่โกรธง่ายๆ แล้ว ข้าจะกลายเป็นผู้ใหญ่ หนักแน่น และทำงานใหญ่เหมือนท่านน้าเฉิน!” อารมณ์ของเด็กหนุ่มมาเร็ว แต่ก็ไปเร็วเช่นกันเมื่อครู่ยังอัดอั้นไม่มีความสุข ตอนนี้หัวเราะเหอะๆ แล้วหัวเราะจนเหมือนกับคนบ้าที่ได้รับลูกอม “อวิ๋นอิง เจ้าพูดถูก ข้าเป็นผู้ชาย ต้องหนักแน่นหน่อย ข้าจะไม่ใช้อารมณ์กับน้องสาวตัวน้อยที่เพิ่งเกิด อย่างมากก็กระทืบนางสามห้าวันสักยกเพื่อระ
คำพูดประโยคเดียว ทำให้แววตาอวิ๋นอิงขรึมลงทันที และยิ่งทำให้นางกลับสู่ความเป็นจริงสาวใช้…ใช่แล้ว นางเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ไร้พ่อไร้แม่คนหนึ่ง ส่วนเขากลับเป็นถึงท่านโหวน้อย ลูกชายของเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งแคว้นตงหลิง เรียกลมได้ลม เรียกฝนได้ฝนนางกับเขาคนละฟ้า คนละดิน นางกำลังพร่ำเพ้ออะไร? และกำลังเพ้อฝันอะไร?อวิ๋นอิงเม้มปาก ปัดความคิดที่ไม่ควรมีทั้งหมดในสมองทิ้ง ถอนสายบัวคำนับ“ท่านโหวน้อย บ่าวขอตัวก่อนเจ้าค่ะ”พูดจบก็ยกเท้าไปเลยหลิงเชียนอี้รู้สึกถึงความผิดปกติ รู้จักนางมานานเช่นนี้ นางเป็นคนนิสัยตรงไปตรงมา ไม่เคยเสแสร้ง พูดหนึ่งไม่เป็นสอง จิตใจกว้างขวางและรักอิสระ ยิ่งไม่เคยใช้คำว่า ‘บ่าว’ แทนตนเองนางจ้องกู้ชิงชิงอย่างเย็นชา“ข้างกายข้ามีใครที่ไหน เกี่ยวอะไรกับเจ้า? สัญญาณแต่งงานของเจ้ากับข้าได้ยกเลิกนานแล้ว หากเจ้ายังชี้มือชี้เท้ากับคนของข้าอีก อย่าโทษว่าข้าไล่เจ้าออกจากจวน!”ม่านตากู้ชิงชิงหดอย่างตะลึงงันเขาดุนางเขาดุนางเพื่อสาวใช้คนหนึ่ง…ผู้อาวุโสของพวกเขาเป็นคนกำหนดสัญญาแต่งงาน สองตระกูลมีมิตรภาพยาวนานหลายชั่วอายุคน เชื่อมความสัมพันธ์ด้วยกันแต่งงาน การรวมกันของเศรษฐ
คิดไม่ถึงว่าสาวใช้คนนี้จะสงบใจเย็นและฉลาดมีไหวพริบ ถึงกับเปิดโปงนางในที่เกิดเหตุ ทำให้กู้ชิงชิงอับอายเล็กน้อยหลิงเชียนอี้ขมวดคิ้ว “อวิ๋นอิง พวกเราไป!”กู้ชิงชิง “...”นางเป็นภรรยาที่ยังไม่ได้แต่งงานของเขานะปกป้องผู้หญิงคนอื่นต่อหน้านาง จะให้นางเอาหน้าไปไว้ที่ใด? ถ้าหากอีกฝ่ายเป็นองค์หญิงหรือจวิ้นจู่[1] ก็พอเข้าใจได้ แต่นี่เป็นแค่สาวใช้ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง มีอะไรที่สู้นางได้? นี่ไม่ใช่กำลังตบหน้านางหรือ?กู้ชิงชิงคลานลุกขึ้น ใช้หลังมือเช็ดน้ำตาบนใบหน้า “หยุดเดี๋ยวนี้!”เดินไปที่ตรงหน้าอวิ๋นอิง กล่าวอย่างเย็นชา“ต่อให้ก่อนหน้านี้ข้าจงใจล้ม แล้วอย่างไร? เมื่อครู่เจ้าผลักข้าล้มเป็นเรื่องจริง สาวใช้ตัวเล็กๆ ล่วงเกินเบื้องสูง ใครเป็นคนสอนมารยาทแก่เจ้า?”อวิ๋นอิงจ้องนางอย่างเย็นชา “ข้าก็แค่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง”“พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองก็สามารถผลักข้าหรือ?” กู้ชิงชิงกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าบอกว่าข้าไม่ได้ฆ่าคน เช่นนั้นเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ก็ต้องฆ่าเจ้าใช่หรือไม่ จึงจะนับว่าพิสูจน์ตัวเอง?”พูดจาฉะฉาน เถียงข้างๆ คูๆ กลับมีมาดของคนมีเหตุผลไม่ยอมคนหลิงเชียนอี้
“น้าสะใภ้ระวัง!”“พระชายา!”ฉู่เชียนหลีตั้งหลักอย่างมั่นคง พลันหรี่ตาลง ยกมือก็กระชากข้อมือของกู้ชิงชิง “ข้าอาศัยตระกูลฉู่?”นี่เป็นเรื่องที่ตลกที่สุดในปีนี้ตอนอยู่ตระกูลฉู่ บิดาไม่ห่วง มารดาไม่รัก พี่สาวรังแก อดทนอดกลั้นหลังจากออกเรือน จวนอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายฉู่ไม่เคยช่วยเหลือนาง นางอันมักต้องการใช้ประโยชน์นาง และเอาทุกอย่างของนางไปนางอาศัยตระกูลฉู่ขึ้นนั่งตำแหน่งพระชายาอ๋องเฉิน? เหอะ!“แล้วเช่นนั้นเจ้าอาศัยอะไรล่ะ?” นิ้วมือที่เย็นเฉียบบีบคางของกู้ชิงชิง ยกขึ้นอย่างเย็นชา “อาศัยจิตใจดำมืดที่ทำร้ายคนของเจ้าหรือ?”อายุแค่นี้ จิตใจชั่วช้า เกรงว่าเคยอาศัยสถานะรังแกคนไม่น้อย“คุณหนูกู้ ถ้าหากเจ้ามาจวนโหวติ้งกว๋อเพื่อก่อความวุ่นวาย ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้า ใครก็ได้ ส่งแขก!” พลันหลิงเชียนอี้โบกมือ ‘เชิญ’ คนออกไปอย่างหมดความอดทนกู้ชิงชิงเสียหน้า กล่าวเตือนอย่างเย็นชา“พี่อี้ พวกเรามีสัญญาแต่งงานตั้งแต่เด็ก ท่านเข้าข้างคนนอกได้อย่างไร?”“ไม่ว่าท่านไปหอนางโลมก็ดี เลี้ยงเมียน้อยก็ดี ภรรยาคนสุดท้ายของท่านต้องเป็นข้าเท่านั้น!”นางเป็นคนนิสัยโอ้อวดหยิ่งผยอง และยิ่งเป็นคนอารมณ์ร้อน
กลับถึงเรือนหลัก หลิงเชียนอี้มองไปทางมารดา ส่วนอวิ๋นอิงได้ยินเรื่องของหมอหญิงทำร้ายคน และยังโยนความผิดให้พระชายา นางเริ่มอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงแต่หลังจากเข้าใจสาเหตุของเรื่องราว จู่ๆ ก็ขมวดคิ้ว“พระชายา นี่เหมือนจะไม่ค่อยถูกต้อง”ฉู่เชียนหลีอึ้งไปครู่หนึ่ง รู้ว่าภายนอกของอวิ๋นอิงเป็นคนอุกอาจไร้ข้อผูกมัด แต่จิตใจกลับละเอียดอ่อนเหมือนผ้าไหม นางรีบกล่าวถามต่อ“ไม่ถูกต้องตรงไหน?”สีหน้าอวิ๋นอิงเคร่งขรึม วิเคราะห์อย่างจริงจัง “ท่านกับหมอหญิงคนนั้นไม่เคยเจอกัน นางจะทำร้ายท่านได้อย่างไร? เบื้องหลังต้องมีคนบงการแน่นอน!”ฉู่เชียนหลีเหมือนตื่นรู้ทันทีซี้ด…“ข้าคิดว่าหมอหญิงคนนั้นอยากทำร้ายองค์หญิงใหญ่ แค่ลากข้ามาเป็นแพะรับบาปมาโดยตลอด”“พระชายา ท่านคิดดูดีๆ หมอหญิงไม่เคยเข้าใกล้ท่าน เป็นไปได้อย่างไรที่จะนำเมล็ดเชียนอิงใส่บนตัวท่าน?”เมื่อวิเคราะห์เช่นนี้ คนที่มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่หมอหญิงคนเดียว ยิ่งกว่านั้นพุ่งเป้ามาที่ฉู่เชียนหลีใครกันที่ใส่เมล็ดเชียนอิงลงในแขนเสื้อฉู่เชียนหลี?ฉู่เชียนหลีจับแขนเสื้อ “ข้าอยู่จวนอ๋องเฉินตลอด หลังจากได้รับข่าวก็รีบมาทันที นอกจากเจ้ากับเย
นายท่านไม่เคยถามคำถามเช่นนี้กับนาง จู่ๆ ก็ถามขึ้นมา ต้องมีเหตุผลแน่นอนหานอิ๋งสบตาที่โกลาหลคู่นั้นของเขา เหมือนกับมองไม่เห็นอะไรเลย แต่ก็เหมือนมองทะลุปรุโปร่ง นางรีบคุกเข่าข้างหนึ่งอย่างร้อนตัว“ไม่รู้ว่าข้าน้อยทำอะไรผิด นายท่านโปรดพูดให้ชัดเจน!”เฟิงเย่เสวียนหลุบตา มองนางอย่างเรียบเฉยเมื่อสิบกว่าปีก่อน พวกเขาเติบโตด้วยกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมเป็นร่วมตาย เป็นนายกับบ่าว และยิ่งเป็นพี่น้อง ถ้าหากวันหนึ่ง คนที่ใกล้ชิดที่สุดใช้มีดแทงข้างหลัง…“ครั้งหนึ่งเซียวจือฮว่าทำผิด ข้าเคยให้โอกาสนางหนึ่งครั้ง วันนี้ ก็ให้เจ้าหนึ่งครั้ง”สิ้นเสียงที่เรียบเฉย เฟิงเย่เสวียนจับเสา ลากฝีเท้าที่หนักอึ้ง เดินเข้าไปในห้องหนังสืออย่างโอนเอนไม่มั่นคง“นายท่าน…”เซียวจือฮว่าทำผิดครั้งแรก เนื่องจากสาบานต่อหน้าป้ายวิญญาณบรรพชนของตระกูลเซียว จึงได้รับการให้อภัย ครั้งที่สอง นางบังอาจลักพาตัวฉู่เชียนหลี ถูกนายท่านฆ่าตายด้วยกระบี่เดียวกับมือนางรู้จักนิสัยของนายท่านเป็นอย่างดี ถ้าหากนางทำผิดอีกครั้ง จุดจบก็จะเหมือนกับเซียวจือฮว่าผู้ชายที่เย็นชาคนนี้ พูดหนึ่งไม่เป็นสอง ให้รางวัลและลงโทษแบ่งแยกชัดเจน ไม่ว่
แขนยาวข้างหนึ่งที่ยกขึ้น ขวางทางของอวิ๋นอิงไว้อวิ๋นอิงขมวดคิ้วเหมือนว่าไม่ว่าจะไปที่ใด ก็ต้องเจอเขาตลอด ทุกครั้งที่เจอกัน ไม่เคยมีเรื่องดีอะไรนางยกเท้าจะเดิน แขนข้างนั้นยังคงขวางนางไว้ พลันระหว่างคิ้วปรากฏความโกรธ ยกมือขึ้นก็คว้าแขนของจิ่งอี้ พาดไว้ที่ข้อพับแขน ออกแรงกระชากฉับพลันแต่การเคลื่อนไหวของเขาเร็วกว่า พลิกมือจับท้ายทอยของนางไว้โดยตรง พลันมืออีกข้างเคลื่อนไหว บิดแขนขวาของนางกลับหลัง กดนางลงไปข้างล่าง“อ๊า!”อวิ๋นอิงถูกกดให้ก้มลง เพิ่งคิดจะดิ้นรน แขนเจ็บปวดอย่างรุนแรง จำเป็นต้องรักษาท่าทางที่ก้มเอวไว้ ขยับไม่ได้แม้แต่นิดเดียวแค่ท่าเดียว!แค่ท่าเดียว!นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ชายคนนี้วรยุทธ์ของเขาสูงเพียงใด นางไม่กล้าคิด“ปล่อยข้า!” นางอดกลั้นความเจ็บปวดแล้วดิ้นรน กัดฟันแน่น บนใบหน้าเต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธที่ลุกโชนต่อให้สู้เขาไม่ได้ ความแน่วแน่บนตัวนางก็ไม่เคยยอมแพ้จิ่งอี้ใช้แค่มือข้างเดียว ก็สยบนางแล้ว ง่ายเหมือนกับจับลูกไก่ตัวหนึ่ง เหลือบมองคนที่อยู่ข้างเท้าจากเบื้องสูง กล่าวถากถาง“ลงมือกับข้า ไม่เจียมตัว”คำพูดที่เรียบง่ายแปดคำ ดูถูกและโอ้อวด ราวกับ
ตอนบ่าย องค์หญิงใหญ่ยังคงนอนหลับกลางคืน ก็ยังนอนหลับหลังอาหารเย็นจนถึงดึกดื่น แล้วกินมื้อดึก องค์หญิงใหญ่ยังคงไม่มีท่าทีที่จะตื่นโหวติ้งกว๋ออดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง “นางหนูฉู่ เหตุใดที่รักของข้ายังไม่ตื่น คงจะไม่เกิดเรื่องอะไรกระมัง?”ฉู่เชียนหลีนิ่งเงียบครู่หนึ่งนางหนูฉู่?ที่รักของข้า?ท่านโหวเป็นผู้ชายที่ ‘เก่งมาก’ จริงๆ ไม่น่าแปลกใจที่หลิงเชียนอี้ก็ ‘เก่ง’ เช่นนั้น สิ่งนี้ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงการกระทำที่ดึงปลายหู แล้วบอกเคล็ดลับให้กับนาง… เขา ‘เก่ง’ มากจริงๆ!นางตรวจชีพจรให้องค์หญิงใหญ่ครู่หนึ่งแล้วกล่าว “ท่านโหวไม่ต้องเป็นห่วง ทุกอย่างคงที่ การคลอดลูกเป็นเรื่องใหญ่ที่เดิมพันด้วยชีวิต ร่างกายองค์หญิงใหญ่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ดังนั้นจึงนอนหลับนานขึ้นเป็นเรื่องปกติ”“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี…”โหวติ้งกว๋อพึมพำอย่างสบายใจขึ้น จับสองมือขององค์หญิงใหญ่ไว้ จูบอย่างแผ่วเบา“ลำบากที่รักแล้ว ต่อไปพวกเราจะไม่คลอดอีกแล้ว ต้องโทษเจ้าที่ไม่เชื่อฟังข้า บอกว่าอะไรนะ จะคลอดน้องชายน้องสาวให้มาเป็นเพื่อนอี้เอ๋อร์ หลังจากพวกเราอายุร้อยปี เขาก็มีครอบครัวของเขาแล้ว เขายังจะโดด