เนื่องจากพระชายาอ๋องเฉินตั้งครรภ์ การตายขององค์ชายใหญ่จึงถูกเลื่อนออกไปชั่วคราว ปล่อยให้ศาลต้าหลี่จัดการ ความสนใจของฮ่องเต้โอนเอนไปทางทายาทราชวงศ์หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วยามฉู่เชียนหลีที่ ‘เป็นลม’ พอประมาณแล้ว ‘ค่อยๆ’ ฟื้น“อืม…”นางลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง มือเล็กจับศีรษะ พึมพำอย่างไร้เรี่ยวแรง “ข้า…ข้าเป็นอะไร…”“รีบนอนลง” ฮ่องเต้ที่ยืนอยู่ข้างเตียงมาโดยตลอดรีบก้าวออกมา กล่าวตำหนิ “เจ้านี่นะ ตั้งครรภ์แล้วยังไม่รู้ตัวอีก และยังเข้าวังมาแต่ไกล เป็นแม่คนอย่างไรกัน!” หากแพ้ท้อง กระทบกระเทือนท้อง เด็กเป็นอะไรไป เขาจะลงโทษนางแน่นอนสวรรค์รู้ เขาอยากมีหลานชายคนหนึ่งมากจริงๆปีนี้เขาอายุห้าสิบปีแล้ว!คนอื่นอายุห้าสิบปี หลานชายรู้จักเรียก ‘ท่านปู่’ แล้ว!“ตั้ง…ตั้งครรภ์?” ฉู่เชียนหลีถลนตา ‘อึ้ง’ โดยตรง ก้มหน้าลงอย่างตะลึงงัน พลางลูบท้องที่แบนราบ “หม่อม…หม่อมตั้งครรภ์แล้วหรือเพคะ?”ฮ่องเต้นั่งลง ห่มผ้าห่มให้นาง “ดีใจมากเลยใช่หรือไม่?”“ดีใจมากเลยใช่หรือไม่? คาดคิดไม่ถึงใช่หรือไม่?” มองดูท่าทางที่ดีใจจน ‘อึ้ง’ ของฉู่เชียนหลี ฮ่องเต้มีความสุขจนหุบมุมปากไม่ลง“หมอหลวงตรวจชีพจรแล้
“พ่ะย่ะค่ะ!”พลันเฟิงเย่เสวียนยืดหลังตรง เสียงหนักแน่นมีกำลัง ราวกับกำลังจะลงสนามรบไม่ต้องให้ฮ่องเต้เป็นห่วง เขาก็จะทุ่มเททุกอย่างเพื่อปกป้องลูก ปกป้องฉู่เชียนหลี ปกป้องครอบครัวของพวกเขาเมื่อก่อนเขาให้ความสำคัญกับอำนาจ อุทิศตนเพื่อขยายอำนาจของตนเอง ฝึกทหาร หาพรรคหาพวก กุมอำนาจ หารือเรื่องต่างๆปัจจุบัน ทำงานเสร็จก็คิดแค่อยากกลับบ้านเร็วๆ ไม่ว่าจะไปถึงที่ไหนก็จะคิดถึงยัยหนูที่มักจะชอบต่อปากต่อคำกับเขา ยัยหนูกำลังจะให้กำเนิดเด็กน้อยแล้ว หัวใจของเขายิ่งถูกครอบครองมากขึ้น“อืม” ฮ่องเต้พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ทันใดนั้นนึกถึงอะไรบางอย่าง กล่าวเสริมอีกหนึ่งประโยค“ใช่แล้ว ต้องคลอดลูกชายให้เรา…ไม่ใช่สิ หลานชาย”ฉู่เชียนหลี “?”คลอดลูกชายหรือลูกสาวเลือกได้ด้วยหรือ?แม้รู้ความกระหายที่อยากจะได้หลานชายของฮ่องเต้ แต่เรื่องนี้ไม่สามารถทำตามความปรารถนาของใครคนใดคนหนึ่ง จะเป็นชายหรือหญิงล้วนขึ้นอยู่กับสวรรค์เฟิงเย่เสวียน “จะพยายามอย่างเต็มที่”“ไม่ใช่พยายามอย่างเต็มที่ แต่จำเป็น!” ฮ่องเต้ทำหน้านิ่ง กล่าวอย่างมีคุณธรรม “คลอดลูกชาย เราช่วยเจ้าพิสูจน์เรื่องขององค์ชายใหญ่ หากคลอดลูกสาว ทำให
ฉู่เชียนหลีราวกับถูกกระบองตีเข้าที่ศีรษะ “?”เฟิงเย่เสวียน “?”ฮ่องเต้ยิ้มแย้ม เขาพึงพอใจกับชื่อนี้มาก “เจี้ยนกว๋อ เฟิงเจิ้งเจี้ยนกว๋อ นี่เป็นชื่อที่เราเปิดมาจากตำราโบราณ ผสมผสานศาสตร์ฮวงจุ้ย และให้ราชครูทำนาย จึงสรุปออกมาเป็นชื่อนี้”เจี้ยนกว๋อ หมายถึงหวังว่าหลังจากเด็กคนนี้เติบโต สามารถกลายเป็นคนที่มีรับผิดชอบ และกล้าแบกรับภาระอันใหญ่หลวง ปกป้องและพัฒนาบ้านเมือง เพื่อชาติเพื่อราษฎร จิตใจโอบอ้อมอารี ให้อภัยทั่วหล้า ความหมายหมื่นพันชื่อนี้ยอดเยี่ยมมาก!เขาพึงพอใจมาก!ด้วยเหตุนี้ ตบโต๊ะลุกขึ้นยืน “เอาชื่อนี้แหละ!”ฉู่เชียนหลีอึ้งไม่!มีเด็กที่ไหนใช้ชื่อนี้กัน!แม้ความหมายดีมาก แต่…แต่มักจะรู้สึกว่ามีตรงไหนที่ไม่ถูกต้อง?เจี้ยนกว๋อสองคำนี้พูดออกมา ไม่เหมือนองค์ชาย แต่เหมือนชายฉกรรจ์ตัวใหญ่ที่หยาบกระด้างมากว่า…“เจ้าเจ็ด เจ้าสามารถคุกเข่าลงขอบคุณพระกรุณาแล้ว เมียเจ้าเจ็ดตั้งครรภ์ ยกเว้นก็แล้วกัน” ฮ่องเต้โบกมืออย่างใจกว้าง สายตาเมตตามากฉู่เชียนหลีไม่กล้าโต้เถียง ยื่นมือไปข้างหลัง แอบสะกิดเฟิงเย่เสวียนทีหนึ่งเฟิงเย่เสวียน “...”เสด็จพ่อเป็นคนงมงาย เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ การ
จวนอ๋องเฉินเมื่อกลับถึงจวน ก็เป็นเวลาช่วงบ่ายแล้ว พ่อบ้านและบ่าวไพร่คนอื่นเห็นทั้งคู่กลับมาอย่างปลอดภัย ต่างก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างไรก็ตามศาลต้าหลี่ไม่ใช่สถานที่ดีอะไรเฟิงเย่เสวียนอุ้มฉู่เชียนหลี เดินเข้าเรือนหานเฟิงโดยตรง“ใครก็ได้”ถีบประตูออก วางคนลงบนเก้าอี้นอนที่ปูด้วยฟูกนุ่มๆ อย่างอ่อนโยน ดึงผ้าห่มกำมะหยี่ที่หนาเตอะ ห่มให้ฉู่เชียนหลี“ท่านอ๋อง!” เยว่เอ๋อร์วิ่งเข้ามา พ่อบ้านก็วิ่งงกๆ ตามมาเช่นกัน“จุดเตาไฟให้แรงกว่านี้หน่อย หนึ่งวันสิบสองชั่วยามห้ามหยุด” เขาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “แล้วปูพรมในห้องด้วย สิ่งของมีคมและแตกง่ายเอาออกไปให้หมด น้ำที่พระชายาดื่มต้องอุ่นเท่านั้น อาหารรสจืด ห้ามนอนดึก”เขาเอ่ยปาก พูดข้อควรระวังออกมาสิบกว่าข้อโดยไม่กะพริบตาแม้แต่ครั้งเดียวพ่อบ้านงงงวยโดยตรงแม้ว่าฤดูหนาวจะหนาวมาก แต่ก็ไม่จำเป็นต้องปกป้องอย่างทะนุถนอมถึงขั้นนี้กระมัง? พระชายาโตเช่นนี้แล้ว เหตุใดทำเหมือนเลี้ยงเด็กทารก?อีกอย่าง รสชาติที่พระชายาชอบก็คือเผ็ดไม่ใช่หรือ?ฉู่เชียนหลีประท้วงทันที “ถ้าหากกินเผ็ดไม่ได้ ไม่ต่างอะไรกับฆ่าข้า”“ฆ่าไม่ฆ่าอะไร” เขาก้มลงตบปากนางเบา
บ่าวไพร่ทุกคนจดจำอย่างจริงจัง ยิ่งทำงานของตนเองอย่างระมัดระวังเด็กรับใช้คนหนึ่งวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าพ่อบ้าน ยิ้มอย่างร่าเริง “อาจารย์ เหตุใดวันนี้จึงกะทันหันเช่นนี้? เมื่อก่อนก็ไม่เคยเห็นท่านอ๋องพูดว่าต้องทำเช่นนั้นเช่นนี้ มีเรื่องดีอะไรใช่หรือไม่?”ทั้งชีวิตพ่อบ้านไม่เคยแต่งงาน อายุเกินครึ่งร้อย อยู่ลำพังคนเดียว เขาจึงรับเด็กคนนี้เป็นลูกศิษย์เด็กคนนี้มองสีหน้าคนเก่ง ทำงานกระฉับกระเฉง ไม่จำเป็นต้องห่วง ได้ใจเขาอย่างมากเขาสองมือไพล่หลัง เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “จวนอ๋องกำลังจะมีนายน้อยเพิ่มมาอีกหนึ่งคน เจ้าว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่หรือไม่?”“อะไรนะ? ความหมายของท่านคือพระชายาตั้งครรภ์แล้ว!”“แล้วไม่ใช่หรือ? แต่งงานกันตั้งนานแล้ว ต่อให้ตั้งครรภ์นาจาก็ตั้งครรภ์นานแล้ว ถ้าหากพระชายายังไม่ตั้งครรภ์ ข้าตั้งใจว่าปีหน้าจะไปหาสูตรยามีบุตร…”จุดที่ไม่ไกลนักฝีเท้าของเซียวจือฮว่าที่เดินผ่านมาชะงักกะทันหัน ฟังบทสนทนาของทั้งคู่เข้าไปในหูทั้งหมดฉู่เชียนหลี…ท้องแล้ว!?ข่าวที่มาอย่างกะทันหันทำให้สีหน้านางเปลี่ยนไปเล็กน้อย ยิ่งมีความบิดเบี้ยวสายหนึ่งพุ่งพรวดเข้ามาในใจ
ณ จวนอ๋องเฉิน แคว้นตงหลิง “สารเลว!” “โอ๊ย!”เสียงตวาดแผดขึ้น ร่างผอมบางร่างหนึ่งถูกถีบจนกระเด็นเข้าชนกับเสาที่ผนัง ก่อนกระแทกกับพื้นอย่างแรง ปิ่นเงินร่วงลง เส้นผมสีดำกระจายลงบนพื้นเจ็บ...เจ็บจัง...เธอเพิ่งเสร็จสิ้นการผ่าตัดใหญ่ที่นานถึงสามสิบแปดชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก พอออกมาจากห้องผ่าตัดก็หมดสติล้มลงกับพื้น แต่ทำไมตัวเธอถึงได้เจ็บขนาดนี้นะ?จากนั้น ความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยกลุ่มหนึ่งก็เบียดเข้ามาในหัวสมองและฉายให้เห็นอย่างรวดเร็ว ฉู่เชียนหลี คุณหนูสี่ผู้ไม่เป็นที่ชื่นชอบของจวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ ใบหน้าอัปลักษณ์ไร้ซึ่งความงาม นางแต่งเข้าจวนเฉินอ๋องเมื่อสามเดือนก่อน ไม่เคยได้รับความชื่นและต้องอยู่ลำพังในห้องว่างเปล่าเรื่อยมาวันนี้อ๋องเฉินรับอนุภรรยา นางถูกเรียกให้มาปรนนิบัติอนุภรรยา แต่เพราะพลั้งเผลอปัดน้ำชาหกไปลวกถูกอีกฝ่าย จึงถูกอ๋องเฉินถีบจนตายในคราวเดียว!เป็นผู้ชายที่โหดจริงๆ!แต่ในเมื่อมาแล้ว ก็ทำใจอยู่อย่างสงบเสียฉู่เชียนหลีรับเรื่องราวต่างๆ เข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว ฝืนทนความเจ็บปวด เงยหน้าขึ้นมาห้องหอที่ประดับตกแต่งด้วยสีแดงแห่งงานมงคล ชายหญิงในชุดแต่งงานคู่หนึ่งอย
เซียวจือฮว่าตกตะลึง “เฉิน…”มิใช่ว่าเขารังเกียจฉู่เชียนหลีเป็นที่สุด ซ้ำยังบอกว่าจะยกตำแหน่งชายาเอกให้นางหรอกหรือ? เห็นอยู่ว่าหนังสือหย่าเขียนจวนจะเสร็จอยู่แล้ว แต่จู่ๆ กลับไม่หย่ากับนาง?ฉู่เชียนหลีเองก็รู้สึกแปลกใจ หากเขาไม่หย่ากับนาง แล้วนางจะได้ท่องเที่ยวในยุคโบราณอย่างสบายอุราและเที่ยวเล่นอย่างมีความสุขได้อย่างไร?“ท่านอ๋อง ข้ามีความผิดนี่!” นางโผเข้าไปกอดต้นขาของชายหนุ่ม เอ่ยประหนึ่งใจแทบขาด “สามเดือนก่อน ข้าวางยาท่าน บีบให้ท่านแต่งกับข้า ข้าผิดหลักคุณธรรม”“เมื่อครู่ ก็จงใจปัดน้ำชาร้อนไปลวกถูกน้องเซียวอีก จิตใจคับแคบนัก”“สตรีที่ใจแคบเช่นไส้ไก่ เจ้าเล่ห์เพทุบายเช่นข้า ไม่มีหน้าจะรั้งตำแหน่งชายาอ๋องเฉินจริงๆ ขอท่านอ๋องให้ผู้ล้ำเลิศกว่ามาแทนที่เถิด!”ภายในใจ 'ผู้ชายบ้า รีบหย่าฉันเร็วๆ ฉันมาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด อยู่มานานกว่านายตั้งหลายพันปี ไอ้เด็กรุ่นกระเตาะที่ขนยังขึ้นไม่หมดอย่างนาย มีสิทธิ์อะไรจะแต่งกับฉัน?'รู้แต่แรก สิบปีก่อนฉันก็จะไม่ช่วยชีวิตนาย ให้นายจมน้ำตายไปเลยก็ดี!เฟิงเย่เสวียนปรี่เข้าไปกุมคอเสื้อนาง “เมื่อครู่เจ้ากล่าวสิ่งใด?”คนที่ช่วยชีวิตเขาเมื่อสิบปีก่
ในเรือนหลังเล็กโกโรโกโสสาวใช้เยว่เอ๋อร์กำลังเดินวนเวียนไปมา สองมือกำแน่นอย่างกระวนกระวายใจ และคอยชะเง้อมองข้างนอกตลอดเวลา ยามเห็นร่างที่คุ้นเคยนั้น นางก็พุ่งตัวออกไปทันใด“พระชายา!”นางรีบปรี่เข้าไปกุมมือสองของฉู่เชียนหลี ก่อนตรวจดูทั้งบนล่างซ้ายขวาหน้าหลัง “พระชายา เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” ท่านอ๋องไม่ได้ทำให้ท่านลำบากใช่หรือไม่เจ้าคะ? พระชายารองเซียวนั่นรังแกท่านหรือไม่เจ้าคะ? พวกเขาเรียกท่านไปทำสิ่งใดเจ้าคะ?”ฉู่เชียนหลีกะพริบตาเยว่เอ๋อร์เป็นสาวใช้ที่ปรนนิบัตินางมาสิบปีแล้ว เติบโตมาพร้อมกับนางตั้งแต่เล็ก สนิทกันดังพี่สาวน้องสาวนางส่ายหัวพลางผลักประตูเข้าไปในห้อง เรื่องแรกที่ทำก็คือปรี่เข้าไปที่โต๊ะแต่งหน้า และคว้าเอากระจกทองเหลืองแสนเก่าเขรอะขนาดเท่าฝ่ามืออี๋...น่าเกลียดชะมัด!แม้จะทำใจมาแล้ว แต่เมื่อได้เห็นใบหน้านี้ นางก็ยังต้องตกใจกับตัวเองภาพสะท้อนในกระจกทองเหลืองนั้น ครึ่งหน้าของสตรีหยาบขรุขระ เหมือนถูกเผาด้วยไฟร้อน ผิวหนังยู่ย่น อัปลักษณ์น่าตกใจกลัว เหมือนปีศาจไม่มีผิด ใครพบเห็นเข้า ตกกลางคืนต้องมีอันฝันร้ายเยว่เอ๋อร์กังวลว่าพระชายาจะน้อยเนื้อต่ำใจจึงรีบดึงกระจกท