แค่คิดก็ปวดใจเหมือนถูกมีดกรีด อยากจะจับฉู่เชียนหลีมัด ผูกติดกับสายคาดเอวของตนเองเสียเดี๋ยวนี้ ไปที่ใดก็พาไปด้วยทุกที่ แต่เขารู้ว่านางเป็นมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งของ นางต้องการอิสระและพื้นที่เขาแค่โมโหที่นางไม่ระวังตัวเรื่องของคนร้าย เขาจะตรวจสอบเอง และต้องลงโทษนางด้วยเช่นกัน ต่อไปจะได้หลาบจำ!เมื่อคิดเช่นนี้ เหวี่ยงฝ่ามือใหญ่ใส่ก้นของฉู่เชียนหลี เพียะ!เสียงดังชัดเจนเป็นพิเศษร่างฉู่เชียนหลีสั่นสะท้าน ยืนอึ้งอยู่ตรงที่เดิม มีเครื่องหมายคำถามโผล่บนศีรษะสิบกว่าตัว นางโดนตี?และยังเป็นก้นด้วย?รู้สึกถึงความเจ็บปวดเล็กน้อยที่ส่งมาจากตำแหน่งที่อ่อนไหว แก้มของนางแดงก่ำทันที รีบใช้สองมือปิดไว้“เจ้า…ครั้งต่อไปข้าจะระวัง เจ้า…ดุข้าสองสามคำก็พอสิ เหตุใดยังลงมือด้วย สุภาพชนใช้ฝีปากไม่ใช้มือ…ซี้ด!”เพิ่งกล่าวจบ ใบหน้าหล่อที่สุขุมและเยือกเย็นขยายใหญ่ตรงหน้ากะทันหันเข้าใกล้!กลีบริมฝีปากที่ประทับลงมาเย็นๆ ปนกลิ่นปอเหอจางๆ ของเขา วินาทีต่อ ริมฝีปากเจ็บแสบเขากัดนาง!กัดริมฝีปากล่างของนางไว้ไม่ปล่อย ถามด้วยเสียงที่คลุมเครือเล็กน้อย “คราวหน้ายังจะประมาทอีกหรือไม่?”“ซี้ด!”ฉู่เชียนหลีเจ
ตำแหน่งฮ่องเต้ เขาเอาแน่!“เชียนหลี มีข้าอยู่ ไม่ว่าใครก็ตามที่อยากทำร้ายพวกเจ้าสองแม่ลูก นอกจากข้ามศพของข้าไปก่อน!” คำพูดของเขาหนักแน่นดั่งเหล็กกล้า เด็ดเดี่ยวดุจขุนเขาภรรยาที่อรชรอ้อนแอ้นในอ้อมแขนกับลูกที่ยังไม่เกิด เป็นหนึ่งเดียวที่เขาห่วงบนโลกใบนี้ครอบครัว!ฉู่เชียนหลีค่อยๆ เอนกายลง สองมือจับฝ่ามือใหญ่ของเฟิงเย่เสวียน วางลงบนท้องน้อยของตนเองเกิดในราชวงศ์ เส้นทางมีอุปสรรคขวางกั้น อันตรายไม่ขาดสาย ไม่บุกบั่นฝ่าฟันจนถึงวาระสุดท้าย ก็จะไม่มีวันที่สงบสุขขอแค่มีเขาอยู่ มีลูกอยู่ ขอแค่ครอบครัวนี้สมบูรณ์ นางก็พร้อมแลกด้วยทุกอย่าง“เฉิน ข้าหวงแหนครอบครัวนี้มาก เลือดเนื้อและลูกของข้า วัยเยาว์ของข้า ทั้งหมดของข้า ล้วนอุทิศให้จวนอ๋องเฉิน เจ้าอย่าทำสิ่งที่ทำให้ข้าผิดหวังเด็ดขาด”นางลูบแก้มของเฟิงเย่เสวียนภายในห้องข้างที่มืดสลัว ใต้ผ้าห่มอันอบอุ่น ใบหน้าเฟิงเย่เสวียนคลุมเครือ มองเห็นเค้าโครงไม่ชัดคำพูดแต่ละคำของนางจริงจังเป็นพิเศษ“ถ้าหากมีวันหนึ่ง เจ้าทำให้ข้าเสียใจ ข้าจะไป ไปสถานที่ที่เจ้าหาไม่เจอ และไม่มีวันพบเจ้าอีก”ลมหายใจเฟิงเย่เสวียนแน่นเล็กน้อย กระชับแขนทั้งสองข้าง กอด
สองมือโอบเอวเฟิงเจิ้งหลี ออกแรงกอดไว้แน่น ใบหน้าข้างแนบติดแผ่นหลัง สูดดมกลิ่นหอมบนกายเขาลึกๆ อาลัยอาวรณ์จนแทบเป็นบ้าแล้ว“ข้าจะเป็นบ้าแล้วจริงๆ ท่านยอมไถ่ถามทุกข์สุขของผู้หญิงข้างนอก ก็ไม่ยอมมองพระชายาที่รอท่านอยู่ที่จวนทุกวัน หัวใจของข้าเจ็บปวดมาก เหมือนกับมีคนเอามีดมาแทง”“ท่านอ๋อง พวกเราต่างหากจึงจะเป็นสามีภรรยาที่อยู่เคียงข้างกันจนแก่เฒ่า ท่านช่วยมองข้า รักข้าหน่อยได้หรือไม่?”เสียงที่สั่นเครือของนางมีเสียงสะอื้นปะปน อ้อนวอนอย่างต่ำต้อยเป็นพิเศษเพื่อความรัก นางยอมเฝ้าห้องที่ว่างเปล่าเพียงลำพังทุกคืนเพื่อความรัก นางสามารถทำได้ทุกอย่างขอแค่สามารถได้รับการตอบกลับจากเขา ให้นางแลกด้วยทุกอย่างที่มีก็ไม่เสียดายเฟิงเจิ้งหลีหลุบตา จับมือเล็กทั้งสองข้างที่อยู่บนเอว งัดแล้วงัดอีก กลับงัดไม่ออก น้ำเสียงยิ่งเย็นชาทันที“ปล่อย!”เขาไม่เคยอยากแตกงานกับนาง ย่อมไม่รักนางอยู่แล้วถ้าหากทั่วหล้า ความรักทั้งหมดสามารถได้รับการตอบแทน เช่นนั้นคนที่เขาต้องการก็ไม่มีทางเป็นฉู่เจียวเจียวแน่นอน“ท่านอ๋อง…”“ปล่อย!”เขาจับข้อมือนางอย่างหมดความอดทน พลันออกแรงบิดแล้วเหวี่ยง ถึงขั้นเหวี่ยงคนลงพื
เพราะเรื่องของเสาบ้าน ทำให้คนบาดเจ็บมากมายเช่นนั้น พระชายาโทษตนเอง ต้องไม่สบายใจอย่างแน่นอนแต่นี่ก็ไม่ใช่ความต้องการของพระชายาอวิ๋นอิงหวังใช้นิยายมาเบี่ยงเบนความสนใจของพระชายา นางเปิดหน้าแรกแล้วอ่าน“ตอนที่สามร้อยหนึ่ง หมอที่มีชื่อเสียงที่สุดในทั่วหล้ารับคำสั่งองค์หญิง เดินทางมาจวนองค์หญิงอย่างเร่งด่วน เพิ่งวิ่งถึงหน้าเตียง หลงอ้าวเทียนก็สิ้น…สิ้นใจแล้ว?”เยว่เอ๋อร์ “?”ฉู่เชียนหลี “?”อวิ๋นอิง “?”สิ้นใจ?พระเอกสิ้นใจจริงๆ? นางไม่ได้อ่านผิด?ขยับหนังสือเข้ามาใกล้หน้า ดูอย่างละเอียดในระยะใกล้ บัณฑิตสิ้นใจจริงๆ!ถ้าหากบัณฑิตตายแล้ว เนื้อเรื่องที่เหลือจะเขียนต่ออย่างไร?อวิ๋นอิงรีบพลิกไปอีกหน้า ตอนที่สามร้อยสอง : พิธีศพของหลงอ้าวเทียน ตอนที่สามร้อยสาม : โลงศพไม้มู่หนานที่องค์หญิงออกแบบเอง ตอนที่สามร้อยสี่ : ฝังศพการแสดงออกของนางแข็งทื่ออยู่บนใบหน้า สำลักจนพูดอะไรไม่ออกฉู่เชียนหลี “...”บัณฑิตตายแล้ว อ๋องหลีบาดเจ็บแล้ว พระชายาอ๋องติ้งบาดเจ็บแล้ว เยว่เอ๋อร์กับอวิ๋นอิงก็บาดเจ็บแล้วเช่นกัน มีเพียงนางที่ปลอดภัยหายห่วง ความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจพุ่งพรวดขึ้นมาอีกครั้งทั้งหมดเป
ใจกลางเมืองหลวง ภายในห้องส่วนตัวของโรงน้ำชาชั้นเลิศแห่งหนึ่ง ปลอดภัย เงียบ สงบ เป็นสถานที่พูดคุยหารือชั้นเยี่ยมทั้งสองด้านของโต๊ะ ร่างเงาอันสูงส่งสองสายนั่งหันหน้าเข้าหากัน เสียงสนทนาระหว่างพวกเขาเบามาก และมีเจตนาที่เยือกเย็นแฝง“คิดไม่ถึงว่าฉู่เชียนหลีจะดวงแข็งและโชคดีเช่นนี้ เสาบ้านที่ใหญ่เช่นนั้นล้มทับลงมา มีคนมากมายเช่นนั้นรีบวิ่งเข้าไปช่วยรับ!”คนพูดคืออ๋องเฟิงเขากำถ้วยชาแน่น สีหน้าโมโหและเกลียดชังเขาไม่เข้าใจ เหตุใดสวรรค์จึงเข้าข้างฉู่เชียนหลีเช่นนี้ แม้แต่พระชายาอ๋องติ้ง อ๋องหลี ก็ไปเป็นพวกเดียวกับฉู่เชียนหลีคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามคืออ๋องเจวี๋ย“พี่รองไม่ต้องรีบร้อน” อ๋องเจวี๋ยหัวเราะเบาๆ อย่างสงบ ยกกาน้ำชาขึ้น เติมชาร้อนที่หอมกลมกล่อมให้เขาอย่างสง่างามฮวาๆ…เสียงน้ำใสชัดเจน เสียงของเขากลับแผ่ไปด้วยความหนาวเหน็บอย่างน่าประหลาด“ท้องของนางเพิ่งจะสามเดือน เหลือเวลาอีกเยอะ ยังมีโอกาสมากมาย อ๋องเฉินระวังพันหนหมื่นหน ก็ต้องมีสักหนที่พลาด”คำพูดนี้ทำให้อ๋องเฟิงสบายใจขึ้นเล็กน้อยมันก็จริงผู้ชายคนหนึ่งลงมือกับผู้หญิง นี่จะโทษเขาเหี้ยมโหดก็ไม่ได้ เรื่องใหญ่เกี่ยวข้องกับร
จวนอ๋องติ้งหลังจากขออนุญาตเฟิงเย่เสวียน ฉู่เชียนหลีมาถึงจวนอ๋องติ้ง ได้รับการต้อนรับจากพ่อบ้านอย่างกระตือรือร้น อ๋องติ้งมีความสุขในการต้อนรับแขก เหล่าบ่าวไพร่ยกชาส่งน้ำ ปรนนิบัติอย่างพิถีพิถันฉู่เชียนหลีรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย จึงรีบไปดูบาดแผลของพระชายาอ๋องติ้งแล้วพระชายาอ๋องติ้งจูงมือฉู่เชียนหลีมานั่งลง “มือของข้าแค่ผิวหนังถลอก ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เจ้ากำลังตั้งครรภ์ ยังต้องรบกวนเจ้ามาอีก จริงๆ เลย หากน้องเจ็ดกล่าวโทษ ข้ารับไม่ไหวนะ”ฉู่เชียนหลีจับมือทั้งสองข้างของนางแล้วแบออกเมื่อวาน มือของนางถูกเสาบ้านล้มทับ แรงเฉื่อยอันมหาศาลขุดผิวหนังหลุดไปเป็นแผ่น เผยให้เห็นเลือดเนื้อที่อยู่ข้างใน ต่อให้ทายา เห็นแล้วก็ยังน่าตกใจมากฉู่เชียนหลีมองดู รู้สึกสับสนอย่างมากถ้าหากคู่สามีภรรยาอ๋องติ้งอยากทำร้ายนาง แล้วจะยอมสละชีวิตเพื่อช่วยนางได้อย่างไร?แอบถอนหายใจหนึ่งที เงยหน้าขึ้นกล่าว “อวิ๋นอิง ว่างของขวัญลงเถอะ”“เจ้าค่ะ” อวิ๋นอิงตอบรับ นำกล่องของขวัญอันประณีตสองกล่องวางลงบนโต๊ะ หลังจากกวาดมองพระชายาแวบหนึ่ง มีเจตนาอันลึกซึ้งแลบผ่านแววตา แล้วเดินออกจากห้องโถงหน้าอย่างเงียบๆพระชายาอ๋องต
พระชายาอ๋องติ้ง “...”เสียวฉู่ยังนั่งอยู่ข้างๆ มีคนนอกอยู่ เขากลับพูดคำพูดยั่วยวนเช่นนี้อย่างโจ่งแจ้ง ทำให้พระชายาอ๋องติ้งเขินอายจนหน้าแดงทันทีทั้งอายทั้งโมโหทั้งเก็บอารมณ์ ตั้งสติสองวินาที เขม่นเขาโดยตรง “ส่ายหัวไป!”พลันอ๋องติ้งหดคอ ตบก้น หอบร่างกายที่กลมป่องเหมือนลูกบอลวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วแล้วฉู่เชียนหลี : คนนั่งอยู่ในห้องโถง จู่ๆ ก็รู้สึกเลี่ยนมากคาดคิดไม่ถึงว่ารูปแบบการใช้ชีวิตร่วมกันของคู่สามีภรรยาอ๋องติ้งจะกลมกลืนเช่นนี้ ร่าเริงเช่นนี้ สามีภรรยาคู่นี้มองข้ามชื่อเสียงและผลประโยชน์ ร่าเริงอัธยาศัยดี โหงวเฮ้งของใบหน้านั้นแลดูมีบุญวาสนาโดยธรรมชาตินางเอ่ยปากด้วยรอยยิ้ม “พี่สี่เก่งจริงๆ”“เก่งอะไร?”หยอกล้อเก่งอยู่กับผู้ชายที่อารมณ์ขันเช่นนี้ ชีวิตเต็มไปด้วยความสุข เป็นวันแห่งความรักทุกวัน“เจ้าไม่รู้หรอกว่าเขาหน้าด้านแค่ไหน แค่วันนี้เจ้าอยู่ ตอนที่เจ้าไม่อยู่ เขาไร้ยางอายยิ่งกว่านี้อีก” พระชายาอ๋องติ้งกล่าวอย่างรังเกียจ “จริงๆ แล้วเขามีความรู้เต็มหัว เพียงแต่ไม่ได้ใช้ให้ถูกที่ แต่พอจัดการข้ามาเป็นชุดเป็นชุดเลย”พูดถึงตรงนี้ ดวงตาของนางเป็นประกายอย่างอยากรู้อยากเห็น
ท้ายที่สุด หัวข้อสนทนานี้จบลงด้วย ‘การตำหนิพฤติกรรมที่รุนแรงของอ๋องเฉิน’ ส่วนเฟิงเย่เสวียนที่กำลังทำงานอยู่ในห้องหนังสือจามอย่างแรงไปหนึ่งทีคนนั่งอยู่ในบ้าน มีเรื่องมาหาถึงที่หลังจากนั้นสองชั่วยามทั้งสองเล่นก็เล่นแล้ว คุยก็คุยแล้ว กินก็กินแล้ว ว่าก็ว่าแล้ว เมื่อเริ่มสายแล้ว จึงจะบอกลากันออกจากจวนอ๋องติ้ง ขึ้นรถม้าที่กลับจวน“พระชายา” อวิ๋นอิงก้มหน้าเดินตามออกมาตลอดทาง นางเดินไปที่ข้างหน้าต่างของรถม้า ลดเสียงเบาเป็นพิเศษ“เมื่อครู่ข้าฉวยโอกาสแอบเข้าไปในห้องหนังสือ ห้องหนังสือของอ๋องติ้งมีแต่วัตถุโบราณ ภาพอักษรและตำราอาหาร ไม่มีอะไรน่าสงสัยเจ้าค่ะ”ห้องหนังสือเป็นสถานที่ทำงานส่วนบุคคล เป็นสถานที่ที่มีความลับมากที่สุดถ้าหากที่นี่ไม่มีความน่าสงสัย เว้นแต่จะซ่อนได้ดีมากๆ หรือไม่มีความน่าสงสัยจริงๆสำหรับเรื่องนี้ ฉู่เชียนหลีเชื่ออย่างหลัง อ๋องติ้งบริสุทธิ์“กลับเถอะ” นางพิงอยู่บนเบาะนุ่ม หลับตาลง “ให้จิ่งอี้ไปตรวจสอบใหม่”“เจ้าค่ะ”สาวใช้ทั้งสองคนขานรับ คนหนึ่งซ้ายคนหนึ่งขวา เดินตามอยู่ข้างรถม้าทันใดนั้น ภายในรถม้า เสียงสูดอากาศสายหนึ่งดังขึ้น“ซี้ด…”“พระชายา ท่านเป็นอ