ดวงตาของชายหนุ่มชะงักทันทีหย่า...หย่า...นางเดินทางมาไกลเช่นนี้ ที่แท้ไม่ใช่เพื่อเขา แต่กังวลว่าหากเขาตายแล้วจะเขียนหนังสือหย่าไม่ได้คำพูดที่นางเคยกล้าเพียงแค่เก็บงำเอาไว้ในใจ ตอนนี้กล้าพูดออกมาตรง ๆ แล้ว แต่เขาไม่ได้ดีใจมากเขาที่เคยคิดอยากจะหย่านางทุกขณะ ตอนนี้มีโอกาสแล้ว แต่เขากลับไม่ค่อยยินดีเท่าใดนักเฟิงเย่เสวียนเม้มริมฝีปากอย่างอ่อนแอ ค้ำพื้นหญ้าเอาไว้ นั่งตรงตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่กำจัดพิษแล้ว ก็ไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไร มีเพียงแค่อาการอ่อนแอเล็กน้อยเท่านั้นเขากระแอมสองที “ข้ารู้ว่าเจ้ายังโมโหอยู่...”“ข้าไม่ได้โมโห ข้าใจกว้างมาก ข้ามีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มาก จนเรือสามารถกลับลำในท้องข้าได้[footnoteRef:1] ท่านอ๋องไม่ต้องคิดมาก แล้วก็ไม่ต้องระแวง ท่านอย่าได้ใช้ความคิดของท่านมาตัดสินข้าตามอำเภอใจ ขอบคุณ ใบหน้าข้าเขียนคำว่าดีใจอยู่เต็มไปหมด” [1: มีน้ำใจ ใจกว้าง] เขาเพิ่งจะพูดเพียงประโยคเดียว และยังพูดไม่จบประโยคด้วยซ้ำ ก็ถูกแย้งด้วยถ้อยคำมากมายจุกอยู่ในลำคอจ้องมองใบหน้าที่ ‘ดีใจ’ เป็นอย่างยิ่งจริง ๆ ของหญิงสาว ราวกับว่าขอเพียงแค่เขาพูดอีกเพียงหนึ่งประโยค นางจะย
ฉู่เชียนหลีเอ่ยปากกล่าว “ท่านอ๋องช่างเป็นคนที่ซื่อสัตย์จริงใจเสียจริง ท่านคำนึงถึงประชาชนเช่นนี้ ถึงยอมเสียสละให้ร่างกายตนเองบาดเจ็บ ชาวบ้านได้รู้จะต้องซาบซึ้งใจยิ่งเป็นแน่”“ข้าเองก็ซาบซึ้งใจมากเช่นกัน ท่านช่างมีน้ำใจยิ่งนัก ผู้ชายที่จิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ล้วนมีเสน่ห์ยิ่ง”นางกะพริบดวงตาสีดำขลับทั้งสองข้าง สีหน้านั้น น้ำเสียงนั้น จริงใจเป็นอย่างยิ่งเฟิงเย่เสวียนไม่เชื่อแม้แต่คำเดียวในเวลาเดียวกัน ก็ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจนาง ได้ยินนางด่าเขาเหมือนเช่นก่อนหน้านี้ คิดไม่ถึงว่าจะรู้สึกดีใจ...ที่ไม่ได้มีมานานมากแล้วหานเฟิงพูดแทรกกลั้วหัวเราะ “ถูกต้อง ๆ พระชายา นายท่านดีขนาดนี้ ท่านก็อย่าหย่ากับเขาเลย”พลาดจากนายท่านไป ใต้หล้านี้ จะหาผู้ชายดีขนาดนี้ได้จากที่ไหนอีก?ฉู่เชียนหลีเหลือบตามองเขาอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง “หานเฟิง เจ้าฉลาดมากจริง ๆ”——ฉันกำลังด่าเฟิงเย่เสวียนว่าโง่ ฉันชื่นชมเขาเหรอ? เมื่อกี้ฉันกำลังชื่นชมเขาเหรอ?ทันทีที่หานเฟิงได้ยิน ก็ยิ้มอย่างดีใจยิ่งกว่าเดิม“ขอบคุณพระชายาที่ชื่นชม ขอบคุณพระชายา!”“...”เฟิงเย่เสวียนรู้สึกหงุดหงิด ทันใดนั้นก็ยกเท้าเตะเข้าไปที่ก้นของห
ชายหนุ่มหาบน้ำสองหาบขึ้น หลังจากเดินออกไปไม่กี่ก้าวอย่างมั่นคง ราวกับสังเกตได้ถึงอะไรบางอย่างจึงหันหน้ากลับไปมอง เห็นว่าหญิงสาวยังยืนอยู่ที่เดิม จ้องมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตื้นตันใจริมฝีปากบางยกขึ้นเล็กน้อยเขาบอกแล้วว่า จะทำให้นางรักเขาให้ได้ในหนึ่งเดือน ฉู่เชียนหลี ‘น้ำนี่ก็ควรเป็นนายที่ต้องหาบอยู่แล้วไหม? เป็นนายที่ต้องการปราบโจร เป็นนายที่มีคำสั่งของฮ่องเต้ติดตัว ฉันยังเห็นแก่หนังสือหย่าถึงได้มาช่วยงานนายต่างหาก’เฟิงเย่เสวียน “...”ห่างไปไม่ไกลนัก หานเฟิงที่ปลอมตัวเรียบร้อยแล้วก็หาบน้ำถังหนึ่งเดินมาหา“นายท่าน พระชายา ออกเดินทางได้แล้ว ลูกกระจ๊อกพวกนั้นขึ้นเขาไปหมดแล้ว เหมือนว่าจะเป็นน้ำเที่ยวสุดท้ายแล้ว”ฉู่เชียนหลี “รีบไป”เฟิงเย่เสวียนที่คิดเข้าข้างตัวเองเม้มริมฝีปากบาง ไม่คิดมากอีก หาบน้ำสองถังไว้ที่บ่าอย่างมั่นคง เดินขึ้นเขาไปตามทางที่พวกลูกกระจ๊อกเหยียบย่ำเอาไว้เส้นนั้นเมื่อสวมเสื้อผ้าของโจรภูเขา ทาผิวจนดำ แปะหนวดเครา แต่งกายจนแม้กระทั่งมารดายังจำไม่ได้ การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นตลอดทางขึ้นเขาตอนที่ใกล้จะถึง เฟิงเย่เสวียนนำถังน้ำให้แก่ฉู่เชียนหลี
“เอาผักมานี่!”ลูกกระจ๊อกคนหนึ่งตะคอก ฉู่เชียนหลีรีบเรียกสายตากลับคืนมา ยกตะกร้าผักเดินไปที่ข้างเตา ก้มหน้าก้มตาเป็นลูกมือเงียบ ๆในเวลาเดียวกันก็ได้ยินพวกลูกกระจ๊อกคุยกัน“ปล้นตัวมาได้อีกชุด ได้ข่าวมาว่าเป็นพ่อค้ารวย มีเงินค่อนข้างมาก ยังมีผู้หญิงสาวที่สวยมากอีกคนด้วย...”“ขนาดอ๋องเฉินยังทำอะไรพวกเราไม่ได้ ยังมีใครหน้าไหนกล้าก้าวก่ายเรื่องของภูเขากว่างหนิงของพวกเราอีก?”“ก็ใช่นะสิ!”ฉู่เชียนหลีหูผึ่ง แอบฟังพวกเขาคุยกันเงียบๆ ได้ข้อมูลจากบทสนทนาของพวกเขาไม่น้อยฟังไปฟังมาก็เหลือบเห็นร่างที่ซูบผอมแวบหนึ่งอย่างบังเอิญเป็นหนุ่มน้อยคนหนึ่งเขาสวมเสื้อผ้าบาง ๆ ยืนหั่นผักอยู่ตรงมุมเงียบ ๆ บนร่างกายสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งตัวหนึ่ง ผิวที่เผยให้เห็นมีลักษณะบวมแดง เต็มไปด้วยบาดแผล มุมปากมีสีม่วงปื้นใหญ่ฉู่เชียนหลีขมวดคิ้วเล็กน้อย อาศัยตอนที่ล้างผัก ขยับเข้าไปใกล้หนุ่มน้อยแบบเนียน ๆ“ข้าช่วยเจ้า...”“อย่าตีข้า!”ทันทีที่เข้าใกล้ หนุ่มน้อยก็ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นราวกับลูกนกที่ตกใจ ป้องกันศีรษะของตนเองเอาไว้ ตกใจไม่น้อย“ไม่ต้องกลัว”เมื่อฉู่เชียนหลีเห็นมือที่ค่อนข้างนุ่มนวลของเขา ท่าท
ทันทีที่พูดจบ ก็ถูกชายหนุ่มดึงหูเอาไว้“เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” ชายหนุ่มหรี่ดวงตาดำขลับ น้ำเสียงเบาไหลล้นออกมาจากในลำคอของเขา เจืออันตรายที่เย็นยะเยือกฉู่เชียนหลี “เจ็บ...”ติ่งหูของนางแดงหมดแล้วชายหนุ่มเหลือบตามองแวบหนึ่ง ติ่งหูแดงก่ำ สัมผัสลื่นมือ ทันใดนั้นสายตาก็เคร่งขรึมขึ้น ตอนที่เอ่ยปากกล่าวขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงจริงจังขึ้นไม่น้อย“จะให้ข้าใส่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้”เขาบีบติ่งหูอันนุ่มนิ่มของนางอีกครั้ง ถึงคลายมือออกฉู่เชียนหลีดวงตาเปล่งประกายทันทีชายหนุ่ม “แต่ว่าไม่ใช่วันนี้”“...”—— ‘เชอะ ก็แค่พูดอย่างนั้นแหละ เสแสร้งแกล้งทำ แค่ดูก็รู้ว่าขู่’เฟิงเย่เสวียนเม้มริมฝีปาก “ตอนนี้เป็นเวลาอาหารเช้า แล้วก็เป็นเวลาที่คนพวกนี้เปลี่ยนเวรกัน จำนวนคนค่อนข้างมาก เคลื่อนไหวให้เหมาะสมจะไม่เป็นที่สังเกต”“เพื่อประหยัดเวลา เริ่มดำเนินการตอนนี้เลย”“ได้”นี่เป็นครั้งแรกที่ทำ ‘ภารกิจ’ ที่ชอบธรรม กระตือรือร้น แสวงหาความเจริญก้าวหน้า และยังแฝงไปด้วยอันตรายและตื่นเต้น นับตั้งแต่ฉู่เชียนหลีทะลุมิติมา ก่อนหน้านี้เพียงแค่เห็นในโทรทัศน์ ตอนนี้มาสัมผัสกับสถานการณ์จริง อดไม่ได้ที่จะเกิดอารมณ์อยา
หลังจากฉู่เชียนหลีรับมา ถึงพบว่าไม่รู้ที่อยู่ของพี่หู่ กำแส้สีดำในมือเอาไว้แล้วกระซิบถามเฟิงเย่เสวียน“ในฐานะที่เป็นโจรภูเขา หากไม่รู้แม้กระทั่งที่อยู่ของลูกพี่ จะมีพิรุธหรือไม่?”ชายหนุ่มอื่มเสียงหนัก อารมณ์ชะงักไปเล็กน้อยผ่านไปครู่หนึ่ง ชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง“ไปทางด้านนี้ สามสิบเมตร หลังที่สองของทางทิศตะวันออก”“ท่านรู้ได้อย่างไร?”“เมื่อครู่พวกเราเดินวนรอบหนึ่ง การป้องกันรักษาของที่นั่นเข้มงวดที่สุด เวลาไม่คอยท่า ข้าจะไปที่นั่นกับเจ้า”ฉู่เชียนหลีพยักหน้า สาวเท้าเดินไปทางด้านนั้น ยังไม่ลืมที่จะกล่าวชม “ท่านฉลาดจริง ๆ”“...”เห็นได้ชัดว่าเจ้าสะเพร่าแม้แต่ภาพแผนที่เจ้ายังวาดออกมาได้ เพียงแค่นำห้องครัว ห้อง ห้องเก็บของ ที่อาศัยของพวกลูกกระจ๊อกต่าง ๆ ตัดทิ้งทีละหนึ่ง ก็จะเจอที่อยู่คร่าว ๆ ของพี่หู่ได้ไม่ยากมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ชายหนุ่มชี้ ก็เป็นที่อยู่อาศัยของหัวหน้าโจรภูเขาจริง ๆที่นี่ลูกกระจ๊อกค่อนข้างเยอะ แต่ว่าทั้งสองคนมี ‘ป้ายคำสั่งพิเศษ’ จึงราบรื่นมาตลอดทาง เพียงแต่ ทันทีที่เข้าใกล้บ้านไม้หลังหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องที่น่าเวทนาทันที“ขอร้องเจ้าปล่อยข้าไป...อ๊
“อึก!”ดวงตาทั้งสองข้างของผู้ชายเบิกกว้าง ฝ่ามือใหญ่อันหยาบกร้านจับหัวไหล่ของฉู่เชียนหลีเอาไว้ พยายามดึงข้ามหัวไหล่แล้วทุ่มลงไปฉู่เชียนหลีใช้ปลายรองเท้าเกี่ยวข้อเท้าของผู้ชายเอาไว้ อาศัยแรงค้ำยันร่างกายของตนเองเอาไว้ แล้วใช้มือข้างที่ว่าง คลำกระดูกสันหลังท่อนที่บริเวณแผ่นหลังของเขาอย่างรวดเร็วจับเอาไว้ แล้วกดลงไป แล้วยกขึ้นอย่างแรงกร๊อบ!“โอ๊ย!”ร่างกายอันกำยำของผู้ชายสั่นเทาอย่างรุนแรง ทันในนั้นก็ล้มลงไปบนพื้นราวกับกระดูกทั้งร่างกายถูกดึงออกไปหมด แล้วหมดสติไปกระดูกชิ้นนี้ของร่างกายมนุษย์เป็นบริเวณที่เชื่อมต่อกับเส้นประสาทมากที่สุด และไวต่อความรู้สึกที่สุด กดบริเวณจุดนี้ กดเบาก็แค่เป็นลม กดแรงก็เป็นอัมพาตฉู่เชียนหลีโยนแส้ยาวทิ้ง วิ่งเข้าไปข้างกายของหญิงสาวคนนั้นอย่างรวดเร็ว“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”เมื่อประคองนางขึ้นมา ถึงพบว่าบนแขน แผ่นหลัง หัวไหล่และขาของนาง ราวกับว่าทุกตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้ ทั้งหมดเต็มไปด้วยรอยแผลสีม่วงเขียว คราบเลือดเต็มไปทั่วทุกที่โดยเฉพาะคางของนาง คิดไม่ถึงว่าจะถูกบีบแตกทั้งเป็นดวงตาแดงก่ำทั้งสองข้างของหญิงสาวมีน้ำตาไหลออกมา ไม่กล้าเชื
เป็นชายวัยกลางคนคนนั้น!คิดไม่ถึงว่าเขาไม่ได้หมดสติ?!ในระหว่างที่ฉู่เชียนหลีตื่นตะลึง เมื่อชายหนุ่มตบมือ ลูกกระจ๊อกที่กำลังถืออาวุธจำนวนมากก็พุ่งเข้ามา สายตาเคร่งขรึมขึ้นไม่น้อยทันทีติดกับเข้าแล้ว!“ลูกพี่ เจ้าสองคนนี้มันปะปนเข้ามาได้อย่างไร?”พวกลูกกระจ๊อกแกว่งมีดร่ายกระบอง สีหน้าโหดเหี้ยม “ฆ่าพวกมันเลย ลูกพี่!”“ฆ่าเลย!”เฟิงเย่เสวียนเดินไปที่ด้านหน้าของฉู่เชียนหลี ใช้แผ่นหลังบังนางเอาไว้ฉู่เชียนหลีเห็นว่าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ต่อให้แย่กว่านี้ก็ทำได้แค่เพียงมองไปข้างหน้า จึงฉวยโอกาสนี้ นำเส้นทางลงเขาบอกแก่ท่านลุงชาวนาที่ยอมตายดีกว่ายอมแพ้คนนั้นเมื่อครู่นี้พี่หู่หรี่ดวงตาน่ากลัวคู่นั้นลง สายตาที่ชั่วร้ายมองไปยังทั้งสองคน เอ่ยปากพูดอย่างเยาะเย้ย“คิดไม่ถึงว่าเป็นถึงอ๋องจะยอมปลอมตัวจนอัปลักษณ์เช่นนี้ หากเรียกให้คนอื่นดู เกรงว่าจะขำจนฟันร่วง”คิดไม่ถึงว่าเขามองแวบเดียวก็จำตัวตนของเฟิงเย่เสวียน!โจรภูเขาคนนี้ไม่ธรรมดาเลยฉู่เชียนหลีลุกขึ้น พี่หู่หรี่ดวงตาลงทันที “คิดไม่ถึงว่ายังพาผู้หญิงมาอีกด้วย”ฉู่เชียนหลีชะงักฝีเท้า คนคนนี้สายตาแหลมคมเหลือเกิน!นางเอ่ยปาก “พี่หู่กล่า