Share

บทที่ 398

Author: สกุลหยางมีบุตรสาว
“ห้ามแตะต้อง!”

“ข้าขอเตือนพวกเจ้า...”

เสียงเย็นชาของหญิงสาว เสียงจ้อกแจ้กจอแจผสมปนเปกัน ราวกับว่ามีคนจำนวนมากกำลังก่อเรื่องขึ้นด้านนอก

การเคลื่อนไหวในมือของฉู่เชียนหลีหยุดชะงักเล็กน้อย เงยหน้าขึ้น

จิ่งอี้กล่าว “ท่านศึกษาอย่างสบายใจเถอะ ข้าไปจัดการเอง”

เขาสาวเท้าเดินออกไป

ฉู่เชียนหลีนวดคลึงหว่างคิ้ว เดิมทีเชื้อโรคประเภทนี้สามารถทดสอบออกมาได้แล้ว แต่เนื่องจากเวลาล่าช้า ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จำต้องค้นคว้าสูตรยาขึ้นใหม่อีกครั้ง

วิจัยนานแล้ว ประกอบกับขี่ม้าเป็นเวลานาน นางเหนื่อยจนเวียนหัว จึงออกไปสูดอากาศ

เมื่อเปิดประตู ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังล้อมเป็นกลุ่ม ทะเลาะกัน หนึ่งในนั้น มีเด็กหญิงตัวน้อยสวมชุดทะมัดทะแมงสีแดง ถักเปียกผมสั้นคนหนึ่งถือหอกสีแดง ใบหน้าเยาว์วัยที่อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยความโมโห จ้องมองชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งคนตรงหน้าด้วยสายตาอาฆาต

“ท่านพ่อของข้าตายเพราะคุ้มกันเมือง ท่านแม่ของข้าจากไปด้วยโรคติดต่อ ถ้าหากพวกเจ้ากล้าแย่งสมบัติที่ท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าทิ้งไว้ให้ข้า ข้าจะส่งไปเจ้าไปเจอยมบาลเดี๋ยวนี้เลย!”

น้ำเสียงของนางดุดันชัดแจ๋ว ใบหน้าองอาจห้าวหาญ สะบัดผมเปียสั้นอย่างด
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 399

    เขาอายุมากกว่านางสิบปี แต่นางกลับเรียกเขาว่าเจ้าหนุ่มน้อย?ช่างเป็นสาวน้อยที่ไม่มีมารยาทเอาเสียเลยสาวน้อยออกแรง ดึงหอก แต่หอกสีแดงติดอยู่ในมือของชายหนุ่มแน่น ดึงอย่างไรก็ดึงไม่ออกทำให้ต้องออกแรงมาก จนใบหน้าเล็กที่สมบูรณ์แดงก่ำน่ารังเกียจ!“นี่!”“ข้าไม่ได้ชื่อนี่”“เช่นนั้นท่านชื่ออะไร!”“รองเถ้าแก่โรงหมอเป้าฟู่ จิ่ง...เรียกข้าท่านอาจิ่งก็พอ!”“...”ถุย!หนุ่มใหญ่ ไม่อาย ยังคิดจะเอาเปรียบสาวน้อยคนหนึ่งอีก!แต่ชายหนุ่มจับหอกของนางเอาไว้ นางดึงอย่างไรก็ดึงไม่ออกโมโห!สาวน้อยโมโหจนหน้าแดง ทันใดนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วกระทืบลงบนเท้าของชายหนุ่มอย่างแรง“!” จิ่งอี้ขมวดคิ้วแน่นซี้ด...เด็กคนนี้ ท่าทางผอมแห้ง แต่แรงเยอะเหลือเกิน!สาวน้อยได้รับอิสระ เมื่อดึงหอกออกมาได้ก็วิ่งหนีจิ่งอี้ขมวดคิ้ว ในฐานะที่เป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งยุทธภพ ยังไม่เคยได้รับความอัปยศอดสูแบบนี้มาก่อน เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมช่างไม่รู้ฟ้าสูงดินต่ำ กล้ายั่วยุแม้กระทั่งเขาจ้องมองแผ่นหลังของเด็กสาวที่วิ่งหนีไปออกไกลอย่างรวดเร็ว กล่าวถามเสียงดัง“เจ้าชื่ออะไร?”“อวิ๋นอิง สำนักยุทธ์ตระกูลอ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 400

    “เจ้ารู้หรือไม่ว่าสถานการณ์ของเมืองตงหนิงตอนนี้อันตรายแค่ไหน? เจ้าหนีมาที่นี่คนเดียว เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร? ถ้าหากเจ้าติดโรคระบาด เป็นอะไรไป เจ้าจะให้ข้าช่วยเจ้าอย่างไร!”เฟิงเย่เสวียนค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ พลังอำนาจที่เย็นยะเยือกและกดดัน บีบให้ฉู่เชียนหลีต้องก้าวถอยหลังโซเซ อ่อนแออย่างเห็นได้ชัดกล่าวอย่างหัวแข็ง“ข้าเป็นหมอ โรคระบาดของเมืองตงหนิงปะทุมาหกเจ็ดวัน คนตายหลายร้อยคน ข้าจะนั่งดูอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไร?”มีคนล้มตายทุกวันเวลาก็คือชีวิตศึกษายารักษาโรคได้เร็วขึ้นหน่อย ก็สามารถช่วยชีวิตคนได้หลายสิบชีวิต“ฟ้าจะถล่มก็ยังมีคนมีคนตัวสูงค้ำเอาไว้ เจ้าเป็นกังวลอะไร?” สายตาที่เย็นยะเยือกของเฟิงเย่เสวียนจ้องมองนางถ้าหากนางติดโรคระบาด ไร้ยารักษา เขาจะทำอย่างไร?ฉู่เชียนหลีดึงแขนเสื้อ ก้มหน้าลงไป พึมพำเสียงเบา“ข้าคิดว่าตนเองก็ค่อนข้างเก่งอยู่...”หนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร ไม่ถือว่าเตี้ยแล้ว“เจ้าว่าอะไร?” เสียงของชายหนุ่มเย็นชาลงไปอีก ราวกับว่าสามารถฆ่าคนได้ฉู่เชียนหลีรีบเงยหน้า“ข้าพูดว่า ข้าทำให้ท่านเป็นกังวลใจแล้ว! ไม่ได้หารือกับท่าน ก็หนีมาที่เมืองตงหนิงโดยพลการ ข้าผิด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 401

    เป็นหญิงสาววัยเยาว์ที่สวยงามยิ่งคนหนึ่ง อีกทั้งยังมีหน้าตาที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างมากอายุประมาณสิบห้าหกปี เครื่องหน้าที่มีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือมีมิติลึกล้ำ บนหัวสวมเครื่องประดับเงิน กำไลเงิน สร้อยข้อเท้าสีเงิน เสื้อผ้าปักสีเข้มที่ดูเป็นเอกลักษณ์ ถักผมเปียเล็ก ห้อยเขี้ยวหมาป่าเอาไว้ที่ลำคอ เป็นการแต่งกายของทางเหมียวเจียงบนที่นั่งตรงกลางเฟิงเจิ้งอวี้จ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา กระแทกจอกเหล้าลงไปบนโต๊ะอย่างรุนแรงกล่าวเสียงดัง บรรยากาศดุเดือด“ดูท่าวิชาแพทย์และยาพิษของเจ้าจะไม่ได้ดีอย่างที่คิดไว้” น้ำเสียงเย็นชา ทำให้บรรยากาศยิ่งเย็นชาขึ้นกว่าเดิมสาวน้อยที่มีนามว่าอูหนูลุกขึ้นยืนอย่างสงบ เงยใบหน้าสวยขึ้น กล่าวพร้อมรอยยิ้ม“องค์ชาย ข้าเคยบอกท่านแล้วว่า เชื้อโรคในร่างกายของหนูมีมากถึงยี่สิบกว่าชนิด กาฬโรคและยาถอนพิษชนิดนี้ที่ข้าทำขึ้น รับประกันผลแค่ภายในสามวันเท่านั้น”“ตอนนี้เลยเวลาแล้ว เชื้อโรคแปรสภาพ ยาถอนพิษย่อมสิ้นประสิทธิภาพ”เมื่อหลายวันก่อน เขาอยากจะให้กาฬโรคแพร่ขยายเป็นวงกว้าง ยิ่งคนติดเชื้อมาก ก็จะผลักดันให้โรคระบาดรุนแรงถึงขีดสุดเมื่อรุนแรงมาก ค่อยเสนอตัว ช่วยช

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 402

    “ช่วยด้วย!”สองหนุ่มสาวประคองชายวัยกลางคนที่ผิวหนังแดงก่ำ หมดสติวิ่งเข้ามา “พระชายาอ๋องเฉิน ท่านพ่อของข้าใกล้จะไม่ไหวแล้ว ขอร้องท่านช่วยเขาด้วย!”พวกเขาร้อนใจจนเบ้าตาแดงก่ำ น้ำตาเม็ดใหญ่ร่วงลงมาทันทีที่วิ่งเข้ามาถึง ยังไม่ทันทรงตัวได้ ชายวัยกลางคนก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างอ่อนแรง มือทั้งสองข้างกางออก แขนขาทั้งสี่ชี้ฟ้า ตาเหลือกทั้งสองข้าง สิ้นสติไปแล้วฉู่เชียนหลีรีบวางสิ่งของในมือ กำลังจะก้าวเข้าไปหา“คุณหนู!” จิ่งอี้รีบห้ามเอาไว้อาการของคนผู้นี้รุนแรงมาก ถ้าหากเข้าไปใกล้ละก็ มีความเป็นไปได้ที่อาจจะติดเชื้อ“วางใจ ข้ารู้ตัวเองดี การช่วยคนสำคัญกว่า!”มือทั้งสองข้างของฉู่เชียนหลีจุ่มลงไปในน้ำ ใช้น้ำอ้ายเฉ่าพรมบนตัวเพื่อฆ่าเชื้อ แล้วค่อยใช้น้ำพรมลงบนผิวหนัง หลังจากทำมาตรการป้องกันเรียบร้อยแล้ว ถึงได้สาวเท้าเข้าไป จับที่ชีพจรของชายวัยกลางคนคนนั้นชีพจรอ่อนแอ จนสัมผัสไม่ได้แล้ว...นางตกตะลึงไปเล็กน้อยค่อย ๆ เงยหน้า มองเข้าไปในดวงตาที่ว่างเปล่าของชายวัยกลางคน...ไม่มีราศี มืดสลัวราวกับขี้เถ้าเขาตายแล้ว...ฉู่เชียนหลีวางมือที่แข็งทื่อลงเล็กน้อย สองหนุ่มสาวเหมือนกับสังเกตเห็นอะไรบ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 403

    ฉู่เชียนหลีสีหน้าอึมครึม เปิดจดหมาย ตอนที่ได้เห็นเนื้อหาด้านใน สีหน้าก็อึมครึมยิ่งกว่าเดิม“ในจดหมายเขียนว่าอะไร?” จิ่งอี้เดินเข้ามาใกล้ กล่าวถามฉู่เชียนหลีจ้องมองเนื้อหาในจดหมายครั้งแล้วครั้งเล่า หยิบกริชที่เปื้อนเลือดเล่มนั้นขึ้นมาบนกริช คราบเลือดได้แห้งกรังไปแล้วความลึกประมาณแปดเซนติเมตร...นางสีหน้าหนักใจ เม้มปากแน่น “เลือดนี้...เป็นของหลิงเชียนอี้”“อะไรนะ?!”ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกไป จิ่งอี้กับรองแม่ทัพเจียงก็ตกใจมาก“แต่จดหมายนี้กลับใช้นามแฝง” ฉู่เชียนหลียกจดหมายที่อยู่ในมือขึ้น “ในจดหมายเขียนว่า ห้ามให้ข้ายุ่งกับเรื่องของเมืองตงหนิง อีกทั้งจะต้องออกจากเมืองตงหนิง ก่อนฟ้าสาง ไม่อย่างนั้นก็จะเอาชีวิตของหลิงเชียนอี้”กริชที่เปื้อนเลือดเล่มนี้ ส่งมาเพื่อข่มขู่หลิงเชียนอี้ได้รับบาดเจ็บแล้วแต่เขาอยู่กับรัชทายาทไม่ใช่หรอกหรือ?รองแม่ทัพเจียงสีหน้าประหลาดใจ กล่าว “พระชายา เมื่อสองชั่วยามก่อน ข้ากับท่านอ๋องไปหารัชทายาท รัชทายาทกลับกล่าวว่าท่านโหวน้อยหนีไปแล้ว เขาเองก็กำลังส่งคนไปตามหาอยู่เช่นกัน ไม่รู้ว่าหนีไปที่ใดแล้ว”แปลกประหลาดหลิงเชียนอี้ไปหารัชทายาท ถูกรัชทายา

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 404

    ฉู่เชียนหลีพูดจบ หันหลังกลับเดินไปทางโรงหมอ“จิ่งอี้ มาช่วยข้า รองแม่ทัพเจียง ท่านเรียกชาวบ้านที่อาการป่วยรุนแรงในเมืองทั้งหมดมาทดลองยาที่โรงหมอ!!”“หา?”ตอนนี้งั้นหรือ?รองแม่ทัพเจียงเงยหน้า มองสีท้องฟ้าท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว ใกล้จะยามสอง[footnoteRef:1]แล้ว เวลานี้บรรดาชาวบ้านกำลังนอนหลับ ต้องปลุกพวกเขาให้ลุกจากเตียง? [1: ยามสอง หมายถึง ช่วงเวลาสามทุ่มถึงห้าทุ่ม] ช้าก่อน!จากสถานการณ์ตอนนี้ ไม่ใช่ว่าควรรีบไปช่วยท่านโหวน้อยออกมาหรอกหรือ?พระชายาจะทอดทิ้งไม่ไยดีท่านโหวน้อยจริงหรือ?เฮ้อ!รองแม่ทัพเจียงรู้สึกสับสน ทางไหนก็ยุ่งไปหมด จำต้องฟังการจัดการของพระชายา ไปเคาะประตูทีละบ้าน เพื่อเรียกคนยามราตรีอันมืดมิดยามสาม[footnoteRef:2] ลมหนาวเย็นยะเยือก [2: ยามสาม หมายถึง ช่วงเวลาห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง] ชาวนับร้อยเบียดเสียดกันอยู่ในโรงหมอ พวกเขาคลุมเสื้อ ใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนเพลีย ทั้งไอ ทั้งหอบ ใบหน้าแต่ละคนซีดเซียวอ่อนแออย่างเห็นได้ชัดฉู่เชียนหลียืนอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงาน ชี้ไปยังสมุนไพรนับร้อยชนิดที่วางอยู่บนโต๊ะ จ้องมองบรรดาชาวบ้าน กล่าวเสียงดังจริงจัง“คืนนี้ ที่เรียกพวกเ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 405

    ด้านนอกค่ายทหารตลอดทั้งคืนนี้ คนที่ไม่ได้นอนทั้งคืนไม่ใช่ฉู่เชียนหลี?ภายในกระโจม แสงเทียนสว่างจ้า บนโต๊ะวางเต็มไปด้วยสมุนไพรนานาชนิด อูหนูแห่งเหมียวเจียงกำลังจัดวางสมุนไพรอย่างชำนาญ เริ่มศึกษายาถอนพิษเฟิงเจิ้งอวี้ยืนอยู่ที่ทางเข้ากระโจม มือทั้งสองข้างไพล่หลัง จ้องมองยามราตรีที่มืดมิด จ้องมองไปยังเมืองตงหนิงที่อยู่ไกลออกไปสองลี้เมืองที่ใหญ่ขนาดนี้ หัวเมืองที่มีประชากรนับแสน แต่กลับเงียบเหงาราวกับนรกทุกคนติดโรค ช่างน่าสิ้นหวังจริง ๆ“เร่งมือหน่อย ฟ้าใกล้สว่างแล้ว ข้าต้องได้ยาถอนพิษ” เขาออกคำสั่งโดยที่ไม่แม้แต่หันหน้า น้ำเสียงที่อึมครึมเย็นยะเยือกเหมือนกับยามราตรีอูหนูพยักหน้า “เจ้าค่ะ”ในเวลานี้ ด้านนอก มีองครักษ์นายหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว“รายงาน…เรียนองค์ชาย อ๋องเฉินมาแล้ว!”เฟิงเจิ้งอวี้เลิกคิ้ว “หือ?”ยามสาม?มาหาเขา?อูหนูเป็นผู้หญิงฉลาดที่สายตาเฉียบแหลมมาก มือเรียวลากผ้าม่าน บดบังโต๊ะทดลองของตนเองเอาไว้ นางซ่อนตัวอยู่หลังฉากบังลมเฟิงเจิ้งอวี้กลับไปนั่งประจำที่ ทันทีที่นั่งลง ก็เห็นเงาดำเดินเข้ามาในกระโจม พร้อมกับความเหน็บหนาวยามค่ำคืนสายตาแหลมคมราวกับเหยี

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 406

    “เรื่องปราบโจรเมื่อสองเดือนก่อน ท่านสมคบคิดกับโจรภูเขา สั่งให้คนวางเพลิงเผาภูเขา ข้ารอดตายมาได้หนึ่งครั้ง”เฟิงเย่เสวียนเพียงแค่จ้องมองเขาเงียบ ๆ “เพียงแค่สองเรื่องใหญ่นี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นลอบฆ่า วางยาพิษ วางแผนลอบทำร้ายอีกนับครั้งไม่ถ้วน”ตลอดหลายปีมานี้ เขาลืมตาข้างหนึ่ง หลับตาข้างหนึ่ง ปล่อยผ่านไปเฟิงเจิ้งอวี้หันหน้า “อะไร? อะไรนะ?”เขาทำเหมือนกับว่าได้ยินไม่ชัด“แผนการทหารอะไร? โจรภูเขาอะไร? รองแม่ทัพโหวไม่ใช่คนของเจ้าหรอกหรือ? เหตุใดจึงหักหลังเจ้า? เจ้าไปปราบโจรภูเขาเป็นคำสั่งของเสด็จพ่อ เหตุใดจึงถูกลอบทำร้ายละ? ลอบฆ่าวางยาพิษอะไรกัน?”“เจ้าโดนทำร้ายงั้นหรือ?”“เจ้าโดนวางยาพิษงั้นหรือ?”เขาถามคำถามยาวเป็นพรวน ท่าทางที่งุนงงราวกับถูกใครบางคนเอาอะไรมาคลุมหัวไว้ ไม่เข้าใจอะไร ไม่เห็นอะไร ไม่รู้อะไรสักอย่าง หานเฟิงเห็นแล้ว เกิดเพลิงโทสะอัดอั้น!เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของรัชทายาท รัชทายาทกลับเสแสร้งได้อย่างไร้เดียงสามาก ฝีมือการแสดงดีกว่านางโลมในหอเสียอีก!ตาทั้งสี่ข้างจ้องมองกัน!สายตาของเฟิงเย่เสวียนกับเฟิงเจิ้งอวี้ปะทะกันที่กลางอากาศ ค

Pinakabagong kabanata

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1270

    อันธพาลเจ็บจนกรีดร้องเหมือนหมูโดนเชือด “อ๊ะๆ!”ยังไม่ทันได้พักหายใจ ก็โดนถีบจนไปกลิ้งอยู่บนพื้น รองเท้าปักลายดอกไม้เหยียบลงบนหน้าอก หนักจนทำให้เขาหายใจไม่ออก กระอักเลือดออกมา“พู่!”เขากอดต้นขาของอวิ๋นอิง อยากดิ้นให้หลุด แต่หาของอวิ๋นอิงกดทับอยู่บนร่างกายของเขาเหมือนเหล็กกล้า และเขาก็เหมือนกับปลาตัวหนึ่งที่ถูกตอกตะปูอยู่บนเขียง พยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แต่ก็ดิ้นไม่หลุดเจอผีแล้ว!ทั้งที่นางผอมเช่นนี้ เหตุใดจึงมีแรงมากเช่นนี้?ผู้หญิงคนนี้ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือ?ชาวบ้านก็ตะลึงเช่นกันอวิ๋นอิงอุ้มลูกสาวไว้ด้วยมือข้างเดียว ค่อยๆ ก้มลง ยกฝ่ามืออีกข้าง เหวี่ยงไปที่ใบหน้าของอันธพาลโดยตรง“ข้าสั่งให้เจ้าเก็บ”เพียะ!“ไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ?”เพียะ!“หูหนวกหรือ?”เพียะ!หนึ่งประโยค หนึ่งฝ่ามือ ตบจนอันธพาลหันซ้ายหันขวา มุมปากแตกมีเลือดไหล หูอื้อ สะบักสะบอมเหมือนสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง ไม่หลงเหลือความฮึกเหิมของก่อนหน้านี้เลย“ลูกพี่!”ลิ่วล้อสามคนคว้าโต๊ะเก้าอี้และท่อนไม้ที่อยู่ข้างๆ ฟาดไปทางอวิ๋นอิงอย่างแรงอวิ๋นอิงกระโดนหมุนตัวเตะพวกเขาสามคนจนลอยกระเด็นออกไปไกลเจ็ดแปดเมตร โดยไม่หั

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1269

    ตงหลิงเจียงหนาน ทำเนียบสามเดือนที่พระชายาจากไป อ๋องเฉินเอาแต่เก็บตัว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลก หานเฟิงต้องรับผิดชอบงานแทนทุกอย่าง เมื่อนานวันเข้า โลกภายนอกต่างกำลังคาดเดา จิตใจของอ๋องเฉินได้รับกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ล้มแล้วลุกไม่ขึ้น เกรงว่าเหลือเวลาอีกไม่นานแล้วช่วงนี้ ในที่สุดอาการบาดเจ็บของจิ่งอี้ก็ดีขึ้นแล้วอาการบาดเจ็บทางกระดูกหรือเส้นเอ็น ต้องรักษาอย่างน้อยหนึ่งร้อยวันในที่สุดกระดูกซี่โครงที่หักสองซี่ก็หายดีแล้ว สามารถขี่ม้าได้แล้ว ตอนนั้นเขาบอกว่าจะนำทัพกลับแคว้นซีอวี้ทันทีแต่ก่อนไป เขาถามเหมือนไม่ใส่ใจ“เหตุใดไม่เจอแม่นางอวิ๋นอิงเลย?”จ้านหูจริงจังขึ้นมาทันที เขาตอบ“องค์ชายใหญ่ ข้าจะส่งคนไปสืบเดี๋ยวนี้!”“ไม่ต้อง”หลังจากปฏิเสธอย่างเฉยเมย ปีนขึ้นหลังม้า ขี่ออกไปคนเดียวแล้วจ้านหู “?”หมายความว่าอย่างไร?ตอนที่องค์ชายใหญ่หมดสติ แม้อวิ๋นอิงบอกว่าไม่สนใจ แต่แอบมาเยี่ยมองค์ชายใหญ่ตอนดึกดื่นเวลาที่ไม่มีคนองค์ชายใหญ่ก็อีกคน ทั้งที่คิดถึงอวิ๋นอิง แต่ไม่ยอมรับในใจของพวกเขาสองคนล้วนมีอีกฝ่าย ลูกสาวก็อายุเกือบครึ่งขวบแล้ว เหตุใดไม่ลองเปิดใจสักนิดแล้วอยู่ด้วยกันเลย

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1268

    คืนแรกที่มาถึงต่างโลก ฉู่เชียนหลีฝันในความฝัน นางอยู่บนสนามรบ สู้จนตัวตาย เลือดไหลเป็นแม่น้ำ น่าสลดใจนัก…ในความฝัน นางได้ต่อสู้ร่วมกับชายคนหนึ่งที่มองไม่เห็นใบหน้า ร่วมเป็นร่วมตาย และยังมีเสียงที่นุ่มนิ่มของเด็ก เรียก ‘ท่านแม่’ ครั้งแล้วครั้งเล่าในความฝัน ราวกับนางได้รับความอยุติธรรมครั้งใหญ่ หัวใจเจ็บปวด และพยายามอธิบายสุดชีวิต แต่พวกคนที่เรียกตัวเองว่า ‘ครอบครัว’ ไม่เชื่อนาง และยังบีบคั้นนางสู่เส้นทางที่สิ้นหวังในความฝัน…มีคนกำลังเรียกนาง‘เชียนหลี…เชียนหลี…’ฉึก!ฉู่เชียนหลีลืมตาฉับพลัน ท้องฟ้าข้างนอกสว่างแล้ว แสงแดดอุ่นๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามา สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของอากาศ สงบมากนางรู้สึกเวียนศีรษะ และแน่นหน้าอกราวกับนางอยู่ในความฝันอันยาวนานจริงๆนางได้รับความอยุติธรรมนางถูกคนในครอบครัวฆ่าตายแต่เหตุใดนางจำผู้ชายที่เรียกนาง และภาพที่เรียกนางว่า ‘ท่านแม่’ ไม่ได้เลย“องค์หญิง ท่านตื่นแล้ว”เมื่ออ้ายอ้ายได้ยินเสียง ถือกะละมังน้ำอุ่นกับเครื่องใช้เข้ามาปรนนิบัติฉู่เชียนหลีนวดขมับ อยู่ในอาการเหม่อลอย แขนขาอ่อนแรง ไม่มีแรงขยับ ดึงผ้าห่มออก ลงจากเตียง สวมรองเท้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1267

    สาวใช้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รีบฝนหมึกอย่างเชื่อฟังมองดูองค์หญิงรีบหยิบพู่กัน เขียนอะไรบางอย่าง ท่าทางที่รีบร้อนนั่น เมื่อก่อนเวลาที่นังเป็นห่วงคุณชายเซิ่น ยังไม่รีบร้อนเช่นนี้เลยองค์หญิงกระโดดสระน้ำ หมดสติไปสามวัน หลังจากฟื้น ก็เปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย?นิสัยเปลี่ยนไปน้ำเสียงเปลี่ยนไปแต่เมื่อลองตั้งใจมอง องค์หญิงยังคงเป็นองค์หญิง ยังคงเป็นใบหน้าที่คุ้นเคยฉู่เชียนหลีเขียนอย่างรวดเร็ว…อ๋องเฉินเป็นอย่างไรบ้าง ข้าอยู่แคว้นหนานยวน…พลางเขียน พลางกล่าวอย่างรีบร้อน “รีบไปหาคน ช่วยข้าส่งจดหมายฉบับนี้ไปให้อ๋องเฉินที่ตงหลิงเจียงหนาน”นางอยากบอกความจริงกับเฟิงเย่เสวียน ต่อให้ตนลืมแล้ว แต่เฟิงเย่เสวียนจำนางได้เขาจะต้องมาหานางแน่นอนไม่ช้าก็เร็วสักวัน พวกเขาครอบครัวสี่คนจะอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา“อ๋องเฉินแห่งตงหลิงเจียงหนาน?”สาวใช้เกาศีรษะด้วยความสงสัย “องค์หญิง ท่านส่งจดหมายให้อ๋องเฉินทำไม? ท่านรู้จักอ๋องเฉินตั้งแต่เมื่อไร?”ฉู่เชียนหลีรีบกล่าว“อธิบายกับเจ้าไม่ได้ แต่ความสัมพันธ์ของข้ากับอ๋องเฉินไม่ธรรมดา…อ๋องเฉิน? อ๋องเฉินตงหลิง?”เงยหน้าฉับพลัน“ข้ารู้จักอ๋องเฉ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1266

    ทุกคน “...”สีหน้าฮ่องเต้หนานยวนดูไม่ดีนัก เซิ่ยซือเฉินเป็นแค่บัณฑิตคนหนึ่ง เพื่อบัณฑิตคนหนึ่ง ต้องทุ่มสุดตัวเช่นนี้เลย ต้องตื่นเต้นเช่นนี้เลย?ในฐานะองค์หญิง ไม่ควรมองให้ไกลกว่านี้หน่อยหรือ?เพื่อป้องกันจวินลั่วยวนทำร้ายตัวเอง เขาออกคำสั่ง มัดมือและเท้าของนางโดยตรงจวินลั่วยวนขยับไม่ได้แล้วเห็นท่าทางที่จะยิ้มไม่ยิ้มของฉู่เชียนหลี และยังเลิกคิ้วอย่างยั่วยุ นางโมโหจนแทบกัดลิ้นฆ่าตัวตายหลังจากเหตุการณ์ที่วุ่นวาย ไปจากตำหนักองค์หญิงฉู่เชียนหลีกับหลิงอี้ซิงเดินเคียงข้างกันจากไป เมื่ออารมณ์ดี จังหวะการเดินก็ผ่อนคลายเป็นพิเศษ อดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงเบาๆฮัมไปฮัมมา จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าหลิงอี้ซิงเป็นผู้มีจิตใจเมตตา อุทิศตนให้กับความดีและคุณธรรมหยุดฝีเท้าหันไปถาม “ท่านพี่ ท่านน่าจะเห็นกระมัง ว่าข้าจงใจรังแกจวินลั่วยวน?”หลิงอี้ซิงเดินตามปกติ สายตามองไปข้างหน้า พยักหน้าอย่างเกียจคร้าน ตอบสั้นๆ เพียงคำเดียว“อืม”“ท่านไม่รู้สึกว่าข้านิสัยไม่ดีหรือ?”เขาหยุดเดินหันมามองนาง กล่าวอย่างจริงจัง “ที่เจ้ารังแกนาง นั่นก็ต้องเป็นเพราะนางล่วงเกินเจ้าก่อนแน่นอน ล้วนเป็นความผิดของนาง”เขาไ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1265

    “ยวนเอ๋อร์! ยวนเอ๋อร์!” ฮ่องเต้หนานยวนร้อนใจจนหน้าถอดสี “ใครก็ได้ ใครก็ได้รีบมาเร็ว ยวนเอ๋อร์เสียเลือดมากเกินไป หมดสติไปแล้ว!”จวินลั่วยวนที่ ‘เสียเลือดมากเกินไปจนหมดสติ’ “...”เจ้าน่ะสิที่เสียเลือดมากเกินไปเจ้าเสียเลือดมากเกินไปทั้งครอบครัว!หมอหลวงมาอย่างรวดเร็ว หลังจากทำแผลให้จวินลั่วยวนเสร็จ ถอนหายใจด้วยความกังวล “สามเดือนแล้ว ในที่สุดเอ็นขององค์หญิงก็เชื่อมต่อกัน คิดไม่ถึงว่าขาดอีกแล้ว ความพยายามในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาล้วนสูญเปล่า” ต่อจากนี้ก็ต้องใช้เวลาอีกสามเดือน เปิดบาดแผล บำรุงเอ็นทุกวันเมื่อฉู่เชียนหลีได้ยินคำนี้ เบ้าตาแดงฉับพลัน“ล้วนเป็นความผิดของข้า…”นางดึงชายเสื้อของหลิงอี้ซิง กล่าวเสียงสะอึก“ท่านพี่ ข้ามันไม่ดี ต้องเป็นเพราะเรื่องของคุณชายเซิ่นแน่ องค์โกรธข้า ไม่ชอบข้า จึงฟาดมือของตัวเองใส่เสา เพื่อเป็นการแสดงความรังเกียจต่อข้า”“ข้าทำร้ายนาง ฮือๆ…”หลิงอี้ซิงรักน้องสาว ทุกคนในแคว้นหนานยวนรู้เรื่องนี้แล้วฮ่องเต้หนานยวนกล่าวโทษนางได้อย่างไร?กลับกัน เขายังต้องขอร้องหลิงอี้ซิงทักษะการทำนายของหลิงอี้ซิงมีเพียงหนึ่งเดียวในใต้ฟ้า ตลอดหลายปีที่เขานั่งตำแหน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1264

    ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน นางค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เตียง จวินลั่วยวนนอนหลับแล้ว ไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน หน้าซีดซูบผอม เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกฉู่เชียนหลีเหลือบมองแวบหนึ่ง“เหตุใดข้อมือของนางยังมีเลือด?”สามเดือนแล้ว แผลยังไม่หาย?นางกำนัลที่อยู่ข้างๆ ตอบ“หมอหลวงบอกว่า จะใช้ยาพิเศษรักษาเอ็นมือและเท้าที่ขาดขององค์หญิง จำเป็นต้องเปิดแผล ขยับเอ็นที่ขาดไปรวมกันทุกวัน จนกระทั่งเชื่อมต่อกัน”“ฮืม?”ฉู่เชียนหลีเลิกคิ้วด้วยความสนใจเช่นนี้ก็เท่ากับว่า จวินลั่วยวนต้องทนกับความเจ็บปวดที่ใช้มีดเปิดปากแผลทุกวันติดต่อกันสามเดือนเต็มๆ น่าสังเวชน่าจะเจ็บมากกระมัง?นางค่อยๆ นั่งลง จับข้อมือของจวินลั่วยวนเบาๆ มองผ้าพันแผลที่ถูกพันห้าหกรอบอย่างครุ่นคิดทันใดนั้นออกแรงกดที่นิ้ว“ซี้ด…!”จวินลั่วยวนเจ็บจนตื่น ลืมตาทันทีฉู่เชียนหลีรีบปล่อยมือ “โอ๊ย…ขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจแตะตัวท่าน ดูท่านเจ็บมากเลยนะ ขอโทษจริงๆ”“!”หลินเหยี่ยมาอยู่ในตำหนักของนางได้อย่างไร?นางรังเกียจผู้หญิงคนนี้ที่สุด!อาศัยที่พี่ชายของตัวเองเป็นราชครู แสร้งทำเป็นช่วยเหลือชาวบ้าน ทำแต่ความดีทุกวัน มีแต่คนบอกว่าองค์หญ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1263

    เซิ่นสือเฉิน “?”เหตุใดวันนี้รู้สึกว่าหลิงเหยี่ยแปลกๆ?เมื่อก่อนนางชอบเขามากเลยไม่ใช่หรือ? เวลาที่เขาอ่านหนังสือ นางชอบมาอยู่ข้างๆ ฝนหมึกพัดลมให้เขา เวลาที่เขาเขียนหนังสือ นางชอบแอบที่นอกหน้าต่าง จับจิ้งหรีดเล่น เวลาที่เขางีบหลับ นางมักจะชงชาหิมะชั้นดีมาให้เขานางยังบอกว่าจะแต่งงานกับเขาคนเดียวเหตุใดแค่วันเดียว ก็ปล่อยวางได้แล้ว?“องค์หญิงหลิง ข้าขอโทษ” เขากล่าวอย่างรู้สึกผิดที่จริงเขาก็ชอบหลิงเหยี่ยเช่นกัน แต่องค์หญิงยวนบอกเขาว่าหลิงเหยี่ยนิสัยไม่ดี ชอบรังแกคนรับใช้ หาเรื่องชาวบ้าน ใส่ร้ายโยนความผิดให้ผู้อื่นด้วยวิธีที่น่ารังเกียจ และทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายเขาเป็นคนเรียนหนังสือ นิสัยซื่อตรง ไม่สามารถยอมรับคนที่จิตใจอำมหิตอย่างหลิงเหยี่ยเมื่อเปรียบเทียบกัน เขาชอบจวินลั่วยวนที่ไร้เดียงสา จิตใจดี และร่าเริงมากกว่า“เมื่อก่อนท่านส่งข้าเรียนหนังสือ ช่วยข้าหาอาจารย์ ใช้เส้นสาย ทำให้ข้าสอบติดขุนนาง…บุญคุณส่วนนี้ ข้า ข้าทำได้เพียงตอบแทนท่านชาติหน้าแล้ว…”ฉู่เชียนหลียิ้มอย่างอ่อนโยน“ไม่เป็นไร แค่เรื่องเล็กน้อย”“ได้ยินมาว่าองค์หญิงยวนได้รับบาดเจ็บ พวกเราเข้าวังไปดูนางกันเ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1262

    องค์หญิง?คุณชายเซิ่น?ฉู่เชียนหลีไม่ได้รับความทรงจำใดๆ เพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก สับสนและงงงวยเล็กน้อยยังไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีเสียงฝีเท้าที่ยุ่งเหยิงและเสียงต่อต้านดังมาจากนอกประตู “ใต้เท้าหลิง! ใต้เท้าหลิง ต่อให้ท่านบีบคั้นข้าจนตาย ข้าก็ไม่แต่งงานกับนาง!”“ตั้งแต่ต้นจนจบ ในใจข้ามีเพียงองค์หญิงยวนเอ๋อร์เท่านั้น!”ยวนเอ๋อร์?องค์หญิง?ฉู่เชียนหลีเงยหน้ามองไป เห็นชายหนุ่มสวมชุดเพ้าสีขาวและที่ครอบผมหยก กำลังลากผู้ชายที่ท่าทางสุภาพเหมือนคนเรียนหนังสือเข้ามานางตระหนักถึงบางอย่าง รีบดึงสาวใช้ที่อยู่ข้างกายมาถามเบาๆ“ที่นี่คือแคว้นหนานยวน?”สาวใช้ “?”องค์หญิงเป็นอะไรไป?เหตุใดถามคำถามเช่นนี้?“องค์หญิง ท่าน…”“อย่าพูดไร้สาระ ตอบข้า!”สาวใช้ตกใจ รีบกล่าว “ท่านคือหลิงเหยี่ย องค์หญิงต่างแซ่ของแคว้นหนานยวน ใต้เท้าคือมหาราชครูของแคว้นหนวนยวน เป็นพี่ชายแท้ๆ ของท่าน เพราะใต้เท้าชำนาญการทำนาย เคยช่วยแคว้นสามครั้ง สร้างคุณประโยชน์มากมาย ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์หญิงต่างแซ่…”คำพูดที่เหลือ ฉู่เชียนหลีมองข้ามโดยตรงสิ่งเดียวที่นางคิดคือ นางถูกส่งมาเป็นองค์หญิงต่างแซ่ อีกท

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status