แชร์

บทที่ 397

ผู้เขียน: สกุลหยางมีบุตรสาว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-05-27 17:00:00
กลุก ๆ...

ร่างของคนคนหนึ่งกลิ้งเข้ามาด้านในกระโจมอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ท่านโหวน้อย!?” กงเจิ้นหงเบิกตาโตอย่างตกใจ

บทสนทนาของเขากับรัชทายาท ไม่คิดเลยว่าท่านโหวน้อยจะแอบฟังอยู่ด้านนอก แล้วก็ไม่รู้ว่าได้ยินไปเท่าไหร่...

หลิงเชียนอี้กลิ้งอยู่สองตลบ โดนจับได้ก็ไม่สะทกสะท้าน เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มร่า

“โอ๊ะ ท่านลุงรัชทายาท!”

เขาตบหน้าขา รีบลุกขึ้นมา

“ท่านลุงรัชทายาท ท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่? ข้าได้ยินว่าท่านมาที่เมืองตงหนิง ข้าเป็นห่วงแทบแย่ ตอนนี้ รีบเดินทางมาที่นี่ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ลี้ เพื่อมาดูว่าท่านปลอดภัยดี ข้าก็วางใจมากแล้ว!”

เขาโบกมือด้วยใบหน้ายินดี

“พวกท่านคุยกันไปเถอะ ไม่มีธุระแล้วละก็ข้าขอตัวไปก่อน ฮี่ ๆ!”

หัวเราะจบ กำลังตั้งท่า จะวิ่งถอยออกไป

ทันใดนั้น ด้านหลัง เสียงเย็นชาดังขึ้น

“หยุดก่อน!”

น้ำเสียงเย็นยะเยือกราวกับมีฝ่ามือที่ไร้รู้ร่างมือหนึ่ง จับเข้าที่ต้นคอของหลิงเชียนอี้ ทำให้ขาทั้งสองข้างของเขาหยุดชะงักอยู่กับที่ราวกับมีอะไรมาถ่วงเอาไว้ ก้าวขาไม่ออกอีก

ชะงักไปครู่หนึ่ง

เขาค่อย ๆ หันหลังกลับมา จ้องมองไปยังชายหนุ่มชุดดำ นัยน์ตาดำขลับเคร่งขรึม ที่จ้องเขาเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 398

    “ห้ามแตะต้อง!”“ข้าขอเตือนพวกเจ้า...”เสียงเย็นชาของหญิงสาว เสียงจ้อกแจ้กจอแจผสมปนเปกัน ราวกับว่ามีคนจำนวนมากกำลังก่อเรื่องขึ้นด้านนอกการเคลื่อนไหวในมือของฉู่เชียนหลีหยุดชะงักเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นจิ่งอี้กล่าว “ท่านศึกษาอย่างสบายใจเถอะ ข้าไปจัดการเอง”เขาสาวเท้าเดินออกไปฉู่เชียนหลีนวดคลึงหว่างคิ้ว เดิมทีเชื้อโรคประเภทนี้สามารถทดสอบออกมาได้แล้ว แต่เนื่องจากเวลาล่าช้า ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จำต้องค้นคว้าสูตรยาขึ้นใหม่อีกครั้งวิจัยนานแล้ว ประกอบกับขี่ม้าเป็นเวลานาน นางเหนื่อยจนเวียนหัว จึงออกไปสูดอากาศเมื่อเปิดประตู ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังล้อมเป็นกลุ่ม ทะเลาะกัน หนึ่งในนั้น มีเด็กหญิงตัวน้อยสวมชุดทะมัดทะแมงสีแดง ถักเปียกผมสั้นคนหนึ่งถือหอกสีแดง ใบหน้าเยาว์วัยที่อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยความโมโห จ้องมองชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งคนตรงหน้าด้วยสายตาอาฆาต“ท่านพ่อของข้าตายเพราะคุ้มกันเมือง ท่านแม่ของข้าจากไปด้วยโรคติดต่อ ถ้าหากพวกเจ้ากล้าแย่งสมบัติที่ท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าทิ้งไว้ให้ข้า ข้าจะส่งไปเจ้าไปเจอยมบาลเดี๋ยวนี้เลย!”น้ำเสียงของนางดุดันชัดแจ๋ว ใบหน้าองอาจห้าวหาญ สะบัดผมเปียสั้นอย่างด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-28
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 399

    เขาอายุมากกว่านางสิบปี แต่นางกลับเรียกเขาว่าเจ้าหนุ่มน้อย?ช่างเป็นสาวน้อยที่ไม่มีมารยาทเอาเสียเลยสาวน้อยออกแรง ดึงหอก แต่หอกสีแดงติดอยู่ในมือของชายหนุ่มแน่น ดึงอย่างไรก็ดึงไม่ออกทำให้ต้องออกแรงมาก จนใบหน้าเล็กที่สมบูรณ์แดงก่ำน่ารังเกียจ!“นี่!”“ข้าไม่ได้ชื่อนี่”“เช่นนั้นท่านชื่ออะไร!”“รองเถ้าแก่โรงหมอเป้าฟู่ จิ่ง...เรียกข้าท่านอาจิ่งก็พอ!”“...”ถุย!หนุ่มใหญ่ ไม่อาย ยังคิดจะเอาเปรียบสาวน้อยคนหนึ่งอีก!แต่ชายหนุ่มจับหอกของนางเอาไว้ นางดึงอย่างไรก็ดึงไม่ออกโมโห!สาวน้อยโมโหจนหน้าแดง ทันใดนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วกระทืบลงบนเท้าของชายหนุ่มอย่างแรง“!” จิ่งอี้ขมวดคิ้วแน่นซี้ด...เด็กคนนี้ ท่าทางผอมแห้ง แต่แรงเยอะเหลือเกิน!สาวน้อยได้รับอิสระ เมื่อดึงหอกออกมาได้ก็วิ่งหนีจิ่งอี้ขมวดคิ้ว ในฐานะที่เป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งยุทธภพ ยังไม่เคยได้รับความอัปยศอดสูแบบนี้มาก่อน เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมช่างไม่รู้ฟ้าสูงดินต่ำ กล้ายั่วยุแม้กระทั่งเขาจ้องมองแผ่นหลังของเด็กสาวที่วิ่งหนีไปออกไกลอย่างรวดเร็ว กล่าวถามเสียงดัง“เจ้าชื่ออะไร?”“อวิ๋นอิง สำนักยุทธ์ตระกูลอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-28
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 400

    “เจ้ารู้หรือไม่ว่าสถานการณ์ของเมืองตงหนิงตอนนี้อันตรายแค่ไหน? เจ้าหนีมาที่นี่คนเดียว เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร? ถ้าหากเจ้าติดโรคระบาด เป็นอะไรไป เจ้าจะให้ข้าช่วยเจ้าอย่างไร!”เฟิงเย่เสวียนค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ พลังอำนาจที่เย็นยะเยือกและกดดัน บีบให้ฉู่เชียนหลีต้องก้าวถอยหลังโซเซ อ่อนแออย่างเห็นได้ชัดกล่าวอย่างหัวแข็ง“ข้าเป็นหมอ โรคระบาดของเมืองตงหนิงปะทุมาหกเจ็ดวัน คนตายหลายร้อยคน ข้าจะนั่งดูอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไร?”มีคนล้มตายทุกวันเวลาก็คือชีวิตศึกษายารักษาโรคได้เร็วขึ้นหน่อย ก็สามารถช่วยชีวิตคนได้หลายสิบชีวิต“ฟ้าจะถล่มก็ยังมีคนมีคนตัวสูงค้ำเอาไว้ เจ้าเป็นกังวลอะไร?” สายตาที่เย็นยะเยือกของเฟิงเย่เสวียนจ้องมองนางถ้าหากนางติดโรคระบาด ไร้ยารักษา เขาจะทำอย่างไร?ฉู่เชียนหลีดึงแขนเสื้อ ก้มหน้าลงไป พึมพำเสียงเบา“ข้าคิดว่าตนเองก็ค่อนข้างเก่งอยู่...”หนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร ไม่ถือว่าเตี้ยแล้ว“เจ้าว่าอะไร?” เสียงของชายหนุ่มเย็นชาลงไปอีก ราวกับว่าสามารถฆ่าคนได้ฉู่เชียนหลีรีบเงยหน้า“ข้าพูดว่า ข้าทำให้ท่านเป็นกังวลใจแล้ว! ไม่ได้หารือกับท่าน ก็หนีมาที่เมืองตงหนิงโดยพลการ ข้าผิด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-28
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 401

    เป็นหญิงสาววัยเยาว์ที่สวยงามยิ่งคนหนึ่ง อีกทั้งยังมีหน้าตาที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างมากอายุประมาณสิบห้าหกปี เครื่องหน้าที่มีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือมีมิติลึกล้ำ บนหัวสวมเครื่องประดับเงิน กำไลเงิน สร้อยข้อเท้าสีเงิน เสื้อผ้าปักสีเข้มที่ดูเป็นเอกลักษณ์ ถักผมเปียเล็ก ห้อยเขี้ยวหมาป่าเอาไว้ที่ลำคอ เป็นการแต่งกายของทางเหมียวเจียงบนที่นั่งตรงกลางเฟิงเจิ้งอวี้จ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา กระแทกจอกเหล้าลงไปบนโต๊ะอย่างรุนแรงกล่าวเสียงดัง บรรยากาศดุเดือด“ดูท่าวิชาแพทย์และยาพิษของเจ้าจะไม่ได้ดีอย่างที่คิดไว้” น้ำเสียงเย็นชา ทำให้บรรยากาศยิ่งเย็นชาขึ้นกว่าเดิมสาวน้อยที่มีนามว่าอูหนูลุกขึ้นยืนอย่างสงบ เงยใบหน้าสวยขึ้น กล่าวพร้อมรอยยิ้ม“องค์ชาย ข้าเคยบอกท่านแล้วว่า เชื้อโรคในร่างกายของหนูมีมากถึงยี่สิบกว่าชนิด กาฬโรคและยาถอนพิษชนิดนี้ที่ข้าทำขึ้น รับประกันผลแค่ภายในสามวันเท่านั้น”“ตอนนี้เลยเวลาแล้ว เชื้อโรคแปรสภาพ ยาถอนพิษย่อมสิ้นประสิทธิภาพ”เมื่อหลายวันก่อน เขาอยากจะให้กาฬโรคแพร่ขยายเป็นวงกว้าง ยิ่งคนติดเชื้อมาก ก็จะผลักดันให้โรคระบาดรุนแรงถึงขีดสุดเมื่อรุนแรงมาก ค่อยเสนอตัว ช่วยช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 402

    “ช่วยด้วย!”สองหนุ่มสาวประคองชายวัยกลางคนที่ผิวหนังแดงก่ำ หมดสติวิ่งเข้ามา “พระชายาอ๋องเฉิน ท่านพ่อของข้าใกล้จะไม่ไหวแล้ว ขอร้องท่านช่วยเขาด้วย!”พวกเขาร้อนใจจนเบ้าตาแดงก่ำ น้ำตาเม็ดใหญ่ร่วงลงมาทันทีที่วิ่งเข้ามาถึง ยังไม่ทันทรงตัวได้ ชายวัยกลางคนก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างอ่อนแรง มือทั้งสองข้างกางออก แขนขาทั้งสี่ชี้ฟ้า ตาเหลือกทั้งสองข้าง สิ้นสติไปแล้วฉู่เชียนหลีรีบวางสิ่งของในมือ กำลังจะก้าวเข้าไปหา“คุณหนู!” จิ่งอี้รีบห้ามเอาไว้อาการของคนผู้นี้รุนแรงมาก ถ้าหากเข้าไปใกล้ละก็ มีความเป็นไปได้ที่อาจจะติดเชื้อ“วางใจ ข้ารู้ตัวเองดี การช่วยคนสำคัญกว่า!”มือทั้งสองข้างของฉู่เชียนหลีจุ่มลงไปในน้ำ ใช้น้ำอ้ายเฉ่าพรมบนตัวเพื่อฆ่าเชื้อ แล้วค่อยใช้น้ำพรมลงบนผิวหนัง หลังจากทำมาตรการป้องกันเรียบร้อยแล้ว ถึงได้สาวเท้าเข้าไป จับที่ชีพจรของชายวัยกลางคนคนนั้นชีพจรอ่อนแอ จนสัมผัสไม่ได้แล้ว...นางตกตะลึงไปเล็กน้อยค่อย ๆ เงยหน้า มองเข้าไปในดวงตาที่ว่างเปล่าของชายวัยกลางคน...ไม่มีราศี มืดสลัวราวกับขี้เถ้าเขาตายแล้ว...ฉู่เชียนหลีวางมือที่แข็งทื่อลงเล็กน้อย สองหนุ่มสาวเหมือนกับสังเกตเห็นอะไรบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 403

    ฉู่เชียนหลีสีหน้าอึมครึม เปิดจดหมาย ตอนที่ได้เห็นเนื้อหาด้านใน สีหน้าก็อึมครึมยิ่งกว่าเดิม“ในจดหมายเขียนว่าอะไร?” จิ่งอี้เดินเข้ามาใกล้ กล่าวถามฉู่เชียนหลีจ้องมองเนื้อหาในจดหมายครั้งแล้วครั้งเล่า หยิบกริชที่เปื้อนเลือดเล่มนั้นขึ้นมาบนกริช คราบเลือดได้แห้งกรังไปแล้วความลึกประมาณแปดเซนติเมตร...นางสีหน้าหนักใจ เม้มปากแน่น “เลือดนี้...เป็นของหลิงเชียนอี้”“อะไรนะ?!”ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกไป จิ่งอี้กับรองแม่ทัพเจียงก็ตกใจมาก“แต่จดหมายนี้กลับใช้นามแฝง” ฉู่เชียนหลียกจดหมายที่อยู่ในมือขึ้น “ในจดหมายเขียนว่า ห้ามให้ข้ายุ่งกับเรื่องของเมืองตงหนิง อีกทั้งจะต้องออกจากเมืองตงหนิง ก่อนฟ้าสาง ไม่อย่างนั้นก็จะเอาชีวิตของหลิงเชียนอี้”กริชที่เปื้อนเลือดเล่มนี้ ส่งมาเพื่อข่มขู่หลิงเชียนอี้ได้รับบาดเจ็บแล้วแต่เขาอยู่กับรัชทายาทไม่ใช่หรอกหรือ?รองแม่ทัพเจียงสีหน้าประหลาดใจ กล่าว “พระชายา เมื่อสองชั่วยามก่อน ข้ากับท่านอ๋องไปหารัชทายาท รัชทายาทกลับกล่าวว่าท่านโหวน้อยหนีไปแล้ว เขาเองก็กำลังส่งคนไปตามหาอยู่เช่นกัน ไม่รู้ว่าหนีไปที่ใดแล้ว”แปลกประหลาดหลิงเชียนอี้ไปหารัชทายาท ถูกรัชทายา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 404

    ฉู่เชียนหลีพูดจบ หันหลังกลับเดินไปทางโรงหมอ“จิ่งอี้ มาช่วยข้า รองแม่ทัพเจียง ท่านเรียกชาวบ้านที่อาการป่วยรุนแรงในเมืองทั้งหมดมาทดลองยาที่โรงหมอ!!”“หา?”ตอนนี้งั้นหรือ?รองแม่ทัพเจียงเงยหน้า มองสีท้องฟ้าท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว ใกล้จะยามสอง[footnoteRef:1]แล้ว เวลานี้บรรดาชาวบ้านกำลังนอนหลับ ต้องปลุกพวกเขาให้ลุกจากเตียง? [1: ยามสอง หมายถึง ช่วงเวลาสามทุ่มถึงห้าทุ่ม] ช้าก่อน!จากสถานการณ์ตอนนี้ ไม่ใช่ว่าควรรีบไปช่วยท่านโหวน้อยออกมาหรอกหรือ?พระชายาจะทอดทิ้งไม่ไยดีท่านโหวน้อยจริงหรือ?เฮ้อ!รองแม่ทัพเจียงรู้สึกสับสน ทางไหนก็ยุ่งไปหมด จำต้องฟังการจัดการของพระชายา ไปเคาะประตูทีละบ้าน เพื่อเรียกคนยามราตรีอันมืดมิดยามสาม[footnoteRef:2] ลมหนาวเย็นยะเยือก [2: ยามสาม หมายถึง ช่วงเวลาห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง] ชาวนับร้อยเบียดเสียดกันอยู่ในโรงหมอ พวกเขาคลุมเสื้อ ใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนเพลีย ทั้งไอ ทั้งหอบ ใบหน้าแต่ละคนซีดเซียวอ่อนแออย่างเห็นได้ชัดฉู่เชียนหลียืนอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงาน ชี้ไปยังสมุนไพรนับร้อยชนิดที่วางอยู่บนโต๊ะ จ้องมองบรรดาชาวบ้าน กล่าวเสียงดังจริงจัง“คืนนี้ ที่เรียกพวกเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 405

    ด้านนอกค่ายทหารตลอดทั้งคืนนี้ คนที่ไม่ได้นอนทั้งคืนไม่ใช่ฉู่เชียนหลี?ภายในกระโจม แสงเทียนสว่างจ้า บนโต๊ะวางเต็มไปด้วยสมุนไพรนานาชนิด อูหนูแห่งเหมียวเจียงกำลังจัดวางสมุนไพรอย่างชำนาญ เริ่มศึกษายาถอนพิษเฟิงเจิ้งอวี้ยืนอยู่ที่ทางเข้ากระโจม มือทั้งสองข้างไพล่หลัง จ้องมองยามราตรีที่มืดมิด จ้องมองไปยังเมืองตงหนิงที่อยู่ไกลออกไปสองลี้เมืองที่ใหญ่ขนาดนี้ หัวเมืองที่มีประชากรนับแสน แต่กลับเงียบเหงาราวกับนรกทุกคนติดโรค ช่างน่าสิ้นหวังจริง ๆ“เร่งมือหน่อย ฟ้าใกล้สว่างแล้ว ข้าต้องได้ยาถอนพิษ” เขาออกคำสั่งโดยที่ไม่แม้แต่หันหน้า น้ำเสียงที่อึมครึมเย็นยะเยือกเหมือนกับยามราตรีอูหนูพยักหน้า “เจ้าค่ะ”ในเวลานี้ ด้านนอก มีองครักษ์นายหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว“รายงาน…เรียนองค์ชาย อ๋องเฉินมาแล้ว!”เฟิงเจิ้งอวี้เลิกคิ้ว “หือ?”ยามสาม?มาหาเขา?อูหนูเป็นผู้หญิงฉลาดที่สายตาเฉียบแหลมมาก มือเรียวลากผ้าม่าน บดบังโต๊ะทดลองของตนเองเอาไว้ นางซ่อนตัวอยู่หลังฉากบังลมเฟิงเจิ้งอวี้กลับไปนั่งประจำที่ ทันทีที่นั่งลง ก็เห็นเงาดำเดินเข้ามาในกระโจม พร้อมกับความเหน็บหนาวยามค่ำคืนสายตาแหลมคมราวกับเหยี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-30

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1094

    มีดพาดอยู่บนคอนาง คมมีดที่เย็นเฉียบส่องประกายด้วยแสงเย็นยะเยือก ราวกับว่านางแค่ออกแรงเล็กน้อย ก็จะตัดเส้นเลือดอันบอบบางของนางทันทีเฟิงเจิ้งหลีกำลังจะเข้าใกล้พลันมือของนางก็ออกแรงกด “ถ้าหากเจ้ายังต้องการจับตัวเฟิงเย่เสวียน เก็บข้าไว้ดีกว่า ถ้าหากข้าเป็นอะไรไป เกรงว่าเจ้าไม่สามารถควบคุมเฟิงเย่เสวียนแล้ว”เขาชะงักเล็กน้อยข่มขู่?มันก็จริง เฟิงเย่เสวียนหนีออกจากเมืองแล้ว แม้เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่เฟิงเย่เสวียนมีที่ดินศักดินา มีกำลังทหาร สามารถตั้งตนเป็นอ๋อง ถ้าหากสู้กันจริงๆ ใช่ว่าเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของเฟิงเย่เสวียนเสมอไปแต่ว่า นางรังเกียจเขาเช่นนี้เลยหรือ?ถึงขั้นยอมใช้คอของตัวเองมาขู่เขา? เขาก็ขมวดคิ้วแน่น กล่าวอย่างเย็นชา“เจ้ากล้าตายหรือ? ไม่ต้องการจื่อเยี่ยแล้ว?”“ใครบ้างที่อยากตาย? แต่ถ้าหากต้องอยู่อย่างอัปยศ ไม่สู้ตายเสียดีกว่า ให้ทุกอย่างมันจบสิ้นเสีย”“เจ้า!”ในแววตาของเขามีความโกรธเอ่อล้นออกมา อยากเข้าไป แต่เท้ากลับยืนแข็งอยู่ตรงที่เดิมมองดูนางที่เชิดคางเล็กน้อย และมือที่กำแน่นอย่างดึงดัน ความโกรธติดอยู่ในอก ไม่สามารถระบายออกมา ทำให้เขาอัดอั้นจนรู้สึกทรมานบ้า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1093

    “ตาม!” ผู้บัญชาการจางกระทืบเท้าตะโกนเสียงดัง “รีบตาม! ขี่ม้าที่เร็วที่สุด ต้องจับอ๋องเฉินกลับมาให้ได้!”“รับทราบ!”เปิดประตูเมือง ทหารรักษาพระองค์ไล่ตามอย่างรวดเร็วเฟิงเจิ้งหลีหยิบธนูมาหนึ่งคัน ดึงลูกธนู เล็งยามค่ำคืนอันมืดสลัวที่อยู่นอกเมือง แต่ทันใดนั้นก็ถูกฉู่เชียนหลีกระแทกอย่างแรงธนูพลาดเป้าเขาหัวเราะอย่างเย้ยหยัน โยนธนูลงบนพื้น กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ“หนี หนีไปเลย ทั้งแคว้นตงหลิงเป็นของข้าแล้ว ข้าดูสิว่าเจ้าจะสามารถหนีไปถึงไหน!”ใต้ฟ้าอันกว้างใหญ่ ล้วนเป็นของกษัตริย์เขาจะจับเฟิงเย่เสวียนได้ในสักวัน“เฟิงเจิ้งหลี เจ้ามันเป็นคนบ้าที่เสียสติจริงๆ โลกนี้มีผลกรรมเสมอ สักวันเจ้าจะถูกสิ่งที่เจ้าทำตามสนอง”คนที่เสียสละ สักวันจะได้ผลตอบแทนคนที่กระทำความชั่ว สักวันจะต้องชดใช้ไม่ใช่กรรมไม่ตามสนอง แค่ยังไม่ถึงเวลาเฟิงเจิ้งหลีคว้าแขนของฉู่เชียนหลี พลันดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน บีบคางของนาง “เหมือนเจ้าแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นข้าตกต่ำแล้วนะ”“แต่น่าเสียดาย คนดีอายุสั้น คนชั่วอายุยืนพันปี ข้าต้องอยู่รอดต่อไป จะรอดูว่าเฟิงเย่เสวียนตายต่อหน้าข้าอย่างไร”ฉู่เชียนหลีถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1092

    ทุกคนรออยู่ที่นอกประตูเมือง เฟิงเย่เสวียนขี่ม้าเข้าไปใกล้ สายตาจ้องฉู่เชียนหลีอย่างลึกซึ้งหลายวินาทีฉู่เชียนหลียิ้มระหว่างทั้งสองคน คำพูดมากมายไม่จำเป็นต้องพูด แค่สบตากัน ก็สามารถเข้าใจกันแล้วผ่านไปครู่หนึ่งเขาถอนสายตากลับ กระตุกม้าให้หยุดลง โน้มกายและเอื้อมมือไปรับลูก“ส่งเขาให้ข้า”เฟิงเจิ้งหลียิ้มได้อ่อนโยนมาก ก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าวอย่างเชื่อฟัง ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเล็กน้อย ส่งเด็กที่อยู่ในมือออกไป“น้องเจ็ด เดินทางปลอดภัย”เขาเน้นเสียงคำว่า ‘ปลอดภัย’ เป็นพิเศษ เหมือนมีความหมายที่ลึกซึ้งซ่อนอยู่อ๋องเฉินยื่นมือออกมาแล้ว ขณะที่กำลังจะสัมผัสโดนเด็ก เฟิงเจิ้งหลีปล่อยมือกะทันหันทันใดนั้นเด็กสูญเสียแรงยึดเหนี่ยว ร่วงลงไปโดยตรง!“จื่อเยี่ย!”พลันเฟิงเย่เสวียนแน่นหน้าอก กระโดดลงจากม้าด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด ก็เห็นอ๋องหลีรับเด็กไว้แล้ว และก็เพราะพริบตาที่เขาเผลอนี้ จึงถูกธนูลับดอกหนึ่งยิงเข้าที่สะบักฉึก…“อาเฉิน!”“ท่านอ๋อง!”เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหัน ไม่มีใครรับมือทันเวลาเฟิงเจิ้งหลีใช้มือซ้ายอุ้มเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ย มือขวาจับตัวฉู่เชียนหลี ถอยหลังเจ็ดแปดก้าว ขณะ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1091

    เฟิงเย่เสวียนเดินออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว “ปล่อยฉู่เชียนหลีกับเด็ก ข้าอยู่เอง เจ้าจับฉู่เชียนหลีไม่มีประโยชน์ มีเพียงจับข้าเท่านั้น เจ้าจึงจะสามารถนั่งราชบัลลังก์ได้อย่างมั่นคง”เฟิงเจิ้งหลีเย้ยหยัน“อย่ามาต่อรองกับข้า ข้ายอมถอยให้แล้ว ถ้าหากยังได้คืบจะเอาศอก ข้าไม่ถือสาที่จะพินาศไปพร้อมกัน”ฉู่เชียนหลีรีบถอยกลับมาจับข้อมือเฟิงเย่เสวียน กล่าวเสียงเบา “เจ้าพาจื่อเยี่ยไป!”“เชียนหลี…”“คนที่เขาต้องการคือข้า มีเพียงเจ้าไปและมีชีวิตรอดต่อไปเท่านั้น จึงจะมีโอกาสพลิกสถานการณ์ จื่อเยี่ยไปแล้ว ข้าจึงจะวางใจ ถึงเวลานั้น เขาก็ไม่มีข้อได้เปรียบอีก และไม่จำเป็นต้องกลัวเขาอีกแล้ว” ฉู่เชียนหลีวิเคราะห์เบาๆ อย่างฉับไวเฟิงเจิ้งหลีไม่มีทางฆ่านางใช้นางคนเดียว แลกกับความปลอดภัยของจื่อเยี่ย แลกกับความปลอดภัยของทุกคน อย่างไรก็ดีกว่าสู้กันตายไปข้างหนึ่ง เลือดนองเหมือนแม่น้ำไม่ใช่ว่านางจะถูกขังอยู่ในเมืองหลวงตลอดไปตราบใดที่ยังมีชีวิต ก็มีโอกาสเฟิงเย่เสวียนรู้ผลได้ผลเสียในนี้ เด็กคนนี้อย่างไรก็ต้องช่วย แต่เขาจะทิ้งฉู่เชียนหลีไว้คนเดียวได้อย่างไร“เชียนหลี ข้ามันไร้ประโยชน์”“ข้าไม่อนุญาตให้เจ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1090

    เมื่อพรรคของอ๋องหลีได้ยินเช่นนี้ ก็กลัวทันทีดูท่าทีของพระชายาอ๋องเฉิน นี่กำลังจะเปิดฉากสังหารครั้งใหญ่ในวังชัดๆ!ฆ่าคนติดต่อกันสองคน ไม่กระพริบตาแม้แต่ทีเดียวเลือดกระเซ็นโดนใบหน้า ก็เย็นเฉียบท่าทางที่ชั่วร้ายเหมือนปีศาจนั่น ทำให้ขุนนางหลายคนเกิดความกลัว ลองถามคนทั่วหล้า จะมีสักกี่คนที่ไม่กลัว? อยู่ต่อหน้าความเป็นความตาย ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัวพวกเขาไม่อยากตายขุนนางคนหนึ่งกลัวจนพูดติดอ่าง“อ๋อง อ๋องหลี…อย่างไรเด็กที่อยู่ในมือท่านก็เป็นพระนัดดาองค์โต เป็นสายเลือดของราชวงศ์ ถ้าหากฆ่าเขา ในวันข้างหน้า มลทินของท่านจะถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ เกรงว่าจะถูกคนรุ่นหลังด่าทอต่อๆ กันเป็นหมื่นปี”ขุนนางอีกคนก็กล่าวเสียงสั่น“อ๋องเฉินโปรดพิจารณา…”ถ้าหากสู้กันจริงๆ พวกเขาสู้ไม่ไหวอ๋องเฉินมีฮ่องเต้หนุนหลัง มีกองทัพ มีกำลังทหาร อ๋องเฉินเป็นฝ่ายได้เปรียบทุกด้านในมืออ๋องหลี นอกจากพระนัดดาองค์โต ก็ไม่มีเบี้ยอย่างอื่นแล้ว อีกทั้ง ทหารรักษาพระองค์ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ทหารองครักษ์เงาของอ๋องเฉินเมื่อไรที่สู้กัน พวกเขาจะตายกันหมดไม่จำเป็นต้องตายไปครั้งหนึ่ง บางครั้ง เมื่อเห็นว่าพอแล้วก

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1089

    เฟิงเย่เสวียนแค่ขมวดคิ้วทีหนึ่ง ก็ข่มความเจ็บปวดนี้ลงไปผู้บัญชาการจางฟาดอย่างดุร้ายลองคิดดูเขาที่เป็นขุนนางคนหนึ่ง สามารถใช้แส้ฟาดองค์ชายที่ฮ่องเต้โปรดปรานที่สุด นี่เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจเพียงใด พูดคำนี้ออกไป เขาสามารถอวดสามสิบปียิ่งฟาดยิ่งรู้สึกสนุก ยิ่งฟาดยิ่งแรงเพี๊ยะ!เพี๊ยะๆๆ!ทุกคนร้อนใจจนกระทืบเท้า แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไป อ๋องหลีบ้าไปแล้ว เขาไม่ใช่อ๋องหลีที่เข้าถึงได้ง่ายอีกแล้ว!ฉู่เชียนหลีเพิ่งคิดจะกระโจนเข้าไป ก็ถูกอ๋องหลีสั่งให้คนคุมตัวไปยืนอยู่ข้างๆ บังคับให้นางมองดูต่อหน้าต่อตา“ฉู่เชียนหลี ข้าเคยบอกแล้ว เจ้าจะต้องเสียใจ คนไร้ประโยชน์อย่างเฟิงเย่เสวียน แม้แต่ลูกชายก็ปกป้องไม่ได้ มีประโยชน์อะไร”แววตาเฟิงเจิ้งหลีเปล่งแสงที่บ้าคลั่ง“เขาเป็นแค่คนไร้ประโยชน์ ฝ่าบาทจะให้ความสำคัญกับคนไร้ประโยชน์เช่นนี้ได้อย่างไร? ฉู่เชียนหลี เจ้าว่าเจ้าตาบอดใช่หรือไม่? เจ้าดูสภาพที่สะบักสะบอมของเขาตอนนี้ เหมือนสุนัขตัวหนึ่ง เจ้าก็ยังชอบเขา เช่นนั้นเจ้าก็เป็นสุนัขตัวเมียที่แพศยา”เขายิ้มอย่างชั่วร้าย สิ่งที่พูดออกมายิ่งไม่น่าฟังทุกคนตาแดง อยากพุ่งเข้าไปสับอ๋องหลีเป็นชิ้นๆ เสีย

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1088

    ผู้ชายที่ร่างกายสูงใหญ่งอหัวเข่า คุกเข่าอยู่ตรงหน้าอ๋องหลีอย่างตั้งตรง แม้อยู่ต่ำกว่า แต่ความสูงศักดิ์ที่แผ่ซ่านออกมาจากกระดูก ไม่ลดน้อยลงเลยสักนิดตลอดหลายปีที่ผ่านมา นอกจากคุกเข่าให้ฮ่องเต้และบรรพชน พวกเขาไม่เคยเห็นอ๋องเฉินคุกเข่าให้ใครเฟิงเจิ้งหลีเห็นดังนี้ แหงนหน้าหัวเราะ“ฮ่าๆๆ!”คิดไม่ถึงจริงๆ เขาจะมีวันนี้ด้วยลูกชายที่ฮ่องเต้โปรดปรานที่สุด แพ้ให้กับลูกชายที่ไม่โปรดปรานที่สุด ไม่สะดุดตาที่สุด และยังถูกทุกคนรังแก ความรู้สึกที่อยู่เหนือกว่าเช่นนี้ ทำให้ในใจเขาสาแก่ใจจริงๆ“ฮ่าๆๆๆ เฟิงเย่เสวียน เจ้าก็มีวันนี้ด้วย!”หัวเราะเสร็จ เขารู้สึกว่าความเย่อหยิ่งของอ๋องเฉินมันขัดตาทั้งๆ ที่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบจนต้องคุกเข่า เหตุใดยังอวดดีหยิ่งผยองเช่นนี้?เขาออกคำสั่ง “ก้มหัวเจ้าลงไป”เฟิงเย่เสวียนเม้มปาก ก้มศีรษะลงเขาออกคำสั่งอีกครั้ง “โขกศีรษะ!”“อ๋องหลี ท่านอย่ารังแกให้มันมากนัก! ท่านกับท่านอ๋องของเราเป็นคนรุ่นเดียวกัน ท่านรับการโขกหัวจากเขาไม่ได้! ไม่กลัวบรรพชนรู้แล้ว อายุสั้นหรือ!” พ่อบ้านหยางกล่าวด้วยความโกรธเพิ่งกล่าวจบ ก็ถูกผู้บัญชาการจางถีบจนล้มลงพื้นหลังจากล้มลง ก

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1087

    “ปล่อยคนของเจ้าแล้ว เจ้าเป็นอิสระแล้ว คืนลูกให้ข้า” ฉู่เชียนหลีจ้องเขาเฟิงเจิ้งหลีเหลือบมองเด็กน้อยในอ้อมแขน ท่าทางที่ร้องไห้จนหน้าแดง เห็นแล้วปวดใจนักคิดว่าแค่นี้ก็จบแล้วหรือ?เขายิ้ม“ฉู่เชียนหลี เหมือนเจ้าจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์นะ?”“?”“……”“เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาต่อรองกับข้า? เด็กอยู่ในมือข้า เป็นหรือตายขึ้นอยู่กับข้า ถึงคราวที่เจ้าต้องมาสอนข้าทำงานตั้งแต่เมื่อไร?”สีหน้าฉู่เชียนหลีเคร่งขรึมทันทีเห็นได้ชัด เขาได้คืบจะเอาศอก“เจ้ายังต้องการอะไรอีก?”“ข้าหรือ” เขาเงยหน้าด้วยรอยยิ้ม กวาดมองทุกคน และตำหนักอันหรูหราหลังนี้ วังหลวงที่กว้างใหญ่แห่งนี้ แผ่นดินที่ดีเช่นนี้เขาต้องการอะไร ยังต้องให้พูดอีกหรือ?แต่ว่า มองดูท่าทางที่ร้อนใจของฉู่เชียนหลี เขาเกิดอยากสนุก ต้องการระบายความคับข้องใจที่ได้รับในสองวันนี้ออกมาให้หมดลูบแก้มของเด็กน้อยพลางกล่าว“อยากได้ลูกคืน ไม่มีปัญหา มันก็ต้องดูว่าอ๋องเฉินมีความจริงใจหรือไม่”เงียบไปครู่หนึ่ง“อืม หรือไม่อ๋องเฉินคุกเข่า โขกหัวให้ข้าสามครั้ง ข้าก็คืนลูกให้เจ้า เป็นอย่างไร?”ฉู่เชียนหลีโมโหแล้วด้วยนิสัยที่ยอมหนึ่งก้าว จะเอาสิบก้าวข

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1086

    “เจ้า!”ฉู่เชียนหลีถูกความเฉยเมยของนางยั่วจนโมโหแล้ว ยิ่งคิดไม่ถึงว่าใต้ฟ้าจะมีแม่ที่ไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้มันก็จริงฉู่เจียวเจียวกับเฟิงเจิ้งหลี ถ้าไม่เหมือนกันก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ ไม่มีอะไรที่พวกเขาสองสามีภรรยาทำไม่ลงรอหลังจากลู่ฉินเติบโต รู้ว่าตัวเองมีแม่เช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะเศร้าเพียงใด!“ฉู่เชียนหลี เฟิงเย่เสวียน พวกเจ้าเลิกพูดไร้สาระได้แล้ว รีบปล่อยตัวอ๋องหลี ความอดทนข้ามีขีดจำกัด!” ฉู่เจียวเจียวกล่าวอย่างเย็นชา“จะเอาชีวิตของลูกชาย หรือจะปล่อยคน พวกเจ้าเลือกเอง”อย่างไรนางก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วไม่ดิ้นรน ตายสถานเดียวดิ้นรน เดิมพัน ยังมีโอกาสสายตาเฟิงเย่เสวียนเคร่งขรึมมาก หางตาเหลือบมองหานเฟิง หานเฟิงเข้าใจทันที เขาซ่อนมือไว้ที่หลัง และทำท่าสัญญาณมือไปที่ด้านหลังมือธนูเตรียมพร้อมจู่ๆ ฉู่เจียวเจียวก็กล่าวเสริมอีกประโยคอย่างเย็นชา “พวกเจ้าสามารถลองดูได้ ดูสิว่าการเคลื่อนไหวของพวกเจ้าไว หรือมีดที่อยู่ในมือข้าเร็ว”“ต่อให้ข้าตาย การฆ่าเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ยก็ใช้เวลาแค่พริบตาเดียว”ฉู่เชียนหลีสั่งให้มือธนูหยุดทันที “ปล่อยคน!”อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามผู้หญิงคนนี้มันเป็นผู

DMCA.com Protection Status