แค่คิดก็ปวดใจเหมือนถูกมีดกรีด อยากจะจับฉู่เชียนหลีมัด ผูกติดกับสายคาดเอวของตนเองเสียเดี๋ยวนี้ ไปที่ใดก็พาไปด้วยทุกที่ แต่เขารู้ว่านางเป็นมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งของ นางต้องการอิสระและพื้นที่เขาแค่โมโหที่นางไม่ระวังตัวเรื่องของคนร้าย เขาจะตรวจสอบเอง และต้องลงโทษนางด้วยเช่นกัน ต่อไปจะได้หลาบจำ!เมื่อคิดเช่นนี้ เหวี่ยงฝ่ามือใหญ่ใส่ก้นของฉู่เชียนหลี เพียะ!เสียงดังชัดเจนเป็นพิเศษร่างฉู่เชียนหลีสั่นสะท้าน ยืนอึ้งอยู่ตรงที่เดิม มีเครื่องหมายคำถามโผล่บนศีรษะสิบกว่าตัว นางโดนตี?และยังเป็นก้นด้วย?รู้สึกถึงความเจ็บปวดเล็กน้อยที่ส่งมาจากตำแหน่งที่อ่อนไหว แก้มของนางแดงก่ำทันที รีบใช้สองมือปิดไว้“เจ้า…ครั้งต่อไปข้าจะระวัง เจ้า…ดุข้าสองสามคำก็พอสิ เหตุใดยังลงมือด้วย สุภาพชนใช้ฝีปากไม่ใช้มือ…ซี้ด!”เพิ่งกล่าวจบ ใบหน้าหล่อที่สุขุมและเยือกเย็นขยายใหญ่ตรงหน้ากะทันหันเข้าใกล้!กลีบริมฝีปากที่ประทับลงมาเย็นๆ ปนกลิ่นปอเหอจางๆ ของเขา วินาทีต่อ ริมฝีปากเจ็บแสบเขากัดนาง!กัดริมฝีปากล่างของนางไว้ไม่ปล่อย ถามด้วยเสียงที่คลุมเครือเล็กน้อย “คราวหน้ายังจะประมาทอีกหรือไม่?”“ซี้ด!”ฉู่เชียนหลีเจ
ตำแหน่งฮ่องเต้ เขาเอาแน่!“เชียนหลี มีข้าอยู่ ไม่ว่าใครก็ตามที่อยากทำร้ายพวกเจ้าสองแม่ลูก นอกจากข้ามศพของข้าไปก่อน!” คำพูดของเขาหนักแน่นดั่งเหล็กกล้า เด็ดเดี่ยวดุจขุนเขาภรรยาที่อรชรอ้อนแอ้นในอ้อมแขนกับลูกที่ยังไม่เกิด เป็นหนึ่งเดียวที่เขาห่วงบนโลกใบนี้ครอบครัว!ฉู่เชียนหลีค่อยๆ เอนกายลง สองมือจับฝ่ามือใหญ่ของเฟิงเย่เสวียน วางลงบนท้องน้อยของตนเองเกิดในราชวงศ์ เส้นทางมีอุปสรรคขวางกั้น อันตรายไม่ขาดสาย ไม่บุกบั่นฝ่าฟันจนถึงวาระสุดท้าย ก็จะไม่มีวันที่สงบสุขขอแค่มีเขาอยู่ มีลูกอยู่ ขอแค่ครอบครัวนี้สมบูรณ์ นางก็พร้อมแลกด้วยทุกอย่าง“เฉิน ข้าหวงแหนครอบครัวนี้มาก เลือดเนื้อและลูกของข้า วัยเยาว์ของข้า ทั้งหมดของข้า ล้วนอุทิศให้จวนอ๋องเฉิน เจ้าอย่าทำสิ่งที่ทำให้ข้าผิดหวังเด็ดขาด”นางลูบแก้มของเฟิงเย่เสวียนภายในห้องข้างที่มืดสลัว ใต้ผ้าห่มอันอบอุ่น ใบหน้าเฟิงเย่เสวียนคลุมเครือ มองเห็นเค้าโครงไม่ชัดคำพูดแต่ละคำของนางจริงจังเป็นพิเศษ“ถ้าหากมีวันหนึ่ง เจ้าทำให้ข้าเสียใจ ข้าจะไป ไปสถานที่ที่เจ้าหาไม่เจอ และไม่มีวันพบเจ้าอีก”ลมหายใจเฟิงเย่เสวียนแน่นเล็กน้อย กระชับแขนทั้งสองข้าง กอด
สองมือโอบเอวเฟิงเจิ้งหลี ออกแรงกอดไว้แน่น ใบหน้าข้างแนบติดแผ่นหลัง สูดดมกลิ่นหอมบนกายเขาลึกๆ อาลัยอาวรณ์จนแทบเป็นบ้าแล้ว“ข้าจะเป็นบ้าแล้วจริงๆ ท่านยอมไถ่ถามทุกข์สุขของผู้หญิงข้างนอก ก็ไม่ยอมมองพระชายาที่รอท่านอยู่ที่จวนทุกวัน หัวใจของข้าเจ็บปวดมาก เหมือนกับมีคนเอามีดมาแทง”“ท่านอ๋อง พวกเราต่างหากจึงจะเป็นสามีภรรยาที่อยู่เคียงข้างกันจนแก่เฒ่า ท่านช่วยมองข้า รักข้าหน่อยได้หรือไม่?”เสียงที่สั่นเครือของนางมีเสียงสะอื้นปะปน อ้อนวอนอย่างต่ำต้อยเป็นพิเศษเพื่อความรัก นางยอมเฝ้าห้องที่ว่างเปล่าเพียงลำพังทุกคืนเพื่อความรัก นางสามารถทำได้ทุกอย่างขอแค่สามารถได้รับการตอบกลับจากเขา ให้นางแลกด้วยทุกอย่างที่มีก็ไม่เสียดายเฟิงเจิ้งหลีหลุบตา จับมือเล็กทั้งสองข้างที่อยู่บนเอว งัดแล้วงัดอีก กลับงัดไม่ออก น้ำเสียงยิ่งเย็นชาทันที“ปล่อย!”เขาไม่เคยอยากแตกงานกับนาง ย่อมไม่รักนางอยู่แล้วถ้าหากทั่วหล้า ความรักทั้งหมดสามารถได้รับการตอบแทน เช่นนั้นคนที่เขาต้องการก็ไม่มีทางเป็นฉู่เจียวเจียวแน่นอน“ท่านอ๋อง…”“ปล่อย!”เขาจับข้อมือนางอย่างหมดความอดทน พลันออกแรงบิดแล้วเหวี่ยง ถึงขั้นเหวี่ยงคนลงพื
เพราะเรื่องของเสาบ้าน ทำให้คนบาดเจ็บมากมายเช่นนั้น พระชายาโทษตนเอง ต้องไม่สบายใจอย่างแน่นอนแต่นี่ก็ไม่ใช่ความต้องการของพระชายาอวิ๋นอิงหวังใช้นิยายมาเบี่ยงเบนความสนใจของพระชายา นางเปิดหน้าแรกแล้วอ่าน“ตอนที่สามร้อยหนึ่ง หมอที่มีชื่อเสียงที่สุดในทั่วหล้ารับคำสั่งองค์หญิง เดินทางมาจวนองค์หญิงอย่างเร่งด่วน เพิ่งวิ่งถึงหน้าเตียง หลงอ้าวเทียนก็สิ้น…สิ้นใจแล้ว?”เยว่เอ๋อร์ “?”ฉู่เชียนหลี “?”อวิ๋นอิง “?”สิ้นใจ?พระเอกสิ้นใจจริงๆ? นางไม่ได้อ่านผิด?ขยับหนังสือเข้ามาใกล้หน้า ดูอย่างละเอียดในระยะใกล้ บัณฑิตสิ้นใจจริงๆ!ถ้าหากบัณฑิตตายแล้ว เนื้อเรื่องที่เหลือจะเขียนต่ออย่างไร?อวิ๋นอิงรีบพลิกไปอีกหน้า ตอนที่สามร้อยสอง : พิธีศพของหลงอ้าวเทียน ตอนที่สามร้อยสาม : โลงศพไม้มู่หนานที่องค์หญิงออกแบบเอง ตอนที่สามร้อยสี่ : ฝังศพการแสดงออกของนางแข็งทื่ออยู่บนใบหน้า สำลักจนพูดอะไรไม่ออกฉู่เชียนหลี “...”บัณฑิตตายแล้ว อ๋องหลีบาดเจ็บแล้ว พระชายาอ๋องติ้งบาดเจ็บแล้ว เยว่เอ๋อร์กับอวิ๋นอิงก็บาดเจ็บแล้วเช่นกัน มีเพียงนางที่ปลอดภัยหายห่วง ความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจพุ่งพรวดขึ้นมาอีกครั้งทั้งหมดเป
ใจกลางเมืองหลวง ภายในห้องส่วนตัวของโรงน้ำชาชั้นเลิศแห่งหนึ่ง ปลอดภัย เงียบ สงบ เป็นสถานที่พูดคุยหารือชั้นเยี่ยมทั้งสองด้านของโต๊ะ ร่างเงาอันสูงส่งสองสายนั่งหันหน้าเข้าหากัน เสียงสนทนาระหว่างพวกเขาเบามาก และมีเจตนาที่เยือกเย็นแฝง“คิดไม่ถึงว่าฉู่เชียนหลีจะดวงแข็งและโชคดีเช่นนี้ เสาบ้านที่ใหญ่เช่นนั้นล้มทับลงมา มีคนมากมายเช่นนั้นรีบวิ่งเข้าไปช่วยรับ!”คนพูดคืออ๋องเฟิงเขากำถ้วยชาแน่น สีหน้าโมโหและเกลียดชังเขาไม่เข้าใจ เหตุใดสวรรค์จึงเข้าข้างฉู่เชียนหลีเช่นนี้ แม้แต่พระชายาอ๋องติ้ง อ๋องหลี ก็ไปเป็นพวกเดียวกับฉู่เชียนหลีคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามคืออ๋องเจวี๋ย“พี่รองไม่ต้องรีบร้อน” อ๋องเจวี๋ยหัวเราะเบาๆ อย่างสงบ ยกกาน้ำชาขึ้น เติมชาร้อนที่หอมกลมกล่อมให้เขาอย่างสง่างามฮวาๆ…เสียงน้ำใสชัดเจน เสียงของเขากลับแผ่ไปด้วยความหนาวเหน็บอย่างน่าประหลาด“ท้องของนางเพิ่งจะสามเดือน เหลือเวลาอีกเยอะ ยังมีโอกาสมากมาย อ๋องเฉินระวังพันหนหมื่นหน ก็ต้องมีสักหนที่พลาด”คำพูดนี้ทำให้อ๋องเฟิงสบายใจขึ้นเล็กน้อยมันก็จริงผู้ชายคนหนึ่งลงมือกับผู้หญิง นี่จะโทษเขาเหี้ยมโหดก็ไม่ได้ เรื่องใหญ่เกี่ยวข้องกับร
จวนอ๋องติ้งหลังจากขออนุญาตเฟิงเย่เสวียน ฉู่เชียนหลีมาถึงจวนอ๋องติ้ง ได้รับการต้อนรับจากพ่อบ้านอย่างกระตือรือร้น อ๋องติ้งมีความสุขในการต้อนรับแขก เหล่าบ่าวไพร่ยกชาส่งน้ำ ปรนนิบัติอย่างพิถีพิถันฉู่เชียนหลีรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย จึงรีบไปดูบาดแผลของพระชายาอ๋องติ้งแล้วพระชายาอ๋องติ้งจูงมือฉู่เชียนหลีมานั่งลง “มือของข้าแค่ผิวหนังถลอก ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เจ้ากำลังตั้งครรภ์ ยังต้องรบกวนเจ้ามาอีก จริงๆ เลย หากน้องเจ็ดกล่าวโทษ ข้ารับไม่ไหวนะ”ฉู่เชียนหลีจับมือทั้งสองข้างของนางแล้วแบออกเมื่อวาน มือของนางถูกเสาบ้านล้มทับ แรงเฉื่อยอันมหาศาลขุดผิวหนังหลุดไปเป็นแผ่น เผยให้เห็นเลือดเนื้อที่อยู่ข้างใน ต่อให้ทายา เห็นแล้วก็ยังน่าตกใจมากฉู่เชียนหลีมองดู รู้สึกสับสนอย่างมากถ้าหากคู่สามีภรรยาอ๋องติ้งอยากทำร้ายนาง แล้วจะยอมสละชีวิตเพื่อช่วยนางได้อย่างไร?แอบถอนหายใจหนึ่งที เงยหน้าขึ้นกล่าว “อวิ๋นอิง ว่างของขวัญลงเถอะ”“เจ้าค่ะ” อวิ๋นอิงตอบรับ นำกล่องของขวัญอันประณีตสองกล่องวางลงบนโต๊ะ หลังจากกวาดมองพระชายาแวบหนึ่ง มีเจตนาอันลึกซึ้งแลบผ่านแววตา แล้วเดินออกจากห้องโถงหน้าอย่างเงียบๆพระชายาอ๋องต
พระชายาอ๋องติ้ง “...”เสียวฉู่ยังนั่งอยู่ข้างๆ มีคนนอกอยู่ เขากลับพูดคำพูดยั่วยวนเช่นนี้อย่างโจ่งแจ้ง ทำให้พระชายาอ๋องติ้งเขินอายจนหน้าแดงทันทีทั้งอายทั้งโมโหทั้งเก็บอารมณ์ ตั้งสติสองวินาที เขม่นเขาโดยตรง “ส่ายหัวไป!”พลันอ๋องติ้งหดคอ ตบก้น หอบร่างกายที่กลมป่องเหมือนลูกบอลวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วแล้วฉู่เชียนหลี : คนนั่งอยู่ในห้องโถง จู่ๆ ก็รู้สึกเลี่ยนมากคาดคิดไม่ถึงว่ารูปแบบการใช้ชีวิตร่วมกันของคู่สามีภรรยาอ๋องติ้งจะกลมกลืนเช่นนี้ ร่าเริงเช่นนี้ สามีภรรยาคู่นี้มองข้ามชื่อเสียงและผลประโยชน์ ร่าเริงอัธยาศัยดี โหงวเฮ้งของใบหน้านั้นแลดูมีบุญวาสนาโดยธรรมชาตินางเอ่ยปากด้วยรอยยิ้ม “พี่สี่เก่งจริงๆ”“เก่งอะไร?”หยอกล้อเก่งอยู่กับผู้ชายที่อารมณ์ขันเช่นนี้ ชีวิตเต็มไปด้วยความสุข เป็นวันแห่งความรักทุกวัน“เจ้าไม่รู้หรอกว่าเขาหน้าด้านแค่ไหน แค่วันนี้เจ้าอยู่ ตอนที่เจ้าไม่อยู่ เขาไร้ยางอายยิ่งกว่านี้อีก” พระชายาอ๋องติ้งกล่าวอย่างรังเกียจ “จริงๆ แล้วเขามีความรู้เต็มหัว เพียงแต่ไม่ได้ใช้ให้ถูกที่ แต่พอจัดการข้ามาเป็นชุดเป็นชุดเลย”พูดถึงตรงนี้ ดวงตาของนางเป็นประกายอย่างอยากรู้อยากเห็น
ท้ายที่สุด หัวข้อสนทนานี้จบลงด้วย ‘การตำหนิพฤติกรรมที่รุนแรงของอ๋องเฉิน’ ส่วนเฟิงเย่เสวียนที่กำลังทำงานอยู่ในห้องหนังสือจามอย่างแรงไปหนึ่งทีคนนั่งอยู่ในบ้าน มีเรื่องมาหาถึงที่หลังจากนั้นสองชั่วยามทั้งสองเล่นก็เล่นแล้ว คุยก็คุยแล้ว กินก็กินแล้ว ว่าก็ว่าแล้ว เมื่อเริ่มสายแล้ว จึงจะบอกลากันออกจากจวนอ๋องติ้ง ขึ้นรถม้าที่กลับจวน“พระชายา” อวิ๋นอิงก้มหน้าเดินตามออกมาตลอดทาง นางเดินไปที่ข้างหน้าต่างของรถม้า ลดเสียงเบาเป็นพิเศษ“เมื่อครู่ข้าฉวยโอกาสแอบเข้าไปในห้องหนังสือ ห้องหนังสือของอ๋องติ้งมีแต่วัตถุโบราณ ภาพอักษรและตำราอาหาร ไม่มีอะไรน่าสงสัยเจ้าค่ะ”ห้องหนังสือเป็นสถานที่ทำงานส่วนบุคคล เป็นสถานที่ที่มีความลับมากที่สุดถ้าหากที่นี่ไม่มีความน่าสงสัย เว้นแต่จะซ่อนได้ดีมากๆ หรือไม่มีความน่าสงสัยจริงๆสำหรับเรื่องนี้ ฉู่เชียนหลีเชื่ออย่างหลัง อ๋องติ้งบริสุทธิ์“กลับเถอะ” นางพิงอยู่บนเบาะนุ่ม หลับตาลง “ให้จิ่งอี้ไปตรวจสอบใหม่”“เจ้าค่ะ”สาวใช้ทั้งสองคนขานรับ คนหนึ่งซ้ายคนหนึ่งขวา เดินตามอยู่ข้างรถม้าทันใดนั้น ภายในรถม้า เสียงสูดอากาศสายหนึ่งดังขึ้น“ซี้ด…”“พระชายา ท่านเป็นอ
ศาลาพักม้า“ชิงอวี่ ไม่ต้องกลัวนะ เสด็จแม่อยู่นี่ เจ้าจะต้องไม่เป็นอะไร…ท่านหมอ จะต้องรักษาเขาให้หายนะ! ขอร้อง!”ฮองเฮาหนานยวนจับมือของจวินชิงอวี่ลูกชายคนที่สามไว้แน่น มองใบหน้าที่ซีดเผือกของลูกชาย พึมพำอย่างปวดใจหมอกำลังรักษาอย่างเต็มที่จวินลั่วยวนยืนอยู่ตรงประตู กัดฟันกล่าวเสียงเบา“ก็แค่เป็นไข้ ไม่ตายสักหน่อย ตั้งแต่เล็กจนโตอาการของเขาเคยกำเริบครั้งนับไม่ถ้วน มีอะไรต้องกังวล?”เมื่อซวงซวงได้ยิน รีบก้มหน้าอย่างหวาดกลัว“ข้าถูกฉู่เชียนหลีตบหน้าต่อหน้าผู้คน เสด็จแม่ไม่ช่วยข้า เสด็จพี่สามแค่เป็นลม ก็กังวลเช่นนี้แล้ว ดูเหมือนนางจะให้ความสำคัญผู้ชายมากกว่าผู้หญิง”“ไม่ยุติธรรมเลย แม่ที่ลำเอียงเช่นนี้ ไม่ต่างอะไรกับแม่เลี้ยงของข้า”ซวงซวงหวาดกลัว“องค์หญิง…”จวินลั่วยวนหันไป จู่ๆ ใบหน้าน้อยที่งดงามก็บิดเบี้ยว “หรือข้าพูดผิด?”ซวงซวงจับแขนเสื้อของตัวเองอย่างตื่นตระหนกรับใช้องค์หญิงสิบกว่าปี นางเป็นคนสนิทขององค์หญิง ก็เพราะเป็นคนขี้ขลาด ไม่กล้าไปพูดอะไรข้างนอก หลายครั้งที่องค์หญิงอยู่ต่อหน้านาง จึงพูดจาไม่คิดเมื่อนางได้ยินก็เก็บไว้ในใจ ไม่กล้าไปพูดกับคนอื่นนางก้มหน้ากล่าว
จวินลั่วยวนพูดโกหกหน้าตาย ฉวยโอกาสใส่ความฉู่เชียนหลีด้วยคำพูดที่ไม่น่าฟังต่างๆ“อ๋องเฉินไม่สามารถทำให้เจ้าพอใจหรือ?”“เจ้าเป็นแม่ที่มีลูกถึงสองคนแล้ว ไม่รู้จักคำว่า ‘ยางอาย’ เลยหรือ?”“เจ้าสำส่อนจัง!”สายตายฉู่เชียนหลีเย็นลง เดินไปที่ตรงหน้านางจู่ๆ ก็เข้าใกล้กลิ่นอายอันเย็นเยียบพุ่งเข้ามากะทันหัน ทำเอาจวินลั่วยวนแน่นหน้าอก ถอยหลังครึ่งก้าวอย่างไม่สามารถควบคุม หลังจากตั้งสติได้ สีหน้าบูดบึ้งทันทีนางกลัวฉู่เชียนหลีได้อย่างไร?ไม่!เป็นไปไม่ได้!ฉู่เชียนหลีจ้องนาง “เสด็จพี่สามของเจ้าป่วยหนัก เขาขอให้ข้าช่วย ข้าจึงแสดงความเมตตา ประคองเขาไปที่โรงหมอ ถ้าหากเจ้าคิดว่าข้ามีเจตนาไม่ดี ข้าไม่สนใจเขาก็สิ้นเรื่อง”เมื่อสิ้นเสียง เดินไปที่ข้างกาย คลายจุดชีพจรที่สกัดไว้เมื่อครู่“อ่า!”ทันใดนั้น ลมปราณของเขาไหลเวียน สีหน้าเปลี่ยนฉับ อุณหภูมิร่างกายพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาคว้าคอเสื้อของตัวเองอย่างเจ็บปวด หอบหายใจอย่างทรมานเมื่อจวินลั่วยวนเห็นแล้วเลิกคิ้ว“เจ้าช่วยเขา? น่าขำ เห็นได้ชัดว่าเจ้าพิศวาสในความงามของเขา”นางสั่งให้ซวงซวงเขียนจดหมายให้เสด็จพี่สาม คิดไม่ถึงว่าเสด็จพี่สาม
“อ่า…”ชายคนนั้นล้มอยู่บนพื้น สองมือกอดร่างกายตัวเองแน่น ใบหน้าที่ละเอียดละออจนยากจะแยกออกว่าเป็นเพศใดแดงก่ำ เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและทรมานดวงตาหงส์ที่เรียวยาวพร่ามัว เจ็บจนแทบไม่มีสติแล้วฉู่เชียนหลีขมวดคิ้ว ตรวจชีพจรเขาครู่หนึ่งตัวร้อนจนหน้าตกใจชีพจรยุ่งเหยิงและอ่อนมากถูกพิษ แต่ก็ไม่เหมือนถูกพิษ ไข้สูง แต่ก็ไม่เหมือนไข้สูง ป่วย แต่ก็ไม่เหมือนป่วย รักษาคนมาหลายปี เพิ่งเคยพบอาการแปลกๆ เช่นนี้ครั้งแรกหลังจากครุ่นคิด ทำได้เพียงสกัดจุดชีพจรที่สำคัญต่างๆ ของเขา“ช่วย…ช่วยข้า…”เขาเจ็บมาก มีเส้นเลือดสีฟ้าปูดขึ้นที่หน้าผากเขาคว้าข้อมือของฉู่เชียนหลีไว้มือของเขาร้อนมาก!ดวงตาแดงก่ำฉู่เชียนหลีเม้มริมฝีปาก กวาดมองซ้ายขวา เมื่อเห็นมีโรงหมอที่ท้ายถนน ก็รีบประคองเขาขึ้นมาเตรียมตัวส่งคนไปที่โรงหมอ แต่เนื่องจากรูปร่างของเขาสูงใหญ่และหนักมาก กว่าจะลุกขึ้นได้ น้ำหนักตัวเขาก็ล้มทับไปทางฉู่เชียนหลีทั้งหมดหนึ่งร้อยกว่าชั่ง ทับจนฉู่เชียนหลีล้มลงบนพื้นทันทีปัง!ฉู่เชียนหลีอยู่ข้างล่าง เขาอยู่ข้างบนบนถนน ท่าทางที่เป็นจุดเด่นของคนทั้งสอง ดึงดูดผู้คนไม่น้อยทันที มีชาวบ้านคนหนึ่งยิ
สงครามนำไปสู่ความวุ่นวายพริบตาเดี๋ยวก็ผ่านไปเจ็ดวันแล้ว“รายงาน…”ทหารส่งสารวิ่งเข้าตำหนัก คุกเข่าอยู่บนพื้น กล่าวรายงานด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว “ทูล ทูลฝ่าบาท เมืองเจียหนาน…ถูกยึดแล้วพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าของเหล่าขุนนางเปลี่ยนฉับพลันบนราชบัลลังก์ เฟิงเจิ้งหลีได้ยินข่าวนี้ สีหน้าสงบ เรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเงียบหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง จึงจะกล่าวอย่างเรียบเฉย“ฮืม”ทหารส่งสารหวาดกลัว กองทัพของอ๋องเฉินมาอย่างดุดัน และโจมตีกะทันหัน บุกโจมตีอย่างดุเดือด เมืองเจียหนานต้านไม่ไหว แค่คืนเดียวก็ถูกยึดแล้วเหล่าขุนศึกกล่าวอย่างร้อนใจ“เมืองเจียหนานขุดเหมืองมากมาย แร่เหล่าหลายหมื่นชั่งล้วนอยู่ที่นั่น หากไม่มีแร่เหล็ก อาวุธของเราก็จะลดลงอย่างมาก เมื่อเกิดการสู้รบ ก็เหมือนกับแม่ครัวไม่มีข้าวให้หุง…”ไม่มีอาวุธจะได้อย่างไร?“เหตุใดอ๋องเฉินโดดข้ามสองเมือง โจมตีเมืองเจียหนานกะทันหัน?”“ไม่มีเหตุผลเลย!”“ใช่”“เมืองมากมายไม่โจมตี ดันไปโจมตีเมืองเจียหนานกะทันหัน…”เหล่าขุนนางเจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า ถกเถียงเรื่องนี้กันเบาๆ คนละหนึ่งประโยค บรรยากาศวุ่นวายไปหมดเฟิงเจิ้งหลีหลุบตาเล็กน้อย
พลันจวินลั่วยวนแน่นหน้าอก เมื่อเห็นเสด็จแม่ทำหน้าจริงจัง รีบอธิบายทันที“เสด็จแม่ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น…ข้า ข้า…”“ข้าทุ่มเทให้เจ้าทั้งกายและใจ ทุกอย่างที่ทำไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนเลย”นางรัก ‘ลูกสาว’ คนหนึ่งที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดมากเช่นนี้ ลองถามใจตัวเองดู นางรู้สึกว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้วเพราะหาลูกสาวแท้ๆ ไม่เจอเพราะรู้สึกผิดดังนั้นจึงยิ่งดีกับจวินลั่วยวนมากๆ หวังเพียงสิ่งที่ตัวเองทำด้วยใจ จะสามารถทำให้สวรรค์ซาบซึ้ง ประทานพรทั้งหมดให้ลูกสาวแท้ๆ หวังว่าลูกสาวแท้ๆ อยู่ในสถานที่ที่นางไม่รู้จัก ก็มีแม่คนหนึ่งที่ดีกับนางเช่นนี้“เสด็จพ่อของเจ้ารักเจ้า พี่ชายทั้งสามของเจ้าตามใจเจ้าทุกอย่าง ทุกคนล้วนเอาเจ้าเป็นที่ตั้ง ทั้งแคว้นหนานยวนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้า หรือข้ายังดีกับเจ้าไม่พออีก?”ฮองเฮาหนานยวนกล่าวอย่างปวดใจช่างเถอะพูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์เป็นเพราะพวกเขาปกป้องยวนเอ๋อร์ดีเกินไป ส่งผลให้นางอายุสิบเจ็ดปีแล้ว ยังไม่มีความสามารถในการดูแลตัวเอง และไม่เข้าใจสัจธรรมทางโลกอย่างไรก็เป็นลูกที่นางเลี้ยงมากับมือสิบเจ็ดปี โทษลูกสาวไม่ลง ถอนหายใจแล้วกล่าว“กลั
“ความงามของค่าพังหมดแล้ว!”“ข้ากลายเป็นคนอัปลักษณ์แล้ว!”“ข้าจะฆ่าเจ้า! อ๊ะ!”จวินลั่วยวนนั่งอยู่บนพื้น กรีดร้องถีบเท้างอแงเหมือนเด็กคนหนึ่ง มือทั้งสองข้างก็ทั้งโบกทั้งเหวี่ยงท่าทางที่ป่าเถื่อนนั่น ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้เรื่องราวบานปลายไม่นาน ฮองเฮาหนานยวนมาแล้ว“เสด็จแม่!”เมื่อจวินลั่วยวนเห็นมารดา ก็ปล่อยโฮร้องไห้ทันที “เสด็จแม่ ท่านต้องแก้แค้นให้ยวนเอ๋อร์นะเพคะ พระชายาอ๋องเฉินตีหน้าข้า นางอิจฉาความงามของข้า นางจะทำลายโฉมของข้า!”“ข้ากลายเป็นคนอัปลักษณ์แล้ว ทำอย่างไรดี อ๊ะ! ข้าไม่อยากเป็นคนอัปลักษณ์! ฮือๆ…”นางกล่าวทั้งน้ำตาฮองเฮาหนานยวนยกคางของจวินลั่วยวนขึ้น เมื่อดูอย่างละเอียดบนผิวหนังบริเวณแก้มมีรอยขีดข่วนเล็กๆ และมีเลือดออกเล็กน้อย นอกจากนี้ก็ไม่มีบาดแผลอื่นนางดูจนคิ้วขมวด“ยวนเอ๋อร์!”แผลแค่นี้ ร้องไห้เหมือนจะเป็นจะตาย ทำเอาคนทั้งทำเนียบเจียงหนานวุ่นวายไปหมด ไม่สมกับเป็นองค์หญิงแห่งแคว้นเลยทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะจวินลั่วยวนกำลังเสียใจ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว“ข้าไม่สวยแล้ว! ใบหน้าของข้าได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง เสด็จแม่ ท่านต้องออก
หลังจากกล่าวจบ ในความมืด เสียงลมหายใจของเฟิงเย่เสวียนแรงขึ้นแรงน้อย“ครึ่งปีมานี้ เขาดีกับเขา และดีกับจื่อเยี่ยมาก ไม่เคยทำร้ายพวกเราเลย ตอนข้าเลือกที่จะหักหลังเขา ไม่รู้เพราะเหตุใด ในใจรู้สึกผิดอย่างน่าประหลาด”ฉู่เชียนหลีจับหน้าอก อธิบายความรู้สึกนี้ไม่ถูก“ถ้าหากเจ้าได้รับชัยชนะของจุดจบ ไม่ฆ่าเขาได้หรือไม่? ทำให้เขาพิการก็ได้ กักบริเวณทั้งชีวิตก็ได้ ข้าไม่อยากให้เขาตายเพราะทำดีกับข้า”สายตาเฟิงเย่เสวียนเคร่งขรึม มือที่วางอยู่บนเอวของนางกระชับแน่นขึ้นเล็กน้อยเหมือนกำลังข่มอารมณ์แต่แค่สองวินาที ก็คลายมือออกอย่างเงียบๆ เปล่งเสียงออกมาจากลำคอแค่คำเดียว“อืม”ทั้งคืนไร้คำพูดวันรุ่งขึ้นฉู่เชียนหลีเพิ่งกินข้าวเช้าเสร็จ มีเสียงที่เกรี้ยวกราดดังขึ้นจากนอกประตู“ฉู่เชียนหลี!”จวินลั่วหยวนสีหน้านางดูโกรธมาก เดินปรี่เข้ามา ไฟโทสะทั้งหมดมุ่งเป้ามาที่ฉู่เชียนหลีสาวใช้เสียวอู่เข้าไปขวางทันที“เจ้าออกไปก่อน” ฉู่เชียนหลีเงยหน้ามองผู้มา “มีอะไร?”จวินลั่วหยวนกล่าวด้วยความโกรธ“ข้าเจ็บที่หน้า ยังไม่ทันมาหาเรื่องเจ้า แต่เจ้ากลับกล้าส่งคนออกไปปล่อยข่าวลือที่ข้างนอก ทำลายชื่อเสียงข
จะไม่ขอพบอีก…อวิ๋นอิงกล่าวอย่างเด็ดขาดเด็ดเดี่ยว เฉียบขาดไร้ความรู้สึกใดๆ ในแววตาชีวิตที่เหลือ นางและเจี๋ยวเจี๋ยวพึ่งพากันและกัน ไม่คิดไม่ต้องการสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ถูกหรือผิดล้วนไม่ยุ่งเกี่ยวชีวิตที่เหลือ อยู่เพื่อเจี๋ยวเจี๋ยวเท่านั้นฉู่เชียนหลีอ้าปาก ยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่อวิ๋นอิงตัดสินใจไปแล้ว พูดมากมีแต่จะยิ่งทำให้นางรู้สึกต่อต้านถอนหายใจเบาๆช่างเถอะ!ส่วนวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เส้นทางของวันข้างหน้ายังอีกยาวไกล ใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้กับเรื่องไม่คาดคิด อันไหนจะมาก่อนกัน“เจ้าพักผ่อนเถอะ ข้าช่วยเจ้าอุ้มลูกออกไปก่อน แม่นมก็เตรียมไว้แล้ว เจ้าผอมเกินไป อย่าป้อนนมแม่เอง”น้ำนมหนึ่งหยด ก็คือเลือดหนึ่งหยดฉู่เชียนหลียุ่งเรื่องทางนี้เสร็จ เมื่อกลับถึงห้องก็ดึกแล้วหนึ่งวันที่แสนวุ่นวายสิ้นสุดลง ไม่ง่ายเลยที่จะมีเวลาได้นอนกับเว่ยซีและจื่อเยี่ย ยังไม่ทันนอนลงไป ก็ถูกเฟิงเย่เสวียนที่กลับมาไล่ออกไป เปลี่ยนเป็นเขามานอนกับนางแทนตั้งแต่กลับมา ยังไม่เคยได้นอนกับลูกชายและลูกสาวเพียงลำพังเลยถูกเขาไล่ออกไปทุกครั้งเขากล่าว“นี่เป็นเตียงของข้า”ค
จ้านหู่จากไปพร้อมกับคำด่าทอ เหมือนกับเม่นที่อารมณ์ไม่ดีตัวหนึ่งฉู่เชียนหลีไม่ได้มีเจตนาจะฆ่าเขา คิดเสียว่าเป็นการผูกมิตรแม้จ้านหู่เป็นคนของฮองเฮาซีอวี้ แต่ในใจยังมีความอ่อนโยนอยู่ หวังว่ากันผูกมิตรนี้ของนาง วันข้างหน้าจะสามารถช่วยจิ่งอี้กลับห้องอารมณ์ของอวิ๋นอิงสงบลงมากแล้วฉู่เชียนหลีนั่งอยู่ที่ขอบเตียง “ร่างกายของเจ้ารับปัญหาอะไรไม่ไหวแล้ว ต่อจากนี้สามเดือน เจ้าพักฟื้นเถอะ”พักฟื้นหลังคลอดหนึ่งร้อยวันอวิ๋นอิงไม่สนใจเรื่องนี้ นางกอดลูกที่ได้คืนมาหลังจากสูญเสียไว้แน่น เบ้าตาแดงก่ำ“พระชายา ขอบคุณมาก!”“ขอบคุณที่ท่านช่วยเอาลูกสาวของข้ากลับคืนมา!”ตื้นตันจนน้ำตาไหลฉู่เชียนหลีเช็ดน้ำตาให้นาง “ยายโง่ ระหว่างเจ้ากับข้าต้องใช้คำพูดเช่นนี้ด้วยหรือ? ครึ่งปีที่ข้าไม่อยู่ เจ้าช่วยค่าดูแลเว่ยซีกับลู่ฉิน คนที่ควรพูดขอบคุณคือข้า”“ระหว่างพักฟื้น ห้ามร้องไห้เด็ดขาด และห้ามนั่งนาน ระหว่างทิ้งต้นตอของโรคไว้”“อืม!”อวิ๋นอิงกอดลูกไว้แน่น พยักหน้าแรงๆฉู่เชียนหลีมองเด็กที่นอนหลับสนิทในผ้าห่อทารกตัวน้อยๆ หนังเหี่ยวย่น แก้มแดง ท่าทางคล้ายจิ่งอี้ คิ้วบางเหมือนอวิ๋นอิง และยังมีกลีบริม