“เจียวเจียว แม่ก็รอเสวยสุขแล้วนะ เจ้าน่ะจะได้ดิบได้ดีเพราะลูกชาย แม่ก็จะได้อานิสงส์ไปด้วย หลานชายคนโตของฝ่าบาทเชียวนะ จะต้องมีคนอิจฉาไม่น้อย”“เจียวเจียว เจ้าจะต้องเพิ่มอารมณ์ให้มากขึ้น พูดกับเจ้าตามตรง เมื่อสองวันก่อนแม่ได้เจอกับฮูหยินเฒ่าคนหนึ่ง ขอยาสมุนไพรให้กำเนิดลูกชายมาแผ่นหนึ่ง ได้ข่าวว่า คนที่กินยาตามตำรา ได้ลูกชายทุกคน”“เจียวเจียว...”“แม่!”นางอันจมดิ่งอยู่ในโลกของตนเอง พูดฉอด ๆ ตอนที่กำลังพูดด้วยความจริงจัง ในที่สุดฉู่เจียวเจียวก็ตะคอกเสียงต่ำอย่างอดไม่ได้ ตัดบทนางเงยหน้าขึ้น สีหน้าแย่เป็นอย่างยิ่งบรรยากาศก็แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก“อ๋องหลีเขา...ไม่เคยแตะต้องข้าเลยสักนิด...”พระชายาอ๋องหลีกลับจวน จวนอัครมหาเสนาบดีฉู่คึกคักหลังมื้ออาหาร กลับจวนเฟิงเจิ้งหลีกับฉู่เจียวเจียวเดินออกไปพร้อมกัน ฉู่เจียวเจียวขึ้นรถม้า เขายืนเอามือไพล่หลังอยู่ที่เดิม ไม่มีเจตนาที่จะนั่งรถคันเดียวกันคนขับรถม้ายกแส้ยาวขึ้นกำลังจะขับรถม้าออกไป“ช้าก่อน!”ฉู่เจียวเจียวเอ่ยปากพูดอย่างอดไม่ได้ แหวกม่านหน้าต่าง จ้องมองชายหนุ่มชุดขาว ท่าทางอ่อนโยน เห็นได้ชัดว่าอยู่ใกล้มาก แต่กลับมีความรู้สึ
เฟิงเย่เสวียนกลับรู้โชคดี ที่สามารถได้ยินความในใจของนาง ไม่อย่างนั้นละก็ไม่รู้ถึงความคิดของคน ๆ หนึ่ง ว่าจะมากมายขนาดนี้อีกทั้ง ยังหน้าหนาขนาดนี้!“ฉู่เชียนหลี? เจ้าไม่เชื่อข้าก่อน สงสัยในนิสัยของข้า คนที่ควรจะน้อยใจควรเป็นข้าไม่ใช่หรือ”อยู่ด้วยกันมาตั้งนานขนาดนี้ ผ่านเรื่องราวมามากมาย ในสายตาของนาง เขาเป็นคนที่แยกแยะถูกผิดไม่ได้ เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์?อยากจะแหวกอกนาง แล้วควักหัวใจของนางออกมา ดูว่าข้างในใส่อะไรเอาไว้!มีเขาอยู่หรือไม่กันแน่!ฉู่เชียนหลีก้มหน้า เงียบไปเล็กน้อย——เป็นเพราะตัวเองไม่พูดให้ชัด ยังจะมาโทษฉันอีก? ถ้าตอนนั้นนายอธิบายสักหน่อย ฉันจะเข้าใจผิดเหรอ? นายทำตัวเอง“...”เฟิงเย่เสวียนหน้าหมอง “พูดมา! ในสายตาของเจ้า ข้าเป็นคนอย่างไรกันแน่!”ฉู่เชียนหลีก้มหน้า นิ้วเขี่ยแขนเสื้อ คิดอย่างจริงจังขึ้นมา——ถึงแม้ว่านายจะอารมณ์ฉุนเฉียว นิสัยแย่ ขี้โมโห แต่เมื่อเผชิญหน้ากับชาวบ้าน ก็นับว่าเป็นคนดี——ปราบโจรภูเขากว่างหนิง ช่วยชาวบ้านผู้บริสุทธิ์เอาไว้เยอะแยะ ตอนลาดตระเวนทางใต้ ก็ช่วยเหลือคนเอาไว้ตั้งมากมายขนาดนั้น เรื่องการทำงาน นายมักจะอยู่ในห้องหนังสือครึ่งคืน จริง
เฟิงเย่เสวียนถามตัวเอง เมื่อครู่นี้เขาไม่ได้พูดคำที่รุนแรงเลยแม้แต่ประโยคเดียว แล้วก็ยังแฝงไปด้วยทัศนคติที่ดี มาตามหาฉู่เชียนหลีด้วยความจริงใจ ไม่ได้มีเจตนาที่จะดุนางเขาสาบานรถม้ามาถึงจวนอ๋องเฉินไม่รอให้จอดสนิท ฉู่เชียนหลีก็เปิดม่าน กระโดดลงไป บุ้ยปากอย่างไม่พอใจ“ผู้ชายก็เป็นแบบนี้ทุกคน ให้แสงหน่อยก็สว่างไสวขึ้นมาเลย ทำไม ท่านพูดแค่ไม่กี่ประโยค ข้าก็ต้องรักท่านจนหัวปักหัวปำเลยอย่างนั้นหรือ? ถ้าเช่นนั้นข้าจะพูดบ้างสักสองประโยค...”เฟิงเย่เสวียนหูตั้ง “เจ้าพูดมาสิ! ข้ารออยู่”“...”ฉู่เชียนหลีค้อนเขาทีหนึ่งอย่างอารมณ์เสีย สะบัดก้น แล้วเดินเข้าไปในจวนสีหน้าของชายหนุ่มอ่อนโยน ริมฝีปากบางยกขึ้นแฝงไปด้วยรอยยิ้ม “เชียนหลี รอข้าด้วย”“เดินชักช้า ท่านขาเป๋หรืออย่างไร!”“...”หากวันใดเชียนหลีเหมือนสตรีนางอื่น รู้หนังสือรู้มารยาท ดูแลสามีสั่งสอนลูก อ่อนโยนสง่างาม สามีเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เชื่อฟังทำตัวดี...อย่าคิดเลยนอกเสียจากว่าฟ้าถล่มแต่เขาชื่นชอบท่าทางแยกเขี้ยวยิงฟัน หยิ่งผยองของนางมีเพียงหนึ่งเดียวน่ารักที่สุดดูดีชายหนุ่มเดินเอามือไพล่หลัง เดินตามด้านหลังช้า ๆ ฉู
ป้องกันคนเลว หรือป้องกันนางกันแน่?เพ่งเล็งเป้าหมายชัดเจนขนาดนี้?“กำแพงเรือนสูงพอแล้ว ถ้าหากจะเพิ่มความสูงอีกละก็ ก็คงบังแสงแดดแล้ว”“มาอาบแดดที่เรือนหานเฟิงของข้าเป็นอย่างไร?”ถุย!ทำไมไม่พูดตรง ๆ ไปเลย ว่าจะให้ไปอาบแดดบนเตียงนอนของเขา“อย่างมากก็เพิ่มความสูงครึ่งเมตร”“หนึ่งเมตร”“ครึ่งเมตร จะสูงกว่านี้ไม่ได้แล้ว”“ข้าไตร่ตรองถึงความปลอดภัยของเชียนหลี ถ้าหากวันหนึ่งมีนักฆ่าลักลอบเข้ามาจะอันตรายมาก ทำอะไรก็ควรระมัดระวังไว้ก่อน”“ถ้าเช่นนั้นกำแพงนี้ก็ไม่ต้องซ่อมแล้ว เปิดเอาไว้แบบนี้เถอะ ถ้าคนเลวมา จะได้สะดวกให้ข้าหนี”“...”พ่อบ้านเฒ่าที่อยู่ด้านข้างเห็นทั้งสองคนต่อปากต่อคำ พูดเร็วขึ้นเรื่อย ๆ พูดไปพูดมา ก็ทำท่าจะทะเลาะกันขึ้นมาอีก ปวดหัวขึ้นมาทันที รีบก้าวไปข้างหน้าราวกับเหาะ“พระชายา นี่คือแผนการซ่อมแซม เชิญท่านดู!”เฟิงเย่เสวียนขมวดคิ้ว มองพ่อบ้านเฒ่าเข้าข้างคนอื่น?พ่อบ้านเฒ่าแอบส่งสายตาให้เขา ท่านอ๋อง แค่มองก็รู้ว่าท่านเด็กเกินไป ไม่มีประสบการณ์ครอบครัวปรองดองสามัคคีในครอบครัวหนึ่ง ขอเพียงแค่ผู้หญิงมีความสุข ทั้งครอบครัวก็จะมีความสุขถ้าหากผู้หญิงไม่มีความสุ
ฉู่เชียนหลีชะงักเล็กน้อยถ้าหากว่าเลือกแล้ว...“เท่าที่รู้ รัชทายาทเป็นคนเจ้าชู้ ถึงแม้ว่าในจวนจะมีพระชายารัชทายาทอยู่แล้ว แต่กลับควบคุมนิสัยของเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ถ้าหากเขาเลือกคนที่ท่านแนะนำ อาจจะเป็นเพราะชื่นชอบจริง ๆ”“แต่ก็อาจจะเป็นเพราะ...มีแผนการอื่น”ถ้าหากนางเป็นรัชทายาท เป็นศัตรูคู่แค้นกับเฟิงเย่เสวียน ย่อมบีบคั้นคนทั้งหมดของเฟิงเย่เสวียนเลือกที่จะรับอนุ ก็ต้องยึดหลักที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองด้วยทันใดนั้น ก็ได้กลิ่นแผนการชั่วร้ายบางอย่างนางปิดสมุดที่อยู่ในมือ ส่งคืนให้พ่อบ้าน “เช่นนั้นก็อย่าแนะนำเลย ก็พูดว่าที่ท่านนี้ไม่มีตัวเลือกที่เหมาะสม เลือกพระชายารองไม่ใช่แต่งตั้งพระชายารัชทายาท คงจะไม่ได้เข้มงวดขนาดนั้น”ไม่เข้าร่วมเรื่องนี้ ต่อให้มีแผนการใหญ่กว่านี้ ก็เป็นแค่การคุยโวเฟิงเย่เสวียนกลับไม่ใช่ไม่คิดแบบนี้ แต่ฝ่าบาทได้ทรงตรัสแล้ว“เชียนหลีอาจจะยังไม่รู้ ฝ่าบาทอบรมสั่งสอนบรรดาองค์ชายตั้งแต่เด็ก พี่น้องปรองดอง ห้ามทะเลาะกัน ฆ่าแกงกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำล้วนเป็นคนกลาง เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง รวมทั้งครั้งนี้ด้วย”ถ้าหากเขาไม่แนะนำใครสักคน รัชทายา
เฟิงเย่เสวียนพยายามจะเผาไม้ให้ได้ ตบโต๊ะลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางที่มีอำนาจ สั่นสะเทือนจนคนใช้ทั้งหมดคุกเข่าลงบนพื้น หวาดกลัวเป็นอย่างยิ่งฉู่เชียนหลีเลียเศษขนมที่อยู่บนนิ้วมืออย่างใจเย็น ควักไม้พระราชทานออกมาท่าทีสบาย ๆ“...”เฟิงเย่เสวียนนั่งลงไปเงียบ ๆ มองบรรดาคนใช้ที่อยู่ด้านข้าง กล่าวสบถ“มัวอึ้งอะไรกันอยู่? ยังไม่รีบก่อกำแพงอีก!”“ขอรับ ๆ!”บรรดาคนใช้ตกใจรีบไปก่อกำแพงอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าพูดมากแม้แต่คำเดียวท่านอ๋อง ท่านรังแกพระชายาไม่ได้ ก็มาด่าพวกเราที่ยังเด็ก ไร้ความสามารถ ไร้ความรู้ น่าสงสาร ต้อยต่ำ จะมากเกินไปหน่อยหรือไม่...หลังจากผ่านไปสองเค่อเฟิงเย่เสวียนเดินกลับไปอย่างกลุ้มใจ ทันทีที่เขาจากไป เยว่เอ๋อร์ผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย ดึงพระชายามาพูดคุยด้วยความดีใจเล่าเรื่องนี่ เล่าเรื่องนั้น พูดไปพูดมา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรถึงได้คิดถึงหานเฟิงขึ้นมาคิ้วงามขมวดแน่นขึ้น“พระชายา ท่านคงไม่ทราบว่าองครักษ์ลับข้างกายของท่านอ๋องคนนั้นเกินไปขนาดไหน! เขาพูดว่า ท่านกับท่านอ๋องทะเลาะกัน ทั้งหมดเป็นความผิดของท่าน ยังจะให้ท่านขอโทษ ข้าควบคุมตัวเองไม่อยู่จริง ๆ จึงด่าเขาไปฉอดใหญ่”อง
ดวงตาหลิงเชียนอี้กลอกหนึ่งรอบ กล่าวด้วยน้ำเสียงเหมือนหลอกล่อ“น้าสะใภ้ เสื้อผ้าของท่านสกปรกมากเช่นนี้ ใส่ออกไปเกรงว่าจะไม่เหมาะสมกระมัง? หมิงเฮ่าเซวียนเป็นฐานใหญ่ของข้า ข้างในมีเสื้อผ้าที่สวยงามหลากหลาย รับรองว่าท่านต้องชอบ!”ใต้ฟ้า จะมีผู้หญิงคนใดที่สามารถต้านทานเสน่ห์ของเงินทองไข่มุกอัญมณีและผ้าที่ดีที่สุด?มีผู้หญิงคนใดบ้างไม่รักงาม?“นอกจากเสื้อผ้าที่มาใหม่ ยังมีอัญมณี เครื่องประดับ หยกร้อน…ขอแค่ท่านชอบ ข้าซื้อให้ท่านทั้งหมด!” เขาตบหน้าอกอย่างใจป้ำ พร้อมทุ่มหมดตัวจินตนาการไม่ยาก เงินหนึ่งล้านตำลึงที่พ่อของเขาให้เขา น่าจะถูกผลาญจนหมดเช่นนี้เวลาเดียวกัน เขายิ่งคุยโม้เท่าไร ในใจฉู่เชียนหลียิ่งเกิดความสงสัยไม่มีปัญหาไม่เข้าวัดจู่ๆ ก็ใจดีเช่นนี้ ต้องมีแผนแน่นอน!ฉู่เชียนหลีมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาลึกซึ้ง เจตนายิ้มไปไม่ถึงส่วนลึกของแววตา“จะกล้าให้ท่านโหวน้อยสิ้นเปลืองได้อย่างไร ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นข้าไม่ออกไปเที่ยวแล้ว ข้าจะกลับไปรอที่จวน”“หยุดรถ!”“เอ๋…” หลิงเชียนอี้รีบดึงข้อมือของนาง “ไม่เปลี่ยนแล้ว ไม่เปลี่ยนแล้ว แล้วแต่ท่านเลย เหตุใดถึงยังโกรธด้วย”คุยกันแล้วว่
ภายในลานเรือนอันสวยงาม ท่ามกลางคุณหนูชนชั้นสูงมากมาย มีคุณหนูสวมชุดผ้าโปร่งสีชมพู และรูปร่างเพรียวบางคนหนึ่งล้มอยู่บนพื้น ฝ่ามือถลอก กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและมีผู้หญิงสวมชุดสีแดงเหมือนไฟ ระหว่างคิ้วเย่อหยิ่งเย็นชาคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้านาง ใบหน้าที่สวยงามอย่างยิ่ง คางที่เชิดขึ้นเล็กน้อย มีกลิ่นอายอันสูงศักดิ์ที่ไม่อาจล่วงเกินแผ่ซ่านตั้งแต่หัวจรดเท้าคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่——ฉู่หงหลวน!นางยกมือขึ้น โยนปิ่นปักผมฝังพลอยทับทิมที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ลงพื้น กล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา“หลิ่วซวงเสวีย เจ้าเป็นถึงลูกสาวของใต้เท้าหลิ่ว แต่กลับขโมยทรัพย์สินของข้า ใช้วิธีการที่ต่ำช้าเช่นนี้ ยังกล้าเพ้อฝันคิดจะเป็นพระชายารองรัชทายาทอีกหรือ?”มีเหล่าคุณหนูไม่น้อยมามุงดูหลิ่วซวงเสวียที่สวมชุดผ้าโปร่งสีชมพูส่ายศีรษะ“ข้าไม่ได้…ข้าไม่ได้ทำ…ไม่รู้ว่ามันมาอยู่ในกระเป๋าข้าได้อย่างไร ข้าไม่รู้…”“จะบอกว่ามันมีขา วิ่งไปอยู่บนตัวเจ้าเองอย่างนั้นหรือ?” ฉู่หงหลวนหรี่ตาหงส์ลง ความแหลมคมในแววตาบีบคั้นคนยิ่งนัก“ใครก็ได้ รีบไปเชิญใต้เท้าหลิ่วมา ให้เขามาดูให้ชัดเจนว่าลูกสาวตัวเองเป็นหัวขโมย!”เมื่อสิ้นน้ำเสียงที่