เพราะเรื่องของเสาบ้าน ทำให้คนบาดเจ็บมากมายเช่นนั้น พระชายาโทษตนเอง ต้องไม่สบายใจอย่างแน่นอนแต่นี่ก็ไม่ใช่ความต้องการของพระชายาอวิ๋นอิงหวังใช้นิยายมาเบี่ยงเบนความสนใจของพระชายา นางเปิดหน้าแรกแล้วอ่าน“ตอนที่สามร้อยหนึ่ง หมอที่มีชื่อเสียงที่สุดในทั่วหล้ารับคำสั่งองค์หญิง เดินทางมาจวนองค์หญิงอย่างเร่งด่วน เพิ่งวิ่งถึงหน้าเตียง หลงอ้าวเทียนก็สิ้น…สิ้นใจแล้ว?”เยว่เอ๋อร์ “?”ฉู่เชียนหลี “?”อวิ๋นอิง “?”สิ้นใจ?พระเอกสิ้นใจจริงๆ? นางไม่ได้อ่านผิด?ขยับหนังสือเข้ามาใกล้หน้า ดูอย่างละเอียดในระยะใกล้ บัณฑิตสิ้นใจจริงๆ!ถ้าหากบัณฑิตตายแล้ว เนื้อเรื่องที่เหลือจะเขียนต่ออย่างไร?อวิ๋นอิงรีบพลิกไปอีกหน้า ตอนที่สามร้อยสอง : พิธีศพของหลงอ้าวเทียน ตอนที่สามร้อยสาม : โลงศพไม้มู่หนานที่องค์หญิงออกแบบเอง ตอนที่สามร้อยสี่ : ฝังศพการแสดงออกของนางแข็งทื่ออยู่บนใบหน้า สำลักจนพูดอะไรไม่ออกฉู่เชียนหลี “...”บัณฑิตตายแล้ว อ๋องหลีบาดเจ็บแล้ว พระชายาอ๋องติ้งบาดเจ็บแล้ว เยว่เอ๋อร์กับอวิ๋นอิงก็บาดเจ็บแล้วเช่นกัน มีเพียงนางที่ปลอดภัยหายห่วง ความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจพุ่งพรวดขึ้นมาอีกครั้งทั้งหมดเป
ใจกลางเมืองหลวง ภายในห้องส่วนตัวของโรงน้ำชาชั้นเลิศแห่งหนึ่ง ปลอดภัย เงียบ สงบ เป็นสถานที่พูดคุยหารือชั้นเยี่ยมทั้งสองด้านของโต๊ะ ร่างเงาอันสูงส่งสองสายนั่งหันหน้าเข้าหากัน เสียงสนทนาระหว่างพวกเขาเบามาก และมีเจตนาที่เยือกเย็นแฝง“คิดไม่ถึงว่าฉู่เชียนหลีจะดวงแข็งและโชคดีเช่นนี้ เสาบ้านที่ใหญ่เช่นนั้นล้มทับลงมา มีคนมากมายเช่นนั้นรีบวิ่งเข้าไปช่วยรับ!”คนพูดคืออ๋องเฟิงเขากำถ้วยชาแน่น สีหน้าโมโหและเกลียดชังเขาไม่เข้าใจ เหตุใดสวรรค์จึงเข้าข้างฉู่เชียนหลีเช่นนี้ แม้แต่พระชายาอ๋องติ้ง อ๋องหลี ก็ไปเป็นพวกเดียวกับฉู่เชียนหลีคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามคืออ๋องเจวี๋ย“พี่รองไม่ต้องรีบร้อน” อ๋องเจวี๋ยหัวเราะเบาๆ อย่างสงบ ยกกาน้ำชาขึ้น เติมชาร้อนที่หอมกลมกล่อมให้เขาอย่างสง่างามฮวาๆ…เสียงน้ำใสชัดเจน เสียงของเขากลับแผ่ไปด้วยความหนาวเหน็บอย่างน่าประหลาด“ท้องของนางเพิ่งจะสามเดือน เหลือเวลาอีกเยอะ ยังมีโอกาสมากมาย อ๋องเฉินระวังพันหนหมื่นหน ก็ต้องมีสักหนที่พลาด”คำพูดนี้ทำให้อ๋องเฟิงสบายใจขึ้นเล็กน้อยมันก็จริงผู้ชายคนหนึ่งลงมือกับผู้หญิง นี่จะโทษเขาเหี้ยมโหดก็ไม่ได้ เรื่องใหญ่เกี่ยวข้องกับร
จวนอ๋องติ้งหลังจากขออนุญาตเฟิงเย่เสวียน ฉู่เชียนหลีมาถึงจวนอ๋องติ้ง ได้รับการต้อนรับจากพ่อบ้านอย่างกระตือรือร้น อ๋องติ้งมีความสุขในการต้อนรับแขก เหล่าบ่าวไพร่ยกชาส่งน้ำ ปรนนิบัติอย่างพิถีพิถันฉู่เชียนหลีรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย จึงรีบไปดูบาดแผลของพระชายาอ๋องติ้งแล้วพระชายาอ๋องติ้งจูงมือฉู่เชียนหลีมานั่งลง “มือของข้าแค่ผิวหนังถลอก ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เจ้ากำลังตั้งครรภ์ ยังต้องรบกวนเจ้ามาอีก จริงๆ เลย หากน้องเจ็ดกล่าวโทษ ข้ารับไม่ไหวนะ”ฉู่เชียนหลีจับมือทั้งสองข้างของนางแล้วแบออกเมื่อวาน มือของนางถูกเสาบ้านล้มทับ แรงเฉื่อยอันมหาศาลขุดผิวหนังหลุดไปเป็นแผ่น เผยให้เห็นเลือดเนื้อที่อยู่ข้างใน ต่อให้ทายา เห็นแล้วก็ยังน่าตกใจมากฉู่เชียนหลีมองดู รู้สึกสับสนอย่างมากถ้าหากคู่สามีภรรยาอ๋องติ้งอยากทำร้ายนาง แล้วจะยอมสละชีวิตเพื่อช่วยนางได้อย่างไร?แอบถอนหายใจหนึ่งที เงยหน้าขึ้นกล่าว “อวิ๋นอิง ว่างของขวัญลงเถอะ”“เจ้าค่ะ” อวิ๋นอิงตอบรับ นำกล่องของขวัญอันประณีตสองกล่องวางลงบนโต๊ะ หลังจากกวาดมองพระชายาแวบหนึ่ง มีเจตนาอันลึกซึ้งแลบผ่านแววตา แล้วเดินออกจากห้องโถงหน้าอย่างเงียบๆพระชายาอ๋องต
พระชายาอ๋องติ้ง “...”เสียวฉู่ยังนั่งอยู่ข้างๆ มีคนนอกอยู่ เขากลับพูดคำพูดยั่วยวนเช่นนี้อย่างโจ่งแจ้ง ทำให้พระชายาอ๋องติ้งเขินอายจนหน้าแดงทันทีทั้งอายทั้งโมโหทั้งเก็บอารมณ์ ตั้งสติสองวินาที เขม่นเขาโดยตรง “ส่ายหัวไป!”พลันอ๋องติ้งหดคอ ตบก้น หอบร่างกายที่กลมป่องเหมือนลูกบอลวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วแล้วฉู่เชียนหลี : คนนั่งอยู่ในห้องโถง จู่ๆ ก็รู้สึกเลี่ยนมากคาดคิดไม่ถึงว่ารูปแบบการใช้ชีวิตร่วมกันของคู่สามีภรรยาอ๋องติ้งจะกลมกลืนเช่นนี้ ร่าเริงเช่นนี้ สามีภรรยาคู่นี้มองข้ามชื่อเสียงและผลประโยชน์ ร่าเริงอัธยาศัยดี โหงวเฮ้งของใบหน้านั้นแลดูมีบุญวาสนาโดยธรรมชาตินางเอ่ยปากด้วยรอยยิ้ม “พี่สี่เก่งจริงๆ”“เก่งอะไร?”หยอกล้อเก่งอยู่กับผู้ชายที่อารมณ์ขันเช่นนี้ ชีวิตเต็มไปด้วยความสุข เป็นวันแห่งความรักทุกวัน“เจ้าไม่รู้หรอกว่าเขาหน้าด้านแค่ไหน แค่วันนี้เจ้าอยู่ ตอนที่เจ้าไม่อยู่ เขาไร้ยางอายยิ่งกว่านี้อีก” พระชายาอ๋องติ้งกล่าวอย่างรังเกียจ “จริงๆ แล้วเขามีความรู้เต็มหัว เพียงแต่ไม่ได้ใช้ให้ถูกที่ แต่พอจัดการข้ามาเป็นชุดเป็นชุดเลย”พูดถึงตรงนี้ ดวงตาของนางเป็นประกายอย่างอยากรู้อยากเห็น
ท้ายที่สุด หัวข้อสนทนานี้จบลงด้วย ‘การตำหนิพฤติกรรมที่รุนแรงของอ๋องเฉิน’ ส่วนเฟิงเย่เสวียนที่กำลังทำงานอยู่ในห้องหนังสือจามอย่างแรงไปหนึ่งทีคนนั่งอยู่ในบ้าน มีเรื่องมาหาถึงที่หลังจากนั้นสองชั่วยามทั้งสองเล่นก็เล่นแล้ว คุยก็คุยแล้ว กินก็กินแล้ว ว่าก็ว่าแล้ว เมื่อเริ่มสายแล้ว จึงจะบอกลากันออกจากจวนอ๋องติ้ง ขึ้นรถม้าที่กลับจวน“พระชายา” อวิ๋นอิงก้มหน้าเดินตามออกมาตลอดทาง นางเดินไปที่ข้างหน้าต่างของรถม้า ลดเสียงเบาเป็นพิเศษ“เมื่อครู่ข้าฉวยโอกาสแอบเข้าไปในห้องหนังสือ ห้องหนังสือของอ๋องติ้งมีแต่วัตถุโบราณ ภาพอักษรและตำราอาหาร ไม่มีอะไรน่าสงสัยเจ้าค่ะ”ห้องหนังสือเป็นสถานที่ทำงานส่วนบุคคล เป็นสถานที่ที่มีความลับมากที่สุดถ้าหากที่นี่ไม่มีความน่าสงสัย เว้นแต่จะซ่อนได้ดีมากๆ หรือไม่มีความน่าสงสัยจริงๆสำหรับเรื่องนี้ ฉู่เชียนหลีเชื่ออย่างหลัง อ๋องติ้งบริสุทธิ์“กลับเถอะ” นางพิงอยู่บนเบาะนุ่ม หลับตาลง “ให้จิ่งอี้ไปตรวจสอบใหม่”“เจ้าค่ะ”สาวใช้ทั้งสองคนขานรับ คนหนึ่งซ้ายคนหนึ่งขวา เดินตามอยู่ข้างรถม้าทันใดนั้น ภายในรถม้า เสียงสูดอากาศสายหนึ่งดังขึ้น“ซี้ด…”“พระชายา ท่านเป็นอ
ช่วงบ่ายฉู่เชียนหลีกลับถึงจวน เอายาให้อวิ๋นอิงหนึ่งขวด ให้อวิ๋นส่งไปที่จวนอ๋องหลี หลังจากนั้นบิดขี้เกียจ เดินไปที่เรือนหานเฟิงอย่างเกียจคร้านพร้อมกับลูบท้องเพิ่งจะสามเดือนกว่า ท้องกลับใหญ่มาก และหนักมากนางลูบหนังท้องพร้อมกับครุ่นคิดในใจ : หนึ่งวันกินข้าวหกชาม หนึ่งมื้อกินสามชาม กินตามนี้ต่อไป ท้องจะไม่ใหญ่จนระเบิดหรือ?ดูเหมือนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ต้องลดอาหารให้เหมาะสมจึงจะถูกไม่เช่นนั้นรอคลอดลูกแล้ว นางก็อ้วนเป็นหมูที่หนักสองร้อยชั่งแล้วกำลังครุ่นคิด ทันใดนั้นได้ยินเสียงที่รีบร้อนเล็กน้อยสายหนึ่ง“พระชายา!”ฉู่เชียนหลีเงยหน้า เห็นเป็นหานอิ๋งเพียงแต่นางยืนอยู่หลังภูเขาจำลอง กระบี่ที่ถืออยู่ในมือกำแน่นแล้วคลายออก แล้วกำแน่นไม่หยุด ริมฝีปากก็เม้มสี่ห้าครั้งไม่หยุด ท่าทางเหมือนอยากพูดแต่ก็ลังเล“มีอะไรหรือ?” ฉู่เชียนหลีถามด้วยความสงสัยมีเรื่องอะไรไม่ไปหาเฟิงเย่เสวียน ต้องมาหานาง?“พระชายา ข้า…ข้ามีคำพูดหลายคำไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่ควรพูด…ข้า…” หานอิ๋งหันมองโดยรอบเป็นระยะ เหมือนกังวลมากฉู่เชียนหลีเห็นท่าทางนี้ของนาง คิดแล้วคิดอีก อุ้มท้องแล้วเดินไปที่ด้านหลังภูเขาจำลอ
ลูกไม่มีแล้ว สามารถตั้งครรภ์ใหม่และคลอดใหม่แต่เมื่อไรที่คลอดเด็กพิการ ถูกคนมีใจใช้ประโยชน์ เสียชื่อแล้ว เช่นนั้นราชบัลลังก์ก็ไม่มีแล้วเมื่อไม่มีราชบัลลังก์แล้ว ก็แสดงว่าแพ้แล้วเมื่อไรที่นายท่านแพ้แล้ว ก็ไม่สามารถแก้แค้นให้เซียวกุ้ยเฟย ยังจะถูกพี่น้องคนอื่นกีดกันและหาเรื่อง ถึงเวลา นายท่านที่ไม่มีอำนาจที่เพียงพอในมือจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ยิ่งอันตรายถึงชีวิตผิดหนึ่งก้าว ผิดทุกก้าวความแตกต่างและรายละเอียดในนี้ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น!ฉู่เชียนหลีฟังมาถึงตรงนี้ ถอยหลังอย่างตะลึงงันเล็กน้อยหนึ่งก้าวถ้าหากนี่คือเหตุผล มันก็เพียงพอจริงๆ แต่นางไม่กล้าเชื่อว่าผู้ชายคนนั้นจะลงมืออย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ นางไม่เชื่อว่าเฟิงเย่เสวียนจะทำเช่นนี้“หากเด็กไม่แข็งแรง วันข้างหน้าข้าพาเขาไปจากจวนอ๋องเฉินก็สิ้นเรื่อง”“เรื่องมันไม่ได้ง่ายเช่นนั้นน่ะสิ พระชายา!” หานอิ๋งเม้มปากที่ขมขื่น “นายท่านชอบท่าน ไม่มีทางปล่อยท่านไปแน่นอน”“ท่านยังจำช่วงที่เพิ่งกลับมาจากเมืองตงหนิง เรื่องที่ข้าอาศัยช่วงที่ท่านนอนหลับ แอบเข้าห้องเพื่อตรวจชีพจรให้ท่านได้หรือไม่? ตั้งแต่ตอนนั้น นายท่านก็ได้วางแผนเรื่องเอาเด็กออกแ
เฟิงเย่เสวียนได้ยินแล้วขมวดคิ้ว แม้ไม่รู้ว่านางเอาคำพูดนี้มาจากที่ใด แต่เขาถามใจตนเอง แต่งงานกันเกือบหนึ่งปีแล้ว เขาปฏิบัติต่อนางอย่างไร นางจะไม่รู้หรือ?“วันๆ ในสมองคิดอะไรอยู่กันแน่?” ตำหนิเสียงเบา “ต่อไปพูดเช่นนี้อีก ข้าจะโกรธแล้ว”อุ้มนางขึ้น วางลงบนเตียง“นอนเสริม!”“ข้าไม่ง่วง”ตอนนี้ในใจฉู่เชียนหลีเต็มไปด้วยเรื่องที่ยุ่งเหยิง ไม่มีกะจิตกะใจนอน“ไม่ง่วงก็กินยาเสีย”เฟิงเย่เสวียนเดินไปที่ข้างโต๊ะ เทน้ำหนึ่งแก้ว นำกล่องไม้สี่เหลี่ยมเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือออกมา แล้วหยิบลูกกลอนสีน้ำตาลเข้มหนึ่งเม็ดส่งให้นางยานี่…ฉู่เชียนหลีหลุบตามอง คำพูดที่หานอิ๋งพูดลอยเข้ามาในสมองทันทีแม้ยานี้มีส่วนผสมของสมุนไพรล้ำค่ามากมาย มูลค่าไม่สามารถประเมิน แต่เมื่อนางดม ก็ได้กลิ่นที่พิเศษสายหนึ่งหญ้าฝรั่นสมุนไพรกระตุ้นเลือด แม้เป็นยาบำรุง แต่คนมีครรภ์กินแล้ว กลับสามารถส่งผลให้แท้งบุตรได้“นี่คือยาอะไร?” นางรับมา กล่าวถามอย่างสงบ“บำรุงครรภ์” เฟิงเย่เสวียนส่งแก้วน้ำให้นางฉู่เชียนหลีได้ยินคำว่าบำรุงครรภ์ นางหัวเราะแล้ว “ราชบัลลังก์กับข้า ใครสำคัญกว่ากัน?”คำถามที่มาอย่างกะทันหัน ทำให้เฟิงเย่