เฟิงเย่เสวียนถามตัวเอง เมื่อครู่นี้เขาไม่ได้พูดคำที่รุนแรงเลยแม้แต่ประโยคเดียว แล้วก็ยังแฝงไปด้วยทัศนคติที่ดี มาตามหาฉู่เชียนหลีด้วยความจริงใจ ไม่ได้มีเจตนาที่จะดุนางเขาสาบานรถม้ามาถึงจวนอ๋องเฉินไม่รอให้จอดสนิท ฉู่เชียนหลีก็เปิดม่าน กระโดดลงไป บุ้ยปากอย่างไม่พอใจ“ผู้ชายก็เป็นแบบนี้ทุกคน ให้แสงหน่อยก็สว่างไสวขึ้นมาเลย ทำไม ท่านพูดแค่ไม่กี่ประโยค ข้าก็ต้องรักท่านจนหัวปักหัวปำเลยอย่างนั้นหรือ? ถ้าเช่นนั้นข้าจะพูดบ้างสักสองประโยค...”เฟิงเย่เสวียนหูตั้ง “เจ้าพูดมาสิ! ข้ารออยู่”“...”ฉู่เชียนหลีค้อนเขาทีหนึ่งอย่างอารมณ์เสีย สะบัดก้น แล้วเดินเข้าไปในจวนสีหน้าของชายหนุ่มอ่อนโยน ริมฝีปากบางยกขึ้นแฝงไปด้วยรอยยิ้ม “เชียนหลี รอข้าด้วย”“เดินชักช้า ท่านขาเป๋หรืออย่างไร!”“...”หากวันใดเชียนหลีเหมือนสตรีนางอื่น รู้หนังสือรู้มารยาท ดูแลสามีสั่งสอนลูก อ่อนโยนสง่างาม สามีเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เชื่อฟังทำตัวดี...อย่าคิดเลยนอกเสียจากว่าฟ้าถล่มแต่เขาชื่นชอบท่าทางแยกเขี้ยวยิงฟัน หยิ่งผยองของนางมีเพียงหนึ่งเดียวน่ารักที่สุดดูดีชายหนุ่มเดินเอามือไพล่หลัง เดินตามด้านหลังช้า ๆ ฉู
ป้องกันคนเลว หรือป้องกันนางกันแน่?เพ่งเล็งเป้าหมายชัดเจนขนาดนี้?“กำแพงเรือนสูงพอแล้ว ถ้าหากจะเพิ่มความสูงอีกละก็ ก็คงบังแสงแดดแล้ว”“มาอาบแดดที่เรือนหานเฟิงของข้าเป็นอย่างไร?”ถุย!ทำไมไม่พูดตรง ๆ ไปเลย ว่าจะให้ไปอาบแดดบนเตียงนอนของเขา“อย่างมากก็เพิ่มความสูงครึ่งเมตร”“หนึ่งเมตร”“ครึ่งเมตร จะสูงกว่านี้ไม่ได้แล้ว”“ข้าไตร่ตรองถึงความปลอดภัยของเชียนหลี ถ้าหากวันหนึ่งมีนักฆ่าลักลอบเข้ามาจะอันตรายมาก ทำอะไรก็ควรระมัดระวังไว้ก่อน”“ถ้าเช่นนั้นกำแพงนี้ก็ไม่ต้องซ่อมแล้ว เปิดเอาไว้แบบนี้เถอะ ถ้าคนเลวมา จะได้สะดวกให้ข้าหนี”“...”พ่อบ้านเฒ่าที่อยู่ด้านข้างเห็นทั้งสองคนต่อปากต่อคำ พูดเร็วขึ้นเรื่อย ๆ พูดไปพูดมา ก็ทำท่าจะทะเลาะกันขึ้นมาอีก ปวดหัวขึ้นมาทันที รีบก้าวไปข้างหน้าราวกับเหาะ“พระชายา นี่คือแผนการซ่อมแซม เชิญท่านดู!”เฟิงเย่เสวียนขมวดคิ้ว มองพ่อบ้านเฒ่าเข้าข้างคนอื่น?พ่อบ้านเฒ่าแอบส่งสายตาให้เขา ท่านอ๋อง แค่มองก็รู้ว่าท่านเด็กเกินไป ไม่มีประสบการณ์ครอบครัวปรองดองสามัคคีในครอบครัวหนึ่ง ขอเพียงแค่ผู้หญิงมีความสุข ทั้งครอบครัวก็จะมีความสุขถ้าหากผู้หญิงไม่มีความสุ
ฉู่เชียนหลีชะงักเล็กน้อยถ้าหากว่าเลือกแล้ว...“เท่าที่รู้ รัชทายาทเป็นคนเจ้าชู้ ถึงแม้ว่าในจวนจะมีพระชายารัชทายาทอยู่แล้ว แต่กลับควบคุมนิสัยของเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ถ้าหากเขาเลือกคนที่ท่านแนะนำ อาจจะเป็นเพราะชื่นชอบจริง ๆ”“แต่ก็อาจจะเป็นเพราะ...มีแผนการอื่น”ถ้าหากนางเป็นรัชทายาท เป็นศัตรูคู่แค้นกับเฟิงเย่เสวียน ย่อมบีบคั้นคนทั้งหมดของเฟิงเย่เสวียนเลือกที่จะรับอนุ ก็ต้องยึดหลักที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองด้วยทันใดนั้น ก็ได้กลิ่นแผนการชั่วร้ายบางอย่างนางปิดสมุดที่อยู่ในมือ ส่งคืนให้พ่อบ้าน “เช่นนั้นก็อย่าแนะนำเลย ก็พูดว่าที่ท่านนี้ไม่มีตัวเลือกที่เหมาะสม เลือกพระชายารองไม่ใช่แต่งตั้งพระชายารัชทายาท คงจะไม่ได้เข้มงวดขนาดนั้น”ไม่เข้าร่วมเรื่องนี้ ต่อให้มีแผนการใหญ่กว่านี้ ก็เป็นแค่การคุยโวเฟิงเย่เสวียนกลับไม่ใช่ไม่คิดแบบนี้ แต่ฝ่าบาทได้ทรงตรัสแล้ว“เชียนหลีอาจจะยังไม่รู้ ฝ่าบาทอบรมสั่งสอนบรรดาองค์ชายตั้งแต่เด็ก พี่น้องปรองดอง ห้ามทะเลาะกัน ฆ่าแกงกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำล้วนเป็นคนกลาง เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง รวมทั้งครั้งนี้ด้วย”ถ้าหากเขาไม่แนะนำใครสักคน รัชทายา
เฟิงเย่เสวียนพยายามจะเผาไม้ให้ได้ ตบโต๊ะลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางที่มีอำนาจ สั่นสะเทือนจนคนใช้ทั้งหมดคุกเข่าลงบนพื้น หวาดกลัวเป็นอย่างยิ่งฉู่เชียนหลีเลียเศษขนมที่อยู่บนนิ้วมืออย่างใจเย็น ควักไม้พระราชทานออกมาท่าทีสบาย ๆ“...”เฟิงเย่เสวียนนั่งลงไปเงียบ ๆ มองบรรดาคนใช้ที่อยู่ด้านข้าง กล่าวสบถ“มัวอึ้งอะไรกันอยู่? ยังไม่รีบก่อกำแพงอีก!”“ขอรับ ๆ!”บรรดาคนใช้ตกใจรีบไปก่อกำแพงอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าพูดมากแม้แต่คำเดียวท่านอ๋อง ท่านรังแกพระชายาไม่ได้ ก็มาด่าพวกเราที่ยังเด็ก ไร้ความสามารถ ไร้ความรู้ น่าสงสาร ต้อยต่ำ จะมากเกินไปหน่อยหรือไม่...หลังจากผ่านไปสองเค่อเฟิงเย่เสวียนเดินกลับไปอย่างกลุ้มใจ ทันทีที่เขาจากไป เยว่เอ๋อร์ผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย ดึงพระชายามาพูดคุยด้วยความดีใจเล่าเรื่องนี่ เล่าเรื่องนั้น พูดไปพูดมา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรถึงได้คิดถึงหานเฟิงขึ้นมาคิ้วงามขมวดแน่นขึ้น“พระชายา ท่านคงไม่ทราบว่าองครักษ์ลับข้างกายของท่านอ๋องคนนั้นเกินไปขนาดไหน! เขาพูดว่า ท่านกับท่านอ๋องทะเลาะกัน ทั้งหมดเป็นความผิดของท่าน ยังจะให้ท่านขอโทษ ข้าควบคุมตัวเองไม่อยู่จริง ๆ จึงด่าเขาไปฉอดใหญ่”อง
ดวงตาหลิงเชียนอี้กลอกหนึ่งรอบ กล่าวด้วยน้ำเสียงเหมือนหลอกล่อ“น้าสะใภ้ เสื้อผ้าของท่านสกปรกมากเช่นนี้ ใส่ออกไปเกรงว่าจะไม่เหมาะสมกระมัง? หมิงเฮ่าเซวียนเป็นฐานใหญ่ของข้า ข้างในมีเสื้อผ้าที่สวยงามหลากหลาย รับรองว่าท่านต้องชอบ!”ใต้ฟ้า จะมีผู้หญิงคนใดที่สามารถต้านทานเสน่ห์ของเงินทองไข่มุกอัญมณีและผ้าที่ดีที่สุด?มีผู้หญิงคนใดบ้างไม่รักงาม?“นอกจากเสื้อผ้าที่มาใหม่ ยังมีอัญมณี เครื่องประดับ หยกร้อน…ขอแค่ท่านชอบ ข้าซื้อให้ท่านทั้งหมด!” เขาตบหน้าอกอย่างใจป้ำ พร้อมทุ่มหมดตัวจินตนาการไม่ยาก เงินหนึ่งล้านตำลึงที่พ่อของเขาให้เขา น่าจะถูกผลาญจนหมดเช่นนี้เวลาเดียวกัน เขายิ่งคุยโม้เท่าไร ในใจฉู่เชียนหลียิ่งเกิดความสงสัยไม่มีปัญหาไม่เข้าวัดจู่ๆ ก็ใจดีเช่นนี้ ต้องมีแผนแน่นอน!ฉู่เชียนหลีมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาลึกซึ้ง เจตนายิ้มไปไม่ถึงส่วนลึกของแววตา“จะกล้าให้ท่านโหวน้อยสิ้นเปลืองได้อย่างไร ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นข้าไม่ออกไปเที่ยวแล้ว ข้าจะกลับไปรอที่จวน”“หยุดรถ!”“เอ๋…” หลิงเชียนอี้รีบดึงข้อมือของนาง “ไม่เปลี่ยนแล้ว ไม่เปลี่ยนแล้ว แล้วแต่ท่านเลย เหตุใดถึงยังโกรธด้วย”คุยกันแล้วว่
ภายในลานเรือนอันสวยงาม ท่ามกลางคุณหนูชนชั้นสูงมากมาย มีคุณหนูสวมชุดผ้าโปร่งสีชมพู และรูปร่างเพรียวบางคนหนึ่งล้มอยู่บนพื้น ฝ่ามือถลอก กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและมีผู้หญิงสวมชุดสีแดงเหมือนไฟ ระหว่างคิ้วเย่อหยิ่งเย็นชาคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้านาง ใบหน้าที่สวยงามอย่างยิ่ง คางที่เชิดขึ้นเล็กน้อย มีกลิ่นอายอันสูงศักดิ์ที่ไม่อาจล่วงเกินแผ่ซ่านตั้งแต่หัวจรดเท้าคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่——ฉู่หงหลวน!นางยกมือขึ้น โยนปิ่นปักผมฝังพลอยทับทิมที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ลงพื้น กล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา“หลิ่วซวงเสวีย เจ้าเป็นถึงลูกสาวของใต้เท้าหลิ่ว แต่กลับขโมยทรัพย์สินของข้า ใช้วิธีการที่ต่ำช้าเช่นนี้ ยังกล้าเพ้อฝันคิดจะเป็นพระชายารองรัชทายาทอีกหรือ?”มีเหล่าคุณหนูไม่น้อยมามุงดูหลิ่วซวงเสวียที่สวมชุดผ้าโปร่งสีชมพูส่ายศีรษะ“ข้าไม่ได้…ข้าไม่ได้ทำ…ไม่รู้ว่ามันมาอยู่ในกระเป๋าข้าได้อย่างไร ข้าไม่รู้…”“จะบอกว่ามันมีขา วิ่งไปอยู่บนตัวเจ้าเองอย่างนั้นหรือ?” ฉู่หงหลวนหรี่ตาหงส์ลง ความแหลมคมในแววตาบีบคั้นคนยิ่งนัก“ใครก็ได้ รีบไปเชิญใต้เท้าหลิ่วมา ให้เขามาดูให้ชัดเจนว่าลูกสาวตัวเองเป็นหัวขโมย!”เมื่อสิ้นน้ำเสียงที่
ทันใดนั้นเขาก็โน้มตัวไปด้านข้าง ขยับเข้าใกล้ฉู่เชียนหลี กล่าวถาม“ตอนนั้นท่านกับเซียวจือฮว่าก็สู้กันอย่างเจ้าตายข้าอยู่ใช่หรือไม่ ต่อมาท่านเอาชนะเซียวจือฮว่าสำเร็จ ก็เลยได้ท่านน้าข้าไปครอบครอง?”เจ้าเด็กคนนี้ ทั้งวันทั้งคืน ในสมองกำลังคิดอะไรอยู่นะ?ฉู่เชียนหลีมองเขาแวบหนึ่ง ให้เขาไปสัมผัสด้วยตนเองนางไม่มีความสนใจต่อกันแย่งชิงความโปรดปรานของผู้หญิง ตอนที่เตรียมกระโดดลงจากกำแพง หางตาเหลือบไปเห็นร่างเงาที่เพรียวบางสายหนึ่งโดยไม่ตั้งใจเป็นผู้หญิงที่แต่งกายสะอาดสะอ้านและถ่อมตน นางนั่งอยู่บนม้านั่งของโถงทางเดิน ก้มศีรษะ อยู่เงียบๆ ไม่สุงสิงกับใครทุกคนล้วนแต่งหน้าทาปากอย่างสวยงาม หวังเพียงรัชทายาทชายตามอง นางกลับแต่งกายธรรมดามากเมื่อครู่ ตอนที่ฉู่หงหลวนสั่งสอนหลิ่วซวงเสวีย ทุกคนต่างมามุงดู มีเพียงนางที่นั่งเงียบๆ อยู่ตรงนั้นมาโดยตลอด ราวกับว่าไม่สนใจใครเลยนางถามกะทันหัน“นั่นใคร?”หลิงเชียนอี้มองไปตามทิศทางที่นางมอง ครุ่นคิดสองวินาที “รู้สึกว่าจะเป็นหลานสาวของใต้เท้าเว่ย”พูดจบ ก็พูดเสริมอีกหนึ่งประโยค“ใต้เท้าเว่ยเป็นผู้ช่วยของน้าข้า นางน่าจะเป็นคนที่ท่านน้าแนะนำ”เอ๋?เฟ
ไม่มีความคิดชั่วๆ?ตั้งแต่ออกมาจากจวนอ๋องเฉิน เขาก็เกลี้ยกล่อมนางให้เปลี่ยนและซื้อเสื้อผ้าไม่หยุด เมื่อครู่ยังคิดจะถีบนางตกน้ำ บีบให้นางจำเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ยังกล้าบอกว่าตนเองไม่มีความคิดชั่วๆ?ฉู่เชียนหลีมองดูเขาที่อยู่ในน้ำอย่างยิ้มแย้ม ถามอย่างใจดี“เจ้าเด็กน้อย เจ้าคิดว่าข้าเชื่อหรือไม่?”นางเผยให้เห็นรอยยิ้มที่มีเมตตา อ่อนโยน สุขุม เป็นมิตรและเข้าถึงง่ายรอยยิ้มนี้สะท้อนเข้าไปในดวงตาของเด็กหนุ่ม ทำให้ร่างกายเขาสั่นสะท้าน ทันใดนั้นยิ่งรู้สึกหนาวแล้ว…จบแล้วฉู่เชียนหลีไม่ได้เป็นคนหลอกง่ายทั้งหมดนี้ต้องโทษท่านน้า!ท่านน้าบอกว่ามีไม้ซ่อนอยู่บนตัวฉู่เชียนหลี มันส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาอย่างมาก หวังว่าเขาจะยอมเสียสละตนเองอย่างกล้าหันเพื่อความรักของเขาถ้าหากบอกฉู่เชียนหลี ทำลายความสัมพันธ์ของฉู่เชียนหลีกับท่านน้า เช่นนั้นเขาก็คือคนบาปแล้วหากไม่พูด ฉู่เชียนหลีก็จะเชือดเขาโผล่หัวหดหัวก็ต้องตาย!เชี่ย!ตอนที่หลิงเชียนอี้กำลังกลัดกลุ้ม สมองแล่นฉับพลัน “เป็นฝีมือของท่านน้าข้า!”“ท่านน้าบอกให้ข้าหาวิธีเอาขนาดของท่านมา เขาจะทำเสื้อผ้าให้ท่าน!”ข้ออ้างม