หุบปาก!หุบปากนะ!โอ๊ย!ข้าแค่สูดลมเย็นเข้าปอด ไม่ได้สั่งให้เจ้าสารภาพละเอียดเช่นนั้น เจ้าลูกสาวดวงกินพ่อ! เจ้าลูกสาวทรพีที่ไม่เอาถ่าน!ข้าจะถูกเจ้าฆ่าตายแล้ว!หลี่ปิงพูดจบ ยกสายตาที่ขี้ขลาดแต่เป็นห่วงขึ้น มองไปทางบิดา กล่าวเสียงเบา“ท่านพ่อ ท่านให้ลูกพูด ลูกเชื่อฟังท่าน…”ผู้ว่าการหลี่ “...”ตั้งแต่สิบห้าปีก่อน ข้าไม่ควรให้เจ้าเกิดมา ถึงตอนนี้ ความจริงถูกเปิดเผยแล้ว!ความจริงเกิดตาลปัตรร้อยแปดสิบองศาหลังจากบรรดาแขกเข้าใจสาเหตุของเรื่องนี้แล้ว ต่างพากันรุมตำหนิผู้ว่าการหลี่“เกือบเข้าใจผู้ตรวจการถังผิดแล้ว ที่แท้คนโฉดชั่วทะเยอทะยานคือเจ้า! และเจ้ายังคิดหวังตำแหน่งผู้ตรวจการอีก!”“คิดไม่ถึงว่าความมีคุณธรรม เมตตา และเป็นมิตรตลอดหลายปีมานี้ของเจ้า ล้วนเป็นการเสแสร้ง เจ้าจึงจะเป็นเพชฌฆาตที่ฆ่าคนไม่เห็นเลือด!”“เหตุใดเซียงหนานของเราจึงมีผู้ว่าการอย่างเจ้า!”“ถุย!”พวกเขารุมสาปแช่งผู้ว่าการหลี่ ผู้ว่าการหลี่ยืนหน้าซีดอยู่ตรงนั้น จบแล้ว และไม่อธิบายแล้ว สวรรค์ถล่มแล้ว จบสิ้นทั้งชีวิตแล้ว…สุดท้าย สองพ่อลูกผู้ว่าการหลี่ถูกคุมตัวลงไป บรรดาแขกถูกสั่งให้แยกย้าย จบงานตอนที่หลี
ฉู่เชียนหลีโกรธมาก และไม่อยากสนใจเฟิงเย่เสวียนเฟิงเย่เสวียนเคาะประตูอยู่ข้างนอกอย่างขันแข็ง“เชียนหลีอย่าโกรธเลย ข้าไม่ได้ตั้งใจ แรกเริ่มข้าแค่สงสัยผู้ว่าการหลี่มีความเมตตามากเกินไป เมตตาจนไม่มีชื่อเสียงเสียๆ หายๆ เมตตาจนสมบูรณ์แบบจนน่าประหลาด จึงสั่งให้หานเฟิงแอบตรวจสอบ…”“ข้าไม่รู้อะไรล่วงหน้าเลย”“เชียนหลี เปิดประตู…”ฉู่เชียนหลีล้มลงบนเตียง กำผ้าห่ม สีหน้าบูดบึ้ง ท่าทางนั้น ไม่ต้องพูดถึงว่าโกรธมากแค่ไหนทั้งที่เขารู้อยู่แล้วว่าผู้ว่าการหลี่มีพิรุธ!แต่กลับไม่บอกนาง!เกินไปแล้ว!ปั่นหัวนางในเมื่อเป็นเช่นนี้ ยังจะเรียกนางมาลาดตระเวนทางใต้เพื่ออะไร เหตุใดจึงไม่มาคนเดียว?จริงๆ เลย!เฟิงเย่เสวียนตะโกนเรียกอย่างขันแข็งอยู่พักใหญ่ ประตูก็ไม่เปิดเสียที ทว่ากลับทำให้คนที่เดินผ่านข้างนอกมองด้วยสายตาแปลกๆก็ไหนบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างอ๋องเฉินกับพระชายาอ๋องเฉินดีมาก ทะเลาะกันเล็กน้อยไม่ส่งผลกระทบไม่ใช่หรือ?ผู้ชายที่เรียกเปิดประตูอย่างขันแข็งคนนั้นเป็นใคร?หานเฟิง “แค่ก!”เหล่าคนรับใช้ “...”ต่างก็ก้มศีรษะ เดินจากไปอย่างเร่งรีบ ไม่กล้าดูเยอะอีกหานเฟิงยืนอยู่นอกประตูเรือน
จวนผู้ตรวจการบนศาล ทหารยืนซ้ายและขวาสองฝั่ง ถืออาวุธในมือ ร่างกายตั้งตรง สายตามองไปข้างหน้า แผ่นป้ายที่แกะสลักตัวอักษรขนาดใหญ่ ‘ศาลเที่ยงธรรม’ สี่คำแขวนอยู่กลางศาลบนบัลลังก์ ตำแหน่งเก้าอี้หลักถูกเว้นว่าง ผู้ตรวจการถังสวมชุดขุนนาง นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างใต้ศาล มีชาวบ้านหลายสิบคนยืนอยู่ตรงนั้นพวกเขามีทั้งชายและหญิง ถือหนังสือร้องเรียนไว้ในมือ เบ้าตาแดงก่ำ เม้มริมฝีปากแน่น แทบรอไม่ไหวที่จะได้ร้องเรียนแล้วพวกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม!ตอนฉู่เชียนหลีมาถึง เห็นผู้ตรวจการถังนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น เหล่าชาวบ้านกำลังรอ “เหตุใดจึงไม่เปิดศาล?”ผู้ตรวจการถังรีบลุกขึ้นยืน “คำนับพระชายาอ๋องเฉิน”ฉู่เชียนหลีเดินอ้อมโต๊ะ ไปนั่งลงบนเก้าอี้หลัก แล้วมองชาวบ้านที่อยู่ข้างล่าง พลันกล่าวเสียงดัง“ตอนนี้อ๋องเฉินมีงานอย่างอื่นต้องไปทำ พวกเจ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมอะไร พูดมาทีละอย่าง ข้าแก้ปัญหาให้พวกเจ้าเอง ไม่ได้รับความเป็นธรรมคืนความเป็นธรรม มีความเกลียดชังกำจัดความเกลียดชัง”บรรดาแถวบ้านได้ยินคำพูดนี้ ต่างมองนางด้วยสายตาสับสน สงสัย และคาดคะเนให้ผู้หญิงมาตัดสินคดี ทำได้จริงหรือ?ตั้งแต่
“พระชายาอ๋องเฉินโปรดเมตตา ช่วยข้าน้อยตามหาเป่าเอ๋อร์กลับมา ข้าน้อยยินดีมอบข้าวโพดสองร้อยชั่งเป็นการตอบแทน!”ชายวัยกลางคนเบ้าตาแดงก่ำ ร้องขออย่างจริงใจครอบครัวของเขาเป็นชาวนาทุกชั่วอายุคน ทำนาเลี้ยงชีพ เมื่อไม่มีควาย ก็ไม่สามารถปลูกข้าว เท่ากับเป็นการตัดทางรอดของพวกเขา เอาชีวิตของพวกเขาฉู่เชียนหลีรู้ถึงความลำบากและต่ำต้อยของราษฎรที่ใช้แรงงานของยุคโบราณเป็นอย่างดีแม้แต่ควายก็ขโมย ยังมีความเป็นมนุษย์หรือไม่?“เจ้าอย่าเพิ่งรีบร้อน หน้าตาเป่าเอ๋อร์ของเจ้าเป็นอย่างไร พันธุ์อะไร น้ำหนักส่วนสูงประมาณเท่าไร บอกรายละเอียดบางส่วนกับข้า ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ชายวัยกลางคนรีบกล่าว “เป่าเอ๋อร์เป็นควายแก่อายุแปดปีกว่า ขนของมันเป็นสีขาว…”เขาพูด ฉู่เชียนหลีจดหลังจากพูดจบ ผู้ตรวจการถังพาคนไปตรวจค้นทั่วเมืองทันทีเรื่องนี้ถูกพักไว้ชั่วคราว ถึงคราวคนที่สอง เป็นหญิงชราผมหงอกอายุหกสิบกว่า นางใช้ไม้เท้าพยุง เท้าขาเดินเหินไม่สะดวก หลังค่อม ดวงตาที่ขุ่นมัวทั้งคู่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า“พระชายาโปรดคืนความยุติธรรม คืนความสงบสุขให้กับครอบครัวของเราด้วย…”ฉู่เชียนหลีเว้นพิธีรีตองของนาง สั่งคนไปยกเก้า
ตาย…สายตาของฉู่เชียนหลีขรึมลงทันที ดูเหมือนว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรที่นางไม่รู้…เหลือบมองผู้ว่าการหลี่ที่อยู่ในห้องขัง“หากเจ้าบอกข้าว่าเฟิงเย่เสวียนไปที่ไหน บางทีข้าอาจสามารถคิดวิธีลดโทษของเจ้าให้เบาลง”“ฮ่าๆ ฮ่าๆๆ!”ผู้ว่าการหลี่ราวกับได้ยินเรื่องที่ตลกที่สุดในโลกลดโทษ?เขาคิดร้ายต่อผู้ตรวจการ ยักยอกทรัพย์มหาศาล เขากำลังจะเผชิญโทษเช่นไร เขารู้อยู่แก่ใจ มันใช่สิ่งที่คำพูดประโยคเดียวของฉู่เชียนหลีก็สามารถเว้นโทษได้หรือ?ว่าไปก็ต้องโทษฉู่เชียนหลี!หากไม่ใช่ฉู่เชียนหลีกระชากเขาออกมา เขาก็ไม่ถูกเปิดโปง และยิ่งไม่มีทางตกอับถึงขั้นนี้นางแพศยาน้อยคนนี้!เขาไม่มีความสุข นางก็อย่าคิดมีความสุข!“ในเมื่อเจ้าอยากรู้ ข้าบอกเจ้าก็ได้!” ผู้ว่าการหลี่แสยะยิ้ม กล่าวอย่างชั่วร้าย “เมื่อคืนอ๋องเฉินมาถามที่อยู่ของหมอผีอวี๋เจวี๋ยจื่อกับข้า”“หมอผีอวี๋เจวี๋ยจื่อ ขึ้นชื่อว่าเป็นคนบ้าในยุทธภพ เขามีทักษะการแพทย์ที่น่าตกใจ ขณะเดียวกันก็มีอารมณ์ที่ฉุนเฉียวเหมือนดินปืน ทุกครั้งที่เขาช่วยคนหนึ่งคน ก็จะฆ่าคนหนึ่งคน มีชื่อเสียงด้านความโหดเหี้ยม!”ครั้งหนึ่ง มีพ่อค้าที่ร่ำรวยคนหนึ่งมาขอให้เขารักษา
อ๋องหลี?!พลันฉู่เชียนหลีอึ้ง มองผู้ชายตรงหน้า ตะลึงงันไปชั่วขณะที่แท้เขาก็คือองค์ชายห้าผู้ถูกทอดทิ้งที่ชาวบ้านพูดถึง มารดาผู้ให้กำเนิดเป็นนางกำนัลที่มีสถานะต่ำต้อย ไม่เป็นที่ต้อนรับของฮ่องเต้ และยังมีสัญญาหมั้นหมายกับฉู่เจียวเจียว——เฟิงเจิ้งหลีที่แท้เป็นเขา!ก่อนหน้านี้ฟังชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์ และเยว่เอ๋อร์ก็พูดถึง นางยังคาดเดาว่าตกลงอ๋องหลีคนนี้เป็นคนอย่างไร คิดไม่ถึงว่าจะเคยเจอกันนานแล้ว“พระชายา ท่านไม่เป็นอะไรกระมัง?”เสียงถามด้วยความเป็นห่วงของหานเฟิงดึงความคิดฉู่เชียนหลีกลับมา นางรีบถอยออกจากอ้อมแขนของอ๋องหลี“ข้าไม่…ซี้ด!”เจ็บข้อเท้ามาก“อย่าขยับ!” อ๋องหลีกดไหล่ของนางให้นั่งลงบนพื้นหญ้า แล้วเลิกกระโปรงนางขึ้นข้อเท้าขวาแดงก่ำ“น่าจะโดนเชือกป่านของกับดักเมื่อครู่บาด”นางถูกเลี้ยงดูในเรือนส่วนหลังตั้งแต่เด็ก ผิวพรรณขาวละเอียดอ่อน เชือกถูกับหนังก็ถลอกแล้ว มีรอยเลือดจางๆ ผุดออกมาอ๋องหลีรีบหยิบเช็ดหน้าผืนหนึ่งออกจากหน้าอก พันข้อเท้าของนางไว้ เขาพันสองรอบ แล้วเงื่อนอย่างเบามือผ้าเช็ดหน้าผืนนี้…ฉู่เชียนหลีจำได้ในปราดเดียวตอนนั้น ในคืนวันงานเลี้ยงฉลองชัย ครั้งแรก
ฉู่เชียนหลีตะลึงงันไปครู่หนึ่ง พริบตานั้นเข้าใจอะไรบางอย่าง หันไปจ้องตาเฟิงเย่เสวียนฉับพลัน“เจ้า…”หากเดาไม่ผิด ชายชราท่านนี้ก็คือหมอผีอวี๋เจวี๋ยจื่อที่มีชื่อเลื่องลือในยุทธภพเมื่ออ่อนโยน เป็นพระโพธิสัตว์เดินดินที่ช่วยชีวิตคน แม้เป็นยมบาลก็อย่าคิดแย่งคนไปจากมือเขา ทักษะการแพทย์อยู่เหนือฮัวถลอตอนยังมีชีวิตเมื่อฉุนเฉียว ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายผู้หญิง หรือคนดีคนชั่ว บอกฆ่าก็ฆ่า ไม่แม้แต่จะกะพริบตา ยิ่งไม่มีทางปรานีแม้แต่น้อยครึ่งคนครึ่งผี ผู้คนได้ยินแล้วเกิดความหวาดกลัวที่แท้เฟิงเย่เสวียนมาหาหมอผีเพื่อนาง?“เฟิงเย่เสวียน เจ้า…”เขากลับไม่ยอมบอกนาง!“เชียนหลี ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถมีชีวิตที่ดีกว่านี้” เฟิงเย่เสวียนจ้องนาง “หลายปีมานี้ เพราะปานบนใบหน้าของเจ้า เจ้าถูกต่อว่าและเยาะเย้ยไม่รู้เท่าไร”“แม้ปากของเจ้าไม่พูด แต่ผู้หญิงทั่วหล้ามีใครบ้างที่ไม่ชอบรูปโฉมอันสมบูรณ์แบบ?”เกือบสองเดือนที่ผ่านมา เขาตามหาที่อยู่ของหมอผีมาโดยตลอดสวรรค์เมตตาผู้ที่มีความมุ่งมั่นเสมอ ภายใต้การสืบหาห้าสิบกว่าวันโดยไม่หยุดพักขององครักษ์ลับ ในที่สุดก็เจอเบาะแสของหมอผีเดิมทีเขาตั้งใจเดินทางมาขอยากับห
ท้ายที่สุด ฉู่เชียยนหลีก็เดินตามเข้าไปแล้วภายในกระท่อมไม้เรียบง่ายมาก เตียง โต๊ะเก้าอี้ ตู้ล้วนทำด้วยมือ มีขวดยาและขวดโหลสมุนไพรวางเต็มไปหมด กลิ่นหอมของยานั้นฉุนมากชายชราที่ผอมจนรูปร่างบิดเบี้ยวนั่งอยู่บนเก้าอี้ แผ่นหลังที่เล็กมากก็โค้งงอลงไป เหมือนคนแคระมากตั้งแต่ฉู่เชียนหลีเข้ามา สายตาที่แปลกประหลาดนั่นก็เอาแต่จ้องอยู่บนร่างกายฉู่เชียนหลีปิดประตูปิดหน้าต่างนั่งลงสายตาของเขาไม่ยอมละจากนางแม้แต่ปราดเดียว แปลกประหลาดจนทำให้รู้สึกหนังศีรษะชา อยากหนีออกไปทว่าฉู่เชียนหลีเพียงแค่ขมวดคิ้ว นางนั่งนิ่งๆ ปล่อยให้มองตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างใจกว้างจ้องไปจ้องมา…พักใหญ่ไม้เท้าของชายชรายันอยู่บนพื้น สองมือจับไม้เท้า เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง“นังหนูน้อย เจ้าไม่กลัวข้า?”เสียงนั่นฟังแล้วเหมือนนำมีดที่ขึ้นสนิมไปลับกับเสา เสียงที่แหลมมากนั่นทำให้แสบแก้วหูฉู่เชียนหลียิ้มอย่างสุขุม“คนโบราณพูดได้ดี ตัดสินคนจากรูปลักษณ์เป็นเรื่องที่ผิดมหันต์”“สวรรค์นั้นยุติธรรมเสมอ มอบความฉลาดที่เกินคนให้ ก็จะไม่มอบเงื่อนไขที่ได้เปรียบ มอบสถานะอันสูงศักดิ์ให้ ก็จะไม่มอบครอบครัวที่อบอุ่น ก็อย่าง