แชร์

บทที่ 33

ผู้เขียน: สกุลหยางมีบุตรสาว
ค่ำคืนนี้ เฟิงเยว่เสวียนนอนเพียงลำพัง ยากจะเข้าสู่การหลับใหล…

ฉู่เชียนหลีได้รับบาดเจ็บจนหมดแรง นอนจนตะวันโด่งฟ้า ก็ถูกเสียงพูดคุยรบกวนจนตื่น

บาดแผลที่ก้นหายดีแล้วสามส่วน ไม่ได้เจ็บมากเช่นนั้นแล้ว นางลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง สวมรองเท้าปักลายดอกไม้แล้วลงจากเตียง ประคองร่างกายกับผนัง ขยับออกไปทีละก้าวอย่างยากลำบาก

เมื่อเดินไปถึงหน้าประตู ก็เห็นเยว่เอ๋อร์กำลังสนทนากับเซียวจือฮว่า

“พระชายารอง พระชายายังไม่ตื่นจริงๆ เจ้าค่ะ”

“แดดส่องก้นแล้วยังไม่ตื่นหรือ?”

“ใครเป็นคนกำหนดว่าแดดส่องก้นแล้วห้ามนอนต่อ?” ฉู่เชียนหลีพูดแทรก

เซียวจือฮว่าเงยหน้ามอง แม้มีความไม่พอใจเสี้ยวหนึ่งแล่นผ่านแววตา แต่ก็ข่มไว้เงียบๆ พลันก้าวเท้าเข้าไปในห้องพร้อมกับสาวใช้ตนเอง

“พี่หญิง” นางทักทายด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

คนโบราณว่าไว้ ง้างมือไม่ตบผู้ยิ้มตอบ

ฉู่เชียนหลีหาวหนึ่งที “เยว่เอ๋อร์ ไปเตรียมอาหารเช้าให้ข้าเถอะ”

เยว่เอ๋อร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากหันไปมองพระชายารองเซียวสองสามวินาที จึงจะถอนสายบัวถอยออกไป

เซียวจือฮว่ายิ้ม “เหตุใดพี่หญิงจึงนอนจนถึงป่านนี้? เป็นเพราะไม่สบายหรือ? เหมือนว่าเมื่อคืนข้าจะได้ยินเสียงอะไร…”
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Pacharin Chotikapukana
ทำไมดูได้3ตอนก๋ต้องเติมอีกแล้ว
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 34

    เซียวจือฮว่าได้ยินแล้วแอบปลื้มปีติในใจที่แท้เป็นห่วงนางนี่เองเมื่อก่อน ทุกครั้งที่อยู่กับฉู่เชียนหลี ฉู่เชียนหลีมักจะรังแกนาง ทุกครั้งที่ฉู่เชียนหลีรังแกนาง ท่านอ๋องก็จะออกตัวเพื่อนาง ลงโทษฉู่เชียนหลีอย่างหนักมุมปากนางโค้งงอ ในใจหวานปานน้ำผึ้ง กล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน“เช้านี้ ฮว่าเอ๋อร์ได้ยินข่าวคราวมา สงสัยว่าเหมือนพระชายาจะได้รับบาดเจ็บ ฮว่าเอ๋อร์เป็นห่วง ก็เลยตั้งใจมาเยี่ยมพี่หญิงน่ะ”เป่าอวี้เดินออกมาหนึ่งก้าวพร้อมกับกล่องผ้าแพรในมือ นางถอนสายบัวกล่าว“ท่านอ๋อง นี่คือยาน้ำค้างหยกที่พระชายารองมอบให้พระชายาเจ้าค่ะ”“ฮืม?” เฟิงเย่เสวียนเลิกคิ้วเขารู้จักยาน้ำค้างหยก เป็นของดีที่หายากมาก เมื่อทามันบนร่างกาย สามารถทำให้ผิวพรรณเรียบเนียนราวไข่ไก่ที่ปอกเปลือก และยังมีสรรพคุณรักษาแผลเป็นได้ยินมาว่านี่เป็นของเก็บสะสมที่ล้ำค่าของเซียวจือฮว่า เจ็ดแปดปีมานี้ เก็บไว้มาโดยตลอด แม้กระทั่งตนเองก็ไม่ยอมใช้“ฮว่าเอ๋อร์มอบของมีค่าเช่นนี้ให้พระชายา ช่างมีใจยิ่งหนัก”ให้นางผู้หญิงบ้านั่นใช้มันทาก้นได้พอดีแม้บาดแผลอยู่ตรงบั้นท้าย ปกติจะมองไม่เห็น แต่สตรีทั่วหล้ามีคนใดบ้างไม่รักสวยรักงาม

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 35

    เซียวจือฮว่าคาดคิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะไปหยิบกล่องผ้าแพร เห็นยาน้ำค้างหยกที่ตกแตก ไม่ต้องพูดถึงว่าปวดใจเพียงใดนางจำใจนำยาน้ำค้างหยกที่เก็บสะสมมาแปดปีออกมาเซ่น เพียงเพื่อสามารถใส่ร้ายป้ายสีฉู่เชียนหลี แล้วเอะอะโวยวายอีกนิด ให้ท่านอ๋องอาศัยโอกาสนี้หย่านาง แต่ความจริงกลับอยู่เหนือความคาดหมายของนาง…นางจำเป็นต้องอดกลั้นความปวดใจ กัดฟันกล่าว“ในเมื่อตกแตกแล้วก็ช่างเถอะ ของเก่าไม่ไป ของใหม่ไม่มา!”ฉู่เชียนหลีเลิกคิ้ว “เอ๋? ฟังจากคำพูดของน้องหญิงเซียว จะมอบยาน้ำค้างหยกให้ข้าอีกขวดใช่หรือไม่?”เซียวจือฮว่ายังไม่ได้เอ่ยปาก นางก็พูดเสริมอีกคำแล้ว“เช่นนั้นข้าก็ขอบคุณน้องเซียวล่วงหน้า ทำให้น้องเซียวต้องสิ้นเปลืองแล้ว”“...?”เจ้ารู้หรือไม่ว่ายาน้ำค้างหยกแพงเพียงใด?เจ้ารู้สรรพคุณของมัน รู้ว่าหายากมากเพียงใดหรือไม่?แปดปีมานี้ นางมีสะสมแค่ขวดเดียวเท่านั้น นางจะไปหาอีกหนึ่งขวดมาจากที่ใด? แต่ต่อหน้าท่านอ๋อง หากนางไม่ตอบตกลง ไม่เท่ากับถูกฉีกหน้าหรอกหรือ?บัดซบ!เซียวจือฮว่าติดอยู่ตรงกลางทันที กลืนไม่เข้าคายไม่ออก นางโมโหจนแอบกัดฟันแน่น“ท่านอ๋อง ฮว่าเอ๋อร์นึกขึ้นได้ว่ายังมีธุระ กลับก่อนแล

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 36

    ชายหนุ่มในชุดผ้าแพรอันหรูหราหลายคนสองมือของพวกเขาเกาะอยู่บนกำแพงและเขย่งเท้า ชะโงกศีรษะครึ่งหนึ่งมองเข้าไปในเรือน พลางกระซิบกระซาบวิจารณ์กัน“ได้ยินมาว่าอ๋องเฉินพานางไปร่วมงานเลี้ยงฉลองชัยด้วย…”“ไม่น่าใช่นะ ข้าได้ยินมาว่านางแต่งเข้าจวนอ๋องเฉินสามเดือนกว่าแล้ว ยังไม่เคยได้รับความโปรดปราน…”“ไหนให้ข้าดูหน่อย…”เด็กหนุ่มในชุดผาวสีน้ำเงินคนหนึ่งเกาะกำแพง ทำท่าออกกำลังกายดึงร่างกายขึ้นข้างบน ปีนขึ้นกำแพงได้สำเร็จ แต่ยังไม่ทันยืนอย่างมั่นคง ก็เจ็บที่หัวเข่าฉับพลัน“อ๊า!”ทันใดนั้น เขาล้มหน้าคว่ำลงไปจนเกิดเสียงดังทุ้ม ‘ตุบ’ ตกเข้าไปในกำแพงเรือนอย่างแรงเด็กหนุ่มสองคนที่อยู่บนกำแพงสะดุ้งตกใจ เมื่อกำลังจะเข้าไปดึงคน กลับเห็นร่างเงาที่เพรียวบางสายหนึ่งเดินออกมาอย่างเชื่องช้า พวกเขารีบหดคอวิ่งหนีราวกับเด็กซนเห็นผู้ปกครองทันทีสหาย ช่วยตัวเองก็แล้วกันนะ!ฉู่เชียนหลีเก็บหนังสติ๊กเข้าไปในกำไลเฉียนคุน นางคว้าเมล็ดแตงโมบนโต๊ะมาหนึ่งกำมือ แล้วเอ็นหลังพิงขอบประตูอย่างเกียจคร้าน แทะเมล็ดแตงโมพลางกวาดสายตามองเด็กหนุ่มที่ล้มหน้าคว่ำอยู่บนพื้นอย่างสบายๆเขาอายุประมาณสิบห้าสิบหก แต่งกายด้วยเสื้อ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 37

    เรือนหานเฟิง“อ๊า!”เสียงกรีดร้องที่น่าเวทนาดังฉีกอากาศ เห็นเพียงชายชุดดำคนหนึ่งถูกแขวนกลับหัวบนโครงไม้ แส้ยาวเส้นหนึ่งถูกฟาดลงไป เนื้อหนังปริแตก ลึกจนมองเห็นกระดูกแล้วก็ราดต่อด้วยน้ำพริกอีกหนึ่งกะละมัง“อ๊า!”เสียงร้องยิ่งน่าเวทนา ฉากที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดน่าสยดสยองหานเฟิงโยนกะละมังไม้ทิ้งอย่างเยือกเย็น พลันบีบคางชายชุดดำคนนั้น พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“พูด! ใครส่งเจ้ามาลอบสังหารอ๋องเฉิน?”ชายชุดดำคนนี้ก็คือมือสังหารที่สกัดกั้นรถม้าของจวนอ๋องเฉินเมื่อคืน และเป็นคนที่แทงฉู่เชียนหลีบาดเจ็บเช่นกันภายใต้ความเจ็บปวด ชายชุดดำเจ็บจนแทบหมดสติ ลมหายใจติดขัด ราวกับพร้อมจะขาดใจทุกเมื่อ แต่ปากของเขาปิดสนิท ต่อให้ถูกทรมานก็ไม่พูดแม้แต่คำเดียวเฟิงเย่เสวียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือ[footnoteRef:1]อย่างสบายๆ มีหนังสือที่ถูกกางออกในมือหนึ่งเล่ม เขาพลิกอย่างไม่ใส่ใจหนึ่งหน้า พลางกล่าวอย่างเฉยเมย [1: เก้าอี้ไท่ซือ เก้าอี้ไม้โบราณจีน] “ในเมื่อปากแข็ง เช่นนั้นก็ลงทัณฑ์เลาะกระดูกจนตาย”ชายชุดดำเบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัวปีศาจ!นี่มันทรมานตายทั้งเป็นยิ่งกว่าฆ่าเขาโดยตรง!หานเฟิงหยิบมีดส

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 38

    ฉู่เชียนหลีเห็นว่าเวลาพอประมาณแล้ว นางโยนเปลือกเมล็ดแตงโมที่อยู่ในมือทิ้ง ตบชายเสื้อผ้าที่ยับย่น หลังจากปรับอารมณ์ของตนเอง ก็ก้าวเท้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเฟิงเย่เสวียนพลันทักษะการแสดงสิงร่าง เบ้าตาแดงโดยตรง“สวรรค์! ท่านอ๋อง เขาเป็นหลานชายของท่านหรือ? ข้าไม่เคยพบท่านโหวน้อย จึงไม่รู้จักสถานะของเขา ชั่วขณะจึงล่วงเกิน…”“ล้วนเป็นความผิดของข้าเอง ข้าไม่รู้จักคนในราชวงศ์ ล่วงเกินบุคคลที่มีสถานะสูงกว่า ไม่คู่ควรเป็นพระชายาอ๋องเฉินโดยแท้”นางจับชายเสื้อของเขาไว้ ยกใบหน้าที่น่าสงสารขึ้น เสียงสะอึกสะอื้น ท่าทางเหมือนคนยอมรับผิดทุกอย่างสายตาของเฟิงเย่เสวียนครึ้มลงทันที แทบรอไม่ไหวที่จะไปจากจวนอ๋องเฉินมากเช่นนี้เลยหรือ?ในแคว้นตงหลิง ไปจากเขา นางจะไปหาผู้ชายที่สมบูรณ์แบบอย่างเขาได้ที่ใดอีก?อย่าไม่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี“ไม่เป็นไร” เขากล่าวอย่างเฉยเมยคำหนึ่งฉู่เชียนหลีตะลึงงันครู่หนึ่ง นางกดขี่ท่านโหวน้อย ให้เขาเช็ดพื้นกวาดฝุ่น รังแกเขาอย่างน่าสังเวชเช่นนั้น เขากลับไม่โกรธ?ไม่ควรจะเป็นแบบนี้นี่นาตามหลักแล้ว ภายใต้ความโกรธเขาควรจะพูดว่า‘ฉู่เชียนหลี เจ้ารังแกท่านโหวน้อย ก็เท่ากับ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 39

    เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!ตลอดหลายปีมานี้ ยังไม่เคยมีหญิงคนใดที่เข้าตาเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉู่เชียนหลีที่หน้าตาอัปลักษณ์ไร้ความงาม!พลันแววตาเฟิงเย่เสวียนเย็นชา สะบัดแขนเสื้อจากไปโดยไม่สนใจฉู่เชียนหลีอีกฉู่เชียนหลี “?”เดี๋ยวก็บอกจะเปลี่ยนยา เดี๋ยวก็ทำหน้าบึ้ง เดี๋ยวก็เดินจากไปอย่างโมโห เหตุใดผู้ชายคนนี้เปลี่ยนหน้าเหมือนพลิกหนังสือเลย แปลกประหลาดเป็นอย่างที่คิด จิตใจผู้ชายเหมือนเข็มใต้มหาสมุทร ไม่อาจคาดเดาฉู่เชียนหลีส่ายศีรษะ หมุนกายกลับเข้าห้องเฟิงเย่เสวียนเดินออกจากประตูเรือน เมื่อกำลังจะจากไป หางตาก็เหลือบกลับไปมองแวบหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ ก็เห็นฉู่เชียนหลีประคองกำแพง เดินโอนเอนโซเซอย่างระมัดระวังไม่ให้โดนบาดแผล ท่าทางเจ็บปวดลำบากมากคิ้วดาบของเขาขมวด ไม่รู้ทำไม เขาก้าวเท้ายาวราวกับปีศาจสิงสู่กลับไปโอบเอวของนางไว้“ว้าย!”ถีบประตู เข้าห้องฉู่เชียนหลีสะดุ้งตกใจ “ท่านอ๋องกลับมาอีกทำไม?”เมื่อเห็นเฟิงเย่เสวียนอุ้มนางตรงไปที่ตั่งนอน ร่างกายหดเกร็ง “ข้าเปลี่ยนยาเองได้!”“อย่าขยับ” แขนของเขากอดนางไว้อย่างมั่นคง และหลีกเลี่ยงบาดแผลได้อย่างมีไหวพริบ น้ำเสียงที่ทุ่มต่ำมีความเผด็จการแ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 40

    จนกระทั่งพลบค่ำ จุดชีพจรคลายออกเองฉู่เชียนหลีที่คงท่าเดิมไว้สามชั่วยามเต็มเหนื่อยจนอ่อนล้า พริบตาที่สามารถขยับตัว ร่างกายเหมือนถูกสูบแรงทั้งหมดออกไป นางนอนคว่ำลงบนเตียงอย่างอ่อนปวกเปียก น้ำตาหลั่งไหลออกมาทันทีหลั่งน้ำตาดั่งสายน้ำพลันก็เริ่มร้องเพลงด้วยความเสียใจ“หักหลังความรักของฉัน เธอเป็นหนี้ทางจิตสำนึก ท้ายที่สุดฉันที่ถูกรังแกอย่างน่าสังเวช น้ำตาก็ไหลรินลงมา…”เยว่เอ๋อร์กุมปากอย่างปวดใจ เบ้าตาแดงก่ำพระชายาที่น่าสงสาร…ท่านอ๋องปฏิบัติต่อพระชายาเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?ฉู่เชียนหลีที่เรี่ยวแรงกลับมาบ้างแล้วตะเกียกตะกายลุกขึ้น กินข้าวหมดไปห้าชามในอึดใจเดียว จึงจะรู้สึกว่าพลังชีวิตกลับมาเล็กน้อย นางนั่งหน้ากระจกสัมฤทธิ์ พลางลูบปานบนใบหน้า ครุ่นคิดว่ายังเหลือกระสายยาชนิดสุดท้าย :หญ้าเหมันต์ขอแค่หาหญ้าชนิดนี้เจอ ก็สามารถแก้พิษแต่หญ้าชนิดนี้เติบโตในสถานที่หนาวมาก ท่ามกลางหิมะน้ำแข็ง สามารถค้นพบแต่เก็บไม่ได้ เพราะมันไม่สามารถออกห่างจากหิมะ เมื่อไรที่ถูกถอนออกมา ไม่เกินสองชั่วยามก็จะเหี่ยวเฉา เมื่อเหี่ยวเฉาก็จะสูญเสียสรรพคุณ เป็นของที่หายากมากนี่เป็นปัญหาที่ยากมากเยว่เอ๋อร

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 41

    จวนอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายฉู่จัดงานเลี้ยงวันเกิด เชิญขุนนางในราชสำนัก มิตรสหาย และรวมถึงบุคคลที่ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ จะว่าแขกเยอะก็ไม่เยอะ จะว่าน้อยก็ไม่น้อย และนับว่าจัดได้ค่อนข้างมีระดับแขกเดินขวักไขว่ บ่าวไพร่งานยุ่ง จับกลุ่มคุยกันจุดละสองสามคน ก็นับว่าคึกคัก“พระชายาอ๋องเฉินถึงแล้ว…”ในอากาศ หลังจากเสียงรายงานของเด็กรับใช้ดังขึ้น แทบทุกคนหันไปมองข้างนอกโดยไม่ได้นัดหมายภายใต้การจ้องมองของดวงตาหลายสิบคู่ ตรงประตู รองเท้าปักลายดอกไม้คู่หนึ่งก้าวเข้ามา จากนั้นก็ตามมาด้วยร่างที่เพรียวบางของหญิงสาว สายตามองขึ้นข้างบน ใบหน้าถูกปิดด้วยผ้าคลุมหน้า เผยให้เห็นเพียงดวงตาสีดำที่มีชีวิตชีวาคู่หนึ่งชุดสีขาวหนุนเสริมกลิ่นอายของความสะอาดและบริสุทธิ์ ภายใต้การสะท้อนของแสงเทียน โครงหน้าผอมบางปรากฏให้เห็นอย่างเลือนลาน ปานถูกปกปิดไร้รอยรั่ว เส้นผมสามพันเส้นถูกรวบขึ้นอย่างสบายๆ หญิงสาวก้าวเข้าไปอย่างสุขุมสง่างาม ท่าทางสบายๆ นั้นเหมือนแมวเปอร์เซียที่ผ่อนคลาย ทำให้ตรงหน้าทุกคนเปล่งประกายนี่…ผู้หญิงที่มีราศีเปล่งปลั่งคนนี้เป็นหญิงอัปลักษณ์ของตระกูลฉู่? เป็นพระชายาอ๋องเฉินที่ไม่ได้รับความโปรดปราน? 

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1148

    “เป็นไปได้อย่างไร?”นางกล่าวด้วยความประหลาดใจ “เมื่อห้าวันก่อน ข้าคุยกับเขาแล้ว และจัดการทุกอย่างไว้ให้เขาแล้ว เขาสามารถออกจากวังอย่างราบรื่น นอกเสียจาก…”จู่ๆ นางก็เข้าใจอะไรบางอย่าง เสียงค่อยๆ เบาลงเฟิงเย่เสวียนกล่าวต่อ“เขาไม่อยากไป”ใช่!ไท่ซ่างหวงไม่อยากไปมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ยังอาลัยอาวรณ์ หรือเพราะสาเหตุอื่น เขาจึงเลือกที่จะอยู่เมืองหลวงแต่ถ้าหากเขาอยู่เมืองหลวง เฟิงเจิ้งหลีต้องหาเรื่องเขาแน่นอนฉู่เชียนหลีเป็นห่วง หลังจากครุ่นคิด ก็เดินออกไปข้างนอกแล้ว“ไม่ได้ ข้าต้องกลับวังหลวง ทิ้งเขาไว้ในเมืองหลวงเพียงลำพังไม่ได้”“ไม่ทันแล้ว”เฟิงเย่เสวียนจับข้อมือของนาง กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “การเคลื่อนไหวเมื่อครู่ทำให้ทุกคนรู้ตัวแล้ว เกรงว่าตอนนี้คนสนิทของเฟิงเย่เสวียนกำลังมา เขาก็อยู่ระหว่างทางกลับเช่นกัน เสียเวลาไม่ได้แล้ว”กำลังหลักของเขาอยู่ที่เจียงหนานไม่เหมาะที่จะอยู่เมืองหลวงนาน ครึ่งปีมานี้ วิธีการของเฟิงเจิ้งหลีเหี้ยมโหด กำจัดพวกต่อต้าน รวบอำนาจเข้าด้วยกัน เมืองหลวงเป็นถิ่นของเขา อยู่ในถิ่นของเขา พวกเขาเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1147

    “อ๋อง อ๋องเฉิน…”มองดูเฟิงเย่เสวียนเดินเข้ามาทีละก้าว ร่างกายผู้บัญชาการจางหดเกร็ง เพิ่งอ้าปาก ก็ได้ยินเสียงแหวกอากาศที่เฉียบคมดังขึ้นเพี๊ยะ!“อ่า!”แส้สีดำแหวกอากาศ ฟาดไปที่ใบหน้าผู้บัญชาการจางตั้งแต่หน้าผากถึงจะจมูกและคาง มีรอยสีเลือดปรากฏขึ้นทั้งลึกทั้งน่ากลัวเขากุมใบหน้า ขดตัวด้วยความเจ็บปวด เสียงกรีดร้องราวกับหมูถูกฆ่า ก่อนที่เขาจะตั้งสติได้ ก็โดนฟาดอีกครั้ง“อ่า!”แผ่นหลัง เจ็บอย่างรุนแรงเสื้อผ้าฉีกขาด ผิวหนังปรี่แตกเพี๊ยะเพี๊ยะๆ!“ช่วยด้วย…อ่า!”“อ๊ะ…โปรด โปรดไว้ชีวิต….อ่า!”ผู้บัญชาการจางอยากโต้ตอบ แต่เขาไม่มีโอกาสนี้ และไม่มีความสามารถนี้ อยู่ต่อหน้าเฟิงเย่เสวียน ก็เหมือนกับลูกไก่ตัวหนึ่ง ทำอะไรไม่ได้เลยเขาเจ็บจนกลิ้งไปกลิ้งมาพื้นไม่มีใครกล้าเข้าไปเหมือนกับที่ผู้บัญชาการจางฟาดเฟิงเย่เสวียนเมื่อครึ่งปีก่อน เฟิงเย่เสวียนฟาดคืนด้วยสีหน้าที่นิ่งสงบและยังเหี้ยมโหดกว่าด้วยหลังจากถูกฟาดไปหลายสีที ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าเละจนจำไม่ได้ผู้บัญชาการจางทั้งเจ็บทั้งกลัว ประมาณว่ากลัวจนถึงขีดสุด ฟางเส้นสุดท้ายขาด กุมศีรษะกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด“เฟิงเย่เ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1146

    เฟิงเย่เสวียน!“อ๋องเฉิน?!”“เฟิงเย่เสวียน!”เมื่อร่างเงาสีหมึกสายนั้นร่อนลงบนพื้นอย่างมั่นคง และใบหน้าที่คุ้นเคยแผ่กลิ่นอายอันเย็นเยือก ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความตะลึงตกใจประหลาดใจคิดไม่ถึงผ่านไปครึ่งปี อ๋องเฉินกลับถึงเมืองหลวงอีกครั้ง ก้าวสู่บ้านเกิดที่คุ้นเคยแห่งนี้ฉู่เชียนหลีไม่เจอเขามาครึ่งปีเต็มๆ แวบแรก ก็มองเห็นหนวดที่อยู่ใต้คางของเขาแล้วทั้งๆ ที่เพิ่งอายุยี่สิบห้าปี ยังหนุ่ม สุขุม หนักแน่น หนวดสีดำนั่นดูไม่เข้ากับใบหน้าของเขาเลยแปลกๆตลกสบตากันผ่านผู้คนมากมายนางมองเห็นเขาในฝูงชนตั้งแต่แวบแรก แล้วเขาจะมองไม่เห็นนางตั้งแต่แวบแรกหรือ? เขาพุ่งพรวดเข้ามากอดนางไว้ในอ้อมกอด กระชับแขนกอดนางไว้แน่น หมื่นพันคำพูด ทั้งหมดอยู่ในอ้อมกอดที่แน่นหนานี้ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด กลับสื่อความหมายออกมาทั้งหมดการกอดคือสิ่งที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยที่สุด“อีอา!”จื่อเยี่ยน้อยยังถูกฉู่เชียนหลีอุ้มไว้ในอ้อมแขนบิดากอดมารดา ประกบเขาไว้ตรงกลาง ทำให้เขาแทบหายใจไม่ออก โดยเฉพาะหนวดที่อยู่ใต้คาง ตามใบหน้าของเขาจนแดงก่ำแล้วผู้ชายบ้าที่ไหนเนี่ย!โมโห!โบกกำปั้นน้อยๆ ตีใส่ใบหน้าของเฟ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1145

    ฉู่เจียวเจียวได้ยินคำนี้ แค่อยากหัวเราะดังๆนี่มันเวลาไหนแล้ว นางกำนัลตัวน้อยๆ คนหนึ่งก็กล้าขวางนาง?“ข้าอยากให้ใครตาย คนคนนั้นก็ต้องตาย ข้าอยากฆ่าเจ้า ก็ง่ายเหมือนบี้มดตัวหนึ่ง”มดตัวน้อยๆ ยังกล้ากระโดดออกมาเรียกร้องความสนใจ?น่าขำ!ขันทีคนหนึ่งเดินเข้าไปใช้มือคว้าคอของไฉ่เซียไว้“อ่า!”ออกแรงบีบ!ไฉ่เซียหายใจไม่ออก หน้าแดงก่ำ ดิ้นรนอย่างเจ็บปวด“คนอย่างเจ้าก็กล้าออกหน้าแทนฉู่เชียนหลี? รนหาที่ตาย นี่ก็คือจุดจบของเจ้า!” ฉู่เจียวเจียวมองอย่างเย็นชาฉู่เชียนหลีขมวดคิ้วพลันยกเขาถีบขันทีคนนั้นจนหน้าหงาย“แค่ก…แค่กๆ…” ไฉ่เซียล้มลงพื้นอย่างเจ็บปวด หอบหายใจและน้ำตาคลอเบ้า“กลับไป” ฉู่เชียนหลีหลุบตาไฉ่เซียพักหายใจครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้น จับชายกระโปรงของฉู่เชียนหลี “บ่าวไม่ไป”นางรับใช้แม่นางฉู่ครึ่งปี แม่นางฉู่ดีกับนางมาก และนางก็ชอบจื่อเยี่ยน้อยมาก มีความผูกพันต่อกัน“ฝ่าบาทเคยสั่งไว้ ต้องดูแลท่านให้ดี บ่าวจะปล่อยให้ท่านตกอยู่ในอันตรายได้อย่างไร?”เขาหอยหายใจ ลุกขึ้นอย่างโซซัดโซเซ“ฮองเฮา ท่านขัดเจตนาของฝ่าบาท หลังจากฝ่าบาทกลับมา ต้องลงโทษท่านแน่”ฉู่เจียวเจียวโกรธทันทีนา

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1144

    ข้าเกือบจะจมอยู่ในโลกของเจ้าแล้ว รักเจ้า ปกป้องเจ้า ตามใจเจ้า ในใจในสายตาล้วนมีแต่เจ้าสุดท้ายแล้วกลับบอกเขาว่า นี่เป็นเพียงแผนลวงฉู่เชียนหลี เจ้าเป็นเด็กดื้อจริงๆการอยู่ด้วยกันที่ยาวนานถึงครึ่งปี ข้าทุ่มเทให้เจ้าทุกอย่าง เจ้าไม่รู้สึกซาบซึ้งเลยหรือ? ไม่มีความผูกพันเลยหรือ?ต่อให้เป็นก้อนหิน ก็ควรจะกุมจนอุ่นนานแล้วต่อให้เป็นน้ำแข็ง ก็ควรกุมจนละลายนานแล้วหัวใจของเจ้าทำด้วยอะไร?เหตุใดจึงแข็งยิ่งกว่าก้อนหิน เย็นยิ่งกว่าหิมะน้ำแข็ง แต่ข้า…กลับรักเจ้าองครักษ์ลับคุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างกระวนกระวาย หัวใจกระสับกระส่าย หางตากวาดมองสีหน้าเขาอย่างระมัดระวัง และกล่าวอย่างระมัดระวัง“นายท่านวางใจได้ ผู้บัญชาการจางจับตัวไว้แล้ว”อาศัยแค่แม่นางฉู่คนเดียว และเด็กอายุครึ่งขวบคนหนึ่ง ต่อให้ติดปีกก็ยากจะหนีออกจากเมืองหลวงเฟิงเจิ้งหลีค่อยๆ หลุบตา เสียงที่เฉยเมยฟังอารมณ์ไม่ออก“อย่าทำร้ายนาง”“ขอรับ…”เวลานี้แล้ว นายท่านยังห่วงความปลอดภัยของแม่นางฉู่เฮ้อตั้งแต่อดีตรักมากก็เจ็บมากองครักษ์ลับรับคำสั่ง ขี่ม้าเร็วกลับเมืองหลวง เวลาเดียวกัน ทหารส่งสารของเมืองเทียนสู่ก็ส่งจดหมายมา“รายงา

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1143

    ฉู่เจียวเจียวกุมมือที่มีเลือดไหล เจ็บจนโกรธแล้ว ประกอบกับไฟโทสะที่อยู่เต็มอก ระเบิดออกมาโดยตรง“ความโชคร้ายของข้าล้วนเกิดจากเจ้า!”ฉู่เชียนหลีกล่าวเสียงเย็น“ข้าไม่เคยชอบเฟิงเจิ้งหลี และไม่เคยคิดจะแย่งผู้ชายกับเจ้า เจ้าเป็นคนยืนกรานว่าเป็นข้า เจ้าเป็นคนคาดเดาว่าเป็นข้าอย่างไร้เหตุผล เจ้าแต่งงานกับเขา และยังให้กำเนิดลูกสาวของเขาหนึ่งคน เป็นเจ้าที่ไม่รู้จักดูแลครอบครัวนี้ จึงส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้”“ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย!”คนสองคนอยู่ด้วยกัน ความสัมพันธ์ที่ยาวนานคืออาศัยการดูแลซึ่งกันและกันไม่ได้พยายามอะไรเลย ก็อยากได้มา?ใต้ฟ้าไม่มีเรื่องที่ดีเช่นนี้“ไม่! เจ้านั่นแหละ!” ฉู่เจียวเจียวกรีดร้อง น้ำตาทะลักออกมาอย่างไม่สามารถควบคุม “ตราบใดที่เจ้ายังมีชีวิต ฝ่าบาทก็ชอบเจ้า ห่วงเจ้า เจ้ายังมีชีวิต ข้าก็ไม่มีวันมีโอกาส”“ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า!”“อ๊ะ!”นางร้องไห้อย่างเศร้าโศก“ฉู่เชียนหลี เจ้าเป็นแค่ลูกสาวชาวนาที่แม่ข้าเก็บมาเลี้ยง ชาติกำเนิดของเจ้าต่ำต้อย ในร่างกายมีเลือดของคนธรรมดาไหลอยู่ ถ้าไม่ใช่แม่ข้ารับเลี้ยงเจ้า เจ้าก็ไม่มีวันกลายเป็นคุณสี่จวนอัครเสนาบดีฉู่ และไม่มีส

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1142

    แม่คือจุดอ่อนของลูกไม่มีข้อยกเว้นไม่ มีคนหนึ่งที่ยกเว้น ฉู่เจียวเจียวไม่เคยเป็นห่วงลูกสาวของตัวเองเลยฉู่เชียนหลีกล่าว “เจ้าเป็นผู้หญิงที่น่าเวทนาจริงๆ”ฉู่เจียวเจียวอึ้งไปครู่หนึ่ง“ในฐานะภรรยา เจ้าไม่ได้ใจของสามี ทำได้เพียงดึงดูดความสนใจด้วยวิธีที่บ้าคลั่งเหมือนคนบ้า”“ในฐานะแม่ เจ้าให้กำเนิดลู่ฉิน กลับไม่เคยเลี้ยงนาง ไม่เคยแยแสนาง เจ้าตั้งครรภ์สิบเดือนคลอดอะไรออกมา? เจ้าไม่รู้สึกว่าตัวเองน่าเวทนาและน่าสมเพชเลยหรือ?”ม่านตาฉู่เจียวเจียวหด มีอารมณ์บางอย่างแลบผ่านแววตาอารมณ์เชื่อมโยงกับหัวใจ แน่นหน้าอกฉับพลันนาง…ได้ครอบครองตำแหน่งฮองเฮาแล้วมารดาแห่งแผ่นดินในสายตาของผู้อื่น ความสูงศักดิ์และความสูงส่งของนางทำให้ผู้คนอิจฉาริษยา แต่ในความเป็นจริง ภายใต้รูปลักษณ์ที่สดใสงดงาม กลับมีจิตวิญญาณที่โดดเดี่ยวและน่าเวทนานางไม่มีครอบครัว…กำหมัดแน่น ไม่แสดงอารมณ์ออกมา กล่าวเสียงแข็ง“คนที่น่าเวทนาคือเจ้า! เจ้ามันก็แค่นักโทษคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรมาตัดสิน? คืนนี้ เจ้าก็จะตายแล้ว เมื่อเทียบกับว่าข้า ไม่สู้เป็นห่วงตัวเองก่อนดีกว่า!”เพิ่งสิ้นเสียง ยกมือจับคอที่บอบบางของเฟิงเจิ้งจื่

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1141

    “พ่ะย่ะค่ะ!”เหล่าขันทีขานรับ ล้วงไม้กระบองที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อออกมา เดินปรี่เข้าไปยกกระบองขึ้นก็ฟาดลงไปอย่างแรงตายซะเถอะ!ฉู่เชียนหลีใช้มือซ้ายอุ้มลูกไว้แน่น เบี่ยงร่างกายหลบ มือขวาคว้าข้อมือของขันทีคนหนึ่ง พลันออกแรงหัก ก็ผลักเขาออก ชนขันทีล้มไปสามคนในเมื่ออย่างไรก็ต้องสู้ เช่นนั้นนางก็ไม่เกรงใจแล้วสะบัดแขนเสื้อ โคจรกำลังภายใน ยกมือคว้ากลางอากาศ ก็มีกระบี่น้ำแข็งเล่มหนึ่งปรากฏในมือชูกระบี่ฟันออกไป ไม้กระบองแตกเป็นเสี่ยงเพียะ!เมื่อกระทบกัน คมกระบี่แตกออกเป็นเศษน้ำแข็ง กระจายกลางอากาศ ระเหยเป็นไอ อากาศที่หนาวเย็นแผ่ออก ทำให้ค่ำคืนที่ไม่ธรรมดานี้ดุเดือดยิ่งขึ้นการเคลื่อนไหวของนางปราดเปรียว รับมือการโจมตีของเหล่าขันทีได้อย่างง่ายดาย ทำเอาพวกเขาไม่สามารถโต้ตอบฉู่เจียวเจียวเห็นแล้ว สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อยฉู่เชียนหลีซ่อนไผ่ตายไว้ด้วย?เป็นวรยุทธ์ตั้งแต่เมื่อไร?เหตุใดร้ายกาจเช่นนี้?แต่ว่าต่อให้นางมีวรยุทธ์ที่ร้ายกาจเพียงใด มันก็ไม่มีประโยชน์ นางคนเดียวจะสู้คนมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? ต่อให้ผลัดกันเข้าไปสู้กับนาง ก็ต้องทำให้นางเหนื่อยตายทั้งเป็น!นางเหลือบมองนางกำน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1140

    ฉู่เชียนหลีหัวเราะเบาๆ ช่างเถอะ อุ้มเขาขึ้น เปิดประตู“แม่นางฉู่ ดึกเช่นนี้แล้ว ท่านจะออกไปข้างนอกหรือ?” ไฉ่เซียกับไฉ่เตี๋ยยืนอยู่ที่นอกประตู รับใช้อย่างเอาใจใส่ทั้งวันทั้งคืนโดยเฉพาะไฉ่เตี๋ย เป็นคนมากอุบายฉู่เชียนหลีกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองเหมือนเช่นเคย“คืนนี้ป้อนนมจื่อเยี่ยมากไปหน่อย เขาไม่ค่อยสบาย ข้าพาเขาไปสูดอากาศในสวน”“ไฉ่เตี๋ย ไปเอานำซานจาที่ห้องครัวให้ข้าหน่อย”ไฉ่เตี๋ยโน้มกายกล่าวอย่างนอบน้อมโดยไม่ต้องคิด ‘เจ้าค่ะ’ ก็ไปแล้ว“ไฉ่เซีย”“เจ้าคะ” ไฉ่เซียเดินออกมาหนึ่งก้าว โน้มกายก้มหน้าฉู่เชียนหลีมองนาง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ครึ่งปีมานี้ ขอบคุณที่เจ้าดูแลข้า เจ้าเป็นคนจิตใจดี วันข้างหน้าต้องได้แต่งงานกับคนดีแน่นอน”เมื่อไฉ่เซียได้ยินคำนี้ จู่ๆ ก็แน่นหน้าอกอย่างน่าประหลาด“แม่นางฉู่…”อยู่ดีๆ มาพูดเรื่องนี้นางได้กลิ่นแปลกๆฝ่าบาทเพิ่งออกรบ แม่นางฉู่ก็พูดเรื่องนี้ คงไม่ได้คิดจะ…“แม่นางฉู่ เจ้า…”ฉู่เชียนหลีนำทรัพย์สินทั้งหมดที่มี และส่วนใหญ่เป็นของที่เฟิงเจิ้งหลีมอบให้นาง เปลี่ยนเป็นตั๋วเงิน มอบให้ไฉ่เตี๋ยทั้งหมด“ดูแลตัวเองด้วย”ไฉ่เซียเบิกตากว้าง มองตั๋วเงิ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status